ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องหม่องเนี่ยไม่รู้หรอก แต่เรื่องปิงปองนี่ฝอยได้ยาวเลย เพราะเมื่อเด็กๆเราก็บ้าปิงปองอย่างหนักขนาดทำไม้ปิงปองเอง เอายางติดเอง แล้วพกไม้ปิงปองใส่กระเป๋าสะพาย (สมัยนั้นเขานิยมกระเป๋าสายการบินกัน) ไปตีปิงปองพนันตามแหล่งต่างๆ ที่อันตรายมากๆ คู่ซ้อมปิงปองของเราทุกคน เคยเป็นคู่ซ้อมมือปิงปองอันดับหนึ่งของประเทศไทยมาแล้ว และพวกเขาติดทีมชาติไทยด้วย มี coach เก่งๆสอนให้...ซึ่งจริงๆแล้วเราน่่่าจะเจริญรอยตามแบบพวกเขาโดยการตีปิงปองติดทีมชาติไทยอันดับต้นๆด้วยซ้ำไป แต่เกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้น เป็นบทเรียนอันมีค่าในชีวิต...ถ้าสนใจเราจะค่อยๆเรียงลำดับแล้วเล่าให้ฟัง... จากคุณ : white rabbit - [ 2 มี.ค. 52 09:43:00 A:192.168.0.17 X:124.121.99.206 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สนใจครับ มาแลกเปลี่ยนกันก็ดี ผมเล่าให้ฟังก่อนก็แล้วกัน ในฐานะที่เป็นผู้ตั้งกระทู้ หลังจากที่ทำงานแล้ว 2-3 ปี ผมก็ยังตระเวณแข่งอยู่นะ กับปูนเล็กนี่ก็เคยไปแข่งกับเขา แบบไม่เป็นทางการน่ะ แต่ส่วนใหญ่แข่งกับบริษัทในเครือ มีอยู่แห่งหนึ่งเป็นบริษัท finance อยู่ซอยหลังสวน ผมชอบไปที่นี่เพราะจะได้ถือโอกาสไปกิน "เสือร้องไห้" กับ "ต้มแซ่บ" ของโปรดตั้งแต่ยังเรียนอยู่ปี 1 ด้วย อิอิ ที่นี่ผมเคยปราบกระบี่มือหนึ่งของเขาด้วยกระบวนท่าพิสดาร คือเสมอกันที่หนึ่งต่อหนึ่งเซ็ตก่อน พอขึ้นเซ็ตที่สามซึ่งเป็นเซ็ตตัดสิน ผมเปลี่ยนไม้ เอาไม้ที่เรียกว่า "ยางเน่า" นี่แหละครับมาตี ลูกที่ตีโต้ไปนั้นมันไม่มีแรงอะไรเลย เพราะยางมันเน่าแล้ว แต่แกล้งทำท่าทางเสียราวกับว่าลูกนี้แรงเสียเต็มประดา ฝ่ายโน้นตีโต้กลับมา ไม่กดจนติดเน็ดก็ช้อนลูกลอยโด่งออกนอกโต๊ะไปเลย เพราะจับทางไม่ออก และไม่มีเวลามาดูลูกปิงปองด้วยว่า spin มาจริงๆ ขนาดไหน เพราะผมเร่งเกมให้เร็วขึ้น 555 แต่วิธีนี้ไม่ควรใช้กับการแข่งขันอย่างเป็นทางการนะครับ ผมเห็นว่ามันไม่ค่อยแฟร์ ที่ผมทำไป (ตอนนี้สำนึกผิดแล้ว ฮือๆๆ) ก็เพราะเห็นว่าเป็นการเล่นกันเองสนุกๆ ระหว่างบริษัทในเครือ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 2 มี.ค. 52 15:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กลายเป็นกระทู้ปิงปิงไปซะอย่างงั้น จากคุณ : ๛กอล์ฟ - [ 2 มี.ค. 52 15:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คนห้องนี้คุยกันไปเรื่อยๆ อย่างนี้เองครับ เดี๋ยวก็วกกลับมาที่ประเด็นของกระทู้ ไม่ถือสากัน เพราะสำหรับนักแปลแล้ว ความรู้ทุกอย่างล้วนเป็นประโยชน์ วันหนึ่งอาจต้องใช้ความรู้เหล่านี้ในการแปล เพราะการแปล มันต้องรู้ในเรื่องที่จะแปล ถึงจะแปลได้ดี จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 2 มี.