ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าอยากให้เขาจำจริงๆ คุณหายเงียบไปเลยดีกว่า ไม่ว่าจะเขียนอะไรไป ที่สุดแล้ว มันก็ทำร้ายจิตใจคุณเอง เขาไม่แคร์หรอกครับ คำพูดจากคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันอีกต่อไป ถ้าเขาแคร์ เขาคงไม่ไป ทั้งความรักความแค้น ลืมมันให้หมด เราอาจจะเสียอะไรไป แต่เราก็ได้บางอย่างมา และยังเหลือบางอย่างอยู่ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 14 ส.ค. 51 17:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผู้ชายเฮงซวยพรรค์นั้นมีค่าพอให้คุณทุกข์ใจได้หรือ? Count your garden by the flowers, never by the leaves that fall. Count your nights by stars, not shadows. Count your days by smiles, not tears. ใครไม่ทราบ กล่าวไว้เช่นนี้ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 14 ส.ค. 51 21:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนที่เขาแต่งงานอยู่ด้วยกันมาหลายต่อหลายปี แม้กระทั่งมีลูกด้วยกันแล้ว...ก็ยังเลิกกันได้ คนเราอาจจะชอบกันมากๆแบบไม่คิดว่าจะจากกันได้ แต่ก็ต้องมาแยกทางกันเพราะว่ารู้จักกันดีขึ้น แล้วรู้ว่าไปไม่รอด คนเราอาจจะยอมเปลี่ยน ยอมทำ หรือยอมรับอะไรหลายอย่างจากอีกฝ่ายอย่างที่ไม่คิดว่าจะทำได้ ...แต่มันก็มีขีดจำกัด คนเราอาจจะเปลี่ยนไปได้...จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ มันมีแยะ การเลิกกันอาจจะเป็นทางออกที่ดีของทั้งสองฝ่ายก็ได้ การที่จะเขียนอะไร พูดอะไร ให้เขาเจ็บ เขาจำ หลังจากเลิกกันแล้ว มันไม่ได้มีความหมายอะไร นอกจากจะแสดงให้เห็นว่า เรายังมีความอาลัย อาวรณ์อยู่ และแสดงความอ่อนแอของตนเองออกมาอย่างชัดเจน Don't cry over spilled milk...What's done is done...Water under the bridge...C'est la Vie. จากคุณ : tnu - [ 14 ส.ค. 51 23:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Once I loved you And you loved me Both pledged to love Through eternity Our tree of love By us planted It should have grown Robust and wanted Watered by all Tender love and care Something went wrong Love was not there Now I hate you And you hate me So who's to blame Us apparently      - Add Pakkred -             15/08/2008 ( ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ใครอยากลอกรีบมาลอกไปเร็วๆ จะดีใจมากถ้ามีคนมาลอก แสดงว่ามีคนชอบเขาเลยลอก จะขอบคุณมากถ้าลอกไปไว้ที่ไหนช่วยบอกด้วยจะได้ตามไปดูให้รู้ว่า ตูนี่แน่เหมือนกัน มีคนลอกวุ้ย แบบว่าอยากดังเหมียนกัลลล์) เรื่องผัวๆเมียๆ จะอยู่ด้วยกันใครก็ห้ามไม่ได้ และจะเลิกกันใครก็ห้ามไม่ได้ เลิกก็เลิก เลิกแล้วก็ต่างคนต่างไป อย่าเก็บไว้ให้เป็นหนามคาใจเลย พระอาทิตย์ก็ยังขึ้น ทะเลก็ยังสวย ภูเขาก็ยังงาม ชีวิตเราก็ยังอยู่ อดีตเรียกคืนไม่ได้ อนาคตก็ยังมาไม่ถึง ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเถอะ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 51 09:27:09 จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 15 ส.ค. 51 08:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบพระคุณ คุณพ่อโปรเจ๊กต์ , คุณหนุ่มไทยไร้นาม และ คุณTnu ค่ะ ที่กรุณาให้คำแนะนำและเตือนสติ ถูกต้องที่เต้องทำใจ ถูกต้องที่เค้าคงไม่แคร์ สิ่งที่เรากำลังจะพูด ถูกต้องเราอาจจะเสียอะไรไป แต่เราก็ได้บางอย่างมา ถูกต้องที่ผู้ชายเฮงซวยพรรค์นั้นมีค่าพอให้คุณทุกข์ใจได้หรือ ? ถูกต้องที่พูดให้เจ็บ พูดให้จำ มันคงไม่มีความหมายอะไรกับเค้า เดินมา ณ.วันนี้ เราพอทำใจได้ถึงสิ่งที่ผ่านมา  และพร้อมจะเก็บคำแนะนำของพี่ ๆ ทุกคนไว้เป็นกำลังใจที่จะเดินไปข้างหน้าต่อไป แต่......สิ่งที่สำคัญคือ เราจำเป็นต้องเจอผู้ชายคนนี้อีกไปเรื่อย ๆ ในหน้าที่การงานและในสังคมเดียวกันกับคราบนักธุรกิจที่ดูว่าน่าเชื่อถือ ดังนั้น  จึงอยากจะจบ และขอสักครั้งให้ได้เขียนจดหมายในนามส่วนตัวเป็นครั้งสุดท้าย  แล้วหลังจากนั้นเราจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในชีวิต และในหน้าที่การงานกับเค้า แบบงานชนงานเท่านั้น... ขอพี่ ๆ ได้โปรดเข้าใจ และช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยนะคะ ขอบพระคุณอีกครั้ง จากคุณ : picmee22 - [ 15 ส.ค. 51 09:22:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบพระคุณ คุณแอ๊ด ปากเกร็ด  มาก ๆค่ะ จะน้อมรับคำแนะนำนี้ด้วยความเคารพ จากคุณ : picmee22 - [ 15 ส.ค. 51 09:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มี 2 ประเด็นที่อยากพูดถึง ประเด็นแรก คือต่อยอดจากที่คุณแอ๊ดว่าไว้ มันเป็นสัจธรรมไปแล้วนะครับ ไม่งั้นคงไม่มีผู้กล่าวเป็นคำคมไว้หรอก กล่าวไว้ตรงกับที่คุณแอ๊ดว่า ตรงเป๊ะเลย Look not mournfully into the past.  It comes not back again. Wisely improve the present.  It is thine. Go forth to meet the shadowy future, without fear and with a manly heart. - Henry Wadsworth Longfellow ประเด็นที่สอง คือคำแปล You buried all good things I used to give you. You told me lies.  You ended it with the words of devil without care of me, even a little bit.  From now on; you are you, and I am I.  There is no chance that we find each other, even as friends.   You were a dead living thing for me.  