อ่านแล้ว...
เหมือนเห็น เด็ก ม.กรุงเทพ (รึเปล่า??) กับ เด็กจุฬาฯ (มั้ง บอกไม่ถูก) คุยกัน
=แก้ไข ขอความตก=
ทำให้เรารู้ว่า...
นี่แหละน้า... มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
เราว่าคุณกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับนิเทศจุฬาฯ อย่างแรงเลยล่ะ
ปริญญาตรีในจุฬาฯ มีอะไรมากกว่าที่คนที่ไม่เรียนจะสามารถนึกได้ค่ะ =)
มีอะไรมากกว่าที่คุณคิดจริงๆ
ภาคไทยกับภาคอินเตอร์ก็ให้อะไรที่ต่างกันอีก เรื่องแบบนี้มันพูดยากค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่คนเรียนจุฬาฯ ภาคภูมิใจเหมือนกัน คือจุฬาฯ ไม่เคยทำให้เราอายใคร และไม่เคยทำให้ดูถูกในสถาบันและชื่อเสียง (คุณหากย้อนได้ฯ จะยืมไปใช้กับสถาบันคุณก็ได้นะคะ ^_^)
สิ่งที่เราอ่านคุณหากย้อนได้อยากกลับไปเรียนใหม่พูดมา รู้สึกเหมือนคุณพยายามพูดให้ จขกท. เห็นว่า จุฬาฯ ดีกว่า ม.กรุงเทพ ยังไง แล้วบางประโยคคุณถึงกับดูถูกจุฬาฯ คุณบอกว่า ม.กรุงเทพคุณเองก็เก่งก็เหนือ ในนั้นเราจับได้ว่าคุณบอกว่ามหาวิทยาลัยคุณก็มีศักดิ์ศรี ในขณะเดียวกันคุณก็ไม่นึกหรือคะว่า จุฬาฯเราก็มีศักดิ์ศรี แม้ไม่บอกว่าใครเหนือใคร แต่เราก็ไม่ชอบให้ใครมาว่าเรา
แล้วในตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ว่าใคร (เรา = จุฬาฯ)
ในนี้เป็นเพียงแค่การสนทนาของ นิสิตปริญญาโท จุฬาฯ กับ คนจบ ม.กรุงเทพมาเท่านั้น
แล้วประโยคหนึ่งที่เราขัดใจมากก็คือคำพูดที่คุณบอกว่า
"อย่างจุฬาหรือมธ เท่าที่ทราบจะเหมือนอยู่ในกรอบซะมากกว่า ตามทฤษฏีเท่านั้น ไม่ค่อยมีจินตนาการเท่าไร หรือไม่ก็บ้า สติไม่ดีไปเลยมากกว่า"
คุณกล้าพูดได้ยังไงคะ มันเป็นแค่ความรู้สึกของคุณ
คุณมีดีอะไรที่สามารด่าคนที่เรียนในสถาบันของเราว่าเป็นแบบนี้
คุณรู้ได้ยังไงคะว่าเราเป็นแบบนั้น คุณเองก็แค่ได้ยินมาจากคนอื่น หรือไม่ก็สัมผัสแค่ส่วนเดียวของพวกเรา
คุณบอกว่าพวกเราเรียนแต่ทฤษฏี ไม่มีจินตนาการ
คุณเคยมาดูเทศกาลภาพยนตร์กลางจอของคณะเราไหมคะ เคยมาดูเทศกาลภาพยนตร์หรือแม้กระทั่งมูฟวี่แมเนียที่มหาวิทยาลัยที่มีความสามารถในการสร้างสรรภาพยนตร์มาสร้างหนังสั้นแข่งกัน คุยเคยมานั่งเปรียบเทียบผลงานที่ออกมาระหว่างนิสิตคณะเรากับคณะคุณมั้ย คุณถึงได้กล้าเหมารวมแล้วพูดออกมาแบบนี้!!??
คุณรู้ได้ไงคะว่าเราอยู่แค่ในกรอบ แค่เรียนทฤษฏี
คุณรู้ได้ยังไงคะ???
