ไหน ๆ ก็เคยเกริ่นว่าหากมีโอกาสเราชาวคลับน่าจะลองรีวิวนิยายรหัสคดีไทยกันสักหน่อย
ประจวบเหมาะวันงานหนังสือได้ติดมือมาเล่มหนึ่งพอดี ตอนแรกว่าจะเลือกรางวัลรองอันดับสอง
ขึ้นมาก่อนแล้วค่อย ๆ หาโอกาสไล่เรียงอ่านจนถึงรางวัลชนะเลิศ เผื่อจะได้รู้ข้อเด่นข้อด้อย
ของงานแต่ละชิ้น แต่เผอิญเห็นเล่มนี้พร่องไปมากกว่าเพื่อนกลัวจะหาซื้อได้ลำบากในภายหลัง
เลยตัดสินใจหยิบมาจ่ายตังค์ขอเสพเป็นชิ้นแรก
ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าทั้งหมดเป็นทรรศนะแบบงู ๆ ปลา ๆ ส่วนตัวของผมเท่านั้น
และเพราะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวจึงขอหลีกเลี่ยงคำว่า ดี และ ไม่ดี เนื่องจากมาตรฐาน
ทั้งสองคำของแต่ละคนย่อมต่างกันมาใช้คำว่า ชอบ และ สะดุดใจ แทน
เริ่มจากเรื่องย่อก่อนเลยเผื่อบางคนยังไม่เคยผ่านตา
คมน์ ครองธรรม นักสืบอิสระสายตาสั้นได้รับการร้องขอจากเพื่อนเก่าสมัยเรียนซึ่ง
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารรักษ์สยามให้มาสืบหาตัวคนร้ายคดีฉก
เงินเจ็ดสิบล้านจากเซพธนาคารสาขาภูเก็ตกลางดึกคืนวันเสาร์หายตัวลอยนวล เบื้องต้นสันนิษฐาน
ต้องเป็นฝีมือคนในแน่นอนเพราะการจะเข้าถึงเงินได้ต้องมีทั้งรหัสห้องมั่นคง (หมายถึงห้อง
เก็บเงิน) รหัสเปิดเซพ รวมถึงรหัสสัญญาณเตือนภัย นักสืบคมน์บินด่วนไม่รอช้ามุ่งสู่ภูเก็ต
ให้ความช่วยเหลือเพื่อนทันที
จากการอ่านไม่กี่หน้าพอเดาได้เลยว่าผู้เขียนน่าจะเคยมีผลงานมาก่อน โดยดูจากสำนวน
ภาษาท่วงทำนองการเขียนแม้บางครั้งจะดูแปลกแปร่งไปบ้างแต่ไม่ถึงกับทำลายอรรถรสแต่อย่างใด
การดำเนินเรื่องเป็นไปแบบเรื่อย ๆ ตามเก็บข้อมูลผู้ต้องสงสัยและดราม่าเกี่ยวกับตัวเอกเล็ก
น้อย อีกอย่างที่พอเดาออกและรู้สึกชอบคือผู้เขียนน่าจะเป็นคนในพื้นที่หรือคุ้นเคยกับภูเก็ตจึงทำให้
สามารถบรรยายสถานที่สำคัญนำผู้อ่านมีส่วนร่วมเพิ่มรสชาติกลิ่นอายความเป็นไทยกับชิ้นงาน
ทริกและการคลี่คลายจะคดีจะเน้นจากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยเป็นหลัก ตัวคนร้ายและผู้
บงการมีเหตุมีผลรับรองไม่ถึงกับเกินความหมายหรือหวือหวาจนตกเก้าอี้
มาถึงจุดสะดุดใจกันบ้าง ลำดับแรกคือชื่อของตัวละครไม่ทราบว่าเป็นความจงใจของผู้เขียน
หรือเปล่าเพราะมีชื่อ ช.ช้างเยอะทีเดียว เริ่มจากเพื่อนพระเอกคือชาตรี ผู้จัดการสาขาเชี่ยวรบ ผู้จัดการ
เขตธงชาติ แคชเชียร์เชิดชายและผู้จัดการใหญ่โชคเกียรติ บางท่านอาจคิดว่าผมจุกจิกหรือคิดมากเกิน
เหตุแต่เรื่องชื่อตัวละครสร้างความสับสนในการจัดเรียงความคิดของผมในช่วงแรกเพราะจะมีประเด็น
เกี่ยวกับรหัสสัญญาณกันขโมย กุญแจห้องเก็บเงิน กุญแจเซพกุญและแจรถ คือจะมีคนทำหน้าที่ถือสิ่ง
ต่าง ๆอีกคนไม่ได้ถือแต่พอดีอีกคนไม่ว่างเลยให้คนอื่นทำแทนอะไรทำนองนี้ ผมว่าถ้าใช้ชื่อให้แตกต่าง
มีเอกลักษณ์กว่ากันหน่อยน่าจะช่วยให้ง่ายสะดวกในการจำมากกว่านี้
คาแรกเตอร์ผู้ต้องสงสัยถึงจะบรรยายได้เห็นภาพว่าแต่ละคนสูงต่ำดำขาวหน้าตาเช่นไรแต่เวลา
ถูกสอบสวนสำนวนการพูดบางช่วงบางตอนกลับดูคล้ายราวกับเป็นคนเดียวกัน
ที่เหลือก็เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เหตุเกิดคืนวันเสาร์ผู้ร้ายนำเงินไปซ่อนในห้องผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง
เพื่อปรักปรำคืนวันอาทิตย์เรื่องแดงวันจันทร์ ซึ่งถ้าพอตำรวจเข้ามาสืบสวนน่าจะมีการค้นห้องพักผู้ต้อง
สงสัยที่อยู่ชั้นบนธนาคารและเจอของกลางนี่ต้องรอให้นักสืบคมน์เป็นคนเจอเองตอนเกือบท้ายเรื่องหรือ
ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งถูกยิงพอวันเฉลยตัวคนร้ายน่าจะบรรยายสภาพการบาดเจ็บสักหน่อยนี่นั่งเฉย ๆ เหมือน
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และผู้บงการน่าจะได้บทพูดอะไรบ้างตอนโดนเปิดโปงอันนี้ก็แค่นั่งตะลึงอ้าปากค้าง
ทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นของผมหลังอ่านจบ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงเกินกำลังอยากเชิญชวน
สมาชิกชาวคลับลองหามาสัมผัสและร่วมแสดงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สำหรับผมเคารพในงานของ
นักเขียนรหัสคดีไทยทุกชิ้นเพราะถือเป็นความยากและกล้าในการสร้างสรรค์ปรารถนาจะเห็นนักเขียน
ไทยผลิตงานแนวนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
ถ้ามีโอกาสเล่มหน้าว่าจะหาที่เกี่ยวกับสุนัขมาอ่านต่อหากท่านใดอ่านจบก่อนจะรีวิวก็เชิญ
ก่อนได้เลยนะครับ
จากคุณ :
CALCULUS MAN
- [
3 พ.ย. 51 06:01:39
]