Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    พระราชกระแสสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์

    พระราชกระแสสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ แก่กลุ่มนักข่าวหญิงที่ยังทรงความเป็นอมตะ
    โดย  "อาริยา สินธุ"
    ฉบับที่ 2614 ปีที่  51 ประจำวัน  อังคาร ที่  23 พฤศจิกายน  2547

    ภูมิหลัง
               ต้นปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อทรงนำผลงานของมูลนิธิศิลปาชีพไปแสดงต่อชาวอเมริกันตามคำกราบบังคมทูลเชิญ ณ ที่นั้น ได้พระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนอเมริกัน ทั้งสื่อหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์อย่างกว้างขวาง ทำให้ทรงเข้าพระทัยถึงบทบาทของสื่อมวลชนในสังคมโลก
               ปีนี้เป็นมหามงคลสมัยที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๔ รอบนักษัตร และทรงเจริญอยู่ในพระอิสสริยศสูงสุดฝ่ายสตรีคือสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ครบ ๓๐ ปี
               กอปรกับเป็นปีกึ่งทศวรรษแห่งปีสตรีสากลขององค์การสหประชาชาติ “กลุ่มนักข่าวหญิง” ซึ่งเป็นชื่อที่พระองค์ท่านได้ทรงเรียกขานพระราชทานมาก่อนปี ๒๕๑๐ และได้รวมตัวกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมหลายเรื่อง ได้ขอพระราชทานพระราชวโรกาสเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานพระราชกระแสสัมภาษณ์ โดยการนำของ คุณหญิงมาลี พันธุมจินดา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ประธานฝ่ายกิจกรรมพิเศษของกลุ่มนักข่าวหญิง ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สมาชิกของกลุ่มนักข่าวหญิงจำนวน ๒๙ คนเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานพระราชกระแสสัมภาษณ์ได้ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๓ ณ ห้องบรรณาคม บนพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ชั้นที่ ๒ ตั้งแต่เวลา ๑๖.๔๕ น. จนถึงประมาณ ๒๑.๓๐ น. พร้อมกับทรงพระกรุณาพระราชทานเลี้ยงน้ำชาในระหว่างเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชกระแส ซึ่งนับเป็นเกียรติประวัติและเป็นวันประวัติศาสตร์ของวิชาชีพสื่อสารมวลชนไทยวันหนึ่ง
               กลุ่มนักข่าวหญิงได้ทูลเกล้าฯ ถวายหัวข้อที่จะขอพระราชทานพระราชกระแส จำนวน ๔๔ หัวข้อย่อย แบ่งเป็นหมวดหมู่ ๕ เรื่อง คือ
               ๑. เรื่องเนื่องในชีวิตประจำวันส่วนพระองค์
               ๒. เรื่องการส่งเสริมการศึกษาและอาชีพประชากรในชนบท
               ๓. เรื่องเนื่องในสังคม
               ๔. เรื่องเนื่องในสิทธิและสถานภาพของสตรี
               ๕. เรื่องอื่นๆ
               ทั้งนี้สุดแล้วแต่พระราชอัธยาศัยที่จะพระราชทาน

    ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ประมาณ พ.ศ.๒๕๑๐
    สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงพระกรุณาฯให้จัดโต๊ะติดเวที ๒ โต๊ะ สำหรับ
    กลุ่มนักข่าวหญิง เพื่อพวกเขาจะได้ฟังพระราชกระแสได้ชัดเจน
               ระหว่างการพระราชทานสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ของสถานีวิทยุ อส.ได้บันทึกพระสุรเสียงติดต่อกันตลอดกว่า ๔ ชั่วโมง และมอบให้บรรณาธิการ (อาริยา สินธุจริวัตร) ที่กลุ่มนักข่าวหญิงแต่งตั้งเพื่อถอดและเรียบเรียงเป็นข้อความ หลังจากผ่านการตรวจแก้แล้วจึงนำไปจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มหนังสือจำนวน ๑๐,๐๐๐ เล่ม ออกจำหน่าย (เล่มละ ๑๐๐ บาท) โดยมีคณะบุคคลและบริษัท ๒๖ ราย ชื่อสนับสนุนค่าจัดพิมพ์ ส่งผลให้กลุ่มนักข่าวหญิงรวบรวมรายได้ทั้งหมดเกือบ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อมูลนิธิศิลปาชีพฯ ในกลางปี ๒๕๒๕ ณ พระที่นั่งวิมานเมฆ ซึ่งทรงเปิดให้มวลสมาชิกของสภาสตรีแห่งชาติฯ และกลุ่มนักข่าวหญิงเข้าเฝ้าฯและชมเป็นคณะแรกก่อนเปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ในเวลาต่อมา
               บัดนี้หนังสือ “พระราชกระแส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานสัมภาษณ์แก่กลุ่มนักข่าวหญิง” ซึ่งมีความหนา ๗๒ หน้า กลายเป็นหนังสือหายาก “กลุ่มนักข่าวหญิง” ได้สลายตัวไป นักข่าวหญิงรุ่นอาวุโสหลายคนได้ละร่างจากไปตามวัฏสงสาร อาทิ คุณเสริมศรี เอกชัย คุณอนงค์ เมษประสาท คุณจิรภา อ่อนเรือง เป็นต้น มีเพียง “ชมรมนักข่าว-นักเขียนสตรี” ตั้งเป็นกลุ่มเล็กๆแทน เพื่อสืบสานต่อกิจกรรมเอื้ออารีช่วยเหลือกันและบำเพ็ญดีต่อชุมชน โดยบรรณาธิการยังดูแลต้นฉบับหนังสืออันทรงคุณค่าเล่มนี้และประสานงานของชมรมฯ
               ในมหามงคลวารแห่งวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ใน สมเด็จพระบรมราชินีนาถ จึงนับเป็นโอกาสพิเศษที่จะน้อมเกล้าฯ นำบทพระราชกระแสสัมภาษณ์ตอนสำคัญๆที่ยังทรงความเป็นอมตะ พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ที่พระราชทานมาให้พิมพ์รวมอยู่ในหนังสือเล่ม มาเผยแพร่พระเกียรติคุณผ่าน “สกุลไทย” เพื่อคนรุ่นหลังจักได้น้อมเกล้าฯ รำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณถึงพระราชจริยวัตรและน้ำพระทัยที่เปี่ยมล้นด้วยความรักความห่วงอาทรขององค์พระประมุขและพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ซึ่งจักสะท้อนและปรากฏอย่างแจ่มชัดในพระราชกระแสสัมภาษณ์พระราชทานครั้งประวัติศาสตร์นี้ และขออัญเชิญตามแบบที่พิมพ์ในหนังสือคือ มีคำถามทูลถามและทรงตอบ ซึ่งได้ถอดพระราชกระแสโดยรักษาถ้อยคำรับสั่งตรงตามเทปบันทึก มิได้นำหลักไวยากรณ์ว่าด้วยอักขรวิธีหรือวจีวิภาคมาปรับแปรเป็นความเรียง ด้วยถือหลักสำคัญยิ่งยวดประการหนึ่งคือ ความซื่อตรงต่อต้นฉบับ (แต่ขอแทรกคำอธิบายที่เป็นเชิงอรรถท้ายเล่ม นำมาต่อไว้ในวงเล็บ เพื่อความเข้าใจในทันที)
               อนึ่ง ท่านผู้อ่านพึงตระหนักว่า นี่เป็นบทพระราชกระแสเมื่อ ๒๔ ปีมาแล้ว ที่ทรงเปิดเผยเรื่องเนื่องในพระองค์ต่อประชาชนชาวไทย ก่อนที่จะมีพระราชกระแสเรื่องต่างๆต่อมหาสมาคมในวันเฉลิมพระชนมพรรษาดังในปัจจุบัน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดหรือเผยแพร่อย่างละเอียดทางวิทยุโทรทัศน์ต่อมา

     
     

    จากคุณ : เปิดใจกว้าง - [ 6 ธ.ค. 51 12:25:11 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com