Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    นิทานเรื่องนี้สอนให้ผู้ชายรู้ว่า..................

    ไปเจอเรื่องนี้ในเน็ต เอามาแปะไว้อีกกระทู้หนึ่ง เห็นว่าแยบคายดีก็เลยขอเอามาแปะแถมแปรไว้ที่นี่เผื่อมีคนสนใจ

    Young King Arthur was ambushed and imprisoned by the monarch of a neighboring kingdom. The monarch could have killed him but was moved by Arthur's youth and ideals. So, the monarch offered him his freedom, as long as he could answer a very difficult question. Arthur would have a year to figure out the answer and, if after a year, he still had no answer, he would be put to death.
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว กษัตริย์อาร์เธอร์เป็นเจ้าของโต๊ะกลมอันลือลั่นแห่งคาเมลอทและเจ้าของดาบกายสิทธิ์เอ๊กซแคลิเบอร์โดยมีเมอร์ลินพ่อมดขมังเวทย์เป็นพี่เลี้ยง ขนาดว่ามีอะไรบิ๊กๆหนุนหลังอย่างว่าเยอะแยะก็ยังไปพลาดท่าพลัดเข้าที่ซุ่มของกษัตริย์อีกแคว้นหนึ่งที่เป็นเพื่อนบ้านข้างเคียง เขาจะประหารเสียก็ได้แต่ว่าเมื่อเห็นหน้าค่าตาอันหล่อเหลาและนิสัยใจคอที่น่ารักเข้าก็ทำไม่ลง ก็เลยให้โอกาสแก่กษัตริย์อาร์เธอร์ว่าจะปลดปล่อยให้เป็นอิสระหากสามารถตอบปริศนามหาหินข้อหนึ่งได้ ให้เวลาไปคิดหาคำตอบได้ปีหนึ่ง ถ้าปีหนึ่งยังตอบไม่ได้ก็จะประหารเสีย

    The question?...What do women really want? Such a question would perplex even the most knowledgeable man, and to young Arthur, it seemed an impossible query. But, since it was better than death, he accepted the monarch's proposition to have an answer by year's end.
    แล้วคำถามมหาโหดที่ว่าคืออะไร? อะไรคือสิ่งที่อิตถีเพศต้องการอย่างแท้จริง? คำถามข้อนี้แม้แต่ชายที่แก่วัดที่สุดก็คงตอบได้ลำบากมาก สำหรับกษัตริย์หนุ่มไก่อ่อนอย่างพระเจ้าอาร์เธอร์แล้วไซร้ดูจะเป็นคำถามที่เป็นไปไม่ได้ที่จะตอบ แต่ในเมื่อทางเลือกอีกทางเดียวคือถูกตัดหัว พระเจ้าอาร์เธอร์ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับคำว่าจะกลับมาให้คำตอบในวันนี้ของปีหน้า

    He returned to his kingdom and began to poll everyone: the princess, the priests, the wise men and even the court jester. He spoke with everyone, but no one could give him a satisfactory answer.
    พระเจ้าอาร์เธอร์กลับไปบ้านเมืองตัวเองแล้วก็เริ่มต้นควานหาคำตอบจากทุกคน ตั้งแต่พระราชินี หลวงพ่อที่โบสถ์ นักปราชญ์ราชบัณฑิต แม้แต่จอมตลกหลวง ไม่ว่าจะถามใครก็ได้คำตอบที่ไม่น่าพอใจด้วยกันทั้งนั้น

    Many people advised him to consult the old witch, for only she would have the answer.
    หลายๆคนแนะนำให้พระเจ้าอาร์เธอร์ไปขอคำปรึกษาจากนางแม่มดชราในป่าลึกเพราะน่าจะเป็นคนเดียวที่ให้คำตอบได้

    But the price would be high; as the witch was famous throughout the kingdom for the exorbitant prices she charged.
    แต่ว่าค่าธรรมเนียมของยายแม่มดคงแพงลิบลิ่วเพราะคนทั้งบ้านทั้งเมืองรู้กิตติศัพท์แกดีว่าขูดเลือดขูดเนื้อแค่ไหน

