Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    น้องคะ ที่นี่มีไว้ให้ค้นคว้าหาหนังสือ ไม่ได้มีไว้ให้ไปอ่านหนังสือนะคะ..เหตุเกิดที่หอสมุดแห่งชาติ

    เหตุเกิดที่หอสมุดแห่งชาติ ประเทศไทยค่ะ

    พิกัด เทวศน์

    วันนี้เกิดอารมณ์อยากอ่านหนังสือสอบนอกบ้าน เพราะข้างบ้านก่อสร้างต่อเติม

    และเราแพ้ปูน ละอองปูนทำให้เราหายใจไม่ออก

    เลยไปที่หอสมุดแห่งชาติ เพราะดูใน web แล้วเปิดวันอาทิตย์ด้วยดีจัง


    เดินเข้าไป ตอนสิบโมงกว่า ก้าวขึ้นบันไดขึ้นแรก คุณยามเดินมา


    เข้าหอสมุดไหมครับ ขอตรวจกระเป๋าหน่อย เราก็เหลือบเห็นป้าย เอ้อ เค้าให้ฝาก

    ของ ห้ามนำหนังสือเข้าไปข้างใน

    แต่ไม่รับฝากพวกน้ำ อาหาร เค้าก็มีโต๊ะของเจ้าหน้าที่ ก็ยามนั่นแหละค่ะ ที่ทาง

    เข้าอยู่แล้วนี่ นี่ออกมาต้อนรับกันที่บันไดขึ้นแรกเลยเหรอ มาดึงกระเป๋าเราไป

    ด้วย ไม่ได้จะมาปล้นหนังสือที่นี่นะ เรามั่นใจว่าไม่ได้หน้าโจร และแต่งตัวดี ใส่

    กระโปรงด้วย เราเลยไม่ให้ กระเป๋าเราไป


    ในกระเป๋าเราก็มีหนังสือ และชีท ก็ไม่เชิงหนังสือเรียนแต่เป็นคล้ายๆ ชีทเรียน

    พอดี ชีทที่อาจารย์ทำ น่ะ จะเป็นแบบว่าเราต้องเข้าไปนั่งเรียน ถึงจะรู้เรื่อง

    อาจารย์จะเรียบเรียงเป็น scenario ให้ค่อยๆคิด แถมเข้าเล่มจริงจังอีก

    และมีหนังสืออยู่สองเล่ม

    เราถามเค้าว่าชีทนี่เอาเข้าได้ไหม มันไม่ใช่หนังสือนะ ลายพร้อย และเขียนทั้ง

    เล่มขนาดนั้น


    เจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่รับฝากของ ก็บอกว่า

    ไม่ได้ค่ะ

    ไม่มีที่สำหรับให้อ่านหนังสือเลยหรือคะพี่ เราก็ถาม เพราะคาดหวังว่าน่าจะมีแบบ

    ห้อง study ที่เอาหนังสือเข้าไปนั่งอ่านได้

    คำตอบหรือคะ

    เจ้าหน้าที่หอสมุดแห่งชาติบอกเราว่า


    น้องคะ ที่นี่มีไว้ให้ค้นคว้าหาหนังสือ ไม่ได้มีไว้ให้ไปอ่านหนังสือนะคะ

    มีไว้ให้ xerox หนังสือ แล้วเอาไปอ่านต่อที่บ้าน


    เราก็ฝากของ ไว้หมด แล้วเดินเข้าไปอย่าง งง งง ที่นี่ที่ไหนเนี่ย

    คิดในใจ คนคงเยอะจนเราไม่สามารถนั่งอ่านนาน คงรบกวนคนที่เค้ามาหาข้อมูล

    ที่ไหนได้



    ทั้งหอสมุด ณ เวลานั้น

    มีคนใช้บริการไม่ถึง 30 คน เออ เราเดินดูแค่ 3 ชั้นนะคะ ตึกกลางค่ะ ตึกใหญ่ๆ

    และที่สำคัญ เราทึ่งในความตั้งใจของน้องหลายคนที่ต้องการหาที่อ่านหนังสือ

    เขาลงทุน xerox หนังสือของเขาในส่วนที่จะอ่านมาจากบ้าน เพื่อเอามาอ่านที่นี่่

    บ้างก็แยกร่างหนังสือมาเป็นส่วนๆ บ้างก็เอาแฟ้มมาเป็นชีทๆ เป็นเรื่องๆ

    เราก็เลย เดินออกไปเอาของคือ และแยกร่างส่วนที่เราจะอ่านและกลับเข้าไปหา

    ที่นั่งอ่านบ้าง ก็เรามาแล้วจะให้เราไปไหน เราตั้งใจมานะ


    มีอะไรไม่เข้าใจ เราก็เดินไปหาข้อมูลต่อที่ชั้น การค้นคว้าเกิดขึ้นแล้ว


