Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ประวัติศาสตร์ไทยและลาว เรื่องพระสุก พระเสริม พระใส พระแสน พระสายน์ ( พระใส )

    ในรูปคือพระเสริม  ประดิษฐานที่วัดปทุมวนาราม
    **********************

    โดย….พระมหาวิโรจน์ วิโรจโน(ผาทา)  น.ธ.เอก ป.ธ.๔ พธ.บ.(เกียรตินิยมอันดับ ๑)
    พธ.ม.(ปรัชญา)

    ๑.ประวัติสมัยแรกสร้าง

    ในสมัยที่อาณาจักรศรีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาวกำลังเจริญรุ่งเรืองอยู่นั้น มีกษัตริย์พระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระองค์ทรงครองราชอยู่ระหว่างปี พ.ศ.๒๐๙๓-๒๑๑๕ ในช่วงแรกของการก้าวขึ้นสู่ราชบัลลังก์พระองค์ทรงได้รับการอภิเษกให้เป็นกษัตริย์ผู้ปกครองล้านนาเชียงใหม่ แต่ด้วยเหตุที่พระราชบิดาของพระงค์ทรงเสด็จสวรรคตด้วยอุบัติเหตุอย่างกระทันหัน พระองค์จึงเสด็จกลับมาครองราชย์สมบัติที่กรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาว (หลวงพระบาง)อีกครั้ง

    ความที่ในยุคสมัยดังกล่าวอาณาจักรล้านช้างต้องทำสงครามกับพม่าอยู่หลายครั้ง และเหตุที่เมืองหลวงพระบางก็อยู่ในชัยภูมิที่ง่ายต่อการรุกรานของพม่า ดังนั้นพระองค์จึงได้ปรึกษาบรรดาพระสังฆราชและมุขมนตรีเพื่อย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่นครเวียงจันทร์ และทรงได้อพยพผู้คนจากเมืองหลวงพระบาง แพร่ น่าน พะเยา และเชียงใหม่บางส่วนมาไว้ที่เวียงจันทร์และเมืองใกล้เคียง เช่น เมืองศรีเชียงใหม่ กองนาง ท่าบ่อ เวียงคุก หนองคาย ปากห้วยหลวง(โพนพิสัย) เป็นต้น ในปี พ.ศ.๒๑๐๖

    พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชนั้นทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถเป็นอย่าง ยิ่งทั้งในด้านการศึกสงครามการปกครองบ้านเมืองอีกทั้งยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรมด้วยทรงเป็นหน่อเนื้อกษัตริย์พระองค์เดียวที่ทรงปรารถนา ความเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต(พุทธภูมิ)ด้วย ความที่ทรงเป็นทั้งนักรบผู้กล้าหาญและราชาผู้ทรงธรรมจึงเป็นที่เคารพยำเกรง ของแว่นแคว้นใกล้เคียงเป็นเหตุให้มีผู้นำพระราชธิดามาถวายเป็นข้าบาทปาทจาริกามากมาย ในส่วนของพระมเหสีนั้นนอกจากทรงอภิเษกสมรสกับเจ้านางตนทิพย์ เจ้านางตนคำพระราชธิดากษัตริย์เชียงใหม่แล้วพระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับธิดาของ พระยาแสนสุรินทร์คว่างฟ้า(ชาวเมืองหนองคาย)ผู้เป็นเสนาบดีคู่บารมีของพระองค์นามว่า พระนางจอมมณี ผู้ให้กำเนิดพระธิดาสุก เสริม ใส และพระหน่อเมืองซึ่ง พระนางจอมมณีนี้พระองค์ทรงสถาปนาไว้ในตำแหน่งอัครมเหสีผู้ที่เป็นที่โปรด ปรานของพระองค์และพระนางยอดคำทิพย์ผู้เป็นพระราชมารดาของพระองค์ยิ่งนัก ดังจะเห็นได้จากทรงสร้างวัดจอมมณีหรือวัดมณีเชษฐารามเป็นอนุสรณ์ให้เป็นที่ ประกอบการกุศลของพระนาง ส่วนพระราชธิดาของพระองค์ทั้ง ๓ คือ พระธิดาสุก พระธิดาเสริม และพระธิดาใสนั้นก็ทรงเป็นที่โปรดปรานของพระองค์เช่นเดียวกัน และความที่พระองค์เป็นผู้ที่เอาพระทัยในการให้การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาโดยประการต่าง ๆ ก็เป็นเหตุให้พระธิดาทั้ง ๓ ได้เป็นผู้มีอัฌยาศัยในการบำเพ็ญพระราชกุศลเช่นเดียวกับพระราชบิดาโดยทรงเอาพระทัยในการบำเพ็ญพระราชกุศลมีประการต่าง ๆ ดังปรากฏว่าทุกคราวที่พระราชบิดาทรงเสด็จไปทรงประกอบพระราชกิจทางพระศาสนา พระราชธิดาทั้ง  ๓ พระองค์ก็ทรงเสด็จไปร่วมการกุศลนั้นทุกครั้ง

