ความคิดเห็นที่ 1 อย่างไรก็ตาม ในวันที่มีการซ้อมริ้วกระบวนฯนั้น จุดที่เป็นช่องทางเข้าของริ้วกระบวนฯและแถวทหารกองเกียรติยศ ก็ต้องเว้นช่องไว้ เพื่อให้สามารถดำเนินการซ้อมได้ นอกจากนี้ ประชาชนที่มาชมการซ้อม ก็จะได้รับการกั้นระยะการเข้าชมเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อความเรียบร้อยของการซ้อมเช่นกัน ในวันนี้เอง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาร่วมการซ้อมในริ้วกระบวนอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงต้องกวดขันความเรียบร้อยของพื้นที่ยิ่งขึ้น เมื่อการซ้อมริ้วกระบวนฯในรอบเช้าเสร็จสิ้นลง ทูลกระหม่อมฯได้เสด็จไปเสวยพระกระยาหารกลางวันที่กรมศิลปากร เจ้าหน้าที่ทุกคน โล่งใจที่การซ้อมใหญ่ซึ่งมีการเสด็จฯ เรียบร้อยไปได้ด้วยดี แต่เรื่องวุ่นวาย ที่อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่โตนัก ,แต่ก็วุ่นวายอยู่ดี, ก็พลันเกิดขึ้น จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 19:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วยังไงเหรอครับ ปัญหาคืออะไรที่ทำให้คุณ "สะทกสะท้อนเป็นอย่างมาก"เหรอครับ ขยายความหน่อยครับ มีประชาชนบุกเข้าไปเหรอครับ จากคุณ : สายฟ้า ณ ยูเค (สายฟ้า ณ ยูเค) - [ 2 พ.ย. 51 19:23:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ราวกับสุญญากาศ, ประชาชนราวครึ่งพัน ทั้งไทยทั้งเทศ ที่มาเฝ้าชมการซ้อมริ้วกระบวน ก็ทะลักเข้ามาในบริเวณมลฑลพิธี! โดยที่สมเด็จพระเทพรัตนฯยังประทับอยู่ในอาคารกรมศิลปากรฝั่งตรงข้าม! และโดยที่ยังมีการซ้อมริ้วกระบวนในช่วงบ่ายอยู่อีกด้วย รั้วเหลืองยังไม่ได้ปิด, เจ้าหน้าที่ตำรวจหายไป ยังไม่ทันตั้งตัวเพราะการซ้อมเพิ่งเสร็จไปหยกๆและต้องไปถวายอารักขาทูลกระหม่อม, เจ้าพนักงานจากในวังกำลังตรวจสอบความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่งานพระเมรุที่เหลืออยู่สิบกว่าคนต้นๆลุกพรวดขึ้น วิ่งออกไป ตะโกนบอกกันว่า"กันคนออกไปเร็ว!" จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 19:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อุ๊ย มีคนปาดเข้ามาทันที โทษทีครับ พิมพ์ช้าไม่ทันใจ จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 19:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผู้คนห้อมล้อมพระเมรุ จากที่ยืนชื่นชมวิพากษ์วิจารณ์ ก็ถ่ายรูป และเริ่มขยับเข้าใกล้อาคารไปเรื่อยๆ โดยที่หลายๆส่วนยังอยู่ในระหว่างการตกแต่ง บางคนเริ่มเดินขึ้นไปบนชั้นชาลารอบพระเมรุ ซึ่งปกติ เราแขวนป้าย"ห้ามขึ้น" แม้แต่กลุ่มที่ทำเรื่องมาขอเข้าชม เราก็ไม่ให้ขึ้น แต่วันนี้ ซ้อมใหญ่ ไม่มีป้ายครับ เจ้าหน้าที่สิบกว่าคน แยกย้ายกันไปรอบพระเมรุ ร้องบอกพี่น้องประชาชนครึ่งพัน ขอความกรุณาออกจากพื้นที่ อย่าจับต้อง งดถ่ายรูปในส่วนที่สงวนเอาไว้เป็นพิเศษ ได้โปรดครับ เกิดความผิดพลาดขึ้นนะครับ เรายังไม่อนุญาตให้เข้าชมนะครับ ได้โปรดครับ อย่าขึ้นไปครับ ยังมีการซ้อมรอบบ่ายอยู่ครับ และ สมเด็จพระเทพรัตนฯ ยังไม่เสด็จกลับเลยนะคร๊าบบบบบบบ ได้โปรดคร๊าบบบบบบ ออกไปกันก่อนเถอะคร๊าบบบบ ไม่มีใครฟังเลยง่ะ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 19:36:51 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 19:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น่าทำลิงก์ไปแป่ะที่ห้อง BPด้วย จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 2 พ.ย. 51 19:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น่าเห็นใจมากๆๆครับ เพราะเรื่องนี้ถือเป็็น ระบบรักษาความปลอดภัยในพระราชพิธีและ ส่วนพระองค์ และอีกอย่างผมก็เขาใจว่าในงานในท้องพิธีที่สนามหลวงนั้นเป็นพระที่นั่งชั่วคราว คงจะไม่สามารถรับน้ำหนักคนๆจำนวนมากๆได้แน่ๆๆ เห็นใจครับบ บ จากคุณ : gonthorn - [ 2 พ.ย. 51 19:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ฝรั่งไม่เข้าใจ เราอธิบาย ฝรั่งเข้าใจ ฝรั่งลดกล้องและเดินถอยออกไปทันที แต่มีบ้างที่ถอยไปแล้วชักกล้องออกมาถ่ายใหม่ บางคนผมดำ เราเข้าไปบอก เค้าทำหน้างง ปรากฏว่า เป็นคนญี่ปุ่นซะงั้น? แต่ก็อธิบายจนเข้าใจ แต่พี่น้องชาวไทยด้วยกัน มีปฏิกิริยาแตกต่างกันไปครับ บ้างเข้าใจทันที มีสอบถามอะไรบ้างนิดหน่อย แต่ก็ถอยออกไปด้วยความกรุณา แต่ส่วนน้อยครับ คุณยายคนหนึ่ง พอเข้าไปบอกปุ๊บ แกก็ตกใจ แกก้มลงไหว้จรดหัวนาคสะพานเกรินทีนึง แล้วหันออกไปช่วยบอกคนอื่นๆว่า เขายังไม่ให้เข้าชม ออกไปก่อนเถิด..... แต่ส่วนใหญ่ที่เหลือนะครับ... ผมก็อธิบายไปต่อเหมือนเดิม ว่างานยังไม่เรียบร้อย ผู้คนถ้ามากขนาดนี้ ปล่อยไว้ก็ไม่วายต้องเกิดความเสียหายไม่มากก็น้อย ไหนจะต้องเตรียมซ้อมต่อรอบบ่าย บ้าง ก็ทำหน้าเข้าใจ รับทราบ แล้วก็ปักหลักถ่ายรูปต่อ เหนียวแน่น บ้าง ก็หันมาต่อว่า "ทำของสวยๆไว้ ดันไม่ให้ดู"..... พระเมรุ มีหน้าที่หลักในพระราชพิธีอันเป็นพระเกียรติยศของพระราชวงศ์ ก็ขอให้ใช้เจ้านายได้ใช้ก่อน อย่าเพิ่งเอาเป็นที่เที่ยวเล่นเลย....... ผมเปลี่ยนมุขร้องขอความจงรักภักดี เผื่อจะได้ผล ว่า หากอยากร่วมกันถวายความอาลัยแก่เจ้านายในพระโกศ ก็ขอให้พื้นที่นี้ได้ทำงานของมันอย่างที่ตั้งใจไว้ก่อนเถิด ถ้าจะมาเที่ยวเล่น หลังงานพระราชพิธีก็ไม่สาย แต่ก็ยังไม่ไป พวกเรายังคงพยายามร้องบอกไปเรื่อยๆ จนพี่น้องประชาชนค่อยๆถอยไปได้ระยะหนึ่ง แดดร้อน หิวข้าว แต่เราก็พยายามบอกเล่าแก่"พี่น้องประชาชน"อย่างอดทน และสุภาพ ทั้งขอความร่วมมือ ขอความเห็นใจ และขอให้ถือว่าเป็นการถวายการสักการะเถิด.... แต่ ฉันจะดู ฉันจะถ่ายรูป จะทำไม ฉันไม่ไปง่ายๆ จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 19:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมยังระแวดระวัง ว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียปะปนมาและจะไม่เข้าใจ จะนึกว่าเราไล่ส่ง ต้องเปลี่ยนภาษาสลับไปเรื่อย ง่า....มีส พลีส น๊อตออโล่ว ฟอร์ เทคกิ้ง พิคเจ้อ.....อ่า โอเนไงชิมัส....เอ่อ พี่คนนั้น ทำไมบอกภาษาไทยแล้วยังถ่ายรูปไม่หยุด ...พี่คนนั้นคร้าบ คนไทยหรือเปล่าคร้าบบบบ........อ้อ...ไทยนะคร้าบ ช่วยกันหน่อยนะครับ ออกไปก่อนนะครับ....  นั่นมีอีกคน...อ่า... คนไทยหรือเปล่าคร๊าบบบบบ.... พลัน อีตาช่างภาพร่างท้วมเยื้องผมก็หัวขวับมาต่อว่าผม "คุณพูดอย่างนี้ได้ยังไง! หยาบคายมาก พูดกันดีๆก็ได้!" อะไรวะ? ผมเล่าอย่างเยิ่นเย้อ เพราะพิมพ์ไปตามที่นึกออก ขออภับด้วยนะครับ เดี๋ยวมาต่อนะครับ ไปกินข้าวก่อน จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 20:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ...บรรยากาศคงวุ่นวายน่าดู นึกภาพ  คือ...อาจารย์ครับ สมเด็จพระเทพฯประทับอยู่บนพระที่นั่งทรงธรรมหรืออย่างไรครับ (อาคารตรงข้ามกรมศิลปากรน่ะครับ)  ถ้าเป็นอย่างนั้นพระองค์ก็ทอดพระเนตรเห็นการหมดสิครับ อย่างนี้ไม่ดีกระมัง จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 2 พ.ย. 51 20:06:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดีที่ไม่เกิดความเสียหายอะไร นี่คงเป็นตัวอย่างเพื่อที่จะทำให้ต้องเข้มงวดกันมากขึ้นครับ เวลาคนเยอะ ๆ แล้วควบคุมอะไรก็ยากเย็นเหลือเกิน ไม่มีใครฟังใคร เป็นกำลังใจให้ครับ ในวันจริงตำรวจคงอารักขาอย่างเข้มงวดกว่านี้มาก ๆ จากคุณ : Valar - [ 2 พ.ย. 51 20:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แหะๆ พอดีไปเจอภาพมาจากเวป ผู้จัดการ ที่ว่า ชาวต่างชาติหรือคนไทยเข้ามาในพื้นที่นั่นประมาณนี้หรือเปล่าครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 2 พ.ย. 51 20:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โอ๊ย  .. ลุ้นไปกับเจ้าของกระทู้ มาตามให้กำลังใจ  อิ่มแล้วมาเล่าต่อนะ นะ จากคุณ : สามทับหนึ่ง - [ 2 พ.ย. 51 20:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาอ่าน...มาลุ้น ด้วยค่ะ เฮ้อ...คนไทยบางคนนี่ ฟัง ภาษาไทยไม่ค่อยรู้ เรื่องกันเลยยยย จากคุณ : ดนตรีก่อนนอน - [ 2 พ.ย. 51 20:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นใจค่ะ คนไทยบางคนพูดภาษาไทยรู้เรื่อง แต่ไม่ให้ความร่วมมือกันเลย เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจปฏิบัติงานทุกคนนะคะ จากคุณ : คุณยูโมะ - [ 2 พ.ย. 51 20:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แก้ไขเพราะพิมพ์ผิดกระทู้ค้าบบ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 20:35:35 จากคุณ : txaxt (txaxt) - [ 2 พ.ย. 51 20:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราไปดูอยู่ไกลๆ เพราะทราบว่า...หลังพระราชพิธีก็จะเปิดให้เข้าชม แต่คนที่มาไกลจากต่างจังหวัด  อาจจะทำใจอยากอ่ะนะ ..ไหนๆ ฉันก็มาแล้ว ขอซักหน่อย... เห็นใจและเข้าใจคนทำงานค่ะ เรามีโอกาสเป็นหนึ่งในคณะที่เยี่ยมชมเช่นกัน ..ยังไม่กล้าถ่ายภาพถึงภายในเลย... รอหลังพระราชพิธี ซาๆ คนกลับไปดูอีกรอบ เก็บภาพอีกรอบ จากคุณ : นัทธ์ - [ 2 พ.ย. 51 21:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไปอ่านมาหลายๆห้อง รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่จะโดนกันหลายฝ่ายเลยครับ ที่ประชาชนที่ไม่เข้าใจ(บางส่วน) ต่อว่าในเรื่องที่ไม่ควร อย่างที่อาจารย์โยดา เล่าให้ฟังนั่นล่ะครับ ทุกคนที่ไปก็ล้วนแต่อยากเห็นให้ใกล้ที่สุด ได้ชมในมุมที่ชัดที่สุด และได้บันทึกภาพในมุมที่สวยที่สุด แต่จะทำยังไงล่ะครับ เมื่อจำนวนคนมากมายมีความต้องการเดียวกัน แต่สถานที่ก็ไม่ได้อำนวย และที่สำคัญในวันนี้มีการเสด็จพระราชดำเนิน ประชาชนก็น่าจะมีความเข้าใจในส่วนหนึ่งนะครับ ผมว่า เพราะเจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องมีการกันพื้นที่ อีกทั้งถวายความปลอดภัยแด่พระองค์ เท่าที่ฟังมามีคนจะขึ้นไปบนพระเมรุด้วย อันนี้ก็เกินไปนิดนึงครับ อย่างน้อยน่าจะมีขอบเขตกันบ้างนะครับ มองอีกมุมหนึ่งก็ดีครับ เพราะนี่คือการซ้อมใหญ่ จะได้เป็นบทเรียนสำคัญในการไม่ให้มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในวันจริงที่จะมีประชาชนทั้งไทยและชาวต่างชาติมากมายที่จะมาเข้าร่วมในพระราชพิธีสำคัญครั้งนี้... จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 2 พ.ย. 51 21:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นครับ ตอบ คคห.10 ตอนนั้น สมเด็จพระเทพรัตนฯ ประทับอยู่ที่กรมศิลปากรครับ ทางกรมฯคงได้จัดพระกระยาหารถวาย  ซึ่งก็ ข้ามถนนไปนิดเดียวก็ถึงแล้วครับ ที่ผมกังวลในข้อนี้ ก็คือ ทางเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ ไม่ทราบว่าทรงมีหมายกำหนดการอย่างไรในช่วงบ่าย เรากลัวกันว่า หากมีพระประสงค์จะประทับทอดพระเนตรการซ้อมริ้วกระบวนอัญเชิญพระอัฐิและพระสรีรางคารต่อ รวมทั้งหากทรงมีพระประสงค์จะทอดพระเนตรความคืบหน้าการก่อสร้างแล้ว.... และถ้าเกิดมีความวุ่นวายเสียหายประการใดกับอาคาร จะทำไงกันล่ะครับ แต่หลังจากนั้น เราก็เคลียร์พื้นที่ได้ และทูลกระหม่อมก็เสด็จฯกลับในที่สุด แต่นั่นก็หลังจากโกลาหลนั่นแหละครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 21:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น่าเห็นใจ แต่ผมว่าเป็นโชคดีในโชคร้ายนะครับ จะได้เห็น่าการรักษาความปลอดภัยหย่อนยานกันแค่ไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไรน่ะครับ จากคุณ : กริชครับผม - [ 2 พ.