ความคิดเห็นที่ 1 oops! ผิดกระทู้ ลบๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 52 10:30:00 จากคุณ : pisage - [ 14 ม.ค. 52 10:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไปดูกระทู้เจ้าปัญหามาแล้ว ผมมีความเห็นว่า สินสอด สามารถใช้ dowry ได้ครับ ตามดิคนี้ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 14 ม.ค. 52 12:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ตามตัวนี่ครับ สินสอด ก็คือสิน(ทรัพย์) เป็นค่าสอด จากคุณ : อย่าทำเป็นคนทรงศีลนะครับ (prasit123) - [ 14 ม.ค. 52 12:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในวรรณคดีไทย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นลิลิตพระลอก็มีคำนี้ครับ "เอาสินสกางสอดจ้าง เหล็กว่าแข็งเงินง้าง อ่อนได้โดยใจ" ไม่แน่ใจว่าตรงตามต้นฉบับหรือเปล่า  คัดเอาจากความจำครับ ส่วนที่  จขกท  ถามนั้น ผมไม่มีความรู้เลยครับ ต้องรอผู้รู้ท่านต่อไปมาเฉลย อิอิ จากคุณ : ปะหล่อง - [ 14 ม.ค. 52 13:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Dowry  ตาม Law Dictionary .ของ Steven H.Gifis. ให้ความหมายไว้ว่า money and personalty wich the wife brings to husband to support the expenses of marrige; a donation to the maintenance and support of the marriage แต่ตาม "ประมวลกฎหมายแพ่งของไทย" มองแล้วแอบตกใจหน่อยๆ เฮ้ยๆๆ ใช้ว่าสินสอด Sinsod เลยรึเนี่ย แต่เปิดพจนานุกรมกฎหมายมาอีกเล่มนึง เขาให้คำว่าสินสอด คือ marriage price แล้วไอ้ตัวสินสอดเนี่ย เป็น ทรัพย์สินที่ฝ่ายชายให้แก่ พ่อ แม่ ของหญิง เพื่อตอบแทน ที่หญิงยอมทำการสมรสด้วย จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก - [ 14 ม.ค. 52 13:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ได้ความรู้จริง ๆ จากคุณ : กานต์ - [ 14 ม.ค. 52 14:12:01 A:71.103.8.4 X: TicketID:200933 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลักษณะของสินสอด เท่าที่ผมทราบ 1. ฝ่ายหญิงเรียก จะต่อรองกันได้หรือไม่ อย่างไร ก็ว่ากันไป 2. ฝ่ายหญิงไม่เรียก แล้วแต่ฝ่ายชายจะเห็นสมควร 3. ได้รับเงินสินสอดแล้ว ฝ่ายหญิงบางรายก็คืนให้ฝ่ายชายบ้าง เช่น ครึ่งหนึ่ง 4. บางรายก็คืนให้หมดเลย 5. บางรายก็รับไว้ทั้งหมด ไม่คืนเลย 6. ที่ผมเคยเจอแบบที่แปลกก็คือ ลูกเศรษฐีทั้งคู่แต่งงานกัน สินสอดนี่เกทับกันครับ โดยมีเงื่อนไขว่าเงินสินสอดทั้งหมดยกให้ลูกนะ แล้วก็ให้ฝ่ายหญิงเริ่มก่อน จะวางเงินเท่าไหร่ ฝ่ายชายสู้ แถมเกทับอีกต่างหาก ฝ่ายหญิงจะสู้ต่อหรือไม่ก็ว่ากันไป เหมือนเล่นไพ่เก้าแต้มยังไงยังงั้นเลย สุดท้าย คู่บ่าวสาวสบายไป ผมถึงงงครับว่าแท้จริงแล้ว สินสอด คืออะไรกันแน่ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 14 ม.ค. 52 16:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 6. ที่ผมเคยเจอแบบที่แปลกก็คือ ลูกเศรษฐีทั้งคู่แต่งงานกัน สินสอดนี่เกทับกันครับ โดยมีเงื่อนไขว่าเงินสินสอดทั้งหมดยกให้ลูกนะ แล้วก็ให้ฝ่ายหญิงเริ่มก่อน จะวางเงินเท่าไหร่ ฝ่ายชายสู้ แถมเกทับอีกต่างหาก ฝ่ายหญิงจะสู้ต่อหรือไม่ก็ว่ากันไป เหมือนเล่นไพ่เก้าแต้มยังไงยังงั้นเลย สุดท้าย คู่บ่าวสาวสบายไป แบบนี้เรียกกองทุนค่ะ พระยากสาปนกิจโกศล(โหมด อมาตยกุล) เล่าว่าในปีพ.ศ.๒๒๘๑ เมื่อท่านอายุ ๑๙ ปีได้แต่งงานกับ คุณหญิงพลอย บุตรีพระยาโชฎึกราชเศรษฐี(ทองจีน ไกรฤกษ์) และคุณหญิงพุก ณ บ้านปากคลองโอ่งอ่างฝั่งคลองด้านตะวันตก ได้ปลูกเรือนหอเป็นเรือนแพ ท่าน(พระยามหาอำมาตย์)ให้ทุนข้า๑๓ ชั่ง   แม่เจ้ามีทุนมา ๕ ชั่ง มหามุขอำมาตยานุกูลวงศ์  เล่ม ๒ วงศ์ตระกูลเสนาบดีจีน  ศก ๑๒๔   หน้า ๓๘๒  เล่าว่า พระยาศรีสหเทพ(ทองเพ็ง) แต่งผู้เฒ่าผู้แก่ให้ไปสู่ขอท่านทรัพย์   บุตรีหลวงอินทรโกษา(ทองคำ) มาเป็นภรรยานายไชยขรรค์(พึ่ง)ลูกชายคนโต แต่งขันหมากอย่างโบราณ  กองทุนกันฝ่ายละ ๓๐ ชั่ง  สินสอด ๕ ชั่ง   ผ้าไหว้ ๑๐ สำรับ  เรือนหอขนาดใหญ่ฝากระดาน ๔ หลัง   หลังคามุงจาก บันไดก่ออิฐถือปูน เวลาการแต่งงานของสองรายนี้ใกล้กันมาก เพราะ พระยาศรีสหเทพ(ทองเพ็ง) เป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเพราะมีความเพียรมาก เขียนอักษรไทยตัวบรรจงและตัวหวัดงาม เขียนได้ในเวลากลางคืนมืดๆ  นั่งเขียน นอนเขียน เดินเขียนได้ทุกอย่าง ฝีปากแต่งท้องบัตรใบตราโต้ตอบไพเราะน่าฟัง  ถ้อยคำสำนวนควรจะสรรเสริญ ว่ากะทัดรัดกลมกล่อมสนิทสนม   ไม่ยาวไม่สั้นไม่เยิ่นเย้อเวียนกลับหน้าเป็นหลัง ......... (ออกปากอ่าวไปนิดหน่อย  อิอิ ไม่อย่างนั้นหลายท่านอาจไม่เคยได้ยินชื่อ) จากคุณ : แสนอักษร - [ 14 ม.ค. 52 18:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หวัดดีปีใหม่ครับ พี่แสนอักษร แปลกจริง พี่เอ่ยถึงท่านพระยากสาปนกิจโกศล (โหมด อมาตยกุล) พี่ยังจำได้ไหมในบ้านพ่อมดของผม ที่ผมเอารูปบ้านเฮี้ยนๆในซอยสงวนสุขที่ราชวัตรให้พี่ดูซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นสำนักงานของสมาคมชาวอุบลฯของผม http://www.pantown.com/board.php?id=119&area=4&name=board1&topic=251&action=view บ้านนั้นสร้างโดยคุณหญิง ทรามสงวน อภัยรณฤทธิ์ ภรรยาของพระยาอภัยรณฤทธิ์ (ถวิล อมาตยกุล) ตอนนี้ผมไปค้นได้ประวัติของท่านเพิ่มเติมจากในเน็ตเลยเอามาฝากพี่บางส่วน ท่านเป็นลูกสาวแสนสวยคนสุดท้องและคนเดียวของท่านพระยากสาปนกิจโกศล "..คุณหญิงทรามสงวน อภัยรณฤทธิ์ (ถวิล อมาตยกุล ) ท จ. ว ป ร ๓. ปปร. ๔. เกิดในรัชกาลที่ ๔ เมื่อวันอังคารที่ ๕ กรกฎาคม ปีฉลู พ.ศ. ๒๓๙๖ เปนธิดาพระวิสูตรโยธามาตย์ (โหมด อมาตยกุล) ซึ่งต่อมาได้เปนที่พระยากระสาปนกิจโกศล มารดาชื่อพลอยเปนธิดาพระยาโชฎึกราชเศรษฐี ( ทองจีน ไกรฤกษ์ )มีพี่ร่วมมารดากัน ๓ คน คือ นายสำอางคน ๑ พระยาเพ็ชร์พิไชย (เจิม) คน ๑ พระยาอภิรักษ์ ราชอุทยาน (แฉล้ม) คน ๑ คุณหญิงทรามสงวนเปนน้องน้อย ทั้งเปน ธิดาคนเดียว จึงเปนที่รักยิ่งของบิดามารดามาตั้งแต่น้อย แลเปนที่ หวงแหนของบิดามารดาในเวลาเมื่อเติบใหญ่ขึ้น ข้าพเจ้าผู้แต่งเรื่องประวัติ นี้อายุเด็กกว่าคุณหญิงทรามสงวนมาก แต่ทันได้ยินคำที่กล่าวกันในสมัยเมื่อคุณหญิงทรามสงวนเปนนางสาวว่า "ราวกับเจ้าฟ้า" ด้วยจะประสงค์สิ่งอันใดบิดามารดาตามใจไม่มีที่จะขัด แลมีตระกูลอื่นใคร่จะขอสู่อยู่ไม่น้อย เพราะบิดาสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ แลคุณหญิงทรามสงวนเองก็สวย แต่หากเจ้าตัวไม่วอแว จึงไม่มีใครสามารถ เข้าใกล้ได้.." พี่แสนอักษรพอจะหารูปของคุณหญิงทรามสงวนท่านได้ไหมครับ? อยากจะขอความกรุณาให้พี่หาให้หน่อย เห็นพี่มีหนังสือเก่ามาก ผมจะเอารูปท่านมาติดประดับบ้านให้แขกไปใครมาได้เคารพ ยิ่งอ่านที่เขียนมายิ่งอยากเห็น จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 15 ม.ค. 52 01:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีสหายอยู่สามคนที่เก็บประวัติขุนนาง คนหนึ่งเก็บภาคกลาง  คนหนึ่งเก็บภาคตะวันออก  อีกคนหนึ่งเก็บอุตลุด มีสหายอีกสองคน  คนหนึ่งสร้างเว็บหนังสืออนุสรณ์  อีกคนหนึ่งเก็บหนังสืออนุสรณ์ไว้ในบ้านหนึ่งหลัง  ยังไม่ให้ใครเห็นเพราะจัดไม่เสร็จซักที หนังสืองานศพท่านไม่เคยเห็นค่ะ มีแต่หนังสือของนายโหมดเล่มสีชมพู  หลายเล่มของนายสำอางและครอบครัว  เล่มของพระยาปฎิภาณพิเศษ(อาเล็กซานเดอร์  อมาตยกุล) ประวัติเต็มของคุณหญิงทรามสงวน มีอยู่ใน  คนดีที่ข้าพเจ้ารู้จัก ของ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เล่ม ๓   ประวัติของท่านมีกระเซ็นกระสายอยู่ในเอกสารการสอบสวน พระปรีชากลการ เป็นเชิงว่าท่านได้ส่งเงินที่ดึงออกมาจากบิดาให้พี่ชายคนหนึ่งปลูกบ้าน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดปราน คุณหญิงมาก  และได้พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในกิจธุระของคุณหญิงอย่างมากมายหลายประการ   เรื่องรูปนั้นเดี๋ยววานเพื่อนๆหาให้ค่ะ จากคุณ : แสนอักษร - [ 15 ม.ค. 52 05:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กราบขอบพระคุณครับ พี่ ประวัติที่ผมต้ดมาบางส่วนนั้นก็มาจากข้อเขียนของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพท่านแหละครับ ที่บอกว่า "..ข้าพเจ้าผู้แต่งเรื่องประวัติ นี้อายุเด็กกว่าคุณหญิงทรามสงวนมาก.." หมายถึงสมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯท่านเด็กกว่านะครับ ไม่ใช่ผม ผมนี่ปลายอ้อปลายแขมยังไม่ไกลพอ ต้องโน่นเลย ยอดหญ้ากลางทุ่งที่วัวควายกินโน่น จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 15 ม.ค. 52 06:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ......หมายถึงสมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯท่านเด็กกว่านะครับ ไม่ใช่ผม ..... ก๊ากกกกกกกกกก จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 15 ม.ค. 52 06:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แน่นอนอยู่แล้ว จากคุณ : แสนอักษร - [ 15 ม.ค. 52 07:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขออนุญาตเบี่ยงไปที่เรื่องคุณหญิงทรามสงวนด้วยครับ ผมส่งภาพที่ต้องการไปที่เมล์พระจันทร์ริมน้ำแล้ว รวมทั้งเนื้อหาเพิ่มเติม original ครับ ประวัติของคุณหญิง มีกระเส็นกระสายเพิ่มเติมจากที่คุณแสนอักษรบอกคือ ในจมห.พระราชกิจรายวันร.๕ภาคต่างๆ ในหนังสืองานศพญาติพี่น้องใกล้ชิด ทั้งในสกุลอมาตยกุลสายกสาปน์ทางบิดา ไกรฤกษ์ทางมารดา และอมาตยกุลสายตาดทางสามีอีก ส่วนอมาตยกุลสายพลับ ไม่แน่ใจว่ามีกระเส็นกระสายหรือไม่ เพราะไม่มีเวลาค้นครับ อีกเล่มที่พอจะช่วยขยายความเรื่องอมาตยกุล เป็นหนังสืองานศพนายจรูญ อมาตยกุล ปี๒๕๒๙ ท่านนี้เป็นเหลนทวดพระยากสาปน์  ซึ่งคนละคนกับคุณจรูญ อมาตยกุล น้องร่วมมารดาของสามีคุณหญิงครับ(พระยาอภัยรณฤทธิ์-ถวิล) จากคุณ : NickyNick - [ 15 ม.