    The last day of the year arrived and Arthur had no choice but to talk to the witch. She agreed to answer the question, but he would have to agree to her price first.
    ในที่สุด เหลือเวลาอีกวันเดียวก็จะครบปี พระเจ้าอาร์เธอร์ก็ยังไม่ได้คำตอบ จึงจำใจต้องถ่อสังขารไปปรึกษาแม่มด แม่มดก็รับคำว่าจะตอบคำถามให้ แต่ก่อนอื่นพระเจ้าอาร์เธอร์ต้องตอบตกลงจะจ่ายค่าปรึกษาตามที่แกจะเรียกร้องเสียก่อน

    The old witch wanted to marry Sir Lancelot, the most noble of the Knights of the Round Table and Arthur's closest friend!
    ข้อเรียกร้องของยายแม่มดก็คือ แกต้องการจะแต่งงานอัศวินหนุ่มรูปงานผู้เป็นยอดอัศวินในหมู่อัศวินโต๊ะกลมและเป็นสหายคู่ใจของพระเจ้าอาร์เธอร์ นั่นคือ เซอร์ลานซ์ลอท

    Young Arthur was horrified. She was hunchbacked and hideous, had only one tooth, smelled like sewage, made obscene noises, etc. He had never encountered such a repugnant creature in all his life.
    พระเจ้าอาร์เธอร์ตกพระทัยเป็นล้นพ้น สารรูปนางแม่มดเฒ่านั้นหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว มีฟันซี่เดียว หลังค่อม กลิ่นแรงอย่างกับเพิ่งขึ้นมาจากหลุมขยะ ฯลฯ พระเจ้าอาร์เธอร์ไม่เคยเห็นใครน่าเกลียดอย่างยายแม่มดมาก่อนเลย

    He refused to force his friend to marry her and endure such a terrible burden, but Lancelot, learning of the proposal, spoke with Arthur.
    พระองค์ปฏิเสธที่จะบังคับให้เพื่อนฝูงต้องตกนรกทั้งเป็นด้วยการแต่งงานกับยายแม่มด แต่เซอร์ลานซ์ลอทผู้ภักดีเมื่อได้ข่าวเข้าก็รีบมากราบทูลพระเจ้าอาร์เธอร์

    He said nothing was too big of a sacrifice compared to Arthur's life and the preservation of the Round Table.
    เซอร์ลานซ์ลอทยอมรับเป็นผู้เสียสละแต่งงานกับยายแม่มดเองเพื่อให้ได้คำตอบเป็นการรักษาพระชนม์ชีพของพระเจ้าอาร์เธอร์และรักษาเหล่าอัศวินโต๊ะกลมไว้

    Hence, a wedding was proclaimed and the witch answered Arthur's question thus:

    What a woman really wants, she answered....is to be in charge of her own life.
    ดังนั้น พระเจ้าอาร์เธอร์จึงป่าวประกาศให้จัดงานแต่งงานระหว่างยายแม่มดกับเซอร์ลานซ์ลอทขึ้น และยายแม่มดก็ตอบคำถามของพระเจ้าอาร์เธอร์ว่า สิ่งที่สตรีต้องการอย่างแท้จริงก็คือ...การมีอิสระที่จะเลือกทางเดินของชีวิตตัวเอง

    Everyone in the kingdom instantly knew that the witch had uttered a great truth and that Arthur's life would be spared.

    And so it was, the neighboring monarch granted Arthur his freedom and Lancelot and the witch had a wonderful wedding.
    คนทั่วดินแดนต่างประจักษ์ว่ายายแม่มดได้เอ่ยเอื้อนสิ่งที่เป็นความจริงโดยแน่แท้และพระเจ้าอาร์เธอร์ก็จะได้รอดจากความตาย การณ์ก็เป็นไปตามคาด กษัตริย์แห่งประเทศข้างเคียงที่จับตัวพระเจ้าอาร์เธอร์ได้ก็ปล่อยตัวพระองค์เป็นอิสระตามสัญญา เซอร์ลานซ์ลอทและยายแม่มดก็ได้เข้าสู่พิธีวิวาห์อย่างเอิกเกริก

