ความคิดเห็นที่ 1 คุณคิดได้อย่างนี้ก็แสดงว่า คุณเป็นนักแปลที่ "มีแววมากๆ" จากประสบการณ์ส่วนตัว เราพบว่า ปัญหาในการแปลไทยเป็นอังกฤษนั้น นอกจากนักแปลจะต้องเขียนภาษาอังกฤษไม่ให้ grammar และ sentence structure หลุดจนแสดง non-native speaker's errors จนมากมายน่าเกลียด แล้ว เขายังมีอันตรายอีกหลายอย่างที่จะต้องฝ่าฟัน นั่นก็คือ "การแปลไทยเป็นไทย" ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นการ "แก้ข้อผิดพลาดในภาษาไทยให้คนที่เขียนต้นฉบับภาษาไทย" นั่นเอง มาดูตัวอย่างกัน ภาษาไทยที่ฆ่านักแปล แปลไทยเป็นอังกฤษข้อความข้างล่างนี้คัดมาจากงานแปลที่ตนเองทำไปแล้ว วัตถุประสงค์คือเพื่อสาธิตให้เห็นถึงลูกเล่นที่แพรวพราวในภาษาไทย (จริงๆแล้วคนไทยส่วนใหญ่เขียนหนังสือไม่เป็นระเบียบเพราะ "ระบบตรรกะชำรุด"เนื่องจากกินน้ำตาลกับผงชูรสมากเกินต่างหาก) ซึ่งถ้านักแปลไม่ไหวทันก็จะแปลผิดเพียบเลย หรือแปลออกมาแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง Source text (ภาษาต้นทาง...ตำรวจเขียนมาแบบนี้จริงๆ): นางสาว S ให้การว่าเป็นผู้จัดการของบริษัท D จำกัด ซึ่ง Mr. A พร้อมด้วยนาย K เพื่อนของ Mr. A เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการดำน้ำของบริษัทโดยมีนาย E นาย G เป็นครูฝึกดำน้ำและได้เสียขีวิตในครั้งนี้ โดยเป็นผู้แปลเอกสารตลอดเป็นล่ามแปลคำให้การของนาย K ที่ให้การต่อหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งรายละเอียดที่เกิดขึ้นตามที่นาย K ให้การทุกประการ A verbatim translation which doesn't make sense (คำแปลที่ได้จากการแปลตรงตัว โดยนักแปลแกล้งโง่ (หรือโง่จริงไม่ได้แกล้ง) ผลที่ได้คืออ่านไม่เป็นภาษาคน): Miss S made a statement saying that she is the manager of D Co., Ltd. where Mr. A along with Mr. K, his friend, were the customers who used the diving service of the company where Mr. E and Mr. G were diving instructors and died at this time by being the translator and intepreter who translated the statement of Mr. K who made such statement in the presence of the investigation officer and that the details of what had happened tallied in all respects with the statement made by Mr. K. อ่านมะรู้เรื่องฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นักแปลมือใหม่ ที่รับงานแปลราคาต่ำๆ ตัดราคาชาวบ้านเขา ต้องแปลแบบนี้จริงๆ เพราะเรียงประโยคภาษาปลายทางไม่ถูก  บางทีนักแปลที่ชำนาญถ้าโดนลูกค้ากดราคามากๆ ก็ต้องแปลดำน้ำแบบนี้จริงๆ เพราะถ้ามัวแต่ไปแปลไทยเป็นไทย แล้วแปลเป็นอังกฤษ จะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ Try again. คราวนี้ลองดูใหม่ (ถ้าให้เงินเรามากหน่อย เราจะมีเวลาเรียบเรียงให้ใหม่) A free translation rendered after carefully thinking what the writer really meant to say (คำแปลที่ได้จากการจัดรูปประโยคโดยอิสระ หลังจากที่นักแปลได้คิดให้รอบคอบแล้วว่าคนเขียนต้นฉบับภาษาไทยต้องการพูดว่าอะไรกันแน่): Statement made by Miss S: I am