ความคิดเห็นที่ 1 จากข่าวนี้อ่ะครับ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักคิดนักเขียน เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงบรรณาธิการไทยโพสต์ เพื่อแสดงความเห็นต่อบทความ “คึกฤทธิ์คนสำคัญของโลก” ในคอลัมน์ บังอบายเบิกฟ้า ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา โดยสุลักษณ์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเสนอชื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ต่อยูเนสโกเพื่อให้รับรองเป็นบุคคลสำคัญของโลก นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลทำประชามติก่อน หากจะมีการเสนอชื่อผู้ใด ไม่ใช่ทำกันแต่เป็นการภายใน โดยไม่สนใจประชาชน *************** (เนื้อความจดหมาย มีดังนี้)                                                               ๑๒๗ ซอยสันติภาพ  ถนนนเรศ                                                                      บางรัก กรุงเทพฯ ๑๐๕๐๐                                 ๘ มกราคม ๒๕๕๒ เรียนบรรณาธิการไทยโพสต์ ผม รู้จักคุณธรรมเกียรติ กันอริ มาตั้งแต่เขาเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม และนิยมชมชอบสำนวนการเขียนหนังสือของเขามาแต่สมัยนั้น หนังสือของเขาที่ดีที่สุดเมื่อเขายังอยู่ในวัยฉกรรจ์ คือเล่มที่ว่าด้วยคึกฤทธิ์ ปราโมช ลอกคราบคุณชายผู้นั้นอย่างสะใจ และใช้โวหารหลอกล้อ ดังที่คุณชายชอบใช้เล่ห์เช่นนั้นกับมหาชน ให้ใครๆ เห็นว่าคุณคึกฤทธิ์เป็นคนกะล่อน แต่เมื่อมาอ่านบทความของเขาเรื่อง “คึกฤทธิ์คนสำคัญของโลก” ในไทยโพสต์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๔ มกราคม แล้วรู้สึกอ่อนใจ แสดงว่า คุณธรรมเกียรติ ในวัยที่สังขารเริ่มร่วงโรยไปนั้น กลับเห็นกงจักรเป็นดอกบัวไปเสียแล้ว ก็การเสนอชื่อบุคคลให้ UNESCO รับรองว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกนั้น คนๆ นั้น น่าจะมีความดีประกอบไปกับความรู้ความสามารถในทางการศึกษา (Education) วิทยาศาสตร์ (Science) และวัฒนธรรม (Culture) ตามชื่อขององค์การแห่งนั้นของสหประชาชาติ  ที่ แล้วๆ มา สามัญชนคนไทยที่รัฐบาลเสนอไป ล้วนเป็นปูชนียบุคคลที่ควรแก่การกราบไหว้บูชาทุกท่าน นอกเหนือไปจากอัจริยภาพของท่านนั้นๆ ในทางการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นพระยาอนุมานราชธน นายปรีดี พนมยงค์ นายกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือพุทธทาสภิกขุ รัฐบาลไทยไม่เคยเสนอชื่อสามัญชนที่เป็นคนกึ่งดิบกึ่งดี ที่มีความสามารถอย่างฉ้อฉลหรือบิดเบือนไปให้ยูเนสโกพิจารณามาก่อนเลย หาไม่หลวงวิจิตรวาทการ น่าจะเป็นบุคคลสำคัญของโลกไปแล้ว ในฐานะที่มอมเมาคนไทยได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคึกฤทธิ์ ปราโมช อาจารย์ สายชล สัตยานุรักษ์ แห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการวิจัย (สกว.) ให้เรียบเรียงประวัติปัญญาชนไทย ๑๐ คน ซึ่งมีอิทธิพลกับการสร้างจิตสำนึกให้คนไทยร่วมสมัย ในจำนวนดังกล่าว มีหลวงวิจิตรวาทการ และ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช รวมอยู่ด้วย ผลงานของเธอ แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด ว่าบุคคลทั้งสองนี้ใช้เล่ห์เพทุบาย ในการมอมเมาผู้คนยิ่งกว่าให้ข้อเท็จจริงอย่างสุจริตใจ เมื่อ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในสมัยรัฐบาล คมช. ได้เสนอให้คุณชายคึกฤทธิ์ เป็นบุคคลสำคัญของโลกมาทีหนึ่งแล้ว (โดยที่ภารกิจนี้เคยเป็นของกระทรวงศึกษาธิการ) และผมได้เขียนคัดค้านไปลงพิมพ์ใน ช่อการเกด ของคุณสุชาติ สวัสดิ์ศรี เป็นเหตุให้น้องชายของท่านรัฐมนตรีผู้นั้นสั่งไม่ให้ลงเรื่องที่ผมเขียนหรือ แม้แต่ชื่อของผมในหนังสือพิมพ์และนิตยสารในสังกัดของเขาเอาเลย ตราบเท่าจนบัดนี้ วิธีการเช่นนี้ คุณชายคึกฤทธิ์ใช้มากับผมและบุคคลอื่นๆ ที่เธอรังเกียจก่อนแล้วที่สยามรัฐ ก็ถ้าสื่อมวลชนใช้อคติส่วนตัวของผู้บริหารสูงสุดเป็นตัวกำหนด ว่าควรเอ่ยชื่อใครหรือไม่ และบทความของใครควรลงพิมพ์หรือไม่ โดยที่คนๆ นั้นเป็นคนที่ผู้บริหารสูงสุดรังเกียจเสียแล้วละก็  สื่อมวลชนดังกล่าวมีความเป็นกลางละหรือ รักสัจจะหรืออาสัตย์อาธรรม์กันแน่ แม้อนันตริยกรรมข้อนี้ ประการเดียว บุคคลคนนั้น ยังควรได้รับยกย่องให้เป็นคนสำคัญของโลกอีกละหรือ โดยไม่จำต้องเอ่ยว่าสี่แผ่นดิน นั้นเป็นนวนิยายที่ใช้ล้างสมองให้คนเห็นว่าประชาธิปไตยเป็นของเลว ราชาธิปไตยเป็นของวิเศษ ชาติวุฒิสำคัญยิ่งกว่าคุณวุฒิของสามัญชนคนธรรมดา และแล้วเราก็ยังถูกสะกดให้อยู่ในอีหรอบนี้อยู่ หรือมิใช่ ทั้งนี้มิใยต้องเอ่ยยถึงว่า ไผ่แดง ก็ดี กาเหว่าที่บางเพลง ก็ดี แม้จน ฮวนนั้ง และซูสีไทเฮา ก็ล้วนลอกเลียนเอามาจากฝรั่ง อย่างหน้าด้านๆ อีกด้วย ในวงวรรณกรรมสากล ถือว่านี่คือการโขมยหรือปล้นสดมภ์มาเลยทีเดียว  แล้วบุคคลเช่นนี้ละหรือที่ควรเป็นบุคคลสำคัญของโลก ยัง การที่เขาดูถูกสาธารณรัฐประชาชนลาว โดยกล่าวหาว่าเลวร้ายและล้าหลัง จนถึงจะข้ามไปเผาเวียงจันทน์ด้วยแล้ว นี่มิเป็นการสร้างความอหังการอย่างผิดๆ ให้นักอ่านไทย ในกระแสชาตินิยมดอกหรือ แล้วเพื่อนบ้านของเราทางฝั่งโขงข้างโน้นจะรู้สึกอย่างไร ก็ บัดนี้ เรามีรัฐบาลที่มีทีท่าว่าจะเป็นประชาธิปไตยยิ่งๆ ขึ้น ในทางเนื้อหา ถ้ารัฐบาลจะเสนอบุคคลใดให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก น่าจะแสวงหาประชามติสนับสนุน ไม่ใช่งุบงิบกันกระทำเป็นการภายใน โดยมองไม่เห็นหัวราษฎรทั้งหลายเอาเลย รัฐบาล และสื่อมวลชนกระแสหลัก จักรับฟังข้อเสนอของผมดังกล่าวนี้ได้ จำต้องกล้าเผชิญกับสัจจะ และมีความกล้าหาญทางจริยธรรม โดยถอนตัวออกมาจากความมอมเมาต่างๆ ที่รับกันเรื่อยๆ มา จาก ม.ร.ว. คึกฤทธ์ ปราโมช เป็นต้นมา ขอแสดงความนับถือ (นายสุลักษณ์  ศิวรักษ์) ขออภัยครับ ผมจำที่มาของข่าวไม่ได้ เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ คือประเด็นที่มีคนสงสัยและผมเห็นด้วยกับข้อสงสัยคือ ประเด็นคืออะไร ท่าน คึกฤทธิ์ เหมาะสมหรือไม่ หรือว่า ท่าน คึกฤทธิ์ ทำประโยชน์แก่ประเทศเพียงพอหรือไม่ หรือว่า ผลงาน ท่านคึกฤทธิ์ ดีจริงไหม จริงๆ แล้ว เราสน..อะไร คน ประวัติ หรือ ผลงาน ปล.หาที่มาของเรื่องได้แล้วครับ http://www.oknation.net/blog/news321/2009/01/10/entry-3 จากคุณ : เจ้าชายโดดเดี่ยว - [ 20 เม.ย. 52 22:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมก็ไม่เห็นด้วย อาจารย์สุลักษณ์ท่านรู้จักอาจารย์หม่อมดีมาก เคยฟาดฟันกันมา แต่คิดว่าที่คัดค้านนี่ ท่านก็มีเหตุผลของท่าน เห็นด้วยกับอาจารย์สุลักษณ์ที่ว่า น่าจะทำประชามติก่อน หากจะมีการเสนอชื่อผู้ใด ไม่ใช่ทำกันแต่เป็นการภายใน โดยไม่สนใจประชาชน หรือมิเช่นนั้น ก็มีเกณฑ์ที่ชัดเจน + ประเมินและประกาศกันให้โปร่งใส หนังสือของอาจารย์ สายชล สัตยานุรักษ์ เรื่อง คึกฤทธิ์กับประดิษฐ์กรรม 'ความเป็นไทย' น่าอ่านเหมือนกันนะ จากคุณ : ผ่านไปผ่านมา - [ 20 เม.ย. 52 23:47:16 A:58.8.169.43 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นเรื่องปกติค่ะ ที่จะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เอาเหตุผลมาคุยกัน ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร โดยส่วนตัวดิฉันชื่นชม มรว คึกฤทธิ์ มากกว่า ส.ศิวรักษ์ จากคุณ : ม.แมว - [ 20 เม.ย. 52 23:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คือที่ผมอยากรู้เจตนาของการค้านของเจ้าของจดหมาย   เพราะว่าคนที่ออกมาคัดค้าน เป็นคนที่เคยมีปัญหากับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ก็เลยทำให้รู้สึกว่า เป็นการค้านเพราะความขัดแย้งส่ววนตัว ไม่ได้มาจากความคิดที่เป็นคนกลางอ่ะครับ เลยอยากทราบว่าคุณคิดอย่างไรครับ จากคุณ : เจ้าชายโดดเดี่ยว - [ 21 เม.ย. 52 00:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คือผมมองว่า ในประเด็นแบบนี้ ความขัดแย้งส่วนตัว อาจจะต้องเป็นสิ่งที่เอาไว้ชั่งน้ำหนัก แต่ข้อกล่าวอ้างนั้นก็จะเป็นสิ่งที่เราต้องนำมาพิจารณา โดยอาจจะชั่งน้ำหนักว่า สิ่งที่กล่าวมานั้น เป็นความคิดเห็น หรือข้อเท็จจริง ถ้าเป็นข้อคิดเห็น เราก็เอาน้ำหนักแห่งอคตินั้นมาช่วยดุลย์ได้ แต่ถ้าเป็นข้อเท็จจริงละ ? ข้อคัดค้านที่ยกมา ได้แก่ ...