ความคิดเห็นที่ 1 เพราะชอบเก็บหนังสือขึ้นชั้นมันดูสวยดี เอาไว้อ่านซ้ำด้วย เพราะมีความสุขตอนไปเดินช๊อปหนังสือ...^^ เดี่ยวนี้การเงินไม่ค่อยดีก็พยายามจะซื้อให้น้อยหน่อย แต่ก็ตกเดือนละครั้งอยู่ดีที่ไปซื้อหนังสือ T__T ซื้อทีเหมือนสามล้อถูกหวยเลยล่ะค่ะ จากคุณ : หนอนหนังสือตัวเป้ง - [ 19 มี.ค. 52 00:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้ามือสอง ก็ซื้อเพราะมันถูก สภาพดี  ถ้าวันนี้ไม่ซื้อ พรุ่งนี้ก็ไม่มีแล้วนะ  อารมณ์นั้น ส่วนพวกหนังสือมือหนึ่งตามศูนย์หนังสือนี่  มักซื้อตอนต้นเดือน   เพราะใช้เงินเก่ง เลยสำเหนียกได้ว่า ตอนยังมีตังค์อยู่ ให้รีบๆไปซื้อหนังสือซะ  ให้มันเกิดประโยชน์ขึ้นมาบ้าง แต่เราเป็นคนมีปัญหากะชีวิตม๊ากมาก  ชอบซื้อหนังสือ แต่ไม่ชอบอ่าน *-* จากคุณ : moDa aNt - [ 19 มี.ค. 52 00:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เผื่อตัวเองอ่านซ้ำ เผื่อคนในบ้านอ่าน และเอาให้เพื่อนยืมหรือแลกกับเพื่อนอ่านค่ะ แต่ข้อสุดท้ายนี่ต้องเพื่อนที่รักหนังสือเหมือนกันนะคะ เพราะค่อนข้างโรคจิต ไม่ชอบให้หนังสือยับเยินค่ะ จากคุณ : o-_-o - [ 19 มี.ค. 52 00:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเป็นหนังสือที่ผมชอบ ผมจะซื้อ 2 ชุดครับ ชุดนึงไว้อ่าน ชุดนึงไว้เก็บ อาทิเช่น นิยายจีน นารุโตะ ดราก้อนบอล เป็นต้น เพราะผมเป็นคนต้องอ่านหนังสือตลอดเวลา ในมือหรือกระเป๋าของผมจะมีหนังสือตลอด ดังนั้นหนังสือของผมจึงอาจบอบช้ำได้ เพราะฉะนั้นเรื่องไหนที่ผมชอบ ผมจะซื้อเก็บต่างหากอีก1ชุด ซึ่งชุดนี้จะไม่เอามาอ่านเลย เก็บอย่างเดียว อีกกรณีคือ ดูหนังแล้วชอบ เช่น ลอร์ด ออฟเดอะ ริง ผมก็ซื้อหนังสือมาครบเลย เคยอ่านไปสิบหน้าแล้วก็เก็บ เพราะชอบดูหนังมากกว่า แต่ก็ต้องซื้อหนังสือมาเก็บ ว่างๆก็เปิดมาลูบๆคลำๆ อ่านปกหลัง อ่านคำนำ เพลินๆดี ทุกวันนี้ผมจะกันเงิน10%ของรายได้ไว้เป็นส่วนที่ใช้ซื้อหนังสือในอนาคตเมื่อผมเกษียณ ตอนนั้นไม่มีรายได้ แต่คงหยุดซื้อหนังสือไม่ได้ ผมคำนวณแล้วว่าจะกันเงินส่วนนี้จนถึงอายุ52ปี มันจะเพียงพอให้ผมซื้อหนังสือได้25ปี ถ้าผมอยู่ถึง85 โดยผมคำนวณอัตราเงินเฟ้อในอนาคตไว้แล้ว ผมมีความบ้าอยู่อีกอย่างนึงคือ ถ้าเป็นนิยายจีนผมจะซื้อทุกปกที่สามารถซื้อได้ ทุกวันนี้ผมมีอุ้ยเซี่ยวป้อฉบับหายากกล่องดอกหญ้า ซื้อต่อเขามา3พันบาท เพียงเพราะชุดที่มีอยู่สภาพกล่องไม่ดีเท่า จะขอซื้อแต่กล่อง เจ้าของไม่ขาย จากคุณ : 999 - [ 19 มี.ค. 52 01:29:32 A:125.25.149.251 X: TicketID:195592 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอ่านนิยาย แต่จะอ่านหนังสืออะไรที่คิดว่าจะทำให้ตัวเองสุขภาพดีขึ้น เช่นโยคะ การแพทย์ทางเลือก หรือหนังสือพวกสอนฝึกสมองให้คิดอะไรได้ไวๆ พอเห็นก็รีบซื้อมาตุนไว้เพราะกลัวจะหมดแล้วเลิกพิมพ์ เนื่องจากบางเล่มเป็นหนังสือหายากที่เขียนโดย gurus จริงๆ กาลเวลาผ่านไป หนังสือพวกนี้ (เป็นภาษาอังกฤษหมด) หน้ามันเหลือง ชื้นขึ้นรา (พังไปหลายเล่ม) ดังนั้นเราจึงพยายามฉีกแล้ว scan ก่อนที่มันจะถูกทำลายหมดไปหมดด้วยสภาพดินฟ้าอากาศ แต่เผอิญในขณะที่ฉีกไปนั้น ไป download ของฟรีมาได้เป็น ebooks เกือบหมด ก็เลยหยุดฉีก แต่หัดอ่านแต่ ebooks บนจอ LCD ใหญ่ๆ แล้วคิดว่ามันอ่านเห็นง่ายกว่าอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ (เรากลับคิดว่าอ่านหนังสือเป็นเล่มๆสิ กลับต้องเสียสายตาเพ่ง)  และเมื่อติดศัพท์ก็ยิ่งง่ายใหญ่ เพราะบนเครื่องคอมพิวเตอร์เรามี dictionaries ตั้งหลายสิบชุดเป็น software ebooks ที่เรามีอยู่นี้ คาดว่าอ่านไปจนกว่าเราจะตาย ก็ยังอ่านไม่หมด ดังนั้น เราจึงยุติการซื้อหนังสือมาสะสมอีกต่อไป ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมานี้ เราซื้อหนังสือไปแค่ 2 เล่ม เป็นหนังสือภาษาอังกฤษเรื่องศาสตร์ที่มันเร้นลับมากๆทั้ง 2 เล่ม ซึ่ง หา download ไม่ได้จริงๆ จึึงต้องยอมเสียเงินซื้อไป 2 เล่ม ส่วนหนังสือภาษาไทย นั้นเราไม่อ่านเลย เพราะไม่ค่อยมีใครเขียนหนังสือในแน่วที่เราชอบเป็นภาษาไทย จะอ่านภาษาไทยส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือพิมพ์ แบบ online นิตยสาร แบบ online เพราะติดการอ่านบนจอคอมฯงอมแงมแบบแก้ไม่ได้แล้ว  ขนาดเรามีเอกสารภาษาไทยที่คนเอามาให้เราแปลเป็นภาษาอังกฤษ เรายังต้อง scan มันก่อน จึงจะอ่านได้ ในกรณีที่เราจำเป็นต้องใช้หนังสือ ถ้า download ไม่ได้ เราจะซื้อแล้วฉีกมันแล้ว scan เก็บไว้ เพราะคิดถึงความสูญเสียในอดีตอีกอย่างหนึ่ง นั้นก็คือต้องย้่ายที่อยู่ แล้วทิ้งหนังสือจำนวนมากเนื่องจากแบกน้ำหนักไม่ไหว ดังนั้น เราจะไม่มีการสะสมหนังสือเป็นเล่มๆ ที่หนักเอาไว้อีกต่อไป จากคุณ : หมอดูสำนัก white rabbit (fortuneteller) - [ 19 มี.ค. 52 01:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ซื้อเก็บไว้  ดองไว้  เพราะกลัวว่านาน ๆ ไปจะหาซื้อไม่ได้ เล่มไหนอยากได้ก็รีบซื้อเก็บไว้ก่อน  หนังสือมันไม่เน่า ถ้าเราเก็บดี ๆ หนังสือของเราห่อใส่ถุงพลาสติกอย่างดีค่ะ  เราเลยไม่กลัวว่ามันจะเสียหาย เราชอบดองหนังสือมาก  มีไม่กี่เล่มที่หยิบมาอ่านซ้ำ บางเล่มซื้อมาดองไว้สิบกว่าปี แล้วยังไม่ได้เปิดอ่านเลย เรามีความสุขกับการเลือกหนังสือ ซื้อหนังสือ หลายครั้งเวลาเศร้าใจ  ทุกข์ใจ  เราจะเดินเข้าร้านหนังสือ แล้วเวลาได้หนังสือกลับมา  มันก็เกิดความสุขใจ พอเราอ่านไม่ทัน  มันก็เกิดอาการดองไงค่ะ... หนังสือในตู้ของเราเป็นสมบัติสิ่งเดียวที่เรารักมากที่สุด เราไม่เคยเสียดายเงินต่อการเลือกซื้อหนังสือ เพราะเราคิดว่า วันนึงถ้าเราตายไป  หรือเราไม่เอาแล้ว เราก็ยังส่งต่อให้น้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ หรือบริจาคให้คนอื่นได้... ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ...หนังสือมันไม่เน่า เรายังเคยคิดว่า  วันนึงถ้าเราอายุ 80 หรือแก่จนทำอะไรไม่ได้ เราจะเอาหนังสือที่เรามีเปิดเป็นห้องสมุด ไม่ก็ทำเป็นพิพิธภัณฑ์หนังสือไปเลย...คิคิ เราโอบกอดหนังสือ และหนังสือก็โอบกอดเรา จากคุณ : รักคนอ่าน (Stand by bowky) - [ 19 มี.ค. 52 07:13:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ซื้อเพราะ ไว้อ่านตอนมีเวลา  หรือ ถ้าอ่านแล้วยังอยากอ่านอีก ก็เอามาอ่านซ้ำได้ทุกเมื่อ  ไปเช่าร้านอ่านต้องรีบอ่าน ค่ะ อย่าง เรื่อง  " เกิดวังปารุสก์ "  เล่มหนาซะ ต้องใช้เวลาเยอะ ต้องทำความเข้าใจ  ว่าใครลูกใคร  ใครหลานใคร แล้วก็คิดถูกที่ซื้อมา เมื่อเกือบ 10 ปีแล้ว ในราคา  450 บาท   เพราะ ณ. ตอนนี้ ไม่ได้ในราคานี้  อ่านได้เำพลินมาก แต่เพิ่งอ่านได้รอบเดียวเอง มีความสุขมากกกกกก เข้าไปอยู่ร้านหนังสือ ลืมเวลาไปเลย.... ได้จับ ลูบคลำ แล้วก็ซื้อมา อ่านไม่อ่านก็ซื้อมาก่อน ค่ะ บางเล่ม บางเรื่อง อ่านอยู่นั้นแล้ว จนจำได้เกือบทุกตัวอักษร จากคุณ : ดนตรีก่อนนอน - [ 19 มี.