Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ความเข้าใจของผม ประวัติศาสตร์การเมืองสู่เสื้อเหลืองเสื้อแดง

    นั่นสินะประชาธิปไตยคืออะไร

    ใครบางคนกล่าวโดยสรุปไว้ว่าเป็นการปกครองโดยประชาชนและเ้พื่อประชาชน

    คราวนี้เนี่ยมันมาถึงว่าทำไมต้องมีัเสื้อเหลืองเสื้อแดงอะไรอย่างนี้ใช่ไหมครับ

    ผมจะตอบให้ ถ้าไม่มีเสื้อเหลืองก็ไม่มีเสื้อแดงฟันธงอย่างนี้ก่อนนะ

    ถ้าประเทศนี้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย(โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข)

    เสียงส่วนใหญ่เลือกเอารัฐบาลไทยรักไทยเข้ามา เสียงส่วนน้อยก็ควรจะยอมรับ

    หลักการพื้นฐานเลยนะครับ

    แต่คุณๆเสื้อสีเหลืองไม่ยอมรับ อ้างว่าเขาซื้อเสียง รากหญ้าโง่ รัฐบาลขี้โกง

    อันนี้มันเชื่อมต่อกับหลักการพื้นฐานเรื่องสิทธิและเสรีภาพ

    ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้เมื่อเรามีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน

    โดนสรุปแล้วเราเชื่อว่าต่างฝ่ายต่างเคารพความมนุษย์เหมือนกัน เราเคารพเขา เขาเคารพเรา ผมคิดต่างกับคุณนะแต่ผมพร้อมจะฟังคุณพูดอย่างมีเหตุผล

    นั่นคือท่าที

    นั่นเป็นหลักการพื้นฐาน

    ไปเปิดตำราเรียน สปช. ป.5 เขาก็บอกว่าอย่างนั้นนะ

    แต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ทำสิ่งนั้น ไปพร้อมๆกับพรรคการเมือง 3-4 พรรค
    ถ้าคุณอ้างเสียงของประชาชนจริงๆ ตั้งพรรคการเมืองสิครับ ลงรับเลือกตั้ง เสนอนโยบาย ประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง ไม่ใช่เอาคำพูดยัดใส่ปากผม

    รัฐบาลทักษิณทำตามกฏดีแล้วเมื่อครั้งยุบสภา 2549 ก็ให้ประชาชนตัดสินสิ

    โดยประชาชนเพื่อประชาชน

    แต่มีพรรคการเมืองบอยคอตการเลือกตั้ง ถ้าจะมีพรรคไหนถูกยุบผมว่าน่าจะเป็นพรรคนี้นะ อุดมการณ์ทำลายประชาธิปไตย

    การกระทำแบบเสียดสีตามฉบับขุนนางชั้นสูง ทำให้เป็นเรืองต่ำ ไม่งาม ไม่เหมาะด้วย จารีตเกิดขึ้น 2 ปีต่อมา ความจริงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะไม่มีบทบาทอันใดเลยถ้าสถาบันหลักไม่ลงมาเล่นด้วย
    1.ตุลาการ
    2.พรรคการเมือง
    3.ทหาร
    4.องคมนตรี

    5 หมากนี้จัีบมือพร้อมเพรียง อ้อ +1 สื่อบางสื่อที่พยายามชักนำมวลชน
    Propaganda

    1.ตุลาการ --- ตุลาการภิวัฒน์ (ฟังดูดีจัง)
    2.พรรคการเมือง --- บอยคอตการเลือกตั้ง(นอกนั้นแทบไม่มีบทบาททั้งๆทีควรจะเป็นตัวชูโรง)
    3.ทหาร --- รัฐประหาร
    4.องคมนตรี --- เชื่อม คอนเนกชั่นทั้งหมดเหล่านี้ + ทำให้ดูเป็นเรื่องดีงามตามจารีต
    5.สื่อ --- เห็นกันอยู่

    คราวนี้คนอ่านหนังสือ สปช. ป.5 อย่างผมจะเรียกการปกครองอย่างนี้ว่าอะไรหล่ะครับ

    อืม ประชาธิปไตย ไม่เต็มปากเลย
    อืม อำมาตยาธิปไตย เอแต่มีนักการเมืองและทหารอยู่ด้วยนะครับ
    อืม 5 ธิปไตย คนๆกันอยู่นั้นหล่ะ ยังไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร

    มาถึงเสื้อแดงนะครับหลายคนเขาก็รู้สึกอย่างผมนี้หล่ะว่า เอ้ ทำไมน้าจึงไม่เป็นประชาธิปไตยสักที

