ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เคยได้ยินมาก่อน  รอผู้รู้มาบอกอีกที แต่รูปปั้นที่กระทืบบาทตอนกรุงแตกน่าจะเป็นองค์ใหญ่พอสมควรนะ จินตนาการเอา  อาจจะเท่าคนเป็นๆ จากคุณ : วสันดิลก - [ 7 ม.ค. 52 23:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พระบรมรูปที่กระทืบบาทตอนกรุงแตกดังทั้งสี่ทิศ ไม่เคยรู้ไม่เคยได้ยินเลยคับรบกวนเล่าให้ผมฟังได้ไหมคับ อยากรู้ๆๆๆๆๆๆๆ เอาแบบมีรายละเอียดหน่อยเวลาไปเล่าต่อจะได้มีข้อมูลดูน่าเชื่อถือ จากคุณ : หริปรียา - [ 8 ม.ค. 52 01:07:13 A:202.28.27.5 X: TicketID:197397 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พระบรมรูป (?) ดังกล่าวเป็นรูปไม้แกะสลักทาสี ขนาดประมาณตัวคนจริง ปล่อยแขนแนบลำตัว ไว้เล็บยาวแบบผู้ดีสมัยก่อน เขียนหน้าตา ไม่ได้ดูเค้าว่าเป็นหน้าตาขึงขังอะไร ออกจะยิ้มแย้มมีไมตรี มีพระมาลาและเครื่องทรงที่นำมาตกแต่งใหม่ตัดเย็บด้วยเยียรบับ ประดิษฐานอยู่ในซุ้มโถงแบบไทยหลังคามีช่อฟ้าใบระกา แต่ผู้ใหญ่ในพระราชสำนักบางท่าน มีความเห็นเป็นประการอื่นว่าไม่ใช่พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สันนิษฐานว่าเป็น "หุ่น" สำหรับจัดเครื่องทรงพระมหากษัตริย์ครับ จากคุณ : นาย UP - [ 8 ม.ค. 52 01:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เคยเห็นบนหลังตึกสำนักพระราชวัง ที่ทำการภูษามาลา ใช่องค์เดียวกันหรือเปล่าครับ จากคุณ : natthaset - [ 8 ม.ค. 52 06:40:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มีรูปไหมคับ อยากเห็นคับ รบกวนนิดนึง จากคุณ : หริปรียา - [ 8 ม.ค. 52 10:51:58 A:202.28.27.5 X: TicketID:197397 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มารอชมรูปด้วยคน มารอฟังเรื่องกระทืบพระบาททั้งสี่ทิศด้วย จากคุณ : ยาควัน - [ 8 ม.ค. 52 11:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องที่ว่าพระบรมรูปกระทืบพระบาทเป็นลางบอกเหตุก่อนเสียกรุง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ใน "คำให้การชาวกรุงเก่า" ครับ จากคุณ : ออกญาศรีราชเดโชชัย (NMkrung) - [ 8 ม.ค. 52 14:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมได้เข้าไปเห็นมาด้วยครับ จะขอถ่ายรูป แต่ท่านไม่อนุญาต จากคุณ : Navarat.C - [ 8 ม.ค. 52 20:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รอชมภาพจากคุณnatthaset และ ท่านอื่นๆอยู่นะครับ ลักษณะหุ่นคล้ายๆกับ หุ่นที่แต่งชุดทหารในพระตำหนักสวนหงษ์ พระราชวังดุสิต หรือเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 52 21:07:35 จากคุณ : akkarachai - [ 8 ม.ค. 52 21:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเคยอ่านเจอในหนังสือ "บรมราชาภิเษก" ( จัดทำโดยคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ) ว่าในขั้นตอนการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะต้องมีการบวงสรวงเทพยดาตามจุดต่างๆในพระบรมมหาราชวัง เช่น เทวดารักษาพระมหาเศวตฉัตร เทวรูปที่หอแก้ว ฯลฯ ซึ่งผมจำได้ว่าในหนังสือมีการกล่าวถึงการบวงสรวงพระบรมรูปพระนเรศวรเป็นเจ้าที่ห้องภูษามาลาด้วย  และก็เคยนึกสงสัยอยู่ว่าทำไมพระบรมรูปพระนเรศวรจึงไปอยู่ที่ห้องภูษามาลาได้ แต่ได้ก็ลืมไปนานแล้ว  มาระลึกถึงก็เมื่อได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ละครับ  ท่านผู้รู้กรุณาช่วยวิเคราะห์ด้วยครับ จักขอบคุณยิ่ง จากคุณ : ตะพุ่นหญ้าช้าง - [ 9 ม.