ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าภาษาอังกฤษ แถวๆ นี้ก็มีครับ หลายคนทีเดียว ภาษาอื่นก็มีบ้าง แต่จะครบทุกภาษาอย่างที่ จขกท ต้องการหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบครับ แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความรับผิดชอบ ติดต่อไม่ได้ ขาประจำห้องนี้ไม่หนีไปไหนอยู่แล้วครับ ถ้าเป็นศูนย์รับแปล แพงอยู่แล้วครับ เท่าตัวละมั้ง จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 15 ส.ค. 51 17:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มองหาเจ้าของ www.seventranslation.com ค่ะ จะโดนยึดอมยิ้มมั้ยหว่า? จากคุณ : Guga - [ 15 ส.ค. 51 17:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บริษัทห้างร้านต่างๆที่มีงานแปล เอางานไปจ้างศูนย์ภาษาหรือบริษัทแปล ให้แปล นั่นก็เพราะว่าบริษัทที่เป็นลูกค้าเหล่านั้น มีกฎตายตัวว่า “ไม่จัดซื้อจัดจ้างกับบุคคลธรรมดา แต่จะกระทำกับนิติบุคคลเท่านั้น” แต่แท้จริงแล้วการนำงานไปแปลกับบริษัทแปลนั้น คุณจ่ายไปเท่าไหร่ คุณก็จะได้ "ผลงานแปลที่มีมูลค่าเพียงแค่ครื่งหนึ่งของเงินที่คุณจ่ายไป" เนื่องจากว่า บริษัทแปลกินหัวคิวนักแปลไปถึง 50% นักแปลจึงต้องรีบๆแปลเอาตีนเขี่ยๆมา ม่ายงั้นแล้วพวกเขาจะได้ค่าตอบแทนน้อยจนแทบจะอยู่ไม่รอดเลยหละ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรารับงานแปลจากลูกค้าโดยตรง หน้าละ 500 – 1500 บาท เราแปล แล้ว edit (ตรวจแก้) คำแปล ของเราหลายๆรอบ ทำให้วันหนึ่งเราแปลได้แค่ 5 หน้าเอง แต่ถ้าเรารับงานแปลจากบริษัทแปลนะ เขาคิดลูกค้าหน้าละ 400 – 600 บาท แล้วกินหัวคิวเราไป 50% เราเหลือได้แค่หน้าละ 200 – 300 บาทเอง ดังนั้น เราจึงต้องแปลให้ได้วันละ 15 หน้า  คุณก้อลองคิดดูสิว่า แปลวันละ 5 หน้า กับแปลวันละ 15 หน้า คุณภาพมันต่างกันแค่ไหน แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 51 18:25:09 จากคุณ : agelesstansy - [ 15 ส.ค. 51 18:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆแล้วคุณเข้าใจผิดหน้ามือเป็นหลังมือ เลยหละ เรื่องที่ว่า ไม่ไปจ้างร้านแปลๆ  แล้วไปจ้างบุคคลธรรมดาแปล แล้วค่าแปลมันจะถูกลง แท้จริงแล้วนะมันมีนักแปลที่รับถูกกว่าร้านแปล รับแค่หน้าละ 80 บาทเอง ...ลองไปดูใน pantipmarket หรือหน้ามหาลัยรามดูดิ... มีเพียบเลยหละ คนพวกนี้ ไม่ใช่นักแปลมืออาชีพ "แต่เป็นพวกคนตกงาน  หรือยังเป็นนักศึกษา แล้วมาหาลำไพ่พิเศษ โอกาสที่นักแปลระดับนี้จะ แปลผิดอย่างจังๆในงานแปลแต่ละชุด (เพราะขาดประสบการณ์) จะมีมากจนน่ากลัวเลยทีเดียวหละ..." นอกจากนี้แล้วนะ ร้านแปลยังตัดราคาแบบห้ำหั่นกัน แล้วนักแปลก้อต้องแปลมาแบบลวกๆ เนื่องจากว่า ถ้าแปลดีๆ ตรวจทานดีๆ นักแปลกินแกลบ เพราะวันๆหนึ่งทำจำนวนหน้าได้ไม่มากพอ.... นั่นก็หมายความว่า ถ้าคุณไปจ้างร้านแปลๆ เขาคิดคุณหน้าละต่ำสุด 400 บาท คุณว่าแพง แล้วมาจ้างเรา หน้าละ 200 บาทนะ เราไม่รับแปล เพราะอะไร?  เพราะว่า งานหน้าละ 200 บาทแบบแปลไวๆเหมือนชื่อบะหมี่ แปลเสร็จรับทรัพย์ทันที เราหาทำได้ทุกวัน มีงานทำตลอดปี แค่แปลวันละ 15 หน้าลวกๆ ก้อได้วันละ 3000 บาท แล้ว แล้วลูกค้าก็ไม่เคยต่อว่า เนื่องจากพวกเขารู้ว่า ถ้าไปจ้างศูนย์การแปลจุฬา Bangkok Post หรือ The Nation ที่แปลดีเยี่ยม ให้แปล ลูกค้าจะโดนค่าแปล หน้าละ 2000 -3000 บาท ดังนั้น ถ้าเราจะรับงานแปลโดยตรงจากลูกค้านะ เราจะต้องรับให้มันมากกว่าร้านแปลรับ นิดๆ เช่นอย่างต่ำ หน้าละ 500 บาท  (ถ้าเอกสารไม่ยากมากนักนะ) แล้วเราจะแปลให้ดีกว่าบริษัทแปล แปลได้อยู่แล้วเพราะได้เงินเยอะแปลแล้วตรวจทานปรับปรุงดีๆหลายๆรอบได้ แต่ถ้าได้แค่หน้าละ 200 บาท เราไปรับจากร้านแปลจะดีกว่า เนื่องจากว่า “ลูกค้าไม่คาดหวังมาตรฐานการแปลที่สูงนัก เราทำไวๆก็ได้เงินไวๆอยู่แล้ว และเก็บเงินได้ทันที คือเอาคำแปลไปยื่น แล้วรับค่าแปลได้ทันทีเลย ในขณะที่แปลให้ลูกค้าโดยตรงนะบางทีกว่าลูกค้าจะจ่ายเรา เขามักจะเตะถ่วงอยู่นาน 14 วัน ถึง 6 เดือนแน่ะ....!!...และด้วยเหตุผลเช่นนี้ บริษัทแปลจึงเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพื่อมากินหัวคิวนักแปล แต่บริษัทแปลก็เป็นเหมือนบริษัทประกันภัย นั่นก็คือ พอนักแปลส่งงานไปนะ บริษัทแปลต้องจ่ายเงินนักแปลทันที แต่บ่อยครั้งที่บริษัทแปลเก็บค่าแปลจากลูกค้าไม่ได้ เพราะโดนลูกค้าชักดาบ ...ดังนั้น เงินที่กินหัวคิวนักแปล ไปก็เป็นค่าใช้จ่ายในการ "โดนชักดาบอีกด้วย....!!!!” แต่สิ่งที่ จขกท ต้องระวัง นั่นก็คือ มีพวก cowboys (คนไม่เก่งแต่อวดอ้างว่าเก่ง) ที่คิดค่าแปลแพงๆ ทั้งๆที่ตัวเองฝีมือไม่ถึง  คนพวกนี้ มักจะหางานแปล จากหน่วยงานที่ตัวเขามี “ไส้ศึก” อยู่ในนั้น นั่นก็คือ มีเพื่อนฝูงที่ทำงานในหน่วยงานนั้น ที่แกล้งทำเรื่องเสนอเจ้านายว่า ว่า ค่าแปลหน้าละ 2000 บาท พอออก purchase order มา คิดเป็นเงินหลายแสนบาท  นักแปลเจ้าเล่ห์คนนั้น ก็คิดค่าแปลแค่ หน้าละ 1500 บาท แล้วเอา 500 x จำนวนหน้า แล้วไปจ่ายเพื่อนเขา (ไส้ศึก) ในหน่วยงานนั้น เพื่อเป็นค่า commission ให้เพื่อนฝูงเป็นไส้ศึกต่อๆไปเรื่อยๆ นี่เป็นระบบงานในประเทศไทย...มันคล้ายๆกับการจัดซื้อจัดจ้างงานรัฐบาลที่ผู้รับเหมาประมูลงานกันโกง โดยการฮั๊วงานกัน นั่นเอง ...คุณต้องระวัง....!!!!! ซึ่งจริงๆแล้วนะ งานชุดนั้น ถ้าแปลให้ดีมากๆนะแบบดูแลลูกค้าเต็มที่เลยหละ... บางทีหน้าละ 500 – 700 บาทนะ นักแปลก้อ happy ร้องเพลงเสียงใสไปตั้งหลายเดือนแล้วหละ... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 17:38:09 แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 07:06:55 แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 04:57:32 แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 51 19:27:51 แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 51 18:39:56 จากคุณ : agelesstansy - [ 15 ส.ค. 51 18:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สรุป 1. จ้างบริษัทแปล ให้แปลงาน งานเสร็จทันเวลา ไม่พลาดท่าโดนหลอกเอาเงินฟรีแน่ๆ แต่งานชุ่ยคุณภาพต่ำ เพราะนักแปลต้องรีบๆเอาตีนเขี่ยๆมา ม่ายงั้นแล้วพวกเขาจะได้ค่าตอบแทนน้อยจนแทบจะอยู่ไม่รอดเลยหละ 2. ถ้าจ้างนักแปลอิสระที่ไม่ใช่บริษัท คุณตาดีก็ได้ดี ตาร้ายก็เสีย แล้วถ้าเจอ cowboys ที่ความสามารถต่ำๆ แต่หลอกคิดเงินคุณแพงๆ คุณก็ต้องเจ็บหนัก ดังนั้น จะตัดสินใจอย่างไรก็ดูตาม้าตาเรือดีๆ ก็แล้วกันนะ อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมต้องไปอ่านข้อความที่เราเขียนไว้เรื่องทางหนีทีไล่ของนักแปล ในกระทู้นี้ 2 กระทู้  คือ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6866347/K6866347.html และ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6859601/K6859601.html แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 51 18:36:37 จากคุณ : agelesstansy - [ 15 ส.ค. 51 18:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ้าวพล่ามมาตั้งนาน แต่ยังไม่ตอบคำถามเข้าประเด็นเลย คำถามที่ว่า "ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกศูนย์ภาษาเพื่อแปลงานของบริษัท" คำตอบก็คือว่า "ถ้าเป็นบริษัทแปลแล้วนะ ทุกแห่ง แย่งกันตัดราคา และทุกแห่ง นักแปลต้องเอา ตีนเขี่ยกันทั้งหมดอยู่แล้ว ดังนั้น ให้เลือกร้านแปลที่จ้างนักแปล แปล อย่าไปเลือกร้านแปลที่เจ้าของแปลเอง เนื่องจากว่า "คนพวกนี้นะ เมื่อก่อนเคยเป็นลูกจ้างร้านแปล แต่พอมีเงิน แทนที่จะแปลให้มาตรฐานดีกว่า...โดยการเรียนทักษะการแปลให้ดีกว่าเดิม กลับมุ่งแต่จะตัดราคาชาวบ้าน... เขาตัดราคาได้ ก็เพราะว่าเขาแปลเองยังไงล่ะ เช่นแทนที่จะหน้าละ 600 บาท (ร้านรับหน้าละ 300 บาท นักแปลรับหน้าละ 300 บาท) แต่เขาตัดราคาเหลือหน้าละ 200 บาท (ราคาหน้าร้าน)  ซึ่งเป็นการเสนอราคาที่มันต่ำผิดปกติ แล้วเขาทำเองทุกอย่าง บางทีต้องอดนอน (มันบาปเพราะไปตัดราคาชาวบ้าน แบบเหลือเชื่อ) คนพวกนี้นะ ผลงานต่ำกว่ามาตรฐานมากๆเลยหละ..เพราะต้องทำทุกอย่างตั้งแต่รับโทรศัพท์ ประชาสัมพันธ์ และแปลงาน บางคนนะ สร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้ เพราะทำให้ร้านแปลอื่นๆ ต้องลงราคาตาม จนนักแปลรายอื่นๆ ต้องทำงานหนักไม่ได้พักผ่อน คนพวกนี้นะ บางทีดึกๆมันก็ยังต้องจุดเทียนแปลอยู่เลยหละ ชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยหละ คุณอย่าไปหวังว่าจะได้ผลงานแปลดีๆจากคนพวกนี้เลย....." ต้องพยายามหลีกเลี่ยงคนพวกนี้ ให้ดีๆ นะ.... แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 51 19:23:32 จากคุณ : agelesstansy - [ 15 ส.ค. 51 18:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลองไปอ่าน คคห 3 กับ คคห 6 ในกระทู้นี้ดิ (ตาม link ข้างล่างไปดู) ....ตลกดีอ้ะ มีนักแปลท่านหนึ่งรับแปลบรรทัดละ ถึง 300 บาท เท่ากับแปลหน้าละ ประมาณ 9000 บาท แต่เวลาแปลไทยเป็นอังกฤษ คำแปลภาษาอังกฤษเขามี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดแบบคนไม่ใช่เจ้าของภาษาอังกฤษ ที่อ่อนหัดภาษาอังกฤษมากๆ) มีอยู่เพียบเลยหละ แล้วคนพวกนี้นะ โกอินเตอร์ด้วยหละ พวกเขาไปโฆษณารับแปลอยู่ทุกหนทุกแห่ง ที่ www.proz.com ซึ่งเป็นแหล่งที่นัดพบระหว่างนักแปลกับลูกค้า ก็มีพวกนี้เข้าไปกันเพียบเลยหละ บางคนเขียน profile โฆษณาสรรพคุณตัวเองเสียสวนหรูเลยหละ บอกว่า จบจากต่างประเทศวุฒิสูงๆ เชี่ยวชาญการแปล ในสาขายากๆ แล้ว  quote ค่าแปลต่อคำ คิดออกมาแล้วตกหน้าละ 2000 กว่าบาท แต่พวกเขาเขียนภาษาอังกฤษเพี้ยนๆ ตลกมากๆ  เหมือนกับนักแปลท่านนั้น ที่อ้างว่า ได้ค่าแปลหน้าละ 9000 บาทคนนั้นเลยหละ...!!! ตามไปอ่านฝีมือการแปลของนักแปลค่าตัวหน้าละ 9000 บาทได้ที่นี่ (ถ้าเขาไม่ไปแก้ไขคำแปลเขาเสียก่อนนะ....