Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    (อาชาลาสายัณห์)..............เรื่องย่อ ทวนทะลวงศึก ลายแทงฟ้าเหลือง เรื่องที่ 5..........................ขอรับ

    ทวนทะลวงศึก

    อาตี๋ “อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดในแผ่นดินคืออะไร?  ใช่มีดบินของลี้น้อย (เซี่ยวลี้ปวยตอ) ของลี้คิมฮวงหรือไม่?”
    อากู๋ “ไอ้กระแดะ...วันนี้เล่นใช้คำถามของเรื่อง ‘ไม่มีน้ำตาวีรบุรุษ’ ของโกวเล้งมาถามข้าเชียวรึ?  ได้!!  คำตอบคือ  ก่อนนี้อาจบางทีใช่  แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”
    อาตี๋ “จะหยอกเย้านิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่ได้  แค่นี้ก็มาด่ากันด้วย  อย่างนั้นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดในแผ่นดินคืออะไร?”
    อากู๋ “ทะเลทองคำหมื่นโบ่ว (บ้วนโบ่วจือกิมไฮ้)“
    อาตี๋ “ว่ากระไร!?  อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดไม่ใช่หีบใบหนึ่งรึ?”
    อากู๋ “ถูกแล้ว คนผู้หนึ่ง  หีบใบหนึ่ง….เฮ้ยไม่ใช่…..ทะเลทองคำหมื่นโบ่ว  ในเรื่องวาตะเมฆา ตอนท้าเทวะ  จึงเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุด  เพราะถ้าเจ้ามีทองคำอยู่หนึ่งหมื่นโบ่ว  (ไร่ของจีน)  เจ้าสามารถจะทำอะไรก็ได้  แม้แต่เรียกให้คนมาตายแทนเจ้านับพันนับหมื่นคนก็ยังได้”
    อาตี๋ “นับว่าร้ายกาจจริง ๆ”
    อากู๋ “แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าอาวุธที่มีอานุภาพกว้างไกลที่สุดในแผ่นดินคืออะไร?”
    อาตี๋ “เอ…คำถามน่าคิดแฮะ…..ตี๋น้อยขอตอบว่า  ขีปนาวุธยิงข้ามทวีป ขอรับ”
    อากู๋ “มารดาเจ้าสิ  หน็อยแน่  เรากำลังพูดถึงนิยายกำลังภายในดันทะลึ่งเอาเรื่องจริงมาพูด”
    อาตี๋ “มารดาของตี๋น้อยก็เป็นน้องสาวของอากู๋แหละน่า….ล้อเล่นหน่อยก็ทำเป็นโกรธไปได้  ระวังหัวล้านน่า  ตอนนี้ก็กินเข้าไปหลายแสนแล้วนะอากู๋“
    อากู๋ “เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าลามปามผู้ใหญ่  ตกลงเจ้าจะตอบหรือไม่ตอบ”
    อาตี๋ “ตี๋น้อยผิดไปแล้ว  ตี๋น้อยขอตอบว่า  อาวุธที่มีอานุภาพกว้างไกลที่สุดคือ  เกาทัณฑ์รันทด (เซียซิมซิ้งจี่) ของง้วนจับซาหัง  ที่สามารถยิงสังหารผู้คนโดยทะลุทะลวงดิน  โบยบินข้ามภูเขา  ใช่หรือไม่ขอรับ”
    อากู๋ “ถูกต้อง  แสดงว่าเจ้าอ่านเรื่อง ’ทวนทะลวงศึก’ จบแล้ว  เจ้ามีคำวิจารณ์สำหรับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง”
    อาตี๋ “ตี๋น้อยรู้สึกว่าอุนเลี้ยงเง็กแต่งชุดศัสตราวุธ  เพื่อ ‘ย้อนกระแส’ ของตัวเอง”
    อากู๋ “ย้อนกระแสเยี่ยงไร?”
    อาตี๋ “ในดาบเสียดฟ้าอุนเลี้ยงเง็กเขียนตามขนบธรรมเนียมเดิมคือ ค่อย ๆ เปิดตัวละครทีละคนสองคน  พอมากระบี่เลือดเดือด  กลับเปิดตัวละครมามากมาย  ไม่ว่าจะเป็น แปดโลกบาลดาบใหญ่  ชาวหมู่คณะสร้างฝัน  และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องก็กระชั้นสั้นเพียงแค่หนึ่งวัน  แต่พอมาถึงทวนทะลวงศึก กลับย้อนทวนตัวเองโดยหันไปเขียนเป็นภาค ๆ คล้ายนักสู้คะนองศึก กับ กระบี่ท่องยุทธจักร  ซ้ำยังเต็มไปด้วยปรัชญาชีวิตที่ลึกซึ้ง  พร้อมกับทำการค้นหาความหมายของชีวิตได้อย่างแยบคาย…เออ…พูดถึงนักสู้คะนองศึก  ตี๋น้อยได้ข่าวมาว่าเรื่องนี้แปลออกมาไม่ครบจริงเปล่าอากู๋”
