ความคิดเห็นที่ 1 จากหนังสือ "อ่านอย่างไร และ เขียนอย่างไร" พิมพ์ครั้งที่ 1 วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2527 ของราชบัณฑิตยสถาน เนื่องในวันสถาปนา ครบรอบ 50 ปี พฤหัสบดี = พรึ-หัด-สะ-บอ-ดี  ( *ตรง พ พาน มีจุดล่าง ผมใส่ไม่เป็น) สัปดาห์  = สับ-ดา จากคุณ : bankam - [ 17 มี.ค. 52 11:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พฺรึ-หัด-สะ-บอ-ดี  จุดล่างอยู่ตรงสระอิ  ออกกึ่งเสียง จากคุณ : วสันดิลก - [ 17 มี.ค. 52 11:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณทั้งสองท่านนะคะ เพราะเท่าที่จำได้เราก็ว่าอ่านได้แบบเดียว แต่เมื่อกี้เข้าไปดูในเว็บราชบัณฑิตอ่านได้สองแบบ เลยสงสัยจนต้องมาตั้งกระทู้ถาม (ขึ้นไว้ด้านบนว่า พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ) แสดงว่าเค้าอนุโลมให้อ่านได้สองแบบหรือเปล่าคะ แบบนี้ถ้ามีออกข้อสอบพวกสอบ ก.พ. (หรืออื่นๆ) คนที่จบมานานแล้วก็เสียเปรียบแย่เลยเนอะ... เพราะไม่รู้ว่าเค้าเปลี่ยนคำอ่าน หรืออนุโลมนู่นนี่นั่นกันหรือเปล่า จากคุณ : เด็กหญิงเขียบ ณ บ้านนา - [ 17 มี.ค. 52 12:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คำบางคำพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานอนุโลมให้อ่านได้ ๒ อย่าง คือ อ่านตามหลัก และอ่านตามความนิยม จะบอกคำอ่านตามหลักไว้ก่อน เช่น ประวัติศาสตร์ [ปฺระหฺวัดติสาด, ปฺระหฺวัดสาด]  มัธยมศึกษา [มัดทะยมมะ-, มัดทะยม-]  อุดมการณ์ [อุดมมะ-, อุดม-] ดังนั้นพฤหัสบดี อ่านตามหลักคือ พฺรึ-หัด-สะ-บอ-ดี ส่วน พะ-รึ-หัด-สะ-บอ-ดี เป็นการอ่านตามความนิยม หลักการอ่านคำที่มี ฤ อยู่หลังพยัญชนะและออกเสียง รึ ๑. เมื่อ ฤ ตามตัว ค ด น ม ห ที่ออกเสียงแบบเรียงพยางค์ เช่น คฤโฆษ    คะ-รึ-โคด     คฤหบดี      คะ-รึ-หะ-บอ-ดี คฤหัสถ์    คะ-รึ-หัด       คฤหาสน์    คะ-รึ-หาด ดฤถี        ดะ-รึ-ถี         นฤคหิต      นะ-รึ-คะ-หิด นฤดม      นะ-รึ-ดม       นฤเทพ      นะ-รึ-เทบ นฤบดี      นะ-รึ-บอ-ดี    นฤบาล      นะ-รึ-บาน นฤมล      นะ-รึ-มน       มฤค          มะ-รึก มฤตยู      มะ-รึด-ตะ-ยู  หฤทัย        หะ-รึ-ทัย หฤหรรษ์  หะ-รึ-หัน       หฤโหด       หะ-รึ-โหด ๒. เมื่อ ฤ ตามตัว พ ออกเสียงเป็นเสียงควบกล้ำ เช่น พฤกษา      พฺรึก-สา พฤฒา        พฺรึด-ทา พฤฒิ         พฺรึด-ทิ พฤติกรรม   พฺรึด-ติ-กัม พฤศจิกายน พฺรึด-สะ-จิ-กา-ยน พฤษภาคม  พฺรึด-สะ-พา-คม พฤหัสบดี    พฺรึ-หัด-สะ-บอ-ดี แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 16:14:33 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 52 15:54:35 จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 17 มี.