ความคิดเห็นที่ 1 โอ้ นักศึกษาไทย สมองใสจริงๆ ความสูญเปล่าของระบบการศึกษา เรียนไปแทบตาย ได้กระดาษใบเดียว จากคุณ : ขอผ่านก่อน - [ 6 ก.ย. 51 19:00:43 A:58.8.166.55 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ล่อเป้าหรือเปล่า .. ผมว่า จขกท ล่อเป้านะ จากคุณ : oscilated - [ 6 ก.ย. 51 19:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จริงๆแล้ว จขกท รู้ทันกลไกในสังคมไทยต่างหากล่ะ ทั้งนี้ เนื่องจากว่า ส่วนใหญ่เขาก็จ้างแปลกันทั้งนั้น มาหลายสิบปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งทำกัน จะออกมาดีมากดีน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่านักศึกษามีเงินมากน้อยแค่ไหน ถ้าจ้างหน้าละ 100 บาท ก็เผลอๆอาจารย์ไม่ให้ผ่าน ถ้าหน้าละ 300 บาท ก็ผ่านแต่ grade ไม่ดีนัก ถ้าหน้าละ 500-2000 บาทขึ้นไป ก็ได้งานดีหน่อย grade ดีหน่อย จขกท มีงบเท่าไหร่ล่ะ? เขียนมาเป็นภาษาไทย แล้วเราแปลให้ ถ้าหน้าละ 100 บาทเราไม่แปลนะ เพราะราคามันต่ำไป แต่ถ้ายอมจ่ายหน้าละ 500 บาท ขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับความยากง่าย)  เราจะแปลให้ดีๆเลยหละ...ติดต่อเราได้ที่ email address เราบน blog เรา แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 06:47:38 จากคุณ : agelesstansy - [ 7 ก.ย. 51 06:46:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เขาหาคน "เขียน" ให้เลยนี่ ไม่ใช่หาคน "แปล" ให้ จากคุณ : Timin2101 - [ 7 ก.ย. 51 11:40:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จริงแล้ว ถ้าให้ "เขียน" โดยทั้งหมดนี่ จะยิ่งง่ายกว่า "แปล" เสียอีก เนื่องจากว่า ถ้านักศึกษาเขียนภาษาไทยมาเนื้อหาไม่ดี ถึงนักแปล แปลไปดี สาระนิพนธ์ อาจ "ไม่ผ่าน" ก็ได้...!!! แต่ถ้าให้เขียนโดยทั้งหมด คนที่รับจ้างเขียน ถ้าฉลาดพอสมควร ก็จะใช้ google หาเนื้อหาดีๆ จากเวปต่างๆ มาได้ แล้วใช้ทักษะในการเขียนภาษาอังกฤษ มา edit (ตัดต่อ เปลี่ยนแปลง แก้ไข) เพื่อสลับลำดับประโยค แล้วจัดวางแนวคิดดีๆ ให้เป็นระบบ จนได้เนื้อหา ที่น่าอ่าน และรับประก้นได้ว่า "ต้องผ่าน" อย่างแน่นอน จริงๆแล้วนะ ถ้าเราเป็นอาจารย์ เราจะแกล้งโง่ แล้วปล่อยให้นักศึกษาเขียนสาระนิพนธ์ มาส่งเรา ถ้านักศึกษาเขียนเอง เราพอจะดูรู้ เพราะเขียนมา ไม่เหมือนมือโปรแน่ๆ  แต่ถ้าเขียนดีเกินไป เราจะบอกกับนักศึกษาว่า "สาระนิพนธ์ ที่เขียนมาส่งนี้ ดีมากๆ จะให้ผ่าน grade สูงสุดเลยหละ" แต่เพื่อความแน่ใจ ให้นักศึกษานั่งในห้องในมหาลัยคนเดียวเงียบๆ แล้วเขียนเรื่องคล้ายๆกันมาให้ดูอีกเรื่องหนึ่งสิ (โดยให้เขียนสั้นๆ) โดยไม่ให้มีโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องมือสื่อสารใดๆอยู่บนตัวนักศึกาษา (ป้องกัน ไม่ให้ขอความช่วยเหลือจากภายนอก)  ให้มีแต่ dictionaries เข้ามาได้เท่านั้น   พอเขียนเสร็จ เราตรวจดูอีกรอบหนึ่ง แล้วเปรียบเทียบระดับภาษา 2 ชุด คือชุดแรกที่จ้างคนอื่นเขียนมา กับชุดที่นักศึกษาเขียนเอง แค่นี้ก็มีเหตุผลอันสมควรที่จะให้ F กับนักศึกษาได้แล้ว พูดไปเหมือนกับทุบหม้อข้าวตัวเองนะ ...555+++....