โดยไม่จำต้องเอ่ยว่าสี่แผ่นดิน นั้นเป็นนวนิยายที่ใช้ล้างสมองให้คนเห็นว่าประชาธิปไตยเป็นของเลว ราชาธิปไตยเป็นของวิเศษ ชาติวุฒิสำคัญยิ่งกว่าคุณวุฒิของสามัญชนคนธรรมดา และแล้วเราก็ยังถูกสะกดให้อยู่ในอีหรอบนี้อยู่ หรือมิใช่... โอเค อันนี้ผมว่า เป็นกึ่งข้อเท็จจริง กึ่งความคิดเห็น หากมองว่าผู้คัดค้านนั้นมีเรื่องไม่ชอบกันเป็นการส่วนตัวกับผู้ถูกเสนอชื่อแล้ว ข้อนี้อาจจะตกไปได้ (แต่ส่วนตัวผมค่อนข้างเห็นด้วยนะ) ทั้งนี้มิใยต้องเอ่ยยถึงว่า ไผ่แดง ก็ดี กาเหว่าที่บางเพลง ก็ดี แม้จน ฮวนนั้ง และซูสีไทเฮา ก็ล้วนลอกเลียนเอามาจากฝรั่ง อย่างหน้าด้านๆ อีกด้วย ในวงวรรณกรรมสากล ถือว่านี่คือการโขมยหรือปล้นสดมภ์มาเลยทีเดียว  แล้วบุคคลเช่นนี้ละหรือที่ควรเป็นบุคคลสำคัญของโลก อันนี้แหละครับ เป็นข้อเท็จจริง มีหลักฐานยืนยัน มีหนังสือต้นฉบับที่เป็นต้นสำนวนที่ถูกลอกเลียนมาดัดแปลงเป็นเรื่องไทย และเป็นการดัดแปลงแบบลอกเลียนด้วย ไม่ใช่การดัดแปลงในเชิงวรรณกรรมที่ยอมรับได้ เช่นการลอกเลียนในเชิง "คารวะ" งานครู คือมีการอ้างอิง และให้คุณค่าแก่งานต้นฉบับ หรือการอ้างอิงเชิงล้อเลียน (กรณี ลุควิด ฟาน อีแร้ง กับ โจนาธาน ลิฟวิงตัน นางนวล) เฉพาะข้อนี้ ผมว่า ไม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงความขัดแย้งส่วนตัวของสองท่านแต่อย่างใด เพราะต่อให้ คุณสุรักษ์ ไม่เคยสู้รบตบตี รักกันดีกับ มรว. คึกฤกษ์ ข้อเท็จจริงเหล่านั้นก็ไม่มีเปลี่ยน - หนังสือ The Little World of Don Camillo ของ Giovanni Guareschi  กับ The Midwich Cuckoos ของ John Wyndham ก็ไม่หายไปไหน "...การที่เขาดูถูกสาธารณรัฐประชาชนลาว โดยกล่าวหาว่าเลวร้ายและล้าหลัง จนถึงจะข้ามไปเผาเวียงจันทน์ด้วยแล้ว นี่มิเป็นการสร้างความอหังการอย่างผิดๆ ให้นักอ่านไทย ในกระแสชาตินิยมดอกหรือ แล้วเพื่อนบ้านของเราทางฝั่งโขงข้างโน้นจะรู้สึกอย่างไร..." ผมไม่เคยอ่านงานตามที่ยกมานี้ ... ใครที่เคยอ่านต้องหาหลักฐานกันในส่วนนี้ ส่วนอันนี้ผมแถม "พยายาม "ตู่" เอาว่า "เบ้งเฮ็กเป็นคนไทย" เพื่อเสริมต่อกับประวัติศาสตร์แนวเชื้อชาตินิยมอย่าง "คนไทยถอยร่นมาจากตอนใต้ของเมืองจีน" ซึ่งในหนังสือเบ้งเฮ็กฯ มีหลายส่วนที่มีลักษณะการเหยียดชาติอย่างรุนแรง" สมมติมีการทำประชามติ ผมก็คงเลือกลงคะแนนเสียงคัดค้านเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 52 01:31:16 จากคุณ : บุญชิตฯ (Players) - [ 21 เม.ย. 52 01:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมไม่เคยมีปัญหา กะ อาจารย์หม่อม ครับ  และก็ไม่ได้ชื่นชม ทั้ง อาจารย์หม่อม และ คุณ ศ ศิวรักษ์ แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยที่จะเสนอชื่อ ท่านไปเปนบุคคล สำคัญของโลก จากคุณ : tinglee tingamee - [ 21 เม.ย. 52 02:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การเสนอชื่อเป็นบุคคลสำคัญของโลก มีความสำคัญอย่างไร แล้วชาวโลกให้ความสำคัญแค่ไหน หรือว่ามีคนรู้จักมากขี้น ???? จากคุณ : chaona - [ 21 เม.ย. 52 03:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในความเห็นของผม ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ แม้จัดได้ว่าเป็นปราชญ์ท่านหนึ่งเลยทีเดียว แต่ยังไม่ถึงขั้นบุคคลสำคัญของโลก เพราะงานของท่านไม่มีผลถึงระดับโลกทั้งโลก แต่ถ้ามาถามผม ผมก็ไม่คัดค้านครับ ก็คนไทยด้วยกันนี่ครับ ถ้าชื่อของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ไปปรากฏใน list บุคคลสำคัญของโลก เป็นเรื่องที่น่ายินดีมิใช่หรือ? ปล่อยให้ UNESCO เป็นผู้พิจารณาเองจะดีกว่าไหม การออกมาคัดค้านเช่นนี้ คนอื่นเขาจะมองอย่างไร คนไทยปัดแข้งปัดขากันเองใช่มั้ย? เรื่องที่ผมรู้สึกไม่ดีเลยก็คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ท่านไม่อยู่แล้ว ควรให้เกียรติคนตายด้วย ถ้าจะเสนอ ผมอยากเสนอให้นาย ส. ศิวรักษ์ เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจของโลก มากกว่า จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 21 เม.ย. 52 06:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ท่านเป็นปราชญ์ของแผ่นดินในยุครัชกาลปัจจุบันนะผมว่า แต่ยังอาจจะไม่ถึงบุคคลสำคัญของโลก แต่ในความเห็นผม ถ้าจะเสนอชื่อผู้ใดไป อาจารย์หม่อม ย่อมติดในแคนดิเดทสามอันดับแรกที่คนนึกถึง อยู่น่ะครับ จากคุณ : natthaset - [ 21 เม.ย. 52 07:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าตัดเอาเรื่องทัศนคติทางการเมืองของคึกฤทธิ์ออกไป ผมว่าท่านก็เป็นผู้รู้คนหนึ่ง แต่ไม่ถึงขั้นบุคคลสำคัญของโลกหรอก จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 21 เม.ย. 52 08:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก็เสนอชื่อ ส.ศิวรักษ์ ไปแทน สิครับ จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน - [ 21 เม.ย. 52 09:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้าว คุณ ส. ตบะแตกเสียแล้วเห็นเมื่อเดือนก่อนบอกว่าจะล้างมือในอ่างทองคำแล้วนี่นา ดูข่าวจาก TPBS เห็นมีพิธีใหญ่โตให้สัมภาษณ์อย่างกับว่าจะไปบำเพ็ญพรตเป็นนักพรตเต๋าก็มิปาน ไหงตบะแตกเสียแล้ว ฝึกวิชามากไป ธาตุไฟเข้าแทรกหรือเปล่าหนา จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม - [ 21 เม.ย. 52 09:35:23 A:58.10.222.197 X: TicketID:207948 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อันที่จริงเมืองไทยเรานี่ก็อยากจะมีอันโน้น อันนี้เป็นมรดกโลก อย่างมาตรฐานยูเนสโกเขาจัดมาแต่ไหนแต่ไร เช่นเดียวกัน บุคคลสำคัญของโลกนี้ หลายต่อหลายท่านได้รับการเสนอชื่อไป และยูเนสโกก็รับรอง แต่ปัจจุบันคนไทยเสียเองที่กลับลืมท่าน สำหรับหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ นี้ เราก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร ท่านก็เป็นคนกึ่งดิบกึ่งดีแบบคุณ ส. แกว่านั่นแหละ ซึ่งสามัญชนผู้ยังไม่พ้นอาสวกิเลสก็ล้วนเป็นแบบนั้น จะขาวเกลี้ยงปลอดก็หามีไม่ อันที่จริงเราก็ตามอ่านที่คุณ ส. แกเขียนว่า หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ มานานแล้ว จนแก่เฒ่าเหลาเหย่ตายกันไปข้างก็ยังไม่วายเปลี่ยน มาครั้งนี้ก็ไม่แปลกใจที่แกจะคัดค้าน ก็ทำหน้าที่ของแกไป เพราะบุคคลสำคัญที่ดีเด่ ไม่กึ่งดิบกึ่งดี ปลายอ้อปลายแขม หรือเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่กะล่อน ตามสำนวนแก ในสายตาแกนั้นมีไม่กี่คนหรอก ไล่ได้ไม่เกินนิ้ว มี นายปรีดี นายป๋วย ท่านพุทธทาส เจ้าคุณภัทรมุนี เป็นอาทิ ส่วนตัวเราเห็นว่าคุณชายคึกฤทธิ์ ท่านจะได้เ็ป็นบุคคลสำคัญของโลกนั้นก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร ถึงไปปลุกแกมาถามว่าดีใจไหม แกคงได้แต่หัวเราะ แล้วบอกว่า อั๊วเป็นมาหมดแล้วว่ะ นักเขียน อาจารย์ ทหาร นายก ดารา นาฏศิลป์ละคอนโขน ศิลปินแห่งชาติ ได้เป็นคนสำคัญของโลกก็คงไม่ได้ทำให้ภูเขาทองมันสะเทือนหรอก (ฮา) จากคุณ : cybrarian - [ 21 เม.ย. 52 09:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณสุลักษณ์พูดเหมือนตัวเองไม่มีจุดบกพร่อง ว่าคนโน้นว่าคนนี้  ไม่รู้มีเพื่อนคบอยู่กี่คน คุณชายคึกฤทธิ์อาจพลาดบ้างแต่หนังสือท่านอ่านสนุกดี เรื่องเสนอชื่อยังไม่ถึงขั้นเหมือนหลายๆท่านที่ผ่านมา จากคุณ : วสันดิลก - [ 21 เม.ย. 52 10:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อาจารย์ มรว คึกฤทธิ์ มีอะไรสู้ คุณ ส.ศิวรักษ์  ไม่ได้หรอครับ เหอะๆๆๆ จากคุณ : เหล่าฟาง - [ 21 เม.ย. 52 11:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ คงไม่ใช่เรื่องว่าใครสู้ใครได้หรือสู้ไม่ได้หรอก หรือว่า ระหว่าง 2 คนนี้ ใครดีกว่าใครหรอก แต่ว่าอาจารย์หม่อมท่านเป็น "บุคคลสำคัญของโลก" หรือเปล่า? ส.ศิวลักษณ์ ท่านไม่เห็นด้วย ท่านก็แสดงความคิดเห็นออกมา ใครไม่เห็นด้วยกับท่านก็แย้งไป ทำไมจึงเห็นต่างกัน? ว่ากันไปด้วยเหตุด้วยผล น่าจะประเทืองปัญญากว่า ผมก็เป็นอีกคนที่ไม่เห็นด้วย และอีกประเด็นคือ คงไม่ดีใจเพียงเพราะเหตุผลว่าในบัญชีบุคคลสำคัญของโลกมีคนไทยติดเข้าไปอีกคนหนึ่ง จากคุณ : ผ่านมาอีกที - [ 21 เม.ย. 52 11:14:32 A:161.200.255.162 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมไม่คัดค้าน แต่ไม่สนับสนุนครับ เพราะยังไม่เห็นท่านมีผลงานที่ดีเด่นถึงระดับโลก ถ้าในระดับประเทศเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ จากคุณ : K.Senior - [ 21 เม.ย. 52 11:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในระดับประเทศ คงไม่มีใครปฏิเสธหรอกว่า ท่านคึกฤทธิ์ไม่คู่ควร แต่ถ้าจะระดับโลก อันนี้ทางยูเนสโกก็คงต้องใช้เกณฑ์มาตรฐานพิจารณาละ ว่าจะยังไง โดยส่วนตัวแล้ว ท่านจะได้หรือไม่ได้ ผมว่าเจ้าตัวที่นอนในโลงก็คงไม่ได้สนใจหรอก จากคุณ : eagle1000 - [ 21 เม.