ความคิดเห็นที่ 1 จายเยน เยน มาให้กำลังใจ...อ้ะ คือว่าอะนะ ตอนเราจบ ม. ต้น จากเมืองไทย แล้วไปอยู่ประเทศอังกฤษ ได้ใหม่ๆ ในช่วง 2 ปีแรก เวลาเราฟังฝรั่งพูด เรายังต้องขอให้เขาพูดช้าๆเลย ม่ายงั้นเราฟังไม่ทันน่ะ...!!! กว่าเราจะฟังฝรั่งพูดเร็วๆได้ก็ปากเข้าไปปีที่ 3 กว่าๆแล้ว แต่ฟังได้แค่ received pronunciation (คือสำเนียงมาตรฐานแบบคนมีการศึกษา) เท่านั้นเองนะ ฟังพวกกุ๊ยข้างถนนพูด เราฟังไม่รู้เรื่องแน่ๆเลย จากนั้นนะ เราต้องใช้เวลานานกว่า 5 ปีในอังกฤษ กว่าจะฟังสำเนียงภาษาอังกฤษแปลกๆ จากคนร้อยพ่อพันแม่จากทั่วโลกได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าเราย้ายจากต่างจังหวัดไปพำนักอาศัยที่ Earl's Court ซึ่งเป็นย่านหนึ่งของ London ที่มัน cosmopolitan มากๆ นั่นก็คือว่า ในละแวกนั้น มันมีชาวต่างชาติจากทุกมุมโลกมาชุมนุมกันอยู่ มีทั้งคนอังกฤษจากภาคต่างๆ ฝรั่งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกัน อินเดีย ปากีสถาน ญี่ปุ่น จีน แขกอาหรับ รัสเซีย โปแลนด์ สิงคโปร์ มาเล ฟินลิปปินส์ ฯลฯ จนเราพัฒนาทักษะในการล้อเลียนสำเนียงคนได้หลายๆชาติแน่ะ...ฝึกเอาไว้กวนบาทาคนเล่นๆน่ะ สมัยก่อนเราไม่มีเครื่องทุ่นแรงเหมือนสมัยคุณหรอก เวลาเราจะฝึกฟัง เราอัดทีวีไว้ (ใช้เครื่องวิดิโอเทปเก่าๆ (ยืมเพื่อนฝรั่งมา) อัด)  เปิดฟัง แล้วมี dictionary วางข้างๆกาย ฟังไม่รู้เรื่องก็กรอเทปกลับ (เสียงมันดังครากๆ น่ากลัวหัวเทปพังมากๆเลยอ้ะ ขอยืมเขามาด้วยดิ พังไปละแย่เลย...555+++....) พอเราฟังไม่รู้เรื่อง เราจะเอาปากกาเขียนบนกระดาษ แบบว่าเดาว่าเสียงแบบนี้ น่าจะเป็นพยัญชนะหรือสระไหนผสมผสานกัน แล้วเราก้อค่อยๆเติมช่องว่างลงไปทีละตัว แบบเล่น hangman น่ะ พอได้อักษรมาบ้าง แต่ยังไม่ครบ เราก็เปิด dictionary โดยตั้งเงื่อนไขว่า ถ้าอักษรตัวที่เท่าไหร่เป็นอะไร แล้วที่เหลือมันจะเป็นอะไร จนในที่สุดเราเปิดหาศัพท์เจอทุกคำ แล้วก็เรียนความหมายไปทีละคำ แต่สมัยคุณนะ คุณดูทีวีบน computer โดยใช้ TV card ได้ แล้วอัดรายการทีวีลงเป็น video clips โดยใช้ software บางตัวอัดรายการทีวี (เวลาซื้อ TV card มันจะมี software bundled มาให้)  แล้วใช้ Window Media Player เปิดดูกับฟัง กรอกลับไปกลับมาโดยไม่ต้องกลัวอุปกรณ์อะไรจะพังเหมือนที่เรากลัวหัวเทปเราจะพังเลยหละ ส่วนเรื่องการเขียนนั้น คุณจะต้องค่อยๆ เรียนฟังกับพูดให้คล่องๆก่อน แล้วขอร้องให้เพื่อนฝรั่งแก้ เวลาคุณพูดผิด...