ย. 51 21:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบคุณเด็กท้ายวัง เท่าที่เห็น ก็มีแว๊บๆว่าเดินขึ้นชั้นชาลาแล้วล่ะครับ แต่ก็ไม่กี่คน ถ้าทะลึ่งขึ้นไปถึงข้างบน ผมเรียนตามตรงว่า คงได้มีการ"จูง"ลงมาแน่ครับ แม้ว่าจะเป็นพระโกศองค์จำลองสำหรับใช้ในการซ้อม ก็ถือว่าพระโกศยังตั้งอยู่บนจิตกาธานเชียวนะครับ ที่กลัวมาก ก็เห็นจะเป็นมุมอับต่างๆ  ถ้าคน"ทะลึ่ง"มากๆ เข้าไปถึงข้างใน ผมว่าคุณตำรวจสันติบาลจะพลอยไม่สบายใจไปด้วยครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 21:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาต่อกันครับ ลืมเล่าไปว่า ช่วงนั้น พี่ตำรวจของผมก็มาถึง ผมดีใจมาก อย่างน้อยก็ไม่ได้มาในตอนจบอย่างในหนัง มาตรงผม2คน บริเวณอื่นก็น่าจะมาแล้วเช่นกัน และ ขณะที่ผมกำลังขอความร่วมมือจาก"พี่น้องประชาชน" ซึ่งดูจะไม่ร่วมมือซักเท่าไหร่ ชายร่างท้วม สูงประมาณ160ซม. ผิวคล้ำ หน้าตาเหมือนคนชอบไปม้อบ แต่แต่งกายสะพายกล้องคล้ายช่างภาพเอกชน ก็ต่อว่าผมว่า หยาบคาย ผมงง อะไรวะ? หรือว่าเราตะโกนเสียงดังเกินไป ก็ไม่น่า อ้อ เค้าโกรธ ที่เราถาม(คุณผู้หญิงที่ถ่ายรูปแบบไม่ลืมหูลืมตาคนหนึ่ง)ว่า "คนไทยหรือเปล่า?" ผมเรียนตามตรงว่า ณ วินาทีนั้น แม้ว่าจะอาศัยขันติเป็นอย่างมาก แต่ผมพยายามเข้าใจพี่คนนั้นอย่างรวดเร็ว เค้าคงอ่อนไหวกับอารมณ์สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้กระมัง? น่าเห็นใจ แต่ กรูไม่ได้พูดกับมรึงเลย กรูกำลังถามคุณผู้หญิงคนนู้นนนนนนน คนที่กำลังถ่ายรูปเพื่อนตัวเองคู่กับพระฉายาลักษณ์สมเด็จฯกรมหลวงฯในทับเกษตรด้วยสีหน้าที่ร่าเริง!? ด้วยท่าทางแบบนั้น ผมกลัวว่าเค้าไม่ใช่คนไทย จะได้ชี้แจงได้ "คุณพูดจาดีๆก็ได้ พูดแบบนี้มันหยาบคายมาก" ยังไม่เลิก "โธ่ พี่ครับ ผมพูดกับคุณคนนู้นนนครับ ไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น" ผมพยายามอธิบาย "เฮอะ ผมก็ทำหน้าที่ของผม ก็ไม่น่าจะมาหยาบคายอย่างนี้" เอ๊า หน้าที่อะไรของพี่วะครับ? ผมสิทำหน้าที่ผมอยู่ อ๊ะหนอย หัวหมอ มุขนี้คุ้นๆ พอละเมิดกฎ โดนจับได้ ก็โวยวายอ้างสิทธิ แล้วก็มาต่อว่าคนอื่นว่าหยาบคาย ผมเรียนตามตรงอีกครั้งว่า ถ้าไอ้พี่คนนี้ มันเดินเข้าบ้านผม หรือเข้ามาในที่ทำงานส่วนตัวผม แล้วมาอ้างสิทธิบ้าๆบอๆแบบนี้ ผมกระทืบครับ แต่มีเหตุผลสองประการที่ทำให้ผมข่มใจได้ ประการแรก ผมอยู่ในหน้าที่ราชการ แขวนป้ายเจ้าหน้าที่งานพระเมรุ ไม่อาจทำเรื่องเสื่อมเสีย ประการที่สอง พี่ตำรวจเค้าอยู่ใกล้ๆครับ แฮ่ม พี่ช่างภาพทำท่าฮึดฮัดเหมือนจะเอาเรื่องผม จนผมเกือบลืมไปว่า เค้า บุกรุกปริมณฑลงานพระราชพิธีโดยที่ได้ชี้แจงแล้วแต่ไม่ให้ความร่วมมือ พี่ตำรวจเข้ามาโอบเค้าไปทันที ดีจัง แต่ผมก็ตามเข้าไปอธิบายอย่างเป็นกันเอง โอบหลังโอบไหล่พาเดิน เค้าก็ยังทำบ่นกระเง้ากระงอดราวกับนางเอกละครหลังข่าวจนเดินพ้นออกไป... แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 23:12:13 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 21:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมกลับมาเสียก่อนตั้งแต่ราวๆ 10.30 น.แล้วครับ เลยไม่ทันเห็นเหตุการณ์โกลาหลนั้น ดูแล้วก็น่าตกใจจริงๆครับ เป็นกำลังใจให้อาจารย์โยดานะครับ ผมเข้าใจคุณครับและคุณก็ทำได้ถูกต้องแล้วครับ จากคุณ : ออกญาศรีราชเดโชชัย (NMkrung) - [ 2 พ.ย. 51 21:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 และเดิมๆ พี่น้องประชาชน ก็ยังคงไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แต่ด้วยเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ กลุ่มชนก็ค่อยๆถอยออกไป โดยยังมีบางคน แว๊บไปแว๊บมาตามตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง ส่วนใหญ่ใช้มุขหน้ามึน บอกแล้วไม่ออกง่ายๆ น่าเอาข้าวสารเสกปา หวายลงอาคมเฆี่ยน... ในที่สุดก็เรียบร้อย พรรคพวกเราสิบกว่าคน ซึ่งรวมไปถึงคุณป้าสวัสดิการ ที่ออกมาทำหน้าที่ด้วยกันในช่วงวิกฤติแรก ได้กลับมานั่งสรุปเหตุการณ์กันในที่มั่น ผมนึกว่าผมเป็นคนเดียวที่โดนด่ากลับมา และผมนึกว่าผมเป็นคนเดียวที่ใช้สารพัดมุขเพื่อขอความร่วมมือ โดยเฉพาะการขอให้เห็นแก่เจ้านายในพระโกศ ขอให้เป็นเสมือนการถวายสักการะประการหนึ่ง แล้วก็ไม่มีใครสนใจ โดนเหมือนกันเกือบทุกคน นั่นก็แปลว่า "พี่น้องประชาชน"ของเรานี้ ต่างมีลักษณะร่วมประการหนึ่ง จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 21:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คนที่ไปถ่ายรูปหรือขึ้นไปเดินเทียวชมข้างบนนั้น เขาคิดยังไงเหรอ ไม่รู้สิ ยังไง สำหรับเราก็คือเมรุเผาศพนะ (ขอโทษที่ต้องใช้คำสามัญ) ไม่เห็นเป็นมงคลเลย ไม่งั้นก็คงตั้งไว้เป็นการถาวรให้ดูแล้ว อีกอย่างยังไงก็ต้องรู้ว่าอะไรสูง หรือไม่สูง กันบ้าง สิทธิเสรีภาพจะดี ถ้าใช้โดยไม่รบกวนสิทธิของผู้อื่น จากคุณ : เป๋าตุง - [ 2 พ.ย. 51 21:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องที่ผม"สะทกสะท้อน" เกรงว่าบางท่านอาจจะลากเข้าเรื่องการเมือง แต่ผมเรียนทุกท่านด้วนความสัตย์ว่า ผมกำลังคิดถึงเรื่อง "คนไทย" ไม่ใช่ "การเมือง"ครับ เกือบตลอดบ่าย ผมเฝ้าคิดอยู่2-3เรื่อง ประการแรก จากคุณป้าที่ต่อว่ามาว่า "ทำของสวยไว้ ดันไม่ให้ดู" ,การที่ผมได้ใช้ไม้เด็ด ในการขอให้คิดว่า การล่าถอยไปนั้น เป็นการแสดงสักการะแก่เจ้านายในพระโกศ ,การที่เราชี้แจงว่า จะมีการซ้อมริ้วกระบวนในรอบบ่ายรออยู่อีก รวมทั้งการที่เราร้องขอ ว่า ทูลกระหม่อมยังไม่เสด็จกลับ อย่าเพิ่งทำให้วุ่นวายเลย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือแม้แต่น้อย แปลว่าอะไร? การที่ถือธงอันมีอักษรพระนามมารอรับเสด็จ การแสดงตนด้วยการกล่าวคำทรงพระเจริญ ฯลฯ ช่างไม่สอดคล้องกับปฏิกิริยาที่มีต่อเหตุผล"ระดับไม้ตาย"ที่เราร้องขอ ผมก็รู้สึกเศร้าใจ ที่ความอยาก ความมักง่าย ความเอาแต่ใจที่เรียกกัน"ทำอะไรตามใจคือไทยแท้" มันดูจะมีอิทธิพลเหนือเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ในอีกสถานการณ์หนึ่ง ท่านผู้ใหญ่บางท่านเคยกล่าวกับผมว่า "เขาว่าเขารักในหลวง แต่เขาก็ไม่เห็นจะทำอะไรอย่างที่ทรงแนะแนวทางไว้" ความรักภักดีต่อเจ้านายของพวกเขา ขึ้นอยู่กับความพอใจเสียแล้ว หลายท่านคงจะตำหนิว่าผมคิดมาก ผมก็ยอมรับจริงๆซะด้วยว่าผมคิดมาก ทำไงได้ "ไม้ตาย"ที่ผมว่า"ชัวร์" ไม่กระดิกหูพี่น้องเราเลยครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 22:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มารยาทส่อสันดาน จากคุณ : กะหล่ำปลีลวกกินกับขนมจีนน้ำยา - [ 2 พ.ย. 51 22:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คคห.25 ได้แสดงความเห็นที่นำเข้าสู่เรื่องที่สองที่ผมได้คิดอยู่เลยครับ อ้างอิงจาก พี่ช่างภาพผู้พยายามห้าวกลบเกลื่อนผู้นั้น การอ้าง"สิทธิ"และ"หน้าที่" หรืออะไรต่างๆนาๆแบบไม่ลืมหูลืมตา พี่น้องของเราไม่น้อย ที่มักอ้าง "สิทธิ" อันกว้างขวางไร้ขอบเขต แต่สังคม มันมีขอบเขตน่ะสิครับ ขอบเขตของสิทธิ ก็คือ "ข้อตกลงร่วมกัน"หรือ "กฎ" นั่นเอง ไม่ว่ากฎหมาย หรือระเบียบปฏิบัติของสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ในที่นี้ ไม่ว่า"งานพระเมรุ"จะหมายความว่าอะไร แต่สถานที่มีกฏอยู่ว่า "ห้ามเข้า" ก็จะมาดันทุรังเข้าทำไมล่ะครับ ถ้าอ้างว่าไม่รู้ ไม่มีป้ายบอก ก็ผมมาบอกแล้ว ก็ทำตามสิครับ ไม่ได้มาอำกันนะเว้ย เรื่องนี้ทำให้ผมย้อนกลับไปนึกถึงกระทู้หนึ่งในช่วงหลังจากการสิ้นพระชนม์ใหม่ๆ ว่าด้วย "การสวมกางเกงยีนส์ ทำไมไม่สุภาพ?" ผู้ถามคำถามนี้มี2ลักษณะ แบบแรกคือ ต้องการถามถึงที่มาของธรรมเนียมสากลนี้  แบบที่สอง คือ การเรียกร้องว่า เค้าคิดว่ากางเกงยีนส์ใครก็ใส่กัน เค้าคิดว่าไม่เห็นจะไม่สุภาพตรงไหน.... ประเด็นอยู่ที่ว่า การเข้าสักการะพระศพ มีระเบียบการแต่งกายประการหนึ่งว่า ห้ามใส่ยีนส์ มีผู้พยายามเป็นปลาว่ายทวนน้ำมากมาย(จะได้ไม่โดนหาว่าตามน้ำ ไร้ความเป็นตัวของตัวเอง ฯลฯ) แสดงความเห็นต่างๆนานา โดยหลักก็คือ เค้าว่ายีนส์ก็โอเคนี่ แต่มันอย่างนี้ไง คือ งานเค้า เจ้าภาพเค้ามีระเบียบอยู่ ถ้าอยากเข้างานก็ทำตามระเบียบก็เท่านั้น ถ้าเค้าบอกให้ใส่ขนนก คุณก็ต้องใส่ โอเค๊? ไว้ตางานศพเอ็ง เดี๋ยวข้าใส่ยีนส์ไปให้ก็ได้.... และก็มันอย่างนี้ไง คือ เค้าห้ามเข้า ก็ไม่ต้องเข้ามา ที่สำคัญ เดี๋ยวหลังพระราชพิธี เค้าก็จะเปิดให้เข้าชม เป็นเดือนเชียวนะครับ ถ้าไม่ได้เข้ามาวันนี้มันจะดิ้นตาย หรือถ้าไม่ได้ใส่ยีนส์แล้วมันผดขึ้นเต็มตัว ก็ให้มันรู้ไป คนพวกนี้ ชอบอ้างสิทธิ เรียกร้องอะไรต่อมิอะไรมากมาย โดยไม่สนใจขอบเขต พยายามทำไห้ "ชอบทำ" มีความหมายเหมือน "ชอบธรรม" แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 22:38:09 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 22:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมไม่ได้กล่าวหาว่า คนไทย นิสัยเลวร้าย แต่อย่างใดนะครับ คนกลุ่มนี้ ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่มีปฏิกิริยาตอบโต้ดังกล่าวมา โดยมากที่เห็น ก็เน้น มึน และ ดื้อ และเชื่อว่าในกลุ่มคนนั้น ก็มีไม่น้อยที่คล้อยตามการร้องขอและเหตุผลของเรา ที่สำคัญ คนกลุ่มดังกล่าว ก็แค่ไม่กี่ร้อยคน ไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นตัวแทนของสังคมส่วนใหญ่ แต่ก็ชวนให้คิดครับ ฤา ที่บ้านเมืองวุ่นวายอย่างนี้ รากเหง้าอาจไม่ได้มาจากหัวโจกตัวใด แต่มันมาจากการที่ เกิดโรค "มักง่าย" เอาถูกใจไว้ก่อน พอเป็นโรค"ง่าย" มีใครเสนอผลประโยชน์อะไรง่ายๆ ก็รับ ก็เห็นดีเห็นงาม ยกย่องบูชาเพราะเขาเอาประโยชน์มาเสนอง่ายๆ ชอบทำ เลยมาแทนที่ ชอบธรรม แล้วก็ตะแบงเหตุผลอ้างสิทธิซังกะบ๊วยกันไป สิทธิไร้ขอบเขตราวอนันตจักรวาลเข้าไปนั่น ไม่ว่าซ้าย ว่าขวา ว่าเหลือง ว่าแดง ลงติดโรค"ง่าย" ก็เห็นจะพากันล่มจมล่ะครับ ลากมาตรงนี้ผมก็เริ่มเห็นว่า ชักอยู่ในห้องประวัติศาสตร์ได้นิดๆ เพราะประเทศสารขันธ์ ก็เห็นเป็นอย่างนี้มาตลอดประวัติศาสตร์เทียวครับ แหะ ลงจอดในห้องประศาสตร์แบบพยายามทำให้เนียนครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 22:51:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณอาจารย์โยดาที่นำมาเล่าให้ทราบครับ ไม่งั้นพวกเราหลาย ๆ คนที่ไม่ได้เข้าไปชมริ้วกระบวนวันนี้ก็คงไม่ทราบ และเห็นใจคนทำงานอย่างยิ่งครับ ประการแรก น่าจะเป็นเพราะประชาสัมพันธ์ไม่พอหรือไม่ เพราะประชาชนอาจจะไม่ทราบว่าจะมีการเปิดให้ชมบริเวณพระเมรุภายหลังจากพระราชพิธีเก็บพระอัฐิแล้ว อย่างน้อยก็คงเปิดให้ชมพร้อมนิทรรศการอีกระยะหนึ่ง (เข้าใจว่าคงจะก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษา) ดีกว่าไปถ่ายรูปตอนนี้ที่บริเวณพระเมรุยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ถ่ายไปก็ได้แต่รูปที่ไม่สมบูรณ์ สู้ถ่ายตอนเลิกงานแล้วไม่ได้ สวยกว่าอีก ประการที่สอง น่าจะเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการณ์อยู่บริเวณรอบ ๆ พิธีที่หายตัวไป จนปล่อยให้ผู้คนเข้าไปในบริเวณเขตหวงห้าม (คนอาจจะเห็นรั้วเปิดอยู่ และไม่มีเจ้าหน้าที่คอยห้ามอยู่ตรงนั้นก็เลยนึกว่าเข้าชมได้กระมัง) ประการต่อมา น่าจะเป็นเพราะไม่มีป้ายบอกไว้ชัดเจนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่าเป็นเขตหวงห้าม หรือห้ามเข้า (ตรงบริเวณรั้วจราจรสีเหลือง) หรือว่าเป็นวันซ้อมใหญ่ก็เลยไม่มีป้ายบอก ประการสุดท้าย เมื่อเจ้าหน้าที่ได้บอกกล่าวเช่นนั้นแล้ว ผู้คนที่เข้าไปก็น่าจะเข้าใจได้และเมื่อเข้าใจแล้วก็ควรจะถอยออกมาอย่างเรียบร้อยทันที เพราะรู้ว่าการซ้อมยังไม่เสร็จ  ไม่น่าที่จะให้เจ้าหน้าที่ต้องย้ำแล้วย้ำอีก แต่ก็อย่างว่า ทุกวันนี้ผมเองก็ไม่ทราบว่าคนไทยเราเป็นอะไรกันไปหมดแล้วดูเข้าใจอะไร ๆ ยากเสียจริง ๆ และเห็นแต่สิทธิของตัวเองเป็นใหญ่โดยไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นบ้าง แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า อย่างไรก็ตาม วันพระราชพิธีจริงคงจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น เพราะวันจริงคงจะมีการรักษาความปลอดภัยเต็มที่คงจะไม่มีการทิ้งรั้วไปไหนอีกเพราะเห็นบทเรียนวันซ้อมใหญ่แล้ว และนี่ก็เป็นผลดีของการซ้อมแล้วซ้อมอีกในพิธีสำคัญเพราะผู้เกี่ยวข้องจะได้พึงสังวรและหาทางป้องกันมิให้เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นในวันพระราชพิธีจริง จากคุณ : วศินสุข - [ 2 พ.