ความคิดเห็นที่ 1 ดีไม่ดีก็ดูสิ ใหญ่โตขนาดนั้นมาได้ยังไง มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะเนี่ย จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 13 ก.พ. 52 19:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าเราต้องเข้าใจมโนทัศน์ของคนในยุคนั้นก่อนนะครับ ว่าทำไมเขาถึงต้องสถาปนาเป็นฮ่องเต้หลังจากที่ก่อการสำเร็จ เราต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า สมัยนั้นทัศนะที่ว่า ผู้นำต้องมาจากการออกเสียงของประชาชนยังไม่เกิดขึ้นในจีน ระบบ  "โอรสสววรค์" ก็พอจะเกื้อหนุนความต้องการของประชาชนอยู่บ้าง ก็คือเอื้อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่ประชาชนเห็นว่าผู้ปกครองไม่เป็นธรรมก็สามารถอ้างได้ว่าผู้ปกครองไม่ได้รับอาณัติจากสวรรค์อีกต่อไปแล้วสามารถที่จะเปลี่ยนตัวผู้ปกครองใหม่ได้ จะไปมองว่าฮ่องเต้ เป็นสิ่งที่คนจีนทนรับก็ไม่ถูกนัก ที่สำคัญเมื่อก่อการสำเร็จ จะอ้างว่าจะปกครองโดยมีสภามีประธานาธิบดีก็คงจะไม่ได้เพราะคนสมัยนั้นยังไม่เข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้หมายถึงอะไร จากคุณ : honig - [ 13 ก.พ. 52 20:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ดีไม่ดี จีน ในหลายๆ ยุค ก็เป็นประเทศที่รุ่งเรื่อง อันดับต้นของโลก จริงอยู่ที่ ฮ่องเต้ หลายๆองค์ก็เป็นทรราชย์ แต่ ฮ่องเต้ ดีๆ ก็มีเยอะ อย่าง ยุค ของฮั่นอู่ตี้ ถังไท่จง จูตี้ คังซี เฉียนหลง ก็เป็นตัวอย่างของความรุ่งเรื่องนี่ครับ ความรู้หลายๆ อย่างของคนจีน ก็เป็นรากฐานให้คนรุ่นหลังไม่ว่าชาติใดก็ตามเอาไปต่อยอดไม่ใช่หรือครับ ส่วนเรื่องเสี้ยมสอน ผมว่า ไม่ค่อยเกี่ยวนะครับ คนจีนหัวก้าวหน้าสมัยนั้นได้ตระหนักถึง ความเสื่อมโทรม ของสภาพสังคมในยุคนั้น และ การปฏิรูปประเทศของฮ่องเต้กวางสวี โดนพวกขุนนางหัวเก่าและ ซูสีไทเฮาขัดขวาง จึงต้องทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หากสภาพสังคมจีนตอนนั้นเจริญแบบสมัยคังซี คาดว่า คงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองขนานใหญ่แบบนั้นครับ ผมว่า ระบบใดก็ตามถ้ามันทำให้ ประเทศเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงก็ควรใช้ระบบนั้นครับ หาก ได้ผู้นำ แบบฮ่องเต้ที่เก่งๆ ผมก็อยากอยู่ในระบบแบบนั้นครับ แต่นาทีนี้ ผมชอบประชาธิปไตยมากกว่า จากคุณ : เหล่าฟาง - [ 13 ก.พ. 52 20:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็เหมือนๆกับระบบกษัตริย์ไม่ใช่หรอค่ะ ประมุขมีอำนาจสูงสุด และก็มีพวกแม่ทัพ ขุนนาง จากคุณ : อยากรู้เหมือนกัน - [ 13 ก.พ. 52 21:13:28 A:192.168.0.17 X:61.90.69.227 TicketID:191317 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมกำลังสงสัยว่า ประชาธิปไตย เกิดใน อังกฤษ ได้ยังไง หมายความว่า ออกกฏต่างๆ เพื่อไม่ให้กษัตริย์มีอำนาจมากเกินไป เช่น กฏบัตร Magna Carta ในขณะที่จีนยังใช้ระบบฮ่องเต้ ที่ให้อำนาจทุกอย่าง รวมอยู่ที่คนๆ เดียว จนฮ่องเต้สามารถสั่งฆ่าหรือทรมานประชาชน ได้ตามใจชอบ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 13 ก.พ. 52 21:16:57 A:192.168.0.17 X:118.172.38.170 TicketID:202689 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แหมะ อ่านแล้วก็คันปากเนาะ ประชาธิปไตยเกิดขึ้นแห่งแรกที่กรีก แต่พอเข้ายุคโรมัน ประชาธิปไตยก็สิ้นซากไม่เหลือหลอ ตั้งแต่คาลิกูลาถึงเนโร น่าจะมีชาวโรมันตายเป็นผักปลาไม่น้อย แล้วฝรั่งเศสมันคิดของมันยังไง ทะเลาะกันจนคุกบาสตีลย์พัง ปกครองแบบสาธารณรัฐอยู่แป๊บบบบบบบบ มีพรรคการเมืองตามหลักการประชาธิปไตยเป๊ะ ปลดแอกแล้วเรียบร้อย ปฏิวัติแล้วเรียบร้อย เปลี่ยนแปลงระบบแล้วเรียบร้อย หาระบบใหม่แล้วเรียบร้อย แต่ไม่นานเท่าไหร่ นักประชาธิปไตยที่ว่า ก็คืออีตาโรเบส ปิแอร์ เกิดบ้าเลือด ไล่ฆ่าศัตรูทางการเมืองอีกพรรคอย่างหะหนุกหะหนาน วันดีคืนดี นโปเลียนขึ้นบกยึดประเทศฉีกรัฐธรรมนูญซะ ประชาชนก็แห่แหนไปต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ก็ประชาชนกลุ่มเดียวกับที่เคยไปพังบาสตีลย์นั่นแหละ กลับมาที่อังกฤษ อังกฤษมีแมคนาคาตาที่คุณว่าก็จริง