the manager of D Co., Ltd. Mr. A and his friend, Mr. K, were the divers who used our service. Mr. E and Mr. G are our diving instructors. They were on duty that day. (expansion based on the information obtained from other parts of the original document ขยายความโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากส่วนอื่นของเอกสารต้นฉบับ). Mr. A went diving and he died of heart failure. Annotation (คำอธิบาย): It is an expansion based on the information obtained from other parts of the original document เป็นการแปลขยายความโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากส่วนอื่นของเอกสารต้นฉบับ) I interpreted the statement made by Mr. K in your presence. Note (หมายเหตุ: Not in the presence of the investigation officer. ไม่ใช่ต่อหน้าพนักงานสอบสวน Why เพราะอะไร.......???? Because Miss S is the "first person" talking to the investigation officer, who is the "second person." เพราะว่านางสาวเอสคือ "บุรุษที่หนึ่ง" ซึ่งพูดกับพนักงานสอบสวนที่เป็น "บุรุษที่สอง" อ่านแล้วมึนหรือเปล่า? Well, most Thai writings are confusing. อืม จริงๆแล้วภาษาไทยที่เขียนกันอยู่น่ะ ส่วนใหญ่อ่านแล้วก็สับสน.......... You have to translate them from Thai into Thai before you can translate them into English คุณจะต้องแปลไทยเป็นไทยเสียก่อนแล้วจึงจะแปลเป็นอังกฤษได้). Continue แปลต่อ I hereby declare that the statement made by Mr. K gave a full and clear account of the incident. แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 17:35:35 จากคุณ : agelesstansy - [ 29 ก.ย. 51 17:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ของเก่าเอามาเล่าใหม่ (งมมาจากกระทู้เดิมคืออันนี้ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/08/K6893719/K6893719.html   )เพราะมันเป็น classic example จริงๆ การแปลไทยเป็นอังกฤษถ้าเป็นงานก๋วยเตี๋ยวเรือ (งานแปลราคาถูกๆที่ต้องเร่งๆมากๆเนื่องจากนักแปลโดนกินหัวคิวไปแล้ว 50%) บางทีถ้านักแปลไม่มีประสบการณ์ แล้วยิ่งไม่มีเวลาอ่านต้นฉบับดีๆ พอแปลเสร็จแล้ว กลายเป็นอ่านไม่รู้เรื่องก็มี เนื่องจากนิสัยคนไทย เวลาเขียนจะเขียน “โกหก” แล้วนักแปลต้องคอยตามแก้ให้  ยกตัวอย่างเช่นประโยคนี้ (เราเอาข้อความงานที่กำลังแปลมา ชำแหละประโยคให้ดู แต่เปลี่ยนตัวเลข เปลี่ยนวันที่ และเปลี่ยนจำนวนเงิน เพื่อรักษาความลับของลูกค้า) “โจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันตามเอกสารหมาย จ.20 แผ่นที่ 2 ข้อ 1 ว่าแบบที่อนุมัติการก่อสร้างหลังจากวันที่ 30มีนาคม 2543 ถือเป็นงานเพิ่ม นอกเหนือจากวงเงิน 100,000,000 บาทตามสัญญา" ให้สังเกตดูดีๆ ว่าภาษาไทยมัน “ตรรกะชำรุด”  เพราะเขาเขียนว่า  “แบบ” = “งานเพิ่ม” แต่จริงๆแล้วมันผิดหลักเหตุผล  “งานก่อสร้าง” ต่างหากล่ะ  ที่เป็นงานเพิ่ม ....555+++... เห็นหรือยังว่า การต้องการงานราคาถูกๆ แล้วแปลไวๆ ถ้ามีประโยคนี้อยู่หลายๆแห่งในเอกสาร นักแปลจะช่วยแก้ให้ลูกค้าไม่ทัน แล้วมันก็จะเป็นผลเสียแก่ลูกค้าด้วย ...