(อยากให้ใจกล้าๆไม่แก้คำแปลนะ) ....5555+++....) ตาม link นี้ไปอ่านดูได้เลยหละ .... http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6775415/K6775415.html แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 51 19:14:48 จากคุณ : agelesstansy - [ 15 ส.ค. 51 19:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก๊ากกก คุณ tansy ยังจำได้อีกแน่ะ นั่นมันเด็กๆ ครับ ระดับผมเนี่ย บรรทัดละ 2,000 บาท ขาดตัวครับ ตื่น ตื่น ตื่น  ตื่นได้แล้ว นายหนุ่มฯ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 15 ส.ค. 51 23:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก่อนอื่นต้องขอบคุณ คุณหนุ่มไทยไร้นาม, คุณ Guga และคุณ agelesstansy ที่เข้า่มาตอบกระทู้ ต้องขอเรียนตามตรงค่ะที่มาตั้งกระทู้นี้ เนื่องจากไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างแปลเว็บไซต์ค่ะ อีกทั้งพอค้นหาในกูเกิลก็จะเจอศูนย์แปลเยอะมาก ทำให้ยังไม่รู้แนวทางในการรับแปล   และพอได้สอบถามข้อมูล ทางศูนย์ฯก็คิดเป็นราคาต่อคำบ้าง แบบที่เหมาจ่ายมาก็มี (ดิฉันอาจจะผิดด้วยที่ให้ข้อมูลไม่ละเอียดพอ จนอาจทำให้ทางศูนย์คิดราคาที่แพงไว้ก่อน)   ดิฉันก็เลยต้องกลับมารวบรวมข้อมูลใหม่ และนำมาพิจารณาถึงความเหมาะสมและงบที่ได้มา อย่างไรก็ตามดิฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอค่าแปลถูกอย่างหน้าละ 200 เลยค่ะ เพราะเข้าใจค่ะว่าอยากได้งานแปลที่ดี คงหาราคาถูกไม่ได้ แต่ถ้าจะให้คิดเป็น 3 บาทต่อคำเนี่ย ก็คงไม่ไหวจริงๆค่ะ (พอดีมีศูนย์แปลส่งใบเสนอราคามาเช่นนี้) เพราะโครงการที่จะทำมีระยะเวลา 1 ปี   ส่วนเรื่องที่จะจ้างศููนยแปลฯหรือนักแปลอิสระนั้น คงต้องนำข้อมูลที่ได้มาประมวลดูก่อนค่ะ หรืออาจจะผสมกันไป อย่างไรก็ดีต้องขอบคุณ คุณ agelesstansy ที่มาให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการหาศูนย์แปลนะคะ พล่ามมาซะยาวเลย :P หากใครมีความเห็น ข้อเสนอแนะ หรืออยากจะพูดคุยกันต่อเกี่ยวเรื่องการแปล ก็ยินดีรับฟังค่ะ เผื่อจะได้อะไรดีๆเพิ่มขึ้น แล้ววันจันทร์จะเข้ามาดูใหม่นะคะ เพราะวันหยุดนี้มีธุระต้องทำ คงไม่ได้เข้าพันทิป จากคุณ : ฤทธิรัตน์ - [ 15 ส.ค. 51 23:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณหนุ่มไทยฯ ถ้าได้อ่านกระทู้แนะนำห้อง Blueplanet จะไม่กล้าพิมพ์บรรทัดที่สามครับ ฟังเพลงดีกว่า ทายชื่อเพลงกันดีไหมครับ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6865513/K6865513-20.mp3 จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 16 ส.ค. 51 00:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 วิธีทดสอบและคัดเลือกนักแปล ในกรณีที่ต้องการคำแปล แค่พออ่านรู้เรื่อง ไม่พิถีพิถัน จ้างบริษัทแปลที่ไหนก็เหมือนๆกัน เพราะทุกคนก็รีบๆแปลกันหมด ก็เพียงแค่หลีกเลี่ยงบริษัทแปลที่ตัดราคาชาวบ้านจนเหลือต่ำผิดปกติ เพราะแสดงว่าเจ้าของแปลเอง และทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนเหนื่อยล้า ผลงานก็จะห่วยมากๆ... แต่ถ้าลูกค้ายอมยกเลิกกฎที่ว่า ต้องจ้างนิติบุคคล และยอมจ้างบุคคลธรรมดาแปล ก็ให้ทำการทดสอบ โดยอาศัยหลักการดังต่อไปนี้ นักแปลส่วนใหญ่จะแปลไปหาภาษาพ่อภาษาแม่ตัวเองได้ดีกว่า แปลไปหาภาษาที่สอง  ดังนั้น ยกตัวอย่างเช่น ภาษาอังกฤษ คนไทยเรียนอังกฤษ มักจะแปลอังกฤษเป็นไทยได้ดี แต่ฝรั่งเจ้าของภาษาเรียนภาษาไทยมาจนเก่ง มักจะแปลไทยเป็นอังกฤษได้ดีกว่า แต่คนไทยที่แปลไทยเป็นอังกฤษดีๆก็มี แต่ต้องมีประสบการณ์หลายปี แต่ในเมื่อไม่ค่อยมีนักแปลฝรั่งที่รู้ภาษาไทย ดังนั้นให้ทดสอบ นักแปลคนไทยโดยการ ให้แปลไทยเป็นอังกฤษก่อนเป็นลำดับแรก แล้วลองเอาคำแปลไปให้ฝรั่งเจ้าของภาษาอ่านดูว่ามี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดของคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) มากแค่ไหน ถ้ามีน้อยมากจนถึงไม่มีเลย ก็ให้สันนิษฐานว่า นักแปลชาวไทยท่านนั้น อ่านภาษาอังกฤษมากพอที่จะเข้าใจประโยคภาษาอังกฤษยากๆได้ จนถึงขั้นที่ว่า เวลาแปลอังกฤษเป็นไทย จะตีความต้นฉบับภาษาอังกฤษได้ถูกต้องแม่นยำ.... แต่ในทางกลับกัน หากนักแปลชาวไทย แปลไทยเป็นอังกฤษ แล้วคำแปลภาษาอังกฤษมี  non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดของคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) มากมายเกือบทุกประโยค ก็ให้สันนิษฐานว่า นักแปลท่านนั้นยังอ่านภาษาอังกฤษมาไม่มากพอ และเวลาแปลอังกฤษเป็นไทย โอกาสที่จะตีความต้นฉบับผิดแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ก็จะมีมากโข และในทางกลับกันด็เป็นจริงด้วย นั่นก็คือ หากทำการทดสอบในทางกลับกัน คือให้ลองแปลอังกฤษเป็นไทยก่อน ถ้าลูกค้ามีคนเก่งๆภาษาอังกฤษตรวจพบว่า นักแปลตีความต้นฉบับภาษาภาษาอังกฤษผิดเพียบเลย ก็สันนิษฐานได้ว่า นักแปลยังอ่านภาษาอังกฤษไม่ชำนาญพอ นั่นก็หมายความว่าหากเขาแปลไทยเป็นอังกฤษ คำแปลภาษาอังกฤษของเขาก็จะมี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดของคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) เพียบเลยจนถีงกับอ่านไม่รู้เรื่อง แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 06:57:21 จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ส.ค. 51 06:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วิธีการทดสอบที่ให้ไว้ใน คคห 11 ใช้ได้กับการแปลทุกภาษา เช่น ฝรั่งเศส ก็ให้นักแปลคนไทยแปลไทยเป็นฝรั่งเศสก่อนแล้วให้ชาวฝรั่งเศสตรวจดูว่ามี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดของคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) มากแค่ไหน...บล๊าบๆๆๆๆๆ.... ในกรณีที่ลูกค้าไม่มีชาวต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าของภาษาที่จะแปล ก็ให้ลูกค้าถือตัวอย่างการแปล จากไทยเป็นภาษาต่างชาตินั้นๆ (ซึ่งแปลโดยนักแปลชาวไทย) เข้าไปในสถานทูตของประเทศที่พูดภาษานั้นๆ แล้วขอร้องรบกวนเวลาให้เจ้าหน้าที่ต่างชาติเจ้าของภาษานั้นๆ ลองอ่านคำแปลในภาษานั้นๆดูว่าอ่านแล้วมี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดของคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) มากน้อย แค่ไหน ... ถ้าจะแปล 10 ภาษาก็เดินเข้าไปสถานทูต 10 ประเทศ เอาวันละประเทศ วันละภาษา...เอาแบบนี้เลย จะได้ประเมินความสามารถนักแปลได้ถูกต้องว่าเขา bilingual (รู้สองภาษาเท่าๆกัน) ในภาษาคู่ที่เขาแปลหรือไม่ ดูๆแล้วเหมือนว่าจะเป็นวิธีการที่รัดกุมใช่ไหมล่ะ ....??? แต่ก็ไม่แน่นะ เคราะห์หามยามซวย ก็อาจเจอของแข็งได้นะ จะเล่าเรื่องจริงให้ฟัง เรารับงานจากบริษัทรถญี่ปุ่นมาแปล 2000 หน้า แปลอังกฤษเป็นไทย ต้นฉบับภาษาอังกฤษแปลจากภาษาญี่ปุ่น  พออ่านภาษาอังกฤษ 10 หน้าแรก เราดีใจมากๆว่าคราวนี้เราจะได้เรียนรู้เรื่องวิศวกรรมยานยน โลหะวิทยา และเทคโนโลยีต่างๆที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากว่า 10 หน้าแรกนะ ภาษาอังกฤษมันดีสุดยอดราวกับ textbook ที่ฝรั่งเจ้าของภาษาอังกฤษเป็นคนเขียน... แต่พออ่านๆไปนะ เข้าหน้าที่ 11 จนถึงหน้าสุดท้าย ....โอ้เวงกรรม...!!! มันกลายเป็นภาษาอังกฤษแบบญี่ปุ่นๆหมดเลย ลำดับคำ มันเรียงแบบญี่ปุ่นหมดเลยว่ะ ไม่รู้ว่ามันเอา software แปลหรือเปล่าหว่า...??!!! คำอธิบาย ...?  รืบๆส่งก่อน กลัวพิมพ์ๆแล้วหาย ขี้เกียจพิมพ์ใน file ก่อน แล้วเอามาแปะด้วย แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 09:29:32 แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 06:58:45 จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ส.ค. 51 06:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คำอธิบาย ว่าทำไม 10 หน้าแรกมันแปลญี่ปุ่นเป็นอังกฤษดี  แล้วทำไมที่เหลืออ่านไม่เป็นภาษาคน คำตอบง่ายๆก็คือว่า ตอนทำบททดสอบ อย่างมากก็แค่ 1-2 หน้า ไม่มีใครทำบททดสอบเกินนั้น บริษัทแปล (ในญี่ปุ่น) หานักแปลชั้นเซียนมาแปล เพื่อให้ประมูลงานได้สำเร็จ (2000 หน้า คงมูลค่าหลายล้านบาทแน่ๆ เพราะค่าแปลภาษาญี่ปุ่นแพงที่สุดในโลก)   ก็เลยประมูลงานผ่าน แล้วบริษัทแปลก็พยายามตบตาลูกค้า โดยการใช้นักแปลมือดีๆ แปลต่อไปอีกจนครบ 10 หน้า (เวลาผู้บริหารของลูกค้าพลิกดู ก็จะพลิกดูแต่ตอนต้นๆ) จากนั้น จึงใช้นักแปลชั้นเลว แปลส่วนที่เหลือเพื่อเป็นการลดต้นทุน เผลอๆมันใช้ software แปลด้วยดิงานนั้น อ่านแทบไม่เป็นภาษาคนเลยหละ....!!! หรืออีกความเป็นไปได้นะ มีคนในบริษัทรถ ที่เป็นไส้ศึก คือทำ QC แล้วปล่อยผ่าน เนื่องจากมีเอี่ยวนอกเอี่ยวในกับบริษัทแปล นั่นก็คือบริษัทแปลติดสินบนคนในบริษัทรถที่ทำหน้าที่จัดซื้อจัดจ้าง ให้โก่งราคาค่าแปล และติดสินบนฝ่าย QC ให้แกล้งปล่อยผ่านในขั้นตอนของ QC การ corruption ในลักษณะเช่นนี้ มีมากในหน่วยงานของไทย มากกว่าที่ไหนในโลกเสียอีก ผู้บริหารจะต้องคอยสอดส่องดูแลให้ดีๆ ในเมืองไทย แม้กระทั่งตัว messenger ที่ขี่มอเตอร์ไซค์รับส่งเอกสารให้บริษัท ก็โกงบริษัทตัวเอง ตอนที่เขาเอาซองเอกสารไปให้ร้านแปลตีราคา เขามักจะกระซิบบอกบริษัทแปลให้เขียนบิลเกินจำนวนเงินที่บริษัทแปลได้รับ ซึ่งบริษัทแปลมักจะยอมทำ เนื่องจากว่ากลัว messenger ไปเข้าบริษัทแปลอื่นที่เป็นคู่แข่ง ที่เรารู้เรื่องนี้ ก็เพราะว่าเราเคยไปช่วยเจ้าของบริษัทแปลทำงานหน้าร้าน (ไปเป็นผู้จัดการให้เขาชั่วคราวตอนเขาเพิ่งไล่คนออกไป เพราะคนๆนั้นโกงเงินบริษัท) เราเจอไอ้พวก messengers เลวๆแบบนี้นะ ถึงกับอึ้งไปเลย แต่เจ้าของบริษัทก็บอกว่าให้เรายอมๆพวกมัน ... แต่ในใจเราคิดนะว่าเวลาเราแปลงานให้บริษัท พอโดนกินหัวคิว แล้วเหลือเงินแค่ 50% แล้วยังโดนลดค่าแปลหน้าร้านอีก เราก็โดนลดค่าแปลส่วนของเราอีกด้วย และที่ต้องโดนลดค่าแปลหน้าร้าน นั่นก็เพราะว่าผู้บริหารบริษัทเห็นบิล "ที่โก่งราคา" แล้วโทรมาต่อว่าบริษัทแปลว่าแพงเกินไป เลยต่อราคาแหลกเลย จนในที่สุด ความทุกข์ก็ต้องไปตกอยู่กับนักแปล นั่นก็คือโดนกดราคาเข้าไปอีก ความซวยก็ไปตกอยู่กับลูกค้า นั่นก็คือลูกค้าได้งานที่แปลลวกๆไป จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ส.