Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เขาพระวิหาร ฟังจากคำบอกเล่าของคนที่ไปศาลโลกเอาเอง

    อยากให้พี่น้องรุ่นหลังได้รับทราบความเป็นจริงเรื่องเขาพระวิหารจากผู้ที่ได้ไปอยู่ในศาลโลก และที่เขาเขียนด้วยตัวเอง  จะได้มีความรู้เบื้องต้นในการกล่าวถึงคดีนี้อย่างถูกต้อง


    อยากจะขอคัดข้อความเกี่ยวกับกรณี   เขาพระวิหาร  ให้ได้รับรู้จาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
    จากคำไว้อาลัยในงานพระราชทานเพลิงศพ  พลโท บุศรินทร์ ภักดีกุล
    ของ   ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช   -  พันเอกพูนพล อาสนะจินดา

    ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช     “…ข้าพเจ้ารู้จัก ท่านพลโทบุศรินทร์ ภักดีกุล เมื่อยังเป็นนักเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ...นับแต่นั้นมาเราก็ไม่ได้พบกันอีก จนถึง พ.ศ. 2502 เกิดคดีปราสาทหินบนเขาพระวิหาร ซึ่งประเทศไทยตกเป็นจำเลย  ถูกเขมรฟ้องที่ศาลยุติธรรมนานาชาติ กรุงเฮ้ก ประเทศฮอลันดา  เรียกสั้นๆ ว่าศาลโลก...
    ส่วนคดีที่ศาลโลกนั้นโดยรู้ระแคะระคายมาก่อนว่าไทยจะถูกฟ้อง  รัฐบาลได้ตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เป็นกรรมการเตรียมคดีและกำกับคดีระหว่างเป็นความ  มีพระยาอรรถการีย์นิพนธ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน  กรรมการประกอบด้วยข้าพเจ้า นายทหารกรมพระธรรมนูญทหารบก (พลเอก สุข เปรุนาวิน) บายทหารกรมแผนที่ทหารบก
    ซึ่งพลโทบุศรินทร์  ภักดีกุลเป็นเจ้ากรม และผู้แทนกระทรวงต่างประเทศ  ทนายแก้คดีในชั้นเป็นความ  รัฐบาลแต่งตั้งฝรั่งผู้เชี่ยวชาญคดีศาลโลก 3 ท่าน กับข้าพเจ้าเป็นหัวหน้า
    ชั่วเวลาเกีอบหนึ่งปี กรรมการทำหน้าที่ค้นหาเอกสารที่จะส่งศาล ได้มาประมาณร้อยชุด  ส่วนใหญ่เป็นภาษาไทยที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษส่งศาล  การเตรียมคดีมีส่วนสำคัญพัวพันไปถึงที่แสดงเขตแดนระหว่างไทยกับเขมรที่เขาพระวิหาร  ซึ่งท่านเจ้ากรมแผนที่กับผู้ช่วยคือ นายพันโท พูนพล  อาสนะจินดา เป็นผู้ค้นค้วาได้มาแสดงตลอดจนให้หลักเกณฑ์ในทางวิชาการแผนที่
    ปี พ.ศ. 2503  เขมรยื่นฟ้องอ้างว่า เขตแดนระหว่างไทยกับเขมรที่เขาพระวิหารมีสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสให้ถือตามเส้นสันปันน้ำ ปราสาทหินบนเขาอยู่ในเขตแดนเขมร  ดังมีแผนที่ของฝรั่งเศสแสดงไว้
    ไทยให้การปฏิเสธต่อสู้ว่าถือตามเส้นสันปันน้ำ ปราสาทอยู่ในเขตแดนไทย  แผนที่ของฝรั่งเศสวาดเส้นสันปันน้ำไม่ถูกต้องตามความจริง
    ประเด็นจึงมีให้ศ่าลพิจารณาว่า เส้นสันปันน้ำอยู่ตรงไหน และแผนที่ของฝรั่งเศสที่ลากเส้นสันปันน้ำนั้นถูกต้องหรือไม่
