Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    แนะนำประสบการณ์ในการพูดภาษาอังกฤษของผม

    กว่าจะเป็น yokekung ในวันนี้ได้ มีที่มาครับ

    ด้วยความที่เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ประถม 1 (อนุบาลจำไม่ได้ว่าเรียนอะไรไปบ้าง) แล้วเป็นโรงเรียนเอกชนด้วย สมัยก่อนจำได้ว่าอาจารย์นี่เก่งเนอะ สอนทุกวิชาทั้งอังกฤษ ไทย เลข สังคม สปช สลน กพอ (ก็มันมีอยู่ไม่กี่วิชานี่น่า) อาจารย์บางคนก็สอนหลายวิชา พอเรียนมัธยมก็เริ่มแปลกใจว่า อาจารย์มีหลายคน คนนึงสอนวิชานึงเลย ไม่ได้สอนครบทุกวิชาแบบตอนประถม

    ภาษาอังกฤษนี่ชอบจริงๆน่าจะเป็นตอน ม.ปลาย เพราะตอน ม.ต้นก็เรียนตามปกติ แต่พอเลือกวิชาตอน ม.ปลายก็เลือกเอกภาษาอังกฤษ - ฝรั่งเศส (แต่ฝรั่งเศสเนี่ย ไม่กระดิกหูเลยสักนิด) รู้ว่าชอบเรียนภาษาอังกฤษ เลขนี่ไม่เข้าสมองเลยด้วยซ้ำ ก็เลยคิด (เอง) ว่าชอบภาษาอังกฤษแน่เลย จนมาถึงช่วงสอบ ภาษาอังกฤษที่เรียนจะมี Reading, Grammar, Writing แต่เราดันชอบ Reading มากกว่านะ เคยทำคะแนนได้ท็อปของสายด้วย สำหรับ Reading ก็เลยคิดว่า เอ่อ เราน่าจะไปด้านภาษาอังกฤษดีกว่านะ

    พอเรียนมหาวิทยาลัย ก็เลือกเรียนเอกภาษาอังกฤษ เรียนการแปล เอ่อ เราชอบแปลนี่ ชอบแปล ชอบเขียน Writing ก็เขียนไปเรื่อย ตอนเรียนการแปลก็ชอบแปลภาษา พอทำงานก็เลยได้โอกาสในการทำงานแปล โดยรับงานแปล Freelance แต่จะแปลในเรื่องที่ถนัด ก็คือคอมพิวเตอร์ ไอที มือถือ แล้วขยับมาเขียนบทความไอที คอมพิวเตอร์ มือถือ เคยแปลกฎหมายแล้วท่าทางจะไม่รอด เลยคิดว่าแปลในเรื่องที่ตัวเองชอบและถนัดจะดีกว่า

    ส่วนเรื่องการพูดภาษาอังกฤษ ด้วยความที่อาจารย์เราจะสอนเป็นภาษาอังกฤษ (ก็เราเรียนเอกภาษาอังกฤษนี่) แต่ที่กล้าพูดก็เพราะเรียนพิเศษ มศว บางเขน พอดีว่าพ่อสอนอยู่ที่นั่นแล้วเป็นผู้ดูแลโครงการด้วย ก็เลยได้เรียน โดยจะเป็นอาจารย์จาก AUA แต่ว่าแทนที่จะเรียน 3 ชั่วโมง เรียน 4 ชั่วโมง (ใช้หนังสือ Interchange เหมือนกับ AUA แต่ว่าเล่มนึงใช้ 2 คอร์ส)
    โดยช่วงแรกๆจะเรียน Grammar แล้วค่อยไปฝึกพูดกันเอง อีก 2 ชั่วโมงให้หลังคุยภาษาอังกฤษกันเอง โดยมีอาจารย์เดินดูการจับคู่คุยกัน ข้อดีคือการเรียนภาษาอังกฤษ อย่าให้เกินกลุ่มละ 10 คน เพราะจะได้จับคู่กันง่าย และอาจารย์ฝรั่งดูแลทั่วถึง

    พูดไปเถอะ อย่าไปกลัว
    ตอนเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้น อาจารย์ฝรั่ง เราก็คุยไปเรื่อย ไม่ต้องไปสนใจไวยากรณ์ ไม่ต้องกลัวผิดหรือถูก รู้สึกสนุกที่คุยกับเขารู้เรื่อง หัวเราะสนุกสนาน เคยนั่งคุยกับอาจารย์บนรถเมล์เป็นภาษาอังกฤษตลอดทาง มีแต่คนมองทั้งรถ (สงสัยจะคุยดัง หรือไม่เค้าก็แอบฟังว่าคุยอะไรกัน)

    ก็เลยอยากจะแนะนำเพื่อนๆว่า อยากพูดภาษาอังกฤษได้ ไม่ต้องไปกลัวพูดผิด พูดไปเถอะ ขอให้คนที่คุยด้วยเข้าใจก็พอแล้ว

    ส่วนเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษ ก็อย่างที่บอกก็คือ อย่าคิดว่าเรียนเยอะจะเก่ง ให้เราได้ฝึกเยอะๆ พูดเยอะๆ แบบไม่กลัวจะดีกว่า

    คำศัพท์รอบตัว

    คำศัพท์รอบตัว เกิดจากการที่เราเอาคำศัพท์รอบตัวมาใช้ สังเกต อ่านรอบๆตัวเรา ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษหมด อย่างเข้าไป Food Court ก็จะเห็นป้าย Inkjet เป็นภาษาอังกฤษทุกอย่าง ป้ายแคชเชียร์ ป้ายหยิบช้อนส้อม ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ ป้ายบอกทาง สามารถเรียนรู้คำศัพท์ได้ทั้งหมด

    ใครๆก็คิดว่าจบเมืองนอกแล้วหรู แต่ผมว่าไม่ใช่
    เพื่อนผมเข้ามาเรียนตอน ม.ปลาย จบจากเมกามา แต่กลับตก Grammar ครับ

    เป็นเรื่องน่าคิด เพราะจริงๆแล้ว คนที่พูดภาษาอังกฤษจริงๆเขาไม่ได้เน้น Grammar เลยสักนิด พูดกันรู้เรื่องก็พอแล้ว

    น่าแปลกจากที่เด็กจบเมืองนอก แต่ไวยากรณ์แย่ในไทย แต่เรื่องพูดนี่ไม่ต้องห่วงเลย

    คนไทยมุ่งเน้นแต่ Grammar เพื่ออะไรครับ เพื่อสอบ จะมีสักกี่คนท่อง 14 tenses ได้หมด แต่ดันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้

    ยิ่งตอนทำงานเห็นได้ชัดเลย จบ ป.โทเมืองนอก แต่ภาษาอังกฤษต้องมาถามผม ต้องมาถามคนจบ ป.ตรี สะกดก็ผิด นี่เหรอครับ เรียนเมืองนอกไม่ได้แปลว่าเก่งภาษา แต่ความคิด แนวคิดอาจจะดีกว่าคนไทย (นิดหน่อย)

    ลองฝึกเยอะๆนะครับ เราก็ไม่ได้เก่งแต่อาศัยจดจำเยอะ ศึกษารอบตัวเยอะ
    ขอให้โชคดีสมความตั้งใจครับ

    yokekung

    จากคุณ : yokekung - [ 22 ก.พ. 52 19:04:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com