ย. 52 11:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ูู^ ^ หนมจีนขอปฏิเสธคนนึงได้มั้ยคะเนี่ย ^^a ส่วนตัวหนมจีนชื่นชมท่านนะคะ อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับท่านบ่อยๆ ทั้งในต่วยตูน ในหนังสือต่างๆ ชื่นชมมากด้วยว่า ท่านเป็นบุคคลที่มีความสามารถหลายด้านจริงๆ ทั้งด้านวรรณกรรม และด้านการเมือง แต่สิ่งที่ส.ศิวรักษ์ เอ่ยมา ก็มีเหตุผลและข้อเท็จจริงแฝงอยู่ไม่น้อย อย่างที่คุณบุญชิต #5 เอ่ยมาเกี่ยวกับเรื่องวรรณกรรม และเรื่องอื่นๆที่ตั้งไว้เป็นประเด็นคำถาม (หนมจีนไม่มีเอกสาร หรือหลักฐานในมือ ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ) เพียงแต่เรื่องหลังนี้ มีประเด็นเรื่องเหตุผลทางด้านการเมือง การเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้ง จริยธรรมที่แตกต่างของสังคมในช่วงเวลานั้นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงทำให้ข้อความของคุณ ส.ศิวรักษ์ ที่ใช้แต่เหตุผล และจริยธรรมในปัจจุบันมาตัดสิน ดูจะอคติเกินไปบ้าง อย่างไรก็ตาม หนมจีนก็ยังตอบแบบคุณบุญชิตค่ะว่า หากมีการลงประชามติ หนมจีนก็คงคัดค้าน ด้วยความเคารพค่ะ จากคุณ : หนมจีน - [ 21 เม.ย. 52 12:26:58 A:58.34.195.173 X: TicketID:063710 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ได้ชอบคุณชายคึกฤทธิ์ แต่ก็คิดว่ายังดีกว่าเสนอชื่อ ส.ศิวรักษ์ ถ้าคนไทยยังมามัวขัดแข้งขัดขากันเอง ประเทศชาติจะก้าวหน้าต่อไปได้อย่างไร จากคุณ : AeroEx - [ 21 เม.ย. 52 12:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมชอบสังคมแห่งการวิพากษ์จัง มีเหตุ ก็ว่าไปตามเหตุ ถ้าไปกระเทือนใคร ก็หาข้อมาอธิบายแก้ไข ทุกอย่างกระจ่างใส สังคมแห่งการใช้ข้อเท็จจริง ผมอ่านงานวิพากษ์ของ ส.ศ.ษ. มาพอสมควร เห็นด้วยบ้าง ไม่เห็นด้วยบ้าง แกปากจัดกัดเจ็บ แต่ถ้าไล่ไปตามฝีจักรของแก บางทีอีกฝ่ายหืดขึ้นคอเวลาจะแก้เหตุแก้ผล น่าสนุกครับ ผลงานของ อ.หม่อม เอาจำเพาะที่ไม่ได้ลอกฝรั่งเขามา (หรือจะเรียกว่ายืมโครงเรื่องนั่นแล้) ก็นับว่าเป็นของดี อ่านแล้วสนุกสนาน เพราะภาษาท่านง่าย เรียบแต่งาม ศตวรรษนี้ จะหาคุรุแบบท่าน ในสังคมไทยก็หาได้มีมากไม่ หากถามไปถึงความอมตะทรงคุณค่าและสะเทือนไปยังโลกาแล้วละหรือ? ผมก็ว่ายังไม่เข้าวินมากนัก หากมองในแง่อื่น คือชีวิต การงาน .. ก็เรียกได้ว่าท่านบรรลุจุดสูงสุดในฐานะอาณาประชาชนไทยที่พึงจะเป็นได้แล้ว แต่ถามดูถี ... จะมีชาวไร่ชาวป่านาดอย คือราษฎรอย่างธรรมดา รู้จักนามกรท่านกี่มากน้อย ณ บัดนี้ ... ผมว่าน้อยนะ สรุปลงความเห็นว่า ไม่คัดค้าน ที่จะเสนอชื่อท่าน .. ในขณะเดียวกันก็ไม่แสดงออกถึงอาการสนับสนุน ... เอาเวลาไปพัฒนาการอ่านของคนในประเทศเราดีกว่า เผยผลงานท่านให้แพร่ออกไป จนถึงเวลานั้น ... ประชาชนคนไทยคงตัดสินใจได้กระมัง ว่าผลงานของท่าน สมควรเชิดชูบูชาและให้ชาวโลกรับรู้ถึงปรีชาของท่านหรือไม่ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 52 12:51:23 จากคุณ : jassb1 - [ 21 เม.ย. 52 12:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทั้งนี้มิใยต้องเอ่ยยถึงว่า ไผ่แดง ก็ดี กาเหว่าที่บางเพลง ก็ดี แม้จน ฮวนนั้ง และซูสีไทเฮา ก็ล้วนลอกเลียนเอามาจากฝรั่ง อย่างหน้าด้านๆ อีกด้วย ในวงวรรณกรรมสากล ถือว่านี่คือการโขมยหรือปล้นสดมภ์มาเลยทีเดียว  แล้วบุคคลเช่นนี้ละหรือที่ควรเป็นบุคคลสำคัญของโลก ทราบแต่กาเหว่าที่บางเพลงนะครับ ซึ่งชัดเจนมาก -------------------------------------------------------------------- กาเหว่าที่บางเพลง เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ ผลงานประพันธ์ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ตีพิมพ์เป็นตอนๆ ลงในหนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน ช่วงประมาณ พ.ศ. 2530 ตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2532 The Midwich Cuckoos is a science fiction novel written by English author John Wyndham, published in 1957. It has been filmed twice as Village of the Damned. ---------------------------------------------------------------------- หากใครได้เคยอ่านหนังสือสองเล่มนี้จะพบว่ามีโครงเรื่องเหมือนกัน (เหมือนกันอย่างชัดเจนในโครงเรื่องหลัก แม้ในต้นฉบับเน้นความเป็นวิทยาศาสตร์ ส่วนม.ร.ว.คึกฤทธิ์สอดแทรกประเด็นทางศาสนาและจิตวิญญาณ) แต่ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ไม่เคยกล่าวถึงหรือแม้แต่ให้เครดิต John Wyndham เลยสักครั้งเดียว ตรงนี้สำหรับผม โดยส่วนตัวชอบนิยายของท่านมากแต่ก็ถือว่ายอมรับไม่ได้ครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 21 เม.ย. 52 12:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าใครจะไปอ้างเหตุผลเถียงอะไรกับ ส. ศิวรักษ์ นี้ต้องคิดหนักละครับ ในประเทศไทยนี่แทบหาตัวนับได้... ยกเว้นเสียแต่ท่าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ มาเอง... จึงพอสมน้ำสมเนื้อ... แต่ถามว่า ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ สมควรได้รับการเสนอชื่อไหม... ผมว่าก็สมควรนะครับ อย่างน้อยในฐานะท่านก็เคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรีของไทยเรา... จากคุณ : tiger18 - [ 21 เม.ย. 52 13:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่เห็นด้วย ครับ จากคุณ : q_cosmo - [ 21 เม.ย. 52 14:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณสุลักษณ์ ศิวรักษ์  ไปพูดที่ไหนก็จะประณาม ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เป็นประจำ แต่มีครั้งหนึ่ง ผู้ฟังถามถึงนิยายเรื่องหนึ่งของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ แ ละขอให้วิจารณ์ แต่ ส.ศิวลักษณ์ ส่ายหน้า แล้วบอกว่า เรื่องนี้ไม่สามารถวิจารณ์ได้ ทำได้แต่เพียงยอมรับในงานเขียนชิ้นนี้เท่านี้ นิยายเรื่องนั้นคือ....สี่แผ่นดิน แต่ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ถึงกลับลำมาวิจารณ์แบบนี้... แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 52 15:02:30 จากคุณ : หมู4X - [ 21 เม.ย. 52 14:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมรู้สึก "ผิดคาด" พอสมควร กับกระแสการตอบในเชิงประณาม คุณสุลักษณ์ นะครับ ไม่คิดว่า ในหมู่ผู้นิยมการศึกษา และปัญญา (อย่างน้อยผมก็เชื่อเช่นนั้น) จะมองว่าการ"ตรวจสอบ" เป็นการ "ละเมิด" นะ และยิ่งตรรกะประเภท "คนไทยด้วยกันต้องยินดีต่อกัน" หรือ "คนไทยจะปัดแข้งปัดขากันทำไม" หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "อย่างน้อยท่านตายไปแล้วก็ต้องให้เกียรติ" (ห้ามตำหนิ ชมอย่างเดียว ?) ตรรกะด้านบนนี้ อาจจะต้องรอพิสูจน์ เมื่อ อีกสักยี่สิบสามสิบปี "บางคนที่อยู่เมืองนอก ไม่ต้องบอกว่าชื่ออะไร" วายชนม์ไปแล้ว ขั้วการเมืองของ "บางคนฯ" กลุ่มนั้นได้ขึ้นเป็นรัฐบาล (ตอนนั้นคุณจักรภพยังคงไม่แก่เกินไป (ฮา) เลยเสนอชื่อ "บางคนฯ" ผู้นั้นเป็นบุคคลสำคัญ ในเชิงการเมือง ผู้เป็นจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของประเทศในหลายด้าน (มันมีมุมมองเช่นนั้นจริง) (และท่านก็เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของเราด้วย ! หนักแน่นเข้าไปอีก) ตอนนั้นก็อยากรู้ว่า - คนไทย จะขัดแข้งขัดขาเองไหม คนไทย จะยินดีให้บุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลสำคัญของโลกหรือไม่ และ - "เขาตายไปแล้ว จะไปว่าเขาอีกทำไม" หรือไม่ ? และจะรอดูว่า จะมีใครนึกตำหนิคนคัดค้าน ในเวลานั้น หรือไม่ เพียงใด นะครับ. คุณ Cryptomnesia #22 เรื่องไผ่แดงลองอ่านเรื่องโลกใบเล็ก ของดอน คามิโล แปลโดย นพดล เวชสวัสดิ์ นะครับ ผม "ตาสว่าง" กับ มรว. คึกฤทธิ์ เพราะเล่มนี้นะ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 52 15:05:06 จากคุณ : บุญชิตฯ (Players) - [ 21 เม.ย. 52 15:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถึงแม้ว่าผมจะเคยอ่านงานวรรณกรรมของอาจารย์คึกฤทธิ์ อย่างสี่แผ่นดิน หรือมอม แต่ว่าด้วยความที่อ่านงานทางประวัติศาสตร์มาพอสมควร ผมว่าอาจารย์ยังไม่เหมาะที่จะรับตำแหน่งบุคคลดีเด่นของยูเนสโกสักเท่าไรนัก โดยเฉพาะการวาดลีลาทางการเมืองหลังจากเข้ามาเล่นเกมการเมืองอย่างเต็มตัวเมื่อตั้งพรรคแสป (พรรคกิจสังคม) ที่ยังไงการทำงานหรือบทบาทของอาจารย์หม่อมยังไม่เข้าเป้าสักเท่าไร และยิ่งในช่วงสมัยเปรมแล้ว ตอนเลือกตั้งที่ถึงแม้พรรคกิจสังคมได้คะแนนนำมาที่หนึ่งในสภา แต่ก็ยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของทหารในขณะนั้น จึงทำให้อาจารย์ต้องเชิญเปรมมาเป็นนายกในที่สุด หากอาจารย์ท่านมีความคิดแบบประชาธิปไตยสักหน่อย หรือต้องการล้มสภาพความเป็นประชาธิปไตยแบบครึ่งใบในช่วงนั้น ผมว่าอันนี้ค่อยเข้าท่าหน่อยครับ ประกอบกับวาทะอันเผ็ดร้อนในสภา ยังไงก็ไม่ควรเสนอชื่ออยู่ดีครับ จากคุณ : ภารตยุทธ (ภารตยุทธ) - [ 21 เม.ย. 52 15:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับความเห็นของคุณหมู 4x  ครับ  ในเรื่องสี่แผ่นดิน และในประเด็นนี้  เป็นไปได้หรือไม่ที่คุณ ส.ศิวรักษ์ ก็ยังมีความยกย่องคุณชายอยู่  อย่างน้อยก็ยอมรับเรื่องสี่แผ่นดินนี่แหละเป็นต้น จากคุณ : ปะหล่อง - [ 21 เม.ย. 52 15:12:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 พอเปิดเจอชื่อ ส.ศิวรักษ ก็เลยร้องอ๋อ....ท่านคนนี้อีกแล้ว จากคุณ : จ้องจนปวด - [ 21 เม.ย. 52 16:09:21 ]

