ความคิดเห็นที่ 1 ที่เห็นนี้คือเครื่องสังเค็ด แปลว่าของถวายสงฆ์เนื่องในพิธีศพ ตัวหลักก็คือตู้ใส่หนังสือ และเครื่องอัฐบริขารต่างๆ เจ้าภาพสร้างขึ้น๑๐๐ชุดในงานครั้งนี้ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สมเด็จพุทธปาพจนบดีได้รับพระราชทานโกศไม้สิบสอง โกศชุดนี้ฝีมือสลักไม้ลงรักปิดทองงดงามมาก เป็นฝีมือโบราณ มิใช่ที่สร้างมาเสริมให้พอใช้งานในปัจจุบัน จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หน้าโกศ ตั้งพัดยศ และเครื่องเครื่องอัฐบริขารระดับสมเด็จพระราชาคณะที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รถวอจัตุรมุขของสำนักพระราชวังมารอรับโกศศพท่านอยู่หน้าวัดแล้ว จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พอข้างบนเริ่มสวดมาติกาบังสุกุล ชั้นล่างพนักงานสนมพลเรือนก็เปิดผ้าคลุมโกศลองในเปล่าๆที่เอามาเตรียมไว้ใน ห้องพักเจ้าหน้าที่ บังเอิญผมนั่งอยู่ในนั้นพอดี เลยถีอโอกาสถ่ายรูปได้จะๆ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โกศนี้ กลายเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศของผู้วายชนม์ ไม่ใช่ภาชนะบรรจุศพบุคคลสำคัญของแผ่นดินเสียแล้ว แต่กรรมวิธีเดิมๆยังคงอยู่ โปรดสังเกตเชือกเหลืองที่ถักร้อยรอบโกศ ที่ทำให้ส่วนฝา และส่วนฐาน ติดตรึงแน่นกับตัวโกศ ด้ายดิบที่รัดเอวโกศทำหูไว้สำหรับยก จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โกศที่ตั้งบนรถวอจัตุรมุขเพื่อแห่ไปเมรุหลวง เฉพาะลองในเท่านั้น ไม่มีลองนอก จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พอตั้งเสร็จ ผูกยึดมั่นคงดีแล้วก็ปิดม่านบังตา ข้างล่างพร้อมแล้ว ข้างบนยังไม่เสร็จพิธีสงฆ์เลย จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมขึ้นไปข้างบน เขาเริ่มเชิญญาติโยมลงไปข้างล่างให้หมดได้แล้ว เหลือแต่พนักงาน ผมเห็นช่างภาพของวัด๒-๓คนอยู่ได้ ผมก็อยู่บ้างแต่ยืนอยู่สุดมุมห้องไม่ให้เกะกะใคร ใช้กล้องซูมเอา ภาพจึงคุณภาพไม่ดีนัก พอดูให้เข้าใจได้ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พนักงานสนมจำเป็นต้องรื้อโกศลองนอกและขยับแท่นเบญจาเพื่อให้สามารถยกโลงที่ศพสมเด็จท่านนอนอยู่จริงๆให้ออกมาจากห้องข้างหลังได้ ตอนนี้ฝาโกศถูกยกออกแล้ว จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พอส่วนฝาถูกถอดออกไป ตัวโกศที่เข้าเหลี่ยมมุมขบกันอยู่๒ชิ้นก็ถูกแยกออกง่ายๆ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าทางจะหนักเหมือนกัน เพราะทำจากไม้สักแท้ๆ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยกอีกซีกหนึ่งออกจากฐาน จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนฐานก็แยกออก๒ชิ้นเช่นกัน จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เขาเอามาตั้งไว้ก่อน รอขนลงไปข้างล่างทีหลัง ผมก็ถ่ายจากระยะไกล คอยระมัดระวังกิริยาไม่ให้จุ้นจ้านนักได้แค่นี้ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจากนั้น เขาก็ขยับโน่นขยับนี่ แล้วจึงเข้าไปยกโลงศพสมเด็จท่านออกมา จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โลงของท่านเป็นไม้สักทองใบใหญ่ สมเด็จก่อนมรณภาพท่านนอนไม่เคลื่อนไหวอยู่หลายปี สังขารท่านเหลือนิดเดียว ท่านอายุยืนมาก สิริอายุรวมได้๙๙ปี๔เดือน๑๗วัน จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 00:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อพร้อม ขบวนรถวอจัตุรมุขก็เคลื่อน จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โลงศพของสมเด็จท่านตามรถวอไปในรถตู้คันนี้ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รถนำมีเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้า คอยเอาไม้ค้ำสายไฟให้ทางสะดวกแก่รถวอจัตุรมุขไปด้วย จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมตามขบวนรถไป แต่กว่าจะหาที่จอดรถได้ มาถึงเขาก็เวียนเมรุกันแล้ว เจ้าประคุณพระพรหมมุนี วัดบวร เป็นพระอ่านพระอภิธรรมนำ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ญาติโยมสานุศิษย์ก็เดินตามโกศเปล่า ส่วนของจริงเขาเอาเข้าไปพักรออยู่ในเตาแล้วผมมาไม่ทัน สันนิฐานว่ารถตู้จะวิ่งเวียนเมรุ๓รอบตามประเพณี แล้วยกโลงขึ้นเมรุไปใส่เตาเลย ระหว่างที่กำลังตั้งขบวนแห่ตามพิธีการ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โกศลองในถูกนำขึ้นไปตั้งบนจิตกาธานเพื่อตกแต่งดอกไม้ประดับ  แต่มีการสลับใบที่แห่มาจากวัดและเวียนเมรุไว้ข้างล่าง เอาผ้าคลุมไว้ ใบที่ยกขึ้นไปตั้งสีทองสุกปลั่ง จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แขกสำคัญเริ่มทยอยมาเฝ้ารับเสด็จบนพลับพลาอิศริยาภรณ์ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าสีคราม แดดสาดกระทบยอดทองของเมรุหลวงเป็นประกาย สถาปัตยกรรมอันงามสง่าได้สัดส่วนนี้ เป็นฝีมือรังสรรค์ของ ม.ร.ว. มิตราดรุณ เกษมศรี อดีตสถาปนิกแห่งราชสำนัก สร้างเสร็จในปีพ.ศ. ๒๕๐๒ เพื่อพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระราชอุปัธยาจารย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นองค์แรก แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 19:18:26 จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 26 โกศบนจิตกาธานมีดอกไม้ประดับสวยงามแล้ว จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ใกล้เวลาพวกปี่กลองชนะเข้ามาตั้งขบวน จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ๑๗.๐๐น.ตรง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงประทับชั่วครู่แล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้นสู่เมรุ ทรงทอดผ้ามหาบังสุกุล แล้วพระราชทานเพลิง จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 หลังจากนั้น เสด็จลง ประทับ ณ พระที่นั่ง โปรดเกล้าฯให้สงฆ์ทรงสมณศักดิ์ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ หลังจากนั้นฆราวาสบนพลับพลาที่ประทับได้ทยอยกันขึ้นเผา จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อทุกคนเสร็จขึ้นมาแล้ว จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คราวนี้ถึงตาศิษยานุศิษย์ขึ้นเผาบ้าง จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ด้านหน้าที่ประทับ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ทยอยกันขึ้น-ลง จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พระเณรเยอะมาก จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ร่วมครึ่งชั่วโมงคนจึงเริ่มจะซาลง จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เจ้าหน้าที่เตรียมการเผาจริง จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อปิดฉากบังตา ผมเดินมาคอยด้านหลัง สักครู่สนมพลเรือนก็แบกฝาโกศมาวาง ถ้าเป็นเมรุที่ท้องสนามหลวง ของพวกนี้จะตรงไปพักไว้ที่ศาลาเปลื้องเครื่อง จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เดี๋ยวอีกชุดหนึ่งก็แบกตัวโกศลงมา ใบนี้ปิดทองไว้สุกปลั่งสวยงาม ผมถ่ายไว้ทันก่อนที่เขาจะเอาผ้ามาคลุม จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 39 การเผาจริงเริ่มต้น โดยพระผู้ใหญ่จะขึ้นก่อน จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 40 หลังจากนั้นจะเป็นลำดับของคณะสงฆ์ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:14:50 ]

ความคิดเห็นที่ 41 และฆราวาส ดีที่ยังไม่ได้จุดไฟ มิฉะนั้นกว่าจะถึงตอนนี้ คงทนความร้อนกันไม่ได้แล้ว จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตลอดเวลา แตรวงของนักเรียนวัดราชบพิธบรรเลงเพลงพญาโศก ผมจบเท่านี้ครับ จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 01:16:14 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : อบสฉช (อุบาสกฉางชุน) - [ 8 มี.ค. 52 01:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณครับ จากคุณ : BIZZARE - [ 8 มี.ค. 52 03:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อยากทราบว่าฝาทองๆ ใน คคห 37 ต้องเผาด้วยหรือไม่ ขอบคุณมากๆๆ จากคุณ : กินนรเริงร่า - [ 8 มี.ค. 52 07:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณพี่ที่นำมาภาพดีๆมาให้ชมครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 8 มี.ค. 52 07:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ กินนรเริงร่า อยากทราบว่าฝาทองๆ ใน คคห 37 ต้องเผาด้วยหรือไม่ ................................................................................................ ฝานั้นคือ ฝาโกศลองใน ยังไงก็ไม่เผาครับ เมื่อก่อน การเผาศพในโกศด้วยวิธีสุมไฟเข้าใต้โกศ ดังรูปข้างล่างนั้น ก็ต้องเปิดฝาออกอยู่ดี สมัยนี้ โกศเป็นเพียงเครื่องตั้งไว้เพื่อประดับเกียรติ พอหมดหน้าที่นั้นแล้ว เขาก็ยกไปเก็บไว้ รอไว้ใช้กับรายอื่นต่อไป สงสัยคุณคงมิได้ติดตามอ่าน เองศพในโกศ ผมเอาตอนสุดท้ายมาlinkไว้ให้ จากตอนนั้น ถ้ายังดิดใจอยู่ ก็เข้าไปหาตอนต้นๆได้ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/01/K7399936/K7399936.html จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 07:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เมื่อเช้ามาดูครั้งหนึ่งแล้วค่ะ แต่กลัวว่าจะปาดหน้าเสียก็เลยคอยเพื่อกลับมาดูอีกรอบ ไม่เคยเห็นขั้นตอนหลังฉากแบบใกล้ๆ ขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ ขอบคุณที่ถ่ายรูปมาให้ดูกันค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 8 มี.ค. 52 07:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณมากครับ สำหรับภาพและคำอธิบาย จากคุณ : คนพิการ - [ 8 มี.ค. 52 08:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอขอบคุณสำหรับภาพ และขอกราบนมัสการเจ้าประคุณสมเด็จ ขอดวงวิญญาณพระคุณจงสถิตสวรรค์ ในสัมปรายภพ จนถึงนิพพานด้วยเถิด สาธุ จากคุณ : ศิษย์เจ้าคุณ - [ 8 มี.ค. 52 09:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โอ ... ไม่ได้เข้ามาตามอ่านตั้งแต่เมื่อคืน ขอบพระคุณสำหรับภาพงามและและเกร้ดความรู้ประกอบครับ ดูโกศลองนอกจะหนาและหนักมากจริงๆ . . . เห็นแล้วก็ได้แต่ปลงอนิจจัง... จากคุณ : jassb1 - [ 8 มี.ค. 52 09:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ละเอียดทุกขั้นตอน และพิธีการจริงๆเลยครับ ขอบคุณครับ ขอถามอีกหน่อยครับ โกศไม้สิบสองตอนแยกออกมานั้น ข้างในไม่ได้มีลองในแล้วใช่มั้ยครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 8 มี.ค. 52 10:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่มีครับ ข้างในว่างเปล่า จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 11:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ชอบพระคุณมากครับ จากคุณ : akkarachai - [ 8 มี.ค. 52 11:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับ ด้วยความที่รูปที่คุณได้นำมาลงมีอะไรให้น่าศึกษามากมาย กะจะมาแก้ข้อความ คุณNavarat.C ก็ได้กรุณาตอบไว้ซะแล้ว   คือผมเห็นฉากบังเพลิงที่ขอบเป็นสีชมพูด้านหลังโกศไม้สิบสองน่ะครับ นั่นคือฉากบังเพลิงที่เคยใช้งานพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีใช่หรือเปล่าครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 8 มี.ค. 52 11:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 56 รพกองพระราชพาหนะใช่รถคันเดียวกับที่เคลื่อนพระศพสมเด็จพระพี่นาง ไปที่พระเมรุก่อนตอนกลางคืนหรือเปล่าครับ จากคุณ : akkarachai - [ 8 มี.ค. 52 11:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ฉากบังเพลิงหลังที่ตั้งโกศสวยมากคับ เห็นพระท่านบอกว่าเคยใช้งานพระบรมศพสมเด็จย่า นะครับ ผมไม่ทราบเหมือนกัน ส่วนเรื่องรถ ผมก็คิดอย่างนั้น เพราะดูจะจัดภายในเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้ถามใครเหมือนกัน จากคุณ : Navarat.C - [ 8 มี.ค. 52 11:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : xiaoxin - [ 8 มี.ค. 52 12:25:11 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ดูในทีวี เห็นแต่ตอนพระราชทานเพลิงที่เมรุแล้ว ไม่ทราบเลยว่ามีขบวนแห่ด้วย จากคุณ : ยาควัน - [ 8 มี.ค. 52 13:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นชื่อนี้ตั้งกระทู้ต้องรีบเข้ามาเก็บความรู้ครับ จากคุณ : jaxcu - [ 9 มี.ค. 52 09:44:42 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณครับ เห็นด้วยกับคุณ jaxcu นาม Navarat C. เป็นประกันคุณภาพจริงๆ ครับ จากคุณ : ohmygodness - [ 9 มี.ค. 52 17:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณครับทั้งสองท่าน แต่กระทู้นี้ratingไม่ค่อยขึ้น คงตกไปเร็วเกินคาด(ของผม) จากคุณ : Navarat.C - [ 9 มี.ค. 52 18:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณมากครับ ภาพอย่างนี้ ยากนักจะที่จะได้ชม จากคุณ : thoorn - [ 9 มี.ค. 52 19:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 9 มี.ค. 52 19:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เข้ามาขอบคุณ  และช่วยดันครับ จากคุณ : นอกราชการ - [ 9 มี.ค. 52 20:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อ่ะ.....ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำแล้วครับ ขอบคุณสำหรับแรงดันด้วยครับ จากคุณ : Navarat.C - [ 9 มี.ค. 52 20:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณมากๆ ครับ กระจ่างแจ้งเลยครับ กับคำถามที่มีมานาน จากคุณ : สะตอคุง - [ 10 มี.ค. 52 14:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณครับ จากคุณ : Cholesterol Lover - [ 10 มี.ค. 52 14:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณมากค่ะ ตามอ่านอยู่เรื่อยๆค่ะ ได้รับความรู้ดีมากเลย จากคุณ : คนชอบกลอน (mon_m&m) - [ 10 มี.ค. 52 18:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าคุณ นวรัตน์ กรุณาอยากทราบความรู้เกี่ยวกับลำดับและการพระราชทาน หีบศพชนิดต่างๆ ในพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จักเป็นพระคุณยิ่งครับ มีรูปภาพประกอบก็ดีเยี่ยมเลยครับ ขอบคุณล่วงหน้า จากคุณ : ศิษย์เจ้าคุณ - [ 10 มี.ค. 52 21:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ^ กระทู้ขึ้นหิ้งอีกแล้วท่านพี่ อิอิ ขอเชียร์อีกคน ต่อยอดให้ยาวๆเลยครับ กระทู้เช่นนี้ อ่านเพลิน เจริญสมอง จากคุณ : jassb1 - [ 10 มี.ค. 52 21:47:54 ]

ความคิดเห็นที่ 72 มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมเมรุหลวงนี้ ขออนุญาตเรียนถาม สังเกตุเห็นว่าไม่มีปล่องควันสูงๆ จากเตาเผา เหมือนอย่างเมรุทั่วไป แล้วควันจะลอยออกไป ในทางใด  และขอเรียนถามเป็นความรู้เพิ่มเติมว่า ทำไมฉัตรที่ เจ้าพนักงานถือเดินตามประกอบสมณะศักดิ์ในขบวน ถึง มีทั้ง 7 ชั้น และ 5 ชั้น ซึ่งขณะที่ตั้งประดับคู่โกศไม้สิบสอง สังเกตุเห็นมีเฉพาะฉัตร 5 ชั้นเท่านั้น  ขอบคุณครับ จากคุณ : หงส์เหมราช - [ 11 มี.ค. 52 03:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณศิษย์เจ้าคุณครับ ผมมีหนังสือที่มีข้อมูลและรูปที่คุณต้องการอยู่ ขอเวลาหน่อย จะทำให้ครับ คุณหงส์เหมราช เรื่องฉัตร๗ชั้น มาได้อย่างไร ผมไม่ทราบเหมือนกัน ต้องรอท่านอื่นมาเฉลย สำหรับเรื่องปล่องคว้นนั้น เตาเผาเป็นระบบใช้ความร้อนสูงจากหัวเผาที่ใช้น้ำมันดีเซลและออกซิเจนจากอากาศที่สามารถเผาอนุภาคของแข็ง และกลิ่นได้หมด ดังนั้นจึงต้องใช้พัดลมดูดอากาศ ที่นอกจากจะดูดอากาศเข้าไปช่วยเผาไหม้แล้ว ยังดูดออกในขณะเดียวกัน ผ่านท่อลอดใต้ถนนไปโผล่อีกด้านหนึ่ง มีปล่องสั้นๆยาวสัก๕เมตรปล่อยแกสที่ไร้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์แต่ยังมีความร้อนอยู่ให้กระจายออกห่างผู้คน ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์นี้ถือเป็นต้นแบบ เดี๋ยวนี้วัดอื่นๆก็ทำตามเป็นส่วนใหญ่ พระเมรุของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯก็ใช้เตาระบบนี้แหละครับ บนพระเมรุจึงไม่มีปล่องควันเกะกะสายตา แต่ไปแอบอยู่ข้างๆศาลาเปรื้องเครื่อง เอารูปเก่ามาฉายซ้ำให้ดู จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 06:20:04 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อกี้ลืมใส่รูป จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 06:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ผมไม่มีปัญญาเรียบเรียงจิ้มดีดใหม่นะครับ ขอใช้เครื่องทุ่นแรงscanมาฝากจากหนังสือที่สำนักพระราชวังพิมพ์ออกจำหน่าย ชื่อและองค์ผู้ทรงเรียบเรียง ตามนี้ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 07:45:40 จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ๑ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ๒ หีบทองทึบนี้ พระราชทานแด่พระราชาคณะชั้นเทพ ชั้นราช และชั้นสามัญด้วย แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 08:19:26 จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ๓ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ๔ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ๕ หีบเชิงชายนี้ ปัจจุบันพระราชทานแด่พระครูชั้นสัญญาบัตรด้วย แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 08:17:12 จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:49:33 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ๖ ไม่มีภาพประกอบ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 07:51:46 จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ๗ ไม่มีภาพประกอบเช่นกัน น่าจะเลิกใช้ไปแล้วในสมัยนี้ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 07:53:45 จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ๘ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ๙ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ๑๐ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ๑๑ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:56:45 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ๑๒ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ๑๓ ไม่มีภาพเหมือนกัน ได้ความรู้ใหม่ องุ่นสมัยก่อนเรียกอังหงุ่นนะครับ สงสัยว่าจะมาจากอังกฤษ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 08:03:34 จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 07:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ๑๔ หีบทองลายเครืออังหงุ่นและหีบทองลายก้านขด ปัจจุบันพระราชทานเป็นหีบทองลายสลัก จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 08:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ๑๕ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 08:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ๑๖ หีบลายทรงข้าวบิณฑ์และหีบลายมังกร ทุกวันนี้ชำรุดใช้การไม่ได้ ปัจจุบันพระราชทานเป็นหีบลายก้านแย่ง จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 08:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ลำดับและการพระราชทานโกศและหีบศพชนิดต่างๆ รวมทั้งเครื่องเกียรติยศต่างๆ สำหรับพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 08:14:28 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ๑๘ จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 08:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 94 กลับมาเรื่องฉัตรในขวนแห่โกศท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเวียนเมรุอีกครั้งนะครับ ฉัตรเหล่านั้นเป็นเครื่องสูงทองแผ่ลวด จะ๕ชั้น หรือ๗ชั้น แล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานให้ใคร ความหมายของจำนวนชั้นของฉัตรนี้ไม่เหมือนกับเศวตฉัตรนะครับ คุณหงส์เหมราชลองเข้าเวปข้างล่างนี้ดู http://www.siamensis.org/board/9121.html จากคุณ : Navarat.C - [ 11 มี.