ความคิดเห็นที่ 1 อ่านเพิ่มเติมเรื่อง ประกาศพระราชพิธีโสกันต์ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ที่บล็อกคุณกัมม์ครับ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rattanakosin225&month=23-03-2007&group=2&gblog=46 แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 52 00:38:37 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พระราชพิธีโสกันต์         เมื่อถึงวันโสกันต์เจ้านายที่จะโสกันต์แต่งพระองค์เต็มยศ  โกนพระเกศารอบจุก เกล้าจุกปักปิ่นสวมมาลัยหรือสวมพระเกี้ยว ตามแต่ชั้นยศ เสด็จประทับพระราชยานหรือพระเสลี่ยง เข้ากระบวนแห่ไปประกอบพระราชพิธี โดยโหรจะเป็นผู้ถวายพระฤกษ์จรดพระกรรบิด พระกรรไกร เมื่อได้ฤกษ์ชาวภูษามาลาจะถอดพระเกี้ยว แล้วแบ่งพระเกศาออกเป็น 3 ปอย โดยใช้พายเงิน พายทอง และพายนาก แล้วเอาลวดทอง ลวดเงิน ลวดนาก และสายสิญจน์ ผูกปลายพระเกศาแต่ละปอยกับแหวนนพรัตน์ และใบมะตูม ปอยแรกให้ประธานในพระราชพิธีตัด ปอยที่สองให้ผู้เป็นใหญ่ในตระกูลตัด และปอยที่สามให้บิดาตัด แล้วจึงโกนพระเกศาให้เรียบร้อย ขณะประกอบพิธีตัดปอยพระเกศา โหรจะลั่นฆ้องไชย เป่าสังข์ แตร ประโคมปี่พาทย์     หลังจากการโสกันต์แล้วจะเสด็จไปถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ถวายเครื่องไทยทานแล้วเสด็จไปสรงน้ำที่เขาไกรลาส โดยมีเสนาบดีคอยรับเสด็จสี่คน สมมุติเป็นท้าวจตุโลกบาล เดินเคียงเสลี่ยงไปสรงน้ำ ณ พระแท่นเชิงเขาไกรลาส พราหมณ์ ถวายน้ำกลศ น้ำสังข์ แล้วเสด็จเข้าไปในพลับพลาเปลื้องเครื่อง เพื่อผลัดพระภูษา จากนั้นเสด็จขึ้นบนยอดเขาไกรลาสเพื่อเฝ้าพระอิศวรขอประทานพร โดยสมมุติพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่เป็นพระอิศวรประทับบนพระแท่นบุษบก เสร็จแล้วเสด็จโดยพระราชยานหรือพระเสลี่ยงเข้ากระบวนแห่เวียนรอบเขาไกรลาสจากซ้ายไปขวา 3 รอบ แล้วจึงเสด็จกลับ ในช่วงบ่ายจะประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภช วันรุ่งขึ้นพนักงานจะเชิญพระเกศาไปลอยแม่น้ำเป็นอันเสร็จสิ้นพระราชพิธีโสกันต์ ดูรูปภายในศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญกษาปณ์ ที่ http://emuseum.treasury.go.th/th/home/inside.php?SystemModuleKeyPOST=sala&ID=1206&PicLevel=3 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พระราชโอรสและพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 14:41:34 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พระราชโอรส พระราชธิดา ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอู่ย่หัว รัชกาลที่ ๕ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๕ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากซ้าย สมเด็จฯ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ หม่อมเจ้าดนัยวรนุช จักรพันธุ์ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฏราชกุมาร พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 21:10:30 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สังคมไทยในอดีต มีประเพณีนิยมให้เด็กไว้จุกด้วยมีความเชื่อว่า  การไว้จุกจะเป็นการแก้เคล็ดให้เด็กที่มีสุขภาพไม่ดี หรือเลี้ยงยาก  กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น  นอกจากนี้การไว้จุกยังเป็นประเพณีที่นิยมทำกันในสังคมยุคก่อนด้วย โดยเด็กที่ไว้จุกนั้นจะไว้กันจนเด็กมีอายุใกล้จะผ่านวัยเด็กเข้าสู่วัยรุ่น คือ อายุประมาณ 11-13 ปี  จึงจะประกอบพิธีตัดจุก  ซึ่งถือว่าเป็นพิธีมงคล โดยพิธีนี้นิยมจัดกันในทุกชนชั้นของสังคม ตั้งแต่สามัญชนธรรมดา  ขุนนางข้าราชการ ตลอดจนชนชั้นสูง อย่างพระบรมวงศานุวงศ์  ที่มีการเรียกพิธีตัดจุกแตกต่างไปจากชื่อพิธีของสามัญชน  คือ  เรียกว่า "พระราชพิธีโสกันต์" พระราชพิธีนี้มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยสืบมาจนถึงสมัยอยุธยา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่เด่นชัดเท่าไรนัก จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ที่ปรากฏหลักฐานว่ามีการจัดพระราชพิธีโสกันต์ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2475 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 7 มีการจัดพระราชพิธีโสกันต์เป็นครั้งสุดท้ายในประเทศไทย จากซ้าย พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชชสมโภช สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 17:35:06 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 17:04:58 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับพิธีตัดจุกของชนชั้นสูง หรือพระราชพิธีโสกันต์นั้น  เป็นพระราชพิธีหลวงประกอบพิธีทั้งทางศาสนาพุทธ  และศาสนาพราหมณ์ โดยทางพุทธศาสนา จัดพระราชพิธีสงฆ์บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ส่วนพระราชพิธีพราหมณ์ ตั้ง  ณ  หอเวทวิทยาคมในพระบรมมหาราชวัง สถานที่ประกอบพระราชพิธีโสกันต์ มี 2 ลักษณะ คือ ทำพิธีสรงน้ำบนเขาไกรลาส ที่สร้างขึ้น  กับสร้างพระแท่นสรงน้ำบนลานมุมพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท  พระราชพิธีโสกันต์นั้นเดิมเรียกว่า  พระราชพิธีลงสรงโสกันต์  พระราชพิธีโสกันต์บนเขาไกรลาสนั้นมักทำขึ้นเฉพาะโสกันต์เจ้านายที่เป็นพระเจ้าลูกเธอพระยศ "เจ้าฟ้า" เท่านั้น ส่วนการสร้างพระแท่นสรงนั้นสำหรับพระเจ้าลูกเธอที่ยังไม่ได้ดำรงพระยศ "เจ้าฟ้า" รวมถึงพระเจ้าหลานเธอและบุตรธิดาของขุนนางข้าราชการที่พระมหากษัตริย์โปรดฯให้ร่วมโสกันต์ด้วย โดยทั่วไปพระราชพิธีโสกันต์มักจะนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์บ่ายเป็นเวลา 3 วัน และตอนเช้าของวันโสกันต์ พระราชพิธีนี้มักประกอบพิธี ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระรูป สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 17:04:29 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ในวันงานเจ้านายที่จะโสกันต์จะแต่งพระองค์เต็มพระยศอย่างพระราชกุมาร บนพระเศียรจะโกนพระเกศารอบจุก แล้วล้างพระเศียรให้สะอาด จากนั้นจะเกล้าจุกปักปิ่นใส่มาลัยรอบจุกหรือพระเกี้ยว แบบต่างๆ  ตามลำดับพระยศ ผัดพักตร์ (หน้า) และองค์ (ตัว) ให้ขาวนวล แล้วฉลองพระองค์ด้วยชุดที่ประกอบด้วยเครื่องเพชร และของมีค่าเสร็จแล้วประทับพระราชยานเข้าขบวนแห่ไปประกอบพระราชพิธี ครั้นได้พระฤกษ์ชาวภูษามาลาจะถอดพระเกี้ยวออก แล้วแบ่งพระเกศาจุกออกเป็นสามปอย  แต่ละปอยผูกด้วยลวดเงิน ลวดทอง ลวดนาค  สายสิญจน์ผูกปอยเกศาแต่ละปอยเข้ากับแหวนนพเก้าและใบมะตูมทั้งสามปอย โดยการตัดปอยพระเกศานั้น ปอยแรกให้ผู้เป็นประธานเป็นผู้ตัด ปอยที่สองให้ผู้เป็นใหญ่ในตระกูลเป็นผู้ตัด และปอยที่สามให้บิดาตัด ขณะประกอบพิธีตัดปอยพระเกศาจุก โหรจะลั่นฆ้องไชย เป่าสังข์ แตร ประโคมปี่พาทย์  หลังจากการโสกันต์แล้วจะเสด็จไปถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ถวายเครื่องไทยทานแล้วเสด็จไปสรงน้ำที่เขาไกรลาส มีเสนาบดีรับสี่คนสมมุติเป็นท้าวจตุโลกบาล เดินเคียงเสลี่ยงไปสรงน้ำ ณ พระแท่นเชิงเขาไกรลาส  พราหมณ์ถวายน้ำกลศ น้ำสังข์ แล้วเสด็จเข้าไปในพลับพลาเปลื้องเครื่อง เมื่อผลัดพระภูษาแล้ว เสด็จขึ้นบนยอดเขาเฝ้าพระอิศวร โดยผู้ที่สมมุติเป็นพระอิศวรจะเสด็จลงมารับถึงกลางบันไดนาคขึ้นไปถึงชั้นพระแท่น หลังจากที่พระอิศวรประทานพรแล้ว จึงส่งเสด็จพระเจ้าลูกเธอ กลับลงจากเขาไกรลาสและมีการเวียนรอบเขาไกรลาสจากซ้ายไปขวาสามรอบ  ในช่วงบ่ายจะประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภช หลังจากสมโภชเสร็จจึงเป็นอันเสร็จพิธี  วันรุ่งขึ้นจึงอัญเชิญพระเกศาไปลอยในแม่น้ำ พระรูป สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงผนวชสามเณร สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ กรมขุนเทพทวาราวดี จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:51:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รูปไม่ขึ้นครับ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พระรูป สมเด็จฯ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชชสมโภช แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 15:27:59 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 14:02:15 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 13:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ริ้วกระบวนแห่ในพระราชพิธีโสกันต์ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ริ้วกระบวนแห่พระราชพิธีโสกันต์ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมขุนพิษณุโลกประชานารถ ภายหลังโสกันต์แล้วแห่ไปสมโภชเวียนเทียน จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงส่งสมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมขุนนครราชสีมา ไปสมโภชเวียนเทียน เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๔ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 14:11:09 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:10:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สนับเพลาเชองเรื้อยสอด ทรงกระสนน ภูษิตทรงหางหงส์ จีบห้อย ฉลององค์ตาดหิรัญ เจียรบาด รัดแฮ เข็มขัดเพชรพร้อยสร้อย ถักทอง พระรูป สมเด็จฯ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 20:26:17 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สงงวาลเนาวรัตนเรื้อง จินดา วลัยวลีสวมสอง หัตถ์ข้าง ปวะหล่ำผูกเครื่องนา นารูป สัตว์แฮ กรบาทฉลาดแสร้งสร้าง สบสรรพ์ พระรูป พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชชสมโภช ทรงพระเกี้ยวยอด สำหรับพระเจ้าลูกเธอที่ดำรงพระอิศรยยศชั้นเจ้าฟ้า (พ.ศ.๒๔๔๘) แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 18:32:29 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 14:22:15 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พระนวมประดับล้วน หลากวิจิตร บานพับต้นเข็มพันธ์ ผูกแหน้น ทรงก้ยวประกอบทิศ งามเลิศ พิศเพรอศเพรอศพริ้งแม้น อะมร พระรูป เครื่องทรงเกศากันต์ ชั้นหม่อมเจ้า หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล (พ.ศ.๒๔๔๘) แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 14:26:05 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทรงกระบองเพ็ชรน้อย ราชา วดีเอย เชื้อพระวงษรับพระกร สู่ไท้ ขึ้นเกยกระบวนดา ดรยดาษ เสียงกรับรววเร้าให้ ประนม พระรูป สมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดาราฯ ฉลองพระองค์เครื่องโสกันต์ในวันฟังสวดพระพุทธมนต์ (พ.ศ.๒๔๓๙) พระหัตถ์ขวาทรงกระบองเพ็ชร พระหัตถ์ซ้ายทรงยาดม จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:29:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รูปใน คคห. ที่ ๓ ไม่ใช่พระราชธิดา ทั้งหมดครับ จากซ้ายไปขวา ๑. สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เมื่อทรงดำรงพระยศเป็น พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา ๒. สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี เมื่อทรงดำรงพระยศเป็น พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ๓. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ กรมพระยาเทววงศ์วโรปการ เมื่องทรงดำรงพระยศเป็น พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ๔. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตรไชย เมื่อทรงดำรงพระยศเป็น พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย ทั้ง ๔ พระองค์ ทรงเป็นพระราชโอรสและพระราชธิดา ๔ พระองค์แรกในรัชกาลที่ ๔ อันประสูติแต่ สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา เมื่อทรงดำรงยศเป็น เจ้าจอมมารดาเปี่ยม จากคุณ : อเทตยา - [ 21 มี.ค. 52 14:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เครื่องทรงในงานเกศากันต์ ชั้นหม่อมราชวงศ์ พ.ศ.๒๔๔๙ หม่อมราชวงศ์บุญรับ (ปราโมช) บุตรหม้อมเจ้าคำรบ ในกรมขุนวัจักรานุภาพ (หลังซ้าย) หม่อมราชวงศ์สนับ (ลดาวัลย์) บุตรหม่อมเจ้าเพิ่ม ในกรมหมื่นภูมินทรภักดี (หลังกลาง) หม่อมราชวงศ์ประณตน้อม (ปราโมช) บุตรหม้อมเจ้าคำรบ ในกรมขุนวรจักรานุภาพ (หลังขวา) หม่อมราชวงศ์ทรงสอาง (เกษมศรี) บุตรหม่อมเจ้าปฏิพัทธเกษมศรี ในกรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ (หน้าซ้าย) หม่อมราชวงศ์ฉายฉาน (ศิริวงศ์) ในพระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย์ (หน้าขวา) แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 20:31:36 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 14:41:00 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบพระคุณคุณอเทตยามากครับ ต่อเลยนะครับ เครื่องแต่งกายเด็กสามัญชนในงานโกนจุก จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โกนจุกสามัญชน ด้านหลังคุณแม่เยา (เจ้าของภาพ) เรียก เบญจา เป็นที่ตั้งสำหรับรดน้ำเด็กที่ตัดจุกแล้ว แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 18:28:39 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พระรูป? จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 พระองค์เจ้าอาภากรณ์เกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 14:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล กรมหลวงวิสุทธิกระษัตริย์ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 20:30:17 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 รออีกหน่อยนะครับ ยังไม่เข้าเรื่องกระบวนแห่และการสรงน้ำ ขอลงรูปการไว้จุกและการแต่งกายก่อนโสกันต์ เกศากันต์ โกนจุก ก่อนนะครับ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:03:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ... จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณเครดิตรูปทุกรูปที่เคยโพสต์ไว้ ณ ที่นี้และที่อื่นๆ ด้วยนะครับ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ... จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:07:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 .... จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ..... จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ... จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ....... จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ........ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ......... จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สมเด็จหญิงพระองค์ใหญ่ - สมเด็จเจ้าฟ้าจันทราสรัทวารฯ กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 52 02:06:06 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 15:21:05 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พระเกี้ยวยอดเพชร จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:34:31 ]

ความคิดเห็นที่ 38 หงส์เพชร ประดับบนพระอังษาทับพระนวม จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 39 พระวลัยเพชร (ปัจจุบันสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงออกงานบ่อยๆ) จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สำรับทอง - พระเกี๋ยวดอกไม้ไหว ทองคำ สำหรับพระอิศริยยศชั้นพระองค์เจ้าลงมา จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 15:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คิดถึงคุณพระนายไวย ไม่ทราบว่าจะเข้ามาเห็นนางเชิญมยุรฉัตรในกระทู้นี้หรือเปล่า จากคุณ : Navarat.C - [ 21 มี.ค. 52 15:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนโน้นหากันตั้งนาน ไม่ได้รูปชัดๆขนาดนี้ ขอบคุณจขกทมากครับ จากคุณ : Navarat.C - [ 21 มี.ค. 52 15:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ฉลองพระองค์ของเจ้านายที่จะโสกันต์ มีด้วยกันทั้งสิ้น ๔ สำรับ ตามลำดับพระราชพิธี คือ ๑. เมื่อเสด็จฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ ฉลองพระองค์แขนกระบอกยาว ทรงสนับเพลา และพระภูษาโจงไว้หางหงส์ คาดเจียระบาด (ผ้าห้อยด้านข้าง – เฉพาะพระองค์เจ้าลงมา) ชายไหว (ผ้าห้อยด้านหน้า เฉพาะเจ้าฟ้า คาดทั้งเจียระบาดและชายไหวรวมเป็น ๓ ผืน) คาดประปั้นเหน่งประดับเพชร (หัวเข็มขัด) ทับ ทรงพระนวม (กรองคอ ประดับเพชรและอัญมณีสี) คาดพระสังวาลย์ มีหงส์เพชรหรือดอกไม้ไหวประดับบนพระอังษา ทรงพาหุรัด (บานพับ) ที่ต้นพระพาหา ข้อพระกรทรงพระวลัยเพชรหรือกำไลทองหลายวงซ้อนกันเป็นชั้นขึ้นไปต้งแต่ข้อพระหัตถ์ ทรงปวะหล่ำ (เม็ดทองคำร้อยเป็นวง) ลูกไม้ปลายแขน (ลูกไม้ปลายมือ ก็ว่า เป็นรูปสัตว์ ใบไม้ ผลไม้ทองคำ ร้อยห้อยกับสายสร้อยอ่อน) ข้อพระบาททรงกำไล ลูกกระพรวนทองคำ เครื่องทรงข้อมือ ข้อเท้านี้ โบราณเรียก กรองเชิง กรองได ก็มี สำหรับพระยศเจ้าฟ้าทรงเพชรล้วน นอกนั้นอาจใช้อัญมณีอื่นสลับเพชร (แต่ไม่นิยมใช้เพชรล้วนเทียบเท่าเจ้าฟ้า) พระบาทสวมถุงพระบาทขาวยาวถึงเข่า ทรงฉลองพระบาทกำมะหยี่ปักลวดลาย พระเมาฬี (จุก) นั้น ทรงพระเกี้ยวยอด สำหรับเจ้าฟ้า พระองค์เจ้าลงมา ทรงเกี้ยวดอกไม้ไหวหรือเกี้ยว เมื่อเข้าพิธีสวมมงคลย่น (ทำด้วยสายสิญจน์ ๑๐๘ เส้น ต่อมาใช้บุในนวมและประดับด้วยอัญมณี เป็นดอกไม้ทิศ หรือดอกไม้ล้อม) จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ๒. เมื่อเวลาโสกันต์ ทรงฉลองพระองค์ถอด (เครื่องทรงสำรับสรงน้ำโดยเฉพาะ) เป็นผ้านุ่งขาวยาวถึงข้อพระบาท และมีผ้าทรงสะพักขาวขลิบทอง ทรงเครื่องประดับชุดเดิม แต่ไม่ทรงถุงพระบาทและฉลองพระบาท ทรงมงคลย่นรอบพระเกี้ยว เมื่อถึงเวลาโสกันต์ถอดพระเกี้ยวออกแล้วจึงแบ่งพระเมาฬีเป็นปอย ๓ ปอย มีพระธำมรงค์นพรัตน์ผูกไว้ทุกปอยเพื่อที่จะทรงจรดพระกรรไกรกรรบิด (กรรไกรและมีดโกน) และเมื่อเวลาจะสรงน้ำต้องถอดเครื่องประดับที่จะเปียกน้ำออกบ้าง เช่น มงคลย่นหรือนวมคอ แล้วทรงทัดใบมะตูมเหนือพระกรรณขวา พระรูป ทูนกระหม่อมติ๋ว - สมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 18:51:14 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 16:22:01 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ทูนกระหม่อมติ๋ว ทรงฉลองพระองค์ถอด จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:19:15 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เมื่อโสกันต์แล้ว และจะสรงน้ำ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ๓. เมื่อสรงน้ำแล้ว ผลัดฉลองพระองค์ถอด (ที่เปียกน้ำ) แล้วทรงพระภูษายกจีบหน้านาง ทรงคาดฉลองพระองค์ครุยเฉวียงพระอังษา (สำหรับเจ้านายชาย) หรือทรงสะไบสะพัก (สำหรับเจ้านายหญิง) ทรงเครื่องประดับเช่นเดิม (บางครั้งสำหรับเจ้านายพระองค์ใหญ่ มักมีการเปลี่ยนสีอัญมณีเมื่อจะแห่เสด็จกลับ เป็นอีกสำรับใช้อัญมณีสีอื่น ไม่ให้ซ้ำสำรับแรก) ทรงมงคลย่นที่มีการประดับดอกไม้ทิศหรืออัญมณี ทัดใบมะตูมเหนือพระกรรณขวา จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 48 พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชชสมโภช จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:35:05 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เกศากันต์หม่อมเจ้ากิติเกริกไกร  เกษมสันต์ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 50 โสกันต์ สมเด็จเจ้าฟ้านิภานพดล กรมขุนอู่ทองเขตขัติยนารี พ.ศ.๒๔๔๑ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ๔. เมื่อเวียนเทียนสมโภช สำหรับพระราชกุมารที่ทรงพระยศเจ้าฟ้าหรือพระองค์เจ้า ทรงฉลองพระองค์อย่างขัติยราชกุมาร คือ ทรงพระชฎามหากฐิน ทรงพระภูษาโจงไว้หางหงษ์ทับพระสนับเพลา ฉลองพระองค์แขนกระบอกแนบพระองค์ ทรงชายไหวชายแครง รัดปั้นเหน่ง ประดับสร้อยสังวาลย์ ฉลองพระบาท บ้างมีเหน็บพระแสงกริช เรียกรวมว่า ทรงเครื่องต้น ทรงเครื่องประดับพร้อมเครื่องอิศริยยศราชูปโภคอย่างเต็มที่ หากเป็นพระราชกุมารที่ดำรงพระอิศริยยศรองลงมา ไม่ทรงพระชฎา แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 16:47:02 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ทูนกระหม่อมติ๋ว เมื่อสมโภชเวียนเทียน จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อีกพระรูป จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 54 พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชชสมโภช เกศากันต์ พ.ศ.๒๔๔๘ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 55 พระองค์เจ้าโสมาวดีศรีรัตนราชธิดา ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โสกันต์เทียบเท่าชั้นเจ้าฟ้า พ.ศ.๒๔๐๗ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โสกันต์ พ.ศ.๒๔๓๓ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวส่งพระกร สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธกรมขุนเทพทวาราวดี เสด็จไปสมโภชเวียนเทียน พ.ศ.๒๔๓๕ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ กรมขุนเทพทวาราวดี (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖) โสกันต์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๕ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 16:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา (พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗) โสกันต์ พ.ศ.๒๔๔๘ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 17:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ยังมีอีกหลายส่วนนะครับที่หลายคนสนใจ เช่น ลำดับกระบวนแห่ นางเชิญมยุรฉัตร นางแต่งตัวสะ ลงสรงใหญ่บนเขาไกรลาส ลงสรงบนพระแท่นสรง รวมทั้งพระรูป รูป ที่เกี่ยวข้อง ที่รวมๆ เอาไว้จะทะยอยลงครับ (เริ่มเหนื่อย) ท่านใดมีข้อมูลจากภาพหรือจากแหล่งอื่นจะโต้แย้ง ถกเถียง หรือให้ความรู้เพิ่มเติม จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งนัก (พักเดี๋ยวนะครับ) รูป หุ่นรูปเด็กโกนจุก ฝีมือ อ.จักรพันธุ์  โปษยกฤต ศิลปินแห่งชาติ ที่บัดนี้มีมูลค่าสูงลิบลิ่วครับ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 17:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอแก้ไขความในความเห็นที่ ๗ ที่ว่า "สังคมไทยในอดีต มีประเพณีนิยมให้เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป" ศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน ได้กล่าวถึงการไว้จุกของเด็กไทยว่า  เป็นประเพณีสืบเนื่องจากการโกนผมไฟมื่อเด็กมีอายุครบเดือน  และด้วยความเชื่อที่ว่า กระโหลกของเด็กนั้นยังไม่เต็ม  เวลาโกนผมไฟจึงเว้นตรงกลางกระหม่อมที่เป็นรอยต่อของกระโหลกไว้  เมื่อเด็เติบโตขึ้นผมตรงกลางกระห่อมยาวขึ้นตามอายุของเด็กจึงรวบเป็นจุก  และคงไว้จุกมาจนเด็กชายอายุ ๑๑ - ๑๓ ปี  และเด็กหญิงอายุ ๙ - ๑๑ ปี จึงจัดให้มีพิธีโกนจุก  เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเด็กนั้นเติบโตพ้นวัยเด็ก  เตรียมตัวที่จะเป็นหนุ่มเป็นสาวกันได้แล้ว   ธรรมเนียมการไว้จุกนี้มีแต่ในกรุงสยาม  การที่พระราชชายา เจ้าดารารัศมี ทรงไว้จุกเมื่อทรงพระเยาว์  จึงเชื่อกันว่าทรงไส้จุกตามคำแนะนำของเจ้าพระยารัตนาธิเบศ (พุ่ม  ศรีไชยันต์) ซึ่งเป็นข้าหลวงขึ้นไปประจำอยู่ที่เชียงใหม่  แต่เมื่อตรวจสอบเรื่องเวลาแล้ว  พบว่าพระราชชายาฯ ประสูติเดือนสิงหาคม ๒๔๑๖  แต่เจ้าพระยารัตนาธิเบศขึ้นไปประจำที่เชียงใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๑๗  ซึ่งเวลานั้นพระราชชายาฯ ทรงมีชนมายุได้ขวบครึ่งแล้ว  จึงพอจะอนุมานได้ว่า ผู้ที่จัดให้พระราชชายาทรงไว้จุกตมแบบเด็กสยามคือ แม่เจ้าเทพไกรสร  พระชนนีในพระองค์ซึ่งมีความสนิทสนมกับล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ เป็นอย่างมาก จากคุณ : V_Mee - [ 21 มี.ค. 52 17:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แก้ไขแล้ว ขอบพระคุณคุณวีมีครับ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 17:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอโทษนะครับ เมื่อกี้ไม่ทราบว่ากระทู้ยังไหลลื่นอยู่ เลยไปปาดเข้า ระหว่างพักนี้ เข้ามาบอกว่าจะรอชมต่อนะครับ โดยเฉพาะรูปที่เป็นองค์ประกอบของพระราชพิธีที่สูญสิ้นไป หาดูอีกมิได้แล้วนี้ จากคุณ : Navarat.C - [ 21 มี.ค. 52 17:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ละเอียดทีเดียว พอดีเห็น คคหที่ ๓๙ เรื่องพระวลัยเพชร ที่สมเด็จพระเนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงอยู่น่ะครับ ไม่ทราบว่าพระวลัยเพชรองค์นี้ทรงได้รับสืบทอดมาจากทางสายไหนหรือเปล่าครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 21 มี.ค. 52 17:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 65 น่าโหวตให้เป็นกระทู้แนะนำ  เหมาะแก่ห้องสมุดมาก   รูปเก่าๆมีคุณค่าเยอะแยะไปหมด เครื่องทรงคงมีราคามากๆ ทั้งจากวัตถุและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ถ้าเราสามารถเก็บได้ทุกชุดทำเป็นพิพิธภัณฑ์คงไม่น้อยหน้าต่างประเทศ ร.6 ตอนเด็กพระพักตร์เหมือนสมเด็จพระพันปีหลวงจริงๆ น่าสนใจพระประวัติพระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชชสมโภช รู้สึกท่านจะเป็นลูกรักของร.5 คงเพราะนิสัยที่สนุกสนานร่าเริงช่างซักถาม (สังเกตที่อ่านๆมา) คห.16 ทำไมเป็นพ.ศ 2488 คห.18 ทำไมเป็นยาดมกับกระบองเพชร ? จากคุณ : วสันดิลก - [ 21 มี.ค. 52 18:05:23 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อธิบายเรื่อง มงคลย่น (สำหรับพิธีโกนจุกชาวบ้าน)  เพิ่มเติม ณัฐฐภัทร  นาวิกชีวิน กล่าวไว้ในหนังสือ พระราชพิธีโสกันต์ว่า โดยทั่วไปใช้ใบลานมาขดเป็นวงให้พอดีกับศีรษะ แล้วเอาผ้าขาวพันให้รอบใบตาล แล้วเอาด้ายดิบที่ยังไม่ได้จับเป็นสายสิญจน์มาวงให้รอบหนาพอสมควร แล้วเอาดิ้นเงินดิ้นทองมาถักเป็นตาขนมเปียกปูนเย็บติดให้รอบ ตรงกลางถักเป็นดอกแปดกลีบติด ส่วนข้างบนนั้นถักเป็นดอกแปดกลับ ปักลวดดอกไม้ไหว แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 18:19:53 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 18:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 67 กระบองเพชร ทำด้วยใบลาน พับและสานเป็นรูปหัวนก ถือว่ากระบองเพชรเป็นอาวุธของท้าวเวสสุวัณ ใช้กันภยันตรายจากภูติผี หม่อมเจ้าพูนพิศมัยทรงเล่าประทานไว้ว่าเดิมท้าวเวสสุวัณถือกระบองทีทำด้วยต้นตาล ต่อมาคนมาจินตนาการใหม่ทำเป็นกระบองเกลียว จึงเห็นรูปรูปท้าวเวสสุวัณถือกระบองเกลียวจนทุกวันนี้ ส่วนยาดมนั้น ยังไม่แน่ใจในข้อมูล ขอค้นหรือถามผู้ใหญ่อีกครั้งครับ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 18:58:19 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 18:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ว่าด้วยกระบวนแห่ ไมว่าจะเป็นวันแรกของงานที่เริ่มตั้งแต่การเสด็จฟังสวดพระพุทธมนต์ (ที่กินเวลาหลายวัน เช่น ๓ วัน) จนถึงวันทำพิธีโสกันต์ และวันสมโภช จะมีริ้วกระบวนแห่ในการรับส่งเสด็จเหมือนกันทุกวันงาน เมื่อได้พระฤกษ์ ให้ชาวพระราชยานเข้าไปในทางตามถนนท้องฉนวน พระเสลี่ยงนั้นรอรับเสด็จที่เกยพระที่นั่งในพระบรมมหาราชวัง ให้แบ่งกระบวนแห่ คู่แห่ผู้ใหญ่อยู่คอยรับเสด็จนอกประตู คู่แห่เด็กเข้าไปกับพระราชยาน ไปตั้งกระบวนในพระราชวัง แบ่งเป็นกระบวนหน้า กระบวนหลัง เช่นกระบวนหน้า มี คู่แห่เด็กศีรษะจุก ๘๐ คน มีผู้ถือต้นเชือกปลายเชือก ๔ คน (เพื่อรักษาแนวกระบวนให้ตรง และป้องกันคนร้ายที่จะถลันเข้ามาในกระบวนแห่) รวม ๘๔ คน แตรฝรั่ง ๔ คน แตรงอน ๔ คน สังข์ ๑ คน เครื่องสูง ๒๖ คน บังพระสูรย์ ๑ คน ไกวบัณเฑาะว์ ๒ คน พราหมณ์โปรยข้าวตอก ๒ คน พราหมณ์ถือดอกไม้ ๑ คน คนเดินเคียงพระราชยานทั้งสองด้าน ๑๒ คน อินทร์-พรหม ฝ่ายละ ๘ คน คนหามพระราชยาน ๘ คน และกระบวนหลัง ประกอบด้วย เครื่องสูง ๘ คน และเชิญพระแสง ๘ คน พระรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงส่งสมเด็จพระลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานารถ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕)เสด็จไปฟังสวดพระพุทธมนต์ ก่อนโสกันต์ พ.ศ.๒๔๐๘ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 19:14:04 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ริ้วกระบวนแห่ไปตามทางปักราชวัตร ฉัตรเบญจรงค์ ถึงโรงแสงด้านใต้ ประโคมต่อเมื่อกระบวนถึงจุดต่างๆ ดังนี้ ถึงมุมระเบียงพระอุโบสถพระศรีรัตนศาสดาราม ถึงป้อมเผด็จดัสกร ถึงประตูกลางพระระเบียงด้านเหนือ ถึงประตูวิเศษไชยศรี ถึงประตูพิมานไชยศรี (แล้วเลี้ยวตามถนนไปหน้าทิมดาบตำรวจใน) ถึงมุมโรงนาฬิกาด้านตะวันตก เป็นแห่งสุดท้ายที่ประโคม เมื่อประโคมสังข์แตรนั้น คู่แห่ยกมือประนมขึ้นไหว้พร้อมกันทุกครั้ง เมื่อถึงกำแพงแก้วพระมหาปราสาท พระราชยานเทียบเกยที่ประทับ คู่แห่ประจำตามตำแหน่ง คู่หาเด็กให้นั่งตามที่ในกระบวนหันกลับเข้าไปหาเกยพร้อมๆ กัน เมื่อเสด็จเทียบ คู่แห่ถวายบังคมโดยพร้อมกัน ชาวที่ลาดพระสุจหนี่ ลาดพระบาทรับเสด็จตั้งแต่เกยไปถึงอัฒจันทร์พระมหาปราสาท การเสด็จลงประทับพระราชยานหรือขึ้นจากพระราชยาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเป็นผู้รับส่งเอง หรือมอบหมายให้พระบรมวงศานุวงศ์พระองค์หนึ่งพระองค์ใดเป็นผู้รับส่งพระกร เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ทรงรับส่งพระราชกุมารด้วยพระองค์เองทุกครั้ง ด้วยทรงเชื่อว่าถ้ามอบให้ผู้อื่นที่มิใช่บิดารับส่ง จะทำให้พระกุมารชันษาไม่ยืน ฉล่ยงกงหามแปดไซร้ ผูกคาน กลดหักทองขวางโดย เชอดก้งง กรมภูษิตประจำการ หว่างที่ น่งงนา ชาวนิเวศคยงข้างท้งง คู่รวงง จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 19:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 70 คู่คยงทวาทศล้วน เลือกคัด คู่แฮ ปูมนุ่งเข็มขาบคลงง จ่ายเสื้อ โพกขลิบคาดเข็มขัด ทองถัก พื้นเผ่ามาตยช้นนเชื้อ ตระกูล พระรูปใน คห.บน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงส่งพระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต เมื่อคราวเกศากันต์ครั้งสุดท้ายในกรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ.๒๔๗๑ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 19:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 71 นางเชิญเครื่องยศในงานนั้น ถัดน้นนเชอญเครื่องท้งง แปดนาง คู่คู่เชอดเครื่องยูร ยาตรเยื้อง เลือกผิวที่บางบาง หมดจด ข้ยวขัดขมิ้นเปลื้อง เปล่งพรรณ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 19:42:04 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 19:40:16 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ข้าหลวงตามเสด็จในกระบวนแห่ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 19:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบพระคุณ คุณ Navarat.C ครับ ที่กรุณามีจิตนึกถึงผมครับ เคยอ่านมานานแล้ว เรื่องนางเชิญมยุรฉัตร แต่ไม่เคยเห็นว่า นางเหล่านี้ ถือสิ่งใดกันแน่ เห็นแต่ลางๆ หรือ เงาๆ ไม่เคยเห็นจริงๆ เลยสักครั้งว่าเป็นเช่นไร ขอบพระคุณคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ที่กรุณานำภาพมาให้ชม บางภาพ ก็ไม่เคยเห็นมาเลย ผมเคยอ่าน ชิวิตในวัง ของ ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ เกี่ยวกับ เครื่องโสกันต์ ของพระโอรสธิดา สายพระอัครชายาเธอ ทั้งสามพระองค์ว่า เมือพระโอรสธิดาเจริญพระชนม์ พ้นกาลที่จะโสกันต์แล้ว จะทรงให้แกะเพชร หรือ อัญมณีต่างๆ จากเครื่องแต่งพระองค์ และหลอมทองเก็บไว้ เว้นแต่บางองค์ ที่อาจจะทรงใช้ หรือ สามารถแต่งพระองค์ในกาลปกติได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็อยากมีบุญได้เห็นเครื่องแต่งพระองค์เต็มยศในคราพระราชพิธีโสกันต์ สักครั้งครับ ด้วยกลัวว่า ธรรมเนียม และความรู้ในเรื่องนี้จะสูญไปในภายภาคหน้า จากคุณ : พระนายไวย - [ 21 มี.ค. 52 19:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 74 จากสี่แผ่นดิน บทประพันธ์ของ ศาสตราจารย์ พลตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์  ปราโมช  ศิลปินแห่งชาติ บรรยายความรู้สึกของพลอยและช้อย ตอนชมกระบวนแห่โสกันต์ "จนในที่สุดก็ถึงวันที่เฝ้าคอยกันอยู่ทุกคน คือวันที่เจ้านายโสกันต์เสด็จออกฟังสวดวันแรก ช้อยและพลอยไปคอยดูแห่อยู่ตั้งแต่กลางวัน จนตกบ่ายจึงจะได้เห็นกระบวนแห่ ผ่านจากพระราชฐานชั้นใน ออกมายังเขตพระราชฐานชั้นนอก ในระหว่างที่คอยดูแห่อยู่นั้น ทั้งพลอยและช้อยรู้สึกร้อนจนเหงื่อตกเปียกชุ่ม ไปทั้งตัว เพราะไหนจะแดดที่กระทบกับพื้นหิน เป็นไอร้อนกลับขึ้นมา ไหนจะต้องเบียดเสียดกับคน ที่มาคอยดูแห่เช่นกัน ทั้งช้อยและพลอยตกลงว่าจะจูงมือกันไว้แน่น ไม่ยอมให้พลัดกันไปได้ พอพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกส่งทูลกระหม่อมขึ้นพระยานมาศ เสียงประโคมสังข์แตรจากข้างใน บอกให้พลอยรู้ว่า กระบวนแห่จะเริ่ม ความร้อนก็หายไปเพราะความตื่นเต้น ทำให้พลอยลืมทุกอย่าง นอกจากจะดูให้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็         ต้นกระบวนแห่นั้น เป็นทหารเดินแถวเป่าแตรวง มีทหารแบกปืนเดินก้าวเท้าพร้อมกันได้จังหวะ เดินผ่านไปกองร้อยหนึ่งก่อน เสียงกองใหญ่แตรวงตีเป็นจังหวะเร้าใจ ทำให้หัวใจพลอยเต้นเข้าจังหวะตาม พอเสียงแตรวงไกลออกไป เสียงกลองแขกคู่หนึ่งที่นำขบวนหลังก็ดังใกล้เข้ามา และเสียงปี่ชวาเจื้อยแจ้ว ก็ดังขึ้นแทนเสียงแตรฝรั่ง ที่ค่อยๆเบาลง มีขุนนางเดินประณมมือเป็นคู่เคียงเป็นคู่ๆ ถ้ดจากนั้น ไปถึงคู่แห่มหาดเล็ก เดินเป็นคู่ๆเช่นเดียวกัน แล้วจึงถึงกระบวนเด็กๆ ที่มาเข้ากระบวนแห่ ตามติดๆ มาด้วยหมวดกลองชนะและแตรสังข์ ซี่งเป่าเป็นระยะๆ สองข้างเป็นพวกเครื่องสูง มีคนแต่งเป็นอินทร์พรหม เดินถือเครื่องสูงพวกฉัตรและบังแทรก แลดูสล้างเหมือนกับต้นไม้ที่เดินได้ จากนั้นก็ถึงพวกพราหมณ์ที่เข้ากระบวน มีทั้งพราหมณ์เป่าสังข์และแกว่งกลองเล็กๆ สองหน้ามีเสาปักกลางมีลูกตุ้มแขวน ที่เรียกว่าไม้บัณเฑาะว์ เสียงดังปงปัง และมีพราหมณ์โปรยข้าวตอก ในระหว่างเครื่องสูงที่เชิญมาสลับสลอนนั้น มีมหาดเล็กถือพระแสง เดินแซงอยู่ด้วย ต่อจากนั้นไปพวกผู้หญิงที่มาดูแห่ซุบซิบกันด้วยความสนใจ และสะกิดกันให้ดู จุดที่สนใจก็คือ เด็กผู้ชายเล็กๆ สองคนแต่งตัวสวยงามถือขนนกการเวก เสียงกระซิบกันว่า "น่ารัก" หรือ "น่าเอ็นดู" ดังอยู่ทั่วไป จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 19:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 75 แล้วจึงถึงนางมยุรฉัตรอีกคู่หนึ่ง แต่งกายนุ่งยกจีบห่มผ้านางประดับอาภรณ์เครื่องทองของจริง เดินถือหางนกยูงตามติดๆมาด้วย เด็กผู้หญิงอีกคู่หนึ่งแต่งกายคล้ายๆกัน แต่ในมือถือกิ่งไม้เงินทอง แล้วจึงถึงพระยานมาศ อันมีทูลกระหม่อมประทับอยู่ แต่งองค์ด้วยเครื่องเพชรล้วน ต้องแสงแดดตอนบ่าย เป็นประกาย ทุกคนที่คอยดูแห่อยู่ อดอุทานมิได้ว่า "งามจริง !" ถัดจากนั้นไปก็เป็นกระบวนขุนนางตามเสด็จ และนางเชิญเครื่อง และนางพัดอีกเจ็ดคน แล้วจึงถึงพวกนางสระและพวกข้าหลวงตามเสด็จ ตอนนี้ที่ความสนใจของคนดูมีมากขึ้น เพราะคนนี้ก็รู้จักคนนั้น คนนั้นก็รู้จักคนโน้น ต่างพากันสะกิดให้ดูกันอยู่ทั่วๆไป พลอยและช้อยไม่สนใจกระบวนแห่ตอนท้ายเท่าไรนัก เพราะพอได้ฤกษ์เคลื่อนกระบวน การมหรสพทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่ในสนามข้างหน้า ก็เริ่มลงโรงพร้อมกัน พอได้โอกาสทั้งพลอยและช้อย ก็จูงมือกันเตร่ไปทางด้านโรงมหรสพ ที่ตรงสนามหลังวัดพระแก้ว มีการละเล่นที่น่าดูหลายอย่าง มีไม้ลอย ซึ่งคนปีนไม้สูงขึ้นไปยืนอยู่บนยอด มีไต่ลวดและการแสดงโลดโผนอื่นๆ ที่พลอยชอบมากที่สุด ก็เห็นจะได้แก่ กระอั้วแทงควาย มีคนสองคนเข้าไปอยู่ในผ้าคลุม ถือหัวควายแสดงกิริยาเหมือนควายจริงๆ มีชายคนหนึ่ง เล่นเป็นผัวนางกระอั้ว ถือหอกไล่แทงควาย และมีคนแต่งเป็นนางกระอั้ว อย่างตลกน่าหัวเราะ ถือร่มขาด และกระเดียดกระจาดคอยวิ่งตามหลัง ส่วนควายนั้นก็วิ่งไล่ขวิดคนทั้งสอง ซึ่งหนีบ้างสู้บ้าง ด้วยท่าทาง ที่ทำให้คนดูต้องหัวเราะ ท้องคัดท้องแข็ง ดูเท่าไรก็ไม่เบื่อ ส่วนการละเล่นที่เรียกว่า โมงครุ่มและระเบงนั้น ผ่านไปดูได้ประเดี๋ยวหนึ่ง ช้อยก็ชวนไปที่อื่นบอกว่าเบื่อไม่เห็นมีอะไร ร้องซ้ำๆ ซากๆ อยู่ได้         พอตกค่ำถึงเวลาเริ่มจุดไฟ ทั้งช้อยและพลอยก็ไม่มีตาสำหรับจะดูที่อื่น นอกจากเขาไกรลาส เดินวนกันอยู่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนนับรอบไม่ถ้วน เพราะเวลากลางคืนและแสงไฟที่ประดับประดาไว้ ได้เปลี่ยนสภาพเขาไกรลาสที่ทำด้วยไม้ไผ่และดีบุก ให้กลายเป็นเขาไกรลาสในเทพนิยายไปจริงๆ ต้นไม้ต่างๆที่ปลูกไว้บนเขา ดูระยิบระยับ ได้ด้วยดอกไม้ที่ถูกแสงไฟ และลูกแก้วสีต่างๆ ที่แขวนไว้ รูปภาพต่างๆ ถูกแสงไฟเข้าก็กลับมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรูปเทวดาหรือรูปสัตว์ ที่เรียงรายอยู่ทั่วไป ตามเชิงเขาไกรลาสนั้น ทำเป็นคูหา แต่ละคูหาก็ตั้งตุ๊กตา ไขกลไกกระดิกตัวเคลื่องไหวได้ เหมือนคนจริงๆ แต่ละคูหาก็แสดงเรื่องต่างๆ มีรามเกียรติ์บ้าง อิเหนาบ้าง สังข์ทองบ้าง จับเอาตอนใดตอนหนึ่งมาแสดง ซึ่งแสดงเป็นภาพตุ๊กตากล ซ้ำอยู่ไม่รู้จบ และพลอยก็ยืนดูอยู่ได้ไม่รู้เบื่อ ความรู้สึกหิวข้าวหรือง่วงนอนนั้นเป็นอันว่าลืมได้สนิท แม้แต่จะหนาวจะร้อนก็ไม่รู้สึก จนตกดึกน้ำค้างเริ่มลงจึงกลับตำหนัก พร้อมด้วยความเหนื่อยอ่อนและอิ่มใจ ที่ได้เที่ยวสนุก แต่พอรุ่งขึ้นพลอยก็กระวนกระวาย อยากไปดูงานอีก และก็ได้ดูตลอดงานซึ่งกินเวลาหลายวัน พอเสร็จงานแล้วเสด็จถึงกับทรงทักว่า "นังพลอยเที่ยวงานเสียผอม" จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 19:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขออนุญาตปาดครับ พระรูปใน คห.25 คือ  สมเด็จเจ้าฟ้าจันทรมณฑลโสภณภควดี  กรมหลวงวิสุทธิกษัตรีย์  สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอในรัชกาลที่ 5 ครับ จากคุณ : นอกราชการ - [ 21 มี.ค. 52 19:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 77 - ขอบคุณครับ สำหรับภาพและความรู้ โหวดให้แล้วครับ - จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 21 มี.ค. 52 20:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 78 โหวตกระทู้ครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 21 มี.ค. 52 20:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ในกระบวนแห่สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เมื่อเมื่อพระราชพิธีลงสรงโสกันต์ครั้งใหญ่ เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๙ นั้น มีการจัดวางลำดับคู่แห่อย่างยิ่งใหญ่และละเอียดที่สุด นอกเหนือจากคู่แห่ตามพระราชอิศริยยศแล้ว ยังมีเด็กๆ เข้ากระบวนแห่ เป็นบุตรข้าราชการจีน ณวน มลายู แขกเทศ ลาวทรงดำเด็กชา บุตรข้าราชการกองลาวพุงขาวพุงดำ แต่งตัวตามสัญชาติเข้ากระบวนเป็นอันมาก นอกจากนี้มีเจ้านายชั้นหม่อมเจ้าถือขนนกการเวก นางเชิญมยุรฉัตร (ทำด้วยหางนกยูง มีด้ามถือ เดินนำหน้าพระราชยาน) นางเชิญต้นไม้เงินทอง ซึ่งนางทั้งสองกลุ่มนี้ เมื่อเดินกระบวนก่อนลงสรงใช้เด็กศีรษะจุก เมื่อลงสรงแล้วใช้ผู้ใหญ่) มีพี่เลี้ยงเดินกำกับ และมีนางแต่งตัวสะ คือ ผู้หญิงใส่เกี้ยว นุ่งผ้าลายพื้นเขียว ห่มผ้าแพรพื้นแดง เดินประนมมือตามกระบวนแห่ ถ้าพระราชพิธีโสกันต์ธรรมดา จะไม่มีนางเชิญมยุรฉัตรและนางแต่งตัวสะ นอกจากนี้ยังมีหญิงต่างภาษา ลาวพุงดำ ลาวพุงขาว ลาวทรงดำ แขกมลายู มอญ ญวน กะเหรี่ยง และทหารหญิงฝ่ายในเดินเข้าในกระบวนด้วย จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 20:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณสำหรับภาพ และความรู้ จากคุณ : ศิษย์เจ้าคุณ - [ 21 มี.ค. 52 20:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 81 การพระราชพิธีโสกันต์ พระฤกษ์ต่างๆ นั้นโหรหลวงจะเป็นผู้คำนวณพระฤกษ์ทูลเกล้าฯ ถวาย ทรงเห็นชอบแล้วจึงจัดการพระราชพิธี มักเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินทร์ (พระราชพิธีตรุษไทย ในเดือน ๔) ในส่วนพระราชพิธีสงฆ์ก็เป็นการเจริญพระพุทธมนต์ในช่วงบ่าย ๓ วัน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ถ้าโสกันต์พระเจ้าลูกยาเธอร่วมกับพระเจ้าหลานเธออีกกี่พระองค์ก็ตาม มักจะนิมนต์พระ ๕๐ รูป หากโสกันต์แต่เพียงพระเจ้าหลานจะกี่พระองค์ก็ตาม มักจะนิมนต์พระ ๖๔ รูป เจ้าพนักงานจัดสถานที่และเครื่องจบพระหัตถ์ไว้ให้พร้อม เช่น ไตร สบง พุ่มข้าวตอกดอกไม้ แม้กระทั่งอ่างล้างเท้าพระสงฆ์ และสังเวียนฟางเช็ดเท้าที่หน้าพระมหาปราสาท ที่ประทับฟังสวด ลาดพรมเจียมพระสุจหนี่ มีพระเขนยรองพระกร เบื้องหน้ามีโต๊ะวางมงคลย่น เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการแล้ว พระราชทานสวมมงคลย่นให้และมีสายสิญจน์โยงไปยังที่บูชาพระ เมื่อเจริณพระพุทธมนต์เสร็จจึงปลดสายสิญจน์ที่โยงนั้นออก แล้วทรงถวายเครื่องจบพระหัตถ์ พนักงานวิเสทหมากพลูถวายเภสัชอังคาส ถ้าเป็นเช้ามักถวายน้ำชา ถ้าเป็นบ่ายถวายน้ำชูบาน (น้ำมะตูม) รูปจากโปสการ์ด เด็กฟังพระสวดในวันโกนจุก จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ในวันพระราชพิธีโสกันต์ โหรหลวงถวายพระฤกษ์จรดพระกรรไกรกรรบิด เจ้านายที่จะโสกันต์นั้นทรงฉลองพระองค์ถอด เมื่อได้พระฤกษ์ประทับบนพระแท่นแล้วผินพระพักตร์ไปทางทิศมงคลตามที่โหรได้กำหนดตามกำลังวัน โดยมากเป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือตะวันออกเฉียงเหนือ(การกำหนดพิธีมักถือเอาวันฤกษ์ใหญ่ในเดือนยี่ เดือน๔ เดือน ๖ และเดือน ๑๒ จะเป็นข้างขึ้นหรือแรมก็ได้ แต่จะต้องตรงับค่ำต่อไปนี้ อาทิตย์ ๘ จันทร์ ๓ อังคาร ๙ พุธ ๑๒ พฤหัสบดี ๔ ศุกร์ ๑ และเสาร์ ๕) จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:21:58 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เบื้องหน้าพระแท่นมีขันสรงพระพักตร์ พานรองพระเกี้ยว และพานรองพระเกศาวางไว้ เมื่อได้ฤกษ์ภูษามาลาถอดพระเกี้ยวออกวาง แล้วแบ่งพระเมาฬีนั้นเป็น ๓ ปอย ด้วยการใช้พายเงินพายทองและพายนาคแบ่ง แล้วเอาลวดเงินทองนาคสายสิญจน์ผูกปลายพระเกศาแต่ละปอยกับแหวนนพเก้าและใบมะตูม ปอยแรกให้ผู้ทรงเป็นองค์ประธานตัด คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปอยที่สองเป็นพระญาติผู้ใหญ่ในราชสกุลตัด และปอยที่สามให้พระชนกตัด พรามณ์ลั่นฆ้อง ประโคมสังข์ แตร ปี่พาทย์ กลองแขก เมื่อจรดพระกรรไกรตัดพระเกศสสั้นแล้ว เจ้านายจะถูกจูงไปโกนพระเศียรด้วยพระกรรบิด (มีดโกน) และเปลื้องเครื่องทรงบางอย่างที่จะเปียกน้ำออก  แล้วเสด็จออกมาถวายภัตตาหารเพล สบง ไทยทานแด่พระสงฆ์ทั้งนั้น รูป เขาไกรลาส ครั้นพระราชพิธีโสกันต์ สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ พ.ศ.๒๔๓๓ เห็นพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ สมมติเป็นพระอิศวรรอรับเสด็จเมื่อสรงน้ำแล้ว จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ครั้นเวลาพระฤกษ์สรงน้ำ ก็เสด็จโดยพระเสลี่ยงไปยังเขาไกรลาสที่ทำขึ้นที่ชาลาข้างพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อเสด็จถึงมีเสนาบดี ๔ คน สมมติเป็นจตุโลกบาลรับเสด็จ ณ พระแท่นสรงเชิงเขาไกรลาส ซึ่งทำเป็นสระอโนดาตน้อยๆ มีน้ำพุ่งออกจากปากสัตว์ทั้ง ๔ คือ ช้าง ม้า ราชสีห์และโค หรืออาจสรงที่พระแท่นสรงสำหรับเจ้านายชั้นพระองค์เจ้าลงมา แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 21:51:55 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 85 รูปสัตว์จำลองที่ประดับเขาไกรลาสนี้ ที่สำคัญมี ราชสีห์ ช้าง ม้า และโค ทำขนาดใหญ่และสามารถพ่นน้พออกจากปากได้ เพื่อที่เจ้านายจะได้สรงน้ำมงคลที่ไหลมาจากเขาไกรลาส ผ่านปากสัตว์เทวพาหนะ เขาไกรลาสอีกมุมหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 21:44:34 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ถ้ามีเขาไกรลาส จะสมมติพระบรมวงศ์ชั้นผู้ใหญ่พระองค์หนึ่งเป็นพระอิศวร ทรงฉลองพระองค์และพระชฎา ประทับบนบุษบกยอดเขาไกรลาส ชาวที่ผูกม่านทองแผ่ลวดทั้งสี่ด้าน มีพนักงานคอยไขข้างละคน มีเสื่ออ่อน พรม พระยี่ภู่ใหญ่ พระเขนยลายกระบวน แต่งอยู่ภายในบุษบก บนพระแท่นตั้งเตียง มีพราหมณ์ขับไม้อยู่ในที่สรง และพราหมณ์ที่คอยถวายน้ำกลศน้ำสังข์ เมื่อสรงเสร็จเสด็จเข้าพลับพลาเปลื้องเครื่องทรงผลัดพระภูษาแล้ว เสด็จขึ้นยอดเขาเฝ้าพระอิศวร พระอิศวรเสด็จลงมารับถึงกลางบันไดนาคแล้วนำเสด็จสู่พระแท่น พระอิศวรเข้าไปในบุษบก ชาวที่ไขม่านปิด พระอิศวรประทานพรแล้ว สมเด็จพระกุมารเสด็จลงทางด้านทิศตะวันออก จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สำหรับเจ้านายชั้นรองลงมาจากสมเด็จเจ้าฟ้า หรือเจ้าฟ้าบางพระองค์ที่ไม่ได้โปรดให้สรงอย่างมีเขาไกรลาส ก็จะสร้างพระแท่นสรงประดับราชวัตร ฉัตร ธง กลางพระแท่นตั้งพระเบญจาหรือพระแท่นแว่นฟ้า และเตียงพระมณฑล มีม่านระบายลงมาทั้ง ๔ ด้าน หรือสร้างเป็นบุษบกขนาดใหญ่ ในที่สรงนั้น ตั้งพระแท่นแว่นฟ้าซ้อนสามชั้น มีตั่งไม้อุทุมพร (ไม้มะเดื่อ) อย่างสรงพระกระยาสนาน เครื่องทั้งปวงนั้นล้วนหุ้มผ้าขาวปิดทองหรือประดับเครื่องขางลายทองทั้งสิ้น ในการนี้ห้ามใช้ฉัตรราชวัตร ร้านน้ำที่เหลือจากการศพมาใช้เป็นอันขาด ที่รั้วราชวัตรผูกต้นกล้วยต้นอ้อยแสดงความงอกงามยั่งยืน รูป พระแท่นสรงในพระรราชพิธีโสกันต์ สมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมขุนนครราชสีมา พ.ศ.๒๔๔๔ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 88 การตั้งแต่งพระแท่นสรงในคราวนั้น มีตั่งไม้อุทุมพร หม้อน้ำพระพุทธมนต์ พระเต้า สังข์ กลศ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์สรงทูนกระหม่อมอัษฎางค์ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 90 พระราชทานสรงทูนกระหม่อมติ๋ว หลังจากที่สรง ณ เขาไกรลาสแล้ว จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 21:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 91 พระแท่นสรง ทูนกระหม่อมเอียดน้อย และพระองค์ชายอุรุพงษ์ พ.ศ.๒๔๔๘ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 22:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 92 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานสรงเจ้านายและเชื้อพระวงศ์ชั้นหม่อมราชวงศ์ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 22:04:05 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เจ้านายที่รอรับพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ในงานเกศากันต์ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 22:05:34 ]

ความคิดเห็นที่ 94 มาเป็นระลอกๆ นะขอรับ วันนี้ขอพักก่อน เมาพระรูปแล้ว ว่างอีกจะมาต่อรูปที่ยังเหลือ อธิบายได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ช่วยๆ กันนะครับ อ่อ ยังเหลือเรื่องการสมโภชและการละเล่นอีกหน่อย ถ้ายังอยากฟังก็จะเล่าต่อครับ (สำหรับพระนาม หลังๆ นี้ขอใช้แบบย่อที่เข้าใจกันนะครับ สงสัยก็ถามผู้ใหญ่แถวนี้ดู ใจดีทุกท่านครับ) พระรูป ทูนกระหม่อมเอียดน้อย ก่อนโสกันต์ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 22:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบพระคุณมากๆๆเลยค่ะ  อธิบายได้ละเอียด แถมมีกลอนเพราะๆด้วย เรื่องแบบนี้เล่าให้ลูกหลานฟังหลายวันคงไม่จบแน่ๆๆเลยค่ะ จากคุณ : สการะวาตี - [ 21 มี.ค. 52 22:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ทูนกระหม่อมเอียดน้อย อีกพระรูปแล้วกันครับ ก่อนนอน จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 21 มี.ค. 52 22:35:12 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ แต่ละรูป แต่ละพิธีการ งามมากๆ ตอนอ่านโคลงอ่านกลอน หนมจีนยังจินตนาการไม่ชัดว่าจะงามสักเพียงไหน ยิ่งเขาไกรลาสนี่ สี่แผ่นดินบรรยายไว้ซะอยากเห็นเชียว แถมคราวนี้นอกจากจะได้เห็นนางเชิญมยุรฉัตรชัดๆแล้ว หนมจีนยังได้รู้จักนางแต่งตัวสะอีกคน ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : หนมจีน - [ 21 มี.ค. 52 23:10:46 A:192.168.0.17 X:58.37.216.235 TicketID:063710 ]

ความคิดเห็นที่ 98 พยายามทำให้เห็นรายละเอียด เดี๋ยวจะหาที่โพสต์รูปใหญ่แล้วไปดูกันนะครับ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 00:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบพระคุณกระทู้ดีๆ ภาพเก่าที่หาดูยาก รูปภาพที่ประกอบบล็อกยังผิดพลาดอยู่ ขออนุญาตเอาไปใช้ในบล็อกด้วยนะครับ จากคุณ : กัมม์ - [ 22 มี.ค. 52 09:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เยี่ยมยอดครับ ^________________^ จากคุณ : jassb1 - [ 22 มี.ค. 52 10:55:31 ]

ความคิดเห็นที่ 101 วันนี้มาดูเครื่องประดับแบบเน้นๆ กันครับ เริ่มจากส่วนขยายของภาพข้างบน และจะตามด้วยภาพถ่ายของแท้ที่จัดแสดงในศาลาเครื่องราชอิสริยยศฯ ครับ รูป - นวมพระศอ (กรองคอ, นวมคอ ก็ว่า) ที่ทับผ้าสไบทรงสะพัก (เฉพาะสำหรับเจ้านายสตรี) ปั้นเหน่งและสายเข็มขัดทองถัก พาหุรัด (ที่ต้นแขนขวา) พระสังวาลย์อีกหลายๆ แบบ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 102 พระวลัยกร สำรับเพชร -ชุดกรองได หรือกำไลข้อพระกร ชุดเพชร อันประกอบด้วย พระวลัยเพชร กำไลครึ่งซีก จำพวกกำไลตะขาบ หรือกำไลมกร หันหัวชนกัน ปวะหล่ำ แหวนรอบ แหวนตะแคง ลูกไม้ปลายแขน เป็นรูปสัตว์ เช่น เต่า ปู ปลา ใบไม้ ลูกไม้ แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 52 21:15:51 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 103 พระวลัยกร สำรับเพชร ทรงเจ้านายบุรุษ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 104 กำไล ชุดทอง - สำหรับพระบรมวงศ์ชั้นรองลงมา เห็นแบบพระปั้นเหน่งและสายเข็มขัดทองทึบ ที่มีทรงและลวดลายไม่ซ้ำกัน จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ชุดกำไลข้อพระบาท สำรับเพชร - (กรองเชิง ก็ว่า) ประกอบด้วย กำไลหัวบัวหรือกำไลมังกรฝังเพชร แหวนรอบ แหวนตะแคงฝังเพชรสำหรับข้อพระบาท ลูกกระพรวนทองคำผูกซ้อนสองชั้น จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ต่อไป เป็นภาพถ่ายจากของจริง (ขอขอบคุณเว็บไซต์ของศาลาเครื่องราชอิสริยยศฯ) พระเกี้ยวทองคำ พร้อมดอกไม้ทิศสำหรับขัดให้พระเกี้ยวคงอยู่ได้กับพระเมาฬี จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 107 พระปิ่นทองคำ (พระจุฑามณี ก็เรียก) สำหรับขัดพระเมาฬีเมื่อทรงพระเกี้ยวดอกไม้ไหวหรือเกี้ยวอย่างเรียบ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 108 พระสังวาลย์ดอกทองคำฝังเพชร - คาดเฉวียงพระอังษา ใช้หลายเส้นและหลายแบบ แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 52 11:35:45 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 109 พาหุรัด - (บานพับ ก็เรียก) ประดับพระพาหา หรือต้นแขน สำหรับเจ้านายชายทรงทั้งสองพระพาหา สำหรับเจ้านายหญิงทรงด้านขวา เมื่อทรงสไบสะพัก จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 110 พระปั้นเหน่ง (หัวเข็มขัด) พร้อมสายทองคำถักลวดลายต่างๆ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 111 สายเข็มขัดทองคำถักนั้น หากเป็นอย่างดี จะมีข้อที่คั่นระหว่างสายจะประดับดอกประจำยามฝังเพชรหรือดกแบบต่างๆ เรียกเข็มขัดประจำยามก้ามปู ก็มี จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:33:22 ]

ความคิดเห็นที่ 112 พระปั้นเหน่งหลายๆ แบบ มีแบบฝังเพชรล้วนด้วย จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 113 กำไลหัวบัวทองคำฝังทับทิม จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 114 พระธำมรงค์นพรัตน์ สำหรับผูกปลายพระเกศา เมื่อจะจรดพระกรรไกรโสกันต์ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 11:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 115 มีรูปชัดๆ มาฝากอีกรูป สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิริธร - ทูนกระหม่อมวไลย แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 52 12:07:30 จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 12:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 116 พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 12:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 117 พระเจ้าลูกยาเธอ ในรัชกาลที่ ๔ จากคุณ : จินตะหราวาตี - [ 22 มี.ค. 52 12:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ๑๐๔ ตัดมาจากเจ้านายพระองค์ใดครับผม รูปซ้าย น่ะครับ ในงานพระบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรัดพระปั้นเหน่งองค์นี้ จากคุณ : natthaset - [ 22 มี.ค. 52 13:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 119 โหวตค่ะ จากคุณ : คนมีแผลพ่อแม่ไม่รัก - [ 22 มี.ค. 52 13:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ผมเอามาช่วยงานครับ สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ พ.ศ.๒๔๐๘ จากคุณ : Navarat.C - [ 22 มี.ค. 52 15:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 121 เจ้าฟ้าพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่๔ กับนางข้าหลวง พ.ศ. ๒๔๐๘ จากคุณ : Navarat.C - [ 22 มี.ค. 52 15:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ทูลกระหม่อมเอียด สมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ ในรัชกาลที่๕ จากคุณ : Navarat.C - [ 22 มี.ค. 52 15:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เจ้านายพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่๕ จากคุณ : Navarat.C - [ 22 มี.ค. 52 15:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เขาไกรลาศในรัชกาลที่๔ พ.ศ.๒๔๐๘ จากคุณ : Navarat.C - [ 22 มี.ค. 52 15:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เขาไกรลาศ งานเดียวกับ#๘๒ แต่มุมกล้องสูงกว่า พ.ศ.๒๔๔๒ จากคุณ : Navarat.C - [ 22 มี.ค. 52 15:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 126 งานเฉลิมฉลองสมโพช จัดรอบๆกำแพงพระบรมมหาราชวัง พ.ศ.๒๔๔๒ จากคุณ : Navarat.C - [ 22 มี.ค. 52 15:34:33 ]