Walk your way ... to the hell where Lucifer would say to you "Welcome home". For the devil is unchained. รอคำแปลของท่านอื่นๆ ด้วยนะครับ อาจสื่ออารมณ์ไม่เหมือนกัน คุณก็เลือกเอาที่ตรงกับที่คุณต้องการมากที่สุด แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 51 10:59:06 จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 15 ส.ค. 51 10:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แวะมาอีกรอบ เพิ่มประโยคนี้เข้าไปก็จะแรงขึ้นอีกหน่อย Unlike ordinary men, what dwelled in your soul is not just an evil touch, but the devil himself. ทั้งหมดก็จะเป็นดังนี้ You buried all good things I used to give you. You told me lies.  You ended it with the words of devil without care of me, even a little bit.  From now on; you are you, and I am I.  There is no chance that we find each other, even as friends.   You were a dead living thing for me.  Unlike ordinary men, what dwelled in your soul is not just an evil touch, but the devil himself.  Walk your way ... to the hell where Lucifer would say to you "Welcome home". For the devil is unchained. จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 15 ส.ค. 51 11:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นั่นสิ นี่หรือที่เรียกว่า ความรัก? เค้าเป็นคนไทยหรือต่างชาติครับ? ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ แต่สงสัยว่าทำไมต้องว่าเป็นภาษาอังกฤษ จากคุณ : g9h - [ 15 ส.ค. 51 11:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบพระคุณ คุณหนุ่มไทยไร้นามอย่างสูงอีกครั้ง ..ที่เห็นใจและช่วยกรุณาแปลเป็นคำคม บาดใจ  ได้กินใจมาก ๆ ซ่าบซึ้งในความช่วยเหลือจริง ๆ ค่ะ หากพี่ ๆ ท่านอื่นมีคำพูดเป็นภาษาอังกฤษที่กินใจอีก  ช่วยกรุณาบอกหน่อย จะยังรอรวบรวมทั้งหมดนี้เพื่อเขียนมันออกมาค่ะ ขอเพียงครั้งสุดท้ายที่จะได้ระบายออกไป จะได้สบายใจ และ จบ จากนี้ไป ขออโหสิกรรมให้เค้าค่ะ.. จากคุณ : picmee22 - [ 15 ส.ค. 51 13:44:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ g9h  เค้าเป็นคนต่างชาติค่ะ จากคุณ : picmee22 - [ 15 ส.ค. 51 13:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในฐานะลูกผู้หญิง อ่านเฉพาะภาคภาษาไทยของคุณนะ เราเห็นว่าอย่างไร เมื่อพูดออกไปมีแต่เสียกับเสีย เรายังไม่เห็นว่าจะได้อะไรนอกจากความสะใจ คำพูดที่เจ็บแสบพวกนั้น คนรับเขาก็อาจจะไม่ใส่ใจ หรือเก็บไว้รอสะสางวันหลัง แต่ขอบอกเถอะว่าลงเขากล้าทิ้งคุณไปอย่างไม่ใยดี รับรองว่าเขาก็คงเห็นคำพูดเหล่านี้เป็นแค่ตัวอักษรที่ไร้ความหมาย (ขออภัย) เขาอาจกระหยิ่มก็ได้ว่าคุณอาลัยอาวรณ์เสียด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าบริภาษออกไปแล้วจะขาดกันเสียเมื่อไหร่ ในเมื่อคุณเองก็บอกว่าต่อไปต้องเจอหน้ากันในเรื่องหน้าที่การงาน ต้องอยู่ในสังคมธุรกิจเดียวกันอีก ไม่รู้ดิ สำหรับเรา ไม่สนง่ะ อยากไปก็ไป มั่นใจว่าเราทำดีที่สุดแล้วมั้ง อาจจะเสียเซ้ลฟ์นิดหน่อย แต่รักตัวเองมากกว่าจะทำให้ใจร้อนรุ่มอยู่อย่างนี้ คุณอาจจะบอกว่าไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้ ก็จริงค่ะ แต่นี่ก็เป็นมุมมองอย่างคนนอกจริงๆ นะ (เออ แล้วจะมายุ่งทำไมนะเนี่ย) อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้หัวใจแข็งแรงเร็วๆ นะคะ ชีวิตก็ต้องก้าวต่อไปแหละค่ะ ย่ำอยู่กับที่ได้ที่ไหนเล่า จากคุณ : Guga - [ 15 ส.ค. 51 17:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ได้เข้ามาช่วยเเปล เพราะใจไม่เเข็งพอ เกิดมา ไม่เคยทำร้ายจิตใจผู้หญิง ในขณะที่ผู้ชายคนหนึ่งคนนี้ รักผู้หญิงคนหนึ่งข้างเดียวจะครบปีเเล้วต้นเดือนหน้า เขาก็เพียรพยามยามจะทำให้ดีที่สุด เขารักเธอมากขึ้นทุกวัน รักทุกวินาทีที่หายใจ ถึงเเม้เธอคนนั้นจะไม่เคยรักเขาสักวินาที ในขณะที่มีผู้ชายอีกคน ไม่เคยรู้จักคุณค่าของความรักเเละความจริงใจของผู้หญิงเลย ขอเป็นกำลังใจให้ครับ เเละที่ต้องยกเปรียบเทียบ เพราะผู้ชายดี ๆ ที่คู่ควรกับความรักของคุณ ถ้าจะน้อยใจบ้างเเละไม่เข้าใจ ในฐานะที่เป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง ที่ไม่เคยถูกคนมารัก ก็ตรงประโยคนี้ -------------------ทั้งๆที่เราทำดีกับเขาด้วยความจริงใจทุกอย่าง แต่เขากลับไม่เคยเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำให้เลย------- ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณไม่ชิ่งก่อน ถ้ารู้นิสัยเขาว่าเป็นคนเเบบนี้ ถ้ามีผู้ชายดี ๆ เข้ามา คุณจะอดทนเเบบนี้ไหม? หรือไม่เห็นคุณค่าของผู้ชายคนนี้ เเล้วจบด้วยประโยคที่ว่า-------พี่ดีเกินไปนะ----------- ยังไง ๆ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : tonmelb - [ 15 ส.ค. 51 20:42:29 A:203.209.119.156 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เเก้ไข------------เพราะผู้ชายดี ๆ ที่คู่ควรกับความรักของคุณ ยังมีนะครับ จากคุณ : tonmelb - [ 15 ส.