และเราตกใจมากที่ลุกค้ารายนี้ ใช้บริการก๋วยเตี๋ยวเรือ เนื่องจากว่า มูลค่าที่ฟ้องร้องกันนั้น ถึงเราจะแก้ไขตัวเลขแล้วเพื่อไม่เป็นการนำข้อมูลลูกค้ามาเปิดเผย แต่ตัวเลขจริง มันก็ใกล้เคียงที่แปะไว้ ....ซึ่งลูกค้าจะรู้หรือไม่ว่า “เสี่ยงมากๆเลยที่จะจ้างนักแปล ให้แปลงานถูกๆ แล้วเร่งน่ะ” ลองแกล้งแปลจากซ้ายไปขวา เหมือนนักแปลหน้าละ 100 บาทสิ ที่กำลังตกงานสิ.... “โจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันตามเอกสารหมาย จ.20 แผ่นที่ 2 ข้อ 1 ว่าแบบที่อนุมัติการก่อสร้างหลังจากวันที่ 30มีนาคม 2543 ถือเป็นงานเพิ่ม นอกเหนือจากวงเงิน 100,000,000 บาทตามสัญญา" "The Plaintiff and the Defendant have entered into an agreement, stating that the approved drawings for construction after March 30, 2000 shall be regarded as additional works on top of the sum of 100,000,000 under the Contact, the details of which appear in Clause 1, Sheet 1,  Exhibit Jor.20." ให้สังเกตดูดีๆ ว่าคำแปล ภาษาอังกฤษ ดูเหมือนจะแปลตรงตัวตามภาษาอังกฤษ แต่ต้องรีบๆ พิมพ์จากซ้ายไปขวา เพราะได้ค่าแปลแค่ 100 บาท มัวแต่คิด นักแปลจะกินแกลบ เพราะกำลังตกงานอยู่ด้วย  แต่จริงๆแล้วมันเป็นการแปลผิด และ ประโยคภาษาอังกฤษก็เพี้ยนอีกด้วย ที่เพี้ยนอีกแห่งก็คือ additional works on top of the sum of 100,000,000 baht มันผิดตรรกะ เพราะ additional works มันจะไปอยู่ on top of the sum of 100,000,000 baht  มันเป็นไปไม่ได้ .....!!!! มันเพี้ยนทั้งตรรกะ และเพี้ยนทั้ง grammar !!! และที่ต้องแปลแบบนี้ ก็เพราะว่า นักแปล แปลจากซ้ายไปขวาไวๆเพื่อที่จะรับทรัพย์หน้าละ 100บาท โดยรู้เท่าไม่ถึงการ เพราะคิดว่าง่าย ยังไงล่ะ และลูกค้าก็ซวยไป เพราะคิดว่า 100 บาท เป็นราคาที่ถูกดี ประหยัดดี เนื่องจากลูกค้า ไม่รู้อันตรายของการแปลงานราคาถูกๆ แล้วแปลไวๆ เหมือนทำก๋วยเตี๋ยวเรือ นั่นเอง ....!!! .......... แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 19:22:32 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 17:45:42 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 17:43:58 จากคุณ : agelesstansy - [ 29 ก.ย. 51 17:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ถ้านักแปลได้เงินมากกว่านั้นสักหน่อยนะ เขาก็จะเรียบเรียงประโยคได้ ถึงจะไม่สวยหรูมากนัก หรือเผลอๆถึงจะผิด grammar นิดๆ แต่ไม่น่าเกลียดนักนะ แต่ก็พอจะสื่อความ ได้อย่างถูกต้อง และไม่เป็นปัญหาในการฟ้องร้องกันเงินมากมายขนาดนั้น ก็ลองแปลใหม่ดู ก่อนอื่นเราต้องแปลไทยเป็นไทยก่อน (คือแก้ไขภาษาไทยที่ “ตรรกะชำรุด” ให้ทนายก่อน) “โจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันตามเอกสารหมาย จ.20 แผ่นที่ 2 ข้อ 1 ว่าแบบที่อนุมัติการก่อสร้างหลังจากวันที่ 30 มีนาคม 2543 ถือเป็นงานเพิ่ม นอกเหนือจากวงเงิน 100,000,000 บาทตามสัญญา" แก้เป็น “โจทก์และจำเลยมีข้อตกลงกันตามเอกสารหมาย จ.20 แผ่นที่ 2 ข้อ 1 ว่างานก่อสร้างที่ต้องทำตามแบบก่อสร้างซึ่งอนุมัติหลังจากวันที่ 30 มีนาคม 2543 ให้ถือเป็นงานเพิ่ม นอกเหนือจากวงเงิน 100,000,000 บาทตามสัญญา We (ไม่ใช้ the Plaintiff แต่ใช้บุรุษที่ 1 แทน เพราะโจทก์ เป็นคนเขียนคำฟ้อง และใช้ we เพราะมันเป็นบริษัท) and the Defendant have entered into an agreement, stating that the constructions done according to the as-built drawings approved after March 30, 2000 shall be regarded as additional works not covered by the contract price of 100,000,000 baht, the details of which appear in Clause 1, Sheet 2, Exhibit Jor. 20.   ให้สังเกตดูว่า คำแปลใหม่นี้ ถึงแม้จะปั่นๆมา แบบไม่ค่อยจะสวยนัก แต่นักแปล ก็ได้ แก้ไขสิ่งที่ลูกค้า “เขียนโกหก(โดยไม่รู้ตัว)” เมื่อลูกค้าพยายามพูดว่า “แบบ” = “งานเพิ่ม” ซึ่งจริงๆแล้ว ตามความคิด ของคนที่ระบบตรรกะยังไม่ชำรุดนั้น  เขาจะต้องตระหนักได้เองว่า สิ่งที่เป็น “งานเพิ่ม” นั้น จะต้องเป็น “งานก่อสร้าง” อย่างแน่นอน แล้วอาจจะ “บวกงานออกแบบเข้าไปอีกด้วย ....?”  ซึ่งนักแปล ก็จะต้องค้นหาความจริง ว่า “ใครกันแน่ที่ต้องรับเหมางานออกแบบไป” ซึ่งถ้าในเนื้อเรื่องมันไม่มีบริบทให้ตีความนะ นักแปล ก็จะต้องเดาไป เนื่องจากนักแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ(งานแปลราคาถูกๆที่นักแปลโดนบริษัทแปลกินหัวคิว 50%)  ไม่มีทางได้พูดกับลูกค้า เพราะร้านแปลกลัวนักแปลแย่งลูกค้า  ดังนั้น นักแปลที่รับงานโดยตรงจะแปลได้ถูกต้องมากกว่าเนื่องจากว่าจะมีโอกาสถามลูกค้าได้ แต่แท้จริงแล้ว ในเรื่องนี้ ถ้าอ่านตอนต้นๆ จะเห็นว่า จำเลยจ้างผู้อื่น (ที่ไม่ใช่โจทก์) ทำงานออกแบบ ดังนั้น "แบบ"ในที่นี้ ต้องไม่ใช่ "งานเพิ่ม" ที่โจทก์ต้องทำอย่าง อย่างแน่นอน ดังนั้น จึงเข้าข่ายว่า ในที่นี้ ทนายความ "ตรรกะชำรุด" ทำให้นักแปลที่รีบๆแปล อาจพลาดท่าแปลผิดก็ได้ ถ้าไม่ระวัง" แล้วที่แก้มาให้อีกส่วนหนึ่งก็คือ แทนที่จะแปล “นอกเหนือ” เป็น “on top of” ซึ่งมันแปลแบบ “โดนภาษาไทยหลอก” (จริงๆแล้ว แกล้งแปลผิดมาให้ดู เพื่อสาธิตว่า ถ้านักแปลรับค่าแปลต่ำๆ แล้วต้องรีบแปล หรือนักแปลไม่ชำนาญจริงๆ จะโดนภาษาไทยหลอกเอาได้)  จนคำแปลภาษาอังกฤษ มันเป็นขยะไปนะ... เราจะเปลี่ยนเป็น additional works not covered by the contract price of 100,000,000 baht ซึ่งจะอ่านดูเหมือนภาษาคนมากกว่า ....... แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 17:50:02 จากคุณ : agelesstansy - [ 29 ก.ย. 51 17:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คำฟ้องที่เราต้องแปล ที่ทนายโจกท์เขียนมา แล้วเขียนเรื่องโกหก ทั้งเรื่อง บางทีโกหกโดยไม่ตั้งใจ เพราะตัวทนายเอง " ระบบตรรกะชำรุด" เพราะเขาคิดอย่างหนึ่ง แต่ดันไปเขียนอีกอย่างหนึ่ง โชคดีเป็นของโจทก์ ที่เราเป็นแค่นักแปล เราไม่ใช่ทนายฝ่ายจำเลย เพราะถ้าเราเป็นทนายฝ่ายจำเลย เราจะเล่นงานโจทก์กลางศาล โดยการให้การต่อศาลว่า "คำฟ้องของโจทก์ ตีความได้ว่า  “แบบ” = “งานเพิ่ม” แต่คำฟ้องตอนแรกของโจกท์ ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า "โจทก์ได้ว่าจ้างผู้รับเหมารายอื่น (ซึ่งไม่ใช่จำเลย) ให้ทำงานออกแบบ" ดังนั้น จึงถือว่า โจทก์ "พูดโกหก" หรืออย่างน้อยๆก็ "พูดจาเลอะเลือน ขัดกันเอง" และก็ควรสันนิษฐานได้ว่า คำฟ้องส่วนที่เหลือของโจทก์ ก็จะเป็นการ "พูดโกหก" หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ "ไม่น่าเชื่อถือ" อีกด้วยเช่นกัน" งานชิ้นนี้ ลูกค้าไม่ตระหนักว่า เราต้องแก้ภาษาไทยในเอกสาร ให้ถูกต้อง มากมายหลายแห่ง ก่อนที่จะแปลเป็นอังกฤษได้ แต่ลูกค้าไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร ก็เลยโทรไปเร่งบริษัทแปล ทุกๆวัน บริษัทแปลก็โทรไปเร่งนักแปล วันละ 4-5 รอบ โดยไม่ยอมให้ลูกค้ากับนักแปลคุยกันว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น เนื่องจากบริษัทแปลกลัวลูกค้าไปแปลกับนักแปลโดยตรงโดยไม่ผ่านบริษัทแปล ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงบานปลายถึงขั้น ที่ ถ้านักแปลอยากได้เงิน ก็ต้องรีบๆแปล แล้วแปลผิด  (เพราะนักแปลไม่มีเวลาแก้ภาษาไทยให้ลูกค้า) ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้แก่ลูกค้า หรือไม่นักแปลก็ต้องคืนงานไป(คือเลิกแปลงานชิ้นนี้เพราะจะได้เลิกเครียด) หรือนักแปลอาจทำใจเย็นๆ แปลไปเรื่อยๆ แบบทองไม่รู้ร้อน (เพราะรำคาญโดนเร่งยิกๆ วันละ 4-5 รอบ) จนกว่าลูกค้าจะยกเลิก (บอกว่าไม่ต้องแปลแล้ว) ซึ่งหากความเป็นไปได้ เป็น 1 ใน 2 กรณีหลังนี้ ก็จะส่งผลร้ายต่อ บริษัทแปล ไม่ว่าจะลงเอยแบบไหน ก็ตาม... จากคุณ : agelesstansy - [ 29 ก.ย. 51 17:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆแล้วคำฟ้องชุดนี้ เราไปได้งานราคาถูกมา เพราะช่วงนี้หางานราคาแพงๆหน้าละ 500 บาท - 700 บาท หรือหน้าเป็นพัน หาไม่ได้เลย เศรษฐกิจมันแย่ เราเลยรับงานชุดนี้มาแค่หน้าละ 200 บาทเอง บริษัทแปลรับหน้าร้าน 400 บาท แล้วกินหัวคิว 50% แล้วจ่ายเรา หน้าละ 200 บาท ลูกค้าแปลมาเอง 8 หน้าแรก มาให้ดู เป็น sample (โดยที่ลูกค้าไม่รู้ว่า เป็น sample ที่ห่วยมากๆ) เพราะ คำแปลภาษาอังกฤษ 8 หน้าแรก ของลูกค้า มี non-native speaker's errors มาก (คนแปล ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทลูกค้า ไม่รู้ตัวว่าเขียนภาษาอังกฤษแย่มากๆ) พอเราแปลช้า "เพราะเรามัวแต่แก้ภาษาไทยให้ทนายความ" ปรากฎว่า อยู่ดีๆ ลูกค้า โทรมายกเลิกงานชิ้นนี้ กับบริษัทแปล โดยอ้างว่า ผู้บริหาร (คนที่แปล 8 หน้าแรก) ทนรอไม่ไหว เลยแปลต่อจนจบ เราหัวเราะก๊ากๆๆๆๆ เสียง ดังลั่นบ้านเลย เพราะว่า "ถ้า 8 หน้าแรก นะ คำแปลของผู้บริหาร เขามีข้อบกพร่องคือ ภาษาอังกฤษ มี non-native speaker's errors มากจนประโยคหลงทาง และเขาไม่มีความชำนาญในการที่จะ organize ideas (ที่เละ) ของทนายความ ให้ออกมาดีๆ (โดยแก้ข้อผิดพลาดของทนาย) ได้นะ โอกาสที่เขาจะแปลผิดหรือแปลออกมาแล้วอ่านไม่เป็นภาษาคน มันมีมากถึง 100%" แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 18:02:00 จากคุณ : agelesstansy - [ 29 ก.