ค. 52 08:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีทุกคนครับ มาตอบก่อนไปนอน @หนอนหนังสือตัวเป้ง: ซื้ออย่างกับสามล้อถูกหวยเดือนละครั้งนี่มีวิธีจัดการกับชั้นหนังสือยังไงหรอครับ ที่บ้านผมซื้อหนังสือเข้าบ้านปีละประมาณร้อยเล่ม (การ์ตูนซะ 60-70%) ตอนนี้ต้องเก็บลงกล่องไปเยอะพอสมควรเลย @moDa aNt: หนังสือมือสองนี่บางทีผมก็อดใจไม่ได้เหมือนกันครับ โดยเฉพาะหนังสือที่เคยได้ยินชื่อมาก่อนแล้วนี่แทบจะซื้อทันที @o-_-o: อ่านดูแล้วเหมือนว่ามีเพื่อนชอบอ่านหนังสือแนวเดียวกันเยอะ น่าอิจฉาครับ เพื่อนผมที่อ่านหนังสือแนวเดียวกันนี่นับนิ้วมือได้เลย บางทีอ่านไปก็ไม่รู้จะไปคุยกับใคร แต่ก็มีความสุขครับ :) @999: LOTR นี่ผมกลับชอบที่เป็นหนังสือมากกว่านะครับ มีรายละเอียดเยอะดี (อ่านทั้งฉบับแปลและฉบับภาษาอังกฤษอีกตะหาก บ้าพลังมาก เหอๆ) @หมอดูสำนัก white rabbit: ผมใช้ laptop จอมันเล็กกว่าความยาวกระดาษอ่านไม่สะดวกครับ จริงๆที่บ้านก็มีจอ LCD ใหญ่อยู่ แต่ผมไม่ชอบนั่งเฉยๆเวลาอ่านหนังสือครับ ชอบนั่งๆนอนๆ เลยไม่นิยม e-book ครับ เรื่องย้ายที่อยู่นี่เข้าใจเลยครับ ตอนนี้มาเรียนอยู่ตปท. หนังสือภาษาอังกฤษก็ช่างถูกน่าซื้อเสียจริงๆ (เทียบกับซื้อที่ไทย) แต่คิดถึงตอนย้ายแล้วก็ซื้อไม่ลงครับ @Stand by bowky: ผมก็ไม่เสียดายเงินที่ซื้อหนังสือนะครับ แค่มานั่งคิดๆดูว่าต้องตัดต้นไม้มากี่ต้น ใช้พลังงานไปเท่าไหร่ เพื่อเอามาทำหนังสือไว้ให้เราเก็บไว้เผื่ออยากอ่านนี่มันเป็นการใช้ทรพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองเกินไปน่ะครับ @ดนตรีก่อนนอน: ผมก็ไม่ชอบเช่าร้านอ่านเหมือนกันครับ ต้องรีบอ่านแข่งกับเวลา ไม่ได้อรรถรสในการอ่าน จากคุณ : unknower - [ 19 มี.ค. 52 08:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วิธีจัดการชั้นหนังสือไม่ยากค่ะ ก็ต่อตัวใหม่ซะเลย (เวรกรรม) คือเผอิญบ้านหนอนฯ เปิดร้านเช่าหนังสือด้วยค่ะ เลยถือโอกาสยึดบางส่วนของร้านเป็นของตัวเอง บวกกับชั้นใหญ่ๆ อีกสองตัว ตอนแรกมีตัวเดียวค่ะ หน้ากว้างขนาดเมตรหน่อยๆ มี 5 ชั้นวางหนังสือ (หนอนฯ ทำชั้นหนังสือเองกับที่บ้านค่ะ เป็นกิจกรรมที่เหนื่อยแต่มันส์ แถมออกแบบเองได้ด้วย) ตอนหลังเต็ม ก็ต่อตัวใหม่ พอพื้นที่เริ่มคับแคบก็โละเล่มที่แย่เกินบรรยาย ห่วยเกินเก็บในสายตาหนอนฯ ไปสังคายนาตามร้านหนังสือเก่าเสีย ส่วนเล่มที่มีคุณค่าที่หนอนฯ คู่ควรก็เก็บต่อแต่อพยพไปที่บ้าน (ร้านกับบ้านอยู่คนละที่ค่ะ) หลังๆ ไม่ไหวก็แอบขโมยชั้นหนังสือของร้านมาใช้แล้วบอกว่าวางโชว์ (ฮา) จนพ่อหนอนฯ ทนไม่ได้ต่อชั้นหนังสือให้อีกตัวตอนนี้ก็เต็มอีก ต้องหาที่ขยับขยายเร็วๆ นี้แล้วเพราะงานหนังสือใกล้เข้ามาแล้วค่ะ T__T อ้อ ที่ว่ามานั่นในส่วนของหนังสือและนิยายนะคะ ถ้าเป็นการ์ตูนหนอนฯ ก็ทำเนียนเอาขึ้นชั้นให้เช่าซะ แต่ถ้าเป็นชุดที่รักมากๆ ก็เก็บไว้สูงหน่อยจะได้หยิบยาก (ฮา) จากคุณ : หนอนหนังสือตัวเป้ง - [ 19 มี.ค. 52 09:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ลบค่ะ มันโพสต์เกินมา แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 09:42:53 จากคุณ : หนอนหนังสือตัวเป้ง - [ 19 มี.ค. 52 09:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับทุกท่านที่ชอบสะสมหนังสือเป็นห้องสมุดส่วนตัว ผมเคยมีประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวดมาแล้ว ผมเคยมีห้องสมุดส่วนตัวที่คิดว่าไม่น้อยหน้าใคร สะสมมาร่วมยี่สิบปี แล้วอยู่ๆ ไม่ทันได้ระมัดระวัง ผมก็โดนทัพปลวกจู่โจมแบบไม่ได้ทันคิด ไม่ได้ทันป้องกัน ผมสูญหนังสือที่อุตสาห์สะสมไว้ไปกว่าครึ่งหนึ่งที่มี เพราะตู้หนังสือส่วนหนึ่งเป็นแบบปิดทึบ ไม่สำเหนียกรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในนั้น รู้อีกทีก็สายไปเสียแล้ว ขอรบกวนเตือนเพื่อนๆนักอ่านครับ หมั่นตรวจตราตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอนะครับ ระวังปลวก หรือแม้แต่มอดแมงทั้งหลาย มีวิธีใดป้องกันได้ ทำเลยนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลังอย่างผม จากคุณ : phahurat - [ 19 มี.ค. 52 10:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณ phahurat ที่มาเตือน (เป็นหนอนฯ เจอเรื่องแบบนี้สงสัยน้ำตาตกแหงๆ) จากคุณ : หนอนหนังสือตัวเป้ง - [ 19 มี.ค. 52 10:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าหากว่า... หนังสือหนึ่งเล่ม  สูญเสียต้นไม้ไปหนึ่งต้น... แต่สามารถทำให้คนเป็นคนดีได้หลายร้อยคน... คุณจะเลือกอันไหน ??? จากคุณ : Stand by bowky - [ 19 มี.ค. 52 10:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ซื้อเก็บเพราะขณะนี้พอมีอยู่ และเหมือนบางท่านข้างบน จะอ่านตอนเกษียณ เมื่อเกษียณ ก็คงหยุดซื้อไม่มีรายได้แล้ว จริงๆ ผมก็น่าจะเกษียณเมื่อปีสองปีก่อนแล้วนะ แต่เจ้านายเขายังจ้างอยู่ ก้ได้ทำงานหายเหงา ฝันถึงวันที่จะหยุดทำงานเสียที เรานี่่ถ้าจะแก่จริง เหอะสิ้นปีนี้คงจะเกษียณตัวเองแม้บริษัทยังต่อให้อีก ไม่กลัวแจ้งอายุแล้วครับ เพิ่งไปถอยผู้ชนะสิบทิศมาชุดนึง เคยอ่านเมื่อสามสิบปีก่อนโน้น อีกเรื่อง ต้องไปเอามา ศิวาราตรี เคยอ่านแล้วเวลาใกล้ๆกับผู้ชนะ10ทิศ จากคุณ : ซ่อนรอยยิ้ม - [ 19 มี.ค. 52 11:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ซื้อมาตุนเอาไว้ตอนไม่มีเวลา .................................. แต่จะอ่านตอนมีอารมณ์อ่านค่ะ ก็ช่วงวันหยุดซะส่วนใหญ่ .................................. (งานยุ่งค่ะ...) จากคุณ : ปานสายน้ำไหล - [ 19 มี.ค. 52 12:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคยเจอปลวกเหมือนกันค่ะ  ต่อจากนั้น ก่อนย้ายเข้าบ้านไหน เรียก บ.กำจัดปลวกมาเลยค่ะ ชอบซื้อหนังสือ ส่วนมากซื้อมาปุ๊บก็อ่านรวดเดียวจบเลยวันนั้น และถ้าเ่ล่มไหนติดไหน  จะมาเปิดดูอีกบ่อยๆ ค่ะ อย่าง พันธุ์หมาบ้า, บึงหญ้าป่าใหญ่ เปิดอ่าน (บางหน้า) แทบทุกเดือน   ที่บ้านมีห้องสมุดด้วย ฝาสองด้าน เต็มไปด้วยหนังสือ เข้าไปขลุกอยู่ในนั้น ไม่ต่ำกว่าวันละ ช.ม.ทุกวันค่ะ (อ่านบ้าง ดมกลิ่นกระดาษเก่าๆ บ้าง) จากคุณ : ต้นจั่น - [ 19 มี.ค. 52 13:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านทุกเล่มที่ซื้อ แต่ไม่ซื้อทุกเล่มที่อ่าน เราจะอ่านหนังสือโดยการเช่าจากร้านหนังสือ หรือห้องสมุดก่อน ถ้าชอบก็ซื้อค่ะ บางครั้งมันเลยมาเป็นชุดกระเป๋าฉีกเลย ชอบไปเดินงานหนังสือ ร้านหนังสือ มันสุขใจค่ะ การจัดการก็เก็บลงลัง กรุพลาสติกเสียก่อนกันชื้น กะว่าสักวันมีห้องหนังสือของตัวเอง ละก็ หุ หุ จากคุณ : กัญ - [ 19 มี.ค. 52 14:46:27 A:118.173.51.75 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 @หนอนหนังสือตัวเป้ง: ฮา ต่อชั้นใหม่ ทำตามไม่ได้ครับ -_-" @phahurat: มีวิธีดีๆแนะนำไหมครับ @Stand by bowky: ถ้าหนังสือเล่มนึงเสียต้นไม้หนึ่งต้น ทำคนดีได้ร้อยคน ผมก็ว่าดีครับ แต่ในความรู้สึกผมคือ หนังสือเล่มนึง(ที่อยู่ที่บ้าน)เสียต้นไม้มากกว่าหนึ่งต้น คนอ่านบางทีก็มีแค่ผม หรืออย่างมากก็น้อง พ่อ แม่ อีกสามคนเองครับ แต่ก็อย่างที่เกริ่นไว้คือไม่อยากเอาไปให้คนอื่นเพราะกลัวอยากอ่านขึ้นมาอีกแล้วไม่มีให้อ่านครับ @ซ่อนรอยยิ้ม: สวัสดีครับคุณลุง อยากอ่านผู้ชนะสิบทิศเหมือนกันครับ แต่ยังหาเวลาอ่านไม่ได้ซะที @ปานสายน้ำไหล: ซื้อมาตุนเหมือนกันครับ ผมชอบซื้อมาตุนจากงานหนังสือ ด้วยเหตุว่าร้านหนังสือที่อยู่ในทางผ่านกลับบ้านปิดไป ก็เลยขี้เกียจจะออกนอกทาง เพราะถ้าไปแล้วก็อยู่นานอีก ไม่ได้กลับบ้านพอดี @ต้นจั่น: ผมแทบไม่เคยอ่านหนังสือจบเล่มในวันเดียวเลย กลัวอ่านจบเร็วแล้วไม่มีอะไรใหม่ให้อ่านครับ @กัญ: เป็นคนชอบอ่านนิยายหรือเปล่าครับ เพราะผมเห็นร้านเช่ามักจะเป็นนิยายซะส่วนมาก (เท่าที่ผมเคยเห็นนะครับ แต่ก็ไม่เยอะเท่าไหร่หรอก) เรื่องลังนี่ที่บ้านผมใช้กล่องพลาสติกไปเลยครับ น่าจะกันอะไรได้เยอะพอสมควร ป.ล. แก้คำผิดกับจัดรูปแบบครับ เขียน "อยู่ในทาง" เป็น "ผู้ในทาง" ช่วงนี้ผมเบลอครับ พิมพ์ผิดแบบไม่ใช่เพราะกดผิดอยู่เรื่อยเลย -_-" แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 16:28:34 จากคุณ : unknower - [ 19 มี.ค. 52 16:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่ชอบซื้อหนังสือ เพราะว่ามีความคิดคล้าย คุณ หนอนหนังสือตัวเป้ง ที่คิดว่า หนังสือ สนพ.เดี่ยวกัน collection เดี่ยวกันวางด้วยกันรู้มันจะรู้สึกดี แม้เราจะไม่อ่านก็ตาม โดยส่วนตัวจะเดินร้านลด 50 มากกว่าร้านทั่วไปเหตุเพราะว่า บางครั้งเราได้เจอหนังสือใหม่ หรือ ปานกลาง ที่สภาพสวยงาน แล้วไม่อดใจไม่ได้ หรือว่า อาจจะไปเห็นหนังสือ ที่เก่า แล้ว แต่เรายังอยากได้ ก็จะซื้อโดยไม่รู้ตัว ออกมาจากร้านที่ไรออกมาด้วยความมึนงง ว่าทำไมสองมือเราถือหนังสือเยอะอย่างนี้ -*-(ผมว่าหลายๆคนคงเป็น) ผมว่ากลิ่นของหนังสือทำให้ผมรู้สึกดี ยิ่งหนังสือเก่าๆแล้ว เนื้อหาเก่าด้วยแล้ว ที่ตัวผู้เขียนได้บรรยายออกมาแบบว่า เสียดายจังที่เกิดไม่ทัน   ที่เหลือ บรรยาออกมา่เป็นคำพูดไม่ได้  5+ จากคุณ : thoorn - [ 19 มี.ค. 52 16:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มันเป็นความสุขเล็กๆ อย่างหนึ่ง ได้เห็นหนังสือที่เราชอบอยู่กับเรา..เป็นของเรา...เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา การให้ความสำคัญกับอะไรสักอย่างนึงมันเป็นอย่างนี้ค่ะ...ทำให้มีความสุข ^___^ จากคุณ : moonshine19 - [ 19 มี.ค. 52 17:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ดีใจจังเพื่อนร่วมอุดมการณ์เยอะเชียว งานหนังสือก็ใกล้เข้ามาแล้ว ถ้าใครไปเดินในงานแล้วเจอหนอนหนังสือตัวเป้งๆ เดินลากกระเป๋าใบโตด้วยมือข้างนึง แล้วหิ้วถุงหนังสืออีกหลายถุงล่ะก็นั่นหนอนฯ เองค่ะ แต่เป็นหนอนฯ เวอร์ชั่นสามล้อถูกหวยกำลังสาม (ฮา) ไปเดินงานหนังสือเนี่ยเป็นเหมือนประเพณีประจำบ้านเลยค่ะ ปีนี้สงสัยได้ไปวันอาทิตย์เพราะติดงานที่พัทยายาวถึงวันเสาร์ อดไปเดินวันเปิดงานเลย =__=" ป.ล.คุณ thoorn กับหนอนฯ เหมือนกันมากกว่าที่คิดอีกค่ะ หนอนฯ อ่านที่คุณเขียนแล้วนึกว่าตัวเองละเมอมาเขียนซะอีกแน่ะ ฮ่าๆ จากคุณ : หนอนหนังสือตัวเป้ง - [ 19 มี.ค. 52 21:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คงเป็นความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของหนังสือเล่มนั้น อยากให้มันมาอยู่ที่บ้านเราค่ะ อยากอ่านเมื่อไหร่ก็จะได้หยิบมาอ่านได้ทันที เห็นหนังสือมากมายเรียงอยู่ในชั้นแล้ว มันดูสวยงาม น่าหยิบอ่านค่ะ จากคุณ : กังหันลู่ลม - [ 19 มี.ค. 52 22:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ซื้อเก็บไว้เหมือนกันค่ะ เพราะบ่อยครั้งที่อยากอ่านขึ้นมาเมื่อไร แล้วต้องไปหาซื้อตอนนั้น มันจะหงุดหงิดมากๆ แต่ถ้าอยากอ่านแล้วหยิบมาอ่านได้เลย จะมีความสุขมากค่ะ จากคุณ : dstny - [ 19 มี.ค. 52 22:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ก่อนจะซื้อมาเก็บ มันต้องมนต์ทุกครั้งที่เดินผ่านหนังสือแต่ละเล่มแล้วตัวหนังสือที่เรียงรายน่าอ่าน มันช่างสวยงาม น่าอ่านจิงๆ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เดินในร้านหนังสือ หอมกลิ่นกระดาษ (ออกแนวโรคจิต 5555) แตไม่ถึงขั้นดมหนังสือนะคะ 555 แค่ชอบบรรยากาศในร้านหนังสือ ได้อ่านตอนไหนไม่รู้ แต่ขอซื้อเก็บไว้ก่อน 5555 แล้วก้อมีความสุขอีกครั้ง ที่เห็นหนังสือแต่ละเล่มเรียงรายอยู่บนชั้นหนังสือค่ะ ทั้ง ๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่ค่อยจะมีเวลาอ่าน แต่ก้อขอซื้อนิดนึงก้อยังดี 555 ทุกวันนี้ หนังสือมีเยอะ ตอนมีบ้านเป็นของตัวเอง ก้อตั้งใจมากที่จะมีห้องหนังสือ แล้วก้อสมใจ ถึงแม้ว่า จะเล็กไป แต่ก้อโอเค จะให้บริจาค ก้อเสียดาย ทั้ง ๆ ที่อยากมากค่ะ ที่จะแบ่งปันความสุขให้กับคนอื่นบ้าง 555 แต่ตัดใจยากจิง ๆ แต่ก้อพยายามนะคะเจียดหนังสือที่ชอบน้อยยยยยที่สุด บริจาคไปมั่ง ^ ^ ทุก ๆ ปี ก้อนั่งนับวันรองานหนังสือ เพื่อจะซื้ออะไรมาเพิ่มในชั้นหนังสือตัวเอง 555 ทั้ง ๆ ที่บางเรื่องซื้อมาเมื่อหลายปีแล้ว ก้อยังไม่ได้อ่านเลย แหะ ๆ จากคุณ : .. (aunty_reedsi) - [ 19 มี.ค. 52 22:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาอ่านคคห.ของคนอื่นๆ เพลินเลย ส่วนคำตอบตามคำถามของกระทู้ สั้นๆ เลยค่ะ "ชอบ" ฮา กำปั้นทุบดินไปไหม หนังสือเก็บไว้ไม่เสีย ((แต่แอบเหลืองและกรอบ แง)) อยากอ่านเมื่อไหร่ก็หยิบมาอ่านได้ คติคือ...ซื้อเก็บไว้ก่อนจะไม่มีให้ซื้อ ฮี่ๆๆๆ จากคุณ : Clear Ice - [ 19 มี.ค. 52 22:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ซื้อเก็บไว้เรื่อยๆ แม้จะรู้ว่ายังไม่มีโอกาสจะได้อ่านเร็วๆนี้ แต่ซื้อเก็บไว้เพราะงก อยากได้ อยากมีไว้ใกล้ๆตัว อยากอ่านเมื่อไหร่หยิบมาอ่านได้ทันกาล เวลานึกอยากอ่านหนังสือเล่มไหนแล้วไม่มีให้อ่านเนี่ย มันจะเซ็งในอารมณ์อย่างแรง สุดท้ายเพราะแอบมีความฝันเล็กๆ ว่าอยากมีห้องหนังสือเป็นของตัวเอง If you have a garden and a library, you have everything you need. จากคุณ : ^^EterNaL ReturN^^ - [ 19 มี.ค. 52 23:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ได้โปสเตอร์มาแผ่นหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว ก็เลยเอามาติดไว้ในห้องทำงาน บนนั้นเขียนไว้ว่า Books give us wings. หมายถึง books เป็นเล่มๆ นะคะ ไม่ใช่ online books หรือ e-books เป็นโปสเตอร์ที่ได้มาจาก Library of Congress ซึ่งกำลังดำเนินงาน digitize หนังสือทั้งเก่าและใหม่ 28 ล้านเล่มที่มีอยู่ใน collection เพื่อให้คนทั่วโลกได้มีโอกาสอ่านทั้งหมด โปสเตอร์นั้นเป็นเครื่องยืนยันว่าไม่มีอะไรแทนที่หนังสือเป็นเล่มๆ ได้เลย การแปลงเนื้อหาในหนังสือเป็นตัว bits กับ bytes โดยเนื้อแท้แล้วไม่ใช่เพื่อเอามาแทนที่หนังสือ แต่เพื่อเก็บเนื้อหาของมันไว้ในอีกรูปแบบหนึ่งต่างหาก อย่างที่ คห. ข้างบนๆ ว่าเลยค่ะ แม้แต่กลิ่นหนังสือก็ชวนหลงใหล อย่าว่าแต่ได้เป็นเจ้าของหนังสือที่เอามาวางเรียงเป็นแถวบนชั้นหนังสือเลย มีเล่มที่อยากมีไว้แล้วให้ความรู้สึกอุ่นใจ อยากอ่านเล่มไหน เมื่อไหร่ ก็หยิบลงมาอ่านได้เมื่อนั้น ถึงยังไม่มีเวลาอ่าน ก็รู้ว่ามีอยู่ในครอบครอง แล้วหนังสือก็เป็นเพื่อนแท้ที่เอาเป็นที่ปรึกษาได้ทุกเมื่อ เป็นเพื่อนแท้ที่สร้างความรื่นเริงให้ก็ได้ ให้ความรู้ ให้ข้อคิดก็ได้ พกพาไปไหนก็ได้ง่าย จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 20 มี.ค. 52 00:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ปัญหายิ่งใหญ่ในชีวิตเลยครับ หลายเล่มไม่เคยอ่าน หรืออ่านไม่กี่หน้า แต่พอเห็นก็อดใจซื้อไม่ได้ จนไม่มีจะเก็บ กลายเป็นที่เก็บฝุ่น เคยตั้งปณิธานว่าจะไม่ซื้อ จะยืมห้องสมุดแทน พอเห็นก็อดซื้อไม่ได้ ใครก็ได้ช่วยเยียวยาแทน แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 00:43:53 จากคุณ : mamao - [ 20 มี.ค. 52 00:43:26 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นคนชอบอ่านหนังสือนิยายแทบทุกแนว ยิ่งอิงประวัติศาสตร์ยิ่งชอบ...และชอบสะสมหนังสือมาก... แต่ส่วนใหญ่หนังสือที่ซื้อมาสะสมจริงๆ จะเป็นหนังสือที่อ่านจากที่อื่น(ห้องสมุด ยืมเพื่อน) อ่านแล้วรู้สึกชอบ ก็เลยตัดสินใจซื้อมาเก็บ หนังสือหลายต่อหลายเล่ม เป็นหนังสือหายาก หรือไม่มีจำหน่ายแล้ว ก็พยายามซื้อเก็บไว้ ถ้อยคำ ภาษาในหนังสือ แต่ละยุคแต่สมัย เป็นเสน่ห์ของหนังสือที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย เวลาจะตัดสินใจซื้อหนังสือแต่ละครั้ง นอกจากจะนึกถึงตัวเองแล้ว ยังนึกถึงลูกด้วย อยากให้เค้ามีหนังสือดีๆอ่าน แม้วันนี้ เค้ายังอ่านหนังสือไม่เก่ง แต่แค่เห็นเค้ามานั่งข้างๆเรา หยิบหนังสือเล่มนุ้นเล่มนี้มาพลิกดูตามเรา...ชี้ชวนให้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพ... เท่านี้ก็เป็นสัญญาณที่ดี ที่ทำให้เราคาดได้ว่า...อนาคต...หนังสือในตู้ที่เราเก็บไว้ คงจะไม่สูญค่า.... จากคุณ : ปรีชญา - [ 20 มี.ค. 52 03:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมไม่เคยซื้อหนังสือมาเก็บครับ ซื้อแล้วต้องอ่าน นอกจากว่าไม่สนุกก็เลยต้องเก็บถาวรแบบไม่หยิบมาเปิดอีกเลย ส่วนอีกประเภทคือมันยากเกินกว่าที่ผมจะทำความเข้าใจได้อย่างพวกหนังสือภาษาญี่ปุ่น อันนี้ผมถือว่าเก็บไว้ชั่วคราว ถ้าพื้นฐานดีขึ้นเมื่อไรก็จะเอาออกมาอ่านให้จบแน่นอน จากคุณ : Furusato - [ 20 มี.ค. 52 16:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เราซื้อหนังสือด้วยเหตุผลเดียวกะ จขกท.  และ คุณ Stand by bowky ใน คคห. 6  ค่ะ บางเล่มซื้อมาหลายปีแล้วก็ยังไม่ได้หยิบอ่านเลยค่ะ   หมดเงินกับหนังสือไปเยอะมาก  ย้ำว่า เยอะมาก  แต่ไม่เคยเสียดายเลยค่ะ จากคุณ : ซาตานหมูน้อย - [ 20 มี.ค. 52 22:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่เคยเสียดายที่ซื้อเก็บค่ะ .... ซื้อเพราะชอบ ...แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอ่านอีกรอบ ซื้อเพราะหวังว่า สักวันคงได้อ่าน ซื้อเพราะเก็บไว้ให้พี่น้องลูกหลานได้อ่าน บ้าง จากคุณ : นัทธ์ - [ 21 มี.ค. 52 10:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มีพี่เขาส่งกระทู้นี้มาให้อ่าน พี่เขาคิดเหมือนคุณ หมอดูสำนัก white rabbit (fortuneteller) คือพยายามสแกนหนังสือลงในคอมพิวเตอร์ เพราะพี่เขาเคยโดนแบบคุณ phahurat คือกองทัพปลวกบุก ไม่เคยมีชั้นหนังสือมาก่อน เพิ่งจะทำชั้นหนังสือได้ไม่นาน เหตุเพราะหนังสือที่ซุกๆ ไว้ตามตู้ ตู้ทุกตู้เต็มไปด้วยหนังสือจนไม่มีที่วางของ เลยหาผนังว่างๆ มาผนังหนึ่ง ซื้อชั้นเหล็กมาต่อ วางหนังสือ ตอนนี้ยังไม่เต็ม แต่คาดว่าน่าจะเต็มในไม่ช้า พวกนิตยสารก็จะแบกไปเก็บไว้ที่เรือนหอที่นครนายก ทุกๆ สัปดาห์ต้องกลับไปอยู่ที่นั้น เลยทำให้บ้านที่กรุงเทพฯ พอจะมีที่ว่างหายใจ แต่คาดว่าในอนาคตมันคงจะเต็ม รู้สึกกังวลหนังสือเก่าๆ ของสามีที่เก็บไว้ที่นครนายกอยู่บ้าง เพราะเป็นหนังสือหายาก พอได้อ่านคคห.ของทุกท่านในที่นี้แล้ว อดจะอมยิ้มไม่ได้ ต่อไปนี้ สบายใจในการซื้อหนังสือมากขึ้น สารภาพว่าซื้อมาเยอะมากจนอ่านไม่ทัน แต่ว่าแยกเก็บไว้เรียบร้อย อันไหนอ่านไม่ทัน สักวันต้องได้อ่าน ความใฝ่ฝันคือ อยากเกษียณแล้ว มีเวลาอ่านหนังสือเยอะๆ ตอนนี้กำลังบ้าหนังสือประวัติศาสตร์ค่ะ ชอบมากกกกก จากคุณ : CooKiiE - [ 21 มี.ค. 52 11:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมซื้อ เพราะผมอยากให้แฟนผมได้อ่าน แล้วก็อยากเก็บไว้ให้ลูกหลานได้อ่านด้วย เพราะหนังสือดีๆ มีเยอะครับ ไปหาซื้อเอาตอนนั้นก็คงไม่มีแล้วมั้ง จากคุณ : Green Tablet - [ 21 มี.ค. 52 18:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ที่ผมซื้อเพราะ ผมเชื่อว่ามันช่วยเปลี่ยนชีวิตผมได้ ผมจะอ่านซ้ำหลายรอบ เวลาต้องการผมก็เอาออกมานอนอ่านทบทวน มักจะเป็นความรู้ กะ ธรรมะ บันเทิงไม่ค่อยอยากซื้อ เปลืองเงิน จากคุณ : Retire Young - [ 22 มี.ค. 52 10:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 phahurat  ใช้เชนไดร้ฟ์พ่นเฉียดๆกันไว้ครับ ตรงสันนอกปก ตรงตู้ ยามันมีผล 4-6สัปดาห์  แต่เราพ่นทุกๆ 3-6 เดือนก็พอ พวกนี้มันรู้ดีมันไม่กิน จากคุณ : Retire Young - [ 22 มี.ค. 52 10:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความสุข..อย่างนึงที่เงินเท่าที่มีอยู่ พอจะซื้อได้ ไม่ลำบาก แต่ถ้าลำบากก็คงไม่ซื้อรอให้มีก่อน ปล.ซื้อช่วงต้นเดือนเหมือนกัน เพราะปลายเดือนจะลำบาก ฮ่าๆ จากคุณ : คนขับแท๊กซี่ ก็มีหัวใจ - [ 24 มี.ค. 52 14:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นอีกคนเหมือนกันค่ะ แค่เพียงได้มองหนังสือที่วางเรียงรายกันอยู่ในตู้ก็มีความสุขแล้วโดยไม่ต้องหยิบมาอ่าน บางทีอยากอ่านก็เลือกไม่ถูกเล่มนั้นก็อยากอ่าน เล่มนี้ก็อยากอ่าน บทสรุปบางครั้งก็ทำแค่หยิบมาเปิดๆ ดูบ้างทั้ง 2เล่ม ล่าสุดเพิ่งต่อชั้นเพิ่มเตรียมรับหนังสืออีกล๊อตใหญ่ หวังว่าชั้นนี้จะอยู่ได้นานนะ เพราะพื้นที่ในห้องนอนมีไม่มากพอให้วางชั้นหนังสือเพิ่มแล้วล่ะ จากคุณ : เรียวรุ้ง - [ 25 มี.ค. 52 12:05:23 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ซื้อเพราะหาเช่าไม่ได้อ่ะ แบบเล่มนี้อยากอ่านมากๆๆๆ แต่พอเดินไปร้านเช่าหนังสือก็ไม่มี  - -* แอบเซ็งๆนิดนึง เลยซื้อมาอ่านดีกว่า จากคุณ : Bouyanca - [ 27 มี.ค. 52 23:28:17 ]