ค. 51 20:43:34 A:203.209.119.156 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ทราบจะมาทันไหม แต่อยากจะขอร้องว่าอย่าเขียนเลยค่ะ เขียนไปเค้าจำคุณแน่ค่ะ แต่จำในแง่ที่ว่าคุณฟูมฟาย desperate น่าสมเพช ควรแล้วที่ทิ้งไป ถ้าอยากทำให้เขาเสียดายหรืออะไรก็ตาม chin up ค่ะ แต่งตัวสวย เหมือนไม่เจ็บปวด อย่าลืมว่าผู้ชายมีสัญชาตญาณของการไล่ล่า อะไรที่เหมือนของตาย ผู้ชายย่อมหมดความสนใจ ยิ่งเราแสดงความทรมานเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเป็นของตายมากเท่านั้น ตรงกันข้าม ถ้าเราทำเหมือนเขาไม่ได้มีความหมายใดต่อเราเลย นั่นต่างหากที่จะทำให้เขาคาดไม่ถึง เสียความมั่นใจ และอาจจะถึงขั้นนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว อาจจะใช้ไม่ได้กับผู้ชายทุกคน แต่คิดว่าร้อยละเก้าสิบเก้าเป็นแบบนี้ค่ะ จากคุณ : สักวันหนึ่ง - [ 15 ส.ค. 51 22:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สายธนูย่อมมีวันปลดลงบ้าง มิฉะนั้นคันธนูจะอ่อนล้าฉันใด ความคับแค้นในจิตใจมนุษย์ก็ต้องมีการระบายออกบ้าง ฉันนั้น จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 15 ส.ค. 51 23:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบพระคุณทุก ๆ ความเห็นใจและกำลังใจของที่พี่ ๆ ทุกคนที่ให้มา. ซาบซึ้งจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขอน้อมรับทุกคำแนะนำด้วยความเคารพอีกครั้งค่ะ.. แต่ ..ทั้งนี้ทั้งนั้น..มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการสังคม คนที่ทำร้ายตังเอง หรือ คนที่ฆ่าตัวตายคือคนที่ไม่คิดที่จะระบายความทุกข์มันออกมา.. ต้องขอบพระคุณ**คุณหนุ่มไทยไร้นาม**อีกครั้งที่เข้าใจจิตใจเราโดยถ่องแท้ บางทีความรู้สึกแบบนี้ไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้ แต่ละคนมีวิธีจัดการ มีวิธีการแก้ปัญหาในแต่ละแบบตามที่ตัวเองเห็นแล้วว่าทำแล้วจะสบายใจ บางคน (เหมือนเรา) ต้องระบายออกมาให้หมด  แล้ว จบ จบ กันไปอย่างสิ้นเชิง ก่อนที่จะตั้งต้นชีวิตใหม่ โดยที่จะไม่หันหลังกลับมองมันอีกเลย... อย่างที่พี่ ๆ ทราบ ในข้อความข้างบนที่ให้ช่วยแปลเป็นภาอังกฤษ ไม่ได้ของ้อ แต่จะขอ **จบ** จึงอยากขอความเห็นใจให้พี่ ๆ ช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษให้จริง ๆ  ค่ะ หรือหากพี่ ๆ มีคำพูดดีๆ  ที่ให้พูดแล้ว อโหสิกรรม กันไป ก็จะน้อมรับค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าอีกครั้ง จากคุณ : picmee22 - [ 16 ส.ค. 51 09:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แก้ไข..------คนที่ทำร้ายตัวเอง------ จากคุณ : picmee22 - [ 16 ส.ค. 51 09:55:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้าใจที่เจ้าของกระทู้รู้สึก และเข้าใจที่หลายคนเห็นด้วย รวมทัึ้งข้อความใน คห. 16 (ชื่อ ถูกพาดพีง) เคยทำมาแล้วครับ ความรู้สึกเดียวกันกับเจ้าของกระทู้ เพียงแต่ต่างกันตรงที่ว่าผมเป็นชายอีกฝ่ายเป็น หญิงในขณะที่ จขกท. เป็นหญิงและอีกฝ่ายเป็นชาย...ตอนนั้นความรู้สึกคงจะไม่ต่างกันนัก อยากทำ อยากพูดอะไรให้เขารู้สึกเจ็บ ทำไปแล้ว รู้สึกสะใจ...คิดว่าเขาคงจะรู้สึก แต่มันกลายเป็นอะไรที่น่าขำ สำหรับตัวเขาและเพื่อนๆของเขา แทนที่จะปล่อยให้มันเป็นคลื่นกระทบฝั่ง เรากลับทำให้มันเป็นเรื่องที่ ผู้คนนำพูดคุยกันอย่างสนุกสนานถึงการกระทำของเรา ทำไปแล้วเราได้อะไรคืนกลับมา ก็เปล่า นอกจากความขายหน้าเพิ่มขึ้น ยังไม่รวมถึงเวลาที่มีสติแล้ว นึกขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นอะไรที่ค้างคาอยู่ในใจมาเกือบ 50 ปี แล้ว จะปล่อยให้มันหายไปกับเวลาเหมือนกับ สิ่งอื่นๆก็ทำไม่ได้ เพราะมันเป็นอะไรที่ไม่ควรทำ...เราทำไปเมื่อขาดสติ ทั้งๆที่มีคนเตือนแล้ว...เวลา เจอกันก็มองหน้ากันไม่ติด พยายามหลีกเลี่ยง แม้จะได้มีโอกาสได้พูดกัน แต่มันก็เหมือนกับเป็นการ พูดกับคนแปลกหน้า...ไม่มีความเป็นกันเอง มีความรู้สึกเหมือนกับว่าอยากให้มันผ่านไปเร็วที่สุด แน่นอนการระบายออกย่อมจะต้องมี เลือกเป็นการเขียนระบายความรู้สึกในสมุด diary หรือจดหมาย ที่ไม่มีวันจะส่ง หรือเขียนกลอน วาดภาพ ถ่ายรูป ทำสวน ปลูกต้นไม้ หาที่ๆปลอดคน แล้วตะโกนระบาย ความคับแค้นออกมาดังๆ...มันช่วยได้ครับ การที่เราทำอะไรไปแล้ว ซึ่งจะทำให้คนสองคนเข้าหน้ากันไม่ได้ในวันข้างหน้าถ้าได้พบเจอกัน มันไม่ใช่ เรื่องสนุก ปล่อยให้มันหายไปกับเวลา มันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเพราะไม่มีอะไรไปตอกย้ำ คิดถึงแต่ส่วนดี ของคนที่จากเราไปจะดีกว่า เมื่อเจอกันคราวหน้า ได้พูดจากันใหม่ ความเป็นเพื่อนอาจจะเกิดขึ้นมาใหม่ ได้ แทนความเป็นศัตรู จากกันอย่างมิตร ถ้าทำไม่ได้เพราะมีความโกรธแค้นแฝงอยู่ ก็จากกันอย่างที่เป็นขณะนี้ วันหนึ่งข้างหน้า ถ้าได้เจอกัน ความโกรธแค้นอาจจะหายไปแล้วก็ได้ แต่ถ้าหากความโกรธแค้นยังมีอยู่ ก็จะมีโอกาสได้ ตัดพ้อต่อว่ากันอย่างมีสติได้ ดีกว่าจากกันอย่างประกาศตนเป็นศัตรูครับ กลับเข้ามาบอกว่าไม่ต้องขอ "จบ" ครับ...มัน "จบ" ไปแล้ว เพียงแต่ว่าคุณยังรับมันไม่ได้ หรือไม่ยอมรับ หรือปล่อยวางไม่เป็นต่างหาก...เมื่อสิ่งใดออกไปจากวิถีทางของมันแล้ว...มันไปแล้วครับ ไม่กลับมาแล้ว แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 10:53:50 จากคุณ : tnu - [ 16 ส.ค. 51 10:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อาว์...ขอบคุณค่ะ คุณTnu  เหมือนถูกต่อว่าอีกแล้ววว ว่ายังไม่รู้จัก จบ .. ถ้างั้นคุณ thu พอจะมีคำพูดอื่น ๆ เป็นภาษาอังกฤษที่ให้ลงตัวกว่านี้มากกว่าการที่จะเป็นศัตรูมั้ยคะ... บางทีอาจจะไม่เขียน แต่จะไปขอคุยเลย.. ด้วยความเคารพ และ ขอโทษอย่างสูงจริง ๆค่ะ ก็ยังยืนยันที่จะพูดดีกว่าเงียบ....ได้โปรดเข้าใจ และอย่าว่ากันอีกเลย.. จากคุณ : picmee22 - [ 16 ส.