ค. 52 15:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การบอกคำอ่านของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน มีหลักเกณฑ์ดังนี้ ๑. คำที่มีตัวสะกดตรงตามแต่ละมาตรา เช่น แม่กน น สะกด แม่กบ บ สะกด อย่างคำ คน พบ จะไม่บอกคำอ่าน ๒. คำที่มีตัว ญ ณ ร ล ฬ สะกด อ่านเหมือนตัว น สะกดอย่างหนึ่ง คำที่มีตัว ข ค ฆ สะกดอ่านเหมือนตัว ก สะกดอย่างหนึ่ง คำที่มีตัว จ ช ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ต ถ ท ธ ศ ษ ส สะกดอ่าน เหมือนตัว ด สะกดอย่างหนึ่ง คำที่มีตัว ป พ ฟ ภ สะกด อ่านเหมือนตัว บ สะกดอย่างหนึ่ง ทั้ง ๔ อย่างนี้ ในกรณีที่อาจมีปัญหาในการอ่าน จะบอกคำอ่านไว้ด้วย ๓. คำภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตที่เข้าสมาสกัน ตามปรกติต้องอ่านตามหลัก คือ อ่าน เสียงตัวสะกดนั้น ๆ อย่างมีสระอะประสมอยู่ คำประเภทนี้จะบอกคำอ่านไว้ เช่น ทารุณกรรม [ทารุนนะ กำ]  สุขนาฏกรรม [สุกขะนาดตะกำ]  รูปธรรม [รูบปะทำ] ส่วนคำบางคำที่อนุโลมให้อ่านได้ ๒ อย่าง คือ อ่านตามหลัก และอ่านตามความนิยม จะบอกคำอ่านตามหลักไว้ก่อน เช่น ประวัติศาสตร์ [ปฺระหฺวัด ติสาด, ปฺระหฺวัดสาด]  มัธยมศึกษา [มัดทะยมมะ-, มัดทะยม-]  อุดมการณ์ [อุดมมะ-, อุดม-] ๔. คำอ่านที่มีเครื่องหมายพินทุจุดไว้ข้างใต้ตัวอักษร มีความหมายดังนี้     ก. ตัวอักษรนั้นเป็นอักษรนำและไม่อ่านออกเสียง ได้แก่ ตัว ห ใช้พินทุจุดไว้ข้างใต้ตัว ห เพื่อไม่ให้อ่านเป็นอย่างอื่นซึ่งมีความหมายต่างกัน เช่น เหลา [เหฺลา] เหย [เหฺย] แหงน [แหฺงน]     ข. ตัวอักษรนั้นเป็นอักษรควบกล้ำซึ่งในภาษาไทยมี ๓ ตัว คือ ร ล ว ใช้พินทุจุดใต้ พยัญชนะตัวหน้า เพื่อให้อ่านพยัญชนะตัวหน้า ๒ ตัวควบกัน เช่น ไพร [ไพฺร] ปลอบ [ปฺลอบ] กว่า [กฺว่า] ๕. คำในภาษาอื่นที่เดิมออกเสียงกึ่งมาตรา เมื่อนำมาใช้ในภาษาไทยออกเสียงเต็มมาตรา ก็บอกคำอ่านไว้ตามคำอ่านในภาษาไทย เช่น เสด็จ [สะเด็ด] พยาบาท [พะยาบาด] แสตมป์ [สะแตม] ๖. ลูกคำซึ่งอาจมีปัญหาในการอ่านเพราะอาจอ่านไม่เหมือนคำอ่านของแม่คำทุกคำ ในกรณี นี้จะบอกคำอ่านของลูกคำนั้น ๆ ไว้ เช่น กล, กล- [กน, กนละ- ]  น. ... กลไก [กน-] น. ... กลฉ้อฉล [กน-]  น. ... กลบท [กนละบด]  น. ... http://rirs3.royin.go.th/wordpronounce.html จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 17 มี.