แต่จริงหรือที่กษัตริย์อังกฤษไม่เคยฆ่าประชาชนตามใจชอบ ??? พูดอีกอย่าง จริงหรือที่การมีแมคนาคาตาแล้ว กษัตริย์อังกฤษไม่ได้เบียดเบียนประชาชนอย่างโหดเหี้ยมเพราะผลประโยชน์ของตัวเอง ลองไปอ่านประวัติพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ดู แล้วใครทำอะไรเฮนรี่ที่ 8 ได้มั่ง ไม่ได้ชื่นชูอะไรระบอบฮ่องเต้นักหนา แต่มาตอบเพราะเห็นว่าประวัติศาสตร์มีพัฒนาการของมัน แต่ละครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ต้อง "เปลี่ยน" ก่อนก็คือ "กระบวนทัศน์" ของผู้คน หากสังคมนั้นเดินทางมาถึงจุดที่ว่า เราต่างมีหน้าที่ของตัวเองที่แตกต่างกัน ทุกคนมีศักดิ์ศรีและสิทธิแห่งเป็นมนุษย์ตั้งแต่กำเนิดและต้องปฏิบัติต่อกันอย่างเป็นธรรม ผู้ปกครองแบบเฮนรี่ที่ 8 จะอยู่ได้ฤๅ จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) - [ 13 ก.พ. 52 22:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนแรกเห็นกระทู้ที่ห้องหว้ากอ แต่ตอบไม่ทันเพราะกำลังจะกลับบ้าน หุหุ มาอีกทีกระทู้หายมาอยู่ห้องนี้แทนแล้วหรือเนี่ย เข้าประเด็นแล้วกันครับ อย่างที่คุณ AntiSpam กล่าวมา แนวคิดและการปกครองแบบประชาธิปไตยยุคแรก พัฒนาขึ้นในกรีก หรือจริงๆก็คือในเอเธนส์นั้นแลครับ ตอนยุคตั้งต้น เอเธนส์ก็เหมือนนครรัฐกรีกอื่นๆ ที่มีราชาท้าวสามนตราชปกครองนั้นแล แต่ต่อมาประชาชนลุกขึ้นขับไล่ราชาออกไป แล้วปกครองกันเอง แรกๆก็ปกครองแบบคณะบุคคลเผด็จการกันก่อน ต่อมาเมื่อแนวคิดแบบปัจเจกนิยมเริ่มรุนแรงขึ้น เอเธนส์ก็เลยค่อยๆก่อเกิดระบบรัฐสภาและการออกเสียงโดยพลเมืองผู้มีสิทธิขึ้นมา (ซึ่งก็ไม่ได้ทุกคน มีแต่ผู้ชาย และผู้ที่เป็นชาวเอเธนส์แท้ๆเท่านั้นที่มีสิทธิ) เนื่องด้วยเอเธนส์ เป็นนครรัฐ มีประชากรไม่มากนักที่เป็นชาวเอเธนส์แท้ๆ และมีสิทธิออกเสียงในสภาจริงๆ ประชาธิปไตยในกรีกยุครุ่งเรืองก็พินาสลงในภายหลังอยู่ดี ด้วยอิทธิพลจากภายนอกและความอ่อนแอลงของเอเธนส์เอง พอเข้ายุคโรมัน ก็ปกครองโดยบุคคลอยู่ดีครับ ระบบราชาหรือจักรพรรดิก็ปรากฎในอารยธรรมมนุษย์มาอีกยาวนาน จนเมื่อมาถึงยุคฟื้นฟูหรือเรเนซองต์ ที่พวกนักคิดแนวมนุษยนิยมเริ่มเอาแนวคิดสมัยกรีกเก่าๆกลับมาปัดฝุ่นใหม่ จวบจนก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุโรปมีประเทศที่เป็นสาธารณรัฐแค่ 4-5 ประเทศ และเป็นประเทศที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนุญจริงๆอีกแค่ไม่กี่ประเทศ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นจักรวรรดิหรืออาณาจักรใต้อำนาจของกษัตริย์แบบที่เคยเป็นมาหลายพันปีนั้นแล จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 13 ก.พ. 52 22:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คนจีนไม่เคยคิดที่จะ "ปลดแอก" เลยเหรอ - ถ้าเป็นเช่นนั้น ประวัติศาสตร์จีนคงไม่มีกบฏชาวนาเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนหรอกครับ คนจีนไม่เคยคิดที่จะ "ปฏิวัติ" เลยเหรอ - ไปอ่าน 108 ผู้กล้าแห่งเขาเหลียงซานดู คนจีนไม่เคยคิดที่จะ "เปลี่ยนแปลงระบบ" เลยเหรอ - ลองไปดูกบฏไท่ผิงดู คนจีนไม่เคยคิดที่จะ "หาระบบใหม่" เลยเหรอ - สอบจอหงวนที่บูเช็กเทียนคิดขึ้นมาในสมัยถัง เป็นการทำลายเส้นกั้นระบบชนชั้น ที่เมื่อในยุคเดียวกันฝรั่งตะวันตกยังยึดติดกันอยู่เลยครับ นี่เป็นระบบใหม่ทีี่ฝรั่งกว่าจะคิดตามทันได้ต้องรออีกหลายร้อยปีนะครับ สรุป ผมไม่เถียงว่าตั้ง 4 พันปี จีนมีฮ่องเต้เป็นใหญ่ แต่หลายๆครั้ง ฮ่องเต้ก็ไม่ได้เป็นใหญ่เสมอไป บางครั้งสภาพการเมืองก็เป็นระบบฟิวดัล บางครั้งก็เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และในตลอดช่วง4-5พันปี ระบบการเมืองจีนก็ไม่เคยหยุดนิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงในบางด้านเสมอๆ คนจีนเพิ่งจะมาอ่อนแอในยุคราชวงศ์ชิงเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่แฟร์ที่คุณจะไปเอารอยด่างประวัติศาสตร์ในช่วงไม่ถึงร้อยปีมาตัดสินคุณค่าของประวัติศาสตร์จีนตั้ง 4000 ปีครับ จากคุณ : lb'sN - [ 13 ก.