เพราะถ้าอาจารย์ทุกคนทำแบบที่เราแนะนำกันหมด เราก็หมดทางทำมาหากินจากการรับจ้างเขียน สาระนิพนธ์ วิทยานิพนธ์ กับดุษฎีนิพนธ์ เป็นภาษาอังกฤษน่ะสิ... แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะอะไร? เพราะเมื่อเร็วๆนี้ เพิ่งมีนักศึกษาคนหนึ่งติดต่อผ่านเพื่อนเรามา จะจ้างให้เราแปลวิทยานิพนธ์ ทีแรกเราเรียกราคาไปหน้าละ 500 บาท เขาขอให้ลดราคา เราดูๆ แล้วคิดว่า พอกัดฟันลดให้ได้เหลือหน้าละ 350 บาท แต่เขาจะเอาแค่หน้าละ 200 บาท เราก็เลยไม่รับงาน แล้วก็เลยมา "ทุบหม้อข้าวหม้อแกง" นักแปลหรือผู้รับจ้างรายอื่นๆ โดยการแนะนำว่า "อาจารย์ทุกท่าน ควรใช้วิธีทดสอบนักศึกษาแบบที่เราแนะนำไว้ในกระทู้นี้ยังไงล่ะ" ...555+++.... แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 12:43:00 จากคุณ : agelesstansy - [ 7 ก.ย. 51 12:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อนาคตได้ดิบได้ดี เป็นรัฐมนตรีประเทศสารขัณฑ์แน่นอน จากคุณ : ผ่านมาอีกที - [ 7 ก.ย. 51 12:54:21 A:58.8.166.55 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^ อ่านคคห.ที่ 6 แล้ว อยากหา The Ugly American และ Sarkhan มาอ่านจัง ชอบแผ่นโปสเตอร์ภาพยนตร์ The Ugly American ที่เขียนว่า สร้างขึ้นเมื่อวันวาน เพื่อเตือนใจคนรุ่นใหม่ จากคุณ : นารูโต๊ะ นารูโตะ - [ 7 ก.ย. 51 16:36:15 A:203.118.84.45 X: TicketID:173839 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขนาดภาษาไทยยังรับจ้างทำกันโครมๆ เรียนเอาแผ่นกระดาษกันอย่างเดียว ทำการบ้านก็มาเที่ยวถามทางเวบ เขียนเปเปอร์ก็จ้างเขา จากคุณ : เศร้าหว่ะค่ะ - [ 7 ก.ย. 51 18:49:24 A:210.86.216.37 X: TicketID:159141 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ต้องเขียนหรอกคุณ เสียเวลา เดินไปขอปริญญาเขาเลยดีกว่า จากคุณ : สัญญาณหางปลา - [ 7 ก.ย. 51 19:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รบกวนเจ้าของกระทู้ช่วยบอกชื่อหลักสูตร คณะและสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ด้วยครับ จะได้เป็นข้อมูลให้คนที่รับทำให้ เขาจะได้ติดต่อไปที่คณะหรือหลักสูตร เพื่อให้แบ่งคะแนนคุณมาให้เขาบ้าง อยากถามท่านอื่น ๆ ครับว่ามีคนเอาใบปลิวโฆษณาว่าห้องสมุดใน Pantip รับทำการบ้าน แปลงาน ทำสารนิพนธ์ ปริญญานิพนธ์ วิทยานิพนธ์ ฯลฯ ฟรีหรือในราคาย่อมเยา ไปแปะไว้ตามที่ต่าง ๆ หรือเปล่า เพราะเห็นช่วงนี้คนมา post ถามกันเยอะเหลือเกิน จากคุณ : Tony Almeida - [ 7 ก.ย. 51 20:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราก็สงสัยเหมือนคุณ Tony Almeida เลย ว่าทำไมเค้าโพสต์กันเยอะจัง ก่อนนี้ก็มี แต่หลัง ๆ มากขึ้นผิดสังเกตค่ะ หรือว่าเค้าจะบอกกันปากต่อปากคะ จากคุณ : Flowery - [ 7 ก.ย. 51 21:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สงสัยว่าใกล้สอบ mid-term มั้งครับ ถ้าไม่ตอบกัน อีกหน่อยคงซาไปเอง จากคุณ : อะนะ - [ 7 ก.