ความคิดเห็นที่ 1 แล้ว ทำไมถึงมาลงท้ายที่วิธี "แจกเงิน" ? โรแลนด์ ฟรายเออร์ นักเศรษฐศาสตร์และหัวหน้าฝ่ายคิดค้น โครงการทดลองเพื่อการศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Education Innovation Laboratory) ผู้คิดโครงการนำร่องนี้ ที่จะทดลองใช้ในกรุงวอชิงตันเป็นเวลา 1 ปี ด้วยเงินทุนสนับสนุนราว 2.7 ล้านดอลลาร์ (ราว 93.42 ล้านบาท) เป็นเงินจากกองทุนของเทศบาลกรุงวอชิงตันครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนจากโครงการทดลองเพื่อการศึกษาแห่งชาติ เล่าถึงที่มาของโครงการนี้ต่อหน้านักเรียนที่โรงเรียนชอว์ มิดเดิล สคูล ที่มายืนเข้าคิวรับเช็คในโรงยิมว่า "ตอนผมเรียนอยู่เกรด 10 ผมต้องหยุดเรียนกลางคัน เพื่อไปทำงานหาเงินอยู่ตามท้องถนนสักพัก พวกเรานำโครงการทดลองนี้มาเริ่มใช้ในกรุงวอชิงตัน เพื่อพวกเธอจะได้ไม่ต้องตัดสินใจแบบเดียวกับผม" ในวันนั้นนอกจากฟรายเออร์ ยังมี นายเอเดรี่ยน เฟนตี้ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตันมาร่วมงานด้วย ซึ่งโรงเรียนทั้ง 15 โรงในกรุงวอชิงตัน จะได้รับเงินสนับสนุนเพื่อนำไปแจกให้เด็กทั้งหมดราว 137,813 ดอลลาร์ (หรือราว 4,768,329 บาท) โดยนักเรียนในโครงการทดลองนี้ จะอยู่ในพื้นที่ ซึ่งไม่ค่อยมีตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จทางการศึกษามาเป็นแรงบันดาลใจ ให้เด็กเห็นความสำคัญของการศึกษา รู้สึกอยากเรียน อยากไปโรงเรียน และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักเศรษฐศาสตร์อย่างฟรายเออร์ หันมาใช้ "เงิน" เป็นแรงกระตุ้น จูงใจให้เด็กขยันเรียนนั่นเอง ไบรอัน เบ็ต ครูใหญ่โรงเรียนชอว์ มิดเดิล สคูล พูดถึงเงิน (ค่าจ้าง) ที่ถูกแจกจ่ายไปถึงเด็กๆ ว่า สามารถสร้าง "ความเปลี่ยนแปลง" ในชีวิตของเด็กที่มาจากครอบครัวยากจน แต่ตอนนี้ ยังยากที่จะประเมินถึงผลลัพธ์ว่าโครงการนี้ส่งผลอย่างไรบ้าง แต่ที่เห็นได้ชัดก็คือ นับแต่เริ่มใช้โครงการนี้ มีเด็กขาดเรียนน้อยลงถึงเท่าตัว "เมื่อเด็กๆ ได้เงิน และมีการเริ่มเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ ว่า เขาได้เท่าไร เพื่อนได้เท่าไร ผมว่านั่นจะเป็นแรงขับให้โครงการนี้มีพลังอำนาจเพิ่มมากขึ้น" คุณครูใหญ่เล่าว่า ในวันแจกเช็คงวดล่าสุด เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีเด็กในโรงเรียนราว 90% ที่ได้รับเช็คเป็นตัวเงินมากน้อยลดหลั่นกันไปตามผลการเรียน และพฤติกรรม มารยาท แต่โดยเฉลี่ย เด็กได้รับเงินโดยเฉลี่ยราว 43 ดอลลาร์ (ราว 1,487 บาท) เคนนี่ย์ นักเรียนชั้นเกรด 6 ที่ได้รับเช็ค 80 ดอลลาร์ (ราว 2,768 