ค. 51 11:47:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มองแบบเสนาธิการกิจ วิธีการแก้ปัญหาจะต้องมองหนทางปฏิบัติทุกหนทางที่เป็นไปได้ นำมาเสนอผู้บังคับบัญชา ให้ตัดสินใจ โดยจัดทำข้อพิจารณาเสนอในประเด็นต่อไปนี้ 1.แถลงปัญหาให้ชัดเจน การเริ่มต้นแก้ปัญหา ต้องนิยามให้ชัดเจนก่อนว่าโจทก์คืออะไร จริงไหมครับ 2.รวบรวมข้อเท็จจริง ความเป็นมาของการเกิดปัญหา ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร แถลงโดยไม่มีความเห็นและอคติมาเจือปน 3.ข้อพิจารณา วิเคราะห์องค์ประกอบของปัญหาจากข้อเท็จจริงที่แถลงไว้ มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างใดบ้าง ปัจจัยต่างๆมีความสัมพันธ์อย่างไร อะไรมาก่อน อะไรมาหลัง อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรได้ผล อะไรไม่ได้ผล อะไรมีประสิทธิภาพ อะไรด้อยประสิทธิภาพ อะไรราคาแพง อะไรราคาถูก อะไรเหมาะสม อะไรไม่เหมะสม อะไรทำให้ได้มิตร อะไรทำให้ได้ศัตรู อะไรทำให้ได้ความสุข อะไรทำให้ได้ความทุกข์ อะไรยาว อะไรสั้น อะไรถาวร อะไรชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ฯลฯ ประมวลมาเป็นหนทางปฏิบัติต่างๆที่เป็นไปได้ สรุปข้อดีข้อเสียของแต่ละหนทางปฏิบัติ 4.ข้อเสนอแนะ เสนอแนะแนวทางปฏิบัติที่เห็นว่าสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาที่สุด คนที่ตอบๆมา รวมตัวเลขอายุได้เท่าไหร่นะ? ผมว่าน่าจะหลายเท่าของ 70 เขามองปัญหาแล้วสรุปหนทางปฏิบัติว่า อย่าไปด่ามันเลย ผลได้ไม่เท่าผลเสีย เขาสรุปได้อย่างไรทั้งๆที่ข้อเท็จจริงก็ไม่รู้ แล้วคิดยังไงถึงมีหนทางปฏิบัติมาเสนอแนะได้เป็นเสียงเดียวกัน เขาเสนอจากประสบการณ์ตรงของแต่ละคนอ้ะ บางท่านผ่านมาห้าสิบปีแล้วแผลยังสดอยู่เลย สะกิดทีไรสะดุ้งทุกที เขาไม่อยากให้คุณเป็นอย่างเขา แปลน่ะง่าย แต่แปลแล้วคุณเอาไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดีกับคุณ คงไม่มีใครทำให้ ใครจะยอมยื่นมีดให้คนๆหนึ่งเอาไปทำร้ายคนอื่นอันเป็นการทำร้ายตัวเขาเอง ตอนนี้คุณกำลังทำเหมือนกับกำลังตะโกนว่า "เอามีดมา เอามีดมา จะเอาไปแทงมัน" อะโห ผมคนหนึ่งละที่ไม่กล้า ใจเย็นๆน่า น้อง อย่าเลย ไม่ดีหรอก ที่นี่ไม่มีใครว่าคุณหรอก มีแต่คนเห็นใจ ก็ปลอบใจกันไป ที่เขาไม่ยอมทำตามความต้องการของคุณก็เพราะมุมมองอย่างที่ว่ามาแล้ว แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 14:33:19 จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 16 ส.ค. 51 14:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อืมม.. ที่สุดของที่สุดแล้ว ผมเห็นว่าไม่พ้นคำกล่าวที่ว่า "หนังสือชีวิต เขียนใหม่ไม่ได้ก็จริง แต่ขึ้นหน้าใหม่ได้" เพียงแต่ ....... คนที่จะปล่อยวางเรื่องราวในอดีตอันเจ็บช้ำได้โดยสิ้นเชิง และมุ่งอนาคตแต่เพียงอย่างเดียวนั้น ก็เห็นจะมีแต่อรหันต์ของทางพุทธ หรือนักบุญของทางคริสต์ เท่านั้น คนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ พูดน่ะพูดได้ แต่ทำจริงนั้นยากมาก ผมจึงเห็นว่า จขกท อยากทำอะไรเพื่อล้างคราบสกปรกนี้ออกไปจากใจ ก็ทำไปเถอะครับ ขอแต่เพียงว่า "ครั้งเดียวให้จบ" แล้วเริ่มชีวิตใหม่ พลิกหน้าหนังสือชีวิตหน้าใหม่ ที่ยังอีกยาวไกลนัก จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 16 ส.ค. 51 21:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณว่าแปลกมั้ยที่คำแนะนำของแทบทุกคนในห้องนี้เกือบจะเป็นเสียงเดียวกัน เมื่อมันตั้งหลายเสียง มันบอกอะไรได้บ้างเอ่ย ในความรู้สึกของดิฉันแล้ว ในความสัมพันธ์ใดๆ มันเป็นการตบมือกันคนละข้าง จะให้เสียงดังต้องพร้อมใจกัน และจังหวะพอเหมาะ เมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พร้อม มันก็ไม่มีเสียง ส่วนที่ว่าทำไมเพราะอะไร มันเป็นอีกประเด็นที่มีแต่สองคนเท่านั้นที่รู้ คนในสังคมตะวันตก ส่วนใหญ่มักลองคบลองเลือกดูใจกัน ไม่ชอบก็เลิกแล้วก็หาใหม่ เป็นเรื่องธรรมดากว่าคนตะวันออก (แต่ก็ไม่แน่เสมอไปแล้ว ในสังคมยุคนี้) เพราะผู้หญิงตะวันตกส่วนใหญ่ถือว่าเท่าเทียมกันตั้งแต่สมัยยุคหกสิบเจ็ดสิบ เพราะการที่ถือตัวว่าเท่าเทียมกัน ทำให้ต้องแสดงว่าข้าไม่แคร์ มันกลายเป็นค่านิยมไปกลายๆ ต่อความยาวสาวความยืดไปก็ไม่มีประโยชน์ สู้เงียบไว้ตอนนี้ แล้วถ้ายังเจ็บใจ ก็หาทางเล่นงานด้วยวิธีอื่นดีกว่า อย่างที่เขาว่า มีวิธีถลกหนังแมวได้หลายวิธ๊ จากคุณ : lilymay - [ 16 ส.ค. 51 21:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทำไมต้องไปขอจบละคะ ในเมื่อฝ่ายชายก็แสดงออกขนาดนั้นว่าไม่ต้องการสานต่ออยู่แล้ว ถ้าเขาไม่มีทีท่าว่าจะไป แล้วคุณจะไปขอจบ ค่อยว่าไปอย่าง เหมือนที่หลายคนบอก ขอหรือไม่ขอ ฝ่ายนั้นเขาก็จบของเขาไปนานแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเขียนเลยสักนิด ผู้ชายบอกเลิกกับคุณด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่คุณยังจะไปขอจบ ขอคุยว่าจบ มันก็เหมือนคุณโดนไล่ออกจากงานแล้ว แต่ไปพิลาปรำพันว่างานหนัก ขอลาออก ไม่ทนอีกแล้ว คุณว่าฝ่ายบุคคลเขาจะคิดกับคุณยังไงละคะ จากคุณ : สักวันหนึ่ง - [ 17 ส.