พ. 52 22:33:50 A:222.123.226.142 X: TicketID:199665 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แก้ จาก คนจีนเพิ่งจะมาอ่อนแอในยุคราชวงศ์ชิงเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่แฟร์ที่คุณจะไปเอารอยด่างประวัติศาสตร์ในช่วงไม่ถึงร้อยปีมาตัด สินคุณค่าของประวัติศาสตร์จีนตั้ง 4000 ปีครับ เป็น คนจีนเพิ่งจะมาอ่อนแอในยุค"ปลาย"ราชวงศ์ชิงเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่แฟร์ที่คุณจะไปเอารอยด่างประวัติศาสตร์ในช่วงไม่ถึงร้อยปีมาตัดสินคุณค่าของประวัติศาสตร์จีนตั้ง 4000 ปีครับ จากคุณ : lb'sN - [ 13 ก.พ. 52 22:35:32 A:222.123.226.142 X: TicketID:199665 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีอะไรแอบแฝงไหมเนี่ย จากคุณ : je_ten_prie - [ 13 ก.พ. 52 22:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พี่เจียง และพี่เหมาไงครับ จากคุณ : 1234 - [ 13 ก.พ. 52 23:41:22 A:125.26.141.249 X: TicketID:184742 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นกระทู้แบบนี้มาหลายกระทู้แล้ว ยังไม่อยากกล่าวหาแต่อยากให้สังเกต ผมจะกล่าวสั้นนะครับว่า ที่ระบบ ฮ่องเต้ อยู่มาได้นาน เพราะความคิดลัทธิขงจื้อไงล่ะครับ ที่จัดระบบสังคมจีนได้อย่างลงตัว ยึดถือจารีตที่เป็นแบบแผน และจริงๆแล้ว ผมว่านี้แหละ คือสิ่งที่สงเสริมคำว่าโอรสวรรค์ จริงอยู่ความเชื่อนี้ มีก่อนขงจื้อ แต่แนวคิดการจัดระบบ โดนเฉพาะในสมัยฮั่น ที่เอาระบบขงจื้อมา เป็นแบบอย่างมันเลยเป็นแบบแผนต่อกันมา ยิ่งทำให้จีนยิ่งใหญ่ได้ด้วยแล้ว คุณมีเหตุผลอะไร ที่จะไปเปลี่ยนระบบพวกนั้น จากคุณ : Angleevil - [ 14 ก.พ. 52 01:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ง่วง ปักป้ายไว้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน จากคุณ : Nexus - [ 14 ก.พ. 52 02:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ระบบกษัตริย์ยุคแรกของจีน อย่างหวงตี้ เมื่อราว4000ปีก่อน มาจากการยอมรับของคนในกลุ่ม เหมือนระบบการเลือกตั้ง และกษัตริย์รุ่นต่อไป ไม่จำเป้นต้องสืบทอดทางทายาท เลยยอมรับกันว่า ระบบประชาธิปไตยแบบไม่เป็นทางการเกิดขึ้นที่จีนครั้งแรก ต่อมาก็มีการสืบทอดผ่านสายเลือด ในสมัยราชวงศ์ชาง หรือโจว ไม่แน่ใจ จนมาสมัย ฮ่องเต้ หรือหวงตี้ มาเกิดครั้งแรกสมัย ฉินซื่อหวงตี้ ที่รวบรวมจีน เมื่อ2100ปีก่อน จนมีคนคิดได้และปฏิวัฒิแหล่ะครับ ยุคหลังนั้นก็ยอมรับได้เลยว่า จีนเทียบตะวันตก หรือญี่ปุ่นไม่ได้ ด้วยระบบการรวมอำนาจการตัดสินใจเบ็ดเสร็จ การพัฒนาศิลปะวิทยาการ ที่เชื่องช้ากว่าระบบทุนนิยมกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม แบบเทียบไม่ได้ ทำให้หลัง ศรรษตวรรษที่16 17 มา วิทยาการตะวันตกเริ่มแซงหน้า อย่างชูสีไทเฮา เนี่ย ถ้าจีนปฏิวัติได้ก่อน แบบในญี่ปุ่น ที่มีการโค่นล้มระบบโชกุนแล้วตั้งรัฐบาลขึ้นมา ปวศ โลกจะเปลี่ยนไปเยอะ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 05:55:57 จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 14 ก.พ. 52 03:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับ คคห สิบสองคับ เป็นหลักขงจื้อจริงๆ ที่ทำให้ระบบสังคมของจีนรวมตัวกันได้ การกำหนดหน้าที่ของคนในสังคมขึ้นมา โดยที่มีความเกียวเนื่องกันแต่ไม่ก้าวกายกัน รู้สึกว่าจะเรียกว่าหลักความสัมพันธ์ห้าประการ ได้แก่"กษัตริย์กับราษฎร" " บิดามารดากับบุตร" "สามีกับภรรยา" " พี่กับน้อง" " และเพื่อนกับเพื่อน" เพราะทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองจึงสามารถนำพาสังคมหรือประเทศสู่ความสงบ ย้ำคับการรู้จักหน้าที่รู้จักสถานภาพแห่งตน ส่วนที่ว่า คนจีนไม่เคยคิดที่จะ "ปลดแอก" เลยเหรอ คนจีนไม่เคยคิดที่จะ "ปฏิวัติ" เลยเหรอ คนจีนไม่เคยคิดที่จะ "เปลี่ยนแปลงระบบ" เลยเหรอ คนจีนไม่เคยคิดที่จะ "หาระบบใหม่" เลยเหรอ ไม่จริงคับอย่างที่มีกระทู้ด้านบนว่าไว้ เคยได้ยินหรือปล่าว"กษัตริย์คือเรือราษฎรคือน้ำ น้ำลอยเรือได้น้ำก็จมเรือได้" จะเห็นได้ว่าภาสิตนี้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครองได้เด่นชัดมากที่สุดแสดงภาพของประชาธิปไตยได้เด่นชัด ป.ล.