    สันปันน้ำคือยอดเขา ซึ่งเมื่อฝนตกลงมา จะแบ่งน้ำฝนให้ไหลลงไปคนละทาง เมื่อฝนตก น้ำฝนไหลจากยอดเขาไปทางใต้สู่ประเทศหนึ่ง ทางเหนือสู่อีกประเทศหนึ่ง ยอดเขาหรือสันเขาที่ปันน้ำฝนนี้ถือเป็นเขตแดน
    ยอดเขาพระวิหารที่เป็นสันปันน้ำ ไม่เหมือนยอดเขาธรรมดา เพราะตรงที่ปราสาทหินตั้งอยู่ยอดเขาทางทิศใต้เป็นหน้าผาเขาชะโงกหักดิ่งลงไปสู่แผ่นดินเขมร  ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง จะตั้งอยู่ได้แต่ทางเหนือ เขาลาดจากยอดเขาสันปันน้ำลงไปสู่แผ่นดินไทย  ตัวปราสาทหินตั้งอยู่ห่างจากสันปันน้ำลงมาทางเหนือ  เมื่อฝนตก น้ำฝนไหลจากยอดเขาผ่านปราสาทตามลาดลงไปสู่แผ่นดินไทย ปราสาทจึงตั้งอยู่ในเขตแดนไทย  แผนที่ฝรั่งเศสไม่วาดตามเส้นสันปันน้ำนี้  แต่วาดล้อมปราสาทไปไว้ทางทิศใต้  จึงไม่ถูกต้องตามความจริงแห่งภูมิประเทศ
    ความจริงตามภูมิประเทศมีอยู่ดังกล่าว ไทยเชิญศาลโลกไปดู ซึ่งตามวิธีพิจารณาศาลพึงไปดูแต่ไม่ไป  แล้วโดยเสียงข้างมาก  9 : 3 ตัดสินนอกประเด็นว่า  ฝรั่งเศสส่งแผนที่ให้ไทยแล้ว ไทยไม่คัดค้าน  จึงถูกปิดปากห้ามเถียงว่าแผนที่ผิดพลาดต่อความจริง  และตัดสินให้เขมรชนะคดีเป็นยุติ  คดีที่ศาลโลกตัดสินไม่มีอุทธรณ์ฏีกา
    แต่กระนั้น ข้อเท็จจริงตามที่ผู้เชี่ยวชาญไทยและฮอลันดาแสดงต่อศาล เป็นที่ยืนยันว่าตามเส้นสันปันน้ำ ปราสาทหินตั้งอยู่ในเขตแกดนไทยตามสนธิสัญญา  ส่วนที่ศาลตัดสินว่าไทยถูดปิดปากไม่ให้เถียงว่าแผนที่ผิดเพราะไม่ได้คัดค้าน  ไทยครอบครองใช้อำนาจอธิปไตยเหนือเขาพระวิหารอยู่ก่อนฝรั่งเศสทำแผนที่  ไม่มีเหตุที่จะต้องคัดค้าน  สนธิสัญญาให้ถือเส้นสันปันน้ำเป็นเขตแดนไม่ได้ให้ถือตามแผนที่ของฝรั่งเศส  สนธิสัญญาไม่มีกล่าวถึงแผนที่เลย ซึ่งตามความเป็นจริง เส้นสันปันน้ำบนเขาพระวิหารเห็นได้เด่นชัดอยู่แล้ว  และสัญญาแวร์ซาย ค.ศ.  1919 ก็ห้ามมิให้ศาลใช้แผนที่ตัดสินคดีเขตแดนระหว่างชาติ
    ปลายปากกาของคนที่เป็นผู้พิพากษา จะเขียนคำพิพากษาเป็นอย่างไรก็ได้  แต่ชั่วเวลาร้อยปี พันปี หรือกว่านั้นต่อจากนี้ไป สันปันน้ำบนยอดเขาพระวิหารยังอยู่พิสูจน์ต่อตาโลกให้เห็นเป็นประจักษ์ว่า ปราสาทหินบนเขาพระวิหารตั้งอยู่ในเขตแดนไทย  ท่านเจ้ากรมแผนที่ พลโทบุศรินทร์ ภักดีกุล มีส่วนในการแสดงความจริงอันเป็นอมตะนี้ ถึงแม้ตัวท่านจะจากเราไปแล้ว  งานของท่านในคดีปราสาทเขาพระวิหารจะยังอยู่ ”    (14 กันยายน 2532)