    อากู๋ “อย่าว่าแต่นักสู้คะนองศึกเลย  ชุดพยากรณ์ประกาศิตก็ไม่ครบ  อย่าดูอื่นไกลเลยเพียงแค่ชุดศัสตราวุธนี้ยังแปลไม่ครบเลย  ส่วนจะเป็นเพราะเหตุใดเจ้าคงจะต้องไปถามไถ่ผู้แปลเอาเองแล้วกัน  ว่าแต่เจ้ามีข้อสังเกตเพียงนี้เท่านั้น”
    อาตี๋ “ย่อมไม่เพียงนี้เท่านั้น  ตี๋น้อยคิดไม่ถึงว่า  ในเรื่องทวนทะลวงศึกจะได้รับทราบถึงเรื่องราวของสามในสี่ยอดฝีมือของสำนักสุขนิยม  อันประกอบไปด้วยผู้สันโดษภูษิตฟ้า โค้วเชี่ยอิด  จูกัวะซิงแซ  และง้วนจับซาหัง  ที่ผูกพันบุญคุณความแค้นยากสะสาง  โดยเฉพาะการชิงรักหักสวาทซึ่งนับว่าน้ำเน่ายิ่งนัก  ไม่ว่าจะเป็นรักสามเส้าของ จูกัวะซิงแซกับง้วนจับซาหัง  ที่หลงรักหญิงคนเดียวกันคือ ตี่เซี่ยวเกีย  จนสุดท้ายผู้สันโดษภูษิตฟ้าไม่อาจเห็นทั้งคู่ขัดแย้งกันจึงเสนอตัวเขามาเป็นคนรักของตี่เซี่ยวเกียเอง เพื่อมิให้ศิษย์น้องทั้งสองทะเลาะกัน แต่กลับทำให้ นางเซียนเข็มวิเศษ (ซิ้งจ้ำเซียนซือ)  หรือฉายาเดิมคือ  สตรีทอผ้า (จิกนึ่ง) ภรรยาของผู้สันโดษภูษิตฟ้าเข้าใจผิดจึงจากไปพร้อมกับทารกในครรภ์ซึ่งก็คือ ภูษิตฟ้ามีตะเข็บ (เทียนอีอู่พ้ง) โค้วเทียนอี ที่ถูกที่เจ็ดแห่งแผ่นดินสังหารในตอนกระบี่เลือดเดือดนั่นเอง”
    อากู๋ “คนที่ชาญฉลาดจะรู้จักประพฤติตน  สะสางเรื่องราว  คนที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริงจะทราบว่า  ตนเองไม่ควรจะสอดมือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบางประการของผู้อื่น  อาทิ  เรื่องภายในครอบครัว  แนวทางปณิธาน  เรื่องราวของความรัก  แต่คนที่ชาญฉลาดอย่างผู้สันโดษภูษิตฟ้ากลับมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่สมควรยุ่งเกี่ยว  นับว่าผิดพลาดจริง ๆ”
    อาตี๋ “ในเรื่องทวนทะลวงศึกนี้  ยังทำให้ตี๋น้อยได้ล่วงรู้คำตอบที่ตี๋น้อยอยากรู้มานาน”
    อากู๋ “เจ้าอยากรู้เรื่องอันใด?”
    อาตี๋ “ก็ชื่อจริงของจูกัวะซิงแซน่ะสิ  ที่แท้จูกัวะซิงแซมีชื่อจริงว่า เจี่ยอั้ว (คือเรา)  แต่เจ้าตัวกลับไม่ชอบจึงขนานนามตัวเองใหม่ว่า เซี่ยวฮวย (บุปผาน้อย)  น่ารักดีนะขอรับ”
    อากู๋ “แล้วเจ้ายังมีข้อสังเกตอื่นใดอีกหรือไม่?”
    อาตี๋ “ตี๋น้อยไม่ทราบว่าเป็นข้อสังเกตหรือข้อสงสัย  ว่าทำไมอุนเลี้ยงเง็กจึงชมชอบฆ่าตัวละครของตนเองอย่างสนุกสนานเช่นนี้  เล่นฆ่ากันตั้งแต่ผู้บัญชาการทหารรักษาเมืองหลวง โป่วจงจือ  แล้วไหนจะสตรีทอผ้ากับผู้สันโดษภูษิตฟ้า  แล้วยังมังกรเขียวหกบรรจบศิษย์ของง้วนจับซาหังที่มีฝีมือสูสีกับสี่ยอดมือปราบก็ถูกกำจัดทิ้งเสียห้าคน….โอ้…ตัวละครเด่น ๆ ตายเป็นเบือเลยเรื่องนี้”
    อากู๋ “อุนสุยอันคงนึกมันมือแบบนักสู้คะนองศึกกระมัง  ที่เปิดตัวละครมาไม่ทันไรก็ฆ่าทิ้งซะจนกิมย้งต้องมาปรามว่าฆ่าตัวละครเยอะเกินไปจึงเพลามือลงมาบ้าง  ซึ่งถือว่าชุดศัสตราวุธนี้ อุนสุยอันยั้งมือไว้ไมตรีบ้างแล้ว  มิเช่นนั้นแต่งแบบนักสู้คะนองศึกคงสนุกไม่น้อยแน่”
    อาตี๋ “ขืนเป็นเช่นนั้น  ตี๋น้อยคนนึงล่ะที่จะไม่อ่าน  ว่าแต่อากู๋เถอะ  มีคำวิจารณ์สำหรับเรื่องนี้เช่นไรขอรับ”
    อากู๋ “ถ้าเจ้าสังเกตคำตามของอุนสุยอันให้ดีๆ  ที่เขียนว่าเรื่องนี้ประกอบไปด้วย หกภาค สิบหกบท เก้าสิบสองตอน  แต่เมื่อแปลเป็นไทยกลับมีเพียงหกภาค  แล้วสิบหกบท เก้าสิบสองตอนหายไปไหน?”
    อาตี๋ “เยี่ยม!!..อากู๋…ยังไงก็ยังเป็นอากู๋ที่ไร้เทียมทานจริง ๆ ช่างเป็นข้อสังเกตที่ร้ายกาจยิ่งนัก ตี๋น้อยไม่อาจทัดเทียบเปรียบได้จริง ๆ”

    จากคุณ : บุ้นแจกวง - [ 30 ส.ค. 51 00:46:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom