ความคิดเห็นที่ 1 ผมไม่ใช่นักแปลอาชีพครับ ผมทำงานในแวดวงธุรกิจ ปัจจุบันเกษียณแล้ว ก็ใช้เวลาว่างตระเวณช่วยน้องๆ ในห้องสมุดใหญ่และห้องรวมพลฯ นี้ อยากจะบอกกับคุณ จขกท ว่าวิกฤตินี้ ยังอีกยาวนานครับ เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย ปฐมเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ประเทศของเราอาการหนักกว่าประเทศอื่น ก็คือการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นความอัปยศอดสูของประเทศชาติโดยแท้ เพราะ... สนามบินนั้นไม่ใช่ของไทยแต่เพียงลำพัง มันเป็นของนานาชาติ ชื่อมันก็บอกอยู่โทนโท่ ได้ข่าวว่าต่างประเทศฟ้องร้องค่าเสียหายเป็นเงินนับแสนล้านบาท ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเขา ภาระนี้คงตกอยู่กับคนรุ่นลูกของเราแหละครับ คนรุ่นเราคงตายไปนานแล้วกว่าเราจะใช้หนี้เขาหมด ทั้งหนี้ความเสียหายดังกล่าวเอย ทั้งหนี้เงินกู้ที่รัฐบาลใหม่ไปกู้จากญี่ปุ่นเอย ในขณะที่การค้าต่างประเทศซบเซาปานนี้ จะเอากำไรจากการค้าที่ไหนไปจ่ายหนี้เขา วังเวงชะมัด!!! จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 21 ม.ค. 52 22:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คนปิดสนามบินเขาบอกเขาไม่ผิด บางคนสนุก สนุกจนได้มานั่งเป็นเจ้ากระทรวง เวร! บ้านนี้เมืองนี้ เราคงโง่และเลวจริงอย่างเขาว่า ไม่ทันคนดีคนฉลาดเขาหรอก ทำอะไรก็ไม่ผิด ตอนนี้กำลังให้รัฐบาลฝึกงาน ถ้าไม่ชอบจะไล่ออกอีก เจริญๆ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 22 ม.ค. 52 12:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พอมีครับ   แต่ที่มีเป็นบุญเก่าตั้งแต่ก่อนปิดสนามบิน   หมดงานนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง   ส่วนใหญ่ที่ผมรับเป็นงานแปลหนังสือ   ซึ่งเป็นรายจ่ายลำดับท้ายๆ ของมนุษย์เงินเดือนทั่วไป   ปีนี้ท่าจะแย่ ส่วนน้อยที่เป็นเอกสารวิชาการก็ดันเชี่ยวชาญในสาขาที่แคบซะอีก   นานๆจะหลุดมาที   ซึ่งที่หลุดมาก็เนื่องจาศูนย์การแปลของมหาวิทยาลัยใกล้บ้านส่ายหน้าแล้ว จากคุณ : Tanis - [ 23 ม.ค. 52 13:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แปลนวนิยายยังไปได้สวยมาก  ชนิดรักกระทันหัน ปล้ำดุเดือด ต้องการนักแปลที่สามารถเสมอ พูดได้เพราะมีเจ้าของสำนักพิมพ์ และหัวหน้ากลุ่มมาขอนักแปลทีละสามสี่คน จะไปหาที่ไหนเล่าเจ้าข้า อิฉันมีงานทำก้อกๆแก้กๆ  บ.ก.ให้แปลเรื่อง ค.