ค. 52 08:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ฉัตรที่เห็นคือ เครื่องสูงทองแผ่ลวดครับ หากเป็นเจ้าฟ้าจะใช้เต็มสำรับคือ ๗ ชั้น ๔ ๕ ชั้น ๑๐ ชุมสาย ๔ แต่เจ้านายระดับรองหรือสามัญชนจะมีเพียงฉัตร ๕ ชั้น ครับ แต่งานนี้น่าจะเป็นกรณีพิเศษ จากคุณ : natthaset - [ 11 มี.ค. 52 12:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบพระคุณครับ ที่นำมาให้ทราบกัน จากคุณ : หูกาง (zero4hero) - [ 11 มี.ค. 52 14:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เข้ามาขอบคุณอีกรอบครับ ได้ความรู้อีกแล้ว เป็นบุญจริงๆที่มีคนใจดีและกรุณาเผยแพร่ความรู้ที่มีประโยชน์มากๆ อย่างอาจารย์ Navarat.c และทุกท่าน ขอเพิ่มเติมในส่วนของฉากบังเพลิงที่อยู่ด้านหลังโกศไม้สิบสองที่เคยได้เรียนถามอาจารย์ นวรัตน์ไปนะครับ ได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นฉากบังเพลิงในงานพระเมรุมาศสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชินีในรัชกาลที่ ๗ น่ะครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 11 มี.ค. 52 19:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอขอบพระคุณอย่างสูงยิ่งสำหรับความรู้ ขอบพระคุณอ.นวรัตน์ที่สละเวลามาตอบ  ผู้ให้ปัญญาชื่อว่าให้ซึ่งแสงสว่าง จากคุณ : ศิษย์เจ้าคุณ - [ 11 มี.ค. 52 20:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : NickyNick - [ 13 มี.ค. 52 08:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณมากค่ะ เข้าใจพิธีการมากขึ้น เดือนก่อนไปงานญาติ ถ่ายรูปเรื่องโกศมา แต่ไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมต้องมีบางอย่าง คล้ายในรูปที่ท่านนำมา เมื่อได้อ่านพร้อมข้อความบรรยาย เข้าใจได้มากขึ้นค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 13 มี.ค. 52 11:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 101 คุณ Navarat.C ครับ เเล้วหีบชนิดต่างๆที่ได้รับพระราชทานนี่ พระราชทานให้ใส่ศพจริงๆเเล้วเผาไปเลย หรือ ตั้งไว้ประดับเป็นเกียรติเเล้วส่งคืนครับ จากคุณ : panard1 - [ 13 มี.ค. 52 13:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 102 คุณ panard1 ครับ หีบที่คุณเห็นตามภาพ เป็นหีบชั้นนอก สำหรับเอามาประกอบหุ้มโลงศพจริงๆเพื่อเป็นเกียรติเท่านั้น แต่ละหีบ ประณีตสวยงามและแพงมาก ไม่คุ้มที่จะเผาไปพร้อมกับศพ เวลาจะเผาจริง เจ้าหน้าที่จะเลื่อนศพลงจากเชิงตะกอนเผาหลอก แล้วรื้อหีบชั้นนอกออกเป็นชิ้นๆ เอาไปใส่รถเก็บกลับโกดัง รอที่จะนำออกมาใช้งานใหม่ ส่วนโลงศพที่ร่างบรรจุอยู่ก็ยกขึ้นเอาเข้าเตา รอประธานมาจุดไฟเผาจริงต่อไป จากคุณ : Navarat.C - [ 13 มี.ค. 52 16:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณครับ จากคุณ : tHe DoG CyBEr - [ 13 มี.ค. 52 18:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 104 อ่ออย่างนี้นี่เอง ขอบคุณครับ จขกท มากๆครับ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 52 19:12:02 จากคุณ : panard1 - [ 13 มี.ค. 52 19:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 13 มี.ค. 52 21:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : pongkam - [ 13 มี.ค. 52 22:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ขอบคุณที่นำสาระความรู้มาให้อ่านกันค่ะ.. จากคุณ : คุณแม่ใจดี - [ 14 มี.ค. 52 08:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ได้ความรู้มากขอรับ จากคุณ : เงาอดีต - [ 14 มี.ค. 52 12:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 109 แด่ จขก. ขอบคุณมากครับ คุณคือ ผู้นำความรู้สู่พวกเราทุกคน         ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง         จะได้มีแรง พลังสร้างสรรค์ สิ่งดี ๆ ให้พวกเราได้ชมกัน ปล. ผมเป็นแฟนติดตามกระทู้คุณมานานมาก แต่เพิ่งจะสมัครสมาชิกครับ จากคุณ : peeradol33189 - [ 15 มี.ค. 52 12:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ขอบคุณมากคับ จากคุณ : เด็กวังหน้า - [ 15 มี.ค. 52 16:55:21 ]