ย. 51 21:43:12 A:58.8.178.49 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าอาจารย์ทุกมหาลัย ใช้วิธีการทดสอบ แบบที่เราเพิ่งคิดขึ้นเล่นๆในวันนี้แล้วแนะนำไว้ใน คคห 5 เล่นสนุกๆนะ...555+++...มือปืนรับจ้างเขียนเปเปอร์ทั้งหลายก็จะ "ตกงานกันเรียบ" แล้วนักศึกษาพวกไม่ยอมออกแรงเรียน ก็จะเรียนไม่จบกันหมด ซึ่งถ้าเป็นนักศึกษาในมหาลัยชั้นนำที่เอ็นเข้ายากๆนะ ก็ไม่มีผลกระทบต่ออาจารย์เท่าไหร่ หากแต่ถ้าเป็นนักศึกษาในมหาลัยในเชิงพาณิชย์ที่มีไว้รองรับนักศึกษาที่อ่อนๆมากๆ ที่เอ็นเข้ามหาลัยชั้นนำไม่ได้ ละก้อ อย่าลืมนะ ว่านักศึกษาอ่อนๆพวกนี้ นับได้เป็นเปอร์เซ็นต์ (เดาเคร่าๆ) บางทีอาจเกิน 75%....!!! นั่นก็หมายความว่า อาจารย์ในมหาลัยที่เปิดมาเพื่อขายปริญญา (คือเรียนอย่างไรก็ผ่านอยู่ดี) ถ้าดันกินอุดมการณ์โดยการนำวิธีการทดสอบของเราไปใช้นะ นักศึกษาก็จะ "ยกชั้นกันตกเกือบหมด" และทางฝ่ายบริหาร ก็จะเรียกอาจารย์ไปสอบปากคำว่า "สอนอีท่าไหนนักศึกษาจึงได้ F กันหมด" และในอีกไม่นาน ถ้าอาจารย์ไม่ผ่อนผันบ้าง ตัวอาจารย์เองก็จะตกงาน....555+++...ฟังเหมือนตลก แต่เรา serious นะว่า มีมหาลัยหลายๆแห่ง (ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมของคนเรียนไม่เก่ง ที่เอ็นเข้ามหาลัยดีๆไม่ได้) ที่อาจารย์ต้องยอมปล่อยให้นักศึกษาผ่านกันหมด เพราะถ้าเข้มงวดจะยกชั้นกันตกหมดจริงๆ...และอาจารย์ก็จะตกงาน และมหาลัยก็จะต้องปิดกิจการไปจริงๆ นี่วิเคราะห์สังเคราะห์แล้วพูดจริงๆ ไม่ได้พูดเล่นๆนะ...จะบอกให้...!!!! จากคุณ : agelesstansy - [ 8 ก.ย. 51 00:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆแล้วระบบการศึกษาของไทยมันเป็นเช่นนี้มานานแล้ว เหตุผลง่ายๆ ที่พวกเราหลายๆคนบ่นๆๆๆๆๆ กันว่า ทำไมไม่หาทางแก้ไขนั้น มีใครคิดเหมือนเราบ้างหรือไม่ว่า ต้นตอของปัญหามันอยู่ที่ไหนกัน? ความคิดของเราที่ “เข้าประเด็น” มากที่สุด และไม่ได้ล้อเล่น นั่นก็คือ “สังคมไทยยังไม่เลิกกดขี่แรงงาน”   ดังนั้น มหาลัยที่เรียนยังไงก็จบ ก็จะต้องเกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆในประเทศไทย เพื่อ “เป็นอัศวินม้าขาวมาช่วยคนไทยที่เรียนไม่เก่ง และไม่อยากกลายเป็นกรรมกรไป”   นั่นก็เพราะว่า มหาลัยประเภทนี้ทำรายได้ให้แก่เจ้าของอย่างมหาศาล ด้วยเหตุผลอันง่ายๆก็คือว่า “คนเรียนไม่เก่งมันมีมากกว่าคนเรียนเก่ง"   ผลก็คือว่า จะมีคนเรียนไม่เก่งเป็นจำนวนมาก (สวมหน้ากากเข้าหากัน) โดยการใช้ปริญญาเป็นใบเบิกทาง เพื่อไปสู่เส้นทางการทำงาน ซึ่งสร้าง “ความไม่เจริญ”ให้แก่หน่วยงาน และแก่ประเทศชาติ  และนี่เป็นการที่ “สังคมไทยต้องชดใช้บาป ที่เกิดจากการกดขี่ผู้ใช้แรงงาน” แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 51 01:45:17 จากคุณ : agelesstansy - [ 8 ก.