    เขาก็ไปร่วมกันกับ นปช. เหตุผลหลักๆลึกไม่มีอะไรหรอกครับ

    เขาอยากให้เสื้อเหลืองตระหนักถึงความเป็นมนุษย์ของเขาบ้าง

    ไม่เห็นหรอเขาแทบลอกโมเดลเสื้อเหลืองมาทั้งดุ้น

    เขามีสิทธิมีเสียงเหมือนกันนะ

    เขาเลือกผู้นำของเขามานะ

    เขาเชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยจะนำพามาซึ่งประโยชน์สำหรับเขา
    เพราะทักษิณเป็นตัวอย่างแรกที่ทำให้เขาเห็น
    ว่าประชาธิปไตยกินได้ ชัดเจนนะครับ

    อ้าววว แต่ผมเป็นพวกพันธมิตร ผมไม่ชอบเลยที่คุณทักษิณโกง ขายชาติ
    ผมเลยไล่เขาออกยังไงหล่ะ

    ไม่ผิดครับไม่ผิด กระบวรการธรรมชาติเลยครับ คุณเป็นชนชั้นกลางที่มีการศึกษา
    เป็นแรงงาน White Collar เป็นราชการอะไรก็แล้วแต่

    ผมขีดเส้นใต้ไว้ที่คำว่ามีการศึกษานะครับ แรงๆเลย

    ถ้ามองในเชิงผู้ปกครอง การศึกษาเท่ากับโรงเรียนิวัติพลเมือง
    กล่าวคือทำให้คุณปกครองง่ายอย่างนั้นแหล่ะ
    เขาจะยัดเยียดหลัการพื้นฐานให้คุณ สอนSense ความเป็นลูกจ้างตั้งแต่ยังอนุบาล

    ทั้งหลายทั้งมวลนี้ก็เพื่อให้คุณคิดตรงกันกับเขา คุณไม่รู้ตัวหรอกแต่มันจะออกมาจากหัวใจเบื้องลึกของคุณเลยหล่ะ

    เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกคุณๆถึงตกลงปลงใจเชื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
    ตอบง่ายๆเพราะว่ามันเข้า Agenda ส่วนตัวของคุณนั่นเอง ผมก็เคยเป็น ทำไมจะไม่รู้ จนเมื่ออ่านหนังสือที่รัฐไทยเขาห้ามนั่นหล่ะ
    (โฉมหน้าศักดินาไทย ชาติไทยในทรรศนะปัญญาชนหัวก้าวหน้า และอื่นๆอีก)

    ทั้งหมดนี้เป็นศาสตร์แห่งการปกครองทั้งสิ้น ยิ่งชัดเจนเมื่ออ่านประวัติศาสตร์ยุคกลาง
    และการปฏิวัตเยอรมัน ฝรั่งเศส
    เรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นที่ไทยเป็นครั้งแรก

    ตัวอย่างความเชื่อหลักของหมู่ชนชั้นกลางในประเทศเกี่ยวกับการเมือง
    1.นักการเมืองทุกคนโกง
    2.นักการเมืองทีดีต้องซื่อสัตย์ สุจริต มีธรรมาภิบาล (หล่อได้ก็ดี อันนี้เติมเองนะครับล้อเล่น)
    3.เราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่สุ้มเสียงของเราควรจะเป็นหลักใหญ่ของประเทศ เพราะเรามีการศึกษา
    4.สถาบันหลักของเราใครจะละเมิดไม่ได้ เราจะโกรธเกรี้ยวมากทีเดียว

    หลักนะครับ เรียงความสำคัญตั้งแต่ 1-4 พธม. เขาเล่นแทบทุกประเด็นเลยคุณว่าไหม ถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกคุณจึงชอบนัก
    เพราะมันทำให้อัตตาคุณใหญ่ขึ้นนั้นเอง คุณไม่ผิดนะ เขาเรียกว่าการชักนำมวลชน

    โอเคแล้วความเข้าใจพื้นฐานของประชาธิปไตยหล่ะ
    1.นักการเมืองทุกคนเป็นตัวแทนอำนาจของประชาชน ฉะนั้น ต้องได้รับการตรวจสอบอำนาจเสมอ (อำนาจต้องคานด้วยอำนาจ)
    2.นักการเมืองจะซื่อสัตย์สุจริต ตราบใดที่เรามีระบบตรวจสอบที่แข็มแข็งพอ และตรวจสอบได้จากประชาชน
    3.ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันไม่ว่ายากดีมีจน สูงต่ำดำขาว คุณรวย ผมจน ผมกับคุณเป็นมนุษย์เหมือนกัน
    4.รัฐธรรมนูญ และ 3 อำนาจปกครองประเทศเป็นสิ่งที่จะใช้กำลังประทุษร้ายไม่ได้
    1.ตุลาการ
    2.นิติบัญญัติ
    3.บริหาร

    คุณต้ัองผ่านกระบวนการรัฐสภาที่เสียงของปวงชนเท่านั้นจึงนับเป็นหลักการของประชาธิปไตย

    แล้วเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา

    ผมในฐานะที่ศึกษาประชาธิปไตยอย่างงูๆปลาๆ ผมงงฮะ
    เอแล้วสรุปนี้ เราปกครองด้วยระบอบอะไรกันแน่ฮึ
    ตกลงมันไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้วนี้อืมมม
    ผมหาคำตอบต่อไป
    ไปเจออะไรบางอย่างครับ สนุกจริงๆ

    บ้านเมืองสงบมาช้านานตอนที่ยังไม่มีเรื่องเสื้อเหลือง เสื้อแดง

    ไม่ใช่แค่คุณเจ้าของกระทู้คนเดียวหรอกครับที่รู้สึก ผมก็รู้สึก แต่ใต้ความสงบมีอะไร

    บางอย่าง ผมสังหรณ์ใจตั้งแต่เล็กๆแล้ว บ้านเมืองเรามีอะไรแปลกๆอยู่นะว่าไหม

    ทำไม ทำไม ทำไม คำถามเด็ก 3 ขวบหน่ะครับ

    ตั้งแต่เล็กๆผมกระตือรือร้นกับการเลือกตั้งมาก ผมเชื่อว่าเฮ้ยเรามีสิทธิมีเสียงเหมือนกันหว่า ผมใจจดใจจ่อรอวันที่อายุ 18

    พ่อผมรับเงินซื้อเสียงแต่ไม่เคยไปเลือกตั้งเลย
    "กี่ทีๆมันก็อีหรอบนั้น" พ่อเป็นคนที่ศึกษาการเมือง จบนิติศาสตร์ ผมสงสัยทำไมพ่อไม่ไปเลือกตั้ง
    พ่อยื่นหนังสือให้ผม 2 เล่ม 1.สถาบันสถาปนา 2.ข้อเท็จจริงกรณีสวรรคต

    ผมไม่ได้อ่านเล่มที่ 2  แต่ชอบเล่มที่ 1 มาก สนุกนะครับ

    ชักออกทะเลแล้วนะนายวกกลับเข้าเรื่องหน่อยสิ

    โอเคๆ มันเริ่มจากหนังสือ 2 เล่มนั้นหล่ะครับ ผมเป็นคนชอบประวัติศาสตร์อ่านได้เป็นคืนๆ ไม่กินไม่นอน พอมาเรียน ม.ปลายนั่นแหละถึงได้ลืมๆไป

    ผมหยิบนั่งสือเล่มที่ 2 มาอ่านมันเลยเป็นจุดเริ่มของการศึกษาปนจินตนการในครั้งนี้

    ประชาธิปไตย อดมการณ์หรืออุดมกรู เจ้าของกระทู้ตั้งชื่อกระทู้ได้ Zen มาก กระแทกใจผมอย่างแรง พลันเกิดพลังมากมายพิมพ์อยู่นี่หล่ะครับ ทั้งๆที่ไม่เคยตอบกระทู้เลย จะมีก็น้อยมาก

    มันเริ่มจากใครสักคนในพระราชวังสนามจันทร์
    จักรวรรดินิยมหรือประชาธิปไตย ผมว่าใครคนนั้นคิดอย่างนั้น

    มันเริ่มจากใครสักคนในปารีส
    "เราควรจะเป็นประชาธิปไตยนะเพื่อนๆว่าไหม"

    มันเริ่มจากใครสักคนในฟาร์มแห่งเนบราสก้า
    "จักรวรรดินิยมหรือประชาธิปไตย ทำไมไม่เอา 2 อย่างรวมกันไปเลยหล่ะ"

    และมันจบที่ผู้หญิงคนหนึ่งผู้กล่าวบทสรุปทุกอย่าง
    "ไม่ขอรับเกียรติยศใดๆทั้งสิ้น"

    จากคุณ : Jazzy the kid - [ 12 เม.ย. 52 15:45:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com