ค. 51 00:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มองอีกมุม จขกท โชคดีนะครับที่ยังไม่ได้ถลำตัวไปมากกว่านี้ นี่ถ้าแต่งงานแต่งการกันไปจริงๆ แล้วเขาไปออกลายทีหลัง ทีนี้ละแย่เลย ยิ่งถ้ามีลูกด้วยกันแล้ว ก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น “เวลา” จะช่วยให้คุณดีขึ้นเอง ผมเองก็เคยเป็น อย่างน้อยก็สองครั้ง แต่ปัจจุบันผมมีครอบครัวที่อบอุ่น มีภรรยาที่เป็นศรีภรรยา มีลูกที่เป็นคนดี แถมเก่งด้วย ผมเชื่อว่าทุกคนก็เคยเป็น (จริงมั้ยครับ ท่านผู้อาวุโสข้างบนๆ นั่นน่ะ) หากมองย้อนหลังกลับไปก็นึกขำตัวเองเหมือนกัน ตอนนั้นทำไมตูเป็นไปได้ถึงเพียงนั้น คุณก็เช่นกัน สักวันหนึ่งคุณจะได้พบผู้ชายที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกมีหลานล้อมหน้าล้อมหลัง เรื่องงานการ ไม่มีปัญหาอะไร มันเปลี่ยนกันได้ คุณคงไม่ทำอยู่ที่บริษัทนี้จนเกษียณหรอกนะ ประการสุดท้าย ถามนิดนึงว่าอดีตแฟนคุณนับถือศาสนาคริสต์หรือเปล่า ถ้าใช่ ผมจะแต่งข้อความให้ใหม่ ให้ออกมาเชิงบวก โดยอ้างอิงจากพระคัมภีร์ Bible จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 17 ส.ค. 51 07:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบพระคุณทุก ๆ คำแนะนำค่ะ เข้าใจดี ถึงเหตุแห่งทุกข์ และทางดับทุกข์ หากแต่อยากจะให้ทุกท่านเข้าใจกันมากกว่านี้  สรุปคร่าว ๆ ก็คือ... อันที่จริงแล้ว  เราเองไม่ใช่เด็ก ๆ อย่างที่ทุกท่านคิด อายุไม่ใช่น้อย  เคยผ่านชิวิตแต่งงานมาแล้ว ปัจจุบันแยกทางกับสามี ด้วยความเข้าใจกัน และเรายินดีรับภาระเลี้ยงดูลูก ๆ ด้วยตัวของตัวเองมาตลอด  ชีวิตคืองาน กับ  ลูก เท่านั้น อยู่ ๆ มาเจอกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งยังโสด อายุมากกว่า เดินเข้ามาในชิวิต คิดแล้วคิดอีกว่าจะเริ่มต้นใหม่ดีมั้ย ทุกอย่างเราคุยกันเปิดเผย เธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร สถานะอะไร  จนตัดสินใจว่าจะเริ่มชีวิตใหม่อีกครั้ง  อยู่มาวันหนึ่งแหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง เขาก็จากไปอย่างที่กล่าวข้างต้น โดยที่ไม่ได้ตั้งตัว  ล้มคราวนี้ล้มหนักกว่าเดิม เหมือนถูกดูถูกอย่างแรง ใครบ้างจะไม่ช้ำใจ เพราะไม่มีใครอยากล้มอีกหรอก....จริงมั้ย ถึงบอกว่าขอให้เข้าใจ อย่าซ้ำกันอีกเลย  รู้ว่ามีดมันคม แทงเขาเราเจ็บ ก็เพราะเราเจ็บจนไม่รู้สึกว่ามันจะมีอะไรที่จะเจ็บกว่านี้อีกแล้ว... ------------------------------------------------ เรียนคุณหนุ่มไทยไร้นาม ผู้ชายคนนั้น อยู่โซนเอเชีย นับถือศาสนาพุทธ (ชินโต) ขอคำแปลแบบเชิงบวกด้วยค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงที่กรุณา จากคุณ : picmee22 - [ 18 ส.ค. 51 13:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อคุณตั้งมั่นอย่างนั้นแล้ว ก็สุดแต่ใจคุณเถอะค่ะ ขอให้โชคดีและสมหวัง เรื่องความช่วยเหลือ ลงว่าคุณหน่มไทยไร้นามออกปากช่วยแล้ว รับรองว่าท่านช่วยคิดคำให้คุณได้ถึงที่สุดแน่ อ้อ อ่านความเห็นไล่มาทุกความเห็น เรายังไม่เห็นมีใคร "ซ้ำ" คุณเลยนะคะ เห็นแค่... - ไม่ช่วย เพราะไม่เห็นด้วย และออกความเห็น - (อาจจะ)เห็นด้วย และช่วย สวัสดีค่ะ จากคุณ : Guga (Guga) - [ 18 ส.ค. 51 15:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ จขกท แฟนคุณไปแล้วไปลับไม่กลับมา แล้วไม่รังควานคุณ อย่างนี้ถือว่า มีความสุข เราเลิกกับแฟนเราด้วยเหตุผลหลักคือ รับไม่ได้กับ mental cruelty ที่เธอใช้กับเรา ด้วยคำพูดที่ sarcastic มากๆ หรือบางทีจะเป็นคำพูดที่ดูหมิ่นกันมากๆ คำพูดที่รุนแรงที่สุดที่ทำให้เราเสียใจมากๆที่สุดก็คือ "tansy แย้มฝาโลงศพขึ้นมาทำงานแปลแข่งกับนักแปลรู่นเด็กๆ แล้วสู้พวกเด็กๆไม่ได้ ก็เลยโมโห..." จากนั้น เธอก็ตามเข้าไปเล่นงานเราในกระทู้เราหลายๆแห่ง เพื่อเขียนข้อความให้คนเชื่อว่าเรายืมเงินเธอ แล้วชักดาบเธอ แล้วเข้าไปเขียนข้อความหยาบคายบน blog เราอย่างต่อเนื่อง จนเราต้องเปลี่ยน login หลายครั้ง แล้วเธอก็ส่ง mail มาด่าเราหยายๆคายๆอย่างต่อเนื่อง 3 ปีผ่านมา เธอก็ยังไม่หยุดรังควาน ไปอ่านกระทู้นี้สิ เธอยังตามมาเขียนข้อความใส่ร้ายเราอีกว่าเรายืมเงินเธอแล้วชักดาบ เพื่อให้ผู้คนเป็นจำนวนมากเข้าใจผิด... http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6824545/K6824545.html แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 08:40:37 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 08:31:15 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 08:30:21 จากคุณ : agelesstansy - [ 19 ส.ค. 51 08:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อเราคิดถึงข้อความที่แฟนเก่าเราตั้งใจพูดเพื่อทำให้เราเสียกำลังใจคือ "tansy แย้มฝาโลงศพขึ้นมาทำงานแปลแข่งกับนักแปลรู่นเด็กๆ แล้วสู้พวกเด็กๆไม่ได้ ก็เลยโมโห..." เราจึงนึกถึงวันที่ดู Elizabeth Tailor ให้สัมภาษณ์ทางทีวีตอนเธออายุ 60 ตอนนั้นเธออ้วนฉุเลย แล้วหน้าตาไม่สวยเอาเสียมากๆเลย เธอบอกว่าอีก 6 เดือนเธอจะเปลี่ยนโฉมใหม่ ...