ค. 51 06:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรารู้ธุรกิจการแปลมากพอที่จะบริหารบริษัทแปลได้ แต่ต่อให้มีเงินพอเปิดธุรกิจ เราก็ไม่อยากทำ เพราะขี้เกียจไปรบรากับผู้คน บางทีร้านแปลอยู่ติดๆกันออกมาดึงลูกค้าหน้าร้านหรือบนสะพานลอยจนตบตีกันกลางถนนเลยก็มี หรือตัดราคากันจนน่าเกลียดเลยก็มี หลังจากแปลๆเอกสารมานาน 15 ปี รู้สึกเบื่อๆเรื่องแก่งแย่งชิงดีกันแย่งลูกค้ากัน เราก็เลยพยายามเริ่มแปลหนังสือ แปลๆไปแล้วได้เงินช้าแทบจะไปไม่รอด แต่บางทีก็อยากจะลองกลัยไปแปลหนังสือใหม่ ถ้ามีเงินรองรังมากพอ (เงินเก็บไว้กินใช้ก่อนที่จะรับค่าแปลจากสำนักพิมพ์) สรุป ในโลกของธุรกิจการแปลเอกสารนั้น ลูกค้าที่ได้งานแปลที่ดีที่สุดไป ก็คือ ลูกค้าที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านภาษาที่จะแปล แต่ลูกค้าไม่มีเวลาแปลเอง ยกตัวอย่างเช่น เคยมีสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง จ้างเราแปล เอกสารกฎหมาย พอเราเอางานไปส่ง เขาติชมได้อย่างถูกต้อง เราเหลือบๆมองเห็นเขาแขวนปริญญาเอกทางด้านกฎหมายจากต่างประเทศไว้ที่ข้างฝา เราก็รู้ว่าลูกค้าเป็นมวยจริงๆ เราก็ถามเขาว่า "ทำไมคุณไม่แปลเองล่ะ" เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี แล้วตอบอย่างสุภาพว่า "ผมไม่มีเวลาแปลเองหรอกครับ" .... แต่เราว่าในใจเขาคงคิดว่า "กรูว่าความคดีหนึ่งตั้งหลายล้านแน่ะ เรื่องอะไรจะมานั่งแปลให้เสียเวลาวะ" นั่นก็คือว่า เขาจ้างเราแปล แล้วเขาแค่พลิกๆเอกสารอ่านคำแปลของเราแพล็บเดียวเขาก็รู้แล้วว่าเราแปลถูกหรือแปลผิด แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 07:04:05 แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 06:54:43 จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ส.ค. 51 06:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตามไปดูแล้วครับ คุณพ่อโปรเจ็กต์ หมายถึงกระทู้เรื่องร้านคาราโอเกะใช่ไหมครับ วิธีแก้ ถ้าโดนแบบนั้น ไม่จ่ายที่ร้านครับ แต่ไปที่สถานีตำรวจ วางเงินไว้ในราคาที่เหมาะสม ถ้ามีปัญหา ขึ้นศาลครับ ถ้าออกจากร้านไม่ได้ โดนรุมสกรัม ไม่เป็นไร วันหน้า อีกไม่นานหรอก ร้านนี้จะกลายเป็นทะเลเพลิง จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 16 ส.ค. 51 07:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอเสริมนิดนึงค่ะ >> อังกฤษ, จีนกลาง – แผ่นดินใหญ่, จีนกลาง – ฮ่องกง, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมัน, อิตาเลียน, อาหรับ และรัสเซียน เดาเอาว่าภาษาต้นทางเป็นภาษาไทยใช่ไหมคะ >> แต่ถ้าจะให้คิดเป็น 3 บาทต่อคำเนี่ย ก็คงไม่ไหวจริงๆค่ะ (พอดีมีศูนย์แปลส่งใบเสนอราคามาเช่นนี้) เพราะโครงการที่จะทำมีระยะเวลา 1 ปี เท่าที่ทราบ ราคานี้ถ้าได้สำหรับทุกภาษาก็ไม่เรียกว่าแพงค่ะ ถ้าภาษาไทยเป็นภาษาต้นทาง อยากบอกว่าออกจะถูกไปด้วยซ้ำสำหรับงานคุณภาพ ...อย่าเข้าใจผิดค่ะ ไม่ได้พูดแทนเอเยนซี่แต่ในฐานะคนที่ชอบชมเรื่องราวในแวดวงการแปล อยากให้มองว่าทำไมถึงได้ราคาที่ (คิดว่า) สูง ถ้าจะมองโครงการโดยภาพรวม มันมีมิติที่มากกว่าการแปลเพียงอย่างเดียว เริ่มตั้งแต่ในตลาดโลกภาษาไทยจัดอยู่ในกลุ่มภาษาที่หา (คนแปล) ได้ยากอยู่นา ดูตัวอย่างที่คุณ agelesstansy ว่าไว้ จะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้งานออกมาดี โดยเฉพาะภาษาที่เราไม่เคยใช้มาก่อน จะรู้ได้อย่างไรว่าแปล “เข้าเค้า” หรือเปล่า เอเยนซี่ที่ดีเขาจะรับความเสี่ยงตรงนี้ โดยมีวิธีกลั่นกรองคุณภาพงาน ปรับเปลี่ยนรูปแบบเอกสารให้นักแปลทำงานได้ง่าย ช่วยติดตามงานจากนักแปลให้ส่งงานตามกำหนด ช่วยหาคนตรวจแก้งานก่อนส่งให้ลูกค้า บางครั้งอาจทำโลคัลไลซ์หรือจัดรูปแบบหน้าเว็บไซต์ภาษาต่างด้าวให้เสร็จสรรพ (อันนี้คงไม่รวมอยู่ใน 3 บาท เพราะไม่ใช่เรื่องแปลงานแล้ว) รับเรื่องปวดหัว (ใหญ่ ๆ) แทนลูกค้าไปได้พะเรอเกวียน แต่ถ้าไปเจอเอเยนซี่แบบซื้อมาขายไปก็เป็นอีกเรื่อง ระยะเวลาที่ระบุว่า 1 ปี อาจไม่พอที่จะบอกได้ว่าทั้งโครงการต้องใช้เงินเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่รับงานเขาจะคิดราคาอิงตามจำนวนคำ หรือจำนวนชั่วโมงงาน ประกอบกับเวลาที่ใช้จริง อันนี้ดูจะแปลกจากที่เคยเจอ ไปถามเซลส์ที่ไหนเขาก็ต้องมีคำถามว่าลูกค้ามีงบเท่าไหร่ แต่ถ้าอยู่ในช่วงการศึกษาความเป็นไปได้ก่อนตั้งงบก็พอจะเป็นที่เข้าใจ >>>และพอได้สอบถามข้อมูล ทางศูนย์ฯก็คิดเป็นราคาต่อคำบ้าง แบบที่เหมาจ่ายมาก็มี เอ้อ! เหมายังไง นึกไม่ออก เดาเอาว่าเขาระบุจำนวนคำหรือชั่วโมงงานสูงสุดไว้ด้วยใช่ไหมคะ จำเป็นไหมคะว่าต้องแปลหลายภาษามากขนาดนี้พร้อมกัน ถ้าจำเป็นไม่ลองดูภาษาหลัก ๆ ก่อนแล้วค่อยขยับขยาย ยกเว้นในส่วนข้อมูลที่ไม่เปลี่ยนแปลงง่าย ๆ อย่างข้อมูลทั่วไปของประเทศ เวลาที่ผ่านไปข้อมูลต้นฉบับอาจต้องปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย การแปลก็ต้องขยับไปด้วย นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องเพิ่มขึ้น ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : Care - [ 16 ส.ค. 51 09:44:04 A:125.25.214.251 X: TicketID:102404 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่อง "เอเยนซี่ที่ดีเขาจะรับความเสี่ยงตรงนี้ โดยมีวิธีกลั่นกรองคุณภาพงาน.... "  ที่คุณ Care กล่าวถึงนั้น ตอนนี้ในบางประเทศมันมี นั่นก็คือมีนักแปลทำหน้าที่แปล มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา และด้านวิชาการทำหน้าที่ edit (ตรวจแก้) คำแปล มีผู้เชี่ยวชาญด้าน computer ให้ความช่วยเหลือด้านการ handle files หรือ graphic รูปแบบต่างๆ มีบริการ localization และ globalization มี QC ที่ครบถ้วน ลักษณะงานแบบนี้ ถึงบริษัทแปล (หรือที่คุณเรียกว่าเอเยนซี) จะกินหัวคิวนักแปล มันก็คุ้มค่า เพราะนักแปลก็ได้เงินมากพอดูเลยทีเดียวหละ จริงๆแล้วก็เคยมีบริษัทแปลในฝันแบบนี้ในประเทศไทยนะ มันเป็นทีมงานของโรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่งแถวๆสยาม ซึ่งมีอาจารย์ฝรั่งที่อ่านภาษาไทยรู้เรื่องทำหน้าที่เป็น editors และมีนักแปลฝีมือดีๆ แปลงาน นักแปลได้ราคาดีๆ มากๆ งานดีเยี่ยม เพราะอาจารย์ฝรั่งประเมินความสามารถนักแปลได้ เราก็เคยคิดจะไปสมัครที่นั่น ตอนนั้นบริษัทแปลคุณภาพรองๆหลายแห่งหวาดหวั่นว่าจะโดนบริษัทแปลคุณภาพสูงเช่นนี้ แย่งธุรกิจไปหมด แต่อนิจา บริษัทแปลที่ให้บริการดีเยี่ยม "ไปไม่รอด" เนื่องจากว่า ลูกค้ายังต้องการผลงานแปลแบบ "แปลไวๆ และคิดค่าแปลถูกๆ" และเอาคำแปลพออ่านรู้เรื่อง ดังนั้น นักแปลจึงต้องกลับไปตกอยู่ในวังน้ำวน นั่นก็คือต้องโดนบริษัทแปลกินหัวคิว 50% และทำงานลวกๆเพื่อความอยู่รอด เนื่องจากบริษัทแปลประเภทนี้ตัดราคากันหั่นแหลกนั่นเอง แต่มันก็มีนักแปลอยู่ประเภทหนึ่งที่ได้งานแปลราคาดีๆมากพอสมควร นั่นก็คือนักแปลที่เรียนจบทางด้านภาษามาหลายๆปี และมีเพื่อนฝูงที่เรียนมหาลัยเดียวกันไปทำงานแล้วไปเป็นใหญ่อยู่ในบริษัทห้างร้านต่างๆ ก็เลยเอางานมาแบ่งกันทำภายในเครือข่ายพวกเขา และแนะนำเพื่อนฝูงให้บริษัทที่ตัวเองทำ นักแปลประเภทนี้ ถือว่า "มีบุญ" เพราะไม่ต้องทำงานหนัก จนเครียด และก็ผลิตผลงานที่ดีออกมาได้ด้วย หมายเหตุ เราเคยรับงานแปลจากร้านแปลที่กินหัวคิวเรา 50% จนเครียด เลิกกับแฟนไป 2 คน แล้วลงเอย เป็นโรคพิษสุราเรื้อร้ง นักแปลรุ่นพี่เราที่รับงานแปลจากร้านแปล แล้วนักแปลรุ่นพี่เราโดนกินหัวคิว 50% เหมือนๆกับเรานะ  พวกเขาตายไป 3-4 คนแล้ว เพราะความเครียด...มีอยู่รายหนึ่งแปลเก่งมากทั้งฝรั่งเศส ทั้งอังกฤษ ไปเมาแล้วนอนตายข้างถนนอย่างน่าอนาถ เรารอดตาย เพราะไปได้เพื่อนที่เรียนมาทางด้านภาษา ช่วยจับงานจากลูกค้าโดยตรง ราคาดีๆ โยนๆมาให้เรา เราจึงรักษาอาการป่วยทางจิตและอาการป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังหาย จึงกลับมาทำงานได้ตามปกติ แล้วนานๆทีเราจึงจะรับงานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ (หมายถึงงานแปลราคาถูกๆที่รับจากร้านแปล แล้วโดนร้านแปลกินหัวคิว 50%) ในเมื่อลูกค้าหลายๆรายยังมีกฎเหล็กตายตัวว่า จะต้องจ้างบริษัทแปลที่เป็นนิติบุคคล และไม่ยอมจ้างนักแปลที่เป็นบุคคลธรรมดา ปัญหาเรื่องการแปลในตลาดก็จะยังมีอยู่เรื่อยๆไป นั่นแหละ จนกว่าลูกค้าทุกรายจะมาอ่านกระทู้นี้ และจะเข้าใจทุกเรื่องที่เราเขียนจากประสบการณ์ การแปลเอกสาร 15 ปี ที่แสนจะขมขื่นของเรา... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 14:10:30 แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 51 11:16:12 จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ส.ค. 51 11:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หมายถึงกระทู้แท็กอันลือลั่นครับ คุณหนุ่มไทยฯ มีขาประจำรายหนึ่งในห้องโน้นรับทำแท็กให้สมาชิก โกงต้นทุน หมุนเงินไปใช้ แล้วไม่มีจ่าย เรื่องยืดเยื้อมาไม่รู้กี่เดือน พอมีคนสงสัย ขาใหญ่ในห้องก็ออกมารับรองรับประกันให้ ตอนเรื่องแดงออกมาแรกๆ ก็ช่วยกันปิด ตอนนี้เรื่องก็ยังยืดเยื้ออยู่ พอดีเจ้าตัวไม่มีอาการสำนึก ขาใหญ่เลยค่อยๆ หายไปทีละคน ส่วนเรื่องกระทู้คาราโอเกะ ปกติผมไม่เที่ยว แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อนซี้ผมมาจากต่างจังหวัด มันลากไปเข้าร้านแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ราคา เลยบอกมันว่าเต็มที่ เรื่องเงินไม่ต้องห่วง นั่งกันสามคนแบล็คขวดเดียว เช็คบิลมาสองหมื่นกว่า เพื่อนผมเป็นนักเที่ยว วันนั้นเหน็บ .357 ไปด้วย แต่มันบอกไม่แพง "มรึงจ่ายไปเหอะ" ผมก็คิดว่าเป็นราคาปกติ แถมมีรอยลิปสติกติดเสื้อกลับมาไม่รู้ตัว เลยโดนท่านผบ.คูณสอง ตัดเงินจำนวนเท่ากันไปเข้าบัญชีลูก โดนไปงานเดียว เข็ดเลย จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 16 ส.