แค่คุณได้ยินมาแค่นั้นคุณก็กล้าพูดแล้วหรอ
เรามีให้หัดทำหนังสั้น ทำโฆษณา ทำนิตยสาร ต้องติดต่อสัมภาษณ์ เรียนรู้วิธีขอสปอนเซอร์ ทำงานทำเกี่ยวกับพวกนี้ ทำพีอาร์ตามสถานที่ต่างๆ ทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับนิเทศในระดับเดียวกับที่คนทำเป็นอาชีพทำกันตั้งแต่ ปี 1 เลยด้วยซ้ำ
ทุกอย่างมีอยู่ในละครเวทีของนิเทศจุฬาฯ ที่สามารถเรียกรายได้หลายล้านต่อปี เป็นสิ่งที่รวมเอาความสามารถของพวกเราทุกชั้นปีไว้ด้วยกัน แล้วช่วยกันสร้าง ใช้สกิลการทำงานทุกอย่าง
คุณลองมาดูละครเรา แล้วย้อนกลับไปดูละครของคุณ... ที่เหลือคุณคิดเอา
ตอนปิดเทอม เราก็ไม่ได้ลอยชายไปกับช่วงปิดเทอม แต่ยังมีอีกหลายคนที่ไปมหาวิทยาลัยทุกวันเพื่อทำงานพวกนั้น เพื่อหาประสบการณ์"นอกกรอบ" ที่คุณเองก็คงไม่รู้ เพราะคุณไม่ได้สัมผัส
แล้วคนที่จบนิเทศ จุฬา คนที่เจ๋งจริงๆ และส่วนมากๆๆๆๆๆๆ เค้ามีทางเลือกมากกว่าที่จะเดินไปหาคุณ ให้คุณมาดูถูก เชื่อเถอะค่ะ คนที่คุณได้สัมผัสเป็นเพียงส่วนน้อยที่มันหลุดมาถึงมือคุณให้คุณได้ดูถูกพวกเราภาพรวมเท่านั้น
ที่เราพูดมาเราแค่อยากบอกคุณเกี่ยวกับคำพูแรงๆ ที่คุณมาดูถูกนิสิตในคณะเราเท่านั้น เราังไม่ได้พูดถึงโอกาส ถึงคอนแท็ค ถึงดวง ถึงสังคม ถึงเพื่อน และอะไรอีกหลายๆๆๆๆ อย่างในจุฬาที่เขียนที่พูดทั้งวันก็ไม่หมด เพราะเรารู้ว่าถึงเราพูดไปคุณก็ย้อนกลับมาพร้อมกับว่าจุฬาในสิ่งที่คุณ(ที่ไม่ได้เรียนจุฬาฯ)คิด
แล้วในที่นี้... เรากล้าพูดถึงละครเวทีของคุณ เพราะเราดู หลายคนก็ดู หลายคนวิจารณ์ หลายคนพูดถึง
เรากล้าพูดถึงหนังสั้นที่ส่งมาจากมหาวิทยาลัยคุณ นั่นก็เพราะเราได้ดูได้สัมผัส รวมถึงหลายๆ คนที่เคยเขียนบทวิจารณ์และได้มีการตัดสินเป็นที่เรียบร้อย
"เพราะฉะนั้นเรามีสิทธิ์ที่จะพูด ที่จะวิจารณ์ ต่อว่าหรือชื่นชม"
เราไม่ได้ด่ามหาวิทยาลัยคุณนะ อ่านดีๆ เราพูดถึงผลงานเท่านั้น
(เป็นเพราะคุณมาแตะต้องคณะเราก่อนด้วย ไม่งั้นเราก็คงไม่พูดหรอก)
(ชอบว่าแต่จุฬาฯ ดูถูกคนอื่น แต่นี่มหาวิทยาลัยอื่นดูถูกจุฬาฯ จะให้เรายืนเฉยได้ไง)
แต่ถ้าคุณจะมาตอกกลับเรื่องบทเรียนของมหาวิทยาลัยเรา เด็กในคณะเรา สิ่งที่คนที่เรียนคณะเรา เรียนจุฬาฯ ที่จะเท่านั้นที่จะได้สัมผัสแล้วเป็นกำไรชีวิต มาว่าเราเสียๆ หายๆ ในสิ่งที่คุณสัมผัสเพียงผิวเผิน เจอแต่มุมเดียว แล้วมาเหมารวมทั้งหมด
"คุณอย่ามาพูดเลย"
มันทำให้เรารู้สึกแย่กับสถาบันคุณมากยิ่งขึ้นอีก ทำให้เราคิดว่านี่หรอ นิเทศ ม.กรุงเทพ
เรามีเพื่อนที่เรียน ม.กรุงเทพ ดีๆ ก็มี แต่การที่คุณพูดแบบนี้ยิ่งทำให้มหาวิทยาลัยคุณเสีย
แต่ถ้าคุณจะคิดว่า นี่หรอ นิเทศ จุฬาฯ เราก็ยินดีและภูมิใจ
เพราะอย่างน้อยเราก็พูดเรื่องจริงและพิสูจน์ได้มาทั้งหมด
อ้อ พวกเราก็เมินเงินเดือน 9พันเหมือนกันค่ะ
ขั้นต่ำก็ต้องสตาร์ทเกือบ 2 หมื่น เหมือนกัน แล้วต้องเป็นบริษัทดีๆ มีชื่อเสียงด้วย
เพราะเรามีโอกาส
(ไม่จำเป็นต้องมาแยกว่าเป็นเพราะคอนแท็ค เพราะนั่นโน่นนี่ เพราะชื่อเสียง ฯลฯ เพราะสุดท้ายมันก็คือผลลัพธ์ที่คนที่จบจากเราได้)
----------------------------------------------------------
กลับมาที่คำถามของ จขกท. ค่ะ
=) ถ้าคุณเก่งจริง เรียนที่ไหนก็เหมือนกันค่ะ
แต่ถ้ายิ่งเก่งแล้วได้แบ็คอัพดี ก็จะยิ่งดีมากๆๆๆๆๆๆ ขึ้นค่ะ
สายนี้ปกติก็หางานยากอยู่แล้วค่ะ เพราะเป็นสายอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว และบางงานในบริษัทดีๆ ก็อาจต้องใช้ทั้งความสามารถและเส้นสาย รวมไปถึงโอกาส ดวง หลายๆ อย่างค่ะ
ถ้าคุณคิดดีแล้วว่ามหาวิทยาลัยที่คุณจะเข้าสามารถให้คุณได้ในความต้องการเหล่านั้น ด้วยความภูมิใจ และสามารถพูดชื่อมหาวิทยาลัยที่คุณเรียนได้เต็มปากว่ามันดีที่สุดแล้วสำหรับคุณ คุณก็เข้าไปเลยค่ะ =) เรียนไปเลย แล้วพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นว่าถึงคุณเรียน ม.เอกชน คุณก็ได้ดีไม่แพ้ ม.กรุงเทพ
(ไม่ต้องห่วงเรื่องคณาจารย์ค่ะ ม.กรุงเทพอาจารย์ดีมากค่ะ ก่อนหน้าที่อาจารย์จะไปสอน เราก็เคยสัมผัสตอนอยู่ที่คณะมาบ้าง หลายท่านจบนอก หลายท่านจบมาจากนิเทศจุฬาฯ และที่ดีๆๆๆๆอีกมากมาย แล้วก็มีคนกำลังเตรียมรับทุนไปเรียนทางด้านฟิล์ม นิเทศ ที่อเมริกา อังกฤษ แล้วกลับมาสอนที่ ม.กรุงเทพต่อ ^_^ การันตีความสามารถค่ะ)
ตัดสินใจดูดีๆ นะคะ เอาใจช่วยค่ะ =)
*** แก้คำผิดค่ะ มากมายเหลือเกิน ไม่แก้แล้ว พิมพ์ไปด้วยความรีบและเดือด***
ของขึ้นๆ 55+
แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 52 23:15:34
แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 52 21:33:12
แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 52 21:28:01
แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 52 21:27:59
แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 52 21:22:44
แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 52 21:22:43