Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ooooความอัดอั้นของเด็กมหาวิทยาลัยoooo

    ตามนั้นค่ะ  

    ตอนนี้เป็นนิสิตอยู่ที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งที่  เรียนปริญญาตรี  และก็พักอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัย ( หอใน )  ที่มีทั้งอาจารย์และพี่ระดับปริญญาโทพักอยู่ร่วมหอเดียวกัน  โดยพี่ป.โทจะเป็นคนควบคุมเด็ก ป.ตรี  อีกต่อหนึ่ง  และพี่ป.โทนี้ก็คือคนที่เคยอยู่หอในชั้นป.ตรีมาก่อนแล้วได้อยู่ต่อนั่นเอง  ซึ่งแต่แรกในการเข้าพัก ก็จะมีประเพณีรับน้อง ปฐมนิเทศ  ต่าง ๆ ซึ่งคณาจารย์และพี่ ๆ ก็พร่ำบอกอยู่ตลอดเวลาว่า " หอพักเป็นเสมือนบ้านของนิสิต  และเราอยู่กันแบบพี่น้อง "  ด้วยความที่เป็นเด็กมาจากต่างจังหวัด  การที่ได้รับการต้อนรับแบบนี้จึงมีความซื่อสัตย์และจริงใจกับหอพักตลอดมา  ซึ่งการพักในหอพักนั้นจะมีกฎระเบียบค่อนข้างมาก  และมีข้อต้องปฏิบัติหลายข้อ  เช่น  ห้ามกลับดึก  ลิฟท์ปิดตอนห้าทุ่ม  ต้องหยิบบัตรเข้าออก  ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์ไฟฟ้า  ฯลฯ  ซึ่งเราก็ให้ความร่วมมือโดยดีเสมอมา  

    แต่...ช่วงหลัง ๆ ก็ได้ประจักษ์กับเรื่องราวเหล่านี้...

    1.  เพื่อนที่อยู่คณะเดียวกันแต่พักอยู่คนละชั้นได้เล่าให้ฟังว่าคืนหนึ่งประมาณเที่ยงคืน  เพื่อนอยากเล่นอินเตอร์เนต  แต่ในห้องไม่มีสัญญาณ  ก็เลยต้องออกมานั่งหน้าห้อง  ทีนี้พอนั่งที่พื้นมันเมื่อย  ก็เลยเอาเก้าอี้จากในห้องออกมาแล้วไปยกโต๊ะที่ใช้เป็นโต๊ะรีดผ้า ( เพราะมันมีผ้าบุอยู่ด้านบน )  ที่เป็นของสาธารณะมาวางคอมพ์  โดยใช้แผ่นรองตัดที่เป็นสีเขียว ๆ มารองกั้นระหว่างคอมพ์กับโต๊ะอีกที  ผ่านไปซักพัก  พี่ป.โทที่อยู่ชั้นนั้นก็ได้เดินผ่านห้อง ( เพื่อไปอาบน้ำ ) ก็ได้มาสะดุดเข้ากับการนำโต๊ะสาธารณะมาใช้ของเพื่อนเรา  แล้วเธอก็กล่าว ( ประมาณนี้ ) " โต๊ะนี้เป็นโต๊ะสำหรับรีดผ้านะคะ  อย่าเอามาใช้แบบนี้  ถ้าหากคนอื่นจะมารีดผ้าแล้วจะทำยังไง "  ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว  ไม่มีใครมารีดผ้า  และที่สำคัญมีโต๊ะเหลืออยู่อีกตัวหนึ่งสำหรับ ( ถ้า ) คนจะมารีดผ้า  เพื่อนเราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรและยกโต๊ะกลับไปไว้ที่เดิมอย่างสงบเสงี่ยม

    2.  วันหนึ่ง  มีประกาศจากทางหอพักติดไว้ว่า  ห้ามนิสิตเปิดไฟหลังห้อง ( ตรงระเบียง ) ทิ้งไว้เป็นอันขาด  โดยหอพักจะให้รปภ. เดินดูทุก ๆ 1 ชั่วโมง  แล้วจดชื่อห้องที่เปิดไฟทิ้งไว้  หากครบ 3 ครั้งจะทำการถอดไฟหลังห้องออก  ซึ่งข้อนี้เราไม่เห็นด้วยมาก ๆ เพราะการที่เราเปิดไฟระเบียงก็เพราะเราทำงาน ( อาจจะเอาโต๊ะญี่ปุ่นไปนั่ง  เล่นอินเตอร์เนต ฯลฯ )  และเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนรูมเมท   เราก็เลยกระดาษโพสอิทเล็ก ๆ ไปติด  เป็นข้อความประมาณว่า  รปภ.จะทราบได้อย่างไรว่าเปิดไฟไว้นานโดยไม่ใช่การปิดแล้วเปิด  และขณะที่ไฟเปิดนั้นไม่มีคนใช้งานที่ระเบียง  ก็ได้รับคำตอบเขียนที่กระดาษนั้นว่า  รปภ. จะตรวจเฉพาะเวลาที่แน่ใจว่าไม่มีคนใช้งานเท่านั้น  ซึ่งก็คือเวลาเช้ามืด...-.-"  แล้วเอาอะไรมาชี้วัดว่าเช้ามืดจะไม่มีคนใช้งาน  เพราะเราก็โต้รุ่งกันบ่อย ๆ

    3.  การอยู่ที่หอพักต้องมีการทำกิจกรรมหลายอย่าง  เพื่อเป็นโควต้าให้ได้อยู่หอต่อในเทอมต่อไป  ซึ่งจะต้องมีการลงชื่อก่อนไปทำบางกิจกรรม  เพราะรับจำนวนจำกัด  นิสิตบางคนไม่ว่างที่จะไปลงชื่อให้ทัน  ผลก็คือไม่ได้ทำกิจกรรม  ทำให้ต้องเด้งหอ  ซึ่งบางครั้งก็เกิดจากการเปิดให้ลงชื่อก่อนกำหนดเวลาที่ตกลงไว้  ทำให้เมื่อไปตามเวลาก็ไม่ทันซะแล้ว...

    4. ในช่วงปิดเทอมต้องมีการจ่ายเงินเพื่ออยู่หอต่างหากจากการจ่ายประจำเทอม   โดยมีสองกรณีคือ  จ่ายเงินแบบเหมาตลอดช่วงกับจ่ายเป็นวัน ๆ ซึ่งถ้าคนไม่อยู่หอตลอดเวลาควรจะจ่ายเป็นวัน ๆ ไปจะถูกกว่า  เราไม่อยากเรื่องมากก็เหมาจ่ายทุกครั้ง  แต่ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาหอมีกฎใหม่ว่าหากจะจ่ายเป็นวันก็ห้ามพักติดต่อกันเกิน 7 วัน  หากเกินจากนั้นจะถือว่าพักตลอดช่วง  ต้องจ่ายเต็มอัตรา...

    5.  ในช่วงปิดเทอมหากต้องการพักตลอดช่วง  บางปีจะต้องย้ายชั้นเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม  และชั้นอื่นก็จะเปิดให้คนอื่นเข้าพัก ( เป็นเด็กนักเรียนที่มาเรียนพิเศษ ฯลฯ )  เมื่อย้ายชั้นก็ต้องย้ายของออกจากห้องให้หมดเพื่อเคลียร์ให้ว่างสำหรับคนอื่นที่จะมาอยู่ห้องของเรา ( ในกรณีที่ไม่ได้อยู่ห้องเดิม )  ดังนั้นจึงมีชั้นวางของสาธารณะไว้หน้าห้องน้ำเพื่อเก็บของของนิสิตที่ไม่อยู่  ซึ่งชั้นวางนี้เมื่อเปิดเทอมก็จะห้ามไม่ให้วางของใด ๆ ทั้งสิ้น  ( ยกเว้นเล็กน้อย )   วันหนึ่งน้องห้องตรงข้ามได้เอาชีทกองใหญ่มากกกก...ไปวางไว้ที่ชั้นนั้นเพื่อจัดห้องรอการมาตรวจ 5ส   เมื่อการตรวจผ่านไป  วันรุ่งขึ้นไปดูพบว่าชีทกองนั้นหายไปแล้ว  และต้องใช้เรียนต่อด้วย  น้องก็กังวลมาก  หาตรงโน้นตรงนี้ก็ไม่เจอ  ก็เลยไปถามที่สำนักงาน ซึ่งตอนนั้นเราอยู่ที่นั่นด้วยพอดี  คุณป้าที่สำนักงาน ( พนักงาน ) พูดดีมาก  ปลอบแล้วบอกว่า  " เดี๋ยวป้าถามป้าอีกคนให้นะ  ตอนนี้ป้าไม่รู้  หนูกลับห้องไปก่อนนะลูก  บลา ๆ "  แต่พี่ป.โทที่อยู่ที่นั่น  ไม่ให้กำลังใจหรืออะไรเลย  พอน้องเค้าเดินออกไปก็พูดขึ้นมาว่า  " ก็บอกแล้วไงว่าไม่ให้ไปวางตรงนั้น  ก็ยังไปวางอีก "   พอเค้าพูดแบบนี้เราปรี๊ดมากเลย  ทำไมคนที่ได้ชื่อว่าเป็นปัญญาชน  เมื่อเกิดปัญหาแล้วถึงคิดได้แค่นี้  ไม่มีการยืดหยุ่น  ประนีประนอม  ปลอบใจอะไรทั้งสิ้น  ทั้ง ๆ ที่ก็บอกอยู่ตลอดเวลาว่าเราอยู่กันแบบพี่น้องแต่พฤติกรรมมันไม่ใช่

