ความคิดเห็นที่ 1 เอามาจาก voa หรือครับ ผมเพิ่งอ่านไปเอง ส่วผมจะโหลด mp3 มาไว้ฟังด้วย จากคุณ : aquaporin4 - [ 4 ก.ย. 51 15:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอชื่นชมที่คุณ five star ตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษจาก VOA Special English และพยายามสรุปให้ได้วันละ 1 เรื่อง เพื่อฝึกทักษะการเขียนและจำรูปประโยคไปใช้ เราขอเอาหลักการสรุปจากหนังสือที่เราซื้อมาอ่านนะคะ แต่คุณ five star สรุปไว้เป็นบันทึกประจำวัน อาจจะไม่ต้องตามนี้เป๊ะ ๆ ก็ได้ค่ะ พอเป็นแนวทางแล้วกัน เพราะที่เราเอามาเป็นคำแนะนำจากหนังสือ Writing Academic English How to Write a Good Summary These are three keys to writing a good summary: 1. Use your own words and your own sentence structure. 2. remember that a summary is much shorter than a paragraph. Include only the main points and main supporting points, leaving out most details. 3. Do not change the meaning of the original. The Steps for Writing a Summary 1. Read the original passage several times until you understand it fully. Look up any words that you don't understand. 2. Decide what the important ideas are. It helps to underline important ideas. It also helps to take notes. Write down only a few words for each idea -- not complete sentences. 3. Write your summary from your notes. Don't look at the original while you are writing. 4. Check your summary against the original to make sure you have not changed the meaning. 5. Add an in-text citation at the end of the summary จากคุณ : Flowery - [ 4 ก.ย. 51 17:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่อง comment รอพี่ ๆ เค้ามา comment นะคะ เราเข้าคลังกระทู้เก่าเจอกระทู้ของคุณ tansy สมัยเป็น athanasia ตอนนี้เป็น agelesstansy แล้ว น่าสนใจดี เลยเอามาฝากค่ะ เรียนภาษาอังกฤษจาก VOA (Canning Food) http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/K3652592/K3652592.html จากคุณ : Flowery - [ 4 ก.ย. 51 17:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จาก Step 1 ที่แนะนำว่า Read the original passage several times until you understand it fully. เรื่องที่คุณ five star อ่านเป็นข่าวเกี่ยวกับการแพทย์เลยอาจจะเข้าใจยากสักหน่อย อาจมีบางตอนที่ไม่ค่อยเข้าใจ เราของลองแปลเป็นข้อ ๆ นะคะ ถูกผิดเดี๋ยวพี่ ๆ คงมาแก้ให้อีกที แปลเป็นไทย น่าจะช่วยให้เข้าใจง่ายหน่อย - โรคหลอดเลือดแดงในสมองโป่งพองพบได้ไม่บ่อย แต่หากแตกขึ้นมา มักทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต - โรคนี้เกิดในผู้ป่วยซึ่งมีความผิดปกติของผนังหลอดเลือดแดงมาแต่กำเนิดแล้ว - ส่วนของผนังหลอดเลือดที่เปราะบางจะขยายออกด้านนอก และมีเลือดมาขัง - เมื่อผนังหลอดเลือดที่โป่งพองบางมาก  ๆ ก็จะแตกออกและทำให้เลือดออกตามมา - รูปแบบที่พบบ่อยสุดคือ แบบ berry มีลักษณะกลม, เล็กคล้ายลูก berry ยื่นออกมาจากผนังหลอดเลือด - ผู้ป่วยอาจมีชีวิตยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคนี้ - เมื่อหลอดเลือดโป่งพองมากถึงระดับหนึ่ง จึงทำให้เกิดอาการปวดหรือปัญหาอื่น ๆ ซึ่งนำไปสู่การวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ จากคุณ : Flowery - [ 4 ก.ย. 51 17:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 - ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการแพทย์ -- The Mayo Clinic in Minnesota ประชากรในสหรัฐอเมริกาที่เป็นโรคหลอดเลือดในสมองโป่งพองชนิด Berry (Berry Aneurysm) มีจำนวนมากถึง 15 ล้านคน หรือคิดเป็น 5% ของประชากรทั้งประเทศ แต่มีประชากรไม่ถึง 13,000 คนที่หลอดเลือดซึ่งโป่งพองนี้จะแตก -- The National Institute of Neurological Disorders and Stroke ผู้ป่วย 44% เสียชีวิตใน 24 ชั่วโมง ผู้ป่วย 25% เสียชีวิตใน 6 เดือน จากคุณ : Flowery - [ 4 ก.ย. 51 17:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 - ตัวอย่างผู้ป่วยโรคนี้ -- Joe Biden เคราะห์ดีที่รอดชีวิต จึงได้อยู่จนเป็น running mate ของ Barack Obama ตอนแรก เขามีอาการปวดคออยู่หลายสัปดาห์ แพทย์คิดว่าเกิดจากเส้นประสาทถูกบีบรัดหรือติดเชื้อไวรัส จนกระทั่งเดือนก.พ. ค.ศ. 1988 ผลตรวจออกมาถึงได้ทราบว่ามีการรั่วของหลอดเลือดแดงที่ฐานของสมอง การผ่าตัดประสบความสำเร็จ และ3 เดือนต่อมา แพทย์ได้ตรวจพบหลอดเลือดแดงโป่งพองอีกตำแหน่งหนึ่ง -- Stephanie Tubbs Jones แม้จะเป็นโรคเดียวกับ Joe Biden แต่เคราะห์ร้ายที่เธอเสียชีวิตในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากมีการแตกของหลอดเลือดแดงที่โป่งพอง แพทย์กล่าวว่าเธออาจจะไม่มีอาการเตือนใด ๆ ของโรคนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย -- Janet Sutherland เธอเป็นผู้อำนวยของมูลนิธิโรคหลอดเลือดแดงในสมองโป่งพอง สาขาชิคาโก เธอมีอาการครั้งแรกเมื่อปี 2004 ตอนนั้นเธอปวดศีรษะมากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาในชีวิต เธอโทร.หาหน่วยฉุกเฉิน การผ่าตัดประสบความสำเร็จ แต่เธอไม่รู้สึกตัวนานถึง 3 สัปดาห์ และเมื่อเธอฟื้น เธอพบว่าเธอมองไม่เห็นและขยับตัวไม่ได้ เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดอีก 2 ครั้ง เธออยู่รพ.นาน 5 เดือน และใช้เวลากายภาพบำบัดอยู่หลายเดือน จากคุณ : Flowery - [ 4 ก.ย. 51 17:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จากรูป แสดงภาพถ่ายจากเครื่อง MRI ของสมองผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดแดงโป่งพองขนาดใหญ่ จะเห็นว่าจุดสีดำตรงกลางรูปก็คือหลอดเลือดแดงที่โป่งพองนั่นเอง เราแปลไม่หมดทั้งเรื่องนะคะ ไม่ค่อยมีเวลา แต่หวังว่าที่แปลไว้คงทำให้เข้าใจมากขึ้น อ่านข่าวเต็มได้จาก link ข้างล่างค่ะ Brain Aneurysms: Rare but Usually Deadly If They Burst http://www.voanews.com/specialenglish/2008-08-26-voa4.cfm ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ จากคุณ : Flowery - [ 4 ก.ย. 51 17:15:13 ]