    The honeymoon hour approached and Lancelot, steeling himself for a horrific experience, entered the bedroom. But, what a sight awaited him. The most beautiful woman he had ever seen, lay before him on the bed. The astounded Lancelot asked what had happened.
    เมื่อชั่วโมงแห่งการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์มาถึง เซอร์ลานซ์ลอทก็พยายามแข็งอกแข็งใจเปิดประตูห้องนอนเข้าไปด้วยคาดว่าจะได้เห็นสิ่งที่ไม่น่าอภิรมย์นัก แต่อุแม่เจ้า แปลกเหลือที่จะกล่าว บนเตียงวิวาห์มีสาวสวยหยดย้อยอย่างที่เซอร์ลานซ์ลอทไม่เคยเห็นมาก่อนนอนระทดระทวยยิ้มหวานรับอยู่ เมื่อหายประหลาดใจ เซอร์ลานซ์ลอทก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น

    The beauty replied that since he had been so kind to her when she appeared as a witch, she would henceforth, be her horrible deformed self only half the time and the beautiful maiden the other half.
    สาวสวยตอบว่า เนื่องจากเซอร์ลานซ์ลอทได้แสดงความเมตตาและเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกินตอนที่เธอยังเป็นแม่มด นับแต่นี้ไปเธอจะเป็นแม่มดรูปชั่วแค่ครึ่งวันและอีกครึ่งวันก็จะเป็นสาวสวยอย่างที่เห็นอยู่นี้

    Which would he prefer? Beautiful during the day...or night?
    เซอร์ลานซ์ลอทจะอยากได้อย่างไหน? อยากให้สวยตอนกลางวัน..หรือตอนกลางคืน?

    Lancelot pondered the predicament. During the day, a beautiful woman to show off to his friends, but at night, in the privacy of his castle, an old witch? Or, would he prefer having a hideous witch during the day, but by night, a beautiful woman for him to enjoy wondrous, intimate moments?
    เซอร์ลานซ์ลอทครุ่นคิดอยู่นานพอสมควร ถ้าเลือกเอาตอนกลางวัน ก็จะมีเมียสวยเอาไว้อวดเพื่อนฝูง แต่ตกกลางคืนเมื่ออยู่กันสองต่อสองก็ต้องเจอแม่มดแก่ หรือถ้าเลือกเอาแม่มดแก่ตอนกลางวัน ก็จะได้เจอสาวสวยหุ่นกระชากใจเอาไว้โอ้โลมปฏิโลมกันให้ชื่นใจในยามราตรีกาล

    What would YOU do?
    ถ้าเป็นคุณจะเลือกทำอย่างไร?

    Noble Lancelot, knowing the answer the witch gave Arthur to his question, said that he would allow HER to make the choice herself.
    เซอร์ลานซ์ลอทผู้เป็นสุภาพบุรุษแท้ (และรู้คำตอบที่แม่มดตอบอาร์เธอร์) ก็เลยบอกว่า เขาจะขอให้เธอเป็นฝ่ายตกลงใจเอง

    Upon hearing this, she announced that she would be beautiful all the time because he had respected her enough to let her be in charge of her own life.
    เมื่อได้ยินเช่นนี้ สาวสวยจึงบอกว่า เพราะคำตอบนี้ เธอจะอยู่ในรูปสาวสวยตลอดเวลาเพราะว่าเซอร์ลานซ์ลอทได้ยกย่องเธอด้วยการยอมให้เธอได้ตัดสินใจจัดการกับชีวิตของเธอเอง

    Now....what is the moral to this story?

    The moral is....
    If you don't let a woman have her own way.... Things are going to get ugly.

    แล้ว....นิทานเรื่องนี้สอนว่าอย่างไร?

    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าหากไม่ยอมตามใจแม่เสือ...เรื่องมันไม่สวยแน่ๆเลยเพ่

    จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 2 เม.ย. 52 22:35:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com