ย. 51 22:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อยากจะกล่าวถึงพี่ๆตำรวจของผมซักหน่อย เขียนมายาวเหยียดอย่างนี้ ไม่อยากให้เข้าใจกันว่าโยนความผิดให้ใครนะครับ เดี๋ยวจะหาว่า ผมไปว่าพี่ตำรวจไม่ทำงาน อย่างที่เรียนไปแล้วว่า มันเป็นสุญญากาศครับ ตอนที่ซ้อมรอบเช้าจบลง คนจึงพรวดเข้ามาในช่องว่างนั้น อีกส่วนหนึ่ง ผมก็ออกจะเห็นอกเห็นใจพี่น้องประชาชนมากมายที่อย่างเข้ามาใกล้ เขามาสัมผัส เข้ามาถ่ายรูป จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ที่สำคัญ เหตการณ์ดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โต และในท้ายที่สุด ก็ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด ที่พล่ามมามากมาย ก็เพียงเล่าสู่กันฟัง ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและเรื่องที่ผมได้คิด ไม่รู้ว่ามีเพื่อนสมาชิกได้อยู่ในกลุ่มชนที่ทะลักเข้ามาหรือเปล่า อยากชี้แจงอีกครั้งว่า เรามีความจำเป็นและความลำบากใจมากมาย และมิได้ผลักดันทุกท่านออกไปด้วยความเกลียดชัง หากแต่เป็นหน้าที่ครับ ท้ายที่สุด ผมมองอย่างที่ คคห.20 ว่ามา  ต้องนำไปเป็นบทเรียนต่อไปครับ ปล. แต่ไอ้พี่ช่างภาพนั่น เจอข้างนอก จะแจกซุ่นตรีนให้มันกินซักทีครับ เสียดาย จำหน้าไม่ได้ละ..... แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 00:21:55 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 23:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณวศินสุขในคห.30ว่ามา โป๊ะเช๊ะทุกอย่างเลยครับ  สรุปได้คมกว่าผมแยะเลย จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 23:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณเป๋าตุง ใน คห.25 ก็วิเคราะห์ได้ตรงเผงตามข้อเท็จจริงเลยครับ คือ พระเมรุมาศ หรือพระเมรุของเจ้านาย นั้น เป็นอาคารอวมงคล ธรรมเนียมไทยแต่โบราณ จึงไม่สร้างไว้อย่างถาวรครับ เช่นเดียวกับรั้วพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ที่ตรงกับแนวด้านหน้าโรงราชรถ ไม่ได้มีการทำถนนและประตูทางออกไว้ถาวร เฉพาะเมื่อมีเหตุ จึงจะมีการทุบรั้วและทำถนน เป็นครั้งๆไป  นัยว่า ไม่ให้ได้ออกกันง่ายๆบ่อยๆ เสร็จพระราชพิธีนั้นๆแล้ว ก็จะทำรั้วและสนามกลับตามเดิมครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 2 พ.ย. 51 23:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สามัญสำนึกของแต่ละคน บังคับกันไม่ได้   ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง การศึกษา มารยาท รู้ที่ต่ำที่สูง ที่ควรไม่ควร ฯลฯ ก็ขอเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่ลุล่วงไปอย่างเรียบร้อยครับ คุณ เป๋าตุง  สิทธิของคุณรบกวนผมแล้ว  จะว่าอย่างไรหรือครับ จากคุณ : กัมม์ - [ 2 พ.ย. 51 23:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สิทธิต้องมาพร้อมกับหน้าที่ค่ะ จากคุณ : ธราธาร - [ 2 พ.ย. 51 23:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36  ขอมอบ ดอกไม้ เป็นกำลังใจ  ให้ท่านอาจารย์ค่ะ อ่านกระทู้อาจารย์ด้วยความเห็นใจยิ่ง แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 51 23:27:11 จากคุณ : Oncidium. - [ 2 พ.ย. 51 23:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ทราบว่า การเรียก สมเด็จพระเทพฯ ว่า ทูลกระหม่อม เนี่ย ถูกต้องเหรอครับ คำนี้ใช้เรียก ทูลกระหม่อมอุบลรัตน์ เท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ เพราะ ทูลกระหม่อมไม่มีฐานันดรศักดิ์แล้ว จากคุณ : ปลายฟ้า - [ 2 พ.ย. 51 23:37:06 A:91.64.92.109 X: TicketID:173614 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เรียกสมเด็จพระเทพรัตนฯติดปากกาแบบนี้ ตามสำนวนเขียนของอาจารย์ที่จุฬาฯครับ มาตั้งแต่สมัยยังไม่ทราบว่าทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ทรงสละฐานันดรศักดิ์และมีพระโอรสพระธิดา (อย่าถามว่าท่านไหนนะครับ จำไม่ได้จริงๆ แต่หลายท่าน) และเรียกพระเจ้าลูกเธอพระองค์โตว่า"ฟ้าหญิงอุบลรัตน์"มาตั้งแต่รู้จักพระนามท่านล่ะครับ ป่านนี้ก็ยังติดปากตัวและปากกา ถ้าเห็นว่าผิด ก็กราบขออภัยด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 00:11:03 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 3 พ.ย. 51 00:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนค่ะ จากคุณ : จอมนาง - [ 3 พ.ย. 51 00:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาอ่านจนจบอีกรอบหนึ่งครับ ชื่นชมกับความอดทนและการทำหน้าที่อย่างกล้าหาญของอาจารย์โยดามากๆครับ ในยุคที่ประชาธิปไตยจ๋า ณ ขณะนี้ เป็นเรื่องที่ลำบากครับ ว่ากฏก็คือกฏ สิ่งที่ทุกคนต้องเคารพและปฏิบัติ ก็"ต้อง"ปฏิบัติ มาวันนี้ทุกคนก็ต่างแสดงสิทธิของตนเองอย่างเต็มที่ ว่า ฉันก็มีสิทธิ์ มาห้ามฉันทำไม,คุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน เทือกนี้น่ะ สมัยก่อนหรอ พูดมากนักก็เรียกไปสน.ได้ เดี๋ยวนี้สิครับ คงไม่ได้เพราะว่าแต่ละคนก็เรียกร้องและอารยะขัดขืนกันได้อย่างสบาย การควบคุมอะไรเดี๋ยวนี้ก็เลยดูลำบาก นอกจากคำว่า "ประนีประนอม" ดีที่สุด อันนี้ผมคิดว่านะครับ ผมได้ไปอ่านกระทู้ห้องอื่น กับเวปอื่นเหมือนกันครับ เหตุการณ์ที่ดูคล้ายๆกันนี้ แต่เกิดขึ้นต่างสถานที่ ประมาณว่า ตลอดระยะทางที่กระบวนอัญเชิญพระโกศที่ผ่าน แล้วประชาชนก็บ่นกับเจ้าหน้าที่ต้องการเห็นชัดๆ จะถ่ายรูปบ้างอะไรกันบ้าง เจ้าหน้าที่เตือนหรือว่าปรามก็ว่า ด่าเจ้าหน้าที่กลับบ้าง หรือเวลาที่เห็นสมเด็จพระเทพฯทรงพระดำเนินผ่านก็อยากถ่ายรูป แต่ก็ถูก สห ทหารที่มีหน้าที่ถวายความปลอดภัยอยู่ห้ามถ่าย ก็ไม่พอใจกันฯลฯ แต่ดูว่าของอาจารย์โยดา จะถูกความรุนแรงพอสมควรเกี่ยวกับอารมณ์ของคนอ้วนคนนั้น ที่อาจารย์ใช้ความอดทนสูงในการเอาชนะมาได้ สุดยอดครับ ยังดีนะครับ ที่สถานการณ์ทั้งหมดสามารถคุมอยู่ในเหตุการณ์ได้ มิเช่นนั้นก็คงมีคนที่ไม่เข้าใจอีกมากแห่ตามกันมา ถ่ายภาพ ขึ้นไปบนพระเมรุ คราวนี้ล่ะ โกลาหลเป็นแน่แท้ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 00:43:11 จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 3 พ.ย. 51 00:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เดี๋ยวนี้คนไทยบางคน (หรือหลายๆ คน) ฟังภาษาไทยกันไม่ออกแล้ว จากคุณ : ก็ฉันมันเลว ... เลยแซวเล่น - [ 3 พ.ย. 51 06:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นกำลังใจครับ จากคุณ : Bassism - [ 3 พ.ย. 51 08:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เฮ้อ... จากคุณ : biebie999 - [ 3 พ.ย. 51 09:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ฝากไปถึงเจ้าหน้าที่คนอื่นด้วยว่ายังมีคนเข้าใจอยู่มากค่ะ จากคุณ : รินรุย - [ 3 พ.ย. 51 09:55:02 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คนสมัยก่อน  เค้ามีสิ่งที่ยึดถือยึดมั่นอย่างเหนียวแน่น   อาจจะมีบางคนคิดแตกต่างกันไปบ้าง  มีเหตุวุ่นวายไปบ้างในบางยุคบางสมัย    บ้านเมืองก็ยังอยู่ได้    เพราะหัวใจของทุกคนเป็นหัวใจดวงเดียวกัน    ทุกคนรู้ที่ตําที่สูง  รู้ความควรไม่ควร  ปากกับใจตรงกัน   พูดว่ารักก็รัก  และเทอดทูนก็เทอดทูนจริงๆ     ไปงานพิธีที่ไหน  ใครเผลอทําอะไรห่ามๆ  ไม่เหมาะไม่ควรออกมาให้เห็น    ไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่หรือตํารวจมาจัดการ   เดี๋ยวชาวบ้านแถวนั้น  หรือพ่อแม่พี่น้องเค้า  ก็จะสั่งสอนกันเอง   ไม่มีใครยอมให้ใคร  ทําอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควร   ตอนเด็กๆ ไปทัศนศึกษา  เห็นพระราชอาสน์   ครูก็สอนแล้ว   แต่ก็มีเด็กซนๆบางคนพยายามจะเข้าไปนั่ง     เพื่อนๆและครูบาอาจารย์ช่วยกันวิ่งเข้าไปดึงตัวไว้ทันที  กลับบ้าน   เพื่อนๆไปเล่าให้แม่เค้าฟัง     เพื่อนคนนั้นถูกตีซะน่วมเลย  แม่เค้าบอกว่า  ทําไมทําแบบนี้  พอแม่พี่น้องไม่มีใครคิดทําแบบนี้มาก่อน   จะต้องตีให้หลาบจํา   จะได้สํานึกว่าอะไรควรอะไรไม่ควร     คนสมัยนี้  บางคน  อะไรๆก็อ้างความเท่าเทียมกันหมด   อ้างมีสิทธิ์เสรีภาพ   ทําไมต้องห้าม   ทําไมทําไม่ได้  ไม่ทํามีปัญหาอะไร ดูเอาเถอะ   คิดเองยังคิดไม่เป็นเลย  ต้องถามคนอื่นตลอด   เห็นแล้วก็เอน็จอนาจใจ   ไม่รู้ว่าเค้าเกิดมาจากกระบอกไม้ขนิดไหน  กินอะไรเป็นอาหาร   ถึงคิดถึงทําอะไร   ที่ขวางโลกขนาดนั้น ขอส่งกําลังใจไปให้  ด้วยความเห็นใจและเข้าใจทุกท่านค่ะ   งานนี้เป็นงานสําคัญของพวกเรา   ชาวไทยทุกคนก็ล้วนอยากทําอะไรที่ดีที่สุด  เพื่อถวายพระองค์   เมื่อทุกท่านได้รับเกียรติให้ปฏิบัติงานนี้   ก็เท่ากับมีโอกาสเป็นตัวแทนคนไทยทุกคนที่จะถวายงานเป็นครั้งสุดท้าย   ขอให้มีกําลังใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่  เต็มกําลังความสามารถนะคะ   แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 10:39:32 จากคุณ : บุหลันรตี (บุหลันรตี) - [ 3 พ.ย. 51 10:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นใจจริงครับ ๆ แต่จะท่านพูดแล้วโดนใจสุด ๆ ..... วันนั้นผมก็ไปดู ผมยืนอยู่ตรงศาลหักเมืองถัดจากรั้วสีเหลืองมาสักหน่อย คนอื่นเขานั่งกัน แต่มีเจ๊สองคนอ้วนกับผอมยืนอยู่ ถ้ายืนอยู่ที่อื่นยังพอว่าแต่ดันไปยืนแถวหน้าสุดเกาะรั้วเหลือง คนด้านหลังก็ถูกเจ๊บัง พอผมสะกิดหลังเจ๊บอกว่าช่วยนั่งหน่อยนะครับคนข้างหลังไม่เห็น เจ๊ก็หันมาแล้วบอกว่าจะให้นั่งยังไงไม่มีที่ ผมชักอารมณ์ขึ้น เลยจัดที่จัดทางเคลียร์โน้นเคลียร์นี่ให้เสร็จแล้วบอกว่านี่ครับเชิญนั่งได้เลยครับ เจ๊ก็ทำหน้าไม่พอใจแต่คาดว่าคงไม่อยากด้านกว่านี้เลยหย่อนตัวลงนั่ง แต่สักพักก็ลุกมายืนใหม่ ขนาดวันนั้นผมไปในฐานะประชาชน แล้วเตือนประชาชนด้วยกันเองยังเจอแบบนี้ เห็นใจคุณ อาจารย์โยดา มาก ๆ ครับ และเห็นด้วยแทบจะทุกตัวอักษรที่กล่าวมา เป็นกำลังใจให้ครับ อดทน ๆ ๆ ไว้แบบนี้น่าชื่นชมมากครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 3 พ.ย. 51 11:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอเป็นกำลังใจให้ครับ อ่านแล้วก็น่าตกใจ ที่อธิบายด้วยเหตุผลที่น่าจะเข้าใจดี แต่ก็ไม่เข้าใจกัน จากคุณ : !P!O!N!G! (NaRoOn) - [ 3 พ.ย. 51 11:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้วก็ได้แต่ปลงอ่ะค่ะ ตัวเองตอนไปไหว้พระศพก็แอบมีเคืองที่เจ้าหน้าที่ให้เราไปใส่กระโปรง ทั้งๆที่ใส่กางเกงแบบสุภาพไป แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นระเบียบเราก็ไปเปลี่ยนเสียให้เรียบร้อย จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 3 พ.ย. 51 11:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 49 น่าเห็นใจครับ ผมไปช่วงบ่าย เข้าใจว่าคนเยอะจริง ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีไม่เยอะเท่าไหร่ เจอแบบนี้รับมือลำบากเหมือนกัน ยิ่งถ้าเจอแบบเจ้าของกระทู้นี่ยิ่งเหนื่อยครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : Steyr Commando - [ 3 พ.ย. 51 11:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมเจอตั้งแต่ ที่โรงเก็บราชรถ และ พระราชยาน แล้วครับ ไปถึงเจอกรุ๊ปของที่มากับ กระทรวงวัฒนธรรม เห็นถ่ายภาพกันเมามันเลย ผมตะโกนไปบอกว่า เขาห้ามถ่ายภาพนะครับ ก็ไม่มีใครฟัง มีคนหันมามอง(เดา ๆ ว่า คงพอเข้าใจกันบ้าง) บางคน ที่เหลือ ไม่สนใจ สอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ เขาก็บอกว่า ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน เพราะมากับ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งตามธรรมเนียมมันถ่ายภาพไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะแจ้งกับกลุ่มนี้อย่างไรเหมือนกัน.... (อ้าว เป็นงั้นไป ) จริง ๆ ผมก็มีกล้องในกระเป๋ากางเกงนะ และโอกาสก็อำนวยด้วยทำเนียน ๆ ไปหน่อยก็ไม่มีใครว่า แต่ผมก็ไม่ทำครับ เดี๋ยวมันจะเคยตัว เสียนิสัย จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม - [ 3 พ.ย. 51 11:35:08 A:58.10.222.119 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คนที่ถ่ายรูป เดี๋ยวคงเอารูปมาลงอวดคนในนี้แน่เลย จากคุณ : chicken01 - [ 3 พ.