ค. 51 12:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ก๊ากกกก ตามหาหนูท้องขาว ไปเจอหนูปากแดง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 16 ส.ค. 51 14:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อยากจ้างแปลงานค่ะ ง่ายๆ เช่น ใบขับขี่ ใบเกิด ใบเลี่ยนชื่อ ไทย-อังกฤษ potjanee2008@yahoo.com จากคุณ : เจน - [ 17 ส.ค. 51 02:08:43 A:125.26.250.107 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ ไปจ้างร้านแปลแถวๆเพลินจิตแปลจะง่ายกว่า เพราะว่า ถ้าต้องไปให้กระทรวงการต่างประเทศรับรองนะ ต้องไปนั่งรอคิวนานจนเครียดเลย แล้วแถมบางทีเจ้าหน้าที่กระทรวงอวดเก่ง แก้จากแปลถูก ให้กลายเป็นแปลผิด ก็มี ทางร้านแปลเขามี messengers ขื่มอเตอร์ไซค์ รับอาสาไปนั่งรอ แล้วถ้าโดนกระทรวงตีกลับมา เขาก็เอาเอกสารไปยื่นให้คุณใหม่ได้ จริงๆแล้วงานพวกนี้เราแปลชำนาญมากๆ เพราะเคยทำงานพวกนี้ในร้านแปล แล้วเราเขียนคำแปลเป็นภาษาที่หรูหราเกินไป จนเจ้าหน้าที่กระทรวงที่ไม่เข้าใจการแปล หมั่นไส้ ตีกลับมาเป็นจำนวนมากเลยหละ เลยในช่วงหลังๆ จะแปลให้ผ่าน ก็ต้อง "แกล้งโง่" เช่น แปลไทยเป็นอังกฤษ แปลให้ถูก grammar แต่เขียนภาษาอังกฤษสำนวนไทยๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กระทรวงบางคนเขียนภาษาอังกฤษแบบนั้น และเข้าใจการแปลได้แค่ระดับนั้น การตีกลับเอกสาร ส่วนใหญ่ เกิดจากเจ้าหน้าที่กระทรวงบางคน ชอบหรือไม่ชอบคำศัพท์บางคำ โดยเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่เพราะการแปลผิด แล้วเจ้าหน้าที่กระทรวงจะเปลี่ยนตัวอยู่บ่อยๆ และร้านแปลแถวๆเพลินจิต จะจำได้ว่าตอนนี้มีเจ้าหน้าที่คนไหนเข้ามาทำงาน และเจ้าหน้าที่คนนั้น ชอบ หรือไม่ชอบคำศัพท์คำไหน เนื่องจากว่า ฉลาดหรือโง่แค่ไหน ดังนั้น ร้านแปลแถวๆเพลินจิต ก็จะเขียนแต่คำศัพท์ที่เจ้าหน้าที่ชอบ เพื่อเอาใจเจ้าหน้าที่ เจ้านายเก่าเรา ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทแปล พอถึงวันปีใหม่ จะจัดงานเลี้ยง แล้วเรียกเจ้าหน้าที่กระทรวงมางานเลี้ยง "แล้วแจกซอง" เพื่อความราบรื่นในการทำงาน เพื่อไม่ให้เอกสารโดนตีกลับบ่อยๆ...!!! นี่คือประเทศไทย... เมื่อ 2-3 วันที่แล้วช่างคอมพิวเตอร์คนโปรดของเราโทรมาบอกว่า มีลูกค้าจะให้ช่วยแปลเอกสารพวก ทะเบียนบ้าน ใบเกิด ทะเบียนสมรส ฯลฯ พวกนี้ เราจะแปลให้ไหม เราก็อธิบายไป แบบข้างบนนี้ว่า ไม่ค่อยอยากแปล เพราะกลัวโดนตีกลับมา (คือตอนนี้จำไม่ได้แล้วว่าเจ้าหน้าที่คนไหนเข้ามาประจำการ และเขาชอบหรือไม่ชอบคำศัพท์ตัวไหนบ้าง) แล้วเราก็ขี้เกียวไปนั่งรอยื่นเอกสาร แต่ไอ้ครั้นให้ลูกค้าไปนั่งรอยื่นเอกสารเอง เกิดโดนตีกลับมา แล้วลูกค้าไม่เข้าใจความโง่ของเจ้าหน้าที่ ลูกค้าก็จะคิดว่าเราแปลได้ห่วยมาก แต่จริงๆแล้วนะ งานพวกเนี้ย ได้เงินง่ายจะตายไป ถ้าเรารู้แหล่งรับงานที่ไหนทีละมากๆนะ เราฝึก messengers ขี่มอเตอร์ไซค์ไปยื่นเอกสารได้สบายๆเลย จริงๆแล้วไม่ต้องฝึกหรอก เรารู้จักคนพวกนี้มากอยู่แล้ว...การทำงานพวกนี้นะ นานๆทำทีหนึ่งรายสองราย ขี้เกียจไปปวดหัวกับไอ้เจ้าหน้าที่กระทรวง แต่ถ้ารับทีหนึ่งเยอะๆนะ เป็นงานที่ได้เงินง่ายมากๆเลยหละ ส่วนใหญ่นักแปลที่รวยมาจากงานประเภทนี้นะ จะมีหน้าม้าติดต่อมา หน้าม้าไปรู้จักกับพวกมาเฟียที่ส่งผู้หญิงไทยไปขายตัวในต่างแดน แล้วจะมีเอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรส และทำวีซ่า มาให้แปล เป็นจำนวนมาก แต่ถ้าคุณ คคห 20 เป็นตัวมาเฟียเอง หรือเป็นหน้าม้าที่รู้จักกับมาเฟีย หรือเป็น agency ซึ่งจัดหาคู่ให้หญิงไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ที่ต้องใช้บริการแปลเอกสารเพื่อจดทะเบียนสมรส และเพื่อทำวีซ่าอย่างต่อเนื่องเป็นประจำเป็นจำนวนมาก อย่างนี้เราจะให้บริการแปลให้เลยหละ โดยจะยอมลงทุนไปรบรากับเจ้าหน้าที่กระทรวงมาเฟียด้วยตัวเองเลยหละ (จริงๆแล้วเราโทรเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เก่งงานยื่นกระทรวง ให้มารับเอกสารที่เราแปล แล้วไปยื่นให้เราได้เลยหละ)  แล้วเราก้อจะลงทุนจัดเลี้ยง แล้วเอาซองยื่นให้พวกเขาตอนวันปีใหม่ เหมือนที่เจ้านายเก่าเราเคยทำเลยหละ ม่ายงั้นเอกสารกรูแปลไปดีๆโดนแมร่งแกล้งตีกลับมาบ่อยๆ...555+++... เอาไว้ว่างๆเราจะแปะเอกสารที่เราแปลไปถูกต้อง  แล้วโดนเจ้าหน้าที่กระทรวงมาเฟียตีกลับมา ให้ดู ให้เห็นกัน จะๆเลยว่า พวกเขา (บางคน แต่ไม่ทุกคนนะ) ไปได้ตำแหน่ง diplomatic officer มาได้ยังไงกันหว่า เด็กเส้นหรือเปล่า? ...แล้วไปตรวจแก้งานแปลโดยที่ตัวพวกเขาเอง ไม่มีความรู้ในเรื่องการแปลเลย นั่นก็คือ ไปแก้ข้อความที่แปลถูกอยู่แล้ว ให้กลายเป็นแปลผิดไปจังๆ หรือบางทีนะ แก้ไป ก็เพียงแค่เปลี่ยนไปใช้คำศัพท์ที่พวกเขาชอบใจ เพื่อวางอำนาจเล่นๆ หรือเพื่อโชว์ฟอร์มว่าเก่งภาษาอังกฤษ แต่ไม่ได้ทำให้คำแปลมันดีขึ้นมาเลยแม้แต่เล็กน้อย ซึ่งทำให้ชาวบ้านเขาเสียเวลา บางทีต้องกลับมาแก้กันใหม่จนเจ้าของเอกสาร (ลูกค้าร้านแปล หรือลูกค้านักแปล) แทบจะตกเครื่องบินแน่ะ หรือบางทีถึงกับตกเครื่องบินไปแล้ว และต้องมีการ "ตกลงกับเจ้าหน้าที่กระทรวงอย่างลับๆ เพื่อแก้ไขสถานการณ์" ... ซึ่งนี่ถ้าเป็นในอังกฤษหรืออเมริกานะ เจ้าหน้าที่โดนฟ้องเรียกค่าเสียหายหัวโตแน่ๆเลย แต่นี้มันเมืองไทย ขืนนักแปลมัวแต่ไปต่อสู้กับพวกเขา จะลำบากมากๆ เจ้านายเก่าเรา (เจ้าของบริษัทแปลที่มีร้านแปลหลายสาขา) จึงเลือก "วิธีการที่สงบ" .... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 19:24:17 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 19:15:18 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 12:28:48 จากคุณ : agelesstansy - [ 17 ส.ค. 51 12:19:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สรุปแล้วร้านแปลแถวๆเพลินจิต เป็นจำนวนมาก เมื่อแรกเริ่มนะ พวกเขาร่ำรวยมาจากการแปลเอกสารของพวกมาเฟียที่ค้าประเวณีนั่นเอง เพราะงานแปลเอกสารแต่งงานและทำวีซ่าเป็นงานหลัก ที่ส่วนใหญ่ ใช้แค่พนักงานพิมพ์ดีดก็แปลได้ (เนื่องจากมีแบบฟอร์มที่ทำไว้สำเร็จรูปแล้ว และนำมาใช้ซ้ำๆได้)  และต่อๆมาพวกเขา ก็มารับงานแปลยากๆอย่างอื่นจากลูกค้าที่เป็นบริษัท ห้างร้าน โดยทั่วไป   ที่แถวๆเพลินจิต จะมีร้านแปลแห่งหนึ่ง แปลเป็นแต่เอกสารแต่งงาน และทำวีซ่า แต่กลับรวยที่สุด เพราะเขามีแหล่งรับงานแปลเอกสาร หญิงไทยแต่งงานกับต่างชาติ ทั้งแต่งจริง และแต่งเพื่อไปค้าประเวณี คิดว่ารับมาจากเอเย่นหรือจากมาเฟียต่างแดนนี่หละ ...แล้วเขาปิดป้ายไว้หน้าร้านว่ารับงานแปลทุกประเภท ถ้ามีลูกค้าเอางานยากๆ ไปให้แปล เขาก็จะบอกว่า ได้รับแปลได้ แต่จะโก่งราคาสูงๆ แล้วเอาไปให้ร้านแปลใกล้ๆกัน แถวๆนั้น ให้แปลแทน แล้วอยู่ดีๆ เขาก็ได้เงินโดยไม่ต้องออกแรงเลย แล้วร้านแปลที่รับช่วงไป ก็ไปกินหัวคิวนักแปล อีก 50% ไล่กันเป็นลูกโซ่แบบนี้เรื่อยๆไปล่ะ... ครั้งหนึ่งเราเคยไปรับงานแปลจากร้านนั้น เรื่องตลกก็คือว่า เขาถามเราว่าจะเอาหน้าละเท่าไหร่ เราลองเสนอราคาสูงกว่าราคาหน้าร้าน แบบไม่โดนกินหัวคิว 50% เขาก็บอกว่า ได้เลย แล้วเราแปลไปก็ได้เงินอยู่เรื่อยๆ เราก็แปลกใจ ว่า โหทำไมชีวิตมันง่ายยังงี้วะ ....แต่อีกไม่นานนัก พนักงานคนนั้นก็หายไป แหล่งเงินแหล่งทองของเราก็หายไป อ๋อตอนนี้เราเข้าใจแล้วหละ พนักงานคนนั้นนะ เมตตาเรา ไม่ได้กินหัวคิวเรา 50% แต่กินไปนิดเดียว แล้วไม่ได้ลงบัญชี ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหน้าร้านรับหน้าละ 350 เราบอกว่า ขอหน้าละ 500 เอกสารมี 20 หน้า เราได้ 10000 บาท แต่พนักงานเสนอ ราคาลูกค้า 12000 แล้วเธอไม่ลงบัญชี เจ้านายเธอ (เจ้าของร้าน) ไม่ได้เงิน แต่เธอได้เงิน 2000 นักแปลก็ happy (เพราะไม่โดนกินหัวคิวมากถึง 50%)  พนักงานก็ happy เพราะมีรายได้พิเศษ เธอมีงานทีไร เธอก็รีบ โทรมาหาเรา แต่เผอิญเธอคงโดนไล่ออกไปเสียก่อน เราก็เลยต้องโดนร้านแปลกินหัวคิว 50% ต่อไป ......555+++...ตอนหลังๆ ได้แค่หน้าละ 175-200 บาทเอง  (เพราะร้านแปลรับมาหน้าร้าน หน้าละ 350 - 400 แล้วกินหัวคิวเรา 50%) เราก็เลยแปลลวกๆไป คือแปลไปตามระดับเงินที่จ่าย คือว่างานแปลมันจะดีได้ ตัวนักแปลเองต้อง edit (ตรวจแก้) คำแปลของตัวเอง ถ้าหน้าละ 500 บาท เราตรวจแก้หลายรอบ แต่ถ้าหน้าละ 175-200 บาท เราตรวจแก้ไปบ่อยๆ เราจะกินแกลบ ดังนั้นเราจึงต้องรีบๆเอาตีนเขี่ยๆไป ตามระเบียบ ตามกลไกของตลาดการแปล ลูกค้าเก่าที่เคยได้รับคำแปลดีๆของเราไป ตอนแปลหน้าละ 500 บาท ตอนนี้คงแปลกใจว่า ทำไมราคาจึงลดลง และทำไมคุณภาพจึงลดลงอีกด้วยเช่นกัน...!!!??? แต่โปรดอย่าตำหนิเรานะ คือว่าขนาดแปลแบบเอาตีนเขี่ยๆไปของเราน่ะ  เรายังแปลดีกว่านักแปลสมัครเล่นที่แปลหน้าละ 100 บาท หรือที่พยายามโกอินเตอร์แล้วลักไก่ว่าแปลแพงๆหน้าละ 2000 บาท ที่ขาดประสบการณ์ ที่เห็นไปโฆษณากันมากมายใน www.proz.com ที่เขาเขียน profile ตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ (พยายามเขียนให้หรูหราว่าจบจากเมืองนอกแล้วแปลงานยากๆได้ทุกประเภท) แต่อนิจาเขียนด้วยภาษาอังกฤษที่มี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดทางด้านภาษาของคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) เพียบเลยหละ .... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 13:02:36 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 12:59:32 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 12:50:02 จากคุณ : agelesstansy - [ 17 ส.