ศ. ๑๘๙๙ ถ้าพูดถึงหนังสือเก่าแล้วละก้อ  สนุกกว่าจมเลย ท่านผู้หลักผู้ใหญ่เทขายเป็นล้อตๆ    เอามาประมูลกัน เห็นพิมพ์แรกของข้างหลังภาพเปิดประมูลตั้ง ๑,๐๐๐ บาท เดือนก่อนสหายให้มา ๓๐๐ บาทเอง รู้สึกว่าร่ำรวยขึ้นมากระทันหัน อิอิ   เลยเลิกแปลงานไปเดินเล่นที่ร้านใกล้บ้านน้าแอ๊ด จากคุณ : แสนอักษร - [ 24 ม.ค. 52 16:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พูดได้เพราะมีเจ้าของสำนักพิมพ์ และหัวหน้ากลุ่มมาขอนักแปลทีละสามสี่คน จะไปหาที่ไหนเล่าเจ้าข้า ขอสมัครได้ไหมคะ จากคุณ : คนตกงาน - [ 1 ก.พ. 52 13:45:35 A:125.26.134.29 X: TicketID:172454 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จะเล่าให้ฟังถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในครั้งนี้ ว่าร้ายแรงเพียงใด คงไม่ต้องไปเอาสุนทรพจน์ของคุณโอบามามากาง ที่ว่าครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในรอบหนึ่งร้อยปี มันไกลตัวไปครับ เห็นภาพยาก เอาใกล้ชิดติดตัวนี่แหละ เข้าใจง่ายดี หลายท่านอาจนึกไม่ถึง ปกติผมทานเบียร์ประจำ ซื้อยกลัง เก็บขวดเปล่าพร้อมลัง ให้ซาเล้งแถวบ้านเอาไปขาย (ถ้าเป็นขวดพร้อมลัง จะได้ราคาดีกว่าขวดเปล่าๆ มาก ลังนึงยี่สิบบาทมั้ง) มาเก็บขวดบ้านที่ผมทีไรยกมือไหว้ประหลกๆ ขอบคุณแล้วขอบคุณอีก เขาบอกว่าตอนนี้มีแต่ขวดเท่านั้นที่ขายได้ อย่างอื่นทั้งหลายแหล่ที่เคยไปหาตามถังขยะ ตอนนี้ขายไม่ได้แล้ว เพราะเหตุใด? เพราะร้านรับซื้อของเก่าพวกเศษเหล็ก พลาสติก ทองแดง กระดาษ ฯลฯ ปิดตัวลงไปเยอะมาก เลยไม่รู้จะเก็บเอาไปขายที่ไหน ทำไมถึงปิดตัว? ส่วนหนึ่งเพราะความผันผวนของราคาเหล็กและทองแดง ตอนนี้ราคามันลดลงฮวบฮาบ เจ๊งเพราะที่ตุนไว้ตอนราคาสูงนั่นแหละ ขาดทุนป่นปี้ อีกสาเหตุหนึ่งเพราะบริษัท recycle มันเจ๊ง ทำไมถึงเจ๊ง? ก็เอาไป recycle ออกมาแล้ว มันขายไม่ออก เพราะบริษัทที่เคยซื้อไปทำสินค้า ตอนนี้เขาก็ขายไม่ออกเหมือนกัน ระเนระนาด หยั่งลึกลงไปถึงซาเล้งที่หาเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ด้วยการหาของที่คนอื่นเขาเอามาทิ้งถังขยะนั่นเลยทีเดียว นี่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ของโลก ผลกระทบไปทั่ว ทุกชาติต่างพยายามตะเกียกตะกายขึ้นขอบเหว มีแต่เมืองไทยนี้แหละ ที่มีคนกระทืบซ้ำ พวกเสื้อเหลืองเสื้อแดง จงฟัง เจ้าจะต้องไปใช้หนี้กรรมในขุมนรกอเวจี อันเป็นนิรันดร์ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 1 ก.พ. 52 19:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ใช่นักแปลมืออาชีพแต่มักโดนหักคอ ขอร้อง บังคับ เบ่ง สารพัด เลยต้องทำด้วยความจำใจเพื่อความอยู่รอด (ไปวันๆ) อาจคุ้นเคยกับงานฟรี งานกุศลเงินน้อย เลยไม่ค่อยรู้สึกกระทบกระเทือนนัก คิดว่าฝึกฝีมือไปเรื่อยๆ เผื่อจะเก่งอย่างพี่ ป้า น้า อาแถวนี้บ้าง จากคุณ : อีกนานไหมกว่าจะรวย - [ 1 ก.พ. 52 23:07:16 A:210.86.216.48 X: TicketID:159141 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อยากได้คำตอบต่อคำถามของดิฉันค่ะ ไม่ได้อยากฟังใครบ่น เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เราต้องคิดว่าจะทำยังไงกับเวลาที่เหลืออยู่ นี่พูดเหมือนแกนดัลฟ์เดอะเกรย์แล้วนะคะคุณหนุ่มไทยไร้นาม ส่วนคุณแสนอักษร ถ้าช่วยเพื่อนมนุษย์ได้ก็ช่วยนะคะ คุณมีช่องทาง คิดว่ามีคนรอฟังคำตอบของคุณหลายคน ขอบคุณค่ะ จากคุณ : คนตกงาน - [ 2 ก.พ. 52 09:15:46 A:125.26.132.80 X: TicketID:172454 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาเข้าแถวสมัครงานกับคุณแสนอักษรผู้ใจดี๊ใจดีด้วยคนค่ะ อิอิ แนะนำให้คัดเลือกด้วยการ "ทดสอบแปล" อย่างเดียวนะคะ อย่าดูแค่โปรไฟล์ -- โปรไฟล์หนูเตี้ยค่ะ จากคุณ : ตกงานเหมือนกัน - [ 2 ก.พ. 52 11:36:04 A:192.168.0.17 X:203.107.202.220 TicketID:196489 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเข้าใจครับว่าคุณหงุดหงิด ฉุนเฉียว เพราะตกงาน ผมไม่ถือหรอกครับ แต่คุณควรควบคุมสติอารมณ์ให้ได้ก่อน ไม่งั้นคงยากที่จะมีใครแนะนำงานให้คุณ เพราะงานอาจเสีย ผู้แนะนำก็เสียชื่อ เพราะการแปลนั้น อารมณ์ต้องนิ่งสนิท แถวนี้มีหลายคนที่พอจะแนะนำให้ได้ รวมทั้งผมด้วย แต่ตราบใดที่คุณยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ผมคงไม่ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 2 ก.พ. 52 11:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ้าว.. คุณ คห.9 ปาดหน้าไปในระยะกระชั้นชิด อิอิ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 2 ก.พ. 52 11:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กลางปีที่แล้วออกจากงานประจำ และเริ่มแปลนิยายรักแบบที่คุณแสนอักษรว่าเพราะมีเพื่อนที่รู้จักกันแนะนำให้ พอต้นปีนี้หนังสือเล่มที่ว่าก็ออกวางแผง ตั้งสวยเด่นเป็นสง่าอยู่ตามร้านหนังสือ แต่ว่าเงินค่าเรื่องจนแล้วจนรอดก็ยังไม่ออกเลยค่ะ นับรวมๆ ตั้งแต่ส่งงานก็จะแปดเดือนแล้ว เศร้ามากมาย ตามที่คุณแสนอักษรว่านั้นจริงทุกประการ งานแปลนิยายยังเป็นตลาดที่เปิดรับ แต่ก็ต้องเสริมด้วยว่าเรื่องค่าตอบแทนนั้นไม่มาก แล้วก็ได้ช้ามากๆ ด้วย (ทั้งที่สำนักพิมพ์ที่ร่วมงานด้วยเป็นสำนักพิมพ์ใหญ่มีชื่อเสียงสั่งสมมายาวนาน) ส่วนตัวคิดว่าจบเล่มนี้คงต้องกลับไปรับงานเป็น Ghost Writer เสริมไปกับสอนหนังสือ ทั้งที่อยากจะออกมาแปลหนังสือเต็มตัวใจจะขาด -_-' จากคุณ : รถบัสมหัศจรรย์ - [ 2 ก.พ. 52 11:46:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ช่วยไม่ได้.. ใครพิมพ์ช้าก็ต้องโดนปาด อิอิ ------------------- ข้อมูลอย่างที่คุณรถบัสให้มาน่ะค่ะ ... มันยอกแสยงหัวใจมากมายสำหรับคนไร้ญาติขาดมิตรอย่างดิฉัน -- เจอน้อง ๆ หลายคน ที่ได้งานแปล ได้งานบรรณาธิการต้นฉบับไปทำมากมาย โดยไม่ต้องแข่งขันกับผู้ใด โดยไม่ต้องพิสูจน์ฝีมือกันก่อน เพียงเพราะมีคนรู้จักส่งงานให้ทำ มันเป็นหนามแทงใจมากเลยนะคะ เวลามานั่งถามตัวเองว่า "ความสามารถ"(อย่างเดียว) -- มันมีประโยชน์อะไรฟะเนี่ย??? สุดท้ายก็เอาตัวไม่รอด จากคุณ : คห ๙ - [ 2 ก.พ. 52 12:01:40 A:203.107.202.220 X: TicketID:196489 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนที่ดิฉันกำลังเขียนความคิดเห็นที่ 8 ดิฉันไม่ได้กำลังแปลงานนะคะ อารมณ์วูบวาบนิดๆ น่าจะได้ไม่ใช่เหรอคะ ขอโทษด้วยนะคะท่านหนุ่มไทยไร้นามที่ทำให้ท่านสะเทือนใจ ไม่รบกวนแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ จากคุณ : คนตกงาน - [ 2 ก.พ. 52 13:22:26 A:125.26.132.80 X: TicketID:172454 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบ คุณ คห ๙ ค่ะ คือก่อนจะได้งานก็ต้องผ่านการทดสอบเหมือนกันค่ะ คิดว่าคงไม่มีที่ไหนให้งานทันทีเพราะว่ารู้จักกันเฉยๆ หรอกค่ะ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าอาจเป็นตัวเลือกที่มาก่อนเพราะว่ารู้จักกัน เคยเห็นงานเขียนในลักษณะอื่นของเรามาก่อน โดยส่วนตัวก็มีรุ่นพี่ที่ไม่เคยรู้จักใครในสำนักพิมพ์ได้งานแปลเพราะส่งงานไปทดสอบเองอยู่สองคนค่ะ ทั้งสองคนส่งงานแปลประเภท How to ไปทดสอบคนละสำนักพิมพ์แล้วก็ได้งานมาแปลทั้งสองคน และสองคนนี้ไม่ประสบปัญหาค่าเรื่องล่าช้าเหมือนงานนิยายแบบเราเลยค่ะ คิดว่างานแปลที่ได้มาด้วยความสามารถล้วนๆ นั้นน่าชื่นชมและทางสำนักพิมพ์ก็ให้เกียรติ ขณะที่นักแปลที่รู้จักกันดูสนิทใจที่จะติ แก้ไข และถือโอกาสหยวนๆ เรื่องค่าแปลได้มากกว่า จากคุณ : รถบัสมหัศจรรย์ - [ 2 ก.พ. 52 13:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โอ... หรือว่าเราจะได้อ่านอะไรยาวๆ กันอีกแล้ว ถ้าจริงก็ดีใจจัง (มาเพิ่มว่า...) ชอบอ่านเกี่ยวกับอาชีพหนังสือ-นิตยสารค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 19:15:05 จากคุณ : Guga - [ 2 ก.พ. 52 19:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตกใจ อยู่ดีๆจำนวน คคห ในกระทู้นี้วิ่งปรูดปราดโดยไม่มีวี่แวว เลยต้องรีบเข้ามาดู ดูแล้วก็ให้เห็นใจคนที่หงุดหงิด เข้าใจครับว่าหงุดหงิด ว่าแต่คงต้องขออนุญาตเรียนว่า กรุณาอย่าผูกขาดความหงุดหงิด แบบว่า อีตอนที่มีเยิ้วๆกัน ผมก็เคยออกมาบอกว่า อย่าผูกขาดความถูกต้อง แล้วผมก็หงุดหงิดกับการผูกขาดความถูกต้อง คุณหนุ่มไทยฯและอีกหลายๆคนก็เป็นเพื่อนร่วมหงุดหงิดด้วย จนทุกวันนี้ก็ยังอารมณ์ค้างอยู่ มีโอกาสก็เลยต้องเตะก้อนหินเตะปิ๊บไปตามเรื่องเป็นการคลายเครียด อย่าว่ากันเลยนะครับ วกกลับมาเรื่องงานแปล ก็ขอชี้แจงเลยว่ามีหลายๆท่านหลังไมค์มาหาผม ถามว่ามีงานแปลให้ทำไหม ผมก็อึ้งไปเพราะนึกไม่ออกว่าจะตอบอย่างไรดี ไหนๆที่นี่ก็พูดกันเรื่องนี้แล้วก็เลยขออนุญาตยกยอดมาตอบเป็นส่วนรวมเสียเลยเพราะจะตอบเป็นรายตัวก็ลำบากเอาเรื่องอยู่ ถามว่า ผมมีงานแปลให้ทำไหม? ตอบได้ง่ายมาก ไม่มีครับ เหตุผลคือผมไม่ใช่สำนักพิมพ์ จึงไม่มีต้นฉบับและกำหนดการและแผนการทางธุรกิจในการทำตลาดหนังสือ ก็เลยไม่รู้จะเอางานหนังสือที่ไหนไปป้อนใคร เรื่องงานหนังสือที่มีแปลอยู่นั้นก็เป็นพรรคพวกอีกน่ะแหละเรียกใช้บริการ มันก็เป็นงานจำเพาะเสียด้วยเพราะรู้สึกว่าพรรคพวกจะคิดว่างานหมูๆตูจะทำ งานแข็งๆแบ่งให้แอ๊ดไปทำ มันก็เลยไม่รู้จะส่งต่อได้ยังไงเพราะการแปลหนังสือถ้าฉีกเล่มแบ่งแปลกันหลายคนนั้นเป็นงานช้างนะครับ บรรณาธิการเหนื่อยมากเพราะต้องแก้ไขรวบรวมเรียบเรียงงานของคนแปลหลายๆคนให้เป็นรูปรอยเดียวกัน แปลคนเดียวง่ายกว่ามาก ส่วนทางการแปลเอกสารนั้น ผมก็ไม่ได้อยู่ในวงการตลาดการแปลเอกสารโดยตรง เคยแต่ช่วยแปลให้เขาเวลามีคนมาขอให้ช่วย ก็แค่นั้นแหละ ก็มีงานแปลเอกสารใหญ่ๆอยู่สองสามชิ้นแต่ก็ขอทำคนเดียวดีกว่าด้วยเหตุผลเดียวกับข้างต้น จึงเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน สำหรับนักแปลหน้าใหม่ที่อยากเข้าวงการ หนทางตรงที่สุดก็คือการติดต่อกับสำนักพิมพ์และเอาผลงานไปโชว์ หลายๆคนก็เข้าวงการได้ด้วยวิธีนี้ วิธีนี้เราเคยเถียงกันและเรียกว่าวิธี know how ส่วนอีกทางหนึ่งก็คือการรู้จักกับคนในวงการแล้วก็อาศัยเขาเป็นบันไดให้มีโอกาสแจ้งเกิด อย่างนี้เรียก know who ประเด็น know how VS know who นี้เป็นประเด็นใหญ่นะครับ เคยฟัดกันนัวมาแล้วในนี้แหละ สุดท้ายก็สรุปกันได้ว่า มันก็ต้องมีทั้งสองอย่าง ผมเองนั้นบอกได้เลยว่า ทำงานแปลหากินอยู่ได้ทุกวันนี้ก็อาศัย know who แบบว่าไม่เคยได้เดินไปเสนองานกับใคร อยู่ดีๆพรรคพวกที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเห็นแต่ชื่อเสียงเรียงนามในนี้เขาก็มาชวนไปช่วยแปลเมื่อหลายปีก่อน