เราใช้วิธีนี้ ได้ผลเพราะตอนนั้นเรามีเพื่อนฝรั่งมากมาย ที่ไปเดินเตร็ดเตร่กันทั้งวัน ถึงขนาดไป beach party แล้วผิงไฟนอนกันกลาง beach วิธีพูดไปเรื่อยๆ แล้วให้ฝรั่งแก้ให้เป็นประโยคๆไปนะ มันทำให้เราซึ่งเคยสอบ grammar ได้คะแนน 0 ตอนเรียน ม. ต้น อยู่ดีๆกลายเป็นเรียน basic grammar ได้ครบหมด แล้วพูดไม่ผิดเลย โดยไม่ต้องทำแบบฝึกหัด grammar จากหนังสือเลยหละ จากนั้นนะ เราจะอ่านๆๆๆๆๆ หนังสือภาษาอังกฤษมากๆ แล้วไม่รู้ศัพท์ก็จะเปิดๆๆๆๆ dictionaries จนท้อใจ เพราะสมัยก่อนเปิดเป็นเล่มๆ มันเมื่อยมือ และปวดหัว จนตาลายมากๆ แต่สมัยนี้คุณมี dictionaries แบบ software หรือแบบ online ดีๆเพียบเลย เปิดหาศัพท์ได้ไวกว่าสมัยเราเรียนมากมาย ...จริงๆแล้วเราลืมบอกคุณไปว่าเราเรียนภาษาอังกฤษ "โหดกว่านั้นอีกหลายเท่า" นั่นก็เพราะว่า พอเราไปเหยียบประเทศอังกฤษได้ไม่กี่วันเอง เราทำซ่า เอา dictionary อังกฤษ-ไทย ขว้างทิ้งไปเลย แล้วตัดสินใจไป "ตายเอาดาบหน้า" โดยการใช้แต่ dictionaries อังกฤษ-อังกฤษ เท่านั้น (ทำแบบนี้เพราะโดนเพื่อนมันยุอ้ะ)...นั่นก็หมายความว่า ถ้าเราไม่เข้าใจคำศัพท์ตัวไหน เราจะต้องออกแรงเยอะมากๆ โดยการเปิด dictionaries อังกฤษ-อังกฤษ วนกลับไป กลับมา หลายๆรอบ แล้วกลับไปเดาความหมายประโยค จากบริบทน่ะ...!!! เราแนะนำว่า เมื่อคุณทำตามขั้นตอนที่เราทำแล้วนะ (แต่ใช้เครื่องทุ่นแรงไฮเทคสมัยใหม่)  พอจะเรียนเขียน ก็ลองปฏิบัติตามขั้นตอนที่เราแนะนำไว้ในกระทู้เก่าที่เราปั่นไว้ ซึ่งเราใช้ login เก่าเราคือ tansy(iwrite4u) ตาม link ข้างล่างนี้ไปอ่านดู แล้วคุณจะจับแนวทางการเรียน writing ได้ โดยไม่ยากนัก...อย่าท้อใจ...นะ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/05/K6595622/K6595622.html แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 51 00:56:37 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 00:50:32 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 00:41:43 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 00:36:26 จากคุณ : agelesstansy - [ 3 ก.ย. 51 00:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ด้านการเขียนจะพัฒนาได้ต้องใช้งานในชีวิตประจำวันครับ แนะสมัครงานเป็นนักข่าว นสพ ภาษาอังกฤษให้ได้ ส่วนภาษาพูด ก็เหมือนกัน ต้องหางานเป็นไกด์ให้ได้ครับ หรือทำงานแถวที่มีลูกค้าเป็นฝรั่ง เช่น งานโรงแรมหรูๆ ครับ แค่ปีเดียวได้แค่นี้ก็นับว่าดีพอควร จะให้มากกว่านี้ ต้องขวนขวายอ่านให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 3 ชม ครับ จากคุณ : K.Senior - [ 3 ก.ย. 51 00:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณไอติมไต่ถังโชคดีได้ไปอเมริกา เราสิอยากสมัครออแพร์นะ แต่อายุเกินไปนี้ดนึง ทุกวันนี้ เราฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองเป็นหลัก เดี๋ยวนี้มีอินเตอร์เน็ต มีเคเบิลทีวี ทำให้สามารถฝึกภาษาได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน มี Google อยากหาอะไร ใส่ keyword เข้าไปเดี๋ยวก็ออกมา แต่ต้องฝึกบ่อย ๆ นะ ก็มันเป็นทักษะไง ทักษะ แปลว่า ความชํานาญ จะชำนาญก็ต้องฝึกบ่อย ๆ ก่อนนี้ ก็ลงเรียนภาษาอังกฤษกับโรงเรียนสอนภาษา ก็ได้เรียนรู้เยอะ ตอนนี้ เรียนแบบตัวต่อตัวก็สนุกดี ได้เรียนแบบตรงตามความต้องการของตัวเองมากขึ้น เรารู้สึกว่าตอนนี้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา ไม่รู้สึกว่าเป็นการเรียน รู้สึกว่าสนุกที่ได้ใช้ภาษาค่ะ เนี่ยว่าจะรื้อฟื้นภาษาจีนซะหน่อย ภาษาญี่ปุ่นก็น่าสนใจ ภาษาสเปนก็น่าเรียนจะเอาไปคุยกับเพื่อนซะหน่อย พวกวิธีเรียน คำแนะนำในการเรียน หาได้จากพันทิปนี่ค่ะ หรือ Google ก็ได้ รวม Links บางส่วนนะคะ จากคลังกระทู้เก่า http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=flowerylife&date=11-07-2008&group=13&gblog=7 Blog คุณเชษฐา เขียนเกี่ยวกับสถาบันสอนภาษาอังกฤษด้านการสนทนาและการทำข้อสอบ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pongsorn&group=1 โครงการ Engaging English คุณเรียนภาษาอังกฤษยังไง มีคนเข้ามาอ่าน 600 กว่าครั้งแล้ว มีคุณเมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง, อ. Krisdauw, คุณ tonmelb และเราช่วยกันเขียน http://www.scribd.com/doc/2681436/Engaging-English-1-Final ค่อย ๆ ฝึกฝนไปค่ะ สงสัยอะไรก็เอามาถามในห้องนี้ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ห้องนี้ใจดีค่ะ จากคุณ : Flowery - [ 3 ก.ย. 51 00:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราจะพัฒนาก็แต่สิ่งที่เราได้ใช้ครับ ถ้าเราไม่ได้ใช้มันก็ไม่พัฒนาหรอก เหมือนกับเวลาฝึกกีฬาอะครับ ถ้าอยากเก่งแบต แต่ฝึกแต่การตบอย่างเดียว ยังไงการเสิร์ฟมันก็ไม่พัฒนาอยู่ดีครับ ถ้าคุณอยากจะเก่งภาษาด้านธุรกิจที่กลับไปใช้ได้ ก็ต้องฝึกตรงนั้นครับ มันก็ใช่ที่ว่าภาษาทางพูดมันอาจจะมีส่วนที่ใช้กับทางธุรกิจได้ แต่ยังไงมันก็ได้แต่ระดับนึงครับ สมัยผมทำงานอยู่ไทย ทำงานแค่ปีเดียวแต่ผมได้ฝึกการเขียนภาษาทางธุรกิจทางอีเมลมากกว่ามาอยู่อเมริกาสองปีอีกนะครับ ภาษาทางธุรกิจไม่ยากหรอกครับ หาตัวอย่างมาดูเยอะๆ ฝึกเขียนอีเมลเยอะๆ เจอตัวอย่างการเขียนดีๆ จากคนอื่นก็เซฟเก็บไว้มากๆครับ จำแพทเทิร์นที่คนเค้าใช้กันให้ได้แล้วก็เริ่มเอามาหัดพูด เดี๋ยวก็ได้คับๆ จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ - [ 3 ก.ย. 51 01:17:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อยากเขียนเก่งก็ต้องลงมือเขียนๆๆๆๆๆๆๆๆ จนกว่าจะเก่ง อ้อ ก่อนจะลงมือเขียนอันเป็นภาคส่งออก ก็ต้องนำเข้าวัตถุดิบด้วยการอ่านๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียก่อนนะครับ อยากเขียนเก่งแต่หัดพูด เห็นจะไม่ตรงเป้าเป็นแน่ ชวยได้เหมือนกัน แต่ไม่มาก จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 3 ก.