ความคิดเห็นที่ 1 ท่า...............................ท่าทางจะตั้งกระทู้ผิดห้องค่ะ ที่นี่ห้องสมุดค่ะ ไม่ใช่ห้องสวนลุมฯ จากคุณ : thippy56_ - [ 2 เม.ย. 52 13:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โอ้ว ขออภัยค่ะ เปิดหน้าจอค้างไว้ ขอบคุณที่เตือนนะคะ ฟิ้ววววว... จากคุณ : Lady & The Tramp (Lady & The Tramp) - [ 2 เม.ย. 52 13:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ายังกลับมาดู   ขอตอบว่าไม่ควรทำครับ   ใช้วิธีนอนหงายและยกขาขึ้นตรงๆ จะดีกว่า จากคุณ : Tanis - [ 4 เม.ย. 52 19:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จขกท มาถูกที่แล้ว คนในห้องสมุดนี่แหละ รู้วิธีรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท! แต่ถ้าไม่เชื่อ อยากกลับไปห้องลุมพินี ก็ไม่ว่ากันน่ะ...อิๆๆ... จริงๆแล้วผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้้นประสาทนั้น คือตัวเราเองนั่นแหละ เพราะว่าเราเคยเป็นโรคนี้เอง และเรา "เรียนรู้พฤติกรรมของมัน" จนเรารักษาตัวเองหายได้ในที่สุด วิธีแก้ที่ต้นตอ คือแก้ misalignment of the spine คือต้องแก้แนวกระดูกสันหลังที่บิดเบี้ยวผิดธรรมชาติ บางคนอาจสงสัยว่า เราไม่ใช่นักกายภาพบำบัด และไม่ใช่ chiropractor แล้วเราทำได้อย่างไรกัน? คำตอบง่ายๆก็คือว่า คนที่ค้นคิด chiropractic คนแรกในโลก มันไม่ใช่หมอฝรั่งหรอก หากแต่มันเป็นนักวรยุทธ์ของ Wudang (สำนักบู๊ตึง) นั่นก็คือว่าท่่ายืนฝึกกำลังภายในของสำนัก Wudang ใช้แรงโน้มถ่วงของโลก "จัดปล้องกระดูกสันหลังใหม่ ให้อยู่ในแนวที่ถูกต้องตามธรรมชาติ" จึงแก้ปัญหาที่ต้นตอได้ และเรารู้ท่ายืนแบบนั้น (อาจารย์สอน tai chi (ไทเก็ก) สอนท่านี้ให้เรา) เราจึงสามารถจัดแนวกระดูกสันหลังให้ตัวเองใหม่ได้ และรักษาตัวเองได้ในที่สุด แต่การฝึกกำลังภายในในระดับจัดแนวกระดูกสันหลังใหม่หมดเลยนั้น ต้องใช้เวลานานมากๆ ดังนั้น วิธีแก้ไขเฉพาะหน้า ก็ต้อง ใช้ nutritional approach ในวิชา Zen Macrobiotics นั่นก็คือ "งดอาหารต้องห้ามบางประเภท" อาหารต้องห้ามพวกนี้คือ อาหารที่สร้างกรดแรงๆมากๆ เช่น ผลิตภัณฑ์นมเนยจากวัว น้ำตาล ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เนื้อจากสัตว์ตัวใหญ่ๆ เช่นเนื้อวัว ถ้าผู้ป่วยงดอาหารพวกนี้ จะเจ็บปวดทรมาณน้อยลง จนหายไปเองเลย ได้อย่างน่าประหลาด...!!?? แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 52 22:02:57 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 52 22:00:26 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 52 21:18:18 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 52 21:17:45 จากคุณ : fortuneteller - [ 4 เม.ย. 52 21:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราเคยเข้าไปในห้องลุมพินี (ใช้ login เดิม) แล้วเขียนแนวคิดเรื่อง Zen Macrobiotics ในการแก้ใขปัญหาสุขภาพ ที่ทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินค่ารักษาพยาบาล แต่ในขณะเดียวกัน เราก็บอกคนอ่านว่าเราเป็นคนป่วยโรคจิตและเป็นกามวิตถาร ที่เราทำเช่นนี้ก็เพราะว่า "เรากลัวจะมีคนเชื่อเรามากเกินไป" ต้อง discredit ตัวเองก่อนมอบวิชาดีๆให้ เพื่อที่ว่าจะได้มีคนเชื่อเราน้อยๆคน จะได้มีคนได้วิชาดีๆไป น้อยที่สุด หรือไม่มีเลย นี่เป็นวิธีถ่ายทอดวิชาเร้นลับ ตามประเพณีของนักพรตเต๋า ที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีแล้ว ในช่วงนั้น เราทำงานแปลเอกสารหนัก นั่งนานเกิน แถมยังมี craving for (อยากๆๆๆ อยากกิน) เนื้อวัว โยเกิร์ต น้ำตาล ในขณะที่เรา preach (สอน) คนอื่นว่ามันไม่ดี แล้วอยู่ดีๆเราไปกินอาหารร้านอาหารญึ่ปุ่นแห่งหนี่ง เขาเอา ซีอิ๊่วญี่ปุ่นธรรมชาติ มา "ชง" คือ "เติมน้ำตาล" ลงไป แล้วเทกลับใส่ขวดซีอิ๊่วญี่ปุ่นธรรมชาติ เราโมโหมากๆ เลยไปตั้งกระทู้ในห้องก้นครัวเพื่อประนามการกระทำอันนั้น แล้วบอกว่า "การใส่น้ำตาลลงในอาหาร มันเป็นอะไรที่แย่ๆเอาเสียมากๆเลยหละ = เป็นการทำอาหารโดยไม่มีศิลปะ" เพราะคนที่ทำอาหารเก่งๆ ต้องทำให้อาหารรสดีๆได้โดยไม่ต้องปรุงแแต่ง   ซึ่งมันทำให้คนหลายๆคนในห้องก้นครัวโกรธมากๆ เนื่องจากว่า คนไทยส่วนใหญ่จะใส่น้ำตาลลงในอาหารเกือบหมด ผลปรากฎว่า คนทั้งในก้นครัวและจากลุมพินี้ "ระดมกำลังกันด่าถล่มเราอย่างรุนแรง(เนื่องจากคนไทยเป็นจำนวนมากใส่น้ำตาลลงไปในอาหาร)" เราจึงยกเลิก login เดิม และกะจะเลิกเล่น pantip อีกต่อไป แล้วตอนนั้นนะ เราป่วยเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท พอเราหยุดเล่น pantip ไปพักใหญ่ๆ "เราต้องการพิสูจน์ ให้สวรรค์รู้ แต่ไม่ให้คนที่ด่าเรารู้ ว่าเรื่องที่เราพูดนั้น มันเป็นประโยชน์ต่อคนไทยตั้งหลายล้านคน" นั่นก็คือ เราเริ่มกลับไปเคร่งเรื่องที่เรา preach (สอน) นั่นก็คือว่า เรางด น้ำตาล งดโยเกิร์ต งดเนื้อวัว แล้วยืนฝึกกำลังภายในต่อ ผลปรากฎว่า "โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทของเรานั้น หายไปเองหมด โดยไม่ต้องไปรักษาที่ไหนเลย" ดังนั้น เราจึงต้องมาเขียนกระทู้นี้เพื่อขอขอบคุณคนกลุ่มนั้น ที่กรุณาเข้ามารุมด่าเรา จนมันทำให้เรารักษาโรคตัวเองได้ ในที่สุด ....ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขำว่ะ... แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 52 21:55:55 จากคุณ : fortuneteller - [ 4 เม.ย. 52 21:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขำตรงไหน? ขำตรงที่คนบางคนในห้องลุมพีนีรุมด่าเราอย่างรุนแรงตอนที่เราบอกว่า "ผลิตภัณฑ์นมเนย เป็นอันตรายต่อร่างกาย" (เพราะพวกเขาเชื่อว่านมทำให้ร่างกายแข็งแรง .....) และขำตรงที่ คนบางคนในห้องก้นครัวรุมด่าเรา ตอนที่เราบอกว่า " น้ำตาลเป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะร่างกาย เมื่อเจอน้ำตาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำตาลที่ขัดสีจนขาว ร่างกายจะมีสภาวะเป็นกรดอย่างรุนแรง และมันจะดึงทรัพยากรต่างๆในร่างกาย (เช่นแคลเีซี่ยม และแร่ธาตุอื่นๆ)  ออกมาใช้งานให้สิ้นเปลืองไปเป็นจำนวนมาก เพื่อทำให้ความป็นกรดเป็นด่างกลับมีดุลยภาพเหมือนเดิมตามธรรมชาติ...การสิ้น เปลืองทรัพยากรเช่นนี้ ทำร่างกายอ่อนเพลีย และนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ...!!" ตอนนี้นะ โดยการงด ผลิตภัณฑ์นมเนย กับงดน้ำตาล เรากลายเป็นหายป่วยจริงๆ ตามหลักวิชา Zen Macrobiotics...ขอฮ่าๆๆๆๆๆๆ....อึกรอบหนึ่งว่ะ เพราะสะใจดี...ขอบใจนะพรรคพวกที่เข้ามารุมด่า....ตอนนี้เราเลยสุขภาพดีๆมากๆ สุดๆเลยอ้ะ.....ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : fortuneteller - [ 4 เม.ย. 52 21:55:29 ]