ก็เลยมีงานเข้ามาเรื่อยๆจนบัดนี้ทั้งๆที่เราเองไม่ได้ตั้งใจจะทำมาหากินทางนี้เลย ถ้าจะสรุปจากประสบการณ์ตรงของผมในนี้ก็คงจะต้องสรุปว่า ก่อนจะมีคนเขาไว้ใจให้ช่วยแปลให้เขาก็คงดูจากผลงานการแปลให้ใครต่อใครในนี้ก่อนกระมังทั้งๆที่แปลเล่นแปลหัวเอามันเข้าว่านี่แหละ อยู่ๆไปเมื่อหนทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์แอ๊ดแล้วว่ามีแววพอจะไม่ทำงานเขาเสีย เขาก็มาชวนไปทำงานด้วย แอ๊ดก็เลยต้องตกกระไดพลอยโจนเป็นนักแปลไปกับเขาด้วยประการฉะนี้ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 2 ก.พ. 52 21:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หลุดเข้ามาแบบนานๆ มาเยือนที ได้อ่านคำขานไขแล้วสะท้อนใจ ตัวอิฉันเองเพิ่งเปิดสนพ.ได้ปีกว่า งานหลักๆ เน้นงานแปลนั่นล่ะค่ะ อยากหานักแปลที่ได้มาตรฐานใจจะขาด เพราะเตรียมซื้อลิขสิทธิ์ไว้หลายเล่ม ต้องการหาคนมาช่วยกัน ลงบทแปลในเว็บไซต์ก็แล้ว  ดูจากสถิติที่มีคนสอบถามสนใจและดาวน์โหลดไปก็แล้ว หนึ่งเดือนกว่าๆ หลังจากลงไฟล์ดาวน์โหลดไป ได้บทแปลมามากเท่าไหร่ รบกวนสอบถามหลังไมค์ บอกได้เบื้องต้นเพียงอย่างเดียว  ... น้อยนัก แต่ก็วัดความตั้งใจของนักอยากแปล และนักแปลผู้ประสงค์จะดำรงชีพด้วยอาชีพนี้ได้เป็นอย่างดี เป็นนักแปล ต้องอึด เก่งทั้งภาษาต้นทาง ภาษาปลายทาง วัฒธรรมทั้งสองทาง นอกจากนั้นยังต้องรู้จักขวนขวาย และพิสูจน์ตนเองด้วยค่ะ ______ แก้ไขคำผิดเพราะเริ่มเมาคอนยัคค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 01:16:14 จากคุณ : Mutation - [ 3 ก.พ. 52 01:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่ผมเล่าให้ฟังมาซะยาวก็เพื่อแชร์ความรู้และประสบการณ์ ด้วยว่าผมคลุกคลีอยู่ในธุรกิจข้ามชาติมายาวนานเกือบสามสิบปี ที่ผมบอกไว้ใน คห.6 ว่า ...ครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในรอบหนึ่งร้อยปี... คนที่รู้ฟังแล้วสะดุ้งโหยง เพราะเหตุใด? เพราะภาวะเศรษฐกิจขึ้น-ลงนั้นมันมีรอบของมัน ประมาณรอบละสี่สิบปี ข้อมูลจากแบ็งค์ชาตินั้นชัดเจน ร้อยปีก็หมายความว่าสองรอบครึ่ง แปลเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต เพราะอายุคนมันไม่ถึง นี่เป็นความรู้อย่างหนึ่งที่ผมนำมาแชร์ด้วย ทำไมผมถึงนำความรู้ต่างๆ ที่ผมมี มาแชร์ด้วย ขณะเดียวกันผมก็มารับความรู้ในด้านที่ผมไม่รู้ แต่คนอื่นเขารู้และมาบอกกล่าว เพราะนักแปลต้องรอบรู้ รู้ทุกอย่างที่สามารถจะรู้ได้ ไม่งั้นจะเอากึ๋นที่ไหนไปแปล จริงอยู่ คนหนึ่งอาจเลือกรับงานเฉพาะด้านที่ตนถนัด