ย. 51 01:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลองมาดูประเทศอังกฤษบ้าง เมื่อ 21 ปี ที่แล้วกัน เราเคยลองไปทำงานเป็นกรรมกรที่ไซท์งานก่อสร้างในนครลอนดอนดู  พบว่าอัตราค่าจ้างเมื่อ 21 ปีที่แล้วนะ เราได้เงินสดในมือ (ไม่ต้องเสียภาษี) ประมาณ “วันละ” 5,000 บาท (ประมาณ 100 ปอนด์ ในอัตราแลกเปลี่ยนหนึ่งปอนด์ต่อ 50 บาทในสมัยนั้น) ซึ่งเมื่อก่อนหน้านั้นเราเคยทำงานเป็นผู้จัดการบริษัท เราต้องทำงานถึง “3 วัน” (จริงๆแล้วเรารับเป็นเงินเดือน แต่นี่เทียบอัตราต่อวันให้ดู)  แล้วโดนหักภาษี แล้วโดนหักเงินประกันสังคม กว่าจะเหลือเงินกลับบ้าน 5,000 บาท เท่ากรรมกรก่อสร้าง !!!   นั่นก็แสดงให้เห็นว่า กรรมกรก่อสร้างทำงานได้เงินมากกว่าเราที่เป็นผู้จัดการบริษัท ถึง 3 เท่า....!!! ดังนั้น คนอังกฤษที่เรียนไม่เก่งจึงไม่ต้องร้องห่มร้องไห้พยายามเอ็นเขามหาลัยเอาปริญญามาให้ได้ แล้วก็ไม่ต้องฆ่าตัวตายเหมือนคนไทยถ้าไม่ได้ปริญญา และในประเทศอังกฤษก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีมหาลัยที่ต่ำกว่ามาตรฐานเพื่อมารองรับคนที่เรียนไม่เก่ง และไม่อยากเป็นกรรมกรเหล่านี้ เนื่องจากว่า “ในสังคมของคนอังกฤษ มหาเศรษฐีรุ่นหลังๆ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไต่เต้ามาจากการเป็นกรรมกรก่อสร้างนั่นเอง” แต่อีกหลายปีให้หลัง คือในปัจจุบันนี้ เราคาดว่า ในประเทศอังกฤษ คงมีมหาลัยในเชิงพาณิชย์ ที่มาตรฐานต่ำเกิดขึ้นบ้าง  ที่คิดเช่นนี้ ก็เพราะช่วงหลังๆนี้ ก็มีคนไทยจบจากมหาลัยในอังกฤษ แล้วไม่เก่งเอามากๆเลย เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากมาย  แต่มหาลัยอังกฤษที่ต่ำกว่ามาตรฐาน (ถ้ามีจริงในสมัยนี้) ไม่ใช่มีเพื่อรองรับคนอังกฤษที่เรียนไม่เก่ง เนื่องจากค่าแรงกรรมกรก่อสร้างในประเทศอังกฤษในปัจจุบัน คงเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขที่น่ากลัวมากๆ  ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ตอนเราอยู่เชียงใหม่ เราเห็นในคอนโดเดียวกับเรา มีฝรั่งคนอังกฤษเป็นกรรมกรก่อสร้างในลอนดอน มีภรรยาเป็นคนไทย มีลูกด้วยกัน เขามีเงินเลี้ยงภรรยาคนไทย เลี้ยงลูกให้สุขสบาย ในขณะที่เขาบินไปกลับลอนดอน-เชียงใหม่ เป็นว่าเล่นเลย (เพื่อไปทำงานก่อสร้างในอังกฤษ 2-3 เดือน แล้วกลับมาอยู่เมืองไทยเดือนหนึ่งสลับกัน) แล้วก็เก็บเงินใกล้จะซื้อบ้านหลังงามๆ ในเชียงใหม่ได้อยู่แล้ว !!! แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 51 01:26:39 จากคุณ : agelesstansy - [ 8 ก.ย. 51 01:20:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สรุป ดังนั้น ปัญหาการศึกษาของประเทศไทย จะแก้ไขได้ ก็ต้อง “เลิกกดขี่แรงงาน” เมื่อเลิกกดขี่แรงงาน ผลที่ตามมา ก็คือ ไม่มีความจำเป็นที่คนเรียนไม่เก่งจะต้องไปทนทุกข์ทรมาณเรียนเพื่อเอาปริญญามาทำงานนั่งโต๊ะในห้องแอร์เย็นๆ สบายๆ (เพราะไปเป็นกรรมกร ก็ลืมตาอ้าปากได้ และตั้งตัวได้)  และมหาลัยในเชิงพาณิชย์ก็จะต้องปิดกิจการไปหมด เนื่องจากไม่ได้เป็นอัศวินม้าขาว มาช่วยคนเรียนไม่เก่ง และคนไม่อยากเรียน อีกต่อไปแล้ว ในขณะที่มหาลัยดีๆ ของไทย ก็จะผลิตนักศึกษาที่เก่งๆ จริงๆ ที่อยากเรียนจริงๆ เพราะรักและสนใจในวิชาที่เรียน (ไม่ใช่แค่เรียนเพื่อเอาเศษกระดาษมาสมัครงานเพื่อสร้าง "ความไม่เจริญ" ให้แก่หน่วยงานต่างๆ และแก่ประเทศชาติ)  ให้ออกมาทำงานเพื่อ "สร้างความเจริญ" ให้แก่หน่วยงานต่างๆ และแก่ประเทศชาติ   นี่คือสัจธรรม...