ย. 51 01:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทุกท่านเลยนะคะ รู้สึกดีมีกำลังใจขึ้นมาเลยคะ ติดตามอ่านบอร์ดนี้มาตั้งนานต้งกะเปิดบอร์ดนี้มาตั้งแรกๆ รู้สึกซาบซึ้งใจในความมีน้ำใจของเพื่อนๆในห้องนี้ ชอบที่คุณ agelesstansy,K.Senior , Flowery, บรึ๋ยศักดิ์ ,แอ๊ด ปากเกร็ด คอยให้คำแนะนำดีๆตลอดมา เชื่ออยู่อย่างนึงเลยคะ พอมาอยู่อเมริกา ถ้าเราทำเรื่องไหนซ้ำๆบ่อยๆมันจะได้ไปเอง คงจะจริงที่บอกว่าภาษาคือความชำนาญ การฝึกฝน เมื่อก่อนมีความเชื่อที่ผิดอย่างนึงคะ คือเข้าใจว่า ภาษานี่ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้นมันจะพัฒนาไปเอง แบบว่าเข้าใจว่าพอตื่นมาวันนึงในอเมริกา พูดได้เลย อันนี้เป้นความเชื่อที่ผิดอย่างแรงของตัวเองเลยคะ ก็หวังว่าอีกสองเดือนในอเมริกานี้ตัวเองคงกระเตื้องขึ้นมาบ้าง และคงไปฝึกเพิ่มเติมในไทยต่อ บอกเพื่อนว่าจะกลับไปลงเรียนAUAมีแต่คนหัวเราะว่ามาเมกาทั้งทีทำไมต้องกลับไปเรียนเพิ่ม ก็ได้แต่บอกไปว่า ที่ได้ทุกวันนี้มันยังไม่ดีพอหรอก กลับไปถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษเดี๋ยวก็ลืม แต่ก็เชื่อมั่นในตัวเองอ่ะคะ ว่าสิ่งที่เราน่าจะดีสำหรับเรา ป.ล ชอบVOAมากคะ เป็นเว็บที่ดีจริงๆคะ จากคุณ : จขกท (ไอติมไต่ถัง) - [ 3 ก.ย. 51 03:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับเด็กไทยในเมืองไทยที่ไม่มีโอกาสได้อยู่ในบรรยากาศของจริงแบบสดๆอย่างที่คุณมีโอกาส โอกาสนำเข้าที่ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุดไม่มีอะไรเกินการอ่าน สำหรับการฟังนั้นเดี๋ยวนี้ก็ดีขึ้นเพราะมีเทปมีซีดีมีเว็บไซท์เป็นการเรียนจากของแห้ง แต่การอ่านนั้นมีข้อดีอย่างหนึ่งที่ไม่เคยเห็นใครพูดถึง ขอให้ตระหนักว่า ข้อดีของการอ่านเป็นการนำเข้าอยู่ตรงที่ว่า คุณอยู่ตรงไหนในโลกนี้คุณก็อ่านได้ เป็นการเรียนจากของสด เด็กไทยที่หนองหมาว้อก็สามารถอ่านได้เท่าๆกับเด็กไทยในอเมริกาหรือแม้แต่เด็กอเมริกันเอง ไม่มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันเลย เส้นสตาร์ทเดียวกัน อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน การอ่านนั้นถือว่าคนอ่านได้สัมผัสกับการฝึกทักษะจากของสดเสมอเหมือนกันทั่วโลก ไม่มีการแบ่งแยกเป็นของสดของแห้งเหมือนทักษะอื่น ถ้าเด็กที่หนองหมาว้อมันสนใจและขยันเสียอย่าง มันก็สามารถสู้เขาหรือแม้แต่แซงเขาได้สบายมาก และการนำเข้าด้วยการอ่านนั้นก็เป็นพื้นฐานที่ดีในการนำไปสู่ทักษะอื่นๆในภาษาอังกฤษ ใครจะว่ามันกลับหัวกลับหางผิดธรรมชาติเป็นอุปสรรคในการเรียนภาษาผมก็ไม่เถียงเพราะมันเป็นเรื่องจริง แต่ประสบการณ์ตรงบอกมผมว่ามันก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ข้ามไม่ได้ มีคนข้ามได้มาแล้ว พร้อมจะยืนยัน นั่งยัน นอนยัน วิ่งยัน เดินยัน กระโดดยันเอาห้วชนฝายัน ว่าทำได้จริง ผมนี่แหละทำได้ อีกหลายๆคนในนี้ก็ทำได้ ตะละคนก็ไม่เห็นมีสามหัวหกแขนมีแสงเฮ้ากวงหรือกำลังภายในเกินมนุษย์สักหน่อย คุณก็ต้องทำได้สิน่า สู้เขา ไอ้มดแดง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 3 ก.