Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    O--------> ชุมนุมมังกร พยัคฆ์ จิ้งเหลน ตุ๊กแก ชะนี และขันที อิ๊อิอิ <--------O [กระบวนท่าที่สองและสาม]

    กระบวนท่าที่ศูนย์และหนึ่ง
    http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K7523585/K7523585.html






    วานรเฒ่า : ขออภัยที่มิได้น้อมส่งท่านผู้เฒ่า แหะแหะ

    หลิงเอ๋อร์ (หวงหลิง) : ขอบพระคุณหลิงเจ้

    กระบี่เก้าเดียวดาย : แน่นอนขอรับท่านจอมยุทธเก้ากระบี่เดียวดาย  มี Y นิด ๆ แต่ไม่เน้นหรอก  แค่พอขำ ๆ  




    ขออภัยนะครับที่มาช้า  ช่วงนี้ผมไม่สบายครับ  ป่วยหนักพอสมควร



    -----------------------------------


    กระบวนท่าที่สอง



    หากผู้คนพร้อมใจกันเรียกคนผู้หนึ่งว่าตาเฒ่า
    มันย่อมสมควรเป็นเฒ่าชรา
    แต่มีคนบางคน  แม้มันไม่ชรากลับถูกเรียกว่าตาเฒ่า
    แทนเล่ากงกงถือเป็นคนจำพวกนี้

    แทนเล่ากงกงหนุ่มอย่างยิ่ง
    วัยของมันอย่างมากก็ยี่สิบสองยี่สิบสาม
    โดยเฉพาะเมื่อฤทธิ์สุราของมันถูกรีดเร้นออกจากกระแสโลหิต
    ทั้งยืนตระหง่านอยู่กลางเหลาด้วยท่วงท่าประดุจเทพสงคราม
    มีผู้ใดกล้าดูแคลนมันว่าชราอีก

    “ตั่วกอเมามายแล้ว  ไฉนกล่าวว่าผู้น้องเป็นผู้ต้องสงสัยได้”

    “เรามิได้เมามาย  เรายังคงแจ่มใสอย่างยิ่ง”

    แทนเล่ากงกงยืนยัน  สองตาของมันวาววับดุจสายฟ้า
    จอมยุทธน้อยหน้าหยกพลันพบว่าตนผิดพลาดแล้ว
    ผิดพลาดในที่ใด?
    ย่อมผิดพลาดเพราะยึดถือว่าตั่วกอของมันเป็นผู้เลอะเลือนผู้หนึ่ง  
    ไหนเลยจะนึกได้ว่ากระบี่คมซ่อนในสนิม  
    คนฉลาดแกล้งโง่  
    คนแจ่มใสแสร้งงมงาย
    ผู้ใดยึดถือว่าสามสิ่งนี้ไร้สาระเลอะเลือน  ชีวิตของมันย่อมสั้นและรวบรัดอย่างยิ่ง

    “ขอถามตี่ตี๋”  แทนเล่ากงกงยังคงกล่าวต่อ  
    “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าจดหมายของเรานั้นปลอมแปลง  ในเมื่อมิมีผู้ใดดูออก”

    “เพราะเนื้อความในจดหมาย”  กายตี่ตี๋ยังคงแก้ตัวได้อย่างคล่องปาก

    “เนื้อความใด”

    “จดหมายที่ผู้น้องได้รับ  ไม่มีถ้อยคำลงท้ายประมาณว่า  
    ขอกอดเจ้า  ขอจูบเจ้า  หรือขอจุดจุดจุดเจ้า
    ดังนิสัยปกติของตั่วกอซึ่งมักจะกรุ้มกริ่มกับผู้น้องด้วยวาจาเสมอ  
    ทั้งยังใช้ถ้อยคำเรียบ ๆ ร้อย ๆ  หามีหื่นมีทะลึ่งไม่  นับว่าผิดวิสัยอย่างยิ่ง”

    แทนเล่ากงกงแย้มยิ้ม  “สันดานในกาลก่อนของเราน่าละอายนัก  
    แต่น้องเราก็พูดเองมิใช่หรือว่าบัดนี้เราไม่มีทางทำให้แบดไต้เฮียบระคายแม้รูขุมขน  
    หากจะส่งจดหมายเรียบ ๆ ร้อย ๆ เยี่ยงนั้นให้ตี่ตี๋  ไยน่าประหลาดใจ”

    เง็กมิ่นเสียวเฮียบกายตี่ตี๋หัวร่ออีกครา  
    จากนั้นกางพัดจีบทองคำในมือแล้วโบกให้ลมแก่ตนเอง

    แทนเล่ากงกงเห็นดังนั้นก็ทอดถอนใจ  
    “เฮ้อ...มินึกว่าพัดทองที่เราเคยกำนัลให้แก่ตี่ตี๋จะยังอยู่ดี”

    “มันกลายเป็นอาวุธคู่มือของผู้น้อง  ผู้น้องย่อมถนอมรักษา”

    “น่าเสียดายที่วันนี้มันจะกลับกลายเป็นเศษเหล็กใต้คมกระบี่อักษราของเรา”