    พันเอก (พิเศษ) พูนพล  อาสนะจินดา     “…เพื่อเป็นที่ระลึกในคุณงามความดี ที่ท่านได้กระทำเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน ผมจะขอเล่าเรื่องที่ท่านได้มีส่วนทำงานอย่างหนึ่ง ระหว่างที่เป็นเจ้ากรมแผนที่ทหารนั่นก็คือการเป็นกรรมการเตรียมการต่อสู้คดีเขาพระวิหาร ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ การต่อสู้คดีนี้ทำให้ท่านต้องเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง เพื่อไปศาลบ้าง ไปค้นหาข้อมูลในต่างประเทศบ้าง  มีหลายครั้งที่ผมต้องติดตามท่านไปในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา และในฐานะกรรมการคนหนึ่งด้วย  ท่านได้ทุ่มเทความสามารถเป็นอย่างมากในการที่จะต่อสู้คดีเขาพระวิหาร และเห็นว่าข้อมูลทางสัญญาก็ดี หรือทางแผนที่เขตแดนก็ดี  โอกาสที่เราจะชนะคดีมีอยู่มากทีเดียว  แต่การพ่ายแพ้ครั้งนั้นมันเป็นการเอารัดเอาเปรียบทางการเมืองอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ในอดีตกาล  จากประเทศมหาอำนาจที่ยังมีอำนาจและอิทธิพลอยู่  ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่กรุงเฮกก็ประกอบด้วยผู้พิพากษาตัวแทนจากประเทศต่างๆ ส่วนมากจากยุโรบ ซึ่งในอดีตเป็นประเทศที่แสวงหาอาณานิคมอยู่แล้ว  การพิพากษาจะให้ฝ่ายใดแพ้หรือชนะขึ้นอยู่กับการลงคะแนนเสียงของผู้พิพากษาทั้งคณะ  ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในการตัดสินคือผู้พิพากษาผู้แทนจากประเทศจีนชาติ (ไต้หวัน)  อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย และที่สนับสนุนคำพิพากษาให้เราแพ้ คือผู้พิพากษาจากประเทศอังกฤษ  ที่ได้กล่าวเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องการสร้างความจงเกลียดจงชังกันตลอดไป  แต่ชี้ให้เห็นถึงการปฏิบัติของบุคคลที่มักคำนึงถึงชาตินิยมด้วยกันทั้งนั้น  ในการคว้าคว้าเอกสารที่ห้องสมุดของสมาคมภูมิศาสตร์แห่งชาติที่ประเทศอังกฤษ  เราได้พบแผนที่ฉบับหนึ่งเขียนโดย มร. ปาวี กงสุล และนักแผนที่ชาวฝรั่งเศสในแผนที่ฉบับนั้นมีเส้นร่างแบ่งเขตอิทธิพลของฝรั่งเศสและอังกฤษไว้อย่างชัดเจน  คือแนวกึ่งกลางแม่น้ำปิงลงไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา และตลอดกึ่งกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงปากอ่าวไทย  โดยกำหนดให้ดินแดนประเทศสยาม (ไทย) ทางตะวันออกอยู่ในเขตอิทธิพลของฝรั่งเศส และทางตะวันตกอยู่ในเขตอิทธิพลของอังกฤษ  แผนที่ฉบับนี้ได้พิมพ์เผยแพร่แล้วแต่คงจะรอการปฏิบัติการเท่านั้น  พอดีกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงไหวทันเหตุการณ์ณ์จึงทำให้การแบ่งปันแผ่นดินสยามตามแผนของ มร. ปาวี ต้องระงับไป แต่เขาก็ได้ประเทศลาวและเขมรไปจากแผ่นดินสยาม  แต่ความพยายามที่จะเอาที่ดินของไทยนั้นเป็นความพยายามที่ไม่สิ้นสุด  เมื่อตอนที่ฝรั่งเศสจะจากเขมรหรือกัมพูชาไป ยังเตือนให้เขมรเอาดินแดนเขาพระวิหารไปด้วย  