ตอนแรกว่าจะไม่ว่าอะไรแล้วแต่คันมือคันปากอยากบอก ช่วงนี่มีมาบ่อยจริงๆกระทู้ล่อแหลมเนี่ยว่าจะไม่ตอบแล้วคับ แต่เห็นแก่ปู่ย่าตายายเป็นคนจีนผมไม่ยอมให้ใครมาดูถูกศักดิ์ศรีหรอกนะ เจ้าของกระทู้พูดเหมือนกับว่าคนจีนโง่มากที่ยอมอยู่ใต้ระบอบกษัตริย์ แล้วฝรั่งตะวันตกหัวแดงนี่ฉลาดล้ำ กลับไปอ่านประวัติศาสตร์โลกมาใหม่นะเอาเล่มที่เขียนโดยคนเอเชียนะคับศูยน์กลางของโลกจะได้ไม่เป็นยุโรป ย้ำอีกครั้งคับการรู้จักหน้าที่รู้จักสถานภาพแห่งตนจะนำพาประเทศชาติและสังคมไปสู่ความสงบ จากคุณ : หริปรียา ลูกจีน75% - [ 14 ก.พ. 52 03:39:18 A:202.28.27.5 X: TicketID:197397 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ... สุภาษิตเก่าไทยที่ว่าล้าสมัยแต่มักมีประโยชน์แฝงที่วิทยาศาสตร์ศึกษากันร้อยปีถึงจะเข้าใจ ถ้าระบบกษัตริย์ไม่ดีจีนจะรุ่งเรืองขนาดนี้ได้ยังไง และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดก็เหมือนคำที่ว่า ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ ฝรั่งสร้างปืนได้ก็มาจากดินปืนที่จีนคิดแล้วเผอิญคนจีนไม่บ้าคลั่งเรื่องวัตถุ วัฒนธรรมรุ่งเรืองมักหยุดวัตถุเข้าหาด้านจิตใจ จึงดูว่าอ่อนแอ ดีไม่ดีถ้าไม่มีปืนไฟกลไกชั้นเลิศ โลกนี้ก็คงเป็นของจีนอย่างง่ายดายไปนานแล้ว อย่างน้อยกษัตริย์คือหัวใจของคนทั้งประเทศ คนที่ดีที่สุดจนเราเชื่อมั่นในสิ่งที่เค้าจะนำเราไป จบที่คำว่า " สามัคคี " นั่นไง ที่น่าสังเกตุคือ จากประวัติศาสตร์ไม่ว่าระบบปกครองใด ดีแค่ไหน สุดท้ายก็จะต้องเสื่อมแล้วผันไปใช้ระบบตรงข้ามในช่วงระยะหนึ่งเสมอ ... บางทีสิ่งที่ว่าดีที่สุดอาจมาจากสภาพการณ์ในขณะนั้นเป็นคนตัดสินนะครับ ไม่ใช่โลกในอนาคตมองกลับไปตัดสินเค้า ปล.ผมว่าปัญหาไม่ใช่คำถาม แต่มันแอบแฝงบางอย่างจริงๆ จากคุณ : The White Man - [ 14 ก.พ. 52 07:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จีนไม่เหมาะกับประชาธิปไตยหรอกครับผมว่านะ จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ขนาดมีการปกครองที่เด็ดขาด การยังหาวิธีโกงแล้วโกงเล่า โกงสารพัด เล่นพรรคเล่นพวก ฉ้อราษฎร์บังหลวง ติดสินบน กินสินบน พยายามกุมอำนาจหาความเป็นใหญ่ แทบจะไม่มีคำว่าเพื่อประเทศชาติ ถ้าปล่อยให้มีประชาธิปไตย ให้ปกครองกันเองสุดท้าย ก็จะมีการแก่งแย่งชิงดี โกงกิน เล่นพรรคเล่นพวก แสวงหาความเป็นใหญ่ สุดท้ายก็จะมีคนที่โกงเก่ง หาพวกเก่ง และเหี้ยมโหดที่สุด ขึ้นมากุมอำนาจ แล้วก็กดขี่คนอ่อนแอกว่าอยู่ดี จริงๆแล้วมันคงไม่ใช่คำว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ มีแต่ทำได้หรือไม่ได้มากกว่า สำหรับสังคมจีนที่รู้ๆกันแล้วล่ะก็ ยังไงก็จะกลายเป็นระบบที่คน 1 คน ตระกูล 1 ตระกูล หรือพรรค 1 พรรค มากุมอำนาจอยู่ดี เพราะถ้าไม่มีการกุมอำนาจ อย่างเด็ดขาดก็ย่อมเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายแน่ๆ จากคุณ : Carroth - [ 14 ก.พ. 52 08:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คนจีนเพิ่งจะมาอ่อนแอในยุค"ปลาย"ราชวงศ์ชิงเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่แฟร์ที่คุณจะไปเอารอยด่างประวัติศาสตร์ในช่วงไม่ถึงร้อยปีมาตัดสินคุณค่าของประวัติศาสตร์จีนตั้ง 4000 ปีครับ จากคุณ : lb'sN - [ 13 ก.พ. 52 22:35:32 A:222.123.226.142 X: TicketID:199665 ] อ่านแล้วถูกใจอยากให้ กิฟ จากคุณ : เหล่าฟาง - [ 14 ก.พ. 52 09:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 วิเคราะห์ดูให้ดี ตอนนี้  จีน ก็ยังอยู่ใน  "ระบบฮ่องเต้" เพียงแต่ใช้ศัพท์ต่างออกไป เท่านั้น จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน - [ 14 ก.พ. 52 11:10:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วไง? จะ 4000 ปีก่อน หรือปัจจุบัน คนจีนก็ยังได้ผู้ปกครองที่ตัวเองไม่ได้เลือกอยู่ดีนี่ครับ แล้วเขาก็ยังทน (?) อยู่เลยนี่นะ จะ 4000 ปีก่อนหรือปัจจุบันจีนก็ยังนับเป็นมหาอำนาจของโลกอยู่ดี แล้วคุณสงสัยอะไร จากคุณ : @(-_-)@ - [ 14 ก.พ. 52 11:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่ว่าระบบไหน ถ้าผู้ปกครองไม่ยึดมั่นในกฎ ทำเพื่อส่วนรวมโดนล้มได้ทั้งนั้น ฮ่องเต้ ก็ต้องมีข้อบังคับของฮ่องเต้ ไม่ทำตามก็โดนล้ม ปลดได้ นายก เบี้ยวกฏ หาช่องโกง ต้องโดนล้ม กษัตริย์ ไม่อยู่ในทศพิศราชธรรม ก็เสื่อมจนล้มได้ เผด็จการ หากทำเพื่อ ประชาชนส่วนรวม บางทียังยืนยงกว่า ประชาธิปไตยขี้ฉ้อ นะครับ จากคุณ : ศุศศิ - [ 14 ก.