ค. 52 16:20:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ยางรุ่นที่สมัยนั้นดังๆมาแรง พวก Dunlop, Butterfly กับ Yasaka เราใช้ๆไปแล้วไม่ค่อยถูกกับ style การตีของเรา .... แต่เผอิญเราไปได้ของดีมาปราบยางพวกนี้หมด นั่นก็คือเราใช้ไม้ปิงปองทำจากผืนแผ่นดินใหญ่จีนยี่ห้อ Double Happiness ซื้อมาทั้งอันเลย โหยางมันดูไม่สวยงาม แต่มือรับที่ไหน chops มาลูกเลียดเน็ต แล้วยืนยิ้มคิดว่าเราจะตีติดเน็ต แต่ที่ไหนได้เราตบไปตรงๆไม่มีติดเน็ตเลย เล่นเอามือรับตกใจว่ามันข้ามเน็ตมาได้ไงกันหว่า...ยางมันมหัศจรรย์มากๆเลยสำหรับยุคนั้นนะ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ Double Happiness ไม่ได้ใช้แบบ all round play แต่ใช้ attack อย่างเดียวเพราะมัน ใช้ chop ให้ลูกเลียดเน็ตไม่ค่อยได้ผล ดังนั้นเราจึงไม่ยอมตั้งรับเลย เวลาป้องกันตัวจึงทำได้แค่ block ระยะประชิดตัว หรือถอยไปโยนลูกไซค์โค้งเพื่อยั่วประสาทอีกฝายหนึ่ง มันเป็นหลักจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ที่กวนประสาทผู้เล่นพอสมควร เพราะว่า มือบุกแบบเราเมื่อโดนตบเสียเอง จนถึงขั้นแทบจะล้มลุกคลุกคลาน (เนื่องจากยันผิดจังหวะ) แต่ดันโยนลูกกลับมาสูงๆ เพื่อยั่วโทสะ ไอ้คนตบหวังจะซ้ำให้ตายคาที่ แต่พอวิ่งจะไปซ้ำลูกมันเฉียงไปทาง backhand กว่าจะใช้ footwork เพื่อวิ่งไปใช้ forehand ให้สะใจได้ คนที่เกือบหกล้มอย่างเรา ก็เผอิญลุกขึ้นมาเตรียมตั้งท่าสวนอยู่แล้ว ตอนนี้คุยเรื่องการเปรียบเทียบยางสมัยนั้นก่อน แต่ถ้าจะฝอยต่อ จะเล่าให้ฟังว่า เวลาลูกปิงปองวิ่งออกจากไม้ที่ตีไป มันไม่ได้วิ่งไปด้วยแรงตีแต่อย่างเดียวเท่านั้น แต่มันวิ่งไปด้วยอะไร? จากคุณ : white rabbit - [ 2 มี.ค. 52 16:21:43 A:124.121.99.206 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 โห เซียนทั้งคู่ เราตีเป็นแต่ไม้ป๊อกแป๊ก จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 3 มี.ค. 52 00:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม้ป๊อกแป๊กนี่แหละถ้าคนตีโต้เก่งๆ แล้วถอยรับเก่งๆ อีกฝ่ายใช้ไม้ติดยางดีๆตีไปแล้วกะแรงลูกไม่ถูกมีสิทธิ์งงจนเีสียมวยพอๆกับตีสู้กับยางเน่าที่คุณหนุ่มเคยใช้เลยหละ เราหัดปิงปองมาด้วยมือขวาก่อน แล้วเคยมือซ้ายหักที่ข้อมือ 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งตอนเล่นบาส อีกครั้งตอนเล่นบอล หมอต่อให้ติด 2 รอบ ไม่มีรอยพิการเลย หมอบอกต่อไปนี้ต้องใช้มือซ้ายให้มากๆ พอถอดเฝือกออก เราก็มองไม้ปิงปองแล้ว ทำตาปริบๆ คำของหมอก้องอยู่ในหัว "ใช้มือซ้ายให้มากๆ" เรากัดฟันหยิมไม้ปิงปองมันขึ้นมาด้วยมือซ้าย