ค. 52 09:20:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สมาคมนักอ่านหนังสือเก่ามีประสิทธิภาพพอตัว  กรั่กๆ จากคุณ : แสนอักษร - [ 15 ม.ค. 52 10:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ก็ว่าถ้าคุณแสนอักษรอายุอ่อนกว่าคุณหญิงไปมาก กำลังนึกอยู่ว่าอายุเ่ท่าไร จากคุณ : หริปรียา - [ 15 ม.ค. 52 12:24:20 A:202.28.27.5 X: TicketID:197397 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรียนน้าแอ๊ด (จาก ๓๓๑ ปี  สกุลอมาตย์ และ ๗๓ ปีแห่งการพระราชทานนามสกุล อมาตยกุล ๒๕๒๙  หน้า ๖๘ - ๗๐) เมื่อคุณหญิงทรามสงวนย้ายจากบ้านเดิมที่หน้าวัดราชบูรณะไปสร้างบ้านใหม่ที่ถนนพระราม ๕ จังหวัดพระนคร   พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินเหยียบบ้านเพื่อเป็นศิริมงคล และโปรดเกล้าพระราชทานชื่อบ้านว่า  บ้านสงวนสุข (อ้างอิง สำเนาพระราชหัตถเลขา  พระราชทานเมื่อ ๕ พฤษภาคม ๒๔๖๒) ในรัชกาลที่ ๕  คุณหญิงทรามสงวนได้รับพระราชทานตราตติยจุลจอมเกล้าฝ่ายในเป็นเกียรติยศ และได้รับหีบหมากปีฉลู ซึ่งเป็นสหชาติกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้รับพระราชทานเข็มกลัดรูปนกประดับเพชร ซึ่งเป็นของฝากในการเสด็จประพาสยุโรป   แสดงว่าทรงพระมหากรุณาธิคุณต่อคุณหญิงเป็นพิเศษ สมเด็จพระพันปีหลวงได้พระราชทานเข็มกลัดมีพระบรมนามาภิไทย เสาวภาประดับเพชร, เข็มกลัดพระบรมฉายาลักษณ์ประดับเพชรเป็นรูบศรเสียบหัวใจ และ พระราชทานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อยังทรงศึกษาอยู่ ณ ประเทศอังกฤษ  ซึ่งได้ทรงเซ็นพระบรมนามาภิไธยพระราชทานไว้ดังนี้     "ให้ทรามสงวนไว้เป็นที่รฤก  ที่ได้รักใคร่ลูกมามาก  ทั้งทนคำว่ากล่าวจนน้ำตาตกก็ไม่กลับใจ   รักยั่งยืนเสมอ"          พระบรมนามาภิไทย  เสาวภาผ่องศรี คุณหญิงถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจพิการ  เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๔๖๙  อายุได้ ๗๔ ปี ฌาปนกิจที่วัดสระเกศ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๖๙ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 52 13:56:39 แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 52 13:54:02 จากคุณ : แสนอักษร - [ 15 ม.ค. 52 13:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อะโห ขบวนการเสรีไทย เอ๊ย หนังสือเก่าไทย มีประสิทธิภาพสุดยอด ผมได้รับภาพและเรื่องแล้วด้วยความขอบพระคุณและสำนึกในพระคุณเป็นที่ยิ่ง นอกจากภาพและเรื่องจะนำไปลงในหนังสือประจำปีของสมาคมฯพร้อมทั้งให้เครดิตท่านผู้มีอุปการะคุณอย่างเต็มที่แล้ว ผมก็จะพยายามประดิดประดอยภาพของท่านให้ภูมิฐานสมศักดิ์ศรีอย่างสุดฝีมือเพื่อติดตั้งไว้ที่สมาคมให้แขกไปใครมาได้เห็นตลอดจนบรรยายเกียรติประวัติของท่านให้เขาได้ตระหนักและซาบซึ้งถึงเกียรติภูมิของท่านเจ้าของบ้านด้วย ขอบพระคุณพี่แสนอักษรและคุณ NickyNick เป็นอย่างยิ่งครับที่กรุณาเป็นธุระ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 15 ม.ค. 52 15:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ วันครูแห่งชาติ 22:21:06 ]