พ. 52 11:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แหม แอบสงสัยว่าคนจีนยังทนอยู่จริงดัง คคห 20 ว่าไว้หรือ อ่านกระทู้นี้ครั้งแรก ไพล่คิดไปอีกแล้วว่า "ปล.ผมว่าปัญหาไม่ใช่คำถาม แต่มันแอบแฝงบางอย่างจริงๆ" ดังคคห 16 ระบอบกษัตริย์มันน่ารังเกียจนักหรือไง ที่ประเทศชาติมันเดือดร้อนวุ่นวายเพราะใคร เพราะกษัตริย์ หรือเพราะคนอยากเป็นเช่นกษัตริย์กันแน่คะ จากคุณ : สำรวย - [ 14 ก.พ. 52 11:52:45 A:124.122.129.41 X: TicketID:080171 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วระบบฝรั่งมันดีตรงไหน เค้าเสี้ยมสอนมาแล้วต้องเชื่อฟังหรือทำตามเค้าเพราะคิดว่าของเค้าดีว่างั้นหรอครับ เคยเห็นมั้ยกาลล่มสลายของเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกา ถ้ายังไม่เคยเห็นโปรดรอชมต่อไป ไอ่ที่คุณคิดว่าดีที่สุดนี่แหละ จะนำอันใดมาก็ต้องดูถึงความเหมาะสมด้วย ไม่ใช่ให้มาสิบแล้วนำมาใช้สิบ เค้าเรียกพวกนั้นว่าไม่มีสมองครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 14:49:56 จากคุณ : ติดปีกบินไปให้ไกลไกลแสนไกล - [ 14 ก.พ. 52 14:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่าวมาห้องนี้ จะเอาคำตอบเดิมมาต่อนะครับ ระบบใดๆในโลกล้วนเป็นไปตามธรรมชาติเป็นหลัก หากแต่ตัวแปรย่อยอื่นๆ เปลี่ยนแปลง เข้า-ออกไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของสังคมนั้นๆ จีนมีฮ๋องเต้ ที่อื่นๆก็มีกษัตริย์ มีผู้นำสูงสุด มันเป็นไปตามยุคสมัย ธรรมชาติไม่มีความเท่าเทียม หรือความยุติธรรม มันมีการแข่งขัน  ...อำนาจที่ไม่เท่ากันจะทำให้เกิดผู้แพ้ ผู้ชนะ จริงๆธรรมชาติของมนุษย์ คือสิ่งที่มนุษย์เลือก ตั้งแต่โบราณ มนุษย์หาอิสระ ความยุติธรรม ความเท่าเทียม มันอยู่ในสายเลือด ฝังอยู่ในใจ แต่หากเป็นเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด ก็ต้องแลกมาด้วยความอ่อนแอ ความทุกข์เพราะสิ่งอื่นๆ มนุษย์จึงต้องมีผู้นำผู้รวมแก่นของเผ่า มนุษย์เลือกสิ่งนี้ ดีกว่าจะมีอิสระและเท่าเทียม แต่ต้องอ่อนแอ ปัญญามนุษย์ตอนนั้นมีแค่นั้น และปัจจัยก็เอื้ออยู่แค่นั้น ดังนั้นจึงมีฮ๋องเต้ อีกทั้งฮ๋องเต้เองก็มีการโฆษณา บอกว่าตนเป็นเทพ บลาๆๆๆๆ ระบบนี้คงทนอยู่นาน การโฆษณาชวนเชื่อ สามารถทำได้ทั้งโลก ครองโลกได้ยาวนาน ดังที่โลกเราเจอมาในสมัยโบราณ ในสมัยยุคมืดผู้คนเชื่อเทพ เชื่ออำนาจศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนตาบอด  คิดว่าสิ่งที่ตนเองคลำเจอเป็นลักษณะแห่งความจริงสูงสุด ....จนยุคนึง ภูมิปัญญาเริ่มเกิด ไม่ใช้ว่าภูมิปัญญานั้นคือตัวเนื้อที่เกิดใหม่   หากแต่ภูมิปัญญา คือสิ่งที่ทำให้เราค้นพบวิธีที่จะทำให้เราตอบสนองความต้องการดีขึ้น  เรามีวิธีการปกครองที่ดีกว่า คือสิ่งที่จะทำให้เรามองสิ่งเดิมๆใหม่ และเปลี่ยนทางเดิน ปัยญาไม่ใช่สิ่งที่จะโยนเข้าหัวคน แล้วล้างสมอง แต่คือสิ่งที่เป็นแสงสว่าง ฉายไปสู่สิ่งมืดมิดที่เราเคยมอง แต่มองไม่ออก และเราก็เลือกมัน สิ่งเก่าๆถูกเปลี่ยน และมันประจักษ์ว่าดีกว่าจริง ทั้งทางรูปธรรม และนามธรรม ความยุติธรรม-เท่าเทียม ธรรมชาติไม่ได้ให้เรามาโดยตรง แต่ให้มาในจิตใจ ให้มาในรูปแบบของสติปัญญา ธรรมชาติให้เราสร้าง และรักษามันด้วยตัวเองธรรมชาติกำหนดให้เรารู้สึกดีกับมัน รักมัน และทะนุทะนอมมัน ทุกคนจะต้องการมันจากใจจริง ผมจึงบอกได้ว่าธรมมชาติให้ความยุติธรรมกับเราครับ เพียงแต่ให้เราต้องสร้างมันเอง การสร้างมันบางทีต้องเจ็บปวด แต่เราก็จะเลือกมันในที่สุด ระบอบที่ดีกว่าจะถูกนำมาใช้ ทั้งนี้ ถ้าพูดถึงจีนก้ยังโดนครอบงำ เพราะปัจจัยยังเอื้อไม่ถึง สิ่งที่ดีจริงๆ แต่มันทำได้ดีที่สุดเท่านี้..ตอนนี้ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 16:30:41 จากคุณ : i.everyday - [ 14 ก.