ความคิดเห็นที่ 1 รอดตัวไป ไม่เสียเงินค่าอบรม เพราะเราฉีกหนังสือเรา แล้ว scan ด้วย scanner ความเร็วสูง (หนังสือ 300 หน้า จะscan ไม่เกินครึ่งชั่วโมง) เพื่อจัดเก็บเป็น *.pdf files ใส่ไว้ในแผ่น DVD's หมด เก็บแบบนี้ หนังสืออยู่ได้เป็นร้อยๆปี  ไม่มีหน้าเหลือง ไม่โดนปลวกกิน ไม่โดนความชื้นพัง  และเพื่อความปลอดภัยเราจะทำ backups ไว้บน hard disks หลายตัว และมี backups อีกหลายชุดโดยการทยอยส่ง mails หาตัวเอง และทยอยส่งไปเก็บไว้บนพื้นที่จัดเก็บแบบ online อีกด้วย ถ้ากลัวข้อมูลหายละก้อ... และโชคดีอีกหลายๆชั้นที่ตามมา นั่นก็คือ ช่วงหลังๆนี้ เราแทบไม่ต้องฉีกหนังสือแล้ว scan ให้เสียเวลาเลย เนื่องจากว่า เราเล่นเน็ตซอกแซก จนหาแหล่ง download หนังสือที่เรามีอยู่ (เพื่อจัดเก็บ) หรือหาหนังสือใหม่ที่เรายังไม่มี (เพื่ออ่านและเพื่อจัดเก็บ) ในรูปแบบของ ebooks ได้เกือบหมด...แต่ของฟรีที่ download ได้นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือภาษาอังกฤษหมดเลย ก็เลยตอนนี้เราอ่านแต่หนังสือภาษาอังกฤษเพื่อเป็นการประหยัดเงินน่ะ... ดังนั้น ถ้าใครอ่านแต่หนังสือภาษาอังกฤษนะ แทบจะไม่ต้องเสียเงินซื้อเลย เว้นเสียแต่ว่า บางเล่มหายากๆ จะหาของฟรีไม่ได้นั่นเอง ก็เลยจริงๆ แล้วนะ เราน่าจะเปิดหลักสูตรอบรมการ "ถนอม" และ "สรรหา" หนังสือ (ภาษาอังกฤษ) ทั้งใหม่ และเก่า ด้วยเหมือนกันนะ จริงๆแล้วตอนนี้ ถ้าใครเล่นเน็ตซอกแซก ก็จะหาของฟรีได้เกือบหมดเลย ตั้งแต่ ebooks, audiobooks, software และ soundtrack movies ไอ้ soundtrack movies นี่ download มาแล้วดีใจอีตรงที่ ไม่ต้องดูภาพยนตร์ ที่โดนคนไทยเซ็นเซ่อร์ จนทำให้เสียรส น่ะ... เอ่อ ถ้าเราเปิดอบรมหลักสูตร "ถนอม" กับ "สรรหา" หนังสือ และสื่ออื่นๆ (เป็นภาษาอังกฤษ) ของเรานะ เราควรคิดค่ออบรม เท่าไหร่ดีล่ะ ชักอยากหารายได้พิเศษ กับเขา เหมือนกันนะ....555+++... แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 17:24:08 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 17:19:40 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 17:19:09 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 17:10:48 จากคุณ : agelesstansy - [ 25 ก.ย. 51 17:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เหมาะกับผู้ที่ต้องการอารมณ์สัมผัส อันนอกเหนือไปจากเนื้อหาสาระ แบบว่าถ้าเป็นหนังสือเก่าก็ต้องค่อยๆ บรรจงกรีดนิ้วเปิดแต่ละหน้า อ่านไปก็สูดกลิ่นความเก่าแก่ขรึมขลังของหนังสือไปด้วย  ซึ่งแบบนี้หาเสพไม่ได้จากอี-บุ้คดอกนะจะบอกให้ (ไม่เชื่อไปถามคุณแสนอักษรดูสิ) เห็นเคยมีสมาชิกหลายท่านในนี้สนใจไถ่ถามอยู่เรื่อยๆ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/02/K4083458/K4083458.html จากคุณ : พิมพ์รวี - [ 25 ก.ย. 51 22:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วิธีคุณแท่นสีก็เข้าท่าดีไม่หยอก แต่ติดอยู่ที่ชี้เกียจเอาหนังสือมาสแกนทีละหน้านี่สิ พอดีเครื่องสแกนที่บ้านก็ช้า...เหลือเกิน   จะหาดาวโหลด ก็ไม่ค่อยมี เพราะอ่านแต่หนังสือไทย ภาษาอังกฤษไม่แข็ง อิอิ  แต่ว่าก็จะเอาตำราสำคัญๆไปสแกนมั่งก็ดีเหมือนกันนะ เก็บไว้นานเดี๋ยวปลวกกิน เสียดาย จากคุณ : นก-หวีด - [ 27 ก.