ย. 51 08:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนตัวคิดว่าคุณ จขกท จะได้แน่ๆก็คือภาษาที่จริงๆที่ใช้ในชีวิตประจำวันนี้แหละครับ ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มากหาไม่ได้จากในห้องเรียน แต่ถ้าพูดถึงภาษาทางการที่ใช้ในการทำงาน ขอยืนยันอีกคนว่าเรียนได้ทุกที่ในโลกครับไม่มีที่ใดได้เปรียบไปกว่ากันเพราะเดี๋ยวนี้สื่อมันเยอะมากๆๆๆอ่านเขียนเรียนทั้งชาติก็ไม่หมด อยู่ที่เราจะมีปัญญากอบโกยได้แค่ไหน กลับมาเรียนต่อบ้านเราเต้อ เพราะถึงตัวจะอยู่นอกแต่สถานการณืที่เจอมันแคบก็จะยังไม่เก่งพออย่างที่ จขกท เป็นอยู่นั้นแหละครับ เพื่อนผมไปอยู่นิวยอร์ตปีครึ่งชีวิตเวียนอยู่ที่กับร้านอาหารไทย (ทำงาน) กับที่ รร.สอนภาษาคุยภาษาอังกฤษรู้เรื่องแค่เรื่องทั่วๆไปอยู่กับเพื่อนต่างชาติ ศัพท์ใช้คล่องแค่ 1000 กว่าคำ ไม่พอจะไปทำงานเป็นเรื่องทางการที่ต้องฟัง พูด อ่าน เขียน อีกระดับ กลับมาไทยก็ยังต้องมาเรียนต่ออยู่ดีครับ ตอนนี้มันบอกว่าได้เรียนภาษามากกว่าตอนอยู่เมืองนอกอีกรู้งี้ไม่ไปให้เปลืองเงินก็ดี แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 09:09:31 จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ 3 ก.ย. 51 09:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตามนั้นเลยค่ะ สู้ๆนะคะ :) จากคุณ : แครอท - [ 3 ก.ย. 51 12:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สู้ๆครับ อย่าเพิ่งไปท้อก่อน ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่มีความพยายามหรอกครับ อย่างน้อยคุณก้อมีโอกาสมากกว่าเด็กไทยหลายคนที่ไม่ได้ไปอยุเมืองนอกเหมือนคุณ ยังงัยมีปัญหาเรื่องภาษาก้อถามพี่ๆในห้องนี้ได้ครับ แต่ละคนระดับเซียนทั้งนั้น ^^ จากคุณ : ลุงเค้ก - [ 4 ก.ย. 51 09:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อยู่แค่ปีเดียว แถมทำงานด้วย ไม่ค่อยมีเวลาฝึกแบบจริงจัง ฝึกจากการใช้ แน่นอนว่ามันใช้เวลา มันขึ้นอยู่กับพื้นฐานภาษาอังกฤษของคุณก่อนไปอเมริกาด้วย บางคน มาอยู่อเมริกาเป็นสิบปี ก็แค่พอพูดได้ ในส่วนที่ต้องใช้ เช่น คนทำร้านอาหารไทย ภาษาส่วนใหญ่ที่ใช้ในร้านอาหารก็พูดได้ แต่ถ้าไม่เกี่ยว บางคนก็ยังพูดไม่ค่อยได้เลย  หรือจะเอาแบบคนจีนที่มาอยู่อเมริกา (ในไชน่าทาว์น) เป็นสิบๆปี ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะเค้าไม่ได้ฝึก หรือคิดว่าจะต้องฝึก เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ หรือบางคน พูดได้ แต่สำเนียงเนี่ย ไม่ต่างจากอยู่เมืองไทย บางคนสำเนียงใกล้เคียงกับคนอเมริกันก็มี มันขึ้นอยู่กับการฝึกฝน บางคน อยากให้สำเนียงเหมือนเจ้าของภาษาก็จะฝึก