ย. 51 11:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ก็แล้วแต่วิจารณญาณแล้วล่ะครับ อันที่จริงเรื่องถ่ายรูป เราไม่ค่อยกังวลหรอกครับ เพราะตอนนั้นก็ยังไม่ถึงขั้นบุกรุกเข้าไปถึงพื้นที่สงวนได้ ถ้าเป็นรูปรวมๆแล้วเอามาโชว์ ก็ถือว่าเพื่อการศึกษาครับ กลัวเรื่องจะมือบอนมากกว่า เดี๋ยวว่าจะไปลองเดินดูดอกไม้ที่โครงการดอยตุงเค้าจัดซะหน่อย ถ้าแหว่ง ก็เศร้าใจครับ แต่หวังว่าจะไม่แหว่ง.... แต่ถ้าประเภทถ่ายรูปมุขที่ประทับ แบบไปยืนเต๊ะคู่กับธงครุฑ หรือลิฟท์เสด็จอะไรทำนองนี้ โบราณท่านว่า "จงฺไรกินหัว" ครับ เก็บไว้ก็ไม่น่าปลื้ม เอามาโชว์ก็ไม่เห็นจะน่าภูมิใจ และไม่เป็นมงคลซะด้วยครับ ผมอยู่ข้างในทุกวัน ผมยังไม่กล้าถ่ายเลยครับ ตอนทดสอบลิฟท์ ต้องไปยืนเพื่อทดสอบความนิ่ม จะเข้าไปก็ต้องคำนับครับ มุขที่ประทับ จะเข้าไปตรวจความเรียบร้อยของเครื่องปรับอากาศ ก็ต้องคำนับก่อน ใครจะว่าไง ผมก็ไม่รู้ แต่เรื่องนี้ผมถือมากครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 12:11:55 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 12:11:12 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 3 พ.ย. 51 12:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่ได้ไปแต่อ่านแล้วเห็นภาพเลย อารมณ์ประมาณ อ๊ะ สวยจัง ไม่ได้มีป้ายห้าม แสดงว่าเข้าได้ ไหนดูหน่อยสิ (คือเป็นหนูก็คงอดอยากเข้าไปดูไม่ได้น่ะค่ะ '^^) ใครมีกล้องก็คงต้องอดชักภาพคู่เก็บไว้หน่อยไม่ได้ พอถูกขัดความสนุกก็ไม่พอใจ คำพูดไม่เข้าหูก็แถ ลืมให้เกียรติไปว่าที่นั่นที่ไหน ยามนั้นเป็นโอกาสให้เที่ยวเล่นได้หรือไม่ นาทีนั้น เข้าใจเลยว่าทำไมถึงถามว่าคนไทยหรือเปล่า (หัวดำ ๆ แต่พูดภาษาไทยแล้วยังเฉยเหมือนไม่เข้าใจก็อาจจะเป็นคนจีน-เกาหลี-ญี่ปุ่นก็ได้) ท่าทางช่างภาพนั่นอ่อนไหวได้ขาดสติไปหน่อย ชื่นชมอาจารย์โยดาค่ะที่ใจเย็นอธิบายอย่างดี เป็นหนูมีด่า+ไล่เบี้ยแล้วว่าหน้าที่อะไร มาจากไหน รู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรอยู่ ^^" ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับงานสำคัญนี้ค่ะ คนไทยสมัยนี้รักสนุกกันจนลืมความเหมาะสมและความเคารพต่อกาลเทศะจริง ๆ จากคุณ : atihasita - [ 3 พ.ย. 51 13:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 54 น่าทึ่ง ตั้งแต่ ยืนดู .... แล้วล่ะครับ ยืนกันเน้นๆ ... บังกันเอง ด่ากันเอง แย่งกันเอง ... ยืนเสมอ เท่าเทียม ... สมัยก่อนไม่ต้องมีรั้วเหลือง .... อยากรู้เหมือนกัน ว่า เอารั้วเหลืองออก ... คนไทย บางจำนวน ... จะเอามือถือเข้าไปจ่อ เข้าไปถ่ายใกล้ๆเลยหรือไม่ ... รั้วกั้น ไม่ยืนก็ไม่เห็น ...อีกฝ่ายจักไม่กั้น ก็เกรง เสรีภาพ เหลือคณา ... เหมือนมอง ... ตึก 2 ตึก พังครืนลงมาพร้อมๆกัน ... ไม่มีความเคารพ ไว้ใจ ในกันและกัน ... เจ้านายเดินผ่าน ... ใยไม่มีคนหมอบคลาน หรือ กระทั่ง นั่งพับเพียบเรียบร้อย ... หายไปไหนหมด .... อยู่ในรั้ว มองออกมา ก็เหนื่อยเหมือนกัน ... ตำแหน่งที่ผมอยู่ ... ก็ไหลเข้ามาเรื่อย จนสันติบาล ที่ตากแดด ร้อนก็นร้อน ก็ต้องเหนื่อยไปพูดอีก ... พูดก็ยาก เพราะมาด้วยจงรักภักดี .... รัก แต่ไม่มีขอบเขต ... น่าเห็นใจ ทั้งคู่ล่ะครับ จากคุณ : RBJ - [ 3 พ.ย. 51 14:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านแล้ว เห็นใจอาจารย์โยดาค่ะ  อาจารย์ใจเย็นมากที่สามารถอธิบายให้เข้าใจและให้คนถอยออกไปได้ วันก่อนโน้น เราได้เข้าไปชมรอบพระเมรุ(ในช่วงที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้) แค่เห็นคนถ่ายรูปคู่กับพระเมรุอย่างสนุกสนาน (มีแบบโพสท่าด้วยนะ) เรายังละอายแทน ไม่รู้ว่าที่บ้านไม่สอนการควรไม่ควรหรืออย่างไร จากคุณ : มังกรอ้วน - [ 3 พ.ย. 51 15:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนค่ะ จากคุณ : Alethia - [ 3 พ.ย. 51 15:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เดี่ยวนี้คนไทยบ้ากันไปใหญ่แล้ว   ชอบอ้างสิทธิบ้าบอคอแตก ไม่ว่าในเรื่องการเมือง  คุณจะอยู่ฝ่ายไหน  จะอ้างสิทธิ ความชอบธรรมเพียงใด แค่ในฐานะคนไทย สถาบันกษัตรย์นั้นสูงยิ่งกว่าใดๆ ต้องเชื่อ  ต้องฟัง อย่ามาอาศัยพวกมาก แล้วอนุโลม  ไม่ได้เด็ดขาด    สถาบันนี้ต้องอยู่สูงกว่าคำกล่าวอ้างใดๆ ทั้งปวง การซ้อมใหญ่นี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย   รวมถึงกำลังพลที่เข้าร่วมพิธี ที่ได้เข้ากระบวนซ้อมครั้งนี้  แทบไม่ได้นอนกันเลยครับ  เข้าพื้นที่ตั้งแต่ตี 2 ตี3   ทนตากแดดร้อนเปรี้ยง   พอหมดเวลาซ้อมช่วงเข้า  ทุกคนก็หิว  ก็เพลียต้องรีบแยกย้ายไปทานอาหารกันเกือบหมด  เพราะต้องเข้าซ้อมบ่าย 2 อีกรอบ ในเรื่องของการถวายอารักขา  รักษาความปลอดภัยของสถานที่  เป็นหน้าที่ของตำรวจ  แต่ช่วงนี้เกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้นทำให้ตำรวจทำอะไรไม่ถนัดซะเลย จากคุณ : ViT (วิต) - [ 3 พ.ย. 51 17:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่เช่นกันครับ อาการยืนบังกางร่มห้ามเข้าอ่านว่าเข้าได้รั้วมีไว้ดันไว้ปีน นี่เป็นมันซะทุกงานครับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน จากคุณ : Tasurahings - [ 3 พ.ย. 51 17:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 59 มาช่วยตอบเรื่อง "ทูลกระหม่อม" เคยอ่านในห้องนี้แหละครับ แต่ขอโทษที่ทำลิ้งไม่เป็น ใช้แทนการขานพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกเธอชั้นเจ้าฟ้าฯ (ไม่แน่ใจว่าเฉพาะที่ประสูติกับพระมเหสีเอกหรือเปล่า แต่ปัจจุบันก็มีเฉพาะสมเด็จฯ พระองค์เดียวก็ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ดังนั้นก็น่าจะใช้ได้ครับ จากคุณ : ciri - [ 3 พ.ย. 51 17:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คนไทยปัจจุบัน มักเข้าใจว่า ตนเห็นแก่คนอื่นมากกว่าตัวเอง แต่จริงๆมักทำตามใจตัวเองมากกว่า วันนั้นเป็นวันหลังจากวันที่ หลายๆฝ่ายกังวลว่าจะเกิดความรุนแรง กำลังรักษาความปลอดภัยจึงต้องแบ่งไปดูแลพื้นที่ ล่อแหลม และส่วนหนึ่งเข้าใจว่า พี่น้องที่เข้ามา ร่วมชุมนุม ทั้ง 2แห่ง ก็คงรอชมริ้ว กระบวนด้วยเช่นกัน พอคนเยอะความวุ่นวายก้เยอะ พอมีคนหนึ่งขึ้นไปได้ คนอื่นก้ขึ้นตามเช่นกัน เลยเป็นความวุ่นวาย จากคุณ : หนุ่มชาวบ้าน - [ 3 พ.ย. 51 17:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมว่าคนไทยตอนนี้ รู้จักขนบธรรมเนียม ประเพณีต่างๆน้อยลงทุกที วันซ้อมใหญ่ก่อนที่สมเด็จพระเทพฯทรงพระดำเนินผ่าน จะมีสห.มาบอกว่าให้งดถ่ายรูปพวกที่ปีนรั้วต่างๆอยู่ให้ลงมา แต่จะมีพวกดื้อด้าน แอบถ่ายรูป  ตรงนี้คนที่ถ่ายรูปเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่มันเป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัย เพราะอยู่ๆมีกล้องหันไปทางพระองค์ท่าน เป็นเรื่องของประเพณีวัฒนธรรมที่จะต้องแสดงความเคารพเมื่อทรงพระดำเนินผ่าน     สิ่งเหล่านี้มันแสดงให้เห็นถึงปัญหาของคนไทยทางด้านขนบธรรมเนียม ประเพณีต่างๆว่าเราควรปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่ออยู่ในพื้นที่หนึ่งๆ ผมว่าเราควรแก้ไข  ส่วนเรื่องกรุ๊ปของที่มากับ กระทรวงวัฒนธรรม ที่ถ่ายภาพกัน  ตรงนี้แสดงให้เห็นถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ(กระทรวงวัฒนธรรม ) ไม่ได้มีความรู้เรื่องเหล่านี้เลย รู้แต่จะบอกว่าอะไรคืออะไรบ้าง แต่ไม่รู้ว่าควรให้ถ่ายรูปหรือเปล่า เพราะกล้องตัวใหญ่เวลาถือเข้าไปโรงเก็บราชรถ ก็น่าจะเห็นแล้วควรตักเตือนบอกกล่าวว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ไม่ใช่มุ่งหวังแต่จะขายวัฒนธรรม เอาเงินเพียงอย่างเดียว ควรจะรู้ด้วยว่า อะไรที่ควรขายหรือไม่ควรขาย  ตอนนี้ผมว่าสิ่งที่น่าจะมองเป็นกรณีพิเศษก็คือ การถ่ายรูป เพราะบางคนถ่ายภาพสวยแต่ไม่รู้กาละเทศะ ถ่ายในสิ่งที่ไม่ควรถ่าย ถ่ายในเวลาที่ควรถ่าย สิ่งเหล่านี้อาจจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้ จากคุณ : taraytai - [ 3 พ.ย. 51 18:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ความเห็นส่วนตัวค่ะ ถ้าเราเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะพระประมุขของชาติ และเคารพพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ การขึ้นไปเที่ยวเล่น ถ่ายรูปยังที่ประทับ โดยไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด เสียก่อนพระองค์ท่านจะได้ประทับ หรือก่อนที่จะได้รับพระบรมราชานุญาต เป็นการมิบังควร ภาษาชาวบ้าน อย่างที่ดิฉันบอกค่ะ "ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง" ไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่หรือประชาสัมพันธ์มาคอยห้ามหรอกค่ะ ยิ่งอยู่ในเวลาเสด็จด้วย ต้องสำรวมกิริยาอย่างยิ่ง อีกเรื่องที่อยากถามอาจารย์โยดาค่ะ ปัจจุบัน การถ่ายภาพพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เวลาเสด็จ ต้องผ่านการตรวจกล้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสันติบาลหรือไม่ และห้ามใช้กล้องถ่ายภาพประเภทดิจิตอลใช่หรือไม่ หากไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เป็นประชาชนผู้เฝ้ารับเสด็จจะถ่ายภาพได้หรือไม่ อยากทราบเป็นความรู้จริง ๆ ค่ะ ปล. บอกก่อนว่า ดิฉันบอดสีค่ะ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ยุ่งแต่การมุ้งอย่างเดียว 5555555555555555555555555555555 จากคุณ : เป๋าตุง - [ 3 พ.ย. 51 19:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ถึงคุณกัมม์ค่ะ ดิฉันไม่ได้รบกวนคณกัมม์นะคะ ถ้าคุณกัมม์เป็นผู้ประพฤติดีและถูกต้องแล้ว และไม่ได้คิดจะให้ทุกคนตามที่คุณบอกว่า "สามัญสำนึกของแต่ละคน บังคับกันไม่ได้   ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง การศึกษา มารยาท รู้ที่ต่ำที่สูง ที่ควรไม่ควร ฯลฯ" เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ค่ะ ใครที่มีอยู่แล้วก็เป็นผลดีต่อตนเองและสังคม แต่คนที่ไม่มี และกระทำการรบกวนหรือเบียดเบียนต่อสิทธิ ระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือจารีตประเพณีนี่สิคะ เราจะไม่ห้ามปราม หรือตักเตือนกันเลยหรือ หากการแสดงความคิดเห็นของดิฉันเป็นการรบกวนสิทธิของคุณกัมม์ก็ขอโทษด้วยแล้วกันค่ะ เพราะอยู่ในสังคมประชาธิปไตย "(ความคิดเห็น/เหตุผล)แตกต่างได้ แต่ไม่แตกแยกค่ะ" ขอโทษเจ้าของกระทู้ค่ะ ที่ต้องใช้กระทู้นี้ในเนื้อหานอกเรื่องนิดหน่อย จากคุณ : เป๋าตุง - [ 3 พ.ย. 51 19:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคน นะคะ จากคุณ : การเวกในช่อการะเกด - [ 3 พ.ย. 51 20:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ได้ไปมาเหมือนกันครับแต่ไม่ได้อยู่ถึงช่วงบ่าย เวลามีงานอย่างนี้ ผมว่าน่าจะมีการจำกัด การถ่ายรูปบ้างนะครับ พักหลังที่กล้องดิจิตอลมีเยอะขึ้น เวลามีงานอย่างนี้ ผมรู้สึกว่าคนจำนวนมากเลยที่จะมุ่งมั่นกับการถ่ายรูปอย่างเดียว ไม่ได้สนใจกฏระเบียบ หรือ ความเหมาะสมกันเท่าไหร่ จากคุณ : Watashi mo - [ 3 พ.ย. 51 20:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อาจารย์ใจเย็นดีครับ น่าชื่นชมจริงๆ จากคุณ : เซโก้4 - [ 3 พ.ย. 51 20:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณที่กลับมาเล่าอย่างละเอียดครับ แหะๆ ต้องขอโทษด้วยที่เข้ามาปาดช่วงแรก เพราะตอนนั้นคิดว่า อาจารย์ฯ จะไม่กลับมาแล้ว ผมมันก็คนใจร้อน ฟังจากเหตุการณ์นี้แล้ว คงได้แต่ส่งกำลังใจไปช่วยผู้ปฎิบัติงานนะครับ ก็เข้าใจว่าระดับจิตสำนึกหรือสามัญสำนึกคนเราไม่เท่ากัน แต่ที่เป็นอยู่ในสังคมปัจจุบันนี่มันช่างมีความแตกต่างกันมากเหลือเกิน จากคุณ : สายฟ้า ณ ยูเค (สายฟ้า ณ ยูเค) - [ 3 พ.ย. 51 21:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอตอบคุณ เป๋าตุง แทนอาจารย์นิดนึงค่ะ ที่ทำงานเราเป็นสถานที่จัดงาน และมีการเตรียมการรับเสด็จหลายครั้ง ล่าสุดเพิ่งประชุมเตรียมรับเสด็จในช่วงสัปดาห์นี้อยู่ 1 งาน การจะถ่ายภาพใดๆ ในขณะพิธีการ ตั้งแต่เสด็จถึง ประทับอยู่ จนเสด็จกลับ ทางสันติบาลจะต้องตรวจกล้องทุกครั้งค่ะ...แต่ทราบว่าผ่อนผันให้เป็นกล้องดิจิตอลแล้ว ทั้งนี้ เจ้าของงาน เจ้าของพื้นที่ ต้องแจ้งชื่อและประวัติ บันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ล่วงหน้า ส่วนสื่อมวลชนนั้น...ต้องตรวจเมื่อเข้ามาถึงพื้นที่จัดงานเช่นกัน แม้จะเป็นทีมข่าวในพระราชสำนักที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีก็ตาม สำหรับประชาชนที่รายล้อมอยู่ ...