เพราะได้แอบเขียนแผนที่ให้พระวิหารอยู่ในเขตของกัมพูชา  โดยตกแต่งเพิ่มลำธารในแผนที่อำพรางให้เห็นว่าสันปันน้ำอยู่ทางด้านหลังปราสาท  เพราะเหตุนี้จึงได้เกิดเป็นคดีให้กัมพูชาฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศให้ประเทศไทยคืนปราสาทเขาพระวิหารให้แก่กัมพูชา  ที่จริงตามสัญญายกดินแดนให้แก่ฝรั่งเศสสมัยนั้นได้กำหนดเอาสันปันน้ำเป็นเขตแดน  แผนที่เป็นแต่หลักฐานประกอบหรือหลักฐานชั้นรองลงมาซึ่งขณะนั้นฝ่ายไทยไม่มีอุปกรณ์และความรู้ที่จะทำได้  จึงให้ฝรั่งเศสเป็นผู้จัดทำ และเรียกว่า CROQUIS SCHEMATIC หรือร่างแผนที่ สำหรับใช้ในการเจรจาตกลงเขตแดนแต่ละส่วน  แต่ตอนที่เขมรฟ้องเรียกดินแดนเขาพระวิหารคืนนั้น เขาเอาแผนที่ซึ่งพิมพ์ในรูปแบบ ATLAS  หรือแผนที่เล่มมาอ้างว่าเป็นแผนที่ต่อท้ายสัญญา  ซึ่งคณะกรรมการปักปันไม่เคยได้ใช้เลย  เรื่องนี้ทนายฝ่ายไทย โดยมีหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชเป็นประธานได้แถลงในศาลอย่างชัดเจน  แต่ผู้พิพากษาก็ดูเหมือนจะทำเป็นไม่เข้าใจ  หรือไม่มีความรู้ทางด้านภูมิศาสตร์เลยแม้แต่น้อย
    หลังจากคดีเขาพระวิหารเสร็จสิ้นลงแล้ว หลายปีต่อมาผมได้สังเกตเห็นผลแห่งกรรมที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้  คือประมุขของกัมพูชาได้ขึ้นไปเหยียบปราสาทพระวิหารบนยอดเขาที่เป้ยตาดีเพียงครั้งเดียว  ไม่ปรากฏว่ามีการฉลองในความสำเร็จแต่ประการใด  ต่อมาไม่นานประมุขกัมพูชาก็ถูกภัยการเมืองคุกคามภายในประเทศของตนเอง  และแล้วทหารต่างแดนคือเวียตนามก็เข้ามายึดครองแผ่นดินส่วนใหญ่ ประมุขของประเทศกัมพูชาจึงต้องลี้ภัยไปอยู่ในประเทศอื่น  ประเทศกัมพูชาถูกแบ่งออกเป็นหลายฝ่ายทางการเมืองและทำการรบพุ่งประหารกันเองระหว่างชาวเขมร  จนประชาชนเกือบจะหมดแผ่นดินอยู่แล้วที่หนีความตายและความอดอยากมาอาศัยอยู่ในค่ายอพยพในประเทศไทยก็มีมาก  นับว่ายังโชคดี ส่วนผู้พิพากษาประธานศาลที่เป็นชาวโปแลนด์ได้ถึงแก่กรรมในเวลาต่อมา  เมื่อได้มีการเลือกตั้งประธานคนใหม่  ได้แก่ผู้พิพากษาชาวออสเตรเลียที่เขียนคัดค้านการตัดสินให้ฝ่ายไทยแพ้คดีอย่างรุนแรง โดยอ้างเป็นเชิงว่าการที่ฝรั่งเศสได้ดินแดนครั้งนั้นไปจากไทยก็โดยอำนาจอย่างไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว  ยังจะเอาปราสาทเขาพระวิหารไปโดยเขียนแผนที่ผิดอีกจึงไม่เห็นด้วย  เรื่องที่เล่ามานี้เป็นผลแห่งกรรมของบุคคลและผลแห่งกรรมของประเทศด้วย  จึงขอเตือนทุกท่านว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้มีเหมือนกัน......”

    จากคุณ : annnitaya - [ 15 ต.ค. 51 12:44:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom