ความคิดเห็นที่ 1 รูปปั้นของ Rodin อันมีชื่อลือลั่น จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ๊ะ แล้วผมก็ไปเจอกับงานแสดงโชว์ทางการบินอะไรสักอย่างที่เดี๋ยวจะเอารูปมาให้คุณสกายแมนน้ำลายหกเล่น จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ซึ่งเครื่องบินเหล่านี้ผมไม่รู้จักแม้แต่อย่างเดียว จึงต้องให้เสี่ยโยมาอธิบายแทนทั้งหมด แหมรบกวนเสี่ยจริงๆ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีซีมูเลเตอร์ให้เด็กแย่งกันขี่ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:35:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 และนี่คือสิ่งที่เรียกว่า eurocopter (รู้เพราะมันมีป้ายติดไว้) จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 และนี่คือเรดาห์ (โป๊ก แค่นี้ใครๆเขาก็รู้น่า) (แต่ถ้าทายผิดละหน้าแตกเลย) จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีเครื่องบินจอดเรียงไปสองฟากถนน มีตั้งแต่รุ่นดั้งเดิมที่สุด จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นี่คือชองเอลิเซหรือย่านชอปปิงสุดหรูในตำนาน ผมไม่ชอบชอปปิงเลยไม่ได้ดูละเอียด จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใต้ประตูชัยของฝรั่งเศสมีเปลวไฟคู่บ้านคู่เมืองที่จะจุดติดอยู่ตลอด และมีเชื้อเพลิงอย่างดี ดังนั้นไม่หวั่นแม้วันฝนตก ไม่นานมานี้มีขี้เมาชาวเม็กซิกันคนนึงอยากพิสูจน์ว่าเปลวไฟนี้จะจุดติดตลอดกาลจริงไหม จึงอาศัยช่วงดึกๆคนน้อยๆไปฉี่รด สรุปว่าได้ผลครับ ไฟดับจริง และกลายเป็นปัญหาระดับชาติที่ทูตเม็กซิโกต้องมาขอโทษชาวฝรั่งเศส ส่วนขี้เมาคนนั้นก็ถูกลงบัญชีดำห้ามเข้าประเทศฝรั่งเศสจนกว่าชีวิตจะหาไม่ (และก็มีพิธีจุดไฟขึ้นมาใหม่) จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ประตูชัย จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไปกินแมคโดนัลสาขาชองเอลิเซ ก็เป็นเบอร์เกอร์ขนมปังเนยแฮม พายอะไรสักอย่างจำไม่ได้ ส่วนไอติมนี่รู้สึกจะราดแยมเสาวรส จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กลับมาที่งานเครื่องบินอีกแระ นี่คืออะไรครับเสี่ย จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 นี่คือประติมากรรมสมัยใหม่ข้างหน้าเสาหินอียิปต์ ให้ทายว่าศิลปินต้องการสื่อถึงภาพอะไร ก. ภาพมุมแคบไปสู่ราชวัง ข. ห้วงเหว ค. หว่างขาผู้หญิง ง. แกนกระดาษทิชชูที่ถูกผ่า จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คำตอบคือข้อ ค. ครับ ศิลปินตั้งใจทำเป็นหว่างขาผู้หญิง โดยจะมีช่วงหนึ่งของวันที่เงาของเสาหินอียิปต์ (อันถูกมองเป็นจูจิโกะ) จะแทงผ่านมาพอดี ส่วนตัวผมคิดว่าไร้รสนิยมสุดๆ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:56:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลูฟครับ เท่าที่เที่ยวยุโรปมา ผมคิดว่าวังนี้อลังการที่สุด (เทียบเฉพาะแค่วัง ไม่เทียบกับโบสถ์เซนปีเตอร์นะ) จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 02:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หนังสือท่องเที่ยวบอกว่าถ้าจะขึ้นหอไอเฟลให้เตรียมใจเข้าคิวหลายๆชั่วโมง ผมดูคิวตอนกลางวันแล้วก็ยาวประมาณนั้นจริงๆ แต่พอเดินมาอีกทีตอนกลางคืน ปรากฏว่าคนหายหมดแล้ว ไม่ต้องเข้าคิวเลย ลัคกี้ๆ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วิวปารีสตอนกลางคืนจากหอไอเฟล สวยงามเหลือพรรณนาครับน่าเสียดายนี่เป็นกล้องมือถือเลยถ่ายมาได้แค่นี้ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จากนั้นผมก็ไปเที่ยวที่ต่างๆมามากมาย (อยู่ปารีสสี่วัน) ซึ่งถ้าเอามาลงหมดคงไม่ไหวจึงขอขั้นรายการด้วยแกะปารีส และต่อจากนี้จะลงเฉพาะรูปแปลกๆที่คนเขาไม่ถ่ายกันครับ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไปพิพิธภัณฑ์อาวุธ นี่คือหมวกอัศวิน (จริงๆนะ) เข้าใจว่ามีประสิทธิภาพทำให้คู่ต่อสู้ขำจนเสียสมาธิ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อันนี้คือหมวกอีกใบที่เอาไว้แกล้งทำเป็นขำ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ซอสศรีราชาที่เจอที่ร้านจีนในฝรั่งเศส จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รถไฟฟ้าบางสายก็จะมีสองชั้น จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ราวจับบนรถบัสแบ่งเป็นสามราว ซึ่งก็ดีไม่ต้องแย่งกันจับ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 51 03:22:21 จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อันนี้ไปเที่ยวแวร์ซาย มีศิลปินตลกๆคนนึงชื่อเจฟ คูน เอางานศิลปะสมัยใหม่อันสุดยอดของเขาไปตั้งไว้ในปราสาท (อย่างที่เห็นว่าไม่ได้เข้ากับโบราณวัตถุรอบข้างเลย) ข้อเสียคือมันทำลายบรรยากาศและ audio guide ที่ผมต้องจ่ายเงินเช่ามาแพงๆยังตัดเนื้อเรื่องบรรยายวังครึ่งนึงไปบรรยายความลึกซึ้งของผลงานของเจฟ คูน -"- รูปข้างล่าง : โปรดชี้จุดแตกต่างในภาพนี้ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดูเหมือนว่าผมจะตาต่ำเกินไปจึงไม่เห็นความแตกต่างของผลงานของท่านเจฟ คุนกับห่วงยางเด็กที่ขายตามหัวหินเลย จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นี่คือห้องกระจก เมื่อหลายร้อยปีก่อน พระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่โปรดให้โกษาปานเข้าเฝ้าที่ห้องนี้ (และไอ้ก้อนสีน้ำเงินน่าเกลียดตรงปลายห้องนั้นเป็นผลงานอีกชิ้นของเจฟ คูน) จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หรูแม้กระทั่งแกนเปิดหน้าต่าง จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หมาคอลกี้น่ารัก จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 29 การ์กอยที่นั่งเบื่อโลกอยู่บนยอดปราสาทนอเตรอะดาม จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไปชมงานศิลปะสมัยใหม่ที่ปอมปิดู จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 31 นี่คือภาพแนวมินิมอลลิส หรือศิลปะแขนงที่ใช้ของน้อยที่สุด สื่ออารมณ์ให้ได้มากที่สุด จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ดูแล้วสื่ออารมณ์อะไรบ้างครับ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมก็พยายามทำความเข้าใจศิลปะแนวนี้ (แม้จะแอบคิดว่ามันเป็นแนวของศิลปินขี้เกียจ) จนมาเจอภาพนี้ นี่คือภาพมินิมอลที่มินิมอลจริงๆ คือไม่วาดอะไรลงไปเลย! เอิ่ม... จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 34 นี่คือหนังศิลปะที่ฝรั่งเดินทางไปยังเมืองแขกที่อนุรักษ์นิยมที่สุด แล้วให้แขกถือป้ายเขียนเป็นภาษาแขกว่า "แบทแมน" "ปิกาจู" "อาร์โนล ชวาสเนคเกอร์" ฯลฯ เดินไปเรื่อยๆ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 35 วิวปารีสจากโบสถ์ ซาเครเกอ สวยงามมาก จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณลุงนั่งเล่นไวโอลินอยู่ กำลังอินมาก (และเพลงก็เพราะมั่กๆ) จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:47:49 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ปุจฉา นี่คืออะไร... ก. ถังขยะ ข. ถังขยะรีไซเคิล ค. ถังขยะสีเขียว ง. ถูกทุกข้อ (ไม้ต้องเฉลยนะครับ ไอ้นี่มีให้เห็นทั่วไปในปารีส) จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 03:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มอเตอร์ไซค์ที่หน้าตาเหมือนจักรยานที่เห็นทั่วไปในเมืองเช่นกัน จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 04:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มูแรงรูจครับ aka ย่านเซกชอปที่เต็มไปต้วยผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับกามารมณ์ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 04:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กังหันลมแห่งสุดท้ายในปารีส ประวัติศาสตร์อันชวนสยองขวัญได้บอกเราว่า หลังจากกองทัพพันธมิตรออสเตรียได้ชัยชนะต่อนโปเลียนแล้ว ก็บุกมาล้อมกรุงปารีสไว้ แต่ตีหักเข้าเมืองไม่ได้ จึงทำลายกังหันสีข้าวที่ตั้งอยู่รอบๆเมืองทั้งหมด เพื่อให้คนปารีสมีความลำบากก่อนถอยทัพ มีสองพี่น้องชาวนาที่ไม่ยอมให้ทหารมาทำลายกังหันลมของเขาได้พยายามต่อสู้ป้องกัน พวกเขาจึงถูกพวกทหารจับฆ่าแล้วเอามือเท้าศพห้อยอยู่ตามใบกังหันทั้งสี่ เพื่อโชว์ให้ชาวปารีเซียงกลัว กังหันลมแห่งนี้จึงเหลืออยู่เป็นอันสุดท้ายในปารีส จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 04:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 41 นี่คือไร่ไวน์แห่งเดียวในปารีส ก็ไม่ได้มีประวัติอะไรเป็นพิเศษหรอก เพียงแต่มันมีอยู่แห่งเดียวที่ยังปลูกองุ่นทำไวน์อยู่ จึงเป็นของหายาก ไวน์ในสวนนี้รสชาติไม่ดี เพราะดินฟ้าอากาศปารีสสกปรกย่อมไม่เหมาะกับการปลูกองุ่น กระนั้นเจ้าของสวนก็ยังตั้งราคาไวน์ของเขาแพงหูฉี่ เพราะขายอยู่เจ้าเดียว คนซื้อไวน์จากสวนนี้ไปเพราะเป็นของแปลก ไกด์เล่าว่าเพื่อนเขาซื้อไปแล้วก็ไม่เคยเปิดออกดื่มเลย เก็บไว้โชว์คนงั้นแหละ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 04:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไปเดินตามร้านขายของที่ระลึก อันนี้เป็นรูปล้อเลียนว่าในหัวซิกมัน ฟรอยด์มีแต่เซ็กส์ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 04:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จบแล้วครับ นั่งคันนี้แหละไปเที่ยวเยอรมันต่อ แต่ละเมืองที่ไปก็มีอะไรแปลกๆเยอะแยะทั้งนั้น ถ้ามีกำลังพอจะทยอยเอามาลงอีกครับ จากคุณ : เชษฐา - [ 13 พ.ย. 51 04:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 14   เสาหินนั้นที่ลอนดอน ก็มีอันนึงใช่มั้ย เหมือนเคยนั่งรถผ่านแล้วเห็นทีนึงหน้าตาคล้ายๆกัน แวร์ซาย สวยมาก แต่ ไอ้ของพวกนั้น มันก็ตลกดีจริงๆ  มันสื่อถึงอะไรบ้างครับ จากคุณ : เหล่าฟาง - [ 13 พ.ย. 51 09:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เรื่องซอสศรีราชา นี่ ไม่แปลกครับ ที่อเมริกา คนอเมริกันเชื้อสายเวียดนามเอาชื่อศรีราชาไปจดทะเบียนการค้า ดังนั้น ซอสศรีราชา จากเมืองไทยแท้ เลยไม่สามารถเข้ามาทำตลาดโดยปริยาย จากคุณ : classhopper - [ 13 พ.ย. 51 10:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 Paris..je t'aime จากคุณ : A_Mong - [ 13 พ.ย. 51 11:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อิจฉาตาร้อนมากมาย มีอะไรมาฝากเหมียวไหมค่ะ ( ฮุฮุ ) จากคุณ : meaw_1985 - [ 13 พ.ย. 51 15:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สวยมากครับ แต่ผมดันอ่านประวัติศาสตร์ไทยมากไปเลยไม่ค่อยชอบประเทศนี้ จากคุณ : KeepTryin' - [ 13 พ.ย. 51 20:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ความคิดเห็นที่ 48 เหมือนกันค่ะ แต่ทำไมโรงเรียนไทย ไม่เคยสอน อะไรเกี่ยวกับประเทศนี้เลย มีแต่สอนให้โกธรเกลียด พม่า จากคุณ : meaw_1985 - [ 13 พ.ย. 51 22:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คห. 24  เรารู้สึกว่ามันไม่เข้าจริงๆค่ะ (ให้ตายเหอะ เค้าคิดได้ไงเนี่ย - -") คห. 31, 32, 33  สื่ออารมณ์ได้ลึกซึ้งจริงๆ ค่ะ  {-*-} ขอบคุณค่ะ ที่นำภาพและเรื่องราวมาแบ่งปันกันค่ะ  ^_^ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 51 22:29:09 จากคุณ : KCPT - [ 13 พ.ย. 51 22:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ๊างงงงงงง ปารีส เมืองในฝันที่วันหนึ่งต้องไปให้ได้ จากคุณ : newuno - [ 14 พ.ย. 51 00:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ถึงซือเฮียเหล่าฟาง งานศิลปะของเจฟคูนแต่ละชิ้นมีคำอธิบายยาวมากครับ แต่ผมขี้เกียจฟังเลยปิดซะหมดเลย 555 ฝรั่งเศสเคยเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกถึงสองครั้ง คือสมัยหลุยส์ที่สิบสี่ และสมัยนโปเลียน หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์การช่วงชิงอำนาจกับอังกฤษหลายครั้ง แต่ว่าด้วยปัญหาภายในหลายๆอย่างทำให้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าอังกฤษ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เราก็คงพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษากลางอยู่ จากคุณ : เชษฐา - [ 14 พ.