ทางสันติบาลอาจไม่ได้ตรวจกล้อง แต่เชื่อว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย ต้องกำหนดเขต กั้นพื้นที่ห่างออกจากบริเวณงานให้มากเข้าไว้ล่ะ และจัดเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ตรวจตรา ค่ะ คราวนี้ค่อนข้างเข้มงวดกว่าทุกครั้งเลยด้วยล่ะ แต่สำหรับการเฝ้ารับเสด็จในลักษณะประทับรถพระที่นั่งหรือเสด็จในงานลักษณะนี้   คงต้องให้ผู้รู้มาตอบต่อไป จากคุณ : นัทธ์ - [ 3 พ.ย. 51 21:43:56 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณโยดา สิ่งที่คุณลงไปนั้นถูกเกือบหมด แต่บางตอนคุณก็เพิ่มเติมหรือบิดเบือนจนคนอื่นเข้าใจคนที่เข้าไปในเขตหวงห้ามผิดไป คนที่ชมงานนั้นมีมากมาย บางคนมาจากต่างจังหวัดไกลๆเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าวันจริงคงจะลำบากยิ่งนัก คนมาก่อนก็พอหาที่นั่งดูได้ คนที่มาสายก็พยายามแทรกตรงช่องนั่งของสื่อ มีเจ้าหน้าที่หญิง ว.แจ้งเพื่อนว่าให้มาไล่หน่อย มีคนบอกว่า อย่าถึงกับไล่เลยเพราะคำว่าไล่เหมือนกับการไล่จับหรือไล่ต้อน...น่าจะบอกกันดีๆก็ได้ และอีกอย่างการตั้งที่นั่งสำหรับช่างภาพสื่อมวลชนผู้ที่จัดทำ(ตั้ง)พยายามที่จะตั้งเฉียงให้ได้มุมจนขวางทางเดินชาวบ้าน จะเห็นว่าไม่ได้ใส่ใจอำนวยความสะดวกชาวบ้านบ้างเลย เข้าเรื่องนายโยดา เราคือคนที่นายกล่าวถึง ตอนเที่ยงพอเจ้าหน้าที่ทหารถอนขบวนออก ผมคนหนึ่งคิดว่าคงเสร็จการซ้อมก็กำลังจะข้ามถนนไปฝั่งศาลฎีกาแล้ว แต่ได้ยินคนพูดว่าเข้าข้างในได้แล้ว จึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีเพราะวันหลังไม่รู้จะได้มาเห็นใกล้ๆหรือไม่ พอหันกลับไป โอ้โห..คนที่ยืนดูริมๆรั้วเดินเข้าไปข้างในเกือบหมดแล้ว จึงรีบตามเข้าไป ตอนนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนยืนอยู่ทางเข้า ยังคิดว่าเขาคงไม่ห้าม ก็ไม่เห็นบอกอะไรและบางคนยังเลื่อนแผงเหล็กออกให้กว้างขึ้น ต่อมาประมาณ15นาทีได้มั้งจึงได้ยินประกาศจากเจ้าหน้าที่ว่ายังเข้าไม่ได้ขอเชิญทุกท่านออกก่อน เนื่องจากตอนบ่ายจะมีการซ้อมต่อ เอาละซีไอ้ที่เข้าไปในสุดก็หันหลังกลับ ไอ้ที่กะลังจะเข้ามาก็ลังเล คนข้างในสุดก็ออกไม่สะดวก มีหลายคนก็ยืนถ่ายรูปกัน ก็น่าเห็นใจใช่ใหม เพราในชีวิตหนึ่งไม่ทราบว่าจะได้ใกล้ชิดเช่นนี้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เสื้อขาวหลายท่านก็พยามเชิญคนออกด้วยคำพูดที่สุภาพ คนหมู่มากก็พยายามจะออก แต่มันออกไม่สะดวกคนที่อยู่หลังสุดก็เลยถือโอกาสยืนดูพระเมรุ บางคนถือโอกาสถ่ายภาพ นายโยดาที่พูดถึงมาจากใหนไม่รู้.. ออกไปๆ ออกไปก่อนเขายังไม่เปิดให้เข้า เข้ามาได้ยังไงเนี่ย... ยังนึกในใจว่าหมอนี่พูดห้วนกว่าคนอื่นแฮะ และก็เห็นกลุ่มหญิงสูงวัยกลุ่มหนึ่งกำลงยืนถ่ายรูปกับภาพถ่ายพระพี่นางฯก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องซีเรียสอะไรเพราะทางออกคนยังแน่นอยู่ นายโยดาที่ว่าก็ตะโกนใส่กลุ่มนั้นว่าด้วยน้ำเสียงที่คล้ายเย้ยหยัน.. เอ้าถ่ายกันเพลิดเพลินเลยนะ เป็นคนไทยหรือเปล่าเนี่ย พูดไม่รู้เรื่องเลย.. ใจเราจึงแว๊บขึ้นมา ว่าโอโห เจ้าหน้าที่พูดกับคนอย่างนี้เชียวหรือ และก็ยืนอยู้ใกล้นายโยดาที่ว่านี่ จึงบอกแกว่า นี่..ทำไมพูดกับเขาถึงขนาดนี้...ยอมรับว่าเสียงอาจขึงขังหน่อย เพราะไม่ชอบคนที่ใช้คำพูดเหยียบย่ำคนอื่น นายโยดาจึงเดินมาโอบใหล่แล้วบอกว่าก็พยายามบอกกันหลายหนก็ไม่ออกกัน จึงบอกแกว่า ไม่ไช่ไม่ออกแต่คนมันเยอะก็ช้าบ้าง และยังบอกแกว่า น่าจะพูดกับชาวบ้านดีกว่านี้.. แกยังเดินโอบเอวผมเดินต่อ มันก็มีบ้างนะลุงหนักบ้างเบาบ้าง แล้วลุงเป็นคนถ่ายหรือปล่าวล่ะ บอกแกว่าคนกลุ่มนั้นไม่รู้จักกันจะถ่ายทำไม ทั้งหมดนี้ไม่มีไครอ้างสิทธิอะไรเลยหลายคนที่มาดูงานซ้อมฯ เชื่อว่าเขามาด้วยใจรักและเทิดทูนฯ ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย เลยเถิดจนถึงคิดจะกระทืบกันเลยรึนี่ นี่แสดงว่าไอ้ที่พูดจากะชาวบ้านขนาดนั้น และมีคนเตือนให้กลับไม่สำนึกเลย การที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะต้องเกี่ยวข้องกับเจ้านายชั้นสูงยิ่งต้องระวัง ต้องอดทน อย่าคะนองปาก พูดจาถากถางคนเล่น โดยเฉพาะหญิงกลุ่มนั้นรุ่นแม่นายโยดาได้แล้ว ที่ต้องชี้แจง มิใช่การแก้ตัวอะไรเลย แต่อยากให้คนที่ออกความเห็นต่างๆได้ไตร่ตรองก่อน ก่อนที่จะสรุปอะไร บังเอิญ..บังเอิญจริงๆที่เปิดมาเจอ ไม่นึกว่านายโยดา..จะคิดผูกพยาบาทกันขนาดนี้ เจ้าหน้าที่รัฐทำไมอดทนกับชาวบ้านไม่ค่อยได้เลย หรือจะให้ชาวบ้านเท่านั้นต้องอดทนกะเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น..... จากคุณ : คนไทย - [ 3 พ.ย. 51 21:58:41 A:125.24.218.242 X: TicketID:192908 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เพิ่มการสื่อสารให้มากขึ้นอีกหน่อย คนรู้ดีต้องเป็นคนบอกคนที่ไม่รู้ให้เข้าใจนะครับ เพิ่ม PR ให้คนเข้าชมน้อยลงอีกสักหน่อยก็คงได้มั้ง จะได้ลดภาระของคนทำงานลงบ้าง หรือไม่งั้นระบบ รปภ ต้องปรับปรุง จากคุณ : นาย ก - [ 3 พ.ย. 51 22:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 71 แหม กำลังจะตอบเรื่องนี้เลย ขอบคุณคุณนัทธ์ด้วยครับ หลายท่านได้เข้ามาให้กำลังใจ ก็ขอเป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ทุกคน ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ พูดถึงเรื่องการถ่ายรูป คราวนี้ก็ได้เห็นอะไรแปลกๆอีกเหมือนกันครับ รอบๆสนามหลวง รวมไปถึงบริเวณท่าช้างท่าพระจันทร์ ผมพบว่ามีผู้ตั้งโต๊ะขายรูปเหตุการณ์ในพระราชพิธียกฉัตรเมื่อวันที่20ตุลาคมที่ผ่านมา ใบละ5บาทมั่ง 10บาทมั่ง บางรูป ดูจากความละเอียดและเท่าที่เคยผ่านตา น่าจะเซฟมาจากเว๊บไซต์ข่าวต่างๆ แต่หลายรูป น่าสนใจครับ คุณภาพดีอย่างรูปที่อัดมาจากไฟล์ต้นฉบับ และที่แน่นอน มุมกล้องนั้น ไม่ได้ซูมมาจากนอกมณฑลพิธี แต่ถ่ายโดยคนที่ยืนอยู่ในงาน โดยช่างภาพที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาบันทึกภาพในงาน แล้วก็เอาไฟล์ไปขายหรือพิมพ์รูปขายเอง เอาอภิสิทธิ์ที่ได้มาหากิน ว่างั้นเหอะครับ ผมไม่รู้ว่ามันทำเงินได้ขนาดไหน ได้ร่ำได้รวยเลยหรือเปล่า จะว่าถ่ายมาก็อยากเผยแพร่ ก็พิมพ์แจกฟรีหรือลงอินเตอร์เน็ทไปเลยก็ได้ ไม่รู้ใครจะว่าไง  แต่ผมว่าไม่เข้าท่าเลยครับ และผมก็รอให้มีคนที่ได้เข้าไปอยู่จังหวะนั้น แต่เป็นพี่น้องประชาชนที่ทะลักเข้ามา ได้ชี้แจงเหมือนกัน ยิ่งเป็นพี่ช่างภาพเลยก็ดีครับ จะได้ปรับความเข้าใจ ตัวจริงนะครับ? จะได้ว่ากันไป สรุปว่า พี่ไม่พอใจผม ที่ผมพยายามจะปรับเปลี่ยนอารมณ์คำพูดไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะจังหวะนั้น แหม" โอ้โห ถ่ายกันใหญ่เลยนะคร้าบบบบ ถ่ายกันเข้าไปคร้าบบบบ" ใช่มั้ยครับ? กลายเป็นว่า มุขไม่ฮา พาเครียดซะงั้น ประโยคที่พี่ว่าพี่ไม่ชอบนี่ ผมจำได้ว่าผมใช้อยู่ซัก2-3รอบ เพราะเริ่มมุขจำกัด ใช้ตั้งแต่ยืนอยู่หน้าสะพานเกริน ไปจนถึงช่วงที่อยู่หน้าทับเกษตร ซึ่งผมไปจ๊ะเอ๋พี่พอดี ชี้แจงต่อพี่ว่า จังหวะนั้น ผมพยายามเปลี่ยน"ไดอะล็อค"ไปเรื่อยๆ เพราะไอ้ที่พูดซ้ำๆ ไม่ได้ทำให้"พี่น้องประชาชน"คล้อยตามได้เลย หรือไม่ใช่ครับ? อ้อ ที่พี่ว่า มีผู้หญิง ว.บอกเจ้าหน้าที่ด้วยกันให้"ไล่" คนออกไป พี่หลับตานึกดูดีๆนะครับ จินตนาการภาพว่าพี่เป็นเจ้าหน้าที่คนนั้น พี่จะ "วิทยุ" บอกพวกเดียวกัน โดยใช้คำว่า "เชิญ" เหรอครับ ในจังหวะที่เจ้าหน้าที่ทุกคนตกใจจนขี้ขึ้นหัวน่ะ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 00:10:09 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 22:35:15 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 22:26:10 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 3 พ.ย. 51 22:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 72 และที่ยังยืนยันเช่นกัน ดังเช่น นามแฝงของพี่"คนไทย" คำถามของผม ต้องการคำตอบนี้แหละครับ ว่าคนไทยหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษ เพราะตลอดระยะในการผลักดันฝูงชนตั้งแต่หน้าสะพานเกรินไปจนถึงหน้าทับเกษตร ผมเจอคนญี่ปุ่นหรือคนจีนไม่น้อยเลยครับ พี่จำที่เราคุยกันได้ดีพอควร แต่น่าจะได้อยู่ตรงช็อตแรกที่ผมหน้าแตกตอนเจอสาวญี่ปุ่นคนนั้น แต่จำได้ว่า จังหวะนั้น ประโยคที่พี่มีปฏิกิริยากับผม คือ "คนไทยหรือเปล่า?"นี่ครับ ไม่ยักกะใช่เรื่อง "ถ่ายกันเข้าไปคร้าบบบบบ"นี่นา.... จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 3 พ.ย. 51 22:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 73 อ้อ ลืมแย้งไป ผมไม่ได้เรียกลุงนะ ผมเรียกพี่ เห็นป่ะ จำได้ เพราะแม้จะจำหน้าพี่ไม่ค่อยได้ แต่เท่าที่นึกออก พี่ดูไม่แก่เท่าไหร่ และที่เอามาเล่า ไม่ใช่เพราะว่าอาฆาตพยาบาท เพราะพี่เป็นแค่จิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆในเรื่องเล่าของผม ผมเอามาเล่า เพราะผมรับปากพี่คนนึงเอาไว้ว่า จะเอามาเล่าสู่กันฟังในพันธ์ทิพย์ ให้เค้าไปตามอ่านเอา เรื่องที่ผมเล่า ผมก็ได้บอกไปแล้วว่า ไม่ได้มุ่งหวังจู่โจมกลุ่มคนที่หลงเข้ามา ทั้งยังไม่ได้เหมารวมดูถูกนิสัยคนไทยด้วยกัน เพียงแต่ ผมอยากจะเล่าถึง "เรื่องที่ผมได้คิด" เอาล่ะ เอาเป็นว่า พี่ไม่ชอบใจที่ผมพูดจาดูถูกชาวบ้าน.....ตรงไหนครับ? ผมยังงงตรงนี้ ว่าผมไปดูถูกอะไรชาวบ้านครับ? อารมณ์ตอนนั้น มีอยู่ประการเดียว ทำไงให้คนออกไปดีวะ? จะเอาฮอร์โมนตรงไหนมาดูถูกคนครับ มันมีเหตุอะไรให้ดูถูกกันครับ? ชี้แจงโดยหวังให้พี่เข้าใจอีกครั้ง พี่น่าจะหันไปดูเจ๊ที่ถ่ายรูปเต๊ะท่าอยู่กับพระสาทิสลักษณ์ในทับเกษตรจริงๆนะครับ และพี่ไม่น่ามาแย่งซีนเลย ผมกำลังจะหาคำตอบตอนนั้นเลยว่า เจ๊คนนั้น คนไทยหรือเปล่า? จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 3 พ.ย. 51 22:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ในสถานการณ์แบบนี้ การจะให้คนสิบคนมาพูดจาไพเราะเชื้อเชิญคนมากมายขนาดนั้นออกจากสถานที่ ก็คงเป็นได้ยากนะครับ เพราะมันเกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยรวมทั้งเป็นสถานที่ที่ควรได้รับความเคารพอย่างสูงด้วย เป็นผมก็ต้องตะโกนเสียงดังเพื่อเชิญคนหมู่มากออกไป หากหน้าตาเอเชียฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ก็ต้องถามแหละครับว่า คนไทยรึป่าว? เผื่อเป็นชาติอื่น ถ้าคนไทยจริงๆ ได้ยินแล้วก็ต้องเข้าใจขึ้นทันทีมาหละครับว่ากำลังล่วงล้ำ(ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ก็ตาม) สถานที่ที่ควรได้รับการรักษาความปลอดภัยและควรได้รับความเคารพอย่างสูง และควรจะกระตือรือร้นรีบออกมาและบอกคนอื่นต่อๆไปว่าเค้ายังไม่เปิดให้ชม ไม่ใช่ฉวยโอกาสบอกว่าออกไม่สะดวกถ่ายรูปและเดินชมกันต่อ ต้องเข้าใจให้ถูกต้องนะครับว่าสถานที่นี้ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวและ จนท. เหล่านั้น ไม่ใช่ พนง.ต้อนรับที่มีหน้าที่บริการนักท่องเที่ยวและชาวบ้าน แต่ในทางตรงกันข้าม พวกเค้ามีหน้าที่ดูแลสถานที่ที่สำคัญมากๆอย่างนี้ หากมีคนมารุกล้ำก็ต้อง ทำให้คนออกไปนะครับ อีกอย่าง บริเวณพระเมรุมาศและอาคารโดยรอบ กรมศิลป์ฯกำลังจะส่งมอบ(หรือส่งมอบแล้วไม่แน่ใจ)ให้สำนักพระราชวัง เพื่อประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระพี่นางฯต่อไป ซึ่งจะต้องมีพระบรมวงศานุวงศ์ และบุคคลสำคัญมากมายมาร่วมพิธีนี้ แค่นี้คนไทยเราก็น่าจะรู้แล้วครับว่าควรให้ความเคารพสถานที่นี้อย่างสูง เป็นผมก็ไม่กล้าไปเหยียบย่ำ หรือสร้างความวุ่นวายหรอกครับ หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จากคุณ : Rocket Fuel - [ 3 พ.