ผู้คนทางบ้านก็ส่ายหน้า แล้วหัวเราะ เพราะคิดว่า "เป็นไปไม่ได้" และแล้วอีก 6 เดือนต่อมา Elizabeth Tailor ปรากฎตัวในที่สาธารณะ มีแฟนๆเธอที่อายุระดับคุณย่า คุณยาย สูสีเธอ มาห้อมล้อมมุงดูเธอ แล้วสิ่งที่น่าเศร้าก็คือว่า Elizabeth Tailor โผล่มาสวยปิ๊งเหมือนสาววัย 30 กว่าๆ เลยทำให้พวกคุณย่าคุณยายที่มาห้อมล้อมดูเธอ ตกใจมากๆ(ตกใจเพราะสังเวชสารูปตัวเอง) จนถึงกับเป็นลมล้มฟุบไป โดนหามเข้าโรงพยาบาลไปหลายคนในวันนั้น....!!! เราพยายามจะต่อสู้กับคำพูดของแฟนเก่าเรา โดยการทำให้ตัวเราเองหน้าตาเด็กยิ่งๆขึ้น แบบที่กลายเป็นสวยปิ๊งตอนอายุเยอะๆแบบ Elizabeth Tailor แต่เราคิดว่า Elizabeth Tailor คงไปทำศัลยกรรมมา  แต่เราไม่มีเงินไปทำศัลยกรรม เราจึงเปลี่ยน login เราเป็น agelesstansy แล้วเปิดคัมภีร์โบราณ ศึกษาวิชาว่าด้วยการคงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาล  ศาสนานี่แหละ ทำให้คนสวยงาม แล้วไม่แก่ได้ แต่คุณจะต้องเลือกนับถือและปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาที่ออกแนวนิยายกำลังภายในเท่านั้น เนื่องจากว่ามีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือได้ว่า พวก wuxia (นักวรยุทธ์) จีน อายุเลย 100 แต่ก็ยังดูหนุ่มสาว และมีเสน่ห์อยู่ ยกตัวอย่างเช่น จางซันฟง ตอนเป็นเด็กวัยรุ่นมีกำลังภายในนิดเดียว แต่พออายุ 100 ปี กำลังภายในระดับเซียนเลยหละ ...วรยุทธ์ที่ดี ควรเป็นวรยุทธ์ที่ผู้ฝึกยิ่งแก่ตัว ยิ่งเก่งกว่าเด็กๆ ไม่ใช่พอแก่ตัวแล้วเดินไม่ไหวโดนเด็กๆเตะเอาเล่นๆ ศาสตร์การแปลก็เหมือนวรยุทธ์ นักแปลที่ยิ่งแก่ตัว ก็ควรจะยิ่งคม ชัด ลึก แบบเฉียบขาด มากยิ่งๆขึ้น....!!! ดังนั้น จขกท จึงควรฝึกสมาธิและพลังลมปราณ (เลือกคำสอนของศาสนาเฉพาะส่วนที่ออกแนวนิยายกำลังภายในของจีน) เพราะมันจะไปกระตุ้นระบบฮอร์โมนทำให้ จขกท ทั้งสวย ทั้ง sexy ยิ่งอายุมาก ก็ยิ่งสวยขึ้นและ sexy มากๆ ยิ่งๆขึ้น จนสามารถหาแฟนหนุ่มคราวลูก (พออายุเกิน 100 ก็หาแฟนคราวหลาน) ใหม่ๆ ได้หลายๆราย แล้วลืมแฟนรายเก่าๆได้ ไปอ่านเรื่องการเลือกคำสอนของศาสนา และของลัทธิ บางอย่าง (เลือกคำสอนที่ออกแนวนิยายกำลังภายใน) เพื่อสุขภาพและความงาม โดยต้องท่องไว้ทุกวันว่า the older the better อย่าไปเชื่อเรื่องที่คนทั่วๆไปคิดกันว่า พอแก่เฒ่า ก็จะตาฝ้าฟาง เดินไม่ไหว สมองเสื่อม หลงๆลืมๆ  แต่ให้คิดตรงกันข้าม คือคิดว่า ยิ่งแก่ก็จะยิ่งสายตาดี วิ่งเร็วขึ้น ชกต่อยได้เก่งขึ้น สมองดียิ่งๆขึ้น เรื่อง sex ดียิ่งๆขึ้น เหมือนในนิยายกำลังภายใน และถ้าเป็นผู้หญิงก็จะยิ่งสาวขึ้น สวยขึ้น แล้ว sexy มากๆยิ่งๆขึ้น (ถ้าฝึกวรยุทธ์อันสูงส่งนะ)....ตาม link นี้ไปอ่านดู http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6891893/K6891893.html แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 09:13:42 จากคุณ : agelesstansy - [ 19 ส.ค. 51 09:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พุทธ ชินโต! เดาว่าเป็นญี่ปุ่น ถ้าอย่างนี้เรื่องงานก็ไม่มีปัญหา เพราะพวกนี้จะไปประจำอยู่ในประเทศต่างๆ เป็นวาระ โดยทั่วไปก็ 4 ปี ครบวาระแล้วก็โยกย้ายไปประเทศอื่น อย่างนี้เรื่อยไป เลิกกันเสียตั้งแต่ตอนนี้ก็ดีครับ ไม่งั้นคุณอาจลำบาก ต้องตะลอนๆ ติดตามสามีไปประเทศโน้นประเทศนี้ แล้วที่เรียนของลูกล่ะ มีปัญหาไม่น้อยเลย หรือไม่เขาก็ให้คุณปักหลักอยู่ที่เมืองไทย ส่วนตัวเขาตะลอนๆ ไปทั่ว ครอบครัวจะเป็นครอบครัวละหรือ พวกญี่ปุ่นที่บริษัทผมก็เป็นแบบนี้ มันเอาครอบครัวไว้ที่ญี่ปุ่น ส่วนตัวมันก็หลีสาวไปทั่ว ผมยังเชื่อว่าคุณมีโอกาสเริ่มชีวิตใหม่กับผู้ชายดีๆ ของอย่างนี้ ถึงเวลามันมา มันมาเอง โบราณเขาถึงเรียก พรหมลิขิต ยังไงล่ะ ที่พูดนี่ไม่ใช่พูดเพื่อปลอบใจคุณไปยังงั้นเองนะ ตัวอย่างจริงๆ มีให้เห็นเยอะแยะ ไม่ต้องดูอื่นไกล เจ้าน้องชายของภรรยาผมเองนี่แหละ เรียกสั้นๆ ว่าน้องเมียก็แล้วกันนะ เขาแต่งงานกับแม่ม่ายลูกติด มีลูกติดมาคนนึง เป็นผู้หญิง เขารักเหมือนลูกแท้ๆ แล้วเจ้าลูกคนนี้ก็รักน้องเมียผมเหมือนพ่อแท้ๆ เช่นกัน คำก็พ่อ สองคำก็พ่อ ปัจจุบันแต่งงานแต่งการ มีครอบครัวไปแล้ว มีลูกแล้วด้วย เจ้าน้องเมียผมนี่ มีอาการ "เห่อ" หลานอย่างเห็นได้ชัด มันคุยได้เป็นวรรคเป็นเวร เวลาพูดถึงหลาน เขามีลูกเองอีกหนึ่งคน ปัจจุบันเรียนจบและทำงานแล้ว เป็นวิศวกรบริษัทรถยนต์ชื่อดังของเยอรมัน ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่ดี อบอุ่นอย่างน่าอิจฉาเลยหล่ะ จขกท เอง วันหนึ่งก็จะเป็นเช่นนั้น I know that now I am far from your mind. And you should know that you are far from mine likewise. Please also know that I forgive you for everything bad you made it to me. Lastly, I hope that you will not do any bad thing, in any manner, to anybody, man or woman, child or adult, again. For you, like everybody, will never be able to run away from the Law of Karma which is universally taught in many religions: God cannot be mocked.  A man reaps what he sows. - Galatians 6:7 So long as an evil deed has not karmically matured, the fool thinks his deed to be sweet as honey.  But, when his evil deed karmically matures, he falls into untold misery. - Wisdom of the Buddha Thou shalt receive requital and reward in just return for whatsoever thou dost. - Koran Good luck! จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 19 ส.ค. 51 10:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบพระคุณ คุณหนุ่มไทยไร้นามอย่างสูง ทั้งกำลังใจ และ คำแปลที่กรุณาให้มาค่ะ... จากคุณ : picmee22 - [ 19 ส.