ค. 51 12:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ความจริงเราก็อยากแปลงานให้ดีๆเหมือนกันนะ แต่มันเป็นเรื่องยากที่เราซึ่งเป็นนักแปล จะไปพบปะกับลูกค้าได้โดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ตอนเราต้องแปลงานก๋วยเตี๋ยวเรือ (งานแปลราคาถูกๆที่นักแปลโดนร้านแปลกินหัวคิวไปแล้ว 50%) เราเคยเข้าไปดูใน pantipmarket หวังจะไปโฆษณารับแปลทีนั่น แต่พอเห็นมีพวกนักแปลมือสมัครเล่นแห่กันไปไปโฆษณารับแปลหน้าละ 100 บาท (บางคนคิดแค่หน้าละ 80 บาท เท่าๆ rate หน้ามหาลัยรามฯเลยหละ) มันก็ยิ่งทำให้เราเครียดหนักเข้าไปอีกหลายๆเท่า... เมื่อเช้านี้นะ เราตื่นนอนขึ้นมา แล้วเราคิดอะไรตลกๆเล่นๆว่านี้ถ้าเราปั่นกระทู้นี้ต่อไป แล้วสาธิตการแปล แบบชำแหละประโยคให้ดูนะว่า ถ้านักแปลไปเจองานยากๆโหดๆ เข้านะ แล้วรับค่าแปลแค่ หน้าละ 100 บาท โอกาสที่เขาจะแปลถูกต้องด้วย แล้วไม่กินแกลบนะ มันเป็นไปไม่ได้เลย หละ นักแปลที่รับงานแปลหน้าละ 100 บาทจะได้ตระหนักว่า "ถ้าไม่เห็นโลงศพก็จะไม่หลั่งน้ำตา" พอสาธิตการแปล แบบชำแหละประโยคให้ดูพร้อมสรรพ แล้วเราก็จะเข้าไปโฆษณารับงานแปลเล่นๆที่ pantipmarket แล้วบอกว่า "ตอนนี้เรามีงานก๋วยเตี๋ยวเรือ (งานแปลราคาถูกๆ ที่นักแปลโดนร้านแปลกินหัวคิวไป 50%) ราคาหน้าละ 200 บาททำทุกวัน แต่เราต้องรีบๆแปล เราอยากแปลงานคุณภาพดี ลูกค้ารายไหนจะให้เรามากกว่านั้นได้ไหม? ถ้าได้ เราก็จะรับแปล แต่หน้าละ 100 บาท แบบพวกมือสมัครเล่นโฆษณากันใน pantipmarket ไม่ไหวนะ" แล้วเราก็จะทำ link จาก pantipmarket ที่เราโฆษณาไว้ ให้มาโผล่ที่กระทู้นี้ ให้เจอข้อความ ที่เราจะสาธิตการแปลแบบชำแหละประโยคให้ดู เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า "ใครก็ตามที่รับงานแปล หน้าละ 100 บาทได้นั้น ถ้าแปลถูกหมด ก็กินแกลบ และถ้าเป็นมือสมัครเล่น ก็ไม่น่าที่จะแปลงานอะไรที่ serious มากๆได้เลยหละ" แต่สงสัยว่าอะนะว่า พวกนักแปลมือสมัครเล่น (บางคนรับแปลตอนช่วงตกงาน และช่วงกำลังหางานอยู่) ที่รับแปลหน้าละ 100 บาทใน pantipmarket ทั้งหมดก็คงแห่กันมารุมเล่นเรา (แต่เราว่า การกระทำของเรา ที่คิดจะกระทำ แต่ยังไม่ได้กระทำ  มันก็ยุติธรรมเหมือนกันนะ เพราะจะช่วยให้นักแปลที่แปลได้ดีๆ ไม่ต้องหางานยากมากเกินไปนัก เพราะจะได้ไม่โดนคนตัดราคาเอาแบบโหดร้าย) ...คือสงสัยเราจะว่างมากอ้ะ ....555+++.... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 13:27:55 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 13:25:07 จากคุณ : agelesstansy - [ 17 ส.ค. 51 13:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เอ้า...เราเริ่มแปะ แล้วนะ นักแปลที่ไปโฆษณาใน pantipmarket ว่ารับงานแปลแค่หน้าละ 100 บาท โปรดไปดูตัวอย่างการแปลดีๆได้ แล้วจะรู้ว่า ถ้าพวกคุณรับงานแปล ราคาต่ำแบบนั้น ถ้าเกิดลูกค้าต้องการจ้างนักแปลหน้าละ 100 บาทกันหมด นักแปลที่เรียนการแปลมาเกือบตายคงจะเครียดน่าดูเลยหละ  แล้วลองไปอ่านดูว่า การแปลงานให้ดีๆได้ ในแต่ละหน้านั้น นักแปลต้องใช้ประสบการณ์ที่สะสมมาไว้มากมาย อีกทั้งยังต้องใช้ทรัพยากรสมอง และพลังงานไปมากมาย แค่ไหน ถ้าใครแปลงานหน้าละ 100 บาทนะ แล้วไปเจองานยากๆเข้า ก็มี 2 ความเป็นไปได้ นั่นก็คือ 1. แปลได้เงินพออยู่รอด คือเปิดดิกแปลเรียงตัว แล้วพิมพ์มันจากซ้ายไปขวา มั่วๆไปเรื่อยๆน่ะ... แต่แปลผิดเพียบเลยหละ....!!! 2. แปลถูกต้อง แต่กินแกลบ แล้วก็ตายเพราะความเครียด อย่างที่เราพูดไว้ใน คคห 17 (ในกระทู้นี้) ว่า "นักแปลรุ่นพี่เราที่รับงานแปลจากร้านแปล แล้วนักแปลรุ่นพี่เราโดนกินหัวคิว 50% เหมือนๆกับเรานะ  พวกเขาตายไป 3-4 คนแล้ว เพราะความเครียด...มีอยู่รายหนึ่งแปลเก่งมากทั้งฝรั่งเศส ทั้งอังกฤษ ไปเมาแล้วนอนตายข้างถนนอย่างน่าอนาถ" ลองไปอ่านกระทู้พวกนี้ สิ  แล้วจะรู้ว่า นักแปลกว่าจะเรียนการแปลมานั้น มันยากแค่ไหน ...ไม่ใช่อยู่ดีๆ พอตกงาน แล้วจะมาหาลำไพ่พิเศษในการแปลกันได้ง่ายๆ ตาม links ข้างล่างพวกนี้ไป http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6753328/K6753328.html ตอนต้นๆกระทู้ เราเขียนอธิบายลำดับขั้นตอนการเรียนการแปลด้วยตัวเอง โดยเริ่มตั้งแต่ระดับ elementary ไปเลย... แต่ช่วงหลังๆไปชักจะมีเรื่องยากๆ และกระทู้นี้ ก็มีเรื่องแปลด้วย   http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6780472/K6780472.html มีตัวอย่างการแปลสวยๆ ของคุณ แอ๊ด ปากเกร็ดนักแปลระดับเซียนอยู่ด้วย แต่ตัวอย่างบางอันชักจะยากขึ้นเหมือนกัน กระทู้นี้เป็นเรื่องนักแปล http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6779096/K6779096.html เป็นการเปรียบเทียบว่า นักแปลที่อยู่ในวงการแปล ใครทำอะไรได้บ้าง ************************************************ อ่านดู แล้วบริกรรมดูดีๆ แล้วจะคิดได้ว่า การที่พวกคุณไปแปะโฆษณารับแปลกันหน้าละ 100 บาท ตัดราคาชาวบ้านเขาน่ะ....มันเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการใช่หรือไม่ล่ะ...ที่หลงผิดคิดว่า "การทำงานแปลมันง่าย แค่เปิดดิกแปลเรียงตัวไป แล้วพิมพ์จากซ้ายไปขวาไป ก็แปลได้ แล้ว ....!!!???"....... ขอบอกตรงๆว่า มันไม่หมูขนาดนั้นนะ ....!!! แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 14:09:28 จากคุณ : agelesstansy - [ 17 ส.ค. 51 14:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เราอยากเข้าไปใช้บริการ pantipmarket โฆษณารับแปลบ้าง เพราะไม่อยากมานั่งเครียดรับงานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ (งานแปลราคาถูกๆที่รับจากร้านแปล แล้วโดนร้านแปลกินหัวคิวไป 50%) แต่พอเห็นมีนักแปลไปโฆษณารับแปลกันหน้าละ 100 บาท เราก็เลยยิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก เราก็เลยอยากหา ของดี มาให้พวกเขาดู (ยังมีอีกเพียบเลย)  ให้นักแปลที่รับแปลหน้าละ 100 บาท ดูให้รู้ว่า รู้เท่าไม่ถึงการ ถึงรับงานแปลหน้าละ 100 บาท ตัดราคาชาวบ้านเขา คือว่า เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์มาแล้ว เราโทรคุยกับเจ้าของร้านแปลแห่งหนึ่ง แล้วเราบอกว่า รู้ไหมว่า พวกนักแปลที่รับแปลกันตามร้านแปลนะ "แปลผิดเพียบเลย เพราะอ่านภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ" เราเคยพูดแบบนี้เมื่อก่อน แต่เธอไม่ค่อยเชื่อ แต่คราวนี้เธอสนใจ แล้วตอบมาว่า "ลองส่งตัวอย่างเอกสารมาสิ" เราส่งข้อความในสัญญากฎหมายภาษาอังกฤษไปให้ เธอ แล้วบอกให้เธอ เอาไปทดสอบนักแปลที่มีอยู่ในสังกัด ให้ลองแปลเป็นไทย ดู ผลปรากฎว่า จากการทดสอบนักแปลที่จบจากเมืองนอก 2 ราย รายหนึ่ง แปลผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ อีกรายหนึ่ง เจ้าของร้านแปล บอกว่าเขาจบปริญญาโทกฎหมายจากเมืองนอก เขาแปลไม่ผิด แต่เขาแปล propositions ในภาษาอังกฤษ ตรงตัวเกินไป  (เนื่องจากนักแปลไม่ binlingual พอ คือไม่รู้ 2 ภาษาคู่ที่จะแปลมากพอ และขาดทักษะการแปลที่ดี) จนกลายเป็นภาษาไทยอ่านเข้าใจยากจนถึงกับอ่านเข้าใจผิดไปเลยหละ ...แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ เผอิญเราพลาดท่า ตอนส่งแฟกซ์เอกสารตัวแสบ 1 หน้านั้นไปนะ เราดันไปขีดเส้นใต้ประโยคที่ "มีหลุมพราง" ที่ทำให้มีโอกาสแปลผิด จังๆ เอาไว้ เขาก็เลย "เป็นนกรู้" แล้วแทนที่จะเปิดดิกอังกฤษเป็นไทยของดอกเตอร์วิทย์ เขาเลยฉลาดพอที่จะเปิดดิกอังกฤษเป็นอังกฤษ แล้วแปลมาถูก แต่เขาก็ยังโดน prepositions ในภาษาอังกฤษเล่นงานเสียอานเลยหละ ...แต่อนิจานักแปลอีกคนหนึ่ง ขนาดเห็นขีดเส้นใต้ ก็ยังดันเปิดดิกดอกเตอร์วิทย์ แล้วหาศัพท์ไม่เจอ เลยแปลผิดมาอย่างจังๆ เลยหละ....!!! เราเลยสัพยอกเจ้าของร้านแปลว่า "อยากดูของดี ก็ให้ลบรอยปากกาที่เราขีดเส้นใต้หลุมพรางที่จะแปลผิด ออกไป แล้วส่งแฟ็กซ์หรือ scan แล้วส่ง email ไปให้นักแปลในสังกัดของคุณลองแปลดูอีกหลายๆคนดิ ...แล้วจะได้เห็นของดีอีกเพียบเลยหละ." เธอหัวเราะ แล้วตอบมาว่า "ไม่เอาแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว..555+++...." สงสัยเธอคงจะไม่อยากเสียเงินแล้วต้องมาต๊กกาจายอีกหลายๆรอบน่ะสิ...555++... เอาไว้ ให้เราเคลียร์งานที่อยู่ในมือให้ดูก่อน แล้วเราจะเอามาแปะไว้ให้ดู กันเล่นๆ ว่าหลุมพรางที่ทำให้แปลผิด ในเอกสารชิ้นนั้น "มันแสบมากๆแค่ไหน" เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า งานแปล มันไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆ ไม่ใช่แค่มีดิกดอกเตอร์วิทย์คู่ชีพเล่มเดียว แล้วจะเปิดดิกแปลเรียงตัวไปได้แบบที่นักแปลหน้าใหม่หลายๆคนหลงคิด...เพราะยังไม่เคยเจอของแข็งยังไงล่ะ ...แล้วก็เพื่อสาธิตให้เห็นว่า ไอ้แปลหน้าละ 100 บาทน่ะ สมัยนี้มันไม่น่าจะมีแล้วนะ....นั่นมันเป็นค่าแปลสมัยพระเจ้าเหา...555+++... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 18:20:02 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 18:18:15 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 14:32:06 จากคุณ : agelesstansy - [ 17 ส.ค. 51 14:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หมายเหตุ อัตราที่เราพูดถึงโดยประมาณ ใน คคห 4 ข้างบนนี้ เป็นแค่อัตราค่าแปลอังกฤษ-ไทย และไทย-อังกฤษเท่านั้นนะ แต่ก็มีข้อแม้ว่า นั่นมันเป็นงานยากในระดับปานกลาง โดยทั่วๆไป แต่ว่าถ้ามันเป็นงานแปลสาขาเฉพาะทางที่ยากมากๆจริงๆ ค่าแปลต่อหน้า ก็อาจจะเป็นตัวเลข 4 หลักได้...