ตีเท่าไหร่ ก็ตีไม่ได้ พยายามแล้วพยายามเล่า เวลาผ่านไปตั้งเกือบปี กว่าจะตีมือซ้ายได้เร็วขึ้น อีก 2 ปีผ่านไป เป็น 3 ปี ทีนี้ กลายเป็นมือซ้ายตีเร็วทะลุเป้า เร็วกว่ามือขวาตั้งหลายๆเท่า ในขณะที่ตีด้วยมือขวาแทบไม่เป็นเพราะลืมไปเกือบหมดแล้ว มีอยู่วันไปกันทั้งทีึมโรงเรียนเลย ไปพนันนอกถิ่น เราไม่ได้ตีหรอก เรานั่งเป็นกองเชียร์อยู่ เห็นผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ แต่ตีไปตีมา กลายเป็นฝ่ายเราแพ้เจ้าถิ่นหมด เพื่อนเราไม่รู้จะหาเงินกลับบ้านไง ก็เลยให้เรามาพนันต่ออีก แล้วเขากระซิบว่า "เฮ้ยเอ็งตีมือขวาหลอกมัน ให้มันตายใจก่อนนะโว้ย แล้วค่อยเก็บมือซ้ายไว้เล่นงานมันทีหลัง" (เพราะเพื่อนรู้ว่าเราตีมือขวาช้า) ซึ่งนับว่าได้ผลมากๆ เพราะปิงปองถ้าคนตีเร็วแต่แกล้งดึง คนจะดูรู้ แต่นี้เราตีมือขวา มันช้าโดยธรรมชาติ คนดูไม่รู้ ตอนแรกก็ไม่ต้องแกล้งหรอก ตีไปธรรมดาๆด้วยมือขวา ยังไง ยังไงก็ต้องแพ้อยู่แล้ว แต่เดิมพันน้อยๆ พอฝ่ายตรงข้ามชะล่าใจ พวกเราแกล้งยอมแพ้จะกลับบ้านถ้าไม่ต่อแต้มให้ อีกฝ่ายหนึ่งชะล่าใจเสนอว่า จะต่อแต้มให้เราตั้ง 5 แต้มแน่ะ ... ทีนี้หละมันดิ ทางฝ่ายเราขอขึ้นเงินเดิมพัน พอตกลงกัน ทีนี้เราเปลี่ยนเป็นตีมือซ้าย เราไล่ตบอีกฝ่ายจนวิ่งหลงทางหาบ้านเลขที่ไม่ถูก แล้วชนะรวดไปเป็นเซ็ทเลย พอจะ claim เงินเดิมพัน เกือบจะมีเรื่องตีกันตาย ต้องเจรจากันนาน ต้องยอมให้ฝ่ายเขาแก้มือ แต้มเท่า ไม่มีต่อ ถึงคุยกันรู้เรื่อง แต่เรายังอุตส่าห์ชนะมาได้ เพราะอีกฝ่ายคิดไม่ทันว่าจะแก้ทางคนถนัดซ้ายได้อย่างไร เราคิดๆแล้วเสียใจที่เที่ยวไปหลอกคน แต่วันนั้น มันหน้ามืด เพราะช่วงแรกๆทางฝ่ายเราเสียพนันไปเยอะ เราก็โดนเพื่อนตั้งหลายคนบังคับให้เล่นละครแบบปฏิเสธไม่ได้อีกด้วย จากคุณ : white rabbit - [ 3 มี.ค. 52 02:13:36 A:124.121.99.206 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก๊ากกก ฝ่ายหนึ่งเล่นปิงปองแบบมีเหลี่ยม อีกฝ่ายเล่นมวยไทย น่าจะสมน้ำสมเนื้อ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 3 มี.ค. 52 03:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องเล่นมวยนี่หละตลกดี ตอนก่อนที่จีนผืนแผ่นดินใหญ่ครองความเป็นเจ้าในกีฬาปิงปอง ชิงแชมป์โลกกันออกทีวี ตอนนั้นนั่งดูกัน ไอ้ฝรั่งนั่งข้างๆเรา มันเชียร์นักปิงปองฝรั่งด้วยกัน ฝรั่งข้างๆเราบอกว่า We're gonna chop him off. มันหมายถึงฝรั่งเป็นมือรับจะ chop คือตัดลูกแรงๆเลียดเน็ตมา จนคนจีนตีติดเน็ตหมด (ฝรั่งคิดว่างั้น) แต่ที่ไหนได้ ไปเจอจีนสงสัยมาจากปักกิ่งแฮะ ไม่ใช่จีนฮ่องกง เพราะพี่แกตัวสูงเกิน 180 ซม. พอเห็นลูกปิงปองโดนตัดเลียดเน็ตมา อาเฮียแกไม่สนใจว่ามันจะหมุนเร็วแค่ไหน