แต่ความจำเป็นที่ต้องเข้าไปแปลเรื่องในวงการอื่นเป็นครั้งคราว ก็มีให้เห็นอยู่มิใช่หรือ ว่างๆ จะมาเล่าให้ฟังอีก เรื่องธุรกิจขนาดเล็กแบบธุรกิจครอบครัว ซึ่งผมได้ประสบการณ์จากช่วงต้นของชีวิตการทำงาน คือโรงเลื่อยจักร (เอาซุงมาเลื่อยเป็นไม้กระดานนั่นแหละ แต่ในวงการเขาเรียกโรงเลื่อยจักร) และโรงน้ำแข็ง คนที่ไม่เคยสัมผัส จะไม่มีทางรู้ได้เลย ข้อมูลเชิงลึกแบบนี้ในเว็บไซต์ไม่มีหรอกครับ โดยเฉพาะโรงเลื่อยจักรนี่ มันส์กว่าธุรกิจข้ามชาติเยอะเลยครับ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 3 ก.พ. 52 12:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รีบมาเร็วๆ คุณหนุ่มไทย อาไร มาเกริ่นเรียกน้ำย่อยไว้แต่เที่ยงวันยังไม่มาสานต่อ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 3 ก.พ. 52 20:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กลับกันกับคุณแสนอักษรเลยค่ะ ทางด้านนิยายปีนี้ยังไม่มีงานใหม่เลยล่ะ ฮะ ฮะ แต่มีพวกเอกสารนี่ยังมีมาบ้าง เสียวก็ปลายปีนี่สิ จบโทแล้วไปทำอะไรดีหว่า -_-" ว่าแล้วก็รอฟังคุณหนุ่มไทยไร้นามเล่าเรื่องเผื่อจะได้ลู่ทางใหม่ๆ ^O^ จากคุณ : ทินา - [ 6 ก.พ. 52 00:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามารายงานตัวบ้าง งานแปลที่รับจากลูกค้าโดยตรงราคาดีๆหายต๋อมหมด เพราะลูกค้าเป็นบริษัทโฆษณาที่ส่งเราตอนที่พวกเขาแปลกันเองไม่ทัน แต่พอโดนการเมืองทำเศรษฐกิจย่ำแย่ พวกเขาก็โดนเจ้านายห้ามส่งงานให้คนนอกแปล พวกเขาต้องแปลกันเอง เราก็เลยชวดไปตามระเบียบ งานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ เผอิญเรารู้ว่าเขารับงานราคาถูก จนแย่งงานบริษัทอื่นมาหมด แต่นักแปลมีไม่พอ และลูกค้ากำลังจะตืบเจ้าของร้าน หรือไม่ก็จะเผาร้านเขา เราก็เลยรีบฉวยโอกาสขูดรีดค่าแปลเขามาได้ 2 เท่าของจำนวนที่เคยได้ แต่ช่วงหลังๆเราหยุดทำงานก๋วยเตี๋ยวเรือไป เพราะมีหนังสือให้แปลที่เรายังแปลไม่เสร็จอยู่ ทุกเล่มเราทำงานเป็นนักแปลผีหมดเลย... ช่วงที่ผ่านๆมารับทำงาน edit หนังสือแปลบ้าง พบว่านักแปลๆมาได้สยองขวัญมั่กๆ ก็เลยว่าจะเลิก edit แล้ว เพราะยังไม่อยากเครียดตาย เลยตอนนี้กำลังจะลองกลับไปแปลหนังสือดูใหม่ด้วยชื่อเราเอง ยังไม่รู้เลยว่าจะไปรอดหรือเปล่า (สงสัยเป็นนักแปลผีจะปลอดภัยกว่า) เนื่องจากว่ามีแต่นิยายให้เราแปลอยู่เรื่อยๆ แล้วเราไม่ค่อยถนัดนิยาย (ถนัดแปลหนังสือราชการจากไทยเป็นอังกฤษมากกว่า) ถ้าแปลนิยายเร็วๆมีทางแปลผิดมากหลายแห่ง แต่ถ้าแปลช้าเกินไป ก็จะหมุนเงินไม่ทัน แล้วต้องกลับไปทำงานขายก๋วยเตี๋ยวเรืออีก เลยตอนนี้วางแผน