ค. 52 22:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ฟังคุณ up บรรยายแล้วทำให้ผมเห็นภาพชัดเจน ประหนึ่งดั่งได้เข้าไปชมหุ่น หรือ พระรูปองค์นั้นจริงๆเลยครับ หรือว่าเราเคยไป หรือว่านึกฝันไป นึกไปนึกมาจำได้ว่ามีท่านผู้รู้เคยเล่าให้ฟัง ตรงกับเนื้อความในสาส์นสมเด็จ ที่กล่าวไว้ว่า พระแสงต้นกรุงกัมพูชา ที่ห้องภูษามาลามีจำลองไว้องค์หนึ่ง หุ่นนั้นก็น่าจะมีพระแสงต้นองค์จำลองนี้เป็นแน่แท้ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 52 23:42:45 จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 9 ม.ค. 52 23:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านจากคุณ ออกญาศรีราชเดโชชัย (NMkrung) ที่ คคห 7 เลยไปเปิดดูหนังสือ ไปเจอที่ คำให้การขุนหลวงหาวัดหน้าที่ 438 ครับ บอกไว้ในย่อหน้าสุดท้ายว่า (เรียงบันทัดและพิมพ์ตามหนังสือนะครับ)         @เมื่อใกล้จะเสียพระนครศรีอยุธยานั้น เกิดรางล้ายต่างๆ คือ พระพุทธปฏิมากรใหญ่ที่วัดพณัญเชิงมีน้ำพระเนตรไหล พระพุทธ- ปฏิมากรติโลกนาถ ซึ่งแกะด้วยไม่พระศรีมหาโพธิ์นั้น พระทรวงแยก ออกเป็นสองถาค พระพุทธปฏิมากรทองคำตัวเท่าตัวคน และพระพุทธ- สุรินทร์ซึ่งหล่อด้วยนาก อันประดิษฐานอยู่ในวัดพระศรีสรรเพชญ์ใน พระราชวังนั้น มีพระฉวีเศร้าหมอง พระเนตรทั้งสองหลุดหล่นลองอยู่ บนพระหัตถ์ มีกาสองตัวตีกัน ตัวหนึี่่่งบินโผลงตรงยอดเหมฉัตรเจดีย์ ที่วัดพระธาตู อกสวมลงตรงยอดพระเจดีย์เหมือนดังคนจับเสียบไว้ เทวรูปพระนเรศวรนั้น มีน้ำกระเนตรไหล และเปล่งศัพท์สำเนียง เสียงอันดัง อสนีบาตลงหลายครั้งหลายหน.........ฯฯ ส่วนคำให้การชาวกรุงเก่า หน้า 175 มีกล่าวถึงลางบอกเหตุเหมือนกัน ย่อหน้าเดียว ดังนี้ครับ      @เมื่อใกล้จะเสียพระนครศรอยุธยานั้น เกิดลางร้ายต่างๆคือ พระพุทธปฏิมากรใหญ่วัดพณัญเชิง มีน้ำพระเนตรไหล พระพุทธ ปฏิมากรติโลกนาถซึ่งแกะด้วยไม้พระศรีมหาโพธินั้น พระทรวงแยก ออกเป็นสองภาค พระพุทธปฏิมากรทองคำเท่าตัวตัวคน และพระพุทธ สุรินทร์ ซึ่งหล่อด้วยนากอันประดิษฐานอยู่ในวัดพระศรีสรรเพชญ์ ในพระราชวังนั้นมีพระฉวีเศร้าหมอง พระเนตรทั้งสองหลุดหล่อนลง อยู่บนพระหัตถ์ มีกาสองตัวตีกัน ตัวหนึ่งบินโผลงตรงยอดเจดีย์เหมือนดังคนจับเสียบไว้ เทวรูปพระนเรศวรนั้นมีน้ำพระเนตรไหล และเปล่งศัพท์สำเนียง อันดัง อสนีบาตตกลงหลายครั้งหลายหน พระราชวงศานุวงศ์ข้าราช- การก็ไม่ตั้งอยู่ในสัจธรรม สำแดงเหตุที่จะเสียพระนคร....... เห็นว่ามีแหล่งอ้างอิงสองแหล่งคือ คำให้การขุนลวงหาวัดและคำให้การชาวกรุงเก่า แล้วใช่ว่าจะทำให้หนักแหน่นขึ้น นะครับ ผมว่า สองเล่มนี้ก็คงจะลอกกันมาแล้วเปลี่ยนชื่อ (เข้าใจว่า อ.สุจิตร์ วงเทศ กับ อ.นิธิ เคยวิพากษ์ไว้แล้ว) แต่ก็ยังไม่เจอที่บอกว่า กระทืบพระบาทอยู่ดี จากคุณ : MA<O>MiYA - [ 10 ม.ค. 52 00:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าเป็นพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวร ทำไมถึงไม่นำไปประดิษฐานที่หอพระเทพบิดรอย่างที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระรามาธิบดีอู่ทอง? จากคุณ : Louvorian - [ 10 ม.