ความคิดเห็นที่ 30 #26 ขอบคุณครับ และผมเห็นด้วยครับที่ว่าไม่ควรพิจารณาประเด็น "คนไทยจะปัดแข้งปัดขากันทำไม" "อย่างน้อยท่านตายไปแล้วก็ต้องให้เกียรติ" มันรู้สึกสังเวชใจนะครับ หากเราคิดกันอย่างนี้ ยกย่องกันเองโดยไม่ดูข้อเท็จจริง ไม่คำนึงถึงมาตรฐานสากล ออกตัวก่อนว่าผมเองนิยมชมชอบม.ร.ว.คึกฤทธิ์มาก ทั้งงานประพันธ์ ทั้งบทบาททางการเมือง ท่านถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งของเมืองไทย แต่เห็นว่าข้อเสียของท่านนั้นก็ใช่จะไม่มี และบางข้อนั้นเราต้องยอมรับว่าท่านส.ศิวรักษ์พูดตรง (แม้ถ้อยคำจะดูรุนแรงและหนักไปทางโจมตี) ผมเห็นด้วยในข้อที่ว่าหลวงวิจิตรวาทการ และ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นเจ้า propaganda ในยุคหนึ่งของเมืองไทย ผมเห็นด้วยในข้อที่ว่าท่าน plagiarize วรรณกรรมต่างชาติได้อย่างหน้าตาเฉย ในประเด็นนี้ก็มีหลักฐานเด่นชัดเสียด้วย ส่วนประเด็นเรื่องสี่แผ่นดินนั้นไม่เห็นด้วยครับ การที่ท่านส.ศิวรักษ์ส่งจดหมายแย้งไม่ให้พิจารณาม.ร.ว.คึกฤทธิ์เป็นบุคคลสำคัญฯไม่น่าจะเป็นการกระทำที่น่าตำหนิ (หรือหากตำหนิ ควรตำหนิที่การใช้ภาษา) การตรวจสอบภายในกันเองเป็นสิ่งที่ถูกแล้ว แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 52 16:26:25 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 21 เม.ย. 52 16:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 31 การที่ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ได้รับการจารึกชื่อเป็นบุคคลสำคัญของโลก นำมาซึ่งผลเสียหายแก่ประเทศไทยอย่างไรบ้าง? ช่วย list ออกมาที แล้วถ้าจะ list ผลดีออกมาด้วย ก็จะยิ่งดี จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 21 เม.ย. 52 18:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ลองคิดว่าท่านได้เป็นบุคคลสำคัญของโลกขึ้นมาจริงๆ ยิ่งต้องมีคนขุดเรื่อง "ความคล้ายกันจนเหมือนลอก" ของงานเขียนหลายเล่ม มาเล่นอีกยาว ทั้งไทยกันเอง และทั้งฝรั่งมังค่า ไม่สง่างามอย่างนี้ สู้ไม่ได้เสียดีกว่า ปล.เรื่องหลายชีวิต ก็ว่ากันว่าได้แรงบันดาลใจจาก The Bridge of San Luis Rey เช่นกัน (แต่เราอ่านแล้ว หลายชีวิตสนุกกว่าเยอะ ^ ^) จากคุณ : แมวบอส - [ 21 เม.ย. 52 18:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 33 #32 เห็นด้วยครับ เรื่องงานเขียนนี่ผมว่าเป็นประเด็นสำคัญทีเดียว ในไทยไม่ใคร่มีคนโจมตีท่านนัก อาจจะด้วยเกรงใจหรือไม่ก็ความเป็นเจ้าขุนมูลนาย แต่ลองได้เป็นฝรั่งมังค่าล่ะก็คราวนี้คงหมดสิ้นเกียรติยศ ไม่เคยอ่าน The Bridge of San Luis Rey มาก่อน จึงไม่ทราบว่าเป็นอีกหนึ่งงานเขียนที่ได้อิทธิพลจากนิยายต่างประเทศ แต่เรื่องหลายชีวิตนี่สนุกจริงๆ ซื้อมาอ่านแล้วอ่านอีกเป็นสิบกว่ารอบก็ไม่รู้เบื่อ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 21 เม.ย. 52 19:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ลองคิดว่าท่านได้เป็นบุคคลสำคัญของโลกขึ้นมาจริงๆ คงทำให้ ประดิษฐ์กรรม "ความเป็นไทย" ที่ท่านสร้างขึ้นเพื่อสนองตนเอง และผลักดันสังคมไทยไปภายใต้เป้าหมายส่วนตัวของท่านตลอดช่วงเวลาหลายสิบปี หากแต่มีผลสืบเนื่องในการกล่อมเกลาแนวคิดของสังคมไทยอย่างมากมายนี้ จะเกิดมีความชอบธรรมมากขึ้น และฝังรากลึกอย่างชนิดที่ยากที่จะมีใครจะมาตั้งคำถามได้ในยุคหลัง ส่วนประเด็นเรื่องงานวรรณกรรมมีกล่าวกันไว้หลายความเห็นแล้ว ซึ่งโดยความเห็นส่วนตัว ผมยังคิดว่าเป็นประเด็นเล็กเมื่อเทียบกับ ประดิษฐ์กรรม "ความเป็นไทย" ที่ท่านได้สร้างขึ้น จากคุณ : ผ่านไปผ่านมา - [ 21 เม.ย. 52 20:37:38 A:58.8.168.178 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณ จขกท กับเพื่อน ๆ ค่ะ ได้ทราบอีกหลายประเด็นเพิ่มเติม เห็นด้วยกับการทำประชามติค่ะ ท่านคึกฤทธิ์เป็นปราชญ์ไทยที่น่าชื่นชมค่ะ แต่ถ้าในระดับโลกคงอยากให้ทบทวนค่ะ โดยเฉพาะ กรณี ไผ่แดง กาเหว่าฯ แต่ถ้าเฉพาะตัวผลงาน ขอเสนอ สี่แผ่นดินเป็น หนังสือภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมระดับโลกได้ไหมคะ ( เหมือน สาขาออสการ์ ) แต่ถ้าไม่ใช่คนไทยจริง ๆ คงยากเกินกว่าจะสามารถทำความเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง สุดท้ายไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่เห็นหลาย ๆ รายการนำชีวประวัติและผลงานท่านมาบอกกล่าวก็ชื่นใจขึ้นมาว่าอย่างน้อยเยาวชนได้รับรู้ และรู้จักคนไทยที่เก่งมากคนหนึ่ง มากไปกว่าความบันเทิงที่ล้นจออยู่ทุกวันนี้ จากคุณ : Zinaida - [ 21 เม.ย. 52 20:49:45 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ยังไม่เห็นมีใครตอบผมใน คห.31 เลย จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 21 เม.ย. 52 21:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 #36 ดู #32 #33 #34 จากคุณ : บุญชิตฯ (Players) - [ 21 เม.ย. 52 21:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 38 นั่นยังไม่ใช่คำตอบ ถ้าถือว่านั่นคือคำตอบแล้ว ตื้นเขินเกินไป จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 21 เม.ย. 52 22:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 39 งั้น #38 ก็ list มาให้ดูบ้างสิครับ ส่วนตัวผมไม่ได้สนใจถกเถียงในประเด็นที่ว่า ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ไม่สมควรได้รับรางวัลหรือไม่ เพราะคงไม่ใช่หน้าที่เราที่จะไปตัดสิน แต่ผมเห็นว่าการส.ศิวรักษ์ออกมาแย้งตามข่าว ไม่ใช่เรื่องผิด (ไม่นับการใช้ถ้อยคำและภาษา) เนื่องจากมีมูลจริงตามข้อกล่าวหา จากคุณ : Cryptomnesia - [ 21 เม.ย. 52 22:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ^ ^ ตาม #39 แม่นละ ส่วนผมติดใจในประเด็นการเสนอชื่อ ทำไมอาจารย์หม่อมท่านจึงเหมาะสม? ใครเป็นผู้คัดเลือก? เกณฑ์การคัดเลือกและตัดสินว่าเหมาะสมแก่การเสนอชื่อเป็นอย่างไร? ส่วนเรื่องเห็นด้วยหรือไม่นั้น ก็ขึ้นกับวิจารณญานของแต่ละคน ความเห็นย่อมแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ ใครเห็นด้วยเพราะอะไร ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร ก็ยกมาถกกัน จะตื้นจะลึกก็ว่ากันไป แต่ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่จะต้องมาเถียงเอาแพ้ชนะกันในกระทู้ ผมคิดว่าเหตุผลที่ยกมาถกกันบางประเด็นอาจนำไปสู่การค้นคว้าเพื่อทำความเข้าใจใหม่ๆ (สำหรับผู้ที่สนใจ) จากคุณ : ผ่านมาอีกที - [ 21 เม.ย. 52 22:36:15 A:58.8.168.178 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ... เพราะคงไม่ใช่หน้าที่เราที่จะไปตัดสิน ... จากคุณ : Cryptomnesia -------------------------- ขอบคุณมากครับ นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากจะบอก จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 21 เม.