เหมือนกันในกรณีของการแปลอังกฤษ-ไทย และไทย-อังกฤษนะ แล้วถ้าเป็นภาษาอื่น เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน จีน จะแพงกว่าภาษาอังกฤษประมาณ 2 เท่า แต่ถ้าเป็นญี่ปุ่นอาจแพงกว่าถึง 3 เท่า เนื่องจากเป็นภาษาที่แปลยากที่สุดในโลก และหานักแปลเก่งๆยากมากๆด้วยดิ... ที่พูดนี้ให้คำนึงถึงค่าแปลแบบร้านแปลรับหน้าร้าน กับที่นักแปลรับเองหรือรับต่อจากร้านแปลนะ โดยต้องคำนึงถึงว่า หากนักแปลรับงานแปลก๋วยเตี่ยวเรือ (งานแปลราคาถูกๆที่รับจากร้านแปล และโดนร้านแปลกินหัวคิว 50%) คือร้านแปลรับหน้าร้านหน้าละ 400 บาท แล้วกินหัวคิวนักแปลไปหน้าละ 200 บาท แล้วนักแปลเหลือได้หน้าละ 200 บาท  แล้วนักแปล(จำเป็นต้อง)แปลลวกๆไป แล้วลูกค้ายอมรับได้ แล้วนักแปลก็ยังมีงานทำทุกวันนะ นักแปลคนนั้นคงไม่โง่พอที่จะไปตัดราคาหน้าร้านของร้านแปล จากการที่ร้านแปลรับหน้าร้าน หน้าละ 400 บาท เหลือแค่หน้าละ 200 บาทเพื่อแย่งลูกค้าจากร้านแปล นั่นก็เพราะว่า ไม่รู้ว่าเขาจะแย่งลูกค้าไปทำไมกันในเมื่อร้านแปลก็มีงานแปลหน้าละ 200 บาท ให้เขาทำทุกๆวันอยู่แล้ว (มีหลายร้านแปลด้วยดิ) แล้วพอนักแปลแย่งมา แล้วนักแปลแถมยังต้องมาเพิ่มคุณภาพการแปลอีกจนคับแก้ว เนื่องจากเป็นลูกค้าโดยตรงของเขาอีกด้วย ซึ่งมัน "ไม่คุ้มทุน และเสี่ยงต่อการตกงานอีกต่างหาก" ดังนั้น นักแปลอิสระ ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ที่คิดจะรับงานแปลโดยตรงจากลูกค้า ที่ลูกค้าคาดหวังจะได้งานคุณภาพดีกว่างานแปลจากร้านแปล นักแปลอิสระคนนั้น ก็จะต้อง ต่อสู้กับร้านแปลด้วยการ upsale นั่นก็คือเสนอบริการแปลที่คุณภาพสูงกว่าร้านแปลมากๆ แล้วเสนอราคาให้สูงกว่าราคาที่ร้านแปลเสนอหน้าร้านนิดๆ   ยกตัวอย่างเช่น ถ้าร้านแปลเสนอ หน้าละ 400 บาท หรือ 300 บาท (อันนี้แย่มากๆ คือตัดราคากันเองระหว่างร้านแปลกับร้านแปลด้วยกัน จนนักแปลที่รับช่วงไปถึงกับเครียดเลยหละ เพราะต้องโดนกินหัวคิว 50%...) นักแปลอิสระ ที่เป็นบุคคลธรรมดา ก็จะต้องเสนอค่าแปลหน้าละ 500 บาท เป็นอย่างต่ำสุด ซึ่งเป็นการ upsale โดยให้เหตุผลว่า คุณจ้างร้านแปล หน้าละ 400 บาท หรือ 300 บาท คุณได้งานแปลคุณภาพหน้าละ 200 บาท หรือ 150 บาทไป (เพราะนักแปลที่โดนกินหัวคิวไปแล้ว ต้องแปลแบบก๋วยเตี๋ยวเรือมา) แต่ถ้าคุณจ้างนักแปลอิสระ หน้าละ 500 บาท เป็นอย่างต่ำสุด คุณก็จะได้งานแปลคุณภาพ ตามราคาที่จ่ายไปเต็มราคา เพราะนักแปลเกรงใจลูกค้า จึงไม่ทำก๋วยเตี๋ยวเรือมาให้ แต่ทำอาหารญี่ปุ่นดีๆระดับภัตตาคารหรือระดับโรงแรมหรูๆ มาให้ลูกค้านั่นเอง ทั้งนี้ โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่โดนนักแปล cowboy (คนที่แอบอ้างว่ามีความเชี่ยวชาญ แต่แท้จริงแล้วชุ่ยมากๆ) ลักไก่เอานะ อย่างที่เราเล่าให้ฟังแล้วว่า เราเห็นนักแปลคนไทยเป็นจำนวนมาก เขียน profile เสียหรูเลย บน www.proz.com ว่าจบปริญญาสูงๆจากต่างประเทศ เชี่ยวชาญการแปลภาษาอังกฤษ-ไทย และ ไทย-อังกฤษในสาขาที่ยากๆมากๆ แต่ภาษาอังกฤษที่พวกเขาเขียนนะมี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดทางด้านภาษาของคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) อยู่เพียบเลย...ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาลักไก่ ทั้งๆที่ไม่ bilingual (เก่งทั้ง 2 ภาษา) มากพอที่จะทำงานยากๆได้ อย่างที่เขาคุยโวเอาไว้เลยหละ...!!! ดังนั้น เราจึงเสนอวิธีการต่างๆในการทดสอบนักแปล ตามที่เราเขียนไว้แล้ว ใน คคห ต้นๆ หลายๆ คคห เพื่อให้ จขกท รู้ทางหนีทีไล่ ในการเลือกนักแปล อย่างถูกต้องตามความยากง่ายของงานของคุณ และตามงบที่คุณมีอยู่ นั่นเอง.... แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 13:16:28 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 18:48:53 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 18:43:42 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 18:24:35 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 18:10:25 จากคุณ : agelesstansy - [ 17 ส.ค. 51 17:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ที่ จขกท กล่าวว่า "เพราะมีงานที่ผ่านมา เราเคยจ้างคนนอกทำงานเขียนบทความให้ แต่ท้ายที่สุด เราไม่สามารถติดต่อเค้าได้ ทำให้งานบทความที่วางแผนไว้ซึ่งต้องดำเนินการตลอดทั้งปีต้องสะดุด เพราะต้องหาคนใหม่มารับงานต่อ แต่นี่ยังดีว่าเป็นภาษาอังกฤษ ก็เลยยังพอแก้ปัญหาได้ไม่ยาก" ตอบ เรามีทางออกให้คุณ ดังนี้นะ ถ้าเป็นโครงการระยะยาว เช่นยาวถึง 1 ปี แล้วไปจ่ายค่าแปลตอนแปลเสร็จหมด นักแปลกินแกลบ บริษัทแปลก็คงไม่เล่นด้วยเหมือนกันนั่นแหละ แต่ถ้าบริษัทคุณจ่ายราคายุติธรรม (ตามความยากง่ายของงาน) และจ้างบุคคลธรรมดา คุณก็อาจใช้วิธีการเหมือนๆกับการจัดจ้างงานก่อสร้างได้  (เราแปลสัญญาว่าจ้างงานก่อสร้างบ่อยๆก็เลยรู้) นั่นก็คือ "จ่ายเงินตามความก้าวหน้าของงาน คือจ่ายเงินเป็นงวดๆ ตามปริมาณงานที่จะต้องส่งมอบเป็นงวดๆ แต่หักเงินไว้ 10% จากเงินทุกงวดที่จ่าย โดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อนักแปลอิสระ ที่เป็นบุคคลธรรมดา ส่งมอบงานหมดแล้วครบถ้วน บริษัทคุณก็จะดูความเรียบร้อย จนเป็นที่พึงพอใจ แล้วก็จะคืนเงินที่หักไว้ครั้งละ 10% ให้นักแปลจนหมด ภายในระยะเวลาตามที่ตกลงกันไว้" ซึ่งวิธีการเช่นนี้ ก็จะป้องกันนักแปลละทิ้งงานได้ ถ้าบริษัทคุณจ่ายเงินค่าแปลในอัตราที่ดีกว่าปกตินักแปลก็คงยอม แต่ถ้าจ่ายค่าแปลต่ำมากๆอยู่แล้ว นักแปลก็คงไม่เล่นด้วย แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 19:39:13 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 18:37:51 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 51 18:35:48 จากคุณ : agelesstansy - [ 17 ส.ค. 51 18:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องการรับรองการแปล โดยผู้เชี่ยวชาญการแปลนะ ลองไปอ่าน คคห 3 ในกระทู้นี้ดูดิ สนุกมั่กๆเลยหละ ....555+++... http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6896045/K6896045.html จากคุณ : agelesstansy - [ 17 ส.ค. 51 22:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณคุณ Care มากค่ะ สำหรับคำแนะนำ ในส่วนที่บอกว่ามีศูนย์แปลคิดเหมารวมมานั้น พอดีดิฉันส่งตัวเว็บภาษาไทยให้เขาดูด้วยน่ะค่ะ แล้วเขาก็ตีราคาทั้ง 11 ภาษา พร้อมระยะเวลา 1 เดือน ในราคา 400,000 บาท ดิฉันเองก็ไม่รู้ว่าเค้าตีราคายังไง แต่เค้าบอกว่าต้องโอนเงินทั้งหมดก่อนจะเริ่มแปลน่ะค่ะ ที่ต้องมารบกวนทุกท่านในห้องนี้ ก็เพื่อสอบถามข้อมูลในแง่การตั้งงบประมาณน่ะค่ะ เพราะอย่างที่เรียนแต่ต้นแล้วว่า ไม่มีความรู้ในแวดวงการแปลเอกสารหรือเว็บไซต์เลย จากคุณ : ฤทธิรัตน์ - [ 18 ส.ค. 51 11:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พ่อโปรเจ็กต์ >> ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทางอีเมลนะคะ แอ๊ด ปากเกร็ด >> ขอบคุณที่แวะมาเจิมกระทู้ค่ะ เห็น login มานานแล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทักทายหรือพูดคุยเลย agelesstansy >> ขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับข้อมูลอัดแน่นในแวดวงการแปล หากใครมีคำแนะนำอื่นๆอีก เชิญเลยนะคะ แล้วจะแวะมาดูกระทู้บ่อยๆ ตอนนี้ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ^^ จากคุณ : ฤทธิรัตน์ - [ 18 ส.ค. 51 11:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีครับ คุณฤทธิรัตน์ กระทู้นี้ผมไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรเพราะว่าไม่รู้เรื่องกลไกของศูนย์แปลดีนัก แต่ดูปริมาณงานของคุณแล้วไม่ใช่งานเล็กและน่าจะโสหุ้ยสูงเพราะ 1.ปริมาณข้อมูลในเว็บต้นทางที่เป็นภาษาไทยก็คงมีไม่น้อยอยู่แล้ว 2.ปริมาณการถ่ายทอดเป็นภาษาปลายทางมีมากมายมหาศาลเพราะว่า เท่ากับงานแปล 11 งานพร้อมกัน และงานแปลแต่ละงานนั้นมูลค่าน่าจะไม่เท่ากันเพราะว่าภาษาบางภาษาหาคนแปลยาก ค่าแปลก็อาจจะสูงกว่าภาษาอื่น 3.การกำหนดความรับผิดชอบที่จะต้องตาม update งานแปลตามการ update ข้อมูลต้นทาง ซึ่งตรงนี้ผมว่าถ้าจะให้แฟร์ โสหุ้ยก็ต้องแปรตามระยะเวลาที่จะต้องติดตาม update ให้ ก็เหมือนกับสัญญาดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์น่ะแหละครับ สัญญารับประกันนานก็ราคาแพงขึ้น โสหุ้ยตรงนี้เป็นตัวที่ทำให้ราคารับเหมามันแพงกว่าแปลครั้งเดียวจบ คงได้ข้อมูลดีๆจากพ่อโปรเจ็กต์ไปแล้วในแง่ปฏิบัติ ผมก็ทำได้เพียงแต่ให้ข้อคิดในด้านหลักการเท่านั้น ขอให้โชคดีหาผู้แปลที่มีประสิทธิผลประสิทธิภาพและความรับผิดชอบได้ในราคาที่เหมาะสมนะครับ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 18 ส.ค. 51 11:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณฤทธิรัตน์ เราไม่สามารถบอกได้ว่า งานของคุณ ค่าแปล น่าจะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ จึงจะเป็นราคายุติธรรม เนื่องจากไม่เห็นเนื้องาน (ไม่เห็นต้นฉบับภาษาไทย) แต่ถ้าเห็นเนื้องาน เราจะคาดเดาได้ทันทีว่า ร้านแปลที่ไหน (ในย่านไหน) จะคิดค่าแปลภาษาไหนในอัตราไหน (เพราะค่าแปลแต่ละภาษา มันถูกแพงไม่เท่ากันนั่นเอง) แล้วอีกอย่างหนึ่งมันต้องมีการ update ข้อมูลดังที่คุณแอ๊ด อธิบายไว้แล้วใน #31 อีกด้วย จึงอาจต้องคำนวณค่าบริการในส่วนนี้นั่นเอง เราจึงอยากแนะนำว่า ตอนแรกอย่าเพิ่ง ambitious มากนัก เพราะจะปวดหัว เรื่อง 1. ต้นทุนสูง 2. ไม่รู้ว่าแปลออกมา แล้วภาษาปลายทางจะเพี้ยนหรือไม่ เพราะว่าการที่บริษัทแปล บริษัทเดียวจะหาคนไทยที่เก่งครบหมดทุกภาษา มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกน่ะ มันจะเสียเงินแล้วได้งานไม่ค่อยน่าจะไว้วางใจนัก เราแนะนำว่า คุณน่าจะแปลไทยป็นภาษาอังกฤษ แค่ภาษาเดียวก่อน แต่อาศัยหลักการที่ว่า ไม่เขียนภาษาอังกฤษให้ยากมากนัก คือทำเหมือนๆกับภาษาอังกฤษในหนังสือ หรือ magazines ภาษาอังกฤษที่แจกนักท่องเที่ยว ในโรงแรมนั่นแหละ เนื่องจากว่าทำภาษาอังกฤษ ให้มันง่ายเข้าไว้ ในตอนแรก นักท่องเที่ยวเกือบทุกชาติ ก็พอที่จะอ่านรู้เรื่องอยู่แล้ว ซึ่งก็ทำให้บรรลุเป้าหมายในเรื่องการประชาสัมพันธ์ ไปแล้ว เป็นอันดับแรก ...และตัดค่าโสหุ้ยลงต่ำ ในขณะเดียวกัน แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 14:15:13 จากคุณ : agelesstansy - [ 18 ส.ค. 51 14:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แต่เพื่อความมั่นใจนะ คุณควรไปจ้างพวกมืออาชีพด้านการท่องเที่ยว ให้ทำ จะดีกว่า นั่นก็คือลองเข้าไปในโรงแรม แล้วหา หนังสือ หรือmagazine ภาษาอังกฤษ ที่แจกนักท่องเที่ยวมาอ่าน แล้วเลือกเอาฉบับที่มี editors เป็นฝรั่งเจ้าของภาษา แล้วติดต่อจ้างเขาแปลไทยเป็นอังกฤษ รู้สึกหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นภาษาอังกฤษ ที่เขียนเรื่องท่องเที่ยวเก่งก็มี เช่นหนังสือพิมพ์ที่พัทยา หรือที่เชียงใหม่ หนังสือพวกนี้ อยู่ได้เพราะโฆษณา หรือกรณีที่เป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ก็ไม่น่าจะคิดค่าบริการโหดนักนะ เขาต้องมีทีมงานคนไทยที่แปลเป็นอังกฤษให้คุณได้ แล้วให้ฝรั่งเจ้าของภาษา edit (ตรวจแก้) คำแปลภาษาอังกฤษ ให้คุณ...