ย. 51 17:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แปลไทยเป็นไทย (ภาษาไทยที่ฆ่านักแปล) เอามาฝากอีกประโยคหนึ่ง นี่เป็นงานแปลของสถานทูตแห่งหนึ่ง เอกสารนี้ตำรวจเขียนแบบนี้ Source text (ภาษาต้นทาง): การสอบสวนชันสูตรพลิกศพเป็นความตายมิได้เป็นผลแห่งการกระทำผิดทางอาญา เห็นควรดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 วรรคแรกต่อไป This is a verbatim translation (นี่เป็นการแปลตรงตัวนะ) Target text (ภาษาปลายทาง): Investigation autopsy are death not caused by criminal acts. Should proceed according to Criminal Procedure Code of Thailand, Section 150, First Paragraph in due course. อ่านไม่รู้เรื่อง ใช่มะล่ะ .....จริงๆแล้วประโยคภาษาไทยก็ผิดพลาดในเชิงตรรกะ แต่นักแปลแกล้งโง่ และแกล้งเขียนภาษาอังกฤษให้เพี้ยนๆตามภาษาไทยนั่นแหละ The influence of the Thai language is so great, hence the English translation has turned out to be absolute nonsense. เนื่องจาก "การสอบสวนชันสูตรพลิกศพ" ไม่ใช่ "ความตาย" คนเขียน "พูดโกหก" แต่คนไทยหลายๆคน ไม่มีใครท้วงติงเพราะต่างก็บิดสมองทำความเข้าใจประโยคแบบนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต ...ดังนั้นประโยคภาษาไทยที่มี inconsistencies คนไทยยังถือว่ามี consistencies Try again (ลองใหม่) Source text (ภาษาต้นทาง): การสอบสวนชันสูตรพลิกศพเป็นความตายมิได้เป็นผลแห่งการกระทำผิดทางอาญา เห็นควรดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 วรรคแรกต่อไป Target text (ภาษาปลายทาง): The investigation and (ภาษาไทยตกคำว่า "และ") autopsy revealed that (ภาษาไทยตกคำว่า "แสดงให้เห็นว่า") such death was not caused by any criminal acts. It is therefore appropriate that the case be dealt with (ภาษาไทยคำว่า "เห็นควรดำเนินการ" มีความเลอะเลือนอยู่ในตัว) pursuant to Paragrpah One, Section 150, Criminal Procedure Code of Thailand. ตกลงเป็นอันว่า translation from Thai into English มักลงเอยด้วยการ"แปลง" เพราะถ้าไม่ "แปลง" บางทีเคราะห์หามยามซวย (ไม่รู้ใครซวย) เจอเอกสาร 500 หน้า มีแต่ประโยคที่คน (ไทย) เขียนพูด "โกหก" หรือพูดเรื่องที่ "เป็นไปไม่ได้" หน้าละ 2-3 ประโยค (ความถี่ขนาดนี้นับว่าเป็นเรื่องปกติของการเขียนหนังสือของคนไทยทั่วๆไป) ....หากนักแปลแปลจบโดยไม่แปลง ผลงานแปล (translation) ต้องเอาไปทิ้งถังขยะสถานเดียว....!!! แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 18:10:23 จากคุณ : agelesstansy - [ 29 ก.ย. 51 18:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หมายเหตุ ในการแปลไทยเป็นอังกฤษ นักแปลที่ชำนาญมักจะต้องคอยแก้ไขภาษไทยให้ลูกค้าอยู่เสมอ เนื่องจาก "ภาษาไทยเป็นภาษาที่มหัศจรรย์มากๆ"   และ "ความมหัศจรรย์ของภาษาไทยทำให้คนไทยส่วนใหญ่พูดโกหกโดยไม่รู้ตัว  คือตั้งใจจะพูดหรือเขียนอย่างหนึ่ง แต่กลายเป็นพูดหรือเขียนออกมาอีกอย่างหนึ่ง"  ซึ่งเราเชื่อว่าต้องจัดอยู่ในประเภทที่เรียกว่า "ระบบตรรกะชำรุด" เนื่องจาก "กินน้ำตาลกับผงชูรสมากเกิน"   ทำให้เวลาแปลเป็นอังกฤษ แล้วมันออกมาเป็นขยะเกือบหมด ยกตัวเช่นหลายวันมาแล้ว เรานั่งกินอาหารในร้านญี่ปุ่นอยู่กับเพื่อน