ย. 52 22:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คิดว่ามันมีประเด็นแย้งในเรื่องหน้าที่ ที่จะตัดสิน อยู่ในจดหมายของคุณ ส นะ คือ ในจดหมายเขาเสนอให้มีการลงประชามติ ก่อนที่จะเสนอเข้ายูเนสโก ไปในนามของรัฐบาลไทย ก็แปลว่า คนเสนอคิดว่า ประชาชนคนไทยควรจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ในความคิดเห็นส่วนตัว อะไรที่คิดจะเสนอในนามรัฐบาลไทย คนไทยมีสิทธิตรวจสอบ และแม้ว่าจดหมายนั่นจะมีข้อความที่ไม่รื่นหูอยู่บ้าง แต่ก็ประกอบด้วยข้อเท็จจริงอยู่ ก็น่าจะถือได้ว่า คนตรวจสอบได้ทำหน้าที่ของตนเองแล้วค่ะ ส่วนที่ว่า คนทั้งประเทศต้องมาเสียเวลา เปลืองความคิดด้วยหรือเปล่า ว่าควรจะเสนอชือใคร ก็ขอบอกตรงๆว่า ยังไม่เห็นว่า ต้องทำถึงขั้นนั้น เพราะประโยชน์ที่ได้มันไม่คุ้ม เอาเป็นว่า ขั้นตอนในการคัดเลือก ขอให้มีความโปร่งใสมากกว่านี้ และถ้ามีประเด็นไม่งาม จะได้โผล่ออกมาตั้งแต่ยังไม่เสนอชื่อ ปัญหาตามหลังจะได้น้อยลง ทั้งนี้และทั้งนั้น ไม่ว่าจะเสนอชื่อใคร ชื่อคนที่ถูกเสนอก็จะสะท้อนให้เห็นค่านิยมของคนเสนอเสมอ ขอถามต่อนิดนึง - ตกลงว่า ได้เสนอไปไหม? จากคุณ : Deckard - [ 21 เม.ย. 52 23:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เป็นสิ่งที่น่ายินดีไม่ใช่หรือครับ ที่มีคนไทยเป็นบุคคลสำคัญของโลก ส่วน ที่คุณ ส ศิวลักษณ์ คัดค้านนั้น ก็ เป็นความเห็น ที่ต่างมุมมองกัน จะมีสักคนไหมครับ ที่เป็น มากกว่า นักเขียน นักการเมือง พ่อครัว ก็ท่านไงครับ ผมว่าสิ่งที่ มรว คึกฤกธิ์ ทำให้แก่ประเทศชาติ มากว่าที่เราคิดใว้ และมากกว่าคนที่วิจารย์ท่านซะอีก ประชามติผมว่าเวอร์ไปนะ จากคุณ : กอดลมไว้อย่าให้หงอย - [ 21 เม.ย. 52 23:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ส่วนตัวเป็นแฟน "ลีลา" การใช้ภาษาของคึกฤทธิ์ ในแง่จุดยืนทางการเมืองที่อนุรักษ์นิยมหรือโปรเจ้านั้น ผมไม่มีปัญหา (อันที่จริง ผมมองว่าการโปรเจ้าแบบคึกฤทธิ์นี่ดูจะ sane กว่าการโปรเจ้าในรูปแบบปัจจุบันอยู่ซักหน่อย) ว่าด้วยประดิษฐกรรมความเป็นไทยนั่น ผมว่ามันก็ไม่ใช่ปัญหา in-it-self  (ผมโทษสังคมไทยโดยทั่วไปมากกว่าที่ไม่สามารถ absorb ความหลากหลายได้และที่สำคัญคือ ต่อให้คึกฤทธิ์ไม่ทำ คนอื่นก็ต้องทำอยู่ดี) ปฏิบัติการทางการเมืองของคึกฤทธิ์ต่างหากที่ดูน่าสงสัย (ตั้งแต่ส่งคนไปตะโกนในโรงหนัง ฯลฯ- ไม่มีเอกสารอยู่กับมือ) รวมไปถึงเรื่องการ "ขโมย" เรื่องราว/นิยายของนักเขียนผู้อื่นมาโดยไม่ให้ credit ต่างหาก ซึ่ง ในแง่หนึ่ง อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้หากคึกฤทธิ์จะถูกเสนอชื่อ เผื่อจะได้เป็นการเปิดเรื่องราวเหล่านี้ให้กว้างขวางขึ้น (...just a thought...) ปล. บุคคลสำคัญของโลกของ ยูเนสโก นี่ต้องมีลักษณะอะไรบ้างเหรอครับ? แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 52 23:59:03 จากคุณ : ฮกหลงผู้หยั่งรู้ฟ้ามหาสมุทร - [ 21 เม.ย. 52 23:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 45 การที่ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ได้รับการจารึกชื่อเป็นบุคคลสำคัญของโลก นำมาซึ่งผลเสียหายแก่ประเทศไทยอย่างไรบ้าง? ช่วย list ออกมาที แล้วถ้าจะ list ผลดีออกมาด้วย ก็จะยิ่งดี ผมเห็นว่าเขาตอบกันไปครบถ้วนแล้วแต่อาจจะตอบแบบเกรงใจกันหน่อยๆ คุณอาจจะอ่านไม่เข้าใจ ผมตอบตรงๆก็แล้วกัน ก็แหมจะไปอ้อมแอ้มกันทำไม ผลเสียหายคือคนเขาอาจจะค่อนแคะนินทาได้ว่าประเทศไทยไม่มีคนอื่นอีกแล้วหรือ ถึงต้องส่งคนที่ทำ plagiarize (แบบเห็นชัดๆ)มาให้พิจารณา (แก้ข้อความเป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้ถูกจริต ฮะฮะฮะ) อย่าลืมนะครับว่ายิ่งจารึกชัดๆยิ่งลบยาก ถ้าไม่จารึกไม่ป่าวประกาศคนเขาก็อาจจะไม่สนใจแล้วก็ลืมๆไปซะก็ได้ นี่ถ้ายิ่งจารึกยิ่งป่าวประกาศ ก็ยิ่งมีคนศึกษาวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ มาก หรือถ้าจะมองแบบ Dramatize (ลิเก้ ลิเก) หน่อยก็ต้องประมาณ หลังจากข่าวออกไป เรามาฟังแม่บ้านคุยกัน แม่บ้านฝรั่งใน USA: "ประเทศไทยสมเป็นสวรรค์แห่ง___ C___ จริงๆ นะเคอะ คุณนายว่าไหม?" แม่บ้านไทยใน USA: "............" ผลดี .... คนไทยได้ความภาคภูมิใจว่าเรามีบุคคลสำคัญของโลกเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน (ยังไม่แน่ใจจะภูมิใจหรือเปล่าถ้าเรื่องต่างๆถูก วิเคราะห์วิจารณ์อย่างเข้มข้น?) สำหรับผม ม.ร.ว คึกฤทธิ์ เป็นคนที่เก่งมากระดับอัจฉริยะคนหนึ่งของไทย แต่ในเรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับ ส.ศิวลักษณ์ หลังจากที่ชั่ง-ตวง-วัด กรรม(การกระทำ)และวิบาก(ผลแห่งการกระทำ)แล้ว จากคุณ : Nexus - [ 22 เม.ย. 52 02:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ...ตอนเลือกตั้งที่ถึงแม้พรรคกิจสังคมได้คะแนนนำมาที่หนึ่งในสภา แต่ก็ยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของทหารในขณะนั้น จึงทำให้อาจารย์ต้องเชิญเปรมมาเป็นนายกในที่สุด... เพราะ... กิจสังคมชนะเลือกตั้ง 18 เม.ย.2526 (92 ที่นั่ง) แต่ มรว.คึกฤทธิ์ หน.พรรค กลับไม่ได้รับการเลือกตั้ง  ต่อมาหลังการเลือกตั้ง มีการย้ายพรรคของ สส. กระทั่ง ชาติไทย ที่เดิมมี สส. 73 ที่นั่งกลายเป็นมี สส.มากที่สุด 108 ที่นั่ง แต่กิจสังคมที่ต่อมามี 101 ที่นั่งได้ร่วมกับ ประชาธิปัตย์ สนับสนุน พล.อ.เปรม เป็นนายกฯ ขณะที่ ชาติไทย ที่มี สส.มากที่สุดต้องกลายเป็นพรรคฝ่ายค้าน เพราะดึงดันจะเอาพลตำรวจเอกประมาณ อดิเรกสาร เป็นนายก จนในที่สุด บรรหารปฏิวัติแย่งตำแหน่งหัวหน้าพรราคชาติไทยให้ ชาติชาย และเป็นต้นกำเนิดถ้อยคำอมตะ "อดหยากปากแห้งมานานแล้วยังไม่เข็ดอีกหรือ?" ตอนที่ชาติไทยถูกเขี่ยไปอยู่ฝ่ายค้าน แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 03:38:56 จากคุณ : K.Senior - [ 22 เม.ย. 52 02:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เขาจะสับสนุนหรือคัดค้านก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่ได้มากะเกณฑ์ให้เราเห็นด้วย แล้วเขาก็เห็นว่าจะเสนอชื่อใคร ควรให้คนไทยร่วมออกความเห็น เออ เราก็เห็นด้วยนะ ขำก็แต่ รมต. ที่สั่งแบนเขานะแหละ (ถ้าเป็นความจริงนะ) นี่มันประเทศอะไรเนี่ย แสดงความคิดเห็นคัดค้านก็ไม่ได้  ต้องเห็นตามท่าน ไม่งั้นโดนห้ามลงบทความในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นบทความเรื่องอะไร ส่วนตัวชอบอ่านหนังสือของคุณชายท่านนะ แล้วก็ขำ ๆ สำนวนต่าง ๆ ของท่าน แต่เห็นว่า นี่ก็นักการเมืองคนหนึ่งน่ะ คือในด้านที่เรารับรู้นะ ข้อมูลอาจจะไม่ครบ สำหรับคุณ ส. เอง เราเห็นว่า่านเป็นคนกล้าที่จะสวนกระแสคนหนึ่ง สังคมต้องการคนแบบนี้บ้างนะ ไม่ใช่อะไรก็เฮตามกันไป มาถกเรื่องราวกันอย่างปัญญาชนดีกว่าที่จะมารุมด่าคนที่เสนอความเห็นต่าง ว่ามั้ย จากคุณ : proudtobethai - [ 22 เม.ย. 52 06:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ลองหาหนังสือมาอ่านประกอบดูนะครับ แล้วมาถกกันเพิ่มอีก จะรอฟัง จากคุณ : supit_p (supit_p) - [ 22 เม.ย. 52 09:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นด้วยว่าควรมีการลงประชามติ ถ้าหากจะเสนอชื่อในนามรัฐบาลไทย เพราะว่าคนไทยเป็นเจ้าของรัฐบาล (ถ้าหากเราไม่เข้าใจผิด) อย่างน้อยคนไทยก็ควรจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจครั้งนี้ และที่สำคัญ ต้อง มีการเปิดเผยข้อมูล "ทุกด้าน" ที่เกี่ยวกับผลงานของอาจารย์หม่อม (หมาย ความถึงผลงานที่มีความคล้ายคลึงมากๆ กับนิยายของฝรั่งมาด้วย) ซึ่งถ้ามีการลงประชามติกันจริงๆ เราคนนึงก็จะเป็นคนที่ลงชื่อคัดค้านการ เสนอชื่อแน่ๆ เพราะหลักฐานค่อนข้างชัดเจน จากคุณ : waidhaya - [ 22 เม.ย. 52 10:28:28 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อสมัยยังเด็กๆ ได้ดูละคร สี่แผ่นดิน รู้สึกชื่นชอบมาก ด้วยความที่ชอบประวัติศาสตร์เจ้าๆนายๆด้วยแล้ว ก็ยิ่งติดหนึบ ประกอบกับมีหนังสือมีอยู่ในบ้าน จึงลองหยิบมาอ่านทั้งที่ก็ชอบอ่านแต่การ์ตูน หนังสือนิยายสมัยก่อนเล่มก็โต ตัวหนังสือยุ่บยั่บ ไม่มีภาพประกอบ การที่จะหยิบมาอ่านคงเป็นเรื่องยาก นอกเสียจากจะมีแรงจูงใจอย่างยิ่งยวด  บังเอิญนิยายสี่แผ่นดินเล่มนี้มีภาพประกอบและยิ่งทำมาเป็นละครด้วยแล้ว จึงทำให้การอ่านในครั้งนั้นสัมฤทธิ์ผลและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เกิดความรักความหวงแหนหนังสือเล่มนี้อย่างมาก รักทั้งตัวอักษร รูปภาพ สำหรับผู้เขียนนั้น ผมมีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่าเขียนได้ละเมียดละไม เข้าถึงจิตใจผู้หญิงได้อย่างลึกซึ้ง ถ่ายทอดออกมาราวกับว่าแม่พลอยเป็นผู้บรรจงเล่าเรื่องเอง  ขำ เศร้า หัวเราะ ร้องไห้ มีได้ทุกอารมณ์เมื่ออ่านนิยายเรื่องนี้   จากนั้นก็ได้เคยอ่าน หนังสือบางเรื่องของท่าน เช่นโครงกระดูกในตู้ ซูสีไทเฮา พม่าเสียเมือง หนังสืออิงประวัติศาสตร์ เหล่านี้ อ่านเข้าใจได้ไม่ยาก มองเห็นภาพในอดีตกาลได้อย่างดี สอดแทรกความคิดหลายๆด้าน  ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ นับว่าท่านเป็นผู้มีความสามารถในการประพันธ์ท่านหนึ่งทีเดียว ในปี พ.