ค. 51 14:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อันว่ารักของชายนั้นหลายชั้น ที่ว่ารักรักนั้นประการใด ห่วงใยคุณ picmee22   คุณบอกว่าคุณไม่ใช่เด็ก  คุณรับภาระเลี้ยงดูลูกๆด้วยตนเอง  คุณเป็นผู้หญิงเก่งทีเดียว คุณคงเหนื่อย  ผิดหวัง  อ่อนล้า ผู้ชายคนเดียวนี่นะ ชีวิตของคุณ จะโกรธแค้นตามต่อว่าไปไย เขาไม่รักเราแล้ว  ก็แล้วไป  คุณไม่ใช่เจ้าชีวิตเขานะ คุณรู้สึกว่าล้ม  ถูกตบหน้า นั่นคือความรู้สึกสงสารตัวเอง ไม่มีใครมาทำให้คุณล้มได้   ไม่มีใครมาทำร้ายคุณ เขาเดินจากไป  ไม่ใช่เพราะคุณไม่ดี  แต่เขามองไปทางอื่นมากกว่า ออกไปจุดธูปหนึ่งดอกปักที่ต้นไม้ใหญ่ในบ้าน เจ้าที่เจ้าทางท่านคุ้มครองคุณแล้ว  ที่ผู้ชายคนนั้นออกจากชีวิตคุณไป สาดน้ำที่ทางเข้าบ้าน  (พิธีอินเดียโบราณ)แก้สิ่งเลวร้ายให้ออกไป ตอนนี้หน้าฝนด้วย  ไม่ต้องสาดก็ได้ ทำบุญอุทิศส่วนกุศล  ชาติหน้าอย่าได้เจออีกเลยเจ้าประคุณ ขอให้ไปยังภพภูมิที่สมควร ออกไปตัดผม  ซื้อเครื่องสำอางใหม่ ไปทำงานด้วยความมั่นใจ ว่า ชีวิตนี้ฉันอยู่ได้ มีคนใจดีห่วงใยฉันอีกมากมาย ((มีคนแถวนี้ไปตามมาออกความเห็น  เคยเป็น ศิราณี อยู่นานเหมือนกัน)) จากคุณ : แสนอักษร - [ 20 ส.ค. 51 06:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 33 นานๆทีเจ๊ใหญ่ออกโรงเอง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 20 ส.ค. 51 11:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีพี่lilymayเเละคุณแสนอักษรครับ ช่วยอวยพร ผู้ชายอายุ 37 คนนี้สักคนเถิด จะจดจำไว้ในใจ ยิ่งช่วงนี้ ผมถูกจับคู่กับเพื่อนของน้องพลอย( คือน นุ่น นามสมมุติหมดนะครับ) พูดกันว่า ผมเป็นเเฟนกับนุ่น เพราะผมคุยกับนุ่นเขาคนเดียว ณ เวลานี้ครับ นุ่นเอง ก็ดูเหมือนจะห่าง ๆ กับผม เพราะเขาอึดอัด ตอนนี้กลายเป็นว่า ถูกเเนะนำให้หาเเฟนเป็นของตัวเองเร็ว ๆ เพราะ ณ เวลานี้ ผมคืออาจารย์ผู้ชายคนเดียว (อีกคนคงไม่เเต่งมั้ง)ที่โสดเเละทุกคนอยากเห็นหน้าเเฟนที่สุด เพราะเห็นทำงานหนัก ดูเเลเเม่ etc ผมก็รักน้องพลอยอยู่ รักข้างเดียว ต้นเดือนหน้าจะครบปีเเล้ว ก็ยังรัก( ยิ่งรักมากกว่าปีที่เเล้วด้วย เเต่ถอยห่างมา ไม่อยากให้น้องเขาอึดอัด) อ้าว ไป ๆมา ๆ เรื่องตัวเองอีกเเล้ว ปัดโธ่เว้ย คอลัมน์ภาษาอังกฤษ ไม่เขียน มานั่งบ่นอะไรกันเนี่ย ขอให้ทุกคนมีรัก สมหวังในความรักครับ จากคุณ : tonmelb - [ 20 ส.ค. 51 20:44:14 A:203.209.118.65 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พี่แสนฯ พูดได้ตรงใจจริงๆ ตรงนี้ครับ ...อันว่ารักของชายนั้นหลายชั้น ที่ว่ารักรักนั้นประการใด ... ตอนผมรุ่นหนุ่มนั้น รักคือความเสน่หา มั้ง พอแต่งงานแล้ว คำจำกัดความมันเปลี่ยน รักคือความรับผิดชอบ พอมีลูก เปลี่ยนอีกแล้ว รักคือหัวหน้าครอบครัว มาตอนนี้ รักคือความห่วงใย เอื้ออาทรต่อคู่ชีวิต เรื่องลูกน่ะ ไม่ต้องพูดถึง เขาคือชีวิตของเราอยู่แล้ว จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 21 ส.ค. 51 00:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สำหรับคุณต้น   เห็นแก้วแวววับที่จับจิต ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้เต็มที่ เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี อันมณีหรือจะโลดไปถึงมือ (ท้าวแสนปม) จากคุณ : แสนอักษร - [ 21 ส.ค. 51 06:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ... เคยมีใครสักคนได้บอกฉันมา ว่าเวลาใครมาทำกับเราให้เจ็บช้ำใจ ลองไปเก็บก้อนหินขึ้นมาสักอัน ถือมันอยู่อย่างนั้นและบีบมันไว้ บีบให้แรงจนสุดแรง ให้มือทั้งมือมันเริ่มสั่น ใครคนนั้นยิ้มให้ฉัน ถามว่าเจ็บมือใช่ไหม * ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง ใครมาทำกับเธอให้เจ็บหัวใจ ก็แค่ให้ก้อนหินก้อนนั้นให้เธอรับมา เพียงเธอจับมันโยนให้ไกลสายตา หรือเธอปรารถนาจะเก็บมันไว้ หากยิ่งยอมยิ่งแบกไป หัวใจของเธอก็ต้องสั่น หากยังทำตัวแบบนั้น ถามว่าปวดใจใช่ไหม ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง ถูกเขาทำร้าย เพราะใจเธอรับไว้เอง ... ฟังเพลงนะ http://www.thaihealth.net/music/modules.php?name=News&file=article&sid=100 จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 21 ส.ค. 51 11:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณครับคุณแสนอักษร ผมเข้าใจครับว่า ผู้หญิงชอบคนที่มีความมานะพยายาม ยิ่งพยายาม อดทน ผู้หญิงก็รู้สึกว่า เธอช่างมีคุณค่าเหลือเกิน ที่มีคนเอาใจใส่ในตัวเธอ(ด้วยการจีบ) ผมก็ทำเท่าที่ทำได้นะครับ เเต่พลอยที่ผมรัก เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ชีวิตเธอเกือบ perfect สวย ฐานะดี เเละทำงานเก่งมากๆๆๆ ในอนาคตเราอาจเห็นเธอก้าวหน้าในวงการจิตวิทยาก็เป็นได้ พลอยบอกผม เธอห่วงภาพลักษณ์ของเธอที่สุด ไม่อยากเป็นขี้ปากใคร(เธอใช้คำนี้นะ) เธอรักตัวเองเเละครอบครัวครับ ความก้าวหน้าในการงาน คือที่สุดในชีวิตของเธอ ไม่ใช่ความรัก เเต่ใช่ว่า เธอจะปิดประตู เธอเเค่ไม่พบคนที่ใช่ เเละผมก็ไม่ใช่คนที่ใช่ คำเหล่านี้พลอยบอกผมเมื่อ ต ค 50 ที่ผมไปบอกรักเธอ ถึงวันนี้ ผมยังปฏิบัติกับเธอเหมือนเธอ เดือนละครั้งซื้อขนมที่น้องเขาชอบ เเละดูอยู่ห่าง ๆ ยิ้มทักทายกัน ตามสมควร ลึก ๆ ผมรู้ว่าเธออาจโกรธ ที่ให้เป็นพี่ชาย เเละผมปฏิเสธข้อเสนอนี้ ขอเน้นเลยนะครับ พลอยไม่เหมือนใคร ใจเเข็งมาก เเฟนเก่าเธอ ดีระดับ เคน ธีระเดช( เธอบอก เเละผมเชื่อ เพราะพลอยเป็นคนตรง ชนิดที่ว่า คำพูดของเธอ ถ้าคุณเป็นคนใจอ่อน อาจหัวใจวายตาย เพราะช้ำใจ) เธอยังเลิก เพราะไปเซ้าซี้เธอ จะขอเธอเเต่งงาน เเต่ผมก็ไม่เหมือนใคร เช่นกัน สิ่งที่ผมเหมือนเธอ คือ ทำงานเก่งครับ ผมรู้เเต่ว่า รักเธอให้พอ ดูเเลเธอห่าง ๆ ถ้าจะจากไปในวันไหน ก็ถือว่าผมทำดีที่สุดเเล้วครับ เรื่องงานเช่นกัน มุ่งมั่นเป็นที่สุดว่าต้องดีขึ้น ถ้าต้องเเข่งกับเธอ ผมก็ไม่ยอมเเพ้ ไม่ใช่ รักเธอเเล้ว งานต้องเสีย หรืองานจะด้อยกว่าเธอ พลอยรักงานเป็นที่สุด งานเเละครอบครัวเธอคือทุกอย่างของเธอ ผมก็รักงาน เเต่ผมก็รักเธอดั่งดวงใจ เช่นกันครับ จากคุณ : tonmelb - [ 21 ส.