เพื่อนเราดูเมนู แล้วมองหา "กุ้งธรรมชาติ" ปรากฏว่า มันไม่มีเสียแล้ว (พอถามพนักงานเสิร์ฟ พนักงานบอกว่า "ไม่มีแล้ว")  พวกเราก็เลยสั่งปลานึ่ง กับอาหารอย่างอื่นมา แล้วเพื่อนเราบอกว่า "มันไม่อร่อย" พอกินเสร็จ เพื่อนเราก็พูดว่า "เมนูร้านนี้ไม่อร่อยเหมือนแต่ก่อนแล้ว" เราตอบว่า "เมนูร้านนี้ไม่เคยอร่อย" เพื่อนเรา "...???" เราอธิบายว่า "พวกเราไม่เคยเข้ามา "กินเมนู" ในร้านนี้ แต่เข้ามา "กินอาหาร...555+++..." นั่นก็หมายความว่า ในการแปลไทยเป็นอังกฤษนั้น นักแปลที่ชำนาญ ถ้าไปเจอเอกสารแบบนี้เข้า บางทีกลายเป็นแปลช้ากว่า นักแปลเที่ยังไม่ชำนาญ นั่นก็เพราะว่า "นักแปลที่ชำนาญ จะรู้ว่าภาษาไทยมันหลอกนักแปลตรงไหน  และเขาจะคอยแก้ภาษาไทยที่ลูกค้าเขียนผิดตรรกะ ให้ลูกค้าเพื่อประโยชน์แก่ลูกค้า นั่นเอง ในขณะที่นักแปลซึ่งขาดประสบการณ์จะแปลมันตรงๆตัว (โดยไม่คิด) แล้วก็จะแปลเร็ว จึงคิดค่าแปลถูกๆมาก แล้วก็ลงเอย "แปลผิด"...หรือแปลแล้ว "ออกมาเป็นขยะ"  นั่นเอง" ด้วยเหตุผลง่ายๆที่ว่า Many Thais do not say what they mean and do not mean what they say. จากคุณ : agelesstansy - [ 29 ก.ย. 51 18:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ทำอะไรครับ ผมไม่แปล ปวดหัวครับ หยิ่ง อิอิ จากคุณ : ลุดวิก - [ 29 ก.ย. 51 19:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอ่อตอบไปตอบมาแล้วเลยพูดนอกเรื่อง ใช่แล้วเรื่องจดหมายราชการนี้นะ บางทีถ้าเราเขียนคำแปลภาษาอังกฤษตาม format เดิมของภาษาไทย ที่ซ้ำไปซ้ำมา มันทำให้คนอ่านที่เป็นฝรั่งเจ้าของภาษางงมากๆเลยหละ เราเคยอ่านจับใจความภาษาไทยก่อน แล้วจัดลำดับคำ (paraphrased) ให้ดีๆเป็นภาษาอังกฤษ ผลปรากฏว่า พอส่งงานไปให้ลูกค้าที่เป็นบริษัทต่างชาติซึ่งมีฝรั่งเจ้าของภาษาอ่าน เขาจะรู้สึกขอบคุณเรานะ ที่เราเรียบเรียงใหม่ให้เขา  บางทีผู้บริหารที่เป็นคนไทยอ่านเข้าใจ ก็ชื่นชม ก็มี มีงานชิ้นหนึ่งเรื่องโครงการผลิตนมวัว ที่เราแปลเมื่อหลายปีแล้ว เราเรียบเรียงให้เขาใหม่ แล้วเขาโทรศัพท์มาขอพูดกับนักแปล (ตอนนั้นเราทำงานรับเงินเดือนในบริษัทแปล) นึกว่าจะโดนด่า ที่ไหนได้เขาบอกว่า "ตอนนี้ผมสั่งให้ลูกน้องผมแปลจากอังกฤษของคุณกลับเป็นไทยใหม่แล้ว เพราะภาษาอังกฤษของคุณกระชับไม่วกวนเหมือนต้นฉบับภาษาไทย" แต่ในทางกลับกัน บางทีคำแปลเอกสารบางอย่างต้องส่งไปให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยรับรอง พอเจ้าหน้าที่กระทรวงเห็นเราเรียบเรียงใหม่ ถึงคำแปลเราจะครบถ้วน ไม่ขาด ไม่เกิน และไม่สื่อความหมายที่ผิดๆ ก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่กระทรวง ซึ่งไม่มีความรู้ในเรื่องการแปล จะตีกลับมา ถึงเขามีความรู้เรื่องการแปล บางทีเขาก็ยังตีกลับมา...!!! แล้วแก้กลับเป็นเขียนวกๆวนๆแบบภาษาไทยเหมือนเดิม เพราะอะไรคุณรู้ไหม?  