ศ.๒๕๒๘ เป็นปีแรกที่มีการประกาศชื่อศิลปินแห่งชาติ มีผู้ได้รับรางวัล สี่ท่าน และได้ทูลเกล้าฯถวายพระราชสมัญญาอัครศิลปินแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ศิลปิน ๔ ท่านที่ได้รับคัดเลือกจากการที่ท่านผู้มีความสามารถ มีผลงานเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป สืบสานจรรโลง ศิลปะวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ และถ่ายทอดไปยังอนุชนรุ่นหลังให้สืบทอดสิ่งที่ดีงามสืบไป ปีนั้นเป็นปีแรกและปีเดียวที่ ศิลปินแห่งชาติเข้ารับพระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในปีต่อๆมาศิลปินทุกท่านรับพระราชทานเข็มจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทั้งสิ้น  เนื่องจากเป็นปีแรกที่ประกาศรางวัล และมีเพียงสี่ท่านจาก สี่สาขาเท่านั้น จึงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปอย่างมากว่าท่านแหล่าคือใคร ทำคุณูปการอะไรบ้างต่อประเทศไทย มีรายการๆหนึ่งทางช่อง ๕ อาจจัดได้ว่าเป็นทอล์คโชว์รายการแรกๆเลยก็ว่าได้ ออกอากาศตอนดึกน่าจะเป็นรายการสุดท้ายด้วยจำชื่อรายการนั้นไม่ได้ มี สองพีธีกรที่ดำเนินรายการคือคุณประภัทร์ ศรลัมพ์ กับคุณอรุณโรจน์เลี่ยมทอง  ได้ไปสัมภาษณ์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ที่บ้านและนำเทปมาออกรายการ เนื่องจากท่านเพิ่งได้รับพระราชทานรางวัลศิลปินแห่งชาติมาหมาดๆ  พิธีกรจึงถามถึงความรู้สึกที่ได้รางวัลนี้ ถ้าเป็นเราท่านคงนึกคำตอบได้ว่า คงจะเป็นแบบปลาบปลื้มปิติมาก ไม่คิดว่าจะได้อะไรทำนองนี้    แต่คำตอบที่ท่านบอกมานั่งดูนั่งฟังแล้วก็ตื้อๆอยู่ในหัวครับ ผมถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว ท่านตอบว่า รู้สึกอายๆ ไม่กล้าเปิดออกดู ต้องกลับมาค่อยๆแอบเปิดดูที่บ้าน เหรียญกระป๋องอะไรก็ไม่รู้  ผมงงในคำพูดท่านมาก ของพระราชทาน ได้รับมาจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีเพียง สี่ ศิลปินแห่งชาตินับจนถึงทุกวันนี้เท่านั้น ที่ได้รับเกียรติเช่นนี้  คือเหรียญกระป๋องที่อยู่ในมือท่าน เหมือนท่านไม่ได้รู้สึกยินดีกับรางวัลที่ได้รับเลย เมื่อนั่งนึกได้ในภายหลัง ว่าทำไมท่านถึงรู้สึกเช่นนี้ หรืออาจเป็นเพราะในชีวิตท่านได้รับแต่สิ่งที่ดีสูงที่สุดมาแล้วในชีวิตกระมังมี ชาติตระกูลดี มีชื่อเสียง เกียรติยศ  ทรัพย์ศฤงคาร เคยมีทั้งอำนาจ บารมี ท่านถือกำเนิดในราชนิกูล รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระพันปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด  เป็นประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การจำกัด  ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้รับพระราชทานปฐมจุลจอมเกล้า ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในหลายโอกาส ได้รับพระราชทานสิ่งต่างๆมากมาย อาจเป็นเหตุให้ท่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับเหรียญกระป๋องที่ได้รับเท่าใดนัก  หรือท่านอาจจะคิดว่าศิลปินแห่งชาติของไทยยังไม่คู่ควร ท่านควรจะได้รับสิ่งที่สูงไปกว่านั้นคือเป็นบุคคลสำคัญระดับโลกอย่างที่ท่านกำลังจะได้รับในขณะนี้ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 22 เม.ย. 52 15:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ในโลกนี้่ ผมยังไม่เห็นใครดีพร้อมเลยครับ สุนทรภู่ บุคคลสำคัญของโลกเช่นกัน ในอดีต  ขี้เหล้า เมายา เตะหมา ด่าเจ๊ก ต่อยตีกับชาวบ้านร้านตลาดประจำ เท่านี้ยังไม่พอ ยังอาละวาดตบตีพ่อแม่จนโดนจับขังคุกมาหลายครั้ง แต่ทว่า กลอนที่ท่านแต่ง ท่านก็คิดเอง ผมไม่เคยอ่านวรรณกรรมตะวันตก ที่หลายๆท่านบอกว่าเป็นการเลียนแบบของท่านคึกฤทธิ์  เลยไม่รู้ว่า ที่เลียนแบบนั้น มากแค่ไหน แต่อยากทราบว่า ถ้าลองตัดเรื่องวรรณกรรมออกไปแล้ว นอกเหนืิอจากนี้ มีเรื่องใดบ้างครับ ที่ท่านคึกฤทธิ์ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ (ผมเกิดไม่ทันครับ แหะๆ) ถามต่ออีกหน่อยครับ มีอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศใดบ้างครับ ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นบุคคลสำคัญของโลก  และที่ได้รับคัดเลือกแล้ว มีใครบ้างครับ จากคุณ : เจ้าชายโดดเดี่ยว - [ 22 เม.ย. 52 16:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผ่านมาหลายรอบแล้วแต่ไม่กล้าลงความเห็นเพราะเห็นมีเพื่อนซี้เรา 2-3 คน ที่ลงความเห็นขัดกับความคิดเรา แต่ในที่สุดเราก็หัดทำใจกล้าๆ แบบ คุณสุลักษณ์ แล้วพูดตรงๆ ดังนี้คิือ คคห 5 กับ 26 ของคุณบุญชิต ตรรกะแม่นยำมากๆ ปราศจาก flaws ใน logic อย่างแท้จริง ชอบ คคห 45 ของคุณ Nexus ด้วย เหตุผลหนักแน่นดี ชอบ คคห 47 ของคุณ proudtobethai  มั่กๆที่ว่า "สำหรับคุณ ส. เอง เราเห็นว่า่านเป็นคนกล้าที่จะสวนกระแสคนหนึ่ง สังคมต้องการคนแบบนี้บ้างนะ ไม่ใช่อะไรก็เฮตามกันไป มาถกเรื่องราวกันอย่างปัญญาชนดีกว่าที่จะมารุมด่าคนที่เสนอความเห็นต่าง ว่ามั้ย " ..................................................................................................... ตอนนี้ความเห็นเราบ้าง เราจะคัดค้านเรื่องการเสนอชื่อ หม่อม คึกฤทธิ์ แต่ถ้าจะมีการเสนอชื่อ "สุลักษณ์  ศิวรักษ์" แทน เราก็จะ "ยกมือสนับสนุน" อย่างแน่นอน ต่อให้มีคนไทยครึ่งประเทศคัดค้านก็ตาม ด้วยเหตุผลคล้ายๆกับ คคห 47 ของคุณ proudtobethai นั่นก็คือว่า คุณ สุลักษณ์  ศิวรักษ์ มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวของตัวเอง อีตรงที่ว่า เขาไม่เคยประจบสอพลอใคร เพื่อให้คนไทยเป็นจำนวนมากคิดว่าเขาเป็นคนดี เขาพูดตรงๆ สังคมไทยมี hypocrisy (การเสแสร้งทำตัวเป็นพลเมืองดี) กันมามากแล้ว และก็มี hypocrites (คนที่เสแสร้งทำตนเป็นพลเมืองดี) แล้วได้ดิบได้ดีกันมามากต่อมากแล้ว  ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะได้มีการแก้ไขสิ่งนี้ในสังคมไทย ..................................................................................................... เพิ่งรู้วิธีให้ give คน พอตอบกระทู้นี้เสร็จ เราก็คง 1. แตกคอกับเพื่อนๆ 2. give หมด 3. โดนรุมด่า แล้วเรารำคาญก็เลยยกเลิก login ไปอีกรอบหนึ่ง แต่ก็ดี จะได้เลิกเล่น pantip แล้วเอาเวลาไปอ่านหนังสือหาความรู้่ เพิ่มเติมมากยิ่งๆขึ้น ...555+++.... แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 52 12:07:48 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 18:08:29 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 18:05:23 จากคุณ : fortuneteller - [ 22 เม.ย. 52 18:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ^ ^ ^ ^ ใจเย็นๆครับ เห็นต่างกันได้ คงไม่ต้องถึงขนาดเลิกเป็นเพื่อนกันมั้งครับ   เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า พ่อกับแม่มัน อยู่คนนละขั้วการเมืองมาตลอดตั้งแต่ยังเป็นซ้ายจัด - ขวาจัด จนตอนนี้แต่งงานผ่านมา 20 กว่าปี ยังเถียงกันไม่เลิก 55555555 ปล. ให้กิ๊ฟปลอบใจ กลัวจะเลิกเล่นพันทิป จากคุณ : เจ้าชายโดดเดี่ยว - [ 22 เม.ย. 52 18:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 54 งั้นผมว่าต่อไปนี้จะส่งหนังเรื่องไหนไปประกวดเมืองคานส์ ไปประกวดอ๊อสการ์ หรือส่งนางงามไทยไปประกวดนางงามจักรวาล ก้อควรจะลงประชามติก่อนมั๊ง ... ... เรื่องทุกเรื่องมันต้องลงประชามติเชียวเหรอ ต้องใช้งบประมาณเป็นสิบๆ ล้าน เพืยงเรื่องแค่นี้อ่ะเหรอ แล้วคนที่ไปลงประชามติจะมีกี่เปอร์เซนต์ที่รู้ว่าหม่อมคือใคร แล้วทำไปต้องไปลงประชามติ ... ... ปีที่แล้ว ขาวไอริชต้องไปลงประชามติเกี่ยวกับสนธิสัญญาลิสบอน ซึ่งเกี่ยวข้องกับอนาคตของตัวเองแท้ๆ แต่มีคนไปลงประชามติเพียงร้อยละ 50 เศษๆ และกว่าครึ่งนั้นไม่ผ่านร่างสนธิสัญญาลิสบอน โดยเหตุผลหลักจากการสำรวจพบว่าที่ลงประชามติไม่รับร่างสนธิสัญญาลิสบอนนั้น ร้อยละ 50 ตอบว่า ไม่รู้ว่าสนธิสัญญาลิสบอนคืออะไร ... จากคุณ : Aeykun - [ 22 เม.ย. 52 18:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตอบคุณเจ้าชายโดดเดี่ยว คคห 53 เราแค่สัพยอกเพื่อนเราแรงๆ ดูสิว่าพวกเขาจะทนเราได้มากน้อยแค่ไหนกัน...555+++.. เอ่อชักมันแล้วดิ...