    เมื่อฟังคำพูดของตั่วกอ  ใบหน้าของกายตี่ตี๋ก็กระตุกอย่างรุนแรง

    “เยี่ยงนี้แปลว่าตั่วกอจะฉีกหน้าลงมือแล้วสิ”

    “ลงมือก่อนค่อยถามไถ่  ย่อมง่ายดายกว่าถามไถ่โดยมิได้ลงมือ”

    “เพราะเหตุใด”

    “เพราะยามนั้นเจ้าคงมืออ่อน  ไม้อ่อน  ทั้งยังขวัญอ่อนอย่างยิ่ง”

    “ฮาฮา  มีเหตุผล..มีเหตุผล  
    แต่เสียดายที่ผู้น้องยังมิต้องการขวัญอ่อนถึงปานนั้น  
    หากตั่วกอต้องการสอบสวนผู้น้องจริง  เห็นทีคงต้องรบกวนให้ใช้ฝีมืออันแท้จริงออกมา  
    ยังไม่นับว่าตั่วกอไม่มีอาวุธอยู่ในมือจะสยบผู้น้อง  ใช่อวดโอ่เกินไปหรือไม่”

    จอมยุทธน้อยหน้าหยกกายตี่ตี๋กล่าวอย่างถือดี

    ทว่าแทนเล่ากงกงเพียงแย้มยิ้ม  แล้วใช้พลังปราณดึงดูดวัตถุ
    วัตถุที่มันดึงดูดมาย่อมเป็นตะเกียบไม้ด้ามหนึ่ง
    กายตี่ตี๋สีหน้าแปรเปลี่ยนไปอีกครา

    “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพลงกระบี่อักษราของเราร้ายกาจปานใด”  
    แทนเล่ากงกงกล่าวพลางวาดตะเกียบในมือ  คล้ายไล่จิ้มลูกชิ้นในอากาศธาตุ  
    “เราใช้หนังสือแทนกระบี่  ลดทอนความคมกล้า  เจือจางความอำมหิตลง”

    จอมยุทธน้อยไม่ยิ้มแล้ว  เหงื่อเย็นเยียบซึมออกมาเต็มหน้าผาก  
    แม้ฝ่ายตรงข้ามถือตะเกียบ  แต่ท่วงทีคล้ายถือกระบี่วิเศษเล่มหนึ่ง

    “อักษราก็คืออักษร  ทั้งช่วยเชิดชูคนและทำร้ายคน  แล้วแต่จะพลิกแพลงพู่กันอย่างไร  
    เพลงกระบี่ของเราทั้งเพ้อฝันทั้งงมงายดั่งตัวอักษร  
    แต่พอจะให้ผู้หลงใหลมันได้ตายภายในพริบตา”

    “ตั่วกอจะใช้กระบี่อันอำมหิตนี้กับผู้น้อง?”

    “...”

    แทนเล่ากงกงชะงักแล้ว  มันเขม้นมองกายตี่ตี๋เนิ่นนาน
    บรรยากาศผนึกตัวตึงเครียดขึ้นมาจนถึงขีดสุด
    การจู่โจมแรกอาจจะเริ่มขึ้นเมื่อใดก็ได้
    ไม่ว่าจะเป็นกายตี่ตี๋ลงมือก่อน  หรือแทนเล่ากงกงลงมือก่อน
    ก็ใช่ว่าจะทราบผลแพ้ชนะ
    เพราะผู้ยืนอยู่คนสุดท้าย  ก็มิแน่ว่าจะเป็นผู้ลงมือก่อน
    เพราะดาบที่กรีดทีหลัง  มักหนักหน่วงกว่าดาบแรก  ท่านว่าใช่หรือไม่?





    ------------------------------------------------------------







    ทีมบ้อเช้งกลับมายังเหลา
    มันมีผลสำเร็จหรือไม่?
    คงต้องถามถึงขีดความสามารถของมัน
    หากมันไล่ลม  คว้าเงาได้  ย่อมทวงตำราคืนแก่ตั่วกอมัน
    ที่น่าคลั่งใจคือมันไม่มีความสามารถปานนี้

    มือปราบหน้าตาดิบเถื่อนดั่งโจรร้าย  พลิ้วตัวเข้าสู่เหลา
    สิ่งแรกที่มันเห็น  ใช่ซากสังขารของผู้ใดผู้หนึ่งหรือไม่
    ผลการประลองของสองเฮียตี๋เมื่อครู่เป็นเยี่ยงไร
    ใครจะบอกได้?

    หรือหากจะมี  คงมีอยู่ผู้หนึ่ง
    แทนเล่ากงกงผู้ยืนซึมเซาอยู่หน้าโต๊ะสุรา
    แล้วกายตี่ตี๋เล่า  เป็นคนหรือเป็นศพ
    ไม่ว่าจะเป็นอะไร  บัดนี้มันไปที่ใด  คงมีแต่เฒ่าแซ่แทนที่รู้

    “ผู้คนเล่า?”