ค. 52 16:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณคุณเพ็ญชมพู มากนะคะ สำหรับความรู้เพิ่มเติม ^___________^ จากคุณ : เด็กหญิงเขียบ ณ บ้านนา - [ 17 มี.ค. 52 17:04:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ตามราชบัณฑิตยสถานแหละครับ ช่วงหลังคำบางคำที่อ่านได้แค่แบบเดียวในสมัยก่อน ปัจจุบันก็อ่านได้หลายแบบ แต่ผมเคยฟังเพลงของครุศาสตร์ จุฬา ร้องว่า พรึ-หัด ครับ ก็แล้วแต่เลยครับ จากคุณ : A ARM - [ 18 มี.ค. 52 17:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของภาษาไทย ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นจากการช่างคิด ของพวกนักวิชาการทางภาษา จับอันนี้แปลงไปตรงโน้น จับตรงโน้นแปลงไปตรงนี้  ตามความคิด  ความรู้  ความสามารถ ที่ชาวบ้านธรรมดา  ไม่มี อยางเช่นคำว่า   "แคราย"   แต่เดิม่ชาวบ้าน พูด และเขียน  ชื่อหมู่บ้าน และถนนว่า  "แคลาย" ท่านบอกว่า ไม่ใช่ต้อง "แคราย"  ถึงจะถูก แล้วแคราย  มันมีที่มา  อย่างไร  ? และ แปลว่าอะไร ? ชาวบ้านจะตั้งชื่อ  เรียกชื่ออะไรสักอย่างมันต้องมีที่มา เป็นที่รู้กันดีทั้งหมู่บ้าน แค....เป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง เช่น... แคดอกขาว แกงส้มอร่อย แก้ไข้ได้ด้วย แคแสด  สีสวย  ดอกสีแสด สมชื่อ แคลาย  มันลาย ที่ใบ เหมือน ทองหลางใบลาย แต่แคราย ท่านบอกว่า แต่ก่อนแถวนี้  มีต้นแคเรียงราย...!!   เอากะท่านซิ..!!   ใช้จินตนาการเอาก็ได้...!!! หมู่บ้าน  "สร้างคอม"  อยู่อำเภอเพ็ญ  จังหวัดอุดรธานี แต่เดิม  ชาวบ้าน เรียกกันว่า  "ส่างคอม" "ส่าง"  หมายถึง บ่อน้ำ ที่มีตาน้ำซับธรรมชาติ ตักกินได้ทั้งปี "คอม"  หรือ "ค่อม"  ชื่อต้นไม้ ชาวบ้านเรียกรวมกันว่า ส่างคอม  อันเป็นสัญญลักษณ์เป็นที่รู้กันว่า บ่อน้ำนี้ อยู่่ตรงไหน  ที่ไหน แล้วทำไมต้องมาเป็น  สร้างคอม...? คอมพิวเตอร์ ? คอมมิวนิสต์ ?  คอมอะไรกันแน่ ผมเชื่อว่า ชาวบ้าน ที่ห่างไกลความเจริญ  ไฟฟ้าไม่มีใช้ คอมพิวเตอร์ยังมาไม่ถึงประเทศไทย แต่หมู่บ้านนี้ มีนักสร้างคอมพิวเตอร์   ก่อน บิลเกต อีกแน่ะ แล้วคิดกันได้ยังไง  ??? ผมมักจะเรียก อาการนี้ว่า  "ดัดจริต"   เป็นอาการดัดจริต  ของผู้เจริญ ที่ทำให้ภาษาผันผวน  แต่เค้าเรียกกันว่า   ..................เป็นการพัฒนาของภาษา.................. ***แก้คำผิด*** แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 19:50:05 จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ - [ 20 มี.ค. 52 19:03:14 ]