    หลังจากที่ทรงย้ายเมืองหลวงและอพยพผู้คนลงมาที่เมืองเวียงจันทร์แล้วพระองค์ก็ให้สร้างเมืองเสร็จจากนั้นก็ทรงสร้างบูรณะปฎิสังขรณ์วัดวาอารามหลายแห่งทั้งภายในเวียงจันทร์และฝั่งเมืองหนองคาย เช่น วัดพระธาตุหลวง วัดป่ามหาพุทธวงศ์ วัดป่าฤาษีสังหรณ์ วัดพระธาตุบังพวน วัดพระธาตุโพนจิกเวียงวัว(พระธาตุบุ) วัดศรีเมือง(เมืองหนอง)วัดศรีคูณเมืองวัดพระธาตุหนองคาย วัดพระไชยเชษฐาบ้านกวนวัน วัดจอมมณี วัดโพธิ์ชัย หรือวัดผีผิว วัดถ้ำสุวรรณคูหา(จ.หนองบัวลำภู) วัดพระธาตุหนองสามหมื่น(จ.หนองบัวลำภู) วัดพระธาตุศีโคตร(เมืองท่าแขก) วัดพระธาตุพนม เป็นต้น นอกจากนั้นในปี พ.ศ.๒๑๐๗ ทรงโปรดให้อัญเชิญพระเจ้าแสนสามหมื่นมาจากเมืองหลวงพระบางเพื่อมาประดิษฐานไว้ที่หอไตรกลางเมืองเวียงจันทร์เพื่อให้ประชาชนได้เคารพสักการะตามกาลานุกาล

    ในปี พ.ศ.๒๑๐๙ หลังจากที่พระองค์ทรงให้สร้างเจดีย์ศรีธรรมาโศกราชหรือพระธาตุหลวงเสร็จแล้ว พระองค์ก็ทรงดำริว่าการที่ทรงปรารถนาพุทธภูมินั้นจะสำเร็จได้ก็จะต้องหล่อ พระขนาดใหญ่สักองค์หนึ่งและทำบุญเนื่องด้วยการหล่อพระขนาดใหญ่นั้นสักครั้ง หนึ่งเพื่อเป็นพุทธบูชาและเพื่อบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่อันจะเป็นบารมีส่งเสริม ให้พระองค์ได้บรรลุความปรารถนานั้นโดยง่าย เมื่อมีพระราชดำริเช่นนั้นแล้วก็ทรงป่าวประกาศแก่อาณาประชาราษฎร์ทั้งมวลว่า  พระองค์จะสร้างพระใหญ่ที่เรียกว่าพระองค์ตื้อ ถ้าหากผู้ใดมีจิตเป็นกุศลปรารถนาจะร่วมพระบารมีก็ขอให้มาร่วมงานและถ้ามีทองจะมาบริจาคร่วมสร้างพระองค์ตื้อก็สามารถจะสามารถร่วมได้ เมื่อทรงประกาศเช่นนั้นแล้วประชาชนในแว่นแคว้นต่างก็ดีใจที่จะได้ร่วมทำบุญ สร้างบารมีพร้อมกับพระราชาจึงได้พากันเปล่งสาธุการพร้อมทั้งอาสาที่จะทำบุญ โดยนัยต่าง ๆ บางพวกอาสาจะเป็นแรงงานหาฟืน บางพวกอาสาจะเป็นเจ้าภาพอาหาร บางพวกปรารถนาจะถวายทองเพื่อหล่อพระ ฯลฯ ดังนั้น ข่าวการทำบุญสร้างพระจึงได้กลายมาเป็นเรื่องที่ชาวเมืองพากันยินดีและชื่นชม ในพระบารมีของพระราชาของตนเป็นยิ่งนัก

    เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงประกาศการสร้างพระอันเป็นมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ เช่นนั้นแล้ว ฝ่ายพระธิดาทั้ง ๓ พระองค์ คือ พระธิดาสุก พระธิดาเสริม และพระธิดาใส เมื่อได้ยินข่าวอันเป็นมงคลเช่นนั้นก็ทรงปลาบปลื้มยินดีและทรงมีพระราชหฤทัย ร่วมกันที่จะได้ร่วมสร้างกุศลไปพร้อมกับพระราชบิดาด้วยการสร้างพระพุทธรูป และฝากพระนามไว้ในพระศาสนาบ้าง เมื่อดำริเช่นนั้นจึงได้พากันเข้าเฝ้าพระราชบิดาเพื่อขอพรในการสร้างพระร่วมบารมีดังกล่าว ฝ่ายพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชครั้นทรงทราบเจนารมย์ของพระธิดาเช่นนั้นก็ทรงยินดี และทรงอนุญาตในการปรารภบุญของพระราชธิดาทั้ง ๓ ด้วย

    เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงประกาศการกุศลแล้วก็ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่จัดเตรียมสถานที่หล่อพระคือบริเวณวัดอินแปงกลางเมืองเวียงจันทร์และให้ช่างปั้นลงมือปั้นหุ่นพระพุทธรูป ๔ องค์ คือ พระองค์ตื้อ สำหรับพระองค์ และ พระสุกสำหรับพระธิดาองค์ใหญ่ พระเสริมสำหรับพระธิดาองค์รอง และพระใสสำหรับพระธิดาองค์เล็ก ในการปั้นหุ่นพระนั้นพระองค์ทรงให้ช่างปั้นฝีมือดีที่ทรงอพยพมาจากเมืองหลวงพระบาง เมืองเชียงใหม่และหัวเมืองทางเหนือเป็นผู้ลงมือปั้นโดยพระพุทธรูปแต่ละองค์ จะมีพุทธลักษณะที่ไม่เหมือนกันและมีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับกล่าวคือ พระองค์ตื้อมีขนาดใหญ่สุด ถัดจากนั้นก็เป็นพระสุก พระเสริม และพระใส ที่สำคัญทรงมีพระราชบัญชาว่าให้ช่างปั้นให้งดงามตามความสามารถที่ตนมีอยู่ และในระหว่างช่างปั้นกำลังลงมือนั้นพระธิดาทั้ง ๓ พระองค์ก็ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเพื่อทอดพระเนตรการปั้นโดยตลอด กล่าวเฉพาะพระใสนั้นพวกช่างปั้นได้รับคำแนะนำจากพระสังฆราชว่าในอนาคตพระ พุทธรูปองค์นี้จำต้องใช้ในการแห่แหนเพื่อกิจบางอย่างตามประเพณีของชาวเมือง เช่น การขอฝนในคราวที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เป็นต้น จึงควรทำห่วงไว้ใต้ฐานพระด้วย เมื่อได้รับคำแนะนำเช่นนั้น พวกช่างปั้นพระใสจึงได้ปั้นห่วงกลมโตขนาดนิ้วมือไว้ที่ฐานใต้องค์พระ อนึ่ง การที่ช่างปั้นพระตามศิลปะที่ตนชำนาญประการหนึ่ง หรือการที่ช่างปั้นพระตามความต้องการของผู้สร้างประการหนึ่ง  เพราะเหตุดังกล่าวจึงทำให้พระพุทธรูปทั้ง ๔ องค์ มีพุทธลักษณะที่ไม่เหมือนกัน