เผลอๆมีฝรั่งที่อ่านภาษาไทยแตกฉาน แปลให้คุณได้สบายๆหายห่วงเลยหละ และคิดว่าเขาคงไม่คิดคุณแพงมากขนาด Bangkok Post หรือ The Nation หรือศูนย์การแปลจุฬานะ เพราะรายได้หลักเขามาจากการโฆษณา..และเนื่องจากว่าคนพวกนี้ต้องเขียนเรื่องการท่องเที่ยวเป็นอาชีพหลักอยู่แล้ว งานพวกนี้เลยกลายเป็นงานหมูๆของพวกเขา และคำแปลภาษาอังกฤษต้องออกมาสวยงามอย่างแน่นอน.... เมื่อคุณทำ web contents เป็นภาษาอังกฤษไปเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยๆ แปลเป็นภาษาอื่น ทีละภาษา โดยเพิ่มทีละภาษา ตามแต่ว่า จะมีความต้องการภาษาไหนมากน้อย ตามลำดับความสำคัญ จริงๆแล้ว ถ้าคุณดูหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่แจกนักท่องเที่ยว ในโรงแรมนะ เขามีภาษาสำคัญๆ แค่ไม่กี่ภาษาเอง ไม่ถึง 11 ภาษา หรอก เมื่อคุณมีต้นฉบับภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยมอยู่ในมือแล้ว และคนทั่วโลกก็รู้ภาษาอังกฤษ คุณก็มีทางหนีทีไล่มากขึ้น นั่นก็เพราะว่า คุณจะจ้างคนชาติไหน ให้แปลอังกฤษเป็นภาษาพ่อภาษาแม่ของเขา ผลงานก็จะออกมาดีเยี่ยมน่าไว้ใจได้ เพราะ 1. ต้นฉบับภาษาอังกฤษ คุณทำให้ง่ายเข้าไว้ อยู่แล้ว (การตีความต้นภาษาอังกฤษผิด เวลาแปลเป็นภาษาอื่น ก็จะไม่ค่อยมี) 2. แปลจากภาษาอังกฤษไปเป็นภาษาพ่อภาษาแม่ของนักแปล คำแปล มันก็ไม่เพี้ยนอยู่แล้ว เพราะหลักการสำคัญในการแปล ก็คือ แปลจากภาษาที่ 2 ไปเป็นภาษาพ่อภาษาแม่ มันง่ายกว่าแปลจากภาษาพ่อภาษาแม่ไปเป็นภาษาที่ 2 เนื่องจากว่า ถ้านักแปลไม่เขี้ยวลากดินจริงๆ จะมี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดของการใช้ภาษาแบบคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) อยู่เพียบเลยหละ...!!! บางทีอะนะ คุณอาจไปที่ www.proz.com แล้วไปแปะข้อความให้นักแปลแต่ละชาติมาประมูลงานของคุณ โดยแปลจากภาษาอังกฤษไปเป็นภาษาเขา ก็ยังได้เลย (ค่อยๆเพิ่มทีละภาษาตามกำลังเงินของคุณ) ที่เวป www.proz.com  เราเห็นนักแปลชาติอื่นๆที่เก่งมากๆ มาลงทะเบียนกันไว้เยอะ ในขณะที่เห็นนักแปลชาวไทยพวก cowboys (ไม่เก่งจริงแต่แอบอ้าง) เป็นจำนวนมากเลยหละ...เพราะคนไทยใจถึง ใจกล้ามากๆเลยหละ ถ้าคุณจ้างนักแปลชาติอื่น คุณน่าจะไว้ใจได้มากพอสมควร ...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้นฉบับภาษาอังกฤษของคุณมันง่ายอยู่แล้วยังไงล่ะ... เราเชื่อว่าวิธีการที่เราแนะนำไว้นี้นะ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ที่มึน head น้อยที่สุด ทั้งเรื่องคุณภาพงาน และเรื่องราคา แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 14:32:52 จากคุณ : agelesstansy - [ 18 ส.ค. 51 14:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หมายเหตุ มีกลยุทธ์อีกอย่างหนึ่งที่ จขกท จะใช้ได้ ในการจ้าง สำนักพิมพ์ magazine หรือผู้ผลิต หนังสือภาษาอังกฤษ ที่แจกนักท่องเที่ยว ให้แปลไทยเป็นอังกฤษให้ได้มาตรฐาน แล้วได้งานราคายุติธรรมได้นั้น ก็คือ  ต้องเจรจาต่อรองในแนวนี้ 1. บอกเขาว่า ไม่ต้องแปลตรงตัวก็ได้ แต่ให้ครอบคลุมเนื้อหาสาระ ตามที่คุณต้องการ ไว้เป็นเรื่องๆ (เพราะพวกเขาน่าจะเขียนเรื่องท่องเที่ยวได้ดีกว่าบริษัทคุณอยู่แล้ว เพราะมันเป็นอาชีพที่พวกเขาทำมานาน) 2. เน้นว่าให้เอาภาษาอังกฤษที่ใช้ศัพท์ง่ายๆ เพื่อให้คนหลายๆชาติอ่านเข้าใจได้ง่าย และเพื่อนำภาษาอังกฤษไปเป็นต้นฉบับที่ดี ในการแปลไปเป็นภาษาอื่นต่อไปในภายหลัง (เมื่อบริษัทคุณมีงบประมาณพร้อม) 3. เสนอว่า บนเวปของคุณ คุณจะยอมโฆษณาประกาศว่า ข้อความภาษาอังกฤษสวยๆ เขียนหรือแปลโดย สำนักพิมพ์ magazine หรือบริษัทผู้ผลิตหนังสือแจกนักท่องเที่ยว ของเขา (ถ้าเขามีเวป ก็ทำ link ไปเวปเขา)   และประกาศบนเวปคุณว่าสำนักพิมพ์ magazine หรือบริษัทผู้ผลิตหนังสือแจกนักท่องเที่ยว (ซึ่งเป็นผู้แปลหรือผู้เขียน web contents ของคุณ) รายนั้น รับบริการโฆษณาผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ ให้ บริษัท ห้างร้าน ต่างๆ อีกด้วย ซึ่งก็จะเป็นการทำตัวคุณกับพวกเขา "ให้เป็น partners กัน" ถ้าต่อรองกันแบบนี้ เราว่า ถ้าพวกเขา เห็นศักยภาพของเวปคุณ (โดยดูจากเนื้อหาของเวปคุณ) ก็อาจมี barter system เกิดขึ้น หรือกลายเป็น partners กันได้ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนให้กับบริษัทของ จขกท และบริษัทของ จขกท ก็จะ "กลายเป็นได้ที่ปรึกษาซึ่งเก่งมากๆ ในเรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว...!!" แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 18:46:10 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 18:42:16 จากคุณ : agelesstansy - [ 18 ส.ค. 51 18:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 35 การแปลไทยเป็นอังกฤษถ้าเป็นงานก๋วยเตี๋ยวเรือ (งานแปลราคาถูกๆที่ต้องเร่งๆมากๆเนื่องจากนักแปลโดนกินหัวคิวไปแล้ว 50%) บางทีถ้านักแปลไม่มีประสบการณ์ แล้วยิ่งไม่มีเวลาอ่านต้นฉบับดีๆ พอแปลเสร็จแล้ว กลายเป็นอ่านไม่รู้เรื่องก็มี  เนื่องจากนิสัยคนไทย เวลาเขียนจะเขียน “โกหก” แล้วนักแปลต้องคอยตามแก้ให้  ยกตัวอย่างเช่นประโยคนี้ (เราเอาข้อความงานที่กำลังแปลมา ชำแหละประโยคให้ดู แต่เปลี่ยนตัวเลข เปลี่ยนวันที่ และเปลี่ยนจำนวนเงิน เพื่อรักษาความลับของลูกค้า) “โจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันตามเอกสารหมาย จ.20 แผ่นที่ 2 ข้อ 1 ว่าแบบที่อนุมัติการก่อสร้างหลังจากวันที่ 30 มีนาคม 2543 ถือเป็นงานเพิ่ม นอกเหนือจากวงเงิน 100,000,000 บาทตามสัญญา" ให้สังเกตดูดีๆ ว่าภาษาไทยมัน “ตรรกะชำรุด”  เพราะเขาเขียนว่า  “แบบ” = “งานเพิ่ม” แต่จริงๆแล้วมันผิดหลักเหตุผล  “งานก่อสร้าง” ต่างหากล่ะ  ที่เป็นงานเพิ่ม ....555+++... เห็นหรือยังว่า การต้องการงานราคาถูกๆ แล้วแปลไวๆ ถ้ามีประโยคนี้อยู่หลายๆแห่งในเอกสาร นักแปลจะช่วยแก้ให้ลูกค้าไม่ทัน แล้วมันก็จะเป็นผลเสียแก่ลูกค้าด้วย ...และเราตกใจมากที่ลุกค้ารายนี้ ใช้บริการก๋วยเตี๋ยวเรือ เนื่องจากว่า มูลค่าที่ฟ้องร้องกันนั้น ถึงเราจะแก้ไขตัวเลขแล้วเพื่อไม่เป็นการนำข้อมูลลูกค้ามาเปิดเผย แต่ตัวเลขจริง มันก็ใกล้เคียงที่แปะไว้ ....ซึ่งลูกค้าจะรู้หรือไม่ว่า “เสี่ยงมากๆเลยที่จะจ้างนักแปล ให้แปลงานถูกๆ แล้วเร่งน่ะ” ลองแกล้งแปลจากซ้ายไปขวา เหมือนนักแปลหน้าละ 100 บาทสิ ที่กำลังตกงานสิ.... “โจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันตามเอกสารหมาย จ.20 แผ่นที่ 2 ข้อ 1 ว่าแบบที่อนุมัติการก่อสร้างหลังจากวันที่ 30 มีนาคม 2543 ถือเป็นงานเพิ่ม นอกเหนือจากวงเงิน 100,000,000 บาทตามสัญญา" "The Plaintiff and the Defendant have entered into an agreement, stating that the approved drawings for construction after March 30, 2000 shall be regarded as additional works on top of the sum of 100,000,000 under the Contact, the details of which appear in Clause 1, Sheet 1,  Exhibit Jor.20." ให้สังเกตดูดีๆ ว่าคำแปล ภาษาอังกฤษ ดูเหมือนจะแปลตรงตัวตามภาษาอังกฤษ แต่ต้องรีบๆ พิมพ์จากซ้ายไปขวา เพราะได้ค่าแปลแค่ 100 บาท มัวแต่คิด นักแปลจะกินแกลบ เพราะกำลังตกงานอยู่ด้วย  แต่จริงๆแล้วมันเป็นการแปลผิด และประโยคภาษาอังกฤษก็เพี้ยนอีกด้วย ที่เพี้ยนอีกแห่งก็คือ additional works on top of the sum of 100,000,000 baht มันผิดตรรกะ เพราะ additional works มันจะไปอยู่ on top of the sum of 100,000,000 baht  มันเป็นไปไม่ได้ .....!!!! มันเพี้ยนทั้งตรรกะ และเพี้ยนทั้ง grammar !!! และที่ต้องแปลแบบนี้ ก็เพราะว่า นักแปล แปลจากซ้ายไปขวาไวๆเพื่อที่จะรับทรัพย์หน้าละ 100 บาท โดยรู้เท่าไม่ถึงการ เพราะคิดว่าง่าย ยังไงล่ะ และลูกค้าก็ซวยไป เพราะคิดว่า 100 บาท เป็นราคาที่ถูกดี ประหยัดดี เนื่องจากลูกค้า ไม่รู้อันตรายของการแปลงานราคาถูกๆ แล้วแปลไวๆ เหมือนทำก๋วยเตี๋ยวเรือ นั่นเอง ....!!! แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 12:38:30 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 23:37:58 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 23:25:55 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 22:55:38 จากคุณ : agelesstansy - [ 18 ส.ค. 51 22:45:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แต่ถ้านักแปลได้เงินมากกว่านั้นสักหน่อยนะ เขาก็จะเรียบเรียงประโยคได้ ถึงจะไม่สวยหรูมากนัก หรือเผลอๆถึงจะผิด grammar นิดๆ แต่ไม่น่าเกลียดนักนะ แต่ก็พอจะสื่อความ ได้อย่างถูกต้อง และไม่เป็นปัญหาในการฟ้องร้องกันเงินมากมายขนาดนั้น ก็ลองแปลใหม่ดู ก่อนอื่นเราต้องแปลไทยเป็นไทยก่อน (คือแก้ไขภาษาไทยที่ “ตรรกะชำรุด” ให้ทนายก่อน) “โจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันตามเอกสารหมาย จ.20 แผ่นที่ 2 ข้อ 1 ว่าแบบที่อนุมัติการก่อสร้างหลังจากวันที่ 30 มีนาคม 2543 ถือเป็นงานเพิ่ม นอกเหนือจากวงเงิน 100,000,000 บาทตามสัญญา" แก้เป็น “โจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันตามเอกสารหมาย จ.20 แผ่นที่ 2 ข้อ 1 ว่างานก่อสร้างที่ต้องทำตามแบบก่อสร้างซึ่งอนุมัติหลังจากวันที่ 30 มีนาคม 2543 ให้ถือเป็นงานเพิ่ม นอกเหนือจากวงเงิน 100,000,000 บาทตามสัญญา We (ไม่ใช้ the Plaintiff แต่ใช้บุรุษที่ 1 แทน เพราะโจทก์ เป็นคนเขียนคำฟ้อง และใช้ we เพราะมันเป็นบริษัท) and the Defendant have entered into an agreement, stating that the constructions done according to the as-built drawings approved after March 30, 2000 shall be regarded as additional works not covered by the contract price of 100,000,000 baht, the details of which appear in Clause 1, Sheet 2, Exhibit Jor. 20.   