ค. 51 22:48:59 A:203.209.119.128 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เคย ธีรเดช ดีอย่างไรหรือครับ คุณถึงได้ยึดถือเป็นแบบอย่าง ผมไม่ทราบจริงครับ บอกหน่อย(มาก)นะ จากคุณ : ลุดวิก - [ 23 ส.ค. 51 14:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เคน ธีรเดช ดียังไง? นิสัยใจคอไม่รู้เพราะไม่เคยคบ แต่อย่างน้อยๆแกก็หน้าตาหล่อลากดิน หุ่นกระชากใจสาว มากกว่าผมกะคุณล่ะน่า พ่อลุดวิกเอ๋ย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 23 ส.ค. 51 18:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โอ๊ววว...แวะผ่านมาพอดี... ดราม่าเลย.. น้องพลอยผู้หลงผิด ไม่เอาเคนคนขอแต่ง ไม่เอาคุณต้นผู้มั่นคง แล้วจาเอาใครหว่า?!!! ปล่อยเธอไปซะเถอะ อิ๊อิ๊ --------------------------- หันมาดูสำนวน จขกท.... "คุณทำลายความรู้สึกดีดีที่ฉันให้คุณมาตลอด คุณหลอกลวง คุณโกหก คุณจบมันด้วยคำง่าย ๆ โดยไม่แคร์ความรู้สึกของฉันเลย  ในตอนนี้ แม้แต่คำว่าเพื่อนฉันก็ไม่อยากมีให้อีกต่อไปแล้ว.. นับจากนี้เป็นต้นไป.. คุณได้ตายไปจากชีวิตฉันไปแล้ว ขอให้คุณไปตามทางของคุณ แต่ขอให้จำไว้ว่า นรกเท่านั้นที่จะต้อนรับคนอย่างคุณ.." ---------------------------------- อา...รักยิ่งลึกซึ้ง แค้นย่อมลึกล้ำ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกันเล่า ที่จะโกรธแค้นหรือตัดพ้อต่อว่า ? --------------------------------- ผมเคยทำให้ผู้หญิงหลายคนน้ำตาตกมาแล้ว ในสถานการณ์นี้ ป่าว...ไม่ใช่อย่างงั้น...อิ๊อิ๊ แค่ผมบอกพวกเค้าไปว่า ยอมรับเสียจะดีกว่านะ....ยอมรับเพราะมันเป็นความจริง ยอมรับว่า อันที่จริง คนรักของเราทุกคน เค้าจะจับจองพื้นที่ส่วนหนึ่ง ในหัวใจของเรา...มากบ้างน้อยบ้าง และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าเราจะพบรักใหม่ เจ้าของพื้นที่แปลงเล็ก หรือใหญ่กว่า แต่พื้นที่นั้น ก็จะเป็นของเค้าตลอดไป ไม่มีใครมาทดแทนได้ เพราะลึกๆ แล้วเราก็ยังรักเค้าอยู่ตลอดไปนั่นเอง ยอมรับซะเถอะ เพราะการยอมรับ...คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งความสุข ยอมรับได้ยังล่ะ คุณ จขกท.? ---------------------------------- ถ้ายอมรับแล้ว แทนที่จะเป็นจดหมายลาแบบบรรจุความแค้น ก็จงเป็นจดหมายลาแห่งความรักและการให้อภัย คุณจะได้บอกลากันซะเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ว่าเค้าจะใส่ใจหรือไม่ก็ตาม และเราจะได้ไปตามทางของเราซะที (แม้ว่าอาจจะปะทะกันอีก แต่ในฐานะอื่น) พร้อมยัง? (ถ้าไม่พร้อม คงจะเขียนแบบนี้ยากนะ) มันว่าอย่างนี้... --------------------------------- How do I love thee? Let me count the ways... (ยืมเค้ามา อิ๊อิ๊) I love thee for thy tender warm kisses Of the foregone summer's days I love thee for thy promise of a road That has proved without thee beside me After all thy lies, thy careless heart Thy cruel words, I still love thee Go whither thou thinkest fair Live yonder with such happiness Love whomever thou mayest find Oh, I shall not love thee less And I shall bid thee farewell as lovers For the love I have knows no ends With my forgiveness for all the wrongs thou didst Till eterniy let us be known as mere friends --------------------------- มันน่าจะตรงกับความจริง และตรงกับประสงค์ของ จขกท.นะป๋มว่า อิ๊อิ๊อิ๊ จากคุณ : Ensign - [ 24 ส.ค. 51 19:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แค่ก ๆ (เป็นหวัด)     อ่อ  น้าทหารเรือมา แท่นเอ้ย...ลุกขึ้นมากรี๊ดเร็ว  แล้วพาน้าไปสู่ที่ชอบ ที่ชอบ(การอบรมการแปลรุ่นใหม่) ถ้าใช้จินตนาการเรื่องการจับจองพื้นที่ในหัวใจ   อาดเอี๋ยวอยู่เหมือนกัน จากคุณ : แสนอักษร - [ 24 ส.ค. 51 23:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มันหวาดเสียวยังไงหว่า... พูหญิงคนนึง (คนที่ก็เคยจับจองและถูกจับจองพื้นที่ในหัวใจเหมือนกัน) เค้าบอกป๋มมาอีกทีนะคับ ตอนที่พรรณาถึงแฟนสุดเลิฟครั้งกระโน้น ความในใจของผู้หญิงคนหนึ่ง ฟังครั้งเดียว....จำขึ้นใจเลย การอบรมการแปลรุ่นใหม่.... เอ๋....ไรอ้า... โปรเจ็คต์ใหม่เฮียแท่นหรา อิ๊อิ๊ (อย่าแปลกใจคับผมกับภาษาใหม่ของป๋ม พออายุเริ่มจะไม่ทีนเอจแล้ว (อิ๊อิ๊) ก็พยายามกระชากวัยลง ก็เท่านั้น ไม่มาบ่อยคงพอยอมรับกันได้นะคับ อิ๊อิ๊ จากคุณ : Ensign - [ 25 ส.ค. 51 14:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ก๊ากกกกกก มาดใหม่ เอกลักษณ์ของเอกบุรุษ อี๊อี๊ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 25 ส.ค. 51 21:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ใช่มาดใหม่จริงๆด้วยดิ มีเสน่ห์ คารมคมคายแบบนี้ ไม่ต้องไปนั่งบ่นที่ไหนเลยว่า จีบสาวไม่สำเร็จ...คือว่าอะนะ จะจีบสาวทั้งทีต้อง think positive...แค่ อิ๊อิ๊ 2-3 ทีเท่านั้นหละ สาวๆวิ่งตามกันมาเป็นฝูงเลยอ้ะ...555+++... จากคุณ : agelesstansy - [ 27 ส.ค. 51 20:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ง่า...นึกถึงภาพมนุษย์กบเปลี่ยนจากฮูย่าเป็นอิ๊อิ๊ 555 จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 29 ส.ค. 51 12:36:08 ]