ค. 52 05:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สงสัยเหมือนคุณ ตะพุ่นหญ้าช้าง และ ท่านอื่นๆครับ จากคุณ : akkarachai - [ 10 ม.ค. 52 16:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ทำไมต้องพระนเรศวร "เป็นเจ้า" จากคุณ : เด็กชายกะหล่ำปลี - [ 10 ม.ค. 52 20:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องเล่าที่คุณออกญาฯ พูดถึง มีบันทึกอยู่ในพระราชพงศาวดารกรุงสยาม ฉบับบริติชมิวเซียม กรุงลอนดอน ครับ “...ด้วยอายุแผ่นดินกรุงพระนครศรีอยุธยาถึงกาลขาด จึ่งอาเพศให้เห็นประหลาดเป็นนิมิต พระประธานวัดเจ้าพระนางเชิงน้ำพระเนตรไหลลงมาจนพระนาภี ในวังนั้น วัดพระศรีสรรเพชญนั้น พระบรมไตรโลกนาถพระอุระแตก ดวงพระเนตรตกลงมาอยู่ที่ตักเป็นอัศจรรย์ พระเจดีย์วัดราชบูรณะนั้นกาบินมาเสียบตายอยู่บนปลายยอดโดยอาเพศ อนึ่ง รูปพระนเรศวรเจ้าโรงแสงในกระทืบพระบาทสนั่นไปทั้งสี่ทิศ อากาศก็วิปริตไปต่างๆ บอกเหตุลางจะเสียกรุง... จากคุณ : รอยใบลาน - [ 10 ม.ค. 52 20:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ในขั้นตอนหนึ่งของงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมัยรัชกาลที่ 7 เมื่อทรงจุดเทียนชัย และจุดเทียนชนวนเครื่องสังเวยแล้ว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญเครื่องสังเวยไปตั้งสังเวย ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ตามลำดับ ดังนี้ 1. ที่พระสยามเทวาธิราชในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ 2. ที่พระที่นั่งเศวตรฉัตรในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 3. ที่พระมหาเศวตรฉัตรในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท 4. ที่พระมหาเศวตรฉัตรในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท 5. ที่พระมหาเศวตรฉัตรในพระที่นั่งอนันตสมาคม 6. ที่พระนเรศวรเปนเจ้าณห้องภูษามาลา 7. ที่เทวสถานพระอิศวร ฯลฯ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 22:23:16 แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 20:52:38 จากคุณ : รอยใบลาน - [ 10 ม.ค. 52 20:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ กำลังรอความรู้ใหม่ๆ จากท่านผู้รู้ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 52 11:47:56 แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 52 11:38:34 จากคุณ : เงาอดีต - [ 11 ม.ค. 52 11:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบคุณเด็กท้ายวังในความเห็นที่ ๑๑ พระหัตถ์ของพระบรมรูป (?) ดังกล่าว ปล่อยนิ้วเหยียดตรง ไม่สามารถสอดพระแสงใดๆ ไว้ได้ อย่างไรก็ดี ที่เอวพระบรมรูป (?) เจ้าพนักงานผูกผ้ากรองทองเป็นประคดไว้ พร้อมสอดพระแสง (?) ลักษณะอย่างพระขรรค์ แต่ฝีมือหยาบๆ ไม่ได้วิจิตรประณีตอะไรนัก ด้ามเป็นไม้กลึงเรียบๆ ไม่สวมฝัก ไม่มีการแกะสลักลวดลาย คมดาบทั้งสองเป็นสีเงิน ไม่แน่ใจว่าเป็นโลหะหรือไม้กันแน่ แนวกลางทำลวดลาย ถ้าดาบโลหะก็คงเป็นคร่ำ ถ้าดาบไม้ก็คงทำเป็นลงรักปิดทอง ไม่ขอยืนยัน เพราะจำได้ไม่ถนัดและดูไม่ถนัดด้วยเพราะมีเครื่องสักการบูชาบดบังอยู่มาก จากคุณ : นาย UP - [ 11 ม.