พ. 52 15:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 25 การครอบงำเป็นสิ่งนึง มนุษย์หากยังสุขสบายระดับหนึ่ง หรือยังไม่ทุกข์พอ เขาจะยอมรับอะไรก้ได้ การทดลองทางจิตวิทยาครั้งนึง (Barker,dembo,Lewin 1941) นักจิตวิทยา ทดลองเอาเด็กคนนึงไปขังอยู่ในห้องที่มีของเล่นหักพัง อ่างอาบน้ำเปล่าๆ  โทรศัพท์แค่ครึ่งเดียว ตุ็กตาขาดครึ่ง เด็กคนนั้นเล่นด้วยความสุขใจ เพราะถือว่ามีของเล่นที่ช่วยตอบสนองความอยากแล้ว หากแต่เมื่อนักจิตวิทยา เปิดแผงกั้นผนังห้อง (แต่ยังกั้นด้วยตาข่าย) ให้เด็กเห็นห้องอีกห้องที่มีของเล่นสมบูรณ์ เด็กคนนั้นจะไม่มีความสุขทันที เด็กจะเศร้า และก้าวร้าว เพราะเขาเห็นสิ่งที่ดีกว่า จีนตอนนั้นก็เหมือนกับเด้กที่ไม่เห็นห้องอีกห้อง และตอนนี้ก้ยังเป็นนะ เมื่อทุกคนเห็นห้องอีกห้อง การเปลี่ยนจะเกิด และตาข่ายอาจจะขาดลงได้ จากคุณ : i.everyday - [ 14 ก.พ. 52 15:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 การเปลี่ยนเกิดจากเหตุผล เกิดจากปัญญาที่มากขึ้น สมัยโบราณมนุษย์ล้วนต้องการเสรีภาพ ต้องการเลือก ต้องการทุกสิ่งเหมือนเรา ต้องการความสุข ความถูกต้อง ความรู้ ความโปร่งใส แต่ด้วยกรอบของธรรมชาติตอนนั้น มนุษย์ไม่รู้ว่าความหวังของเขาเป็นจริงได้ แต่เมื่อเขาได้ใตร่ตรองดู จากหนังสือที่มีการพิมพ์เผยแพร่ จากนักปรัชญา ที่ไม่ได้สั่งให้ใครเชื่อ ไม่ได้มาปลูกฝังความคิด แต่เพียงหยิบยื่นความคิด ให้ผู้คนใตร่ตรองเอง ผู้คนจึงเลือกมัน ด้วยตัวเอง คนยุคก่อนอยากบินข้ามทวีปได้ แต่เขาไม่รู้วิธี ต่อมามีการสร้างส่วนต่างๆ ที่รวมกันเป็นเครื่องบิน เราถึงรู้ว่าเราสามารถบินได้จริงๆ ความต้องการเรามีอยู่เสมอ แต่วิธีการ เปลี่ยนแปลง และพัฒนาไป สิ่งที่ใตร่ตรองได้ ให้ผู้คนเลือก เหมือนที่ยุคแห่งแสงสว่างได้นำแนวคิดให้คนยุโรปเลือก ไม่ใช่การใส่ฝังหัวลงไป แต่เพราะเขาเลือก เหมือนเช่นคนที่สอนให้รู้จักการจุดไฟ แก่ผู้ที่อยากได้แสงสว่าง เขาไม่ได้สั่งให้คุณต้องมีคบไฟในมือ แต่เขาบอกวิธีที่ทำให้ความหวังที่จะมีแสงสว่างได้นั้นเกิดขึ้นจริงได้ จากคุณ : i.everyday - [ 14 ก.พ. 52 15:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 27 การคิดสิ่งที่ดีกว่าในการปกครองของจีน จำเป็นต้องเอาชนะอำนาจครอบงำ ต้องดูสถานะการณ์ ปัจจัย ความเหมาะสม การคิดระบอบการปกครองไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และการเปลี่ยนนั้นยากยิ่งกว่า แต่ธรรมชาติจะนุนหลังสิ่งที่ดีกว่าเสมอ เป็นการคัดเลือกก็ว่าได้ เพราะสิ่งที่ดี คือสิ่งที่ตอบสนองสัญชาติญาณมนุษย์ได้เหมาะสมกว่า ดังนั้นเมื่อเวลามาถึง มนุษย์จะรับสิ่งที่ดีกว่า อาจใช้เวลานานแสนนาน แต่โลกก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้ว ว่าสิ่งที่ผมกล่าวนั้นเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะอธิบายด้วยหลักพฤติกรรม มนุษยนิยม หรือศาสตร์ใดๆ จุดร่วมมันคือ สิ่งที่ตอบสนองต่อสัญชาติญาณมนุษย์จะชนะ ท่านคงไม่ฏิเสว่าต้องการความยุติธรรม  ความเหมาะสม อิสระภาพ ความสุข ความโปร่งใส การเข้าถึงความจริง  ความอยากรู้ การพิสูจน์ สิ่งเหล่านี้ท่านต้องการ มันเป็นธรรมชาติของท่าน และเราทุกคน ทั้งนี้ประชาธิปไตยเคยเกิดอยูช่วงนึงในจีน แต่ก็แพ้ ไม่ใช่เพราะเหตุผล แต่เพราะอำนาจ และการครอบงำครั้งใหม่ การครอบงำทำให้สัญชาติญาณแสดงออกไม่เต็มที่ แต่สักวันมันจะแสดงออกมา เมื่อตาสว่าง และท่านจะลำบากใจเมื่อถึงวันนั้น ดังที่คนเกาหลีเหนือต้องการอพยพอยู่หนีเสมอ ดังที่คนคิวบาหนีมาอยู่ไมอามี่ในยุคของ จิมมี่ คาร์เตอร์ จีนเป็นรถไฟที่ยังไม่ถึงปลายทาง บางทีอาจไม่มีใครถึง แต่เวลาจะบอก ปลายทางนั้นคือสิ่งที่ดี สิ่งที่คนรอ เว้นแต่เราจะเปลี่ยนธรรมชาติเราได้ เปลี่ยนพันธุกรรมเราได้ เมื่อนั้นปลายทางถึงจะเปลี่ยน และคอมมิวนิสต์ หรืออนาธิปไตย อาจตอบสนองสัญชาติญาณใหม่ได้ดีกว่า พันธุกรรมใหม่-ความต้องการใหม่ แต่ตอนนี้ วันนี้ มนุษย์ ก็คือ มนุษย์ อย่างที่ท่านรู้จัก หากกำจัดอคติ การครอบงำ และหันมาให้เหตุผล สิ่งที่ดีนั้น ท่านก็รู้ว่ามันคืออะไร ท่านจะถกเถียงมันไม่ออกในที่สุด และมนุษย์ก็จะคือมนุาย์ไปอีกนานแสนนาน ผมเชื่อ จากคุณ : i.everyday - [ 14 ก.พ. 52 15:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมไม่ได้บอกหรอกนะว่าที่ใดในโลกเป็นธรรมชาติ100เปอร์เซ็นต์ มันเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็มีระดับของธรรมชาติกว่า--ฝืนธรรมชาติกว่า ดีกว่า แย่กว่า ระบอบที่แย่กว่า สังเกตุได้จากการห้ามปรามที่มากกว่า อย่งเกาหลีเหนือ หรือยุโรปยุคมืดที่เป็นแบบนั้น และเราก้รู้ว่ามันไม่เหมาะ มันไม่ดี ...