ความคิดเห็นที่ 1 ขอยกตัวอย่าง การสอบ Part Reading ของ CU-TEP วันนี้แล้วกันนะ พอได้ข้อสอบมา พี่จะเปิดดูข้อสอบทั้งชุดแบบผ่าน ๆ ว่ามีกี่ passage ยาวสั้นแค่ไหน ตอนเริ่มทำก่อนจะอ่าน passage พี่จะอ่านคำถามและตัวเลือกก่อน ว่าเค้าถามอะไรบ้าง และจากคำถาม เราก็จะพอรู้คร่าว ๆ ว่าเรื่องเกี่ยวกับอะไร จากคำที่พบเจอในคำถามและตัวเลือก จากนั้นพี่ก็อ่านแบบคร่าว ๆ เก็บความ ตรงไหนไม่เข้าใจก็พยายามเดาจากบริบทไปก่อน แล้วก็มาเริ่มทำโจทย์ ถาม main idea ก็ต้องเลือกข้อที่เป็น main จริง ๆ ไม่ใช่เอา detail มาตอบ พี่ว่าทักษะการอ่านนี่ต้องค่อย ๆ สะสมนะ อ่านบ่อย ๆ อ่านแบบ Active คอยสังเกตรูปประโยค เพิ่มพูนคำศัพท์ไปด้วย พยายามคิดวิเคราะห์ เทคนิคช่วยจำก็อยู่ที่แต่ละบุคคลด้วยค่ะ บางคนอาจจะชอบ Mind mapping บางคนอาจจะชอบท่อง ได้ออกเสียงแล้วจำได้ดี บางคนชอบขยับตัวไปด้วยเวลาจำ อะไรอย่างนี้ ต้องหาวิธีที่เหมาะกับเราค่ะ หาไม่เจอก็หาไปเรื่อย ๆ สักวันก็จะเจอวิธีทีเ่หมาะกับเราเองจ้ะ จากคุณ : Flowery - [ 2 พ.ย. 51 19:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คิดเหมือนเราเลยอ่ะ ทำ reading มีไรไม่อยากอ่านเลย ยิ่งไม่รู้ศัพท์เยอะยิ่งลำบากใหญ่ เลยสงสัยและทึ่งคนที่ทำคะแนนจากpartนี้ได้เยอะอ่ะ จากคุณ : ญ หย่าย - [ 2 พ.ย. 51 19:41:12 A:124.120.202.184 X: TicketID:185603 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วิธีเรียน อ่านแต่ละครั้งให้หาประธานกับกริยาครับ ตรงนี้ต้องอาศัยแกรมม่าร์เล็กน้อย หาประธานกับกริยามันทุกประโยคเลยครับ จากนั้นพอเราชินทั้งศัพท์และรูปประโยคมันจะอ่านไหลไปเรื่อย ไม่ต้องหาประธานกริยาเลยครับ จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง - [ 2 พ.ย. 51 22:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หานิยายสนุกๆมาอ่าน เดี๋ยวติดแล้วก็จะขยันเปิดดิคเอง พอไปเรื่อยๆจะเริ่มเดาศัพท์จาก context ได้ ก็ไม่ต้องเปิดดิคละ จากคุณ : Azure_Mile - [ 2 พ.ย. 51 23:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สำหรับประสบการณ์ผม เดาศัพท์จาก context ไม่มีประโยชน์เพราะมันไม่รู้จริง เดี๋ยวก็ลืมอีกเมื่อเจออีก เปิดดิกมันทุกตัวเลยครับ เพราะถ้าศัพท์มัน common จริง มันก็จะมีให้เราเห็นอีก จากนั้นเราก็ไม่ต้องเปิดดิกแล้ว ก็เหมือนกับการอ่าน ไทยรัฐ แหละครับ มีใครเปิดพจนานุกรมบ้าง? ภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน เมื่อเก่งแกรมมาร์แล้ว แยกแยะโครงสร้างประโยคออกแล้ว ต้องหัดเปิดดิกให้รู้ความหมายโชะๆ ในบริบทนั่นไปเลย รับรองไม่เกิน 4-5 ปี เราอ่านได้คล่องแน่ ถ้าอ่านบ่อยๆ ปล ผมอ่านคล่อง ตอนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 แล้ว ก่อนหน้านั้น เปิดดิก Oxford Advanced Learners จนมันเกือบพังไปกับมือเลย ผมเชื่อในคติ ฝนทั่งให้เป็นเข็มครับ หรือ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น หรือ You reap what you sow. หว่านอะไรก็ได้ผลแบบนั้น จากคุณ : K.Senior - [ 4 พ.ย. 51 18:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับคุณ Senior คะ ถ้าไม่รู้ศัพท์จริงๆบางครั้งเดาไม่ได้จากบริบท ตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการแยกโครงสร้างของประโยคคะ ปัญหาเป็นเรื่องความเข้าใจ - comprehension มากกว่า คะแนนสอบ Reading ออกมาทีไร เน่าทุกทีคะ เคยเป็นกันมั้ยถ้าอ่านเรื่องที่เราไม่ได้สนใจมันจะอ่านไม่รู้เรื่อง ในขณะเดียวกันอีกเรื่องยากกว่าแต่เป็นเรื่องที่เราสนใจ ถึงจะยากแต่เราก็เข้าใจมันดี จากคุณ : ญ หย่าย - [ 4 พ.ย. 51 19:09:52 A:192.55.18.36 X: TicketID:185603 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณคุณ K.Senior มากๆนะคะ จากคุณ : gloomie - [ 4 พ.ย. 51 19:54:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก่อนอื่นต้องหา ประธาน กับ กริยา ให้ได้ครับ แล้วต่อไป ต้องรู้ว่า อะไรคือตัวขยายอะไร คำบุพบทต้องเข้าใจมันด้วย เพราะมันเชื่อมๆประโยค ขอเสริมเรื่องกริยาช่วย ต้องแยกแยะและจำให้ได้ กริยาช่วยในภาษาอังกฤษ มี 24 ตัวเท่านั้น ต้องรู้ว่ามันช่วยยังไง และจะเอามันมาช่วยตอนไหน เพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ เท่านี้ก็จะมองออกว่าอะไร คืออะไร แต่ไม่เท่ากับรู้ศัพท์ครับ เหมือนเมียฝรั่ง รู้ศัพท์แต่ไม่รู้แกรมม่านั่นละ อ่านเล่นๆเหมือนอ่านการ์ตูน ซ้ำไปซ้ำมาตอนเข้าห้องน้ำ อย่าไปอ่านแบบตั้งใจมาก เปิดดิคดูเล่นๆเดี๋ยวมันเข้าหัวเอง ปล การเรียนภาษา เป็นเรื่องของการฝึกทักษะล้วนๆ อยากอ่านรู้เรื่อง อ่านเยอะๆ และต้องหาคำแปล อย่าพูดเก่งๆ พูดมั่วๆไปก่อน ถ้าคนทักว่าผิดก็แก้ไขแล้วจำสิ่งถูก อยากเขียน ก็เขียนไปเรื่อยเปื่อย สักวันจะเขียนถูกต้อง อยากฟัง ก็ฟังมันเข้าไป เดี๋ยวฟังออกเอง สู้ๆนะครับ จากคุณ : เด็กออสติงต๊อง (packpackz) - [ 5 พ.ย. 51 08:49:32 ]