บาท) เล่าว่า "ผมไม่ได้หวังว่าจะต้องได้เช็ค 100 ดอลลาร์ เพราะว่าผมขาดเรียนไปวันหนึ่ง แต่มีเพื่อนผมคนหนึ่ง ที่รู้สึกผิดหวังมาก ที่เค้าได้เช็คไปแค่ 2 ดอลลาร์ (ราว 68 บาท) เท่านั้นเอง แต่เค้าหวังว่าจะได้เงินมากกว่านั้น" ขณะที่นักเรียนแต่ละคน ก็มีวิธีคิดที่จะ อัพ ตัวเลขในเช็คงวดต่อๆ ไปแตกต่างกันไป อย่างเช่นเจย์ คาร์สัน ที่ประกาศไว้แล้วว่า "เมื่อปีที่แล้ว ผมอาจจะคุย มัวแต่เล่นมากไปหน่อย ยังไม่ตั้งใจเรียนเต็มที่เหมือนที่เคยทำ" หรือโดมินิก วัตสัน นักเรียนหญิงวัย 13 ที่ยังไม่พอใจกับตัวเงินในเช็คใบล่าสุด และอยากได้เงินในเช็คงวดต่อไปมากขึ้น เธอจึงคิดไว้เลยว่า "ฉันจะขยันเรียนให้มากขึ้น จะทำคะแนนในวิชาวิทยาศาสตร์ให้ดีขึ้น" แวะไปหาลิงค์ของข่าวนี้มาให้ด้วยค่ะ http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lad03221251&sectionid=0115&day=2008-12-22 คิดว่าอย่าให้เมืองไทยถึงกับแบบนี้เลยนะคะ น้องๆ นักเรียนทั้งหลาย (แต่รับรองว่าถ้าดิฉันเอาข่าวนี้ไปให้น้องสาววัยมัธยมอ่าน คงจะดีใจแน่ๆ และก็คงจะบอกให้เราลองทำมั่ง - -) จากคุณ : ->บังเอิญไหมที่เราได้พบกัน<- - [ 22 ธ.ค. 51 14:41:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นมานานแล้วนี่ครับ สำหรับบางครอบครัวนะ 555 ค่าตอบแทนเป็นใหญ่ แต่เท่าที่อ่านข้างบนผ่าน ๆ เค้าหมายถึงทุนการศึกษาด้วยนี่ครับ ถ้าจะคาดหวังจากจิตสำนึก แรงจูงใจ (ไปเมาท์กับเพื่อน ไปนั่งเหล่สาว 555) คงต้องเหนื่อยกันอีกเยอะทีเดียว โลกแห่งทุนนิยม มนุษย์เราได้ตระหนักแล้วว่า บทสรุปของเกือบทุกสิ่งทุกอย่างชี้ไปที่เงิน ยิ่งมีการจัดอันดับคนรวย ประเทศรวย สิ่งก่อสร้างแพง ๆ (กลัวเด็ก ๆ มาอ่านตรงนี้จัง เดี๋ยวสังคมจะแย่ไปกันใหญ่ ผู้ใหญ่ที่อ่านคงเข้าใจ) จ้างมีลูก จ้างลดความอ้วน จ้างเรียน อืม คราวหน้าจะมีจ้างทำอะไรอีกนะ ป.ล. ขอบ่นนอกเรื่องหน่อย พันทิพน่าจะมีการเก็บข้อความก่อนโพสต์นะ พิมพ์เสร็จกดโพสต์ไม่ติด ต้องพิมพ์ใหม่หมดเลย ไม่เหมือนเดิมด้วย T-T จากคุณ : RealWorld - [ 22 ธ.ค. 51 17:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สมัยพระพุทธเจ้า  อนาถบิณฑิกเศรษฐีเคยจ้างลูกชายไปฟังพระพุทธเจ้าเทศน์ จากคนไม่สนใจกลายเป็นเอาใจใส่และบรรลุธรรมและเลิกรับเงินรางวัล เห็นว่าใกล้เคียงเลยเล่าให้ฟัง จากคุณ : วสันดิลก - [ 22 ธ.ค. 51 22:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะ มีแบบนี้ด้วยเนอะ เรื่องอนาถบิณฑิกเศรษฐีนี่ก็เคยเรียน แต่ลืมไปแล้ว ขอบคุณนะคะที่เอามาเล่าให้ฟังอีกรอบนึง จากคุณ : ->บังเอิญไหมที่เราได้พบกัน<- - [ 24 ธ.ค. 51 19:16:15 ]