มันห้ามสัญชาตญาณมนุษย์ เพราะมนุษย์ย่อมต้องการหาความจริง เพราะมิเช่นนั้นเรายังเป็นมนุษย์หินกันอยู่ ล่าสัตวืมือเปล่าไปวันๆ อิสระเป็นตัววัดหนึ่ง ของสิ่งที่ท่านต้องการ หมดแล้ว เมื่อวานทู้โดนลบ ยังไม่ได้อ่านเลย แต่เซฟไว้ จากคุณ : i.everyday - [ 14 ก.พ. 52 15:13:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบเข้ามาอ่าน ที่ห้องนี้ มาก เพราะ มี ผู้มีความรู้มากมาย ที่สำคัญ นอกจากมีความรู้แล้ว ยังมีความคิด ที่แฝงด้วยคุณธรรม กับ จิตสำนึกที่ดี ผมมั่นใจ ประเทศไทย ยังอยู่ได้ อีก นาน ปล. ผมตั้งข้อสังเกต ว่า ระยะหลัง เริ่มมี กระทู้ ที่เหมือนจะสงสัย แต่การตอบ ดูจะหมิ่นเหม่ มากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ จากคุณ : คิดถึงเมืองไทย (คนไทย ในอินโดฯ) - [ 14 ก.พ. 52 16:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อันนี้อาจไม่เกี่ยวกับกระทู้นะครับ  แต่ขอตั้งข้อสังเกตุนิดนึง ในปัจจุบัน  ชนชั้นปกครองของจึน ลึก ๆ แล้ว เค้าก็คงยอมรับในส่วนดีของระบอบประชาธิปไตยนะครับ  เห็นได้จากเริ่ม ค่อย ๆ เปิดเสรีในด้านการค้า การลงทุน และเรื่องอื่น ๆ ยกเว้น เรื่องระบอบการปกครองเท่านั้น  แหม ก็น่าอยู่หรอกครับ  ตัวอย่างมีให้เห็น จะ จะ  อย่างพี่เบิ้มรัสเซีย หรืออดีตสหภาพโซเวียต ที่เรารู้จักกันอย่างเงี้ย  หรืออย่าง ยูโกสลาเวีย  และอดีตประเทศคอมฯ หลาย ๆ ประเทศ ที่เปิดรับเสรีนิยมอย่างไม่ระมัดระวัง  ประเทศแตกเป็นเสี่ยง ๆ มีปัญหาภายในมากมาย  แทบไม่เหลือความเป็นชาติ แตกออกเป็นประเทศเล็กประเทศน้อย สงคราม ความตกต่ำทางสังคม  และเศรษฐกิจ  นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เค้ากลัวครับ  อีกอย่าง ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์จีน ดี ๆ แล้ว ส่วนใหญ่  ที่มักทำให้จีนมีปัญหา ทำให้ประชาชนต้องลำบากยากแค้นนั้น  มาจากความอ่อนแอแตกแยกของชนชั้นปกครองครับ  การเมืองไม่นิ่ง  มีการทรยศหลัง แย่งชิงบัลลังกันวุ่นวาย  แต่คนที่รับผลกระทบมากที่สุดคือประชาชนครับ  ผมว่าคนจีนที่เป็นชนชั้นปกครอง ในปัจจุบัน อาจจะกังวลตรงนี้มากกว่า ก็ได้ครับ ส่วนเรื่องแนวคิดฮ่องเต้นั้น เห็นด้วยกับหลาย ๆ ท่านครับ  อิธิพลจากลัทธิขงจื้อเป็นหลักครับ จากคุณ : ckman (ckman) - [ 14 ก.พ. 52 21:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ข้างบนพูดที่อยากพูดกันไปหมดแล้ว กระทู้นี้เลยขอแค่อ่านพอ เสริมนิด ชื่อระบบอาจแตกต่างกัน แต่เนื้อในของแต่ละระบบถ้าดูดีๆแล้ว ไม่ได้ต่างกันมากหรอก และเป็นมานานมากแล้ว ถ้ายังไงแนะนำให้ลองศึกษาปวศ.จีน และยุโรป เพิ่มเติมลึกๆดู จขกท.ตั้งคำถามได้ชวนแอบแฝงมาก แต่ผมมองในแง่ดีว่าไม่ได้คิดอะไรก็แล้วกันนะ จากคุณ : eagle1000 - [ 14 ก.พ. 52 23:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมบอกเลยว่า มันเป็นธรรมชาติ ของคน ที่เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ก็ต้องการผู้นำ เพียงว่ามันจะมาอยู่ในรูปแบบไหนแค่นั้นเอง ประชาธิปไตย ที่บอกว่า คน ทุกคน เท่าเทียมกัน มันไม่มี และไม่เคยมีบนโลก ใบนี้หรอกครับ  เพราะคนทุกคน ไม่ใช่หุ่นยนต์ ยังไงมันไม่เท่ากัน ทั้ง ปัญญา กำลัง ความสามารถ  ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเงินทอง หรือศีกดินาอะไรเลย ยิ่งแม้แต่คอมมิวนิสต์ ที่สามารถบอกได้ว่า มันคือประชาธิปไตยสัมบูรณ์ มัน ก็ไม่เคยเกิดขึ้น สุดท้ายมันก็แค่ เปลี่ยนวิธีการมีอำนาจ ของคนชั่นบน โดยหาข้ออ้างสวยๆ เพื่อให้ได้มีอำนาจนั้น ในความเป็นจริง จีนเอง ตอนคอมมิวนิสต์ขึ้นมา คุณรู้หรือไม่ครับว่า แท้ที่จริง คนอย่างเหมาเจ๋อตุง เขาเองก็คิดว่า สวรรค์ เลือกเขา ไม่ได้ต่างจากฮ่องเต้ยุคต่างๆเลย แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 52 01:04:16 จากคุณ : Angleevil - [ 15 ก.พ. 52 00:21:17 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สรุป จะ เรียกว่าอะไร  ชนชั่นปกครอง ก็ต้องหาช่องให้ตนเองได้มากกว่าคนอื่นทั้งน้านนนน แต่มีคนบางกลุ่ม เชื่อ หลักการ มากเกนไป ซะจนไม่คิด ให้มันลึก กบเลือกนายไปวันวัน  พยายามเข้า  หนูหนู จากคุณ : tinglee tingamee - [ 15 ก.