ค. 52 20:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แหะๆ จริงด้วยครับ มองอย่างผิวเผิน คิดว่าภายในพระหัตถ์(?)จับพระแสงอยู่  ขอบพระคุณ คุณอัพครับที่ทำให้ผมมองละเอียดขึ้นและกรุณาให้ความรู้ จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 11 ม.ค. 52 22:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ได้ยินมาคลับคล้ายคลับคากับเจ้าของกระทู้ ครั้งผมไปนั่งฟังบรรยาย ว่าด้วยเรื่องประวัติวัดโพธิ์ ตอนปี 2548 ...มีการพูดถึงประเด็นนี้ด้วยครับ เมื่อมีคนจุดประเด็นนี้แล้ว ผมก็อยากทราบเหมือนกันครับ ว่าความจริงเป็นเช่นไร? จากคุณ : สะตอคุง - [ 12 ม.ค. 52 15:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สรุปแล้ว ไม่มีรูปถ่ายที่สามารถนำมาเผยแพร่ได้ หรือเปล่า? จากคุณ : Louvorian - [ 12 ม.ค. 52 16:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พอมีครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาลงให้ครับ ทิ้งเมลล์ไว้ครับ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 23:17:03 จากคุณ : เงาอดีต - [ 12 ม.ค. 52 22:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เอ  ไม่ทราบว่าผมจำผิดหรือไม่อย่างไร ผมจำได้ลางๆว่าในหนังสือนิราศนครวัดของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตอนที่ท่านกล่าวถึงพระขรรค์ของเขมร  ว่าเป็นของเก่าที่ซ่อนไทยไว้ เป็นของงามดี ท่านก็เล่าว่าทางไทยก็ได้จำลองเป็นไม้จำหลัก  เหน็บไว้ที่หุ่นในห้องภูษามาลา  ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างเดียวกับที่คุณ UP เล่าหรือไม่  ผมเองก็คงต้องไปหาข้อมูลดูอีกที ท่านผู้รู้ช่วยยืนยันหรือแก้ไขด้วย นับว่าเป็นประเด็นน่าสนใจมาก แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 52 12:25:25 จากคุณ : มังกรล่อแก้ว (มังกรล่อแก้ว) - [ 13 ม.ค. 52 12:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 รอมาสองวันแล้วพี่เงาอดีตเมื่อไหรจะมาคับ รอดูอย่างใจจดใจจอ จากคุณ : หริปรียา - [ 15 ม.ค. 52 12:47:18 A:202.28.27.5 X: TicketID:197397 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอโทษครับ พอดีมีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อยครับ คงรออีก2-3 วัน จากคุณ : เงาอดีต - [ 15 ม.ค. 52 21:20:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ OK Ja! จากคุณ : Louvorian - [ วันครูแห่งชาติ 01:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ครับ รอชมเช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 52 15:44:42 จากคุณ : akkarachai - [ วันครูแห่งชาติ 15:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาเเว้วรูปเจ้าพ่อห้องเครื่อง ทิ้งเมลล์ไว้ครับ จากคุณ : เงาอดีต - [ 17 ม.ค. 52 18:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เอาแบบว่าโพสลงในนี้เลยไม่ได้หรือ คุณเงาอดีต แบบว่าไม่อยากเพิ่มJunk Mailให้ตัวเองน่ะ จากคุณ : Louvorian - [ 17 ม.ค. 52 19:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รบกวนด้วย คุณเงาอดีต kitti837@hotmail.com จากคุณ : sawa - [ 17 ม.