ตอบ เพราะว่า คำแปลที่ paraphrased ไปแล้ว มันตรวจยาก เพราะคนตรวจต้องสลับลำดับคำ กลับไปกลับมา กว่าจะรู้ว่าแปลถูก แปลครบ แปลพอดีไม่เกินนั้น ก็จะเสียเวลาตรวจนานกว่าตรวจคำแปลที่แปลจากซ้ายไปขวานั่นเอง และลูกค้าบางราย ที่ไม่เข้าใจเรื่องการแปล ก็จะแก้กลับไปเป็นแปลตรงๆตัว วกๆ วนเหมือนภาษาไทย ก็มี ซึ่งอันนี้ ถือว่า "ตัวใครตัวมัน" คำแปลคุณ ถ้าเขาไม่เอาไปตีพิมพ์ แล้วระบุว่าคุณเป็นผู้แปลน่ะ เขาจะไปปู้ยี่ปู้ย้ำอย่างไร ก็ตามใจเขาเหอะ คุณไม่ต้อง worry แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 19:09:16 จากคุณ : agelesstansy - [ 29 ก.ย. 51 19:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จริงๆแล้วคำฟ้อง ที่ทนายเขียนมาแบบระบบตรรกะชำรุดนี้ ที่ยกตัวอย่างมาให้ดูนะ ถ้าไปให้สำนักงานทนายความข้ามชาติแปลโดยผู้เชี่ยวชาญ เขาคงคิดค่าแปลหน้าละ 2,000 บาท ลูกค้าไม่ยอมเสียค่าแปลแพงๆแบบนั้นอย่างแน่นอน แต่ก็มั่นใจว่าบริษัทแปลจะให้บริการที่ดี ลูกค้าก็เลยไม่ยอมติดต่อกับนักแปลโดยตรง แต่หารู้ไม่ว่า ยิ่งจ้างบริษัทแปล ให้แปล ผลงานก็จะยิ่งตกต่ำลง ขนาดค่าแปลเหลือมาถึงเราแค่ หน้าละ 200 บาทเอง แต่เราก็ยังพยายามดั้นด้นแปลให้มันดีๆ แบบ นักแปลที่เป็น bilingual พอสมควร หากแต่ลูกค้า ไม่ยอมให้โอกาสเราเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งจริงๆแล้วถ้าลูกค้าจ้างเราโดยตรงแค่หน้าละ 500-700 บาท (ขึ้นอยู่กับจำนวนบรรทัด) เราจะแปลให้ดีๆเลยหละ เพราะเราอ่านภาษาไทยจนตีบททะลุหมดแล้ว และรู้อีกด้วยว่า จะแก้ภาษาไทยที่มีข้อผิดในเชิงตรรกะแบบไหนบ้าง แต่วงการแปลในเมืองไทยตกต่ำมากก็เพราะบริษัทแปลที่เป็นพ่อค้าคนกลางนี่แหละ มันแย่งงานนักแปลอิสระที่เป็นบุคคลธรรมดาไปเกือบหมดเลย เนื่องจากลูกค้าจะให้ความเชื่อถือบริษัทแปล โดยหารู้ไม่ว่า เขาจ่ายเงินค่าแปลไปเท่าไหร่ก็ตาม แต่ก็จะได้ผลงานในราคาเพียงแค่ครึ่งเดียว เนื่องจากนักแปล (ในกรณีของงานคำฟ้องนี้) ได้หน้าละ 200 เขาก็จะแปลให้คุณภาพหน้าละ 200 ไม่ใช่หน้าละ 400 บาท งานแปลจะดีหรือไม่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่ edit (ตรวจแก้) คำแปล เวลาเราแปลงานก๋วยเตี๋ยวเรือ หน้าละ 200 บาท เราไม่เคย edit เลย แต่มองๆผ่านๆ แล้วรีบๆพิมพ์ส่งไปเลย  แต่ตอนเราแปลงาน (ที่รับโดยตรงจากลูกค้า) หน้าละ 500 ถึงพันกว่าบาทหนั้น เราจะ edit ตั้ง 2-3 รอบแน่ะ ก่อนที่จะส่งงานให้ลูกค้า ... ดังนั้น เวลาแปลงานก๋วยเตี๋ยวเรือหน้าละ 200 บาท เราจะต้องทำจำนวนหน้าให้ได้อย่างน้อยๆ 12- 15 หน้าต่อวัน ม่ายงั้นหาเงินไม่พอค่าใช้จ่าย...แต่เวลาแปลงานอาหารฝรั่งเศสระดับโรงแรมหรูๆหน้าละ 500 ถึงพันกว่าบาท เราจะแปลได้อย่างมากแค่ 5-7 หน้าต่อวันเท่านั้นเอง เนื่องจากต้องพิถึพิถันตามอัตราค่าแปลที่เพิ่มขึ้น นั่นเอง แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 51 19:42:39 จากคุณ : agelesstansy - [ 29 ก.ย. 51 19:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จุใจ จขกท เขาละ นึกถึงคำนึงครับ Equal pay, equal work. จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 30 ก.ย. 51 07:24:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากครับ ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้คุยกับเพื่อนร่วมอาชีพแบบนี้ มีประโยชน์มากครับ จากคุณ : เติมไม่เต็ม - [ 30 ก.ย. 51 14:42:51 A:118.172.59.7 X: ]