พ. 52 03:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ฮ่องเต้ ก็คือการปกครองระบอบกษัตริย์  แล้ว คุณสงสัยตรงไหน  ประเทศอื่นๆก็มี แบบนี้มาเป็น พันๆปี เหมือนกัน  เพียงแต่ กษัตริย์ ของจีน เรียก ว่า ฮ่อง เต้ ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : มาสเตอร์ โยดา - [ 15 ก.พ. 52 17:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 35 .....คห.21"เผด็จการ หากทำเพื่อ ประชาชนส่วนรวม บางทียังยืนยงกว่า ประชาธิปไตยขี้ฉ้อ นะครับ" ชอบประโยคนี้มาก จากคุณ : รู้น้อยไปหน่อย - [ 15 ก.พ. 52 19:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอตอบกว้างๆว่า ระบบ Authoritarian นั้นเป็นระบบที่อยู่คู่กับมนุษย์ชาติมาโดยตลอด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่มนุษย์ไม่ได้ "ปลดแอก" นั้น ไม่ได้หมายความว่ามันดี เมื่อเรามองเข้าไปแล้วมันก็คือข้อจำกัดทางเทคโนโลยี (และอำนาจ) ในสมัยนั้นนั่นเอง ดังสังเกตได้ว่าการเปลี่ยนจากระบบ Authoritarian มาสู่การปกครองระบอบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตย หรือคอมมิวนิสต์ ล้วนเกิดมาไล่ๆกับการปฎิวัติอุตสาหกรรมทั้งนั้น ดังนั้นการที่จะเอาวิธีคิดแบบยุคโลหะ มาเทียบกับวิธีคิดแบบยุคอุตสาหกรรม ด้วยการมองย้อนกลับไปแล้วบอกว่าระบบ Authoritarian นั้นดีเลิศเหลือหลายเพราะใช้มานานหลายพันปี เคยสร้างความเจริญรุ่งเรืองสมัยถัง สมัยพระเจ้าอโศก Louise XVI   Queen Victoria Montezuma Ramsis IV ฯลฯ เติมเอาเองเยอะแยะไปหมด ก็คล้ายกับการเอาลูกคิดไปเทียบกับเครื่องคิดเลขนั่นเอง (ลูกคิดเป็นสุดยอดเครื่องคำนวณพื้นบ้านจริงๆ เห็นก๋งผมดีดลูกคิดแล้วงงว่าทำได้ยังไง) ที่ระบบ Authoritarian ยืนยงอยู่ได้ก็เพราะว่าการติดต่อสื่อสาร และการเดินทางนั้นไม่ได้สะดวกง่ายดายอย่างทุกวันนี้ การรวมตัวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หรือปลดแอกนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นแค่ในระดับชุมชนที่ได้รับความไม่เป็นธรรม ..... ซึ่งก็ถูกกวาดล้างได้ง่ายโดยระบบรวมศูนย์ที่มีการบริหารจัดการดีกว่า มีการติดต่อสื่อสารที่ดีกว่า ต่างกับปัจจุบันที่การสื่อสารสะดวกรวดเร็ว ความไม่เป็นธรรมในระดับท้องถิ่นสามารถขยายเป็น Talk of the Town ภายในเวลาข้ามคืน ดังนั้นอำนาจของระบบ Authoritarian ที่สำคัญที่สุดคือ ข่าวสาร และอาวุธ จึงเสื่อมประสิทธิภาพไปอย่างรวดเร็วในหลายๆประเทศทั่วโลก แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 52 09:17:45 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 52 09:15:20 จากคุณ : Nexus - [ 16 ก.พ. 52 09:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นด้วยกับความเห็นส่วนใหญ่ ติงนิดหนึ่งว่าระบบที่จีนเห็นดีเห็นงามอยู่ตอนนี้คือระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม (เปลี่ยนจากสังคมนิยม) นะครับ แต่ในทางการเมืองเขายังเป็นคอมมิวนิสต์อยู่ ไม่ใช่ประชาธิปไตย ทุนนิยมกับประชาธิปไตย จริงๆแล้วมีความขัดแย้งกันมากมาย แต่ทำไมมาอยู่รวมกันได้ ทำไมประชาธิปไตยกลายเป็นข้ออ้างความชอบธรรมของโลกทุนนิยมได้ อันนี้ยาว จากคุณ : เชษฐา - [ 16 ก.พ. 52 13:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ระวังโดนข้อหาไม่จงรักภักดีนะครับ....ประเทศชั้นนำบางประเทศในอุษาคเนย์ก็ยังนิยมระบบฮ่องเต้อยู่นะครับ จากคุณ : ทูลฝ่าบาท (Kumarasambhava) - [ 22 ก.พ. 52 23:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ ไม่เกี่ยวและอย่าเบี่ยงประเด็นครับ มันเป็นกฏหมายของแต่ละประเทศ ซึ่งมันก็มีความเหมาะสมกับวัฒนธรรม ประเพณี และความคิดของคนส่วนใหญ่ของชาตินั้นอยู่แล้วในเรื่องที่ว่าด้วยการลบหลู่ราชวงศ์ ถ้ามันไม่เหมาะสมจริงๆ โดบบริบทของสังคมส่วนใหญ่ก็จะเกิดการวิพากษ์จนกระทั่งนำไปสู่การเปลีย่นแปลงในข้อนี้เอง แต่ในเมื่อสังคมหนึ่งๆยังไม่พร้อม กฏหมายนี้ก็ยังต้องมี และก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายตรงไหน จากคุณ : eagle1000 - [ 4 มี.ค. 52 13:23:13 ]