พี่แกซัดแรงๆเสียงดังเพี๊ยะๆๆๆ เหมือนเสียงประทัดทุกครั้ง เจ้่าฝรั่งก็ถอยฉาก แล้วสับแรงๆเลียดเน็ตมาจี้จุดอ่อนทาง backhand เพราะเห็นคนจีนจับแบบ penholder ซึ่งเขาเชื่อกันว่า backhand มีพิษสงน้อย แต่อาเฮียแกเต้น footwork แล้วใช้ forehand หวดลูกข้ามเ็น็ตไปได้หมด ไม่ว่าจะตกตรงจุดไหนบนโต๊ะ เว้นเสียแต่ตกตรงจุดบอดบางทีก็กล้อมแกล้ม เอา backhand ปัดลูกไปจี้จุดอ่อนฝ่ายตรงข้าม ให้พลาดท่าโยนลูกกลับเข้า forehand ให้โดนหวดอีกหลายชุดจนได้ .... มีอยู่ชุดหนึ่งอาเฮียแกตบไป 30 ทีึซ้อนๆ คนดูนึกว่าจีนจะตบแล้วเหนื่อยเป็นลม คาโต๊ะ แต่ที่ไหนได้ คนรับ กลายเป็นเครียดมากกว่า เพราะพยายาม เฉือนให้ลูกมันหมุนมากๆยิ่งขึ้น กลับกลายเป็นคนรับเหนื่อย รับไอ้ชุดที่โดนตบไป 30 กว่าที่ซ้อนๆกันไว้ไม่อยู่ คนดูเฮกันสนั่นหวั่นไหว เล่นเอา commentator ฝรั่ง (รู้สึกจะเป็นสถานี bbc) ร้องออกมาดังๆว่า My God! He should be a boxer. เพราะท่าอาเฮียแกตบเหมือนท่า Kung Fu จริงๆเลยอ้ะ เราก็เลยหันไปล้อไอ้ฝรั่งว่า You said you're gonna chop him off, eh? สงสัยอาเฮียแกใช้ไม้ปิงปองยี่ห้อเดียวกับเราหรือเปล่าหว่า แต่สั่งทำพิเศษดีกว่าอีกหลายๆเท่า ถึงไม่กลัวลูกตัดเลยสักนิดเดียว แต่แรงแกไม่ใช่แรงนักปิงปองนะ เป็นแรงนักมวยจริงๆด้วยดิ... จากคุณ : white rabbit - [ 3 มี.ค. 52 05:08:58 A:124.121.99.206 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 โห! ตบสามสิบทีซ้อน เป็นเกมที่หาดูยากครับ อิจฉาคุณกระต่าย ง่ะ ที่ได้ดูเกมเร้าใจขนาดนี้ เรื่องไม้ป๊อกแป๊กนี่ อย่าได้ดูถูกเชียวนา พิษสงมันร้ายกาจจริงๆ ถ้าใช้เป็น เพื่อนร่วมทีมของผมสมัยเรียนหนังสือ มันเป็นมือหนึ่งตัวจริง (เดี๋ยวค่อยอธิบายทีหลังว่ามือหนึ่งตัวจริงคืออย่างไร) มันมีไม้สองอัน อันนึงก็ไม้ธรรมดานี่แหละ อีกอันเป็นไม้จีน เอาไว้ปราบเซียน top-spin โดยเฉพาะ ด้านหนึ่งติดยางดีๆ สำหรับเวลาเป็นฝ่ายรุก อีกด้านเป็นไม้เปล่าๆ ในเกมรับ เวลาที่อีกฝ่ายดึง spin มาแรงๆ มันเอาด้านที่เป็นไม้เปล่าๆ นี่แหละครับเคาะป๊อกเดียว ลูกที่ spin มาแรงๆ นั้นหมดฤทธิ์หมดเดชเลย แล้วลูกก็ไปตกสั้นๆ เลียดเน็ตไป เป็นลูกที่เบาหวิวเพราะหมด spin แล้ว มาเริ่มกันใหม่ แต่.. มันได้เปรียบเพราะถ้าเป็นการ spin มาจากระยะไกล อีกฝ่ายต้องวิ่งเข้ามารับ หัวทิ่มหัวตำเลยล่ะ ทีนี้ก็รอซ้ำดาบสอง เจ้าเพื่อนร่วมทีมผมคนนี้ ที่ว่าเป็นมือหนึ่งตัวจริง เพราะฝีมือมันก็น้องๆ ทีมชาติแหละครับ รีไทร์จาก ม.ราม มาเข้า ABAC แล้วรีไทร์จาก ABAC ไปเข้า ม.ราม อีกเป็นคำรบสอง สุดท้ายไปจบที่ราม แล้วแบ็งค์ดอกบัวมาคว้าตัวไปเป็นนักกีฬาของแบงค์ อ้าว..