ให้สังเกตดูว่า คำแปลใหม่นี้ ถึงแม้จะปั่นๆมา แบบไม่ค่อยจะสวยนัก แต่นักแปล ก็ได้ แก้ไขสิ่งที่ลูกค้า “เขียนโกหก(โดยไม่รู้ตัว)” เมื่อลูกค้าพยายามพูดว่า “แบบ” = “งานเพิ่ม” ซึ่งจริงๆแล้ว ตามความคิด ของคนที่ระบบตรรกะยังไม่ชำรุดนั้น  เขาจะต้องตระหนักได้เองว่า สิ่งที่เป็น “งานเพิ่ม” นั้น จะต้องเป็น “งานก่อสร้าง” อย่างแน่นอน แล้วอาจจะ “บวกงานออกแบบเข้าไปอีกด้วย ....?”  ซึ่งนักแปล ก็จะต้องค้นหาความจริง ว่า “ใครกันแน่ที่ต้องรับเหมางานออกแบบไป” ซึ่งถ้าในเนื้อเรื่องมันไม่มีบริบทให้ตีความนะ นักแปล ก็จะต้องเดาไป เนื่องจากนักแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ(งานแปลราคาถูกๆที่นักแปลโดนบริษัทแปลกินหัวคิว 50%)  ไม่มีทางได้พูดกับลูกค้า เพราะร้านแปลกลัวนักแปลแย่งลูกค้า  ดังนั้น นักแปลที่รับงานโดยตรงจะแปลได้ถูกต้องมากกว่าเนื่องจากว่าจะมีโอกาสถามลูกค้าได้ แต่แท้จริงแล้ว ในเรื่องนี้ ถ้าอ่านตอนต้นๆ จะเห็นว่า จำเลยจ้างผู้อื่น (ที่ไม่ใช่โจทก์) ทำงานออกแบบ ดังนั้น "แบบ" ในที่นี้ ต้องไม่ใช่ "งานเพิ่ม" ที่โจทก์ต้องทำอย่าง อย่างแน่นอน ดังนั้น จึงเข้าข่ายว่า ในที่นี้ ทนายความ "ตรรกะชำรุด" ทำให้นักแปลที่รีบๆแปล อาจพลาดท่าแปลผิดก็ได้ ถ้าไม่ระวัง" แล้วที่แก้มาให้อีกส่วนหนึ่งก็คือ แทนที่จะแปล “นอกเหนือ” เป็น “on top of” ซึ่งมันแปลแบบ “โดนภาษาไทยหลอก” (จริงๆแล้ว แกล้งแปลผิดมาให้ดู เพื่อสาธิตว่า ถ้านักแปลรับค่าแปลต่ำๆ แล้วต้องรีบแปล หรือนักแปลไม่ชำนาญจริงๆ จะโดนภาษาไทยหลอกเอาได้)  จนคำแปลภาษาอังกฤษ มันเป็นขยะไปนะ... เราจะเปลี่ยนเป็น additional works not covered by the contract price of 100,000,000 baht ซึ่งจะอ่านดูเหมือนภาษาคนมากกว่า ....... แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 12:37:17 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 23:28:20 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 23:13:32 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 23:06:30 จากคุณ : agelesstansy - [ 18 ส.ค. 51 23:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอ่อนี่เราอยากให้เจ้าของกระทู้นี้คือ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6830391/K6830391.html ที่จะจ้างนักแปล ให้แปลนิยายไทย เป็นอังกฤษ เพื่อนำไปขายในตลาดต่างประเทศ เข้ามาอ่านดูการแปลผิดแบบโดนภาษาไทยหลอกเอา แบบที่เราสาธิตให้ดูใน คคห 35 และการแปลใหม่ ใน คคห 36 ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์สูงมากๆว่า จะเกิดขึ้นกับงานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือทั่วๆไป และค่าแปล นิยายไทยเป็นอังกฤษระดับจะนำไปขายในต่างแดน ถ้าจ่ายแค่ 50,000 บาท ก็ต้องถือว่า “เป็นงานก๋วยเตี๋ยวเรือ” เหมือนกัน แล้วก็จะดึงดูดนักแปล หน้าละ 100 บาท ให้มาสมัครงานกันบานเบอะเลยหละ .... แล้วตอนนี้นะ ก็มีนักแปลคนหนึ่ง ที่แปลงานหนังสือมีแค่ 100 กว่าหน้า (แปลอังกฤษเป็นไทย) ให้เพื่อนเรานะ แบ่งๆงานกันทำ เพราะเห็นนักแปลคนนั้นคุยโวว่าเคยเรียนเมืองนอกมา แล้วแปลเก่ง แต่สำนักพิมพ์ไม่ยอมส่งงานให้ เลยไม่มีงานทำ เพื่อนเราก้อเลยแบ่งงานให้ทำ แต่พอแปลมานะ โหแปลผิด 200 หรือ 300 ร้อยกว่าแห่งเนี่ย จนเพื่อนเราแก้ไข เสียร้องไห้สะอึกสะอื้น ขี้มูกโป่งไปเป็นเดือนๆเลยหละ แล้วนักแปลคนที่แปลผิดเพียบ (เพราะอ่านภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง) คนนั้นนะ ก้อไปสมัครงานแปลนิยายไทยเป็นภาษาอังกฤษเพื่อเอาไปขายในต่างแดนเรียบร้อยแล้ว  ตามกระทู้นี้ คือ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6830391/K6830391.html โหเราอยากดูคำแปลของเธอเหลือเกินว่ะ...แปลเสร็จแล้วก่อนส่งไปขายเมืองนอก เอามาแปะให้ดูก่อนนะ.... ในกรณีนี้ ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า If you pay peanuts you will only attract monkeys. ถ้าจ่ายเงินจิ๊บจ๊อย ก็จะดึงดูดแต่พวกลิงพวกค่าง แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 23:23:25 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 23:20:18 จากคุณ : agelesstansy - [ 18 ส.ค. 51 23:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จขกท หายไปเลยแฮะ...เราคาดว่าคงโดน salesman แถวๆนี้อุ้มตัวไปเสียแล้ว ...555+++... จากคุณ : agelesstansy - [ 19 ส.ค. 51 22:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขออภัยค่า พอดีติดภารกิจ ก็เลยไม่ได้แวะมาดูกระทู้ ยังไม่โดน salesman ที่ไหนอุ้มไปค่ะ คุณ agelesstansy มิกล้าจะให้ใครอุ้มไปค่ะ เพราะผิดกฏพันทิป และการมาตั้งกระทู้ก็มิได้มาถามเพื่อหา บ.แปลในนี้ หลังจากได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ พร้อมคำแนะนำจากหลายท่านในนี้ ตอนนี้ได้แนวทางในการหา บ.แปลแล้วค่ะ แต่อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อให้ บ.แปลประเมิน ซึ่งระหว่างนี้อาจต้องใช้เวลา เนื่องจากเว็บไซต์ต้นฉบับมีข้อมูลเยอะมากกก อย่างไรก็ดีหากโครงการนี้มีความคืบหน้ายังไง จะแวะเวียนเข้ามาแจ้งความคืบหน้่านะคะ เพราะคิดว่าคงมีเรื่องรบกวนกูรูในห้องนี้แน่ๆค่ะ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะ ที่กรุณามาให้ความรู้ จากคุณ : ฤทธิรัตน์ - [ 21 ส.ค. 51 22:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ฉะนั้นจะขอปิดกระทู้ในส่วนข้อสงสัยของดิฉันนะคะ แต่ถ้าหากใครต้องการคุยเรื่องนี้ต่อ ก็ยินดีค่ะ แต่ขอแจ้งล่วงหน้าก่อนว่าอาจไม่ได้แวะมาดูทุกวัน ่จะพยายามแวะมาเข้ามาดูเป็นระยะ ขอบพระคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ ^^ จากคุณ : ฤทธิรัตน์ - [ 21 ส.ค. 51 22:43:53 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คำฟ้องที่เราต้องแปล ที่ทนายโจกท์เขียนมา แล้วเขียนเรื่องโกหก ทั้งเรื่อง บางทีโกหกโดยไม่ตั้งใจ เพราะตัวทนายเอง "ระบบตรรกะชำรุด" เพราะเขาคิดอย่างหนึ่ง แต่ดันไปเขียนอีกอย่างหนึ่ง โชคดีเป็นของโจทก์ ที่เราเป็นแค่นักแปล เราไม่ใช่ทนายฝ่ายจำเลย เพราะถ้าเราเป็นทนายฝ่ายจำเลย เราจะเล่นงานโจทก์กลางศาล โดยการให้การต่อศาลว่า "คำฟ้องของโจทก์ ตีความได้ว่า  “แบบ” = “งานเพิ่ม” แต่คำฟ้องตอนแรกของโจกท์ ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า "โจทก์ได้ว่าจ้างผู้รับเหมารายอื่น (ซึ่งไม่ใช่จำเลย) ให้ทำงานออกแบบ" ดังนั้น จึงถือว่า โจทก์ "พูดโกหก" หรืออย่างน้อยๆก็ "พูดจาเลอะเลือน ขัดกันเอง" และก็ควรสันนิษฐานได้ว่า คำฟ้องส่วนที่เหลือของโจทก์ ก็จะเป็นการ "พูดโกหก" หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ "ไม่น่าเชื่อถือ" อีกด้วยเช่นกัน" งานชิ้นนี้ ลูกค้าไม่ตระหนักว่า เราต้องแก้ภาษาไทยในเอกสาร ให้ถูกต้อง มากมายหลายแห่ง ก่อนที่จะแปลเป็นอังกฤษได้ แต่ลูกค้าไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร ก็เลยโทรไปเร่งบริษัทแปล ทุกๆวัน บริษัทแปลก็โทรไปเร่งนักแปล วันละ 4-5 รอบ โดยไม่ยอมให้ลูกค้ากับนักแปลคุยกันว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น เนื่องจากบริษัทแปลกลัวลูกค้าไปแปลกับนักแปลโดยตรงโดยไม่ผ่านบริษัทแปล ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงบานปลายถึงขั้น ที่ ถ้านักแปลอยากได้เงิน ก็ต้องรีบๆแปล แล้วแปลผิด  (เพราะนักแปลไม่มีเวลาแก้ภาษาไทยให้ลูกค้า) ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้แก่ลูกค้า หรือไม่นักแปลก็ต้องคืนงานไป(คือเลิกแปลงานชิ้นนี้เพราะจะได้เลิกเครียด) หรือนักแปลอาจทำใจเย็นๆ แปลไปเรื่อยๆ แบบทองไม่รู้ร้อน (เพราะรำคาญโดนเร่งยิกๆ วันละ 4-5 รอบ) จนกว่าลูกค้าจะยกเลิก (บอกว่าไม่ต้องแปลแล้ว) ซึ่งหากความเป็นไปได้ เป็น 1 ใน 2 กรณีหลังนี้ ก็จะส่งผลร้ายต่อบริษัทแปล ไม่ว่าจะลงเอยแบบไหน ก็ตาม... จากคุณ : agelesstansy - [ 24 ส.ค. 51 13:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 42 หมายเหตุ ในการแปลไทยเป็นอังกฤษ นักแปลที่ชำนาญมักจะต้องคอยแก้ไขภาษาไทยให้ลูกค้าอยู่เสมอ เนื่องจาก "ภาษาไทยเป็นภาษาที่มหัศจรรย์มากๆ"   และ "ความมหัศจรรย์ของภาษาไทยทำให้คนไทยส่วนใหญ่พูดโกหกโดยไม่รู้ตัว  คือตั้งใจอย่างหนึ่ง แต่พูดหรือเขียนออกมาอีกอย่างหนึ่ง" ทำให้เวลาแปลเป็นอังกฤษ แล้วมันออกมาเป็นขยะเกือบหมด ยกตัวเช่นเมื่อวานนี้ เรานั่งกินอาหารในร้านญี่ปุ่นอยู่กับเพื่อน เพื่อนเราดูเมนู แล้วมองหา "กุ้งธรรมชาติ" ปรากฏว่า มันไม่มีเสียแล้ว (พอถามพนักงานเสิร์ฟ พนักงานบอกว่า "ไม่มีแล้ว")  พวกเราก็เลยสั่งปลานึ่ง กับอาหารอย่างอื่นมา แล้วเพื่อนเราบอกว่า "มันไม่อร่อย" พอกินเสร็จ เพื่อนเราก็พูดว่า "เมนูร้านนี้ไม่อร่อยเหมือนแต่ก่อนแล้ว" เราตอบว่า "เมนูร้านนี้ไม่เคยอร่อย" เพื่อนเรา "...???" เราอธิบายว่า "พวกเราไม่เคยเข้ามา "กินเมนู" ในร้านนี้ แต่เข้ามา "กินอาหาร...555+++..." นั่นก็หมายความว่า ในการแปลไทยเป็นอังกฤษนั้น นักแปลที่ชำนาญ ถ้าไปเจอเอกสารแบบนี้เข้า บางทีกลายเป็นแปลช้ากว่านักแปลเที่ยังไม่ชำนาญ นั่นก็เพราะว่า "นักแปลที่ชำนาญ จะรู้ว่าภาษาไทยมันหลอกนักแปลตรงไหน  และเขาจะคอยแก้ภาษาไทยที่ลูกค้าเขียนผิดตรรกะ ให้ลูกค้า เพื่อประโยชน์แก่ลูกค้า นั่นเอง ในขณะที่นักแปลซึ่งขาดประสบการณ์จะแปลมันตรงๆตัว (โดยไม่คิด) แล้วก็จะแปลเร็ว จึงคิดค่าแปลถูกๆมาก แล้วก็ลงเอย "แปลผิด"...หรือแปลแล้ว "ออกมาเป็นขยะ"  นั่นเอง" แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 13:58:48 จากคุณ : agelesstansy - [ 24 ส.ค. 51 13:54:26 ]