ค. 52 22:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 32 siam_bk@hotmail.com ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : akkarachai - [ 18 ม.ค. 52 22:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อยากทราบด้วย ขอบคุณครับ onesaba@gmail.com จากคุณ : onesaba - [ 19 ม.ค. 52 14:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอด้วยครับ ขอบคุณครับ thanawat.za@gmail.com แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 52 20:24:24 จากคุณ : นอกราชการ - [ 19 ม.ค. 52 20:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มาเเว้วรูปเจ้าพ่อห้องเครื่อง คิดอยู่นานโพสต์ดีกว่าขี้เกียจส่งเมลล์ จากคุณ : เงาอดีต - [ 19 ม.ค. 52 21:00:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบพระคุณมากๆ จากคุณ : Louvorian - [ 19 ม.ค. 52 21:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ได้เห็นแล้วๆ ขอบคุณมากคับ จากคุณ : หริปรียา - [ 20 ม.ค. 52 01:31:54 A:202.28.27.5 X: TicketID:197397 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อยากให้give แต่ให้ไม่ได้ ขอบคุณนะครับ จากคุณ : Navarat.C - [ 20 ม.ค. 52 07:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาอ่านครับ ผมก็สงสัย แหะๆ จากคุณ : natthaset - [ 20 ม.ค. 52 10:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากนะครับ ได้เห็นซะที จากคุณ : akkarachai - [ 20 ม.ค. 52 20:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ได้ชมรูปแล้วตกตะลึงไปพักใหญ่เชียวครับ...และก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับ คคห. ของคุณ UP ครับ ขอบคุณคุณเงาอดีตนะครับ จากคุณ : ออกญาศรีราชเดโชชัย (NMkrung) - [ 21 ม.ค. 52 18:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความรู้เพียบ จากคุณ : blueboyhub - [ 21 ม.ค. 52 19:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับรูปครับ คุณ เงาอดีต จากคุณ : เป็นกลาง - [ 21 ม.ค. 52 19:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นรูปแล้วอึ้งนะ....เห็นด้วยกับความเห้นที่ ๑๙ ของคุณ UP จากคุณ : ทองรอด (THONGROD) - [ 21 ม.ค. 52 20:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าเป็นเพียง "หุ่น" สำหรับลองเครื่องทรงพระมหากษัตริย์ เหตุไฉนตระกูลวัชโรทัย จึงนำมาจากกรุงเก่าเล่าครับ? ผมคิดว่า คงเป็นมากกว่า "หุ่น" ธรรมดาแน่ๆ จากคุณ : จางวางเต่า - [ 22 ม.ค. 52 11:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นอย่างนี้แล้ว ถ้าใครได้มีโอกาสก็น่าจะไปถามเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในห้องนั้นให้กระจ่างสักที จะได้เป็นความรู้กันต่อไป ใครจะพอไปถามพี่ๆในห้องนั้นแล้วมาเล่าต่อคงเป็นประโยชน์อยู่ไม่น้อยครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 22 ม.ค. 52 11:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แต่ในสมัยอยุธยานิยมสร้างรูปเคารพที่เป็นตัวแทนพระมหากษัตริย์ที่ล่วงลับ ออกมาในรูปแบบของเทวรูปฮินดูหรือไม่ก็เป็นรูปพระพุทธเจ้านี่หน่า ขอความคิดเห็นเพิ่มด้วย จากคุณ : Louvorian - [ 23 ม.