    แทนเล่ากงกงเงยหน้าขึ้นมาช้า ๆ  กล่าวตอบอย่างเหนื่อยหน่าย

    “พวกมันไปหมดแล้ว”

    “ในพวกมันใช่มีคนทรยศตั่วกอหรือไม่”

    “มี”

    “เป็นผู้ใด”

    แทนเล่ากงกงไม่ตอบ  มันถอนหายใจเฮือกใหญ่  ดูชราลงไปอีกหลายสิบปี
    มือปราบหนุ่มผงกหัวอย่างเข้าใจ

    “ผู้น้องทราบแล้วว่ามันเป็นใคร”

    “เจ้าทราบ?”

    “ย่อมทราบ”

    แทนเล่ากงกงพาลหุบปากอีกครา

    “ตั่วกอปล่อยมันจากไป?”

    “เราแพ้”

    “ท่านไม่คล้ายพ่ายแพ้”

    “แต่เราแพ้แล้วจริง ๆ”

    แทนเล่ากงกงพูดความจริง  
    มันมิได้แพ้กระบี่  มิได้แพ้กระบวนท่า  ยิ่งมิได้แพ้พลังฝีมือ  
    มันแพ้น้ำใจของมันเอง  
    ผู้ใดใช้ให้มันรักกายตี่ตี๋ปานนั้น  ผูกพันปานนั้น

    มือปราบไร้ใจทีมบ้อเช้งถอนหายใจตาม
    มีคำกล่าวว่านามอาจตั้งได้พลาดผิด  แต่ฉายาตั้งได้มิผิด
    ผิดแล้วสำหรับมือปราบหนุ่ม  
    มันมากน้ำใจ  ไยผู้คนว่ามันไร้ใจ?





    -----------------------------------------------------------------------




    นอกเมืองหลายสิบลี้  
    อาชาสีดำสนิทดั่งแพรไหม  ดำดั่งเส้นผมของหญิงคนรัก  ดำดั่งโลหิตที่ต้องพิษ
    ผู้ควบขับอาชาอยู่ในวัยฉกรรจ์  ทั้งเลือดร้อนรุนแรง  ทั้งมุทะลุพลุ่งพล่าน
    สองตาเจ็บช้ำของมันแดงฉานประดุจเลือด  มันพาลไม่มีน้ำตา
    หรือน้ำตาของมันแห้งเหือดไปพร้อม ๆ กับชีวิตจิตใจของมัน
    มันเป็นผู้ใด?

    ถามยี่สิบเอ็ดมณฑล  กับอีกห้าสิบหกหัวเมือง
    ผู้ใดไม่รู้จักยี่ห้อผู้กล้าเสเพลแบดไต้เฮียบสมควรไสหัวไปเกิดใหม่

    แล้วผู้ใช้แพรแดงผืนยาวคล้องกับต้นไม้ต่างชิงช้า  
    เอนกายโล้ขวางทางม้าของแบดไต้เฮียบ
    ใช่สมควรไสหัวไปเกิดใหม่หรือไม่?

    แบดไต้เฮียบชิงชังสตรี  โดยเฉพาะสตรีที่ร่านร้อนดั่งสุนัขตัวเมียติดสัด
    สตรีพาลชมชอบมัน
    ชมชอบความหล่อเหลา  ทรัพย์สมบัติและชื่อเสียงของมัน
    คนบนชิงช้าพาลเป็นสตรี  เป็นสตรีที่ร่านร้อนนางหนึ่ง
    ทั้งยังชมชอบแบดไต้เฮียบอย่างยิ่ง

    “หากเราเป็นท่าน  เราโกวเนี้ยคงขับม้าควบเข้าเหยียบนางแพศยานางนี้ให้บี้แบนไปแล้ว”

    ดรุณีบนชิงช้าพลันกล่าววาจาทักทายแบดไต้เฮียบ
    ซึ่งหยุดม้ากะทันหันจนอาชาดำยกขาหน้าทั้งสองตะกุยขึ้นจากพื้น  
    นางกลับเรียกตนเป็นหญิงแพศยาได้อย่างไม่ละอายปาก

    “จงหลีกทางไป  ข้าไม่มีอารมณ์สนทนากับเจ้า”

    มันกล่าวแล้วก็สีหน้าเคร่งเครียดระวังขึ้น  
    เพราะเพิ่งสังเกตเห็นว่าชิงช้าที่มันเข้าใจว่าทำจากแพรนั้น  
    ที่แท้เป็นแส้แดงยาวยี่สิบเชี๊ยะ  

    ในสาระบบอาวุธยุทธจักร  
    อาวุธอันตรายที่สุดเป็นอันดับห้าคือตำรากระบี่อักษราของแทนเล่ากงกง  
    แต่ในอันดับสี่กลับเป็นแส้แดงยาวยี่สิบเชี๊ยะ
    มันอาจมิรู้จักเจ้าของ  แต่มิอาจไม่รู้จักอาวุธ
    ดังนั้นจึงรู้จักฉายานามของนางตามที่บันทึกไว้
    อสรพิษแส้แดงเจสซี่โกวเนี้ย!




    --------------------------------------------------------------

    แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 17:06:44

    จากคุณ : ปฤษณะ - [ 20 ก.พ. 52 17:04:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com