    6.  การนำเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นตึก  ต้องจ่ายเงินเป็นค่าบำรุง  เนื่องจากหอพักไม่มีการเก็บเงินค่าไฟฟ้าของเรา  เราก็เข้าใจและปฏิบัติตามมาโดยตลอด  แม้ว่าคนที่รู้จักส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีใครจ่ายเงินกัน  แต่หอพักก็ขู่ตลอดว่าไม่จ่าย  ก็จะถูกเด้งหอ  แต่ก็ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่  ขณะนั้นเป็นช่วงเปิดเทอมสัปดาห์แรก  เพื่อนเราเห็นประกาศในลิฟท์ว่า  ให้นำเงินไปจ่ายค่าเครื่องใช้ไฟฟ้าในวันเวลาที่กำหนด  ซึ่งเป็นเวลาประมาณ  1  สัปดาห์ต่อจากนี้  พอดีว่าช่วงวันเหล่านั้นเค้าไม่ว่าง  จึงรีบไปจ่ายก่อนกำหนด  ( ซึ่งจริง ๆ จ่ายทีหลังหรือฝากเราจ่ายก็ได้  แต่เพื่อนก็ไปจ่ายเอง  ด้วยความซื่อตรง )  พี่ที่อยู่ที่สำนักงานหอ ( คนเดิมกับตะกี้ )  ก็เรียกเก็บเงินเพิ่มอีก 100 บาท  เพราะว่าเพื่อนเราจ่ายก่อน  1 สัปดาห์ ( คิดเงินสัปดาห์ละร้อยบาท ) รวมกับทั้งเทอมก็เป็น 900 บาท  เพื่อนเราก็อึ้งไปเลย  ยืนยันว่าไม่จ่าย  900  แน่ ๆ พี่คนนั้นไม่รู้จะทำยังไงก็เขียนใบเสร็จให้เพื่อนเรา  100 บาท  เพื่อนเราก็เลยต้องจ่ายตอนนั้น  พี่เค้าก็พูดไล่หลังว่า  " อย่าลืมมาจ่ายที่เหลือด้วยนะคะ "  แต่จากวันนั้นมันก็ไม่ได้ไปจ่ายที่เหลืออีกเลย

    7.  วันนี้เราไปกินข้าวที่โรงอาหาร  สั่งอาหารตามสั่งซึ่งต้องใช้เวลารอนานเพราะต้องต่อคิว  เราก็สั่งแล้วก็ไปคุยกับเพื่อน  กะเวลาว่าเค้าทำเสร็จแล้วค่อยไปเอา  ขณะที่เดินกำลังจะถึงร้าน  ก็เห็นผู้ชายที่เป็นเด็กหอ  ถามคนขายว่าจานนี้ของเค้ารึเปล่า  ซึ่งมันเป็นจานของเราเพราะจำลายมือที่สั่งได้ ( เขียนด้วยปากกาแดง ) แม่ค้าก็ยกใบที่เขียนสั่งให้เค้าดู  เค้าก็บอกว่าไม่ใช่ของเค้า ( จะทราบความเป็นเจ้าของจากลายมือเราที่เขียนสั่ง ) ทีนี้แม่ค้าเค้าก็ประมาณว่าจานนี้สั่งไว้นานแล้วแต่ยังไม่มีคนมาเอา  ก็กลัวจะเหลือ  เลยเริ่มลังเลว่าจะให้ผู้ชายดีมั้ย  จังหวะนั้นอาจารย์ที่หอพักก็ได้เดินเข้ามาแล้วถามแม่ค้าว่า  " จานนี้มีเจ้าของมั้ย " ( ชี้จานเรา ) แม่ค้าก็บอกว่ามีค่ะ  แล้วก็เลยเรียกให้ผู้ชายมาเอาจานข้าวเราไป  ( แต่สุดท้ายเราก็ได้คืนนะแต่ไม่เล่าล่ะ )  ประเด็นมันอยู่ที่ว่า  ทำไมอาจารย์ถึงไม่ต่อคิวเหมือนคนอื่น  ทำไมต้องมาชี้เอาจานข้าวที่เด็ก ๆ สั่งไว้แล้วเอาไปกินก่อน  โดยจากนั้นอาจารย์ก็ถามแม่ค้าเรื่อย ๆ ว่า  จานนั้นล่ะ  จานโน้นล่ะ  ได้มั้ย  แม่ค้าเค้าก็คงลำบากใจ  สุดท้ายไม่รู้ว่าจะจบยังไงเพราะว่าเดินออกมาก่อนค่ะ

    8.  ที่หอพักไม่มีตู้รับความคิดเห็น  ไม่มีใบประเมินเกี่ยวกับสำนักงานหอพัก  ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้  ถูกปกครองได้อย่างเดียว  เหมือนคนที่กำลังถูกจูงไปอย่างไร้การตอบโต้

    ในวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา  ผู้คนประชาชนมากมายเรียกร้องถึงการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาปัญญาชน  แต่เรากลับคิดว่า  จะคาดหวังอะไรกับเราได้  เพราะขนาดเรื่องความเป็นอยู่ยังถูกครอบงำขนาดนี้เลย    แล้วทีนี้เราจะเป็นอย่างไรกันต่อไป กลัวว่ามหาวิทยาลัยจะเสื่อมไปกว่านี้ค่ะ

    แก้ไขตามที่บอกและลดข้อความลงนะคะ  

    แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 52 09:12:52

    จากคุณ : youngae's fan - [ 12 ม.ค. 52 23:10:34 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com