ย. 51 02:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีค่ะคุณพิมพ์รวี  ขอบคุณที่นำกระทู้เก่ามาลง พอได้หนังสือเก่าที่อยากอ่านมาเป็นสมบัติ  ก็รีบเก็บใส่ตู้กระจกบานเลื่อนที่อยู่ข้างหลังโต๊ะทำงาน รีบร้อนลุยงานที่ค้าง   ตอนจะไปนอนก็หยิบหนังสือเล่มโบราณที่เพิ่งได้ ไปนอนด้วย  วางไว้ที่โต๊ะเล็กๆข้างเตียง ไม่เปิดซอง  ไม่อ่านค่ะ    หาซองสายการบินเก็บผักผลไม้ ใส่ซองพลาสติคลง ตอนนี้มีซองสองชั้นแล้วนะคะ ตื่นเช้าก็นำหนังสือไปด้วย  วางไว้ข้างหลังที่ตัวนั่ง  อิอิ  อบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก บ้าสมบัติค่ะ  ไม่อ่าน   เพราะถ้าไม่มีเวลาพอที่จะบันทึกรายละเอียด  จะไม่เปิดหนังสือโบราณเลย เวลาผ่านไปหลายวัน   เซียนหนังสือเก่าโทรมาแซว   เล่าให้พวกเขาฟังว่าแค่มั่นใจว่ามีอยู่ในครอบครองก็พอแล้ว หนังสือโบราณบางเล่มกรอบมากค่ะ  เช่นพงศาวดารจีนฉบับพิมพ์โดยหมอบรัดเล  ต้องวางกระดาษแก้วใสทับขณะอ่าน  เพราะเนื้อกระดาษที่เก่าจนเป็นสีเหลืองและมีจุดสีน้ำตาลที่เรียกว่า foxed   มีพิษค่ะ  คัน และท้องแขนจะแดงก่ำถ้าไปถูกกระดาษเข้า   หนังสือโบราณเราจะไม่แตะต้องซ่อมแซมนะคะ   จะเอาไปอบที่หอสมุดก็กลัวโดยไล่ออกมาเพราะเข้าใจว่าคิวยาวมาก หนังสือนวนิยายรุ่น ๘๑ _ ๘๒  ซ่อมกันอุตลุดเลยค่ะ เห็นสหายที่เคารพนับถือซ่อมหนังสือเองกันทั้งนั้น เป็นคนจับหนังสือแรงค่ะ  แต่ตอนนี้ค่อยๆเปิดประมาณ  ๔๕ องศา แต่ก่อนใครให้ดูก็บรรจงหยิบมาแต่เปิดแผ่กลาง  โดนตีมือเลยค่ะ เซียนแลกเปลี่ยนหนังสือกัน  ก็ไปขออ่านคำนำ  เขาไม่ให้ค่ะ  เขาว่าอิฉันอ่านเร็ว ที่จริงเขาว่าว่าเปิดหนังสือกว้างไป ไม่ถนอมหนังสือ หนังสือที่พวกเราไม่ยอมรับคือหนังสือที่หน้าที่มีรูปขาด  เพราะสำคัญมาก   ท้ายเล่มขาดไป ๓๐ หน้าไม่เป็นไรค่ะ  วันหน้าหาเติมได้ ใครมีหนังสือเก่าในบ้านเก็บไว้ให้ดีนะคะ ผ่านมือบรรพบุรุษของเรามาแล้ว จากคุณ : แสนอักษร - [ 29 ก.ย. 51 21:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีครับคุณแสนอักษร ขอบพระคุณในความรอบรู้อันอุดมด้วยอรรถรส ที่เผื่อแผ่แก่ทุกคน ที่ผ่านมาตัวเองก็ซ่อมหนังสือเองอย่างคิดเองทำเอง ซึ่งยังไม่ดีเท่าที่ควร ได้ความรู้จากที่นี่ โดยเฉพาะคุณแสนอักษร ก็พอได้ต่อหางอึ่งบ้าง แต่ว่าก็ยังขาดความรู้อย่างที่มืออาชีพเขาทำ แล้วตอนนี้ก็เกิดความรู้สึกเพิ่มเติมขึ้นมาว่า นอกจากซ่อมหนังสือเก่าหนังสือชำรุดแล้ว หนังสือบางเล่มบางประเภทน่ะครับ อย่างเช่น สัพะ พะจะนะ พาสาไท (ที่พิมพ์ใหม่ เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ปี ๒๕๔๒) เวลามาจับมาใช้แล้ว ให้เกรงว่าปกจะขาดหลุดได้เนื่องเพราะความใหญ่โตแต่ทำปกไว้อย่างธรรมดา จึงคิดอยากปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และทำปกใหม่ให้แข็งแรง สง่างาม มีศักดิ์ศรีสมกัน เก็บไว้ใช้งานได้ชั่วลูกชั่วหลาน บางทีอาจจะออกแบบปกเลียนแบบของโบราณ หรืออย่างใดที่ใจอยากก็ได้ เวลาซ่อมทำหนังสือนี่รู้สึกว่ามีความสุขดีครับ ผมเองก็อยากจะเข้าอบรมครั้งนี้ด้วย เอาความรู้ไปดำเนินการอย่างที่คิดไว้ แต่ อ.สุวดี เจ้าของหลักสูตร ท่านว่าขณะนี้ยังมีผู้แสดงความจำนงไม่เพียงพอ ก็ขอเชิญท่านที่สนใจแทนเจ้าภาพด้วยครับ แล้วก็ขออนุญาตและขอบพระคุณเว็บมาสเตอร์พันทิปมา ณ ที่นี้ด้วย จากคุณ : พิมพ์รวี - [ 30 ก.ย. 51 00:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แพงอ่ะ  ไม่ไหวๆ  ถึงสนใจก็ต้องเอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะจ๊ะ จากคุณ : มินมู - [ 17 ต.ค. 51 20:05:04 ]