อิๆๆๆ.. ตอบคุณ Aeykun คคห 54 logical reasoning (การใช้เหตุผลในเชิงตรรกะ) ของคุณมี flaws (ข้อผิดพลาด) มากมายหลายแห่ง และ analogy (การเปรียบเทียบ) ก็ invalid (ใช้การไม่ได้)  อีกด้วยเช่นกัน จะแยกแยะให้ดู 1. หนังจะดีได้ และใครจะเป็นบุึคคลสำคัญของโลกไ้ด้นั้น คุณสมบัติมันไปกันคนละเรื่องเลย 2. ประกวดนางงาม กับประกวดบุคคลสำคัญของโลกนั้น คุณสมบัติมันก็ไปกันคนละเรื่องเลย ด้วยเช่นกัน ...แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ คนตัีวเตี้ยมันไม่เคยได้เป็นนางงามกับเขาหรอก มันไม่ยุติธรรม มีแต่ผู้หญิงสูงๆใหญ่ๆเท่านั้น ที่ได้เป็นนางาม มันประกวดหญิงงามหรือประกวดม้าแข่งกันแน่หว่า? ผู้หญิงตัวเล็กๆแล้วสวยมีเยอะแยะไป เราว่าถ้าจะให้ยุติธรรม ประกวดนางงามต้องทำเหมือนชกมวย นั่นก็คือ "แบ่งรุ่นตามน้ำหนัก" 3. เรื่องชาวไอริช เราไม่รู้ข้อมูล ...แต่ for argument's sake เราจะตั้งสมมุติฐานว่า "มันเป็นความจริง" แต่ขอย้อนถามคุณว่า ถ้าชาวไอริช ignorant (รู้เท่าไม่ถึงการ) จริงๆ ชาวไทยจะต้อง ignorant ตามชาวไอริชด้วยหรือ? เราเถียงกับคนใน style เหมือนคุณสุลักษณ์เถียงกับคน หรือไม่ล่ะ? แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 19:21:51 จากคุณ : fortuneteller - [ 22 เม.ย. 52 19:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผมไม่มีความรู้และตรรกะอะไรสูงขนาดนั้นหรอกครับ และก้อไม่ได้สนใจประเด็นใครจะเป็นบุคคลสำคัญหรือไม่สำคัญของโลกหรอกครับ คุณ fortuneteller สิ่งที่ผมสงสัยคือ "เรื่องทุกเรื่องมันต้องลงประชามติเชียวเหรอ ต้องใช้งบประมาณเป็นสิบๆ ล้าน เพืยงเรื่องแค่นี้อ่ะเหรอ แล้วคนที่ไปลงประชามติจะมีกี่เปอร์เซนต์ที่รู้ว่าหม่อมคือใคร แล้วทำไมต้องไปลงประชามติ ..." ย่อหน้าที่สองต่างหากที่สงสัย ย่อหน้าแรกแค่เปรียบเปรย ผมรู้อยู่หรอกว่ามันเปรียบเทียบไม่ได้ ส่วนย่อหน้าสุดท้าย แค่ยกตัวอย่างให้ดูของ "ความคุ้มค่าของการลงประชามติ" ผมไม่ได้เลือกรัฐบาล หรือเสียภาษีมาให้จัดการกะเรื่องแค่นี้ ... คุณตอบไม่ตรงกะที่ผมสงสัย ช่วยใช้ตรรกะของท่านวิเคราะห์ความคุ้มค่าทีว่า ทำไมผมต้องเสียตังค์และเสียเวลาไปลงประชามติกะเรื่องนี้ ช่วยชี้แนะด้วยครับท่าน จากคุณ : Aeykun - [ 22 เม.ย. 52 19:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คุณเหล่าฟาง คคห 15 ที่ว่า "อาจารย์ มรว คึกฤทธิ์ มีอะไรสู้ คุณ ส.ศิวรักษ์  ไม่ได้หรอครับ" ตอบ เ่ราจะย้อนถามคุณว่า "อาจารย์ มรว คึกฤทธิ์ สู้ อาจารย์ สุลักษณ์ ศิวรักษ์  ในด้านนี้ได้บ้างหรือเปล่า?" 1. อาจารย์ ส. ไม่ได้เรียนเอกอังกฤษมา แต่สามารถเขียนภาษาอังกฤษได้โดยไม่มี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดแบบคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) ทั้งๆที่ไม่ได้เรียนมหาลัยระดับชั้นนำในอังกฤษแบบอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์เลย ซึ่งเราเชื่อว่า ต่อให้อาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์มีชีวิตต่อไปอีก 20 ปี แล้ว เรียนภาษาอังกฤษอีก ก็ไม่มีทางทาบรัศมี อาจารย์ ส. ในเีรื่องความรู้่ภาษาอังกฤษ ได้เลย...!!!!!   2. อาจารย์ ส. รู้ภาษาไทย ทาบรัศมีอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ได้ เผลอๆเก่งกว่าเสียอีก นะ จะบอกให้ 3. อาจาย์หม่อมคึกฤทธิ์ พยายามเขียนเรื่องอะไรที่ "สะท้อน" วัฒนธรรมและสังคมไทยเพื่อเปรียบเทียบกับของตะวันตก ดูๆแล้วนะ ก็ "แค่ไม่เลว" แต่อาจารย์ ส. "ทำได้เนียนกว่านั้นเสียอีก" และอาจารย์ ส. ก็ bilingual (เก่ง 2 ภาษา) มากกว่าอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์หลายช่วงตัวเลยหละ... 3. ในฐานะที่เราเป็นนักแปล เราชื่นชมผลงานการแปลของ อาจารย์ ส. ....คุณลองไปอ่านคำแปล ของ อาจารย์ ส. ที่เขาแปล (แปลไทยเป็นอังกฤษ) คำสอนของพุทธทาสภิขุดูิิดิว่า "เจ๋งขนาดไหน"  ซึ่งเราเชื่อว่าอะนะ ฝีมือแปลไทยเป็นอังกฤษระดับเทพแบบนี้นะ อาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ "ไม่มีทางทำได้" นั่นก็เพราะว่าท่านได้แต่อ่านภาษาอังกฤษรู้เรื่อง (learn to understand) แต่ยังเรียนรู้ไปไม่มากพอที่จะ เขียนภาษาอังกฤษได้ดี (learn to compose) พอเท่่ากับ อาจารย์ ส. ไอ้ซีร้งซีไรท์อะไรน่ะ เห็นนักแปลนักเขียนไทย บางคนนะ ที่ได้รับรางวัล เราก็รู้ว่า หลายๆคน ถึงไม่เก่งเท่าอาจารย์ ส. แต่ได้ซีไรท์ไปเพราะอะไร? เราไม่อยากพูดหรอกน่ะ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 52 12:13:31 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 19:44:27 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 19:43:05 จากคุณ : fortuneteller - [ 22 เม.ย. 52 19:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 58 3. อาจาย์หม่อม พยายามเขียนเรื่องอะไรที่ "สะท้อน" วัฒนธรรมและสังคมไทยเพื่อเปรียบเทียบกับของตะวันตก ดูๆแล้วนะ ก็ "แค่ไม่เลว" แต่อาจารย์ ส. "ทำได้เนียนกว่านั้นเสียอีก" และอาจารย์ ส. ก็ bilingual (เก่ง 2 ภาษา) มากกว่าอาจารย์หม่อมหลายช่วงตัวเลยหละ... รบกวนช่วยแนะนำหนังสือแนวๆนี้ที่สามารถเปรียบเทียบกันได้ระหว่างานเขียนของคุณ  ส ศิวรักษ์ กับ มรว.คึกฤทธิ์หน่อยครับ ผมอยากอ่านบ้างครับผม จากคุณ : อัครวรมัน - [ 22 เม.ย. 52 19:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อ้อ เพิ่มเติมครับคุณ Fortuneteller ถ้าผลงานของอาจารย์ ส. ยิ่งใหญ่ขนาด "เจ๋งขนาดไหน" คงไม่มีใครไม่เห็นด้วยหรอกนะครับ แต่ผมว่าไม่ได้เรื่องถ้าคุณจะเหยียบงานซีไรท์ของท่านอื่นๆ เพื่อให้งานของคนที่คุณชื่นชอบนั้นสูงกว่า ผมว่า "เพี้ยน" จากคุณ : Aeykun - [ 22 เม.ย. 52 20:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มันดีได้เลย วันนี้ขอ sacrifice login ของตัุวเอง นั่นก็คือว่า "ถ้าโดนรุมยำก็จะไม่ขอเข้ามาใน pantip อีก" ตอบ ความคิดเห็นที่ 58 อาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ กับอาจารย์ ส. ทั้งสองคนต่างก็เรียนจาก UK ด้วยกันทั้งสองคน เวลาพูดหรือเขีีียนอะไรในสังคมไทย ไมว่าจะพิมพ์หรือพูดเฉยๆ ต่างก็ "สะท้อน" ถึงความเข้่าใจในความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมของไทยกับฝรั่งไว้ด้วยกันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องไปยกตัวอย่างหนังสือเล่มไหนเป็นการเฉพาะเจาะจง แต่เท่าที่เห็นมานะ ของ อาจารย์ ส. เหนือชั้นกว่าของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ทุกประตู เลยหละ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องภาษาไทย ขนบธรรมเนียม ประเำพณีไทย ศาสนา และวัฒนธรรม ของทั้งไทยและเทศ ฯลฯ ...แล้วก็อย่างที่พูดไว้หละ นั่นก็คืออะนะ อ. ส. นั้่ืนความรู้ภา๋ษาอังกฤษ และความรู้ความเข้าใจในวัฒนธรรมตะวันตก และตะวันออก ก็เหนือชั้นกว่า อ. หม่อมคึกฤทธิ์ มากมาย เลยหละ แบบถ้าเป็นม้าแข่งนะ ก็เรียกว่า ขนะแบบทิ้งฝุ่นไว้จนมองไม่เห็นตัวผู้ชนะ เลยหละ ตอบคุณ Aeykun คคห 59 ที่คุณพูดว่า "...ถ้าคุณจะเหยียบงานซีไรท์ของท่านอื่นๆ เพื่อให้งานของคนที่คุณชื่นชอบนั้นสูงกว่า ผมว่า เพี้ยน..." เราขอบอกว่าคุณและ สส ตั้งหลายคนในสภา สมควรไปเรียน elementary logic ได้ ก่อนที่จะมาแสดงความคิดเห็นในระดับนี้ ก่อนอื่นต้องเรียนรู้คำว่า some กับ all ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร analogy ที่ valid มากๆเป็นอย่างนี้นะ เวลาคนอังกฤษ (กับคนอีกหลายๆคนทั่วโลก) เขาดูการตัดสินผู้ชนะเลิศรายการ Britian's Got Talent น่ะหลายๆคนต้อง "หลั่งน้ำตา" เพราะว่า สังคมคนอังกฤษ ช่างยุติธรรมเหลือเกิน ในขณะที่เวลาประักวดร้องเพลงในเมืองไทยนะ คนชนะ "ค้านสายตาคนดูทางบ้าน" นั่นก็คงเหมือนๆกันกับผลประกวดรางวัลซีัไร้ท์นะ คือว่า ไม่เคยมีใครสักคนที่ "ร้องไห้เพราะตื้นตันไปกับคนชนะ ไม่เคยมีใครทุกคน (all)  ที่คิดว่า สังคมไทยมันยุติืธรรม ขนาดคนไม่สวย ไม่หล่อ ไม่รวย ไม่มีเส้น แต่ก็ชนะประกวดได้" แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เราก็ต้องแยกแยะด้วยว่า some กับ all นั่นก็คือว่า ประกวดมาตรฐานไทยน่ะ ถึงไม่ชนะใจคนดูทั้งประเทศ แต่ มันก็คงมีสักกะปีหนึ่งหรอกนะ ที่ คนเก่งได้ไปน่ะ แต่ถามว่า คนเก่งได้รับการเสนอชื่ออย่างยุติธรรมหรือทั้งหมด (all) หรือเปล่า? ตอบ เราอยากให้คุณลองใช้สติปัญญาคิดดูเอาเอง ก็แล้วกันนะ ก่อนที่จะมาเถียงกับเรา นี่ถ้าคุณไปเถียงกับอาจารย์ ส. ด้วยละ แล้วคุณรู้ logic ระดับนี้นะ  คุณจะยิ่งปวด head มากกว่านี้่อีกหลายๆเท่าเลยหละ...