ambitious เกินตัว นั่นก็คือ ยอมประหยัด แล้วค่อยๆแปลนิยายไปเรื่อยๆ แล้วทุกครั้งที่เจอประโยคภาษาอังกฤษสวยๆ เราก็เอาเข้าเก็บใน wordbank ของเรา (ใช้ software บางตัวทำ) ในขณะที่ฟิตจัดเรียน grammar มากหน่อย แล้วเอาประโยคที่สะสมไว้กับความรู้ grammar ที่ (ฝืนใจ) เรียนเพิ่มเติม มาหัดเขียนภาษาอังกฤษใหม่ทุกวัน กะว่า อยากจะลองเขียนหนังสือภาษาอังกฤษขายในต่างแดนกับเขาดูสักเล่มหนึ่ง คิดจะเขียนพวกหนังสือ how to เช่น the secrets of eternal youth หรือ how to attract the opposite sex ให้สาวแก่แม่หมายฝรั่งรวยๆ แห่กันไปซื้อ เราจะได้ร่ำรวยกับเขาเสียทีหนึ่ง เอิ๊กๆๆ... จากคุณ : white rabbit - [ 6 ก.พ. 52 16:46:22 A:192.168.0.17 X:124.121.102.243 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ้าว เงียบเหรอคะ เซ็งเลย เพราะอยากเป็นนักแปลมาก พยายามฝึกหัด take course สารพัด ส่งใบสมัครร่อนไปหลายที่ ก็ยังไม่มีวี่แวว แต่ก็ยังจะพยายามต่อไปค่ะ จากคุณ : สู้จนตัวตาย (KraiBangKoN) - [ 14 ก.พ. 52 14:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อิชั้นใช้วิธีเดินเข้าไปคุยกับบก.ดื้อๆที่สำนักพิมพ์เลยค่ะ ถูกคอกันดี อีก 1 เดือนต่อมา เขาส่งบททดสอบมาให้ลองแปล จึงคิดว่าน่าจะยังพอมีงาน หากมองหา เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ จากคุณ : กระสานวล - [ 26 ก.พ. 52 18:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ู^ ^ ใช่เลย เราก็เคยใช้วิธีนี้ได้ผล แต่แปลหนังสือนะ กว่าจะได้เงินก็แทบปางตาย นี่ขนาดเจอสำนักพิมพ์ที่พอแปลเสร็จเขาก็รีบจ่ายเงินนะ เรายังแทบแย่เลย เพราะว่า หนังสือสมัยนี้แปลยากมากๆ กว่าจะแปลเสร็จเล่มหนึ่งค้นข้อมูลเยอะเหลือเกิน ม่ายงั้นมีสิทธิ์แปลผิดตั้งหลายร้อยแห่ง! พอค้นๆไป แปลไป ได้เงินมา บางทีชักหน้าไม่ถึงหลัง เราว่าแปลเอกสารได้เงินไวกว่า แต่งานแปลจากบริษัทแปลก็ได้เงินน้อยเพราะโดนกินหัวคิว ก็เลยต้องพยายามหาลูกค้าเอง ใจกล้าๆ "พยายามลืมเรื่อง knowwho ที่เคยมีคนทะเลาะกัน" แต่ให้ตั้งสมาธิว่า "Your thoughts become things" แล้วคิดว่า "ต้องติดต่อหาลูกค้าเองให้ได้" หรือไม่ก็ต้องนั่งสมาธิว่า "ให้มีหนังสือหมูๆมาให้แปลบ้าง" หรือไม่ก็ "ลองเขียนหนังสือดูสักเล่ม" โดยอาศัยการข้อมูลที่ว่าเคยแปลหนังสือให้สำนักพิมพ์ไหนหลายๆแห่ง แล้วพอที่จะเดินเข้าไปเสนอขายหนังสือเขียนได้ เพราะหนังสือเขียนทำเงินให้คนเขีียนมากกว่าหนังสือแปลทำเงินให้นักแปลนั่นเอง จากคุณ : white rabbit - [ 26 ก.พ. 52 21:56:28 A:124.121.102.115 X: ]