ย. 51 02:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เพิ่งโผล่หัวมา -*- #33 ....... มีอารมณ์เดียวครับ อารมณ์เสียดายตังค์ #3 พวกนี้มันเป็นเครื่องบินไร้คนขับครับผม แบบว่านั่งบังคับกันอยู่แถว ๆ รถนั่นแหละครับ ลำนี้เป็นเครื่องบินลาดตระเวน สังเกตุจะเห็นเซ็นเซอร์อินฟาเรตตรงกระบอกกลม ๆ ด้านหน้าครับ ...... ไอเดียก็คือ ถูกยิงไปก็ไม่มีใครตาย #4 เหอ ๆ เจ้านี่คือ Sumilator ของ Mirage 2000 ครับ เป็นเครื่องบินขับไล่ของฝรั่งเศสเขา #5 ฮ. นี่คือว่า Tiger ครับ เป็น ฮ. โจมตี ส่วน Eurocopter เป็นบริษัทที่ทำ ฮ. นี้ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EADS ซึ่งเป็นเจ้าของ Airbus ด้วย #6 เรด้าร์ครับ ^ ^ #7 โอ้โห รุ่นนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 โน้นแหนะครับ เป็นเครื่องบินฝึกครับ #12 ไอ้นี่ก็เช่นกันครับ เรามีเครื่องบินไร้คนขับ เราก็ต้องมีเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับบ้างสิจริงไหม ขออภัยที่เสี่ยมาช้าไป ......... เสี่ยขอไถ้โทษด้วยการให้เฮียเชษฐาออกค่าตัวเครื่องบินไปดูอีกครั้งเสี่ยจะได้เก็บภาพมาเพิ่ม จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 16 พ.ย. 51 21:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ถึงคห.48&49 เคยได้ยินคำพังเพยที่ว่า"เกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้น"มั้ยคะ เราเป็นคนนึงที่ก่อนหน้านี้เกลียดฝรั่งเศสเข้าไส้ ไม่เคยมีความคิดอยากไปดูหอไอเฟลหรือเหยียบชอง เอลิเซ่เลยแม้แต่นิดเดียว ในหัวมีแต่ความคิดที่ว่าคนประเทศนี้หยิ่งจองหอง ไม่เห็นหัวคนประเทศอื่น ชอบดูถูกคน หอไอเฟลก็ไม่เห็นมีอะไรแค่หลอกนักท่องเที่ยวไปวันๆ บลาๆๆๆ ไม่นับเรื่องในประวัติศาสตร์ที่ทำให้ยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ แล้วเกิดอะไรขึ้น? ด้วยความที่อยากไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศ แต่ไม่อยากไปตบตีแย่งชิงประเทศฮิตๆกัน(ออสเตรีย,ฮังการี) ก็เลยเลือกฝรั่งเศสที่ไม่ค่อยมีคนอยากไป ทั้งๆที่ภาษาก็ไม่กระดิกหูซักนิด แถมยังไปด้วยความไม่ชอบขี้หน้าเต็มขั้น... แต่แล้วเวลา1เดือนในปารีส เปลี่ยนความคิดเราจากหน้ามือเป็นฝ่าเท้า ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าคนดีๆก็มีอยู่ทุกที่ ตลอด1เดือนที่เราอยู่ที่นั่น คนฝรั่งเศสเป็นมิตรกับเรามาก แม้แต่คนแปลกหน้าที่เราเข้าไปถามทาง อากาศเย็นสบาย แม้ขี้หมาจะเยอะถึงเยอะมาก ชาวบ้านจะสูบบุหรี่กันตลอดเวลา แต่ยามที่เราได้ไปเดินดูตึกรามบ้านช่อง ได้กลิ่นบาแก็ตหอมๆอบใหม่ๆ ทัศนาดอกไม้ที่เริ่มผลิบานในสวนเล็กๆข้างถนน...อ๊ากกกกกกกก ชีวิตในฝันแท้ๆเลย ลองให้โอกาสฝรั่งเศสอีกครั้ง แล้วคุณอาจจะพบอะไรดีๆซ่อนอยู่อีกเยอะค่ะ^^ จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 20 พ.ย. 51 16:25:34 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ผมว่าเจ้าหว่างขานั่นกล้าเล่นดีนะ เข้าใจคิดเรื่องแสงและเงาด้วย เอิ๊กกกก หรือผมจะเป็นเหมือนลุงฟรอยด์นะเนี่ย ? ปล. #54ครับ ออสเตรียและฮังการีนี่เค้าฮิตไปเรียนอะไรกันครับ ดนตรีหรอ จากคุณ : NiGht pRincE - [ 23 พ.ย. 51 23:37:16 ]