ค. 52 04:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมคิดว่าก่อนสมัยรัชกาลที่ ๔ การสร้างรูปแทนตัว จะออกมาในลักษณะเทวรูปหรือพระพุทธรูปฉลองพระองค์ เช่น เทวรูปพระเชษฐบิดร, พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์, พระพุทธเลิศหล้านภาไลย ส่วนการสร้างรูปเหมือนตัว แบบให้มีรูปร่างเค้าโครงหน้าเหมือนอย่างมนุษย์ น่าจะเป็นอิทธิพลตะวันตก จากคุณ : นาย UP - [ 24 ม.ค. 52 00:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 1. จากบันทึกที่ความเห็นที่ 16 อ้าง แสดงว่า "หุ่น" นี้ อยู่ ณ โรงแสง ไม่ได้อยู่ในพระมหาปราสาท หรือ พระที่นั่งสำคัญ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ "หุ่น" ดังกล่าวจะเป็นพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรจริง แต่เป็นพระบรมรูปที่ข้าราชสำนักในโรงแสงสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น เพื่อสักการะบูชาในพิธีสำคัญ เช่นก่อนการออกศึก(เฉพาะพิธีภายในสำหรับเจ้าพนักงานจริงๆ) จึงประดิษฐาน ณ โรงแสง สำหรับข้าราชสำนักสักการะเป็นการภายใน 2. (จากข้อ 1.) พระบรมรูปสร้างโดยข้าราชสำนักจึงสันนิษฐานว่า สร้างจากฝีมือช่างธรรมดา ไม่ใช่ช่างหลวง ที่ต้องทำตามขนบโบราณ คือสร้างเป็นพระพุทธรูปด้วยวัสดุมีค่าเช่น เงิน ทอง ฯลฯ และสังเกตจากวัสดุว่า เป็นไม้ และสร้างด้วยการแกะสลัก ถ้ามีการตรวจสอบว่าเป็นไม้ชนิดใด ก็อาจเป็นไปได้ว่า มีความเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของไม้บางชนิด จึงสร้างด้วยไม้ และเราจะเห็นว่า เรื่องเกี่ยวกับไสยศาสตร์ (พราหมณ์) บางเรื่องนั้น มีเกี่ยวข้องกับการสร้าง "หุ่น" ที่เป็นรูปคนจริงๆ ด้วย(เผอิญไม่ได้อยู่ที่ห้องเลยหาหนังสืออ้างอิงไม่ได้) 3. "หุ่น" นี้คงมีความศักดิ์สิทธิ์จริงๆ มิฉะนั้น ข้าราชสำนักกรุงเก่าคงไม่นำออกมาด้วย และความศักดิ์สิทธิ์นั้นก็คงเป็นที่ทราบโดยทั่วไปในราชสำนักกรุงเก่า ทั้งพระมหากษัตริย์และข้าราชสำนัก แต่พระมหากษัตริย์คงทรงทราบถึงความเลื่องลือเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น  ไม่ถึงขนาดทรงสักการะเป็นพิเศษ เพราะสร้างจากสามัญชน เมื่อมีการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ ความศักดิ์สิทธิ์นี้คงได้รับการถ่ายทอดมา แต่ยังติดอยู่ว่า เป็นของสามัญชนสร้าง จึงมิได้เก็บไว้ในพระมหาปราสาท หรือพระที่นั่งสำคัญดังพระเชษฐบิดร จึงเก็บ "หุ่น" นี้ไว้ ณ ห้องภูษามาลา แต่อาจมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถวายเครื่องสักการะเป็นการภายใน ในบางโอกาส เพราะเมื่อสร้างกรุงใหม่ ต้องการที่ยึดเหนี่ยวพอสมควร กอปรกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ก็ทรงเป็นข้าราชสำนักกรุงเก่ามาก่อน คงไม่ทรงตะขิดตะขวงพระราชหฤทัยมากนัก และจากหลักฐานในความเห็นที่ 17 อ้างมา แสดงว่า ปรากฏการณ์เรื่องความศักดิ์สิทธิ์นั้น ได้รับการถ่ายทอดมาทางพระราชสำนักฝ่ายพระมหากษัตริย์ด้วย 4. ถ้าเป็น "หุ่น" สำหรับลองเครื่องทรงพระมหากษัตริย์ จริง ทำไมคนรัตนโกสินทร์จะไม่ทราบ เพราะเวลาไม่ได้ล่วงเลยมาเป็น 100 ปี แต่เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องกัน คงไม่ถูกคนตระกูลวัชโรทัยหลอกเป็นแน่ จากคุณ : จางวางเต่า - [ 27 ม.ค. 52 13:11:51 ]