ลืมไปว่าทำไมถึงเรียกตัวจริง เพราะมันจะลงแข่งเมื่อเป็นการแข่งขันกับภายนอกเท่านั้น เช่น กีฬามหาวิทยาลัย ถ้าแข่งกันเองภายใน ABAC มันไม่ลงครับ เดี๋ยวคนอื่นเขาไม่สนุก ป.ล. คุณ ๛กอล์ฟ คห.3 น่าจะแวะมาอ่านอีกนะ ในกระทู้นี้มีศัพท์เฉพาะอยู่หลายคำเลย เช่นคำว่า ยางเน่า ถ้าคุณต้องแปลเป็นอังกฤษ คุณจะแปลอย่างไร หรือถ้าคุณรู้คำในภาษาอังกฤษ แต่คุณต้องแปลเป็นไทย คุณจะแปลอย่างไร (ถ้าคุณไม่รู้มาก่อนว่าในวงการเขาเรียก ยางเน่า) คำว่า เน่า ยังใช้กับวงการนักสะสมธนบัตรเก่าด้วย แบ็งค์เน่า หมายถึงธนบัตรเก่าที่สภาพชำรุดทรุดโทรมมาก ไม่มีคุณค่าพอแก่การสะสมสำหรับนักสะสมรุ่นใหญ่ แต่สำหรับรุ่นเยาว์ ก็เก็บไว้ก่อน รอเปลี่ยนสภาพที่ดีกว่าในภายหลัง อย่างนี้เป็นต้น จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 3 มี.ค. 52 10:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไปขว้างลูกดอกหรือยิงธนู ดีกว่า...อ่านแล้วไม่น่าเล่นด้วยเลย ทั้งคู่น่ะ จากคุณ : tnu - [ 3 มี.ค. 52 10:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไปขว้างลูกดอกพอได้ แต่ธนูไม่น่าไปยิงนะ เดี๋ยวเขาไม่เลี้ยงข้าวพวกเรา แง่ม... จากคุณ : white rabbit - [ 3 มี.ค. 52 18:26:06 A:124.121.101.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ...เหอ เหอ จากคุณ : tnu - [ 4 มี.ค. 52 10:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อยากไป meeting ด้วยจัง   จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 4 มี.ค. 52 16:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขออนุญาตมั่ง ยางเน่า = dead rubber   เลียนแบบมาจากที่ฝรั่งเรียก dead coke คือ coke ค้างปีในตู้เย็น ส่วนตัวแล้ว รักการตีปิงปองมากๆ  แต่ไม่เคยหาโอกาสให้ตัวเอง เพราะมันไม่รู้จะเล่นกะใคร.... ฮ่วย แปลก เมื่อก่อนตี top spin forehand ได้ แต่เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้เลย ทำได้แต่ backhand. จากคุณ : ล็อกอินขอยืม (พระเอกละครหลังข่าว) - [ 4 มี.ค. 52 20:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยางเน่า dead rubber เข้าท่่าแฮะ เอ่อพอพูดถึงปิงปองและเรื่องที่เราพูดไว้ใน #5 ว่า เวลาลูกปิงปองวิ่งออกจากไม้ที่ตีไป มันไม่ได้วิ่งไปด้วยแรงตีแต่อย่างเดียวเท่านั้น แต่มันวิ่งไปด้วยอะไร? ทำให้นึกถึงเหตุการณ์สำคัญมากๆที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราอย่างสิ้นเชิง นั่นก็คือเรื่องที่เราพูดถึงว่าเพื่อนเราหลายๆคนมีโอกาสเข้าไปฝึกซ้อมกับทีมชาติ แล้วเอาเทคนิคดีๆมาถ่่่ายทอดให้เรา สมัยนั้น ชยานนท์ วูวานิช เป็นมืออันดับหนึ่งทีมชาติไทย ตัวเราเองตอนนั้นอายุประมาณ 15 ก็กำลังจะเริ่มไต่อันดับไปโดยการลงแข่งนัดเล็กๆใหญ่ๆไปเรื่อยๆ แต่อยู่ดีๆก็เกิดอะไรบางอย่างขึ้นกับเราที่ทำให้เราต้องเลิกเล่นปิงปองไปนานถึง 10 ปี พอไปเล่นอีกทีก็อายุประมาณ 25 (ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้ว) เล่นๆไปแล้วไปเรียนรู้ความลับอะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับเกมนี้ แล้วก็มีเหตุผลที่ดี ที่จะเลิกเล่นมันไปตลอดชีวิตเลย เำพิ่งตื่นมา เดี๋ยวไปปั่นงานต่อ แล้วจะมาเล่าให้ฟังเรื่อง "พลังเร้นลับที่ขับเคลื่อนลูกปิงปอง" เอ่อถ้าเรานัดเจอกันแล้วไปเยี่ยมเฮีย tnu ก็คงจะดีเนอะ... จากคุณ : white rabbit - [ 5 มี.ค. 52 05:55:01 A:124.121.101.38 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 เหอๆ ยางเน่า จะแปลยังไงดีล่ะ ถ้าให้นักบัญชีแปล คงแปลว่า fully depreciated rubber ถ้าให้วิศวกรแปล คงแปลว่า out-of-use-life rubber ถ้าให้คุณหมอหรือนักกฎหมายแปล คงแปลว่า expired rubber ถ้าให้เกษตรกรแปล คงแปลตรงๆ เลยว่า perished rubber ส่วนคุณพระเอกฯ แปลไว้แล้วว่า dead rubber ฯลฯ sub-total ศัพท์กีฬาปิงปองซะทีนึงก่อนดีไหมครับ ทั้งไทยทั้งอังกฤษ ไล่เรียงมาตามข้อความในกระทู้เลยนะ ยางเน่า chop / top-spin มือบุก มือรับ ไม้ป๊อกแป๊ก (คนจีนจับแบบ) penholder (มันเอาด้านที่เป็นไม้เปล่าๆ นี่แหละครับ) เคาะ (ป๊อกเดียว ลูกที่ spin.......) จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 5 มี.ค. 52 10:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นั่นน่ะสิเกือบลืมศัพท์ง่ายๆ ไปแน่ะ คนไทยเขาเรียก "จับไม้จีน" กับ "จับไม้ไทย" ไอ้จับไม้จีนเนี่ยจำได้ง่าย มันคือ penhold แต่จับไม้ไทยคิดตั้งนานคิดไม่ออก เลย google คำว่า penhold versus * เข้าไป ก็เลยเจอคำว่า shakehand อ้อ เลยจำได้แล้ว แล้วคนจีนคนที่กลายเป็น super star รายที่ตบ 30 ทีรวดนั้น ก็จับแบบ penhold เขาเล่นๆไปโดน objection ซึ่งสิ่งที่เขาทำนะ เราแอบเอาไปใช้ในการเล่นปิงปองครั้งสุดท้ายในชีวิตของเรา เรียกว่าครั้งสุดท้ายไว้ก่อนเพราะยังไม่รู้ว่าจะเล่นอีกหรือเปล่า นั่นก็คือกติกาเขามีอยู่ว่า เวลา serve จะต้องโยนลูกให้เห็นๆ ไม่ใช่แอบซุกไว้ใต้โต๊ะหรือเอาอะไรบังไว้ และห้ามเอาลูกปิงปองขว้างใส่ไม้ตี ผู้เล่นชาวจีนคนนั้นใช้วิธีโยนลูกปิงปองสูงๆเหมือน serve เทนนิส (รู้สึกว่า service แบบนี้ผู้เล่นชาวญีปุ่นชื่อฮาเซกาว่า จะนำมาใช้ก่อนหรือไงเนี่ย จำไม่ค่อยได้แล้ว) แต่มาเข้าประเด็นเรื่องผู้เล่นชาวจีนคนนี้กัน เขาโดน objection โดย umpire (ซึ่งเอาใจช่วยผู้เล่นฝรั่ง) นี่แหละ ข้อหามีดังนี้ เวลาโยนลูกขึ้นสูงฝ่ายตรงข้ามแค่มองลูกหล่นลงมาระยะทางไกลๆก็เมื่อยสายตาเต็มทีอยู่ืแล้ว แต่พอลูกหล่นมาระยะที่จะตี ผู้เล่นชาวจีนก็บิดตัวและเอาหัวไหล่บังลูกไว้ ผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้ามจึงมองไม่เห็นมุมที่ไม้กระทบลูก จึงไม่รู้ว่าผู้เล่นชาวจีน spin ลูกไปทางทิศไหน ทำให้รับลูกเสิร์ฟพลาดโด่งลอยมาให้ตบกระจุยไปทุกครั้ง เลยจาก objection by the umpire ก็เลยกลายเป็นประเด็นที่ต้องทะเลาะกันทั้งสนามแข่งในวันนั้น เนื่องจากตีความกติในสมุดได้หลายอย่าง นั่นก็คือกติกาบอกให้ต้องโยนลูกให้เห็น เขาก็โยนแล้วนี่ แต่ลักษณะการบิดตัวเอี้ยวไหล่เพื่อ gain momentum นั้น มันเป็นท่าตีโดยธรรมชาติของผู้เล่น จะถือว่าเอาลูกไปแอบไว้ที่ไหนได้หรือเปล่า? หลังจากทะเลาะกันจนต้องหยุดการแข่งขันกันไปพักใหญ่ๆ ทีมผู้เล่นชาวจีนยอมยกเลิกท่า serve ดังกล่าวตามที่ umpire ต้องการ ตีๆไปอาเฮียคนนั้นแกชักจะเซ็งๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งตบเป็นชุด แล้วอยู่ดีๆแกไปหยอดหน้าเน็ต แต่พลาดท่าโดนฝ่ายตรงข้ามโต้กลับมาจนอาเฮียรับไว้ไม่ทัน นั่งๆดูอยู่เห็น coach ตะโกนด่่าอาเฮีย อาเฮียกลัวโดนด่าอีก ทีนี้พี่แกเลยตบเป็นชุดไม่เลี้ยงเลย จนชนะไปอย่างรวดเร็ว จากคุณ : หมอดูสำนัก white rabbit (fortuneteller) - [ 5 มี.ค. 52 11:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อาจารย์ white rabbit มีตำนานเยอะจัง อยากฟังค่ะ หนุกดี เรื่องเร้นลับนั้นมีมากมาย แต่ที่แปลกอย่างหนึ่งคือ บางคนในที่นี้มีความสนใจเหมือนกันคือ งานแปล และบังเอิญชื่นชอบอีกอย่างหนึ่งเหมือนๆกัน คือ ปิงปอง คุณ white rabbit คุณหนุ่มไทยฯ = expert ล็อกอินขอยืม = underdog what a coincidence...... สรุปว่า ความสนใจงานแปลมี association กับความสนใจปิงปอง โดยมีนัยยะสำคัญอยู่ในกระทู้นี้ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 11:47:03 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 11:44:58 จากคุณ : ล็อกอินขอยืม (พระเอกละครหลังข่าว) - [ 5 มี.ค. 52 11:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยางเน่า ทางด้านการถ่ายภาพ อาจจะเรียกว่า exhausted rubber หรือ expired rubber ทางด้านการอาหาร อาจจะเรียกว่า spoiled rubber แต่ที่แน่ๆคือยังไม่มีใครตอบคำถามของคุณ หนุ่มไทยไร้นาม เลย พ้มเดาเอาว่า It takes one to know one. นะ คุณว่าไง? จากคุณ : tnu - [ 5 มี.ค. 52 12:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หลังจากที่จีนเป็นเจ้าแห่งกีฬาปิงปองมาหลายชั่วคน ก็มีฝรั่งอัฉริยะชาว Swedish ชื่อ Jan-Ove Waldner มาปราบนักปิงปองชาวจีนได้เป็นคนแรก ที่เป็นเช่นนั้นคงเป็นเพราะว่าเขาเคยอยู่ประเทศจีนมาก่อน และเป็นเพื่อนซี้กับนักปิงปองระดับแนวหน้าของจีน และตีปิงปองกัีนบ่อยๆจนรู้ทางกันดี นั่นเอง พอเล่นชนะคนจีนไปแล้ว