    เราเข้าใจเรื่องความปลอดภัยของระบบการป้องกันหนังสือหายที่นี่

    หนังสือไม่มีบาร์โคด แถบแม่เหล็ก หรืออะไรที่ป้องกันการขโมยได้ นอกจากการ

    ที่ยามมาตรวจกระเป๋าตอนเข้า ตอน ออก

    และมันทำให้เราเสียความรู้สึกนิดหน่อย เราอดคิดไม่ได้ว่า คุณต้องสงสัยไว้ก่อน

    ว่าเราจะมาขโมยหนังสือ เหรอ


    เราถามว่าหนังสือเล่มนี้ ....บอกชื่อไป หาำ้ำได้ที่ำไหนคะ พี่ที่เคาเตอร์บริการ ไม่กด

    หาอะไรทั้งนั้น บอกว่าไม่มี

    พอเราถามหาระบบหาจากคอม OPAC ก็บอกว่า ตอนนี้คอมล่ม แถมหัวเราะเสียง

    ดัง และคุยกันต่ออย่างไม่สนใจโลก

    เราเลยไปหาเองผ่าน internet และพบว่า มันมี



    นอกจากนั้นไม่พอ ตอนบ่ายสาม เราอ่านหนังสืออย่างมีความสุข

    ฝรั่งคนหนึ่ง เดินถือถุงพลาสติกสีฟ้า ปากคาบไม้ไอติม เข้ามาตรงที่เราอ่าน

    หนังสือ

    หนังสือส่วนตัวนี่นา เพราะมันไม่มีแถบคาดของหอสมุด

    เอาเข้ามาได้ไงเนี่ย

    อีกสักพัก ก็เห็นผู้ชายฝรั่งคนนั้น นั่งไขว่ห้างยกขาสูงอ่านหนังสือ และขีดๆๆๆ

    หนังสือสีแดงที่ตัวเองเอาเข้ามา


    อะไรกันเนี่ย

    นอกจากนี้ยังไม่พอ มีรูปติดตามเสา เป็นรูปคนที่หลับฟุบคาโต๊ะ อีกคนคอพับบน

    โซฟา และเขียนว่า ที่นี่ไม่ต้อนรับคนที่....(ไม่กล้าเขียน)

    เขียนอย่างนี้เอารูปมาลงอย่างนี้ เข้าข่ายหมิ่นประมาท ไหมคะ

    ใครเค้าจะตั้งใจมาหลับมานอน



    นี่แหละค่ะ

    ความประทับใจอย่างมากที่เกิดจากการไปหอสมุดแห่งชาติครั้งแรกในชีวิต

    เราชอบไปห้องสมุด ตอนเรียนเราไปช่วยบรรณารักษ์จัดหนังสือตอนเลิกเรียน

    แบบ ฟรีๆด้วยนะ เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเค้ามีจ้างด้วย แต่ไม่เป็นไรเราอยากช่วย

    เราอยากให้คนที่เค้าอ่านหนังสือ ได้เจอหนังสือที่เค้าอยากอ่าน ได้อ่าน ได้รู้

    ไม่ว่าจะหนังสืออะไร พ่อเราสอนเราตั้งแต่เด็ก บอกว่า ให้เราอ่านหนังสือทุกวัน

    อ่านหนังสือ อะไรก็ได้ ถุงกล้วยแขกเรายังอ่านเลย



    เราไม่คิดว่า ที่นั่งเพียงสักที่ เพื่อคนที่เขาต้องการอ่านหนังสือของเขา

    จะไม่มีในที่นี่


    น้องต้องเข้ามาหาหนังสือที่มี อ่านหนังสือที่มีในนี้เท่านั้น (คำนี้พี่

    เขาก็เ็ป็นคนพูด)


    อึ้ง และเสียดายสถานที่ดีๆ ที่มีไว้แค่ให้เจ้าหน้าที่แต่งหน้าทาแป้ง และยืนคุยกัน

    เสียงดังลั่นเชียว



    ถ้าต้องการพัฒนาชาติ ต้องเริ่มจากการศึกษา

    แต่ตอนนี้ จะหวังอะไรมากกว่านี้คงไม่ได้

    กับประเทศที่ คนอ่านหนังสือเฉลี่ยต่อปีแค่ไม่กี่บรรทัด

    เสียดาย เสียใจ พูดไม่ออก


    ไม่รู้จะบอกใคร

    ขอพื้นที่เล็กๆ ไว้ติเพื่อก่อนะคะ


    หวังว่า ต่อไป อะไรๆคงจะดีขึ้น


    แต่เมื่อไหร่ไม่รู้

    จากคุณ : ซังกุงตัวเล็ก - [ 1 ก.พ. 52 21:14:47 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com