บางคนคิดว่า เอาแค่สื่อสารได้ดี สำเนียงไม่จำเป็นต้องเหมือนอเมริกันชน ก็เยอะ การมีสำเนียงที่ใกล้เคียง Native speakers นี่ก็ดีนะ แต่ผมว่าไม่จำเป็นขนาดที่ว่าต้องทำให้ได้ ตราบใดที่คุณสามารถสื่่อสารได้ดี ผมคิดว่าฝรั่ง (ส่วนใหญ่) เค้าไม่สนเรื่องสำเนียงหรอกนะ บางคนยังคิดเลยว่า ทำไมต้องสำเนียงเหมือนคนอเมริกัน (กรณีอยู่อเมริกา) ฉันจะพูดอังกฤษ สำเนียงประเทศของชั้น ใครจะทำไม ถ้าหากว่า คุยรู้เรื่องแค่นี้ ก็เพียงพอแล้ว  ความเห็นส่วนตัว บางที ฝรั่งอาจจะอยากฟัง ภาษาอังกฤษ สำเนียงต่างประเทศก็ได้ เพราะมันฟังดูแปลกดี ไม่ซ้ำซาก จำเจ อีกอย่างนึง เท่าที่สังเกตุ จะมีคนเอเชีย ที่ว่าพูดอังกฤษสำเนียงเหมือน Native speakers ที่เวลาพูดแล้วฟังดูเพราะเชียว มีเสียงสูงเสียงต่ำเกือบทุกประโยค ฟังดูดี มีชาติตระกูลมาก แต่เท่าที่ได้ยินมาส่วนใหญ่ ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ ผู้ชาย ไม่เห็นเค้าพูดเสียงสูงเสียงต่ำมากมายขนาดนั้นเลยอะ ส่วนใหญ่ ก็พูดค่อนข้างเกือบจะโมโนโทนด้วยซ้ำ คืออยากจะบอกว่า บางที คนไทย อยากทำให้ฟังดูดี เน้นเสียงสูงต่ำซะเว่อร์เกิน (เคยทำ) บางคนบอกว่าพูดโมโนโทนเถอะ ฟังง่ายกว่า ไม่ต้องเน้นเสียงสูงเสี่ยงต่ำขนาดนั้นก็ได้ 555 ไม่ได้บอกว่า ไม่ดีนะ การมีเสียงสูงต่ำ แต่บางที คนไทยบางคน คิดว่ามันสำคัญมาก ทำแล้วจะฟังดูเป็นเนที๊ฟ เนทีฟ ทำมากจนเว่อร์เกินไป ฟังดูแล้วแปลกๆ เช่น ทำเสียงสูงที่คำท้ายของประโยคแทบทุกประโยค ทั้งที่ไม่จำเป็น จากคุณ : Tiger อู๊ด - [ 7 ก.ย. 51 16:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับคุณ Tiger อู๊ด ฝากคอลัมน์ภาษา ว่าง ๆ เชิญนะครับ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6961581/K6961581.html คุณไอติมไต่ถัง อย่าท้อเลย ดีใจดีกว่าครับ ที่คุณได้รับรู้ความจริงว่า ภาษาจริง ๆ เเล้ว มันต้องทุ่มเทมาก ๆ ไม่ค่อยมีสถาบันใดในเมืองไทย บอกกล่าวคุณเช่นนี้มากนัก ยกเว้นผม (ฮา) ส่วนเพื่อนคุณเเนะว่า อย่ากลับไทย เดี๋ยวภาษาจะไม่พัฒนา อาจจะถูกในเเง่ที่ว่า เมืองไทย คุณไม่ค่อยมีโอกาสใช้ อยากเเนะว่า ให้ลุยกับภาษาให้ถึงที่สุด ปูพื้นฐาน สร้างพื้นฐานใหม่ + อ่านงานผม ใส บอกคำเดียวว่า ใส (ฮา) เเล้วค่อยกลับมาไทย มาพัฒนาต่อ ดูอย่างผม ผมเก่งกว่าเดิมนะ อยู่ Melbourne 14 ปีกว่า กลับไทยมาได้จะ 5 ปีเเล้ว กลับมาเเล้วใช้ภาษาอังกฤษตลอด คล่องเหมือนเดิม ยกเว้น จีบผู้หญิง ฮา ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นกำลังให้ครับ จากคุณ : tonmelb - [ 7 ก.ย. 51 21:05:30 A:203.209.118.237 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มัน จะไปพัฒนาได้ไงล่ะพี่น้อง  พอกำลังจะเรียนรู้ได้ก็รู้สึกจะมีอะไรมากวนอยู่ ตลอด แล้วจะให้รู้ได้ยังไง จากคุณ : Code Veronica - [ 8 ก.ย. 51 08:26:53 ]