ที่หลายๆคนไม่เคยคิด เพราะมัวแต่ไปบ่นๆๆๆเรื่องระบบการศึกษาไทย หรือบ่นๆๆๆๆว่า นักศึกษาสมัยนี้เป็นอะไรกัน?  แต่เราคิดเรื่องนี้ได้มาตั้งนานนมแล้ว แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 51 01:48:59 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 51 01:40:37 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 51 01:32:23 จากคุณ : agelesstansy - [ 8 ก.ย. 51 01:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเห็นกระทู้แบบนี้...ในห้องสมุด.. จากคุณ : หมู4X - [ 8 ก.ย. 51 10:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ agelesstansy เขียนได้ดีมากครับ ผมเห็นด้วยเลย วิธีแก้ไขจะทำอย่างไรกันดี ส่วนคำถามของ จขกท ขอถามเป็นข้อๆ นะครับว่า 1. อะไรคือแรงผลักดันที่ทำให้คุณต้องทำเช่นนี้ คุณต้อง defense dissertation เร็วๆ นี้ ทำไม่ทัน หรือว่าคุณเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้เลย (ซึ่งผมก็เคยเขียนไม่ได้เลยมาก่อน) 2. ประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษของคุณเป็นอย่างไร ฟัง พูด อ่าน เขียน มีปัญหาหรืออุปสรรคตรงไหน ดูจากคำถามคงจะมีปัญหาการเขียน ซึ่งก็เป็นปัญหากับคนทุกคนที่เรียนภาษาที่สอง แต่ต้องพยายาม 3. ในมหาวิทยาลัยคุณมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ หรือว่า มีระบบ tutoring ภาษาอังกฤษหรือไม่ ซึ่งน่าจะมีและมีเยอะแยะเลย 4.อาจารย์ที่ปรึกษาของคุณ มีคำแนะนำอย่างไรกับสารนิพนธ์ของคุณ รวมถึงปัญหานี้ หรือว่าอาจารย์แนะนำว่า จ้างให้คนอื่นแปลให้ก็ได้ไม่เป็นไร ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ แต่ผมว่าถ้าอาจารย์ที่ปรึกษาคุณแนะนำเช่นนั้นก็ไม่ดีเลยครับ เป็นอาจารย์ที่ไม่ดี ไม่มีจรรยาบรรณ ผลเสียจะตกอยู่ที่ตัวบัณฑิตที่จบออกไปมากเลยครับ ถ้าคิดว่าคำถามผมมีประโยชน์ก็ช่วยตอบด้วยนะครับ เพราะผมไม่เห็นด้วยที่จะให้คนอื่นแปลงานให้คุณ โดยเฉพาะงานที่คุณ(เชื่อว่า) ทำมากับมือตัวเอง ลงแรงกาย แรงใจ แรงสมองทุกอย่าง กับมัน ถ้าคุณเองยังไม่เข้าใจ จะไปบอกคนอื่นได้อย่างไรว่านี่คือสิ่งที่คุณทำ  ผมยังเชื่อมั่นในคำที่ว่า ความรู้เกิดจากประสบการณ์ โดยเฉพาะเรื่องภาษาครับ  แต่ปัญหาอยู่ที่ไหน ต้องค่อยๆ แก้ค่อยๆ ฝึกครับ ตอนนี้อายุผมจะสามสิบแล้วผมก็ยังต้องฝึกภาษาไปเรื่อยๆ ครับ ถูกบ้างผิดบ้าง แต่ก็พยายามฝึกไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งผมคงจะก้าวผ่านไปได้ เพราะผมเองก็ไม่รู้ภาษานี้ตั้งแต่เกิด แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 51 12:43:28 จากคุณ : cheychai - [ 9 ก.ย. 51 11:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นกระทู้นี้มีคนตอบเยอะ รีบคลิกเข้ามาดู นึกว่าแย่งกันรับทำ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : มะเขือเทศโรเซียน่า - [ 19 ก.ย. 51 18:06:35 ]