ย. 51 23:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 75 และที่ดูจะไม่ตรงกัน (ถ้าผมจะว่าพี่ปรักปรำผมก็คงจะได้มั้ง แต่ไม่เอาดีกว่า) คือ พี่ว่าผมพูดห้วน พี่ครับ พลันที่เห็นคนแห่เข้ามา พวกเราเตรียมใจไว้แล้วว่า ต้องใช้ความอดทน และความละมุนละม่อมกันพอควร ใครจะบ้าไปดุร้ายกับตีนเป็นจำนวนมากครับ? ผมไม่ห้าวอย่างนั้นหรอก กลัวเหมือนกัน ตัวต่อตัวว่าไปอย่าง... และพี่ก็พยายามจะบอกว่าผม"ห้วน" โดยยกทีมงานคนอื่นๆว่าสุภาพกว่าผม แต่กระนั้นทุกคนก็โดนด่ากลับมาครับ ขนาดสุภาพอย่างที่พี่ว่านะ และที่นึกตามได้ง่ายๆ, แค่พี่ตัดคำว่า"ครับ"ที่ลงท้ายประโยคที่พี่ว่าผมพูด แล้วก็เอามาโพสลงตะกี๊ มันก็ไม่ยากที่จะทำให้ผมดูดุร้ายหยาบคายหรอกครับ แต่ที่ไม่แปลกปลอม คือ ตอนที่ผมเข้าไปลูบหลังลูบไหล่พี่ ผมพูดอย่างนั้นจริงๆ เพราะผมต้องรีบเข้าใจอารมณ์พี่อย่างรวดเร็ว พี่ว่าผมหยาบ ผมก็ต้องยอมเออออกับพี่ไป เอากำปั้นอัดเข้าหน้าพี่น่ะมันง่าย แต่ถ้ามัวไปต่อยพี่ ผมก็ไม่มีเวลาไปเชิญคนอื่นๆออกไปสิครับ ความเรียบร้อยของมณฑลพิธี สำคัญกว่าการระบายอารมณ์เยอะ และพี่อย่าปฏิเสธนะครับ ว่าผมได้อธิบายกับพี่แล้วว่า ผมไม่ได้พูดกับพี่ จังหวะนั้น ผมกำลังสนใจเจ๊คนนั้นอยู่ เต๊ะท่าคิกขุข้างพระสาทิสลักษณ์ ถ่ายกันเข้าไปได้ ไม่น่าจะใช่คนไทยจริงๆนะ และเจ๊ก็ไม่ได้สูงวัยอย่างที่พี่ว่า หรือพี่ไปมองตรงไหนเนี่ย? ผมชักไม่เข้าใจ ที่สำคัญ ประโยคของพี่ที่ผมจำได้ " ผมก็ทำหน้าที่ผม มาพูดอย่างนี้ได้ยังไง?" นำไปสู่คำว่า "หน้าที่" ที่ทำให้ผมงงว่า ใครวะที่ทำหน้าที่อยู่ ผมสิทำหน้าที่อยู่ แต่หน้าที่พี่อะไรล่ะครับ? แต่ตอนนั้นนึกเอาอย่างเดียวนะ เรื่องแรกก็ต้องพาพี่กับคนอื่นๆออกไปโดยเร็วนั่นแหละ ไม่มีเวลามาเกียงพี่หรอก และคำว่า "หน้าที่" ที่พี่พูดมา ทำให้ผมได้คิดเรื่อง "สิทธิ" ในภายหลังนั่นแหละครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 00:24:42 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 00:18:18 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 3 พ.ย. 51 23:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ทำไมทำกันอย่างนี้เนี่ย ต่อไปนิสัยคนไทยแบบนี้ต้องถูกกำหนดไว้ในแบบมาตรฐานชาวไทยรึเปล่าหนอ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 23:20:08 จากคุณ : ดนย์ - [ 3 พ.ย. 51 23:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เป็นกำลังใจให้ผู้ปฎิบัติงานทุกท่านนะครับ ต้องเข้าใจว่าวุฒิภาวะของประชาชนนั้น มีไม่เท่ากัน การศึกษาฝึกอบรมก็ไม่เท่ากัน ต้องมีแตกต่างกันบ้างอย่างธรรมดา แต่ถามว่าเค้ามีความจงรักภักดีไหม ก็ต้องตอบว่า พวกเค้าก็มีความจงรักภักดี แต่เค้าเพียงแต่ไม่ทราบถึงความเหมาะควรเท่านั้นเอง บางคนตะโกนแผดเสียงแข่งกันว่า ทรงพระเจริญ ซึ่งผมว่างี่เง่าสิ้นดี ในทางกลับกัน ผมเคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับพวกเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังบางคน พูดจาโอ้อวดจนน่าหมั่นไส้ จำว่าเป็นอยู่กรมวังละมั้ง น่าตลกจิงๆ อีกครั้งหนึ่ง ผมอุตส่าห์สั่งพวงมาลัยสวยมากกะไปให้พนักงานทูลเกล้าฯพระบรมอัฐิรัชกาลที่๕ สมเด็จพระพันปี และสมเด็จพระพันวัสสาฯในงานวันปิยฯ ตอนสักราวเที่ยง ซึ่งอีกนานกว่าจะเสด็จฯ พอผมเดินเข้าไป เพียงประตูในพระที่นั่งอมรินทร์ เจ้าหน้าที่กองราชูปโภค หัวหน้าด้วย ตะโกนมาว่า "ออกไปเดียวนี้ ใครให้มันเข้ามา" โหย ผมนะอารมณ์ขึ้น ผมก็ระงับโกรธ  บอกว่า งั้นพี่ช่วยเอาพวงมาลัยไปถวายท่านหน่อย เค้าว่าไงรู้ไหมครับ "เอาออกไปเด๋วนี้" ผมเรยไปถวายที่ปราสาทพระเทพบิดร ทูลฟ้องท่านว่าอย่าให้มันเหล่านั้นได้ดิบได้ดีในราชการเลย จิตตกอย่างรุนแรงวันนั้น อ่อ พวกพนักงานพวกนี้นี่ ชอบขังตัวนั่งเก้าอี้องคมนตรีด้านหน้า นะครับบ วันนั้นถ้าพูดเพราะกับผมสักคำจะไม่ว่าเลยครับ อ่อ เมื่อปีก่อนๆ งานวันปิยะผมก็ทำมาลัยไปถวาย ก็ไหว้ที่ประตูอมรินทรตรงฉาก (แค่นี้ก็พอใจ) พอถามว่า พระบรมโกศองค์ไหนเป็นขององค์ไหน พวกมันบอกว่า "บอกไม่ได้ บอกไม่ได้" ออกไปได้แล้ว อย่างไรเรื่องพระเมรุนี่ เห็นด้วยกับคุณทุกประการ เพราะหากเสียไป นี่ยุ่งแน่ๆๆ จากคุณ : natthaset - [ 3 พ.ย. 51 23:26:32 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณ คุณnatthaset และทุกท่านที่เข้าใจครับ มาต่อกันครับพี่"คนไทย" ผมก็ไม่ได้บังคับให้พี่เห็นอย่างที่ผมเห็น เหมือนกับที่ผมก็ไม่สามารถบังคับให้ทุกคนเข้าใจสิ่งที่เราพยายามบอกได้ ได้บอกไปข้างโบ๊นนนนนนแล้วว่า เห็นใจชาวบ้านเหมือนกัน ใครก็อยากมาเห็นมาชมใกล้ๆ แต่เราก็ต้องทำตามหน้าที่ และเรื่องที่เล่า ก็เล่าให้อ่านกันตามสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่เรื่องที่ผมคิดผมรู้สึกในแต่ละห้วงที่เกิดขึ้น พี่จะว่าผมบิดเบือน ผมก็ไม่แปลกใจ เพราะถ้าผมจะว่าพี่พยายามจะบิดเบือนเพื่อให้ผม"ก้าวร้าว"ให้ได้ พี่ก็ไม่น่าจะแปลกใจ แต่ผมก็ไม่ว่าหรอก พี่กับผมรู้อยู่แก่ใจ หรือไม่ตอนนั้นพี่ก็ฉุนที่ผมมาขัดจังหวะ จึงมองว่าผมหยาบคายเอาได้ง่ายๆ...ซะงั้น เพราะ บอกอีกที พี่เป็นแค่ส่วนเล็กๆในเรื่องเล่าของผม ที่พูดคำที่ทำให้ผมได้คิดถึงเรื่องอื่นๆต่อ แต่ที่มาชี้แจงยาวยืด เพราะพี่อุตส่าห์เข้ามาชี้แจงอย่างยาวยืดโดยไม่เว้นวรรค ผมก็ต้องสนอง อีกอย่างนึง จากที่พี่ว่า "เจ้าหน้าที่รัฐทำไมอดทนกับชาวบ้านไม่ค่อยได้เลย หรือจะให้ชาวบ้านเท่านั้นต้องอดทนกะเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น..... " นั่นสิครับ ทำไมเราถึงตะแบงเพื่อทำเรื่องที่ต้อง  เรียกร้อง  ให้คนอื่น"อดทน"ตัวเราอยู่ร่ำไป โอ....จะเรียกร้องอะไรกันนักหนาเล่า พี่น้อง.... เขียนมาเขียนไป ผมก็งงจริงๆนะว่า"ผมก็ทำหน้าที่ผม มาพูดอย่างนี้ได้ยังไง?"ของพี่นี่ มันยังไงครับ ผมจับต้นชนปลายไม่ถูกจริงๆ หรือผมฟังพี่ผิด อย่างที่พี่ฟังผมผิด? แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 00:48:58 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 00:11:54 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 23:50:15 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 3 พ.ย. 51 23:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ท้ายสุดในรอบนี้ ,อย่างจริงใจ ผมไม่ปฏิเสธว่า ผมงงและฉุนในความห้าวแบบแย่งซีนของพี่"คนไทย" ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ถ้าเป็นข้างนอก พี่มาประมาณนี้ คือรุกล้ำในที่ๆผมดูแล และชี้แจงแล้วแต่ไม่ออกไป ถ้าไม่ใช่สถานที่ราชการนะ ผมกระทืบพี่แน่ครับ เหมือนกับที่พี่คิดว่าผมหยาบคาย ไม่แน่พี่ก็จะเอาเรื่องผมเหมือนกัน แต่ก็ด้วย"หน้าที่" ที่ผมรับผิดชอบเนี่ยแหละครับ ที่รั้งให้ผมพอมีขันติได้ คำนี้อีกละ ผมไม่รู้ว่า"หน้าที่"ที่พี่เอ่ยถึงคืออะไรกันแน่ แต่ก็เดาว่าคงพอมีอะไรรั้งพี่ให้มีขันติเหมือนกันละกันนะจังหวะนั้น และเรียนทุกท่านที่เข้ามาแสดงความเห็นต่อไป ท่านที่ระแวงสงสัยผมว่าทะลึ่งไปห้าวกับชาวบ้านเป็นร้อยได้ ก็สมารถตำหนิกันได้ ส่วนท่านที่เข้าใจเรื่องและความรู้สึกที่ผมเล่า สิ่งที่ผมได้คิด ผมขอขอบพระคุณ แต่วิงวอนว่าอย่าได้ต่อว่าอย่างเสียหายแต่ผู้คนที่ทะลักเข้ามาในพื้นที่มณฑลพิธีดังกล่าวนั้น เพราะเขาก็คงเข้ามาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย และออกไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายเช่นกัน ไม่อยากให้ต่อว่าต่อขานกัน จะอย่างไรเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด ที่สำคัญ มันยากที่จะจารไนยเหตุผลที่มาที่ไปของทุกเรื่องทุกมุมทุกแง่จากทุกคนที่อยู่ในที่นั้นอย่างกระจ่างชัด เรื่องที่ผมอยากสื่อถึงทุกท่าน ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้น แต่อยู่ที่สิ่งที่ผม"ได้คิด"ครับ ใครไม่เข้าใจ รบกวนกลับไปอ่าน คห.26-28-29 ของผมด้วย จะเป็นที่ปลื้มปีติครับ ด้วยความเคารพ ปล. พี่"คนไทย" ไม่ลองล๊อคอินเข้ามา แล้วโพสรูปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่ะครับ ไหนๆก็อุตส่าห์หลุดเข้ามากันแล้วเนอะ น่าจะมีติดกล้องบ้างแหละ เอาแบบมุมกว้างๆ และในวันนั้นเลยนะ จะได้ให้เพื่อนสมาชิกสัมผัสห้วงเวลานั้นกันครับ ด้วยภาพก็ยังดี มันส์จริงๆพับผ่า... อย่าทำให้ผมผิดหวังด้วยการบอกว่าไม่มีล๊อคอินนะครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 00:03:16 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 23:54:46 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 51 23:51:51 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 3 พ.ย. 51 23:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ทำอะไรตามใจคือไทยแท้มีทุกที่และน่าเห็นใจคนทำงานจริงๆ เมื่อวันอาทิตย์มีน้องที่บริษัทชวนไปดูพระเมรุมาศเหมือนกัน ก็งงๆและยังนึกว่าเค้าเปิดให้เข้าชมกันได้แล้วเหรอ เท่าที่เคยเห็นสมัยสมเด็จย่า ก็จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมในบริเวณได้หลังพระราชพิธีผ่านไปแล้ว นี่ยังซ้อมกันอยู่เลย แล้วคนชวนใส่เสื้อซะสีชมพูปรี๊ด เลยไม่เข้าใจว่าจะไปทำไมต้องใส่เสื้อสีสดขนาดนั้นด้วย บังเอิญวันนั้นงานเสร็จค่ำ เลยชวนกันไปทำบุญแทน จากคุณ : sirind - [ 4 พ.ย. 51 02:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เดี๋ยวนี้คนไทย โดยเฉพาะคนในเมืองทำตัวเหมือนคนต่างประเทศในประเทศตัวเองครับ เจอพิธี ราชพิธี ก็นึกว่าเป็นโชว์ ไม่ได้สนใจอะไร ขอไปดู ขอถ่ายรูป ทำเหมือนนักท่องเที่ยว ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็ไปถ่ายงาน ประเพณีอะไรเค้าโดยที่ไม่ดูความเหมาะสม ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่รู้ทำเนียมประเทศตัวเอง จากคุณ : ชาเขียว - [ 4 พ.ย. 51 04:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เตรียมรับมือกับความวุ่นวายตอนที่ให้เอาต้นไม้ที่ประดับกลับบ้านได้ให้ดีเถิดครับ ผมว่าจะยิ่งวุ่นวายกว่าแย่งข้าวเปลือกที่หว่านในพิธีจรดพระนังคัล ฯ อีก นะ ฟังข่าวเมื่อคืนบอกว่าจะอนุญาตให้ประชาชนเอาต้นไม้ที่นำมาประดับไป ปลูกที่บ้านได้ จากคุณ : satitp - [ 4 พ.ย. 51 08:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เห็นใจคนทำงานค่ะ จากคุณ : MiKi (Sichon) - [ 4 พ.ย. 51 09:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 84 คนเหล่านี้ เห็นความพอใจส่วนตัวอยู่เหนือสิ่งอื่นทั้งปวง ดูท่าจะลืมไปแล้วว่าสังคมเรามีกฎครอบอยู่ สรุปว่า "มักง่าย" เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนพัฒนาการทำงานให้ดียิ่งขึ้นครับ จากคุณ : คิดอารายออกปาย - [ 4 พ.ย. 51 11:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เป็นเรื่องปกติของคนไทยคับ ต้องได้สิทธิเป็นคนแรก  ต้องเสียสิทธิเป็นคนสุดท้าย ไม่ว่าสิทธินั้นจะคืออะไร จากคุณ : เปลวไฟสีน้ำเงิน (เพชรน้อย) - [ 4 พ.ย. 51 12:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อยากให้เจ้าของกระทู้ ไปแปะลิ้งค์ไว้ที่หลาย ๆ ห้องค่ะ BP (ห้องนี้ช่างภาพก็แยะ เห็นมีหลายกระทู้เรื่องวันซ้อม), เฉลิมไทย ฯลฯ ไม่ได้อยากให้เกิดการโต้เถึยงใด ๆ แต่อย่างน้อยก็น่าจะเป็นข้อคิดหลายๆ อย่างที่ คนไทยสมัยใหม่ ไม่รู้ ไม่ทราบ ความ ควรไม่ควร แต่ถ้าดีจริง ต้องให้เป็นงานของกรมประชาสัมพันธ์ค่ะ โดยอาจจะเพิ่มไปในข้อความที่แจ้งให้แต่งกายไว้ทุกข์ 14-16 พย. ด้วยเลยว่า ประชาชนที่จะเข้าร่วมพิธี โปรดเคารพสถานที่และพิธีการ ฯลฯ ต่อไปก็เป็นงานของกระทรวงวัฒนธรรมค่ะ ต้องอบรมเจ้าหน้าที่ของกระทรวงใหม่ ขนาดเจ้าหน้าที่ยังทำผิด แล้วจะให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ทำได้ถูก กาลเทศะ ได้อย่างไร เป็นความเห็นส่วนตัว และ เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านค่ะ จากคุณ : hit on me - [ 4 พ.ย. 51 17:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 87 น่าเห็นใจและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุก ๆ ท่าน และท่าน อาจารย์โยดา เพราะงานที่ออกมานั้น ล้วนเป็นงานที่ปราณีต และใช้เวลาอันสั้นมากผมนึกไม่ออกเลยว่า ถ้าพื้นที่เสียหายไปจะแก้ไขทันหรือไม่ ผมไปที่พระเมรุหลายครั้ง ชื่นชมความงานแบบไปบ่อยเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อและไปทุกครั้งผมก็ยกมือพนมทุกครั้งและขอถ่ายรูปมา ด้านหลังพระที่นั่งทรงธรรม ห้ามถ่ายรูป ผมก็เห็นหลายคนยกกล้องขึ้นมา แต่อยู่ไกล ๆ ชาวต่างชาติก็มีบ้าง ด้วยว่าป้ายเป็นภาษาไทย ชื่นชม เจ้าหน้าที่ทุกท่านด้วยใจจริงที่สร้างได้งดงามสมพระเกียรติ์ หลายครั้งที่ผมไปถ่ายรูปยามดึก ก็ยังเห็นเจ้าหน้าที่ ทำงานกันไม่หยุดเลย และตั้งใจไว้ว่า ในวันที่ ๑๕ นี้ จะต้องไปส่งเสด็จ สมเด็จพระพี่นางฯให้ได้ จากคุณ : Max2000 - [ 4 พ.