    ตั้งแต่คราวที่พระราชาทรงประกาศกิจอันเป็นกุศลด้วยการสร้างพระแล้ว ประชาชนต่างก็พากันนำเอาทองมาร่วมบริจาคกันเป็นจำนวนมาก ฝ่ายเจ้าหน้าที่พระคลังหลวงจึงได้ประกาศงดรับบริจาคทองเมื่อใกล้ถึงวันงาน จากนั้น เมื่อช่างปั้นหุ่นพระเสร็จแล้วฝ่ายช่างหล่อก็ได้เริ่มลงมือหลอมทอง แต่เนื่องจากทองที่เจ้าหน้าที่เบิกจากคลังหลวงและที่ประชาชนนำมาร่วมบริจาคนั้นมีจำนวนมาก ดังนั้น การหลอมทองจึงจำเป็นต้องใช้ผู้คนมาช่วยงานเป็นจำนวนมากเพียงลำพังเจ้าหน้าที่จึงไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้บรรดาข้าโอกาส(เลกวัด)และ ประชาชนทั่วไปผู้ปวารณาอุทิศแรงกายมาร่วมบุญนั้นเข้ามาช่วยงานเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งการหลอมทองนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบากทั้งนี้เพราะทองมีจำนวนมากและมีวัตถุหลายประเภททำให้ทองไม่ละลาย ฝ่ายเจ้าหน้าที่และบรรดาเลกวัด ประชาชนทั่วไปจึงได้พากันมาร่วมงานช่วยกันหลอมทองกันอย่างขมักเขม้น แต่แม้ว่าจะใช้ความพยายามอย่างไรทองก็ไม่หลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันสักที ทั้งที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า ๗ วันในการสูบเตา อนึ่ง การที่ทองไม่ละลายนั้นได้สร้างความกดดันให้กับบรรดาเจ้าหน้าที่และประชาชน รวมถึงพระสงฆ์สามเณรผู้มีส่วนร่วมในการทำงานในครั้งนั้นเป็นอย่างมากทั้งนี้ ก็เพราะเกรงในพระราชอาชญาของพระเจ้าแผ่นดินหากว่าไม่สามารถหลอมทองให้เป็ นเนื้อเดียวกันทันกำหนดการเสด็จมาประกอบพิธีเททองหล่อพระในวันที่ทรงกำหนด ได้พอเวลาล่วงเข้าสู่วันที่ ๘ ประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงได้เร่งกันทำงานกันอย่างเต็มที่ พอถึงเวลาใกล้เที่ยงทุกคนจึงพากันกลับบ้านไปพักเหนื่อยเหลือแต่หลวงตากับ สามเณรน้อยที่กำลังสูบเตาอยู่ ในระหว่างนั้นปรากฏมีชีปะขาวคนหนึ่งมาขอช่วยงานและบอกให้หลวงตากับสามเณร น้อยขึ้นไปฉันเพลได้ เมื่อหลวงตากับสามเณรน้อยขึ้นมาฉันเพลแล้วประชาชนที่มาถวายอาหารก็เห็นชี ปะขาวจำนวนมากช่วยกันทำงาน เมื่อหลวงตากับสามเณรและประชาชนลงมาดูก็ปรากฏว่าทองทั้งหมดหลอมเป็นเนื้อ เดียวกันเรียบร้อย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นอันว่าในวันนั้นทองก็พร้อมและเป็นไปตามกำหนดการเสด็จมาเททองของพระราชาพอดี ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีหน้ที่รับผิดชอบในด้านต่าง ๆ เช่น ฝ่ายพิธีการและฝ่ายสถานที่ก็ได้เตรียมสถานที่และกำหนดการต่าง ๆ มีการนิมนต์พระและบรรดาโหราจารย์ พราหมณาจารย์มาจนครบ รวมถึงสิ่งของที่ใช้ในพิธีบวงสรวงประกอบการเททองอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

     
     

    จากคุณ : อู๋อิงสง - [ 25 มี.ค. 52 21:11:33 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com