เขาก็เลยขับเคี่ยวกับผู้เล่นชาวจีนนานต่อไปอีกเป็นเวลาถีง 21 ปี เพียงแค่ต้องการพิสูจน์ว่า the Chinese are not unbeatableเลยกลายเป็นคู่แข่งตลอดศกในสนามกีฬา (ต่างฝ่ายต่างก็ฝึกลูกศิษย์ให้มาขับเคี่ยวกันต่อไปอีกหลายชั่วคน) แต่ก็เป็นเพื่อนซี้กันในชีวิตจริง จนฝรั่งคนนี้ถึงกับไปเปิดกิจการอยู่ในจีน เมื่อกี้เราเข้าไปอ่านดู สนุกดีเหมือนกัน ลองไปอ่านดูดิที่นี่ http://www.nytimes.com/2008/08/24/sports/olympics/24swede.html?ref=olympics http://en.wikipedia.org/wiki/Jan-Ove_Waldner จากคุณ : หมอดูสำนัก white rabbit (fortuneteller) - [ 5 มี.ค. 52 12:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับที่คุณหนุ่มฯพูดว่า (คนจีนจับแบบ) penholder (มันเอาด้านที่เป็นไม้เปล่าๆ นี่แหละครับ) เคาะ (ป๊อกเดียว ลูกที่ spin.......) ไช่เลยมันหนึ่งใน tactics ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับ "งง" เพราะมีปัญหาในการปรับน้ำหนักการตีให้เข้ากับความเร็วของลูกที่เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน นั่นเอง แต่หลังจากจีนที่ใช้ penhold แล้วโดนฝรั่งใช้ shakeshand เล่นงานเอาสะบักสะบอมไปหลายๆครั้ง จนฝรั่งเกือบจะกล้าสรุปได้แล้วว่า penhold ใกล้จะสูญพันธ์  แต่จีนก็สร้าง Liu Guoliang ที่ใช้ penhold ขึ้นมาได้อีก นักปิงปองจีนคนนี้เอายางติดสองฝั่งของไม้แบบ penhold และสามารถใช้ backhand ของ penhold ทำการ block (ยันระยะประชิดตัว) กับไส่ top spin ได้ด้วย เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า penhold จะยังไม่โดน shakehand ปราบจนสูญพันธ์ไปจากโลกนี้ ลองไปอ่านดูได้ที่นี่ (รู้สึกว่าในเรื่องนี้เขาจะเขียนว่า handshake แทน shakehand นะ) http://news.xinhuanet.com/english/2007-09/19/content_6750809.htm จากคุณ : หมอดูสำนัก white rabbit (fortuneteller) - [ 5 มี.ค. 52 13:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ครับ อาจารย์ธนู ผมก็คิดอย่างนั้น นานเท่านานมาแล้วก็ยังหาเหตุผลอื่นไม่เจอเลย เรื่องลูกเสิร์ฟโดยใช้ตัวบังเนี่ย เพื่อนผมคนนึงก็ใช้นะ แต่ไม่เห็นกรรมการว่าไง ถ้าเน้น spin ดูไม่ยาก คือดูจากทิศทางการแฉลบของลูกหลังจากที่มันกระทบโต๊ะฝั่งของฝ่ายเสิร์ฟ แต่ถ้าการเสิร์ฟครั้งนั้นเน้น speed จี้เข้าจุดอ่อนของอีกฝ่าย อันนี้ดูยากครับว่ามันบวก spin มาในทิศทางไหน เพราะลูกมันเร็วจนดูไม่ทัน จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 5 มี.ค. 52 17:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอเสนอ ยางเน่า = degraded rubber จากคุณ : คนเล่นกีฬาไม่ได้เรื่องซักอย่าง (Canossa) - [ 9 มี.ค. 52 17:24:20 ]