ย. 51 21:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อ่านแล้วน่าประหลาดใจเหมือนกัน แม้ว่าบัดนี้จะไม่ค่อยประหลาดใจมากแล้ว สมัยเรียนผมก็พกกล้องถ่ายรูปติดตัวไว้เสมอ (กล้องฟิล์ม) และมีโอกาสได้เห็นเชื้อพระวงศ์หรือเจ้านายหลายครั้งเนื่องจากสถานที่เรียนอำนวย ... แต่ผมเองไม่เคยถ่ายรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือเชื้อพระวงศ์เลยสักครั้ง ไปเที่ยวพระบรมมหาราชวังครั้งแรก ผมก็ต้องไปถามเจ้าหน้าที่ว่าตรงไหนถ่ายได้ ตรงไหนห้ามถ่ายหรือไม่ ... พระราชพิธีพยุหยาตีราทางชลมารคผมก็มีเพียงภาพวันที่ซ้อม(ซ้อมกลางคืนซะอีก-_-') ... ภาพวันจริงผมก็ไม่ถ่าย เพราะสมัยเด็กๆ ผมถูกสอนมาว่ารูปเหล่านี้ต้องได้รับอนุญาตเสียก่อนจึงจะถ่ายได้  ไม่ใช่ใครมีกล้องนึกจะถ่ายก็ถ่าย มาสมัยนี้ ขนาดช่างภาพบางคนปีนเสาไฟปีนต้นไม้ไปถ่ายในมุมสูง พอโดนเรียกให้ลงมาก็ยังเป็นประเด็นเลยว่าเป็นสิทธิของช่างภาพในการถ่าย??? เรื่องแบบนี้คงมีแต่อาจารย์เก่าๆที่สอน ... และหลายคนคงไม่สนใจแล้ว ขนาดพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีข้อกำหนดว่าหากจะนำไปติดที่ใดก็ต้องทำเรื่องไป ... และรูปก็ไม่ให้มีการตัดต่อ ผมก็ยังเห็นอบต.บางแห่ง ตัดต่อรูปพระองค์ท่าน ใส่พลุด้านหลัง ใส่ประกายระยิบระยับ ปรับสีที่พระพักตร์ พระเกศา ปรับContrastของใบหน้า ... บางแห่งใช้รูปที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้รับอนุญาตให้เอามาติดได้ ก็เอามาติด ... บางคนอาจจะเถียงเรื่องยุคสมัยหรือจะอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่ขอเถียงแล้วกันครับ แต่ว่า สามัญสำนึกที่ดี และแนวทางที่ดีของการเป็นคนถ่ายรูปนั้น ควรจะมีในคนที่ถือกล้องทุกคน ช่างกล้องที่ดี จะถ่ายใครก็ควรจะบอกก่อนหรือขออนุญาตก่อน จะถ่ายอะไรในสถานที่ไหน ก็ต้องขออนุญาตก่อนเสมอ แม้จะเป็นสถานที่สาธารณะ ... เพราะสถานที่สาธารณะไม่ได้แปลว่าจะอนุญาตให้ถ่ายรูปเสมอไป ถ้าถ่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วมีคนห้าม ... ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ตามมารยาทที่ดีคือควรจะเก็บกล้องซะ ถ้าถ่ายรูปประเภทcandid แล้วบุคคลในรูปไม่ชอบ (หรือเราให้ดูรูปแล้วไม่ชอบ) เราก็ต้องลบรูปทิ้ง คนเรา มีกล้องถ่ายรูป ไม่ได้หมายความว่าจะถ่ายไปได้ทุกที่นะครับ พวกคนที่สักแต่ว่าถ่ายรูปตามใจตนเอง คนห้ามก็ไม่ฟัง ใครห้ามก็ไปโมโหเขา คนที่ถูกถ่ายไม่พอใจก็ไม่สนใจ ... พวกนี้ไม่น่าจะถูกเรียกว่าช่างภาพ เพราะลิงที่พอมีสมอง ก็กดกล้องได้ แมวที่บ้านผมถ้าล่อหลอกหน่อยก็กดกล้องได้ ทั้งลิงและแมวก็ฟังภาษาคนไม่ออกด้วยสิ จากคุณ : หมอแมว - [ 5 พ.ย. 51 00:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ผู้ร่วมงานของผมคนหนึ่งเค้าว่าอย่างนี้ครับ เค้าว่า เทคโนโลยีกล้องดิจิตอล มันเปลี่ยนอุปนิสัยของคน อาจจะหมายถึงทั้งคนไทย หรือคนทั้งโลก แต่ก่อน การแบกกล้องไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆ มันต้องอาศัยความตั้งใจพอควร บางคนถ้าเห็นว่ามันยุ่งยากมาก หรือไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญเป็นตาย เขาก็ไม่แบกกล้องไปไหนมาไหน ถ้ามีอะไร ก็ไปดู ให้เป็นบุญตา ยิ่งไปกว่านั้น ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีกล้อง เดี๋ยวนี้ต่างออกไป กล้องดิจิตอล ถ่ายง่าย ล้างอัดรูปง่าย พกก็ง่าย ในมือถือก็มีกล้อง แทบทุกคนมีกล้อง กลายเป็นว่า พอมีเหตุการณ์สำคัญอะไรสักอย่าง ก็ถ่ายรูปกันไว้ก่อน เพราะทุกคนมีกล้อง และถ่ายง่าย อย่างการมีเสด็จฯนั้น แต่ก่อนคนที่มาก็มาเพื่อเฝ้าแหนเจ้านายกันทั้งนั้น ช่างภาพมีนิดเดียว ดูแลกันง่าย แต่เดี๋ยวนี้ คนมาเยอะแยะ อาจจะเยอะแยะยิ่งขึ้น แต่มาเพื่อถ่ายรูป ไม่ได้มาเน้นเฝ้าแหนกราบไหว้แสดงความเคารพกันซักเท่าไหร่ ขอให้ได้ถ่ายรูปไว้ก่อน เรื่องการรักษาความปลอดภัย กลายเป็นเรื่องน่าหวาดเสียวสำหรับคนที่ใส่ใจกับธรรมเนียมดั้งเดิม และอย่างที่ผมได้ว่าไว้ข้างบนนู้นนนน พอเดี๋ยวนี้ อยู่กับอะไรที่"ง่ายๆ"มากเข้า ก็พลอยจะมักง่ายไป อดทนไม่เป็น รอสักครู่ไม่ได้ เรื่องอยากทำต้องมาก่อน ยังไม่พอ มักจะเรียกร้องอะไรต่อมิอะไรมากมายจนเคยตัว กระทั่งเรียกร้องความอดทนจากคนอื่น ทั้งที่เรายังไม่ได้พยายามอดทนอะไรซักเท่าไหร่เลย แต่ก็ต้องเข้าใจความอยากของเขาเหมือนกันนะครับ เขาก็อยากใกล้ชิดเจ้านาย อยากรู้อยากเห็น อยากมีภาพที่เกี่ยวข้องกับท่านเก็บไว้ ธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ก็ไม่ได้อยู่ในวาระการเผยแพร่ ให้เป็นองค์ความรู้สำคัญในสังคมซักเท่าไหร่ ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด  บางคนเชื่ออย่างนั้น แต่พอมีคนมาบอกให้รู้แล้ว ถูกใจไม่ถูกใจก็น่าจะทำตามกฎระเบียบก่อนครับ ไม่ใช่ขอให้คนอื่นมาอดทน ขณะที่ตัวเองยังเมินต่อกฎระเบียบต่อไปซะงั้น แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 51 11:05:26 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 51 11:02:16 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 5 พ.ย. 51 10:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ว่าแต่ทำลิงค์นี่ ทำยังไงครับ ผมทำไม่เป็นจริงๆง่ะ ถ้าใครจะเอากระทู้นี้ไปแปะห้องอื่นหรือเวบอื่น ก็ด้วยความยินดีครับ ไม่สงวนแต่อย่างใด จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 5 พ.ย. 51 10:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 91 หลายๆนิสัยของคนประเทศเรานี่น่าเอือมระอาเข้าไปทุกทีแล้ว เหมือนกับคิดน้อยไปหรืออย่างไรก็ำไม่รู้ จากคุณ : หมูจ้ำม่ำ - [ 5 พ.ย. 51 10:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อ่าน คห ที่ 69 แล้ว ยิ่งสลด... แสดงว่า่คห ทีผ่านมาทั้งหมด.. ไม่ได้ซึม แล้วไปเลยสักนิดเดียว... จากคุณ : Dr.Moji - [ 5 พ.ย. 51 11:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ก็น่าเห็นใจใช่ใหม เพราในชีวิตหนึ่งไม่ทราบว่าจะได้ใกล้ชิดเช่นนี้หรือไม่ ^ ^ ไม่เห็นใจค่ะ เพราะคุณไปละเมิดเขาก่อน.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 5 พ.ย. 51 13:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 94 โห อึ้ง มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย เป็นกำลังใจให้จขกท.ค่ะ   ส่วนคนที่ยังไม่สำนึก  ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว  ท่าทางเกินเยียวยา จากคุณ : ยาควัน - [ 5 พ.ย. 51 21:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 95 มีคนไทยไม่น้อยนะคะที่ไม่มีความรู้จริงๆ ในเรื่องที่ต่ำ ที่สูง หรือเรื่องที่ควรรู้ว่าสิ่งที่เป็นการบังควรหรือมิควร ในการปฏิบัติตนต่อราชวงศ์ หรือแม้แต่พระสงฆ์ ถ้าไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้ใหญ่ หรือมีประสบการณ์ในเรื่องนั้นมาก่อน และเราว่าในหนังสือเรียนหลักสูตรเบื้องต้นก็ไม่ได้มีการสอนถึงกฏเกณฑ์ในการปฏิบัติตนให้เหมาะสมว่า ควรทำอย่างนี้ หรือไม่ควรทำอย่างนี้นะคะ อย่างดีก็บอกถึงความสำคัญของสถาบันนี้  อย่างเช่น เราก็ไม่เคยรู้หรอกว่าห้ามถ่ายรูปพระบรมวงศานุวงศ์เวลาเสด็จผ่านทางรถ หาก จนท.ไม่ห้ามไว้   คนไทยหลายคนอาจเป็นชาวบ้านธรรมดา ที่ไม่ได้มีโอกาสได้มาทำงานสนองบาทรับใช้ หรือได้รับความรู้ในการปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมอย่างคุณๆ บางคนที่นี่นะคะ ในบางเรื่องเราก็ต้องอธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ไม่ได้ ไม่อย่างงั้น พวกเขาก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ  และพาลโกรธเอาด้วยที่โดนห้ามปราม จากคุณ : tormay - [ 5 พ.ย. 51 21:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอให้กำลังใจอาจารย์โยดา และเจ้าหน้าที่ทุกคนด้วยค่ะ เหนื่อยกันมามากแล้ว อย่าเพิ่งท้อนะคะ โปรดภูมิใจที่ได้ทำงานรับใช้พระองค์ท่าน พวกเราก็ภูมิใจในพวกคุณค่ะ จากคุณ : จุดตานิด - [ 6 พ.ย. 51 07:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เรื่องบางเรื่อง เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก หากเราไม่แน่ใจ ก็อย่ากระทำจะดีกว่า เพราะบางครั้งที่เรากระทำการใดๆลงไปนั้น คำว่า ขอโทษ ก็อาจจะไม่เพียงพอต่อสิ่งที่เราได้กระทำลงไป ^_^ จากคุณ : I Believe inTrue LoVe - [ 7 พ.ย. 51 17:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ไอ้อ้วนดำ ไร้มารยาทโคตรรรรร แย่จริงๆ ไม่รู้จักกาละเทศะ แต่คนไทยแท้ไม่ได้เป็นอย่างงั้นกันทุกคนนะครับ ผมคนไทยแท้ 100% ไม่มีสายเลือดต่างชาติผสมอยู่เลย แต่มีระเบียบวินัยครับ ทางบ้านสอนมา อย่าเหมารวมว่าทำอะไรตามใจคือไทยแท้เน้ออออ ^^" จากคุณ : คนไทยแท้ต้องมีระเบียบวินัยครับ - [ 8 พ.ย. 51 03:18:53 A:203.118.81.66 X: TicketID:192201 ]

ความคิดเห็นที่ 99 อ่านแล้วก็ตกใจ ให้กำลังใจคุณเจ้าของกระทู้นะคะ และชื่นชมที่อดทนในหน้าที่ คนเดี๋ยวนี้บางคน รู้จักแต่จะได้ จะเอา จะมีอย่างที่ตัวเองต้องการ โดยไม่สนใจ ไม่คิดถึงความควรไม่ควร ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำได้แสดงให้เห็นว่าตัวเองเลวขนาดไหน เป็นการประจานตัวเองให้คนอื่นเขาดู เราต้องดูแล้วสงสารเขา สงสารว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังประจานความเลวและทุเรศของตัวเองอยู่ อย่าคิดว่าชาวบ้านธรรมดาเขาจะไม่รู้เลยค่ะ ยิ่งชาวบ้านมากๆ เขาจะยิ่งเกร็งยิ่งรักยิ่งเคารพ แค่บอกอะไรนิดหนึ่งเขาก็กลัวกันแล้ว แล้วคิดว่าพวกบ้าถ่ายรูป กล้าขนาดไปถ่ายกับหลายๆ อย่างอย่างที่ จขกท เล่านี่ ก็ไม่ใช่เพราะเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นคนที่ทุเรศเองโดยนิสัยมากกว่าค่ะ จากคุณ : =p o o k p u i= - [ 8 พ.ย. 51 17:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ให้กำลังใจในการทำงานนะค่ะ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ จากคุณ : ผีลองกอง - [ 8 พ.ย. 51 22:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ทำให้นึกถึงช่วงตอนไปเที่ยววัดพระแก้วค่ะ มีฝรั่งมากันเป็นครอบครัว นุ่งสั้น แต่เห็นมีผ้าถุงที่เจ้าหน้าที่เค้าให้ยืมมาผลัดเปลี่ยน เอาไปห้อยคอแบบผ้าพันคอเสียงั้น คงใส่แค่ตอนขาเข้า พอเข้ามาด้านในอาจจะร้อนมั้งเลยถอดออกมาห้อยคอไว้ เรามองด้วยสายตาต่อว่า สักพักเจอน้องนางวัยรุ่นฝรั่งนุ่งสั้นเดินกลับมาพร้อมขามีรอยขีดข่วนทางยาวววว เลือดซิบๆ ใหญ่เลยเชียว ไม่รู้ไปโดนอะไรมา แต่ในใจคิดไปว่า นี่แหละผลกรรม ที่ละเมิดกฏ ไม่แสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แต่ร้องในใจ สาธุ สาธุ จากคุณ : NSY - [ 9 พ.ย. 51 22:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เมื่อวานไปมาเหมือนกันค่ะ ป้ายตัวใหญ่มากบอกว่า "ห้ามเข้าเด็ดขาด" แต่ว่ามีบางกลุ่มเดินผ่านรั้วทางด้านที่จอดรถเมล์ฝั่งหอสมุดวชิรญานโดยไม่หวั่นสายตาคนที่จ้องมองอยู่ข้างรั้วเลย คนที่ยืนอยู่ข้างดิฉันหันมาถามว่า "ตกลงเข้าได้หรือคะน้อง ป้ายเขียนว่าห้ามเข้าตัวออกจะโต" ดิฉันก็ยืนยันตามป้ายค่ะ นายตรวจที่คอยปล่อยรถเมล์ (เรียกอย่างนี้ไหม ไม่ทราบนะคะ ขออภัย) ก็บอกว่า "พูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ไม่อายก็เข้าไปเถอะ" เศร้าใจค่ะ จากคุณ : มาลัยใบจันทร์ - [ 10 พ.ย. 51 14:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ให้กำลังใจอาจารย์โยดาและเจ้าหน้าที่ทุกคนนะคะ ขอให้อดทนไว้นะคะ มีอีกหลายคนมองดูอยู่ด้วยความห่วงใยและชื่นชมค่ะ เราและที่บ้านก็อยากจะไปชื่นชมในส่วนของพระเมรุให้เห็นกับตาเหมือนกัน แต่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นคือ คุณลุงเสียชีวิตกระทันหัน ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวเลยไม่มีกะใจจะทำตามแผนเลย ฝากถึงประชาชนทุกคนที่มีโอกาสได้เข้าชมในช่วงก่อนงานพระราชพิธีด้วยนะคะ ขอให้นึกถึงพระเกียรติของพระพี่นางฯท่านบ้าง เจ้าหน้าที่ทุกคนเวลานี้ก็ทุ่มเททำหน้าที่เพื่อส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยอย่างสมพระเกียรติทีุ่สุด เราก็ควรให้ความร่วมมือด้วย มีอะไรขัดจิตขัดใจก็ขอให้อภัยแก่กันเถอะนะคะ แค่นี้บ้านเมืองเราก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของความชิงชังกันมากพอจนน่าเศร้าใจอยู่แล้ว อย่าให้มากไปกว่านี้เลยนะคะ จากคุณ : Norikoจัง - [ วันลอยกระทง 12:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 104 อ่านแล้วเห็นเลยว่าคนบางจำพวกนั้น ยังไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเลย อยากรู้จังว่าจิตใจทำจากอะไร มีจิตสำนึกบ้างรึปล่าว จากคุณ : PuCCa_Tj - [ 13 พ.ย. 51 05:54:55 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านค่ะ คนเดี๋ยวนี้มีหัวใจแต่ไร้สำนึกค่ะ ไม่มีสติคิดว่าอะไรควรไม่ควร เฮ้อ.... จากคุณ : Yoshikuni (Yoshikuni) - [ 13 พ.ย. 51 14:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานอยู่นะครับ จากคุณ : ริมน้ำคาน - [ 13 พ.ย. 51 18:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 107 "พูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ไม่อายก็เข้าไปเถอะ" ชอบใจประโยคนี้แฮะ โหวตให้กำลังใจจขกท. เจ้าหน้าที่ และคนไทยส่วนที่แสนดีทุกคนค่ะ จากคุณ : The Field Where I Died - [ 13 พ.ย. 51 21:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 108 คุณคนไทย ความเห็นที่ 69คะ ที่คุณบอกว่า "ก็น่าเห็นใจใช่ใหม เพราในชีวิตหนึ่งไม่ทราบว่าจะได้ใกล้ชิดเช่นนี้หรือไม่" ดิฉันเข้าใจว่าคุณมาเรียกร้องความเห็นใจ ซึ่งก็อาจจะดูเหมือนน่าเห็นใจจริง แต่มันผิดเวลาค่ะ แล้วที่บอกว่า "แต่มันออกไม่สะดวกคนที่อยู่หลังสุดก็เลยถือโอกาสยืนดูพระเมรุ" เข้ามาโดยสะดวก แล้วทำไมตอนออกถึงไม่สะดวกคะ จากคุณ : nowan - [ 14 พ.ย. 51 16:54:16 ]

ความคิดเห็นที่ 109 โดนใจมากกระทู้นี้ ขอร่วมด้วยละกัน .. ขอเล่าย้อนนิดนึง (ถ้าใช้ราชาศัพท์ไม่ถูกต้องก็ขออภัยด้วยนะคะ)  เมื่อตอนไปเฝ้ารับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม   ในขณะที่ในหลวงท่านมีกระแสพระราชดำรัส  เราเข้าใจว่าประชาชนที่เข้าเฝ้าตอนนั้นควรจะหยุดทุกอย่าง และนิ่ง เพื่อน้อมรับฟังพระราชดำรัส และแสดงความเคารพ แต่เปล่า ...  ประชาชนส่วนมาก กลางลานพระบรมรูปทรงม้า  กำลังเบียด  เบียด ... และเบียด ... ในใจเราคิดว่า ... หยุดสิ ...หยุด ...หยุดเดินกันเสียที หยุดเบียดกันเสียที   นิ่งสิ นิ่ง ...   นี่หน้าพระที่นั่งนะ  กำลังมีพระราชดำรัสอยู่ ... ทำไมไม่หยุดเดินกัน ...  ทุกคนอยากเข้าใกล้มากที่สุด  ทุกคนอยากเห็นชัด ๆ อยากถ่ายรูปในมุมที่ดีที่สุด  ........ แต่ไม่ควรเป็นต่อหน้าพระพักตร์และขณะมีพระกระแสพระราชดำรัสแบบนั้น .......... กลายเป็นว่า เดี๋ยวนี้ต้องมานั่งตีความกันระหว่างหน้าที่ สิทธิ  และกาลเทศะ ซึ่งเป็นคำง่าย ๆ ที่พูดกันแล้วน่าจะเข้าใจกันได้โดยสามัญสำนึก แต่เดี๋ยวนี้คำต่าง ๆ เหล่านี้  อาจจะต้องมาตีความกันจนเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว เพราะคนเราไม่สามารถแยกแยะระหว่าง หน้าที่  สิทธิ  และกาลเทศะได้อีกต่อไป จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 15 พ.ย. 51 12:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ทำอย่างไร เราถึงจะให้คนเหล่านี้รู้กาละเทศะนะ กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะชาวบ้านหรอก คงปนเปกันไป บางมารยาท คุณครูบางคนก็ไม่รู้ เด็กเลยไม่รู้ไปด้วย เคยไปพิพิธภัณฑ์ เขาห้ามใช้แฟลช เด็กก็ถ่าย แล้วแสงแฟลช ก็รบกวนคนอื่นมาก คุณครูเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร...งง จากคุณ : Sugarbean - [ 15 พ.ย. 51 17:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เมื่อครู่ ไปที่สนามหลวงมาค่ะ เดินจากเทเวศฯจนถึงบริเวณพิธี ถึงไกลแต่มีคนเดินด้วยเยอะมาก ก็เลยไปเบื่อ แต่มีเรื่องเสียใจนิดหน่อย ตอนเดินถึงช่วงถนนข้าวสาร มีมอเตอร์ไซด์รับจ้างแถวนั้นหลอกขายดอกไม้จันท์ให้ประชาชน ที่กำลังเดินไปที่บริเวณราชพิธี โดยอ้างว่า ที่พิธีไม่มีแจกแล้ว หลายคนหลงกลก็ซื้อ และที่ทำให้โกรธที่สุด คือตะโกนว่า" ซื้อดอกไม้จันท์ ที่นี่แหละ แล้วเอาไปวางไว้ใต้ต้นไม้รอบๆก็ได้ ไปถึงสนามหลวงมันเหนื่อยฟรี อธิษฐานส่งเสด็จฯเอา มันอยู่ที่ความตั้งใจ ยังงัยท่านก็ขึ้นสวรรค์!! ตอนได้ยิน โกรธมาก แล้วเสียใจด้วย คนไทยส่วนหนึ่งถึงแย่ได้ขนาดนี้.... จากคุณ : never-let - [ 16 พ.ย. 51 01:59:37 A:124.122.202.35 X: TicketID:125338 ]

ความคิดเห็นที่ 112 อ่านแล้วก็ให้นึกปลง รู้แก่ใจว่าตัวเองทำไมถูก ยังมีหน้ามาเรียกร้องความเห็นใจ จากคุณ : จิ้งจอกภูเขาหิมะ - [ 16 พ.ย. 51 15:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 17 พ.ย. 51 19:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ขอเข้ามาอ่านด้วยคนค่ะ เห็นใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านมากๆเลยค่ะ รวมถึงเห็นด้วยมากๆกับหลายความคิดเห็นที่เข้ามาวิจารณ์ต่อๆกัน เกี่ยวกับคนไทยในวันนี้ เดี๋ยวนี้คนไทย (บางส่วน) ไม่รู้จักเรื่องมารยาทจริงๆ แค่เรื่องง่ายๆแบบเข้าคิวซื้อของ หรือขึ้นรถเมล์ ยังมีแซงคิวกันเลย แล้วจะไปประสาอะไร กับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเจ้านายชั้นสูง คงไม่รู้อะไรกันหรอกค่ะ (ดิฉันเองยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย แต่ดิฉันรู้กาละเทศะนะ ตั้งแต่เขาสร้างพระเมรุกัน จนปัจจุบันนี้ ดิฉันยังไม่กล้าไปแถวนั้นเลย เคยขับรถวนรอบสนามหลวงแล้วแอบชำเลืองมองความงามที่เกิดจากความสามารถของช่างฝีมือไทย แค่หนเดียวเอง) ถ้าเป็นดิฉัน คงไม่สามารถสุภาพกับคนทุกคนที่ทะลักเข้าไปในเขตหวงห้ามแน่ๆ คงมีชักสีหน้า พูดจาเสียงดัง ห้วนๆๆๆมากแน่ๆ มันน่าหงุดหงิดออก ในสถานการณ์เช่นนั้น อาจารย์เก่งจัง ใจเย็นมากๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ชักอยากรู้จักอาจารย์ขึ้นมาแล้วสิ สำนวนเขียนกระทู้ได้ใจมากๆ จากคุณ : ราศีเมถุน - [ 17 พ.ย. 51 23:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแสดงความเห็นและให้กำลังใจครับ และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Mr.Fusion ให้เกียรติเข้ามาดูกระทู้ผม ใฝ่ฝันมานานแล้วครับ ว่าอยากตั้งกระทู้แล้วMr.Fusionเข้ามาดู ไม่รู้ทำไม อิอิ ก็ตามที่ทุกคนได้ทราบแล้วนะครับ ว่าในที่สุด ช่วงงานพระราชพิธีซึ่งต้องใช้งานมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นสถานที่หลักนั้น ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ท่ามกลางความรู้สึกที่หลากหลายเช่นกัน สำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ก็รู้สึกทั้งภาคภูมิใจ ปนกับความโล่งใจไปด้วยกัน โดยเฉพาะ ภูมิใจและโล่งใจที่เราได้ถวายการรับใช้ในทุกแง่มุมอย่างสุดความสามารถและบกพร่องได้น้อยที่สุดเท่าที่เราจะทำแล้ว และอีกความโล่ง ก็คือ ในที่สุด ประชาชนก็ได้โอกาสเข้าชมพระเมรุและอาคารประกอบในมณฑลพิธีได้อย่างใกล้ชิด หลังจากที่ต้องสบตากันอย่างขวยเขินและกดดันมาตลอดหลายเดือน โดยเฉพาะในช่วงประมาณเดือนสุดท้ายก่อนงานพระราชพิธีนี่แหละครับ อดทนกันไม่กี่วัน ในที่สุดทุกคนก็มีโอกาสเท่าๆกันแล้วครับ สำหรับทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่าน และกำลังหาโอกาสไปเที่ยวชมพระเมรุในวาระอันสมควรนี้ อยากให้ช่วยกันชื่นชม กันอย่างเหมาะสมเช่นกัน แม้ว่าอาคารประกอบพระราชพิธีจะเป็นอาคารชั่วคราว ที่สุดก็ต้องรื้อ แต่ก็อยากให้ดูกันแบบถนอมๆหน่อยครับ เพราะอย่างน้อย ท่านที่เข้าชมในวันท้ายๆก็จะได้ชื่นชมอาคารต่างๆในภาพที่ใกล้เคียงกับความสมบูรณ์ที่สุด ถือซะว่า เป็นการเผื่อแผ่ความรู้สึกให้ทั่วถึงกันนะครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 19 พ.ย. 51 10:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ส่วนเรื่องต้นไม้ที่เค้าว่าจะแจกกันน่ะครับ ด้วยความเคารพ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ เรียนให้ทราบว่า เท่าที่ผมสังเกต พันธุ์ไม้เกือบทั้งหมดโดยเฉพาะดอกไม้นั้น ไม่เหมาะกับการปลูกในกรุงเทพฯซักเท่าไหร่เลยครับ เอาแค่เรื่องเทคนิคการอนุบาลและขนย้าย เท่าที่ผมเห็นทางเจ้าหน้าที่เค้าก็พิถีพิถันมาก ที่เห็นบานกันสวยงามในวันพระราชพิธีนั้น ก็เป็นการวางแผนเพื่อให้ดอกไม้มีสภาพความสวยงาม แต่ก็เฉพาะในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น พอเห็นเค้าประกาศว่าจะแจก, เหมือนอย่างที่ความเห็นข้างบนนู้นว่า, ผมกลัวว่าจะอุตส่าห์ไปโกลาหลแย่งชิงกันจน..อ่า..เละเทะ.. เพื่อที่จะได้ดอกไม้เหี่ยวโทรมช้ำมือไปเน่าตายที่บ้านน่ะครับ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่อยากได้ไป, อย่างน้อยก็คงเพื่อเป็นความอิ่มเอิบทางใจ ก็อยากให้อย่าได้ไปรุมกันยื้อแย่งให้วุ่นวายในพื้นที่เลยครับ ถ้าไม่อยากได้ใจจะขาด ก็ให้คนที่กำลังใจจะขาดเข้าไปเอาก่อน ส่วนเราก็ปล่อยวาง ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็แล้วไป เหมือนกับที่อยากมาชมมณฑลพิธีนี่แหละครับ อดทนกันหน่อย ที่สุดก็ได้ชื่นชมกันทั่วหน้า ส่วนคนที่อยากมามากๆแต่ไม่ได้มาและมาไม่ได้จริงๆ ผมเชื่อว่า ในที่สุด แม้เป็นเพียงภาพข่าวบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ที่ตัดเก็บไว้ ก็สร้างความปลาบปลื้มใจและเป็นบันทึกความทรงจำที่ดีแล้วครับ จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 19 พ.ย. 51 10:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ขออภัย หากคำพูดที่จะใช้ต่อไปนี้ไม่เหมาะสม หรือดูรุนแรงเกินไป เรามีความรู้สึกว่า หลังๆ นี้ คนไทยเรามองพระราชวงศ์เหมือนมองดารา ท่านเสด็จไหนก็ตามแหนถ่ายรูป ชะเง้อชะแง้ ความสำรวม ไม่รู้หายไปไหนหมด คงไม่ต้องถึงกับให้มอบกราบ แค่อยากให้แสดงความนอบน้อม สงบเสงี่ยม เคารพพระองค์ท่านด้วยอาการสำรวม ทำไมทำยากกันนักก็ไม่รู้ จากคุณ : viee - [ 19 พ.ย. 51 12:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ความคิดเห็นที่ 117 ขออภัย หากคำพูดที่จะใช้ต่อไปนี้ไม่เหมาะสม หรือดูรุนแรงเกินไป เรามีความรู้สึกว่า หลังๆ นี้ คนไทยเรามองพระราชวงศ์เหมือนมองดารา ท่านเสด็จไหนก็ตามแหนถ่ายรูป ชะเง้อชะแง้ ความสำรวม ไม่รู้หายไปไหนหมด ชอบ คห  ข้างบน จัง ตรงใจ จากคุณ : taiwanok - [ 19 พ.ย. 51 16:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ขอบคุณอาจารย์โยดา ที่นำเหตุการณ์มาเล่าให้ฟังครับ จากคุณ : seeyoulater (seeyoulater) - [ 21 พ.ย. 51 15:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 120 "ก็น่าเห็นใจใช่ใหม เพราะในชีวิตหนึ่งไม่ทราบว่าจะได้ใกล้ชิดเช่นนี้หรือไม่" ************************************* พี่คนไทยคะ ใครจะเห็นใจก็เชิญเถอะค่ะ  แต่สำหรับหนูไม่เห็นใจ และรู้สึกรังเกียจการกระทำเหล่านั้นด้วยซ้ำ   ใครจะว่าดัดจริตก็เชิญ ที่สำคัญถ้าขอได้  ************* ในชีวิตของหนู  อย่าให้มีพระราชพิธีแบบนี้เกิดขึ้นอีกเลย อย่ามีการสร้างพระเมรุมาศแบบนี้อีกเลย  อย่ามีกระบวนแห่แบบนี้อีกเลย อย่าให้มีการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่แบบนี้อีกเลย จากคุณ : ~ * D a I J i M a r U * ~ - [ 22 พ.ย. 51 21:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 121 โอ้ รู้จักอ้าง"สิทธิ" และ "หน้าที่" แต่กลับไม่รู้จัก"กาละ" ผมว่าที่คนไทยหลงลืมไปน่าจะเป็น "กาลเทศะ" นะครับ จากคุณ : นกราตรี - [ 24 พ.ย. 51 11:27:52 ]

ความคิดเห็นที่ 122 คนที่เรียกตัวเองว่าเป็น "คนไทย" ในสมัยนี้ หลาย ๆ คน ทำตัวไร้ซึ่งการเคารพในวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และประเพณีของไทย มากกว่าชาวต่างประเทศที่ทำผิดเพราะไม่รู้ซะอีกครับ จากคุณ : TumProfess - [ 29 พ.ย. 51 13:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ขอฝากด้วยนะคะ 200 เครือข่ายชวนเดินรณรงค์ต้านสงครามกลางเมือง เครือข่ายประชาชนต้านสงครามกลางเมืองไม่น้อยกว่า 200 องค์กร ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเดินรณรงค์ "หยุดสงครามกลางเมือง และความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย" เพื่อแสดงความปราถนาที่จะหยุดสงครามกลางเมืองและความรุนแรง โดยขอให้มารวมตัวกันบริเวณ ถนนหน้าอาคารศศนิเวศน์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย วันที่ 30 พ.ย. 2551 เวลา 10.30 น. จากคุณ : รักไทยเชื่อไทย - [ 29 พ.ย. 51 23:22:25 ]