จะบอกให้ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 52 12:16:07 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 21:42:22 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 21:28:08 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 20:40:30 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 20:39:20 จากคุณ : fortuneteller - [ 22 เม.ย. 52 20:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ลบดีกว่า  อิอิ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 20:49:11 จากคุณ : เจ้าชายโดดเดี่ยว - [ 22 เม.ย. 52 20:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เฮ้อ ... งั้นช่วยตอบผมหน่อย เรื่องประชามติแล้วกัน อยากฉลาดกะเขาบ้าง แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 21:05:42 จากคุณ : Aeykun - [ 22 เม.ย. 52 21:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ู^ ^ อย่าเ้พิ่งท้อใจ เราจะ "บอกใบ้" วิธีเถียงกับเราหรือเถียงกับ อ. ส. แล้วเอาชนะเราหรือเอาชนะเขาได้นั้น มันง่ายนิดเ้ดียวเอง น่ะ นี่ำพูดแบบแฟร์ๆนะ ในกระทู้เดิมที่เราโดนรุมจวก จนเราต้องยกเลิก login ไปเลยนั้น ฝ่ายตรงกันข้ามเราใช้่ื flaws (ข้อบกพร่อง) กับ fallacies (ทุตรรกบท) ใน logical reasoning (การใช้เ้หตุผลในเชิงตรรกะ) มากมาย จนทำให้ การที่เราจะเถียงต่อไปนั้ิน เราจะต้องทำเหมือนๆกันกับที่คุณบุญชิต ทำไว้ใน คคห 26 นั่นก็คือใช้ตรรกะที่แม่นยำมากๆ ในการ "บ่งชี้ว่า อันไหนเป็น flaw อันไหนเป็น fallacy" แต่คุณบุญชิตเจอแค่ไม่กี่ flaws และัแค่ไม่กี่ fallacies ดังนั้น เขาเขียนแค่ไม่กี่บรรทัดใน คคห 26 เขาก็ "เบาตัว" ไปแล้ว แต่ในกระทู้ที่เราเจอนะ มันมี flaws กับ fallacies ที่เขียนด้วยผู้คนเป็นจำนวนมาก "จำนวนนับไม่ถ้วน" ที่ไม่เข้าใจ elemenary logic  ถ้าเราจะุเถียง เราต้อง พิมพ์เรื่องราวที่น่าเบื่อไปอีกตั้งหลายเดือนแน่ะ...มัันไม่ทำให้พวกเขาเรียน logic เพราะอะไร? เพราะว่าพอเราพิมพ์ข้อความชี้แนะว่า argument (ข้อโต้แย้ง) ของพวกเขา อันไหนเป็น flaw อันไหนเป็น fallacy นะ พวกเขาก็เขียน  flaws กับ fallacies ต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนเรา "ตาลายอ้ะ" ดังนั้น นโยบายที่ดีที่สุดก็คือ พิจารณาเห็นว่าห้องนั้นใน pantip ไม่ใช่สังคมของเรา แล้วก็ไม่เข้าไปอีก ตอนนั้นเลยยกเลิก login ไปเลย แต่ตอนนี้ ถ้าเจอแบบนั้นอีก ก็ำพร้อมจะยกเลิก login อีกรอบหนึ่ง เพราะคิดว่า "การที่เรามีความเห็นไม่ตรงกับคนอื่นนั้น ถ้าเราโดนรุมเล่นงาน ด้วยคำำพูดอันรุนแรง เพียงแค่เพราะว่าเรามีความเห็นต่างกับพวกเขา  มันก็ไม่ใช่สังคมที่เราควรอยู่เพื่อให้อะไร และ้เพื่อได้รับอะไร อีกต่อไป" แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 52 12:18:11 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 21:25:23 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 21:22:48 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 21:21:43 จากคุณ : fortuneteller - [ 22 เม.ย. 52 21:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คือ ผมขอความเห็นเรื่องประชามติน่ะครับท่าน ผมไม่ได้เข้าไปรุมท่านเลย "สมควรหรือไม่สมควร" หรือ "งานเขียนของหม่อมเป็นอย่างไร และของ อาจารย์ ส.เป็นอย่างไร ผมสงสัยว่าต้องทำเป็นประชามติเชียวหรือใน คห.56 ผมไม่ได้มาถามว่าใครดีใครไม่ดี แต่การเสนอชื่อบุคคลสำคัญของโลกผมไม่เห็นว่าจะมีความสำคัญหรือมีสาระมากไปกว่าการประกวดภาพยนตร์ ถึงต้องใช้วิธีประชามติต่างหาก ยังไม่มีใครชี้ตรรกะที่ถูกให้ผมได้เห็นเลย อืม ผมอาจถามไม่ตรงคำตอบก้อได้นะ จากคุณ : Aeykun - [ 22 เม.ย. 52 21:35:33 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่สามารถยกตัวอย่างได้เลยเหรอครับ  เกี่ยวกับที่ผมถาม เรื่องทีี่คุณเปรียบเทียบ   ไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่างหรือว่าไม่มีตัวอย่างครับ??? คือผมอยากแยกให้ออกระหว่างความเป็นจริงกับความศรัทธาของคุณอ่ะครับคุณfortuneteller เพราะผมไม่แน่ใจว่า ที่คุณบอกนั้น มันเป็นความจริงหรือว่าเป็นแค่ความเชื่อและความชอบส่วนบุคคลครับ คือผมอยากอ่านครับ อยากรู้ว่าเขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ ขอบังอาจแนะนำนะครับ    ไม่ต้องเขียนไทยคำอังกฤษคำหรอกครับ ผมว่าภาษาไทยเราละเอียดอ่อนมากพอที่จะอธิบายคำที่คุณต้องการสื่อได้ครับ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 21:40:21 จากคุณ : อัครวรมัน - [ 22 เม.ย. 52 21:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ทีคุณอัครวรมัน พูดใน คคห 65 ว่า "ขอบังอาจแนะนำนะครับ    ไม่ต้องเขียนไทยคำอังกฤษคำหรอกครับ ผมว่าภาษาไทยเราละเอียดอ่อนมากพอที่จะอธิบายคำที่คุณต้องการสื่อได้ครับ" ตอบ นี่ก็เป็นความเพียรความพยายามของคุณในการทำให้ีคนอ่านเกลียดชังสิ่งที่เราพูด โดยอาศัยหลักการที่หลายๆคนเชื่อ วิ่งตามกันไปเป็นฝูงแพะฝูงแกะว่า "พูดอังกฤษคำไทยคำ มันไม่ดี" แต่โทษทีนะ เผอิญเรื่องพวกนี้นะ จะตัดสินกันได้ มันต้องใช้วิชา logic ซึ่งคนไทยไม่ได้เป็นคนคิดค้นวิชานี้ เสียด้วยดิ  มันก็เลยต้องอ้างอิงแหล่งที่มา เป็นภาษาต่างชาติ...555+++... ตกลง การที่คุณจะมา discredit เรานั้น มันก็ยังเข้าข่ายที่ว่า ไม่สมเหตุผลในเชิงตรรกะอยู่ดี นั่นแหละ... ลองหาวิธีอื่น ที่ดีกว่านี้ ดูนะ เผื่อคุณจะเถียงชนะเราได้ "แบบขาวสะอาด" แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 22:21:35 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 22:02:40 จากคุณ : fortuneteller - [ 22 เม.ย. 52 22:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ทีคุณอัครวรมัน พูดใน คคห 65 ว่า "คือผมอยากแยกให้ออกระหว่างความเป็นจริงกับความศรัทธาของคุณอ่ะครับคุณfortuneteller เพราะผมไม่แน่ใจว่า ที่คุณบอกนั้น มันเป็นความจริงหรือว่าเป็นแค่ความเชื่อและความชอบส่วนบุคคลครับ คือผมอยากอ่านครับ อยากรู้ว่าเขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ" ตอบ เราก็ยอมรับว่า ทั้งคนที่เห็นด้วยกับเรา และไม่เห็นด้วยกับเรานั้น จากการที่อ่านข้่อความที่แสดงความคิดเห็นกันมาแล้วมากมาย  ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ค่อยจะมีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด ดังนั้น ก่อนที่พวกเรา (ฝ่ายเห็นด้วยกับเรา และฝ่ายค้านเรา) ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นกันต่อไป ถ้ายังตรรกะไม่แม่นยำขนาดคุณบุญชิต (จริงๆแล้วคุณบุญชิตไม่ได้เชียร์อาจารย์ ส. เพียงแต่เขาพูดว่า สิ่งที่คนบางคน ให้เหตุผลในการสนับสนุน อ. หม่อมคึกฤทธิ์นั้น มันเป็น flaw หรือไม่ม้นก็เป็น fallacy) แล้วละก้อ โปรดไปเรียน elementary logic กันก่อน จะดีไหม? จะได้ถกกันได้แบบ "ระบบตรรกะไม่ชำรุด" แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 52 12:20:09 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 22:18:19 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 22:16:23 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 22:10:59 จากคุณ : fortuneteller - [ 22 เม.ย. 52 22:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 68 http://www.sulak-sivaraksa.org/th/index.php?option=com_content&task=view&id=104&Itemid=27 ^ ^ สำหรับคนที่อยากทำความรู้จักกับ ส.ศ.ษ. ครับ งานชิ้นนี้ "ระดับมาสเตอร์พีซ" ซึ่งพูดตรงๆอย่างไม่อายว่า "ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ" ครับ เพียงภาษาและรสคำที่ซ่านเข้าไป ก็พอให้เกิดวิริยะที่จะฝึกฝนจิตวิญญาณตนเองละครับ จากคุณ : jassb1 - [ 22 เม.ย. 52 22:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ผมไม่ได้มีความรู้มากขนาดคุณหรอกครับ และก็คงไม่มีปัญญาไปเรียนหรอกครับ และก็ไม่รู้จะเรียนไปทำไมครับ ผมแค่อยากทราบใน คห 58 เท่านั้นเองครับ  แต่คุณก็ตอบเลี่ยงไปเลี่ยงมา ไม่ตรงคำถามสักที ไม่รู้เหมือนกันว่าเลี่ยงทำไม หรือว่าคำถามยากไป ต้องไปร่ำเรียนมาก่อนถึงจะบอกได้ครับ เอาล่ะ ขอถามอีกสักครั้ง  ดูซิว่าจะตอบเลี่ยงอีกไหม แค่อยากทราบแค่นั้นเองว่าที่คุณเปรียบเทียบว่า อาจาย์หม่อม พยายามเขียนเรื่องอะไรที่ "สะท้อน" วัฒนธรรมและสังคมไทยเพื่อเปรียบเทียบกับของตะวันตก ดูๆแล้วนะ ก็ "แค่ไม่เลว" แต่อาจารย์ ส. "ทำได้เนียนกว่านั้นเสียอีก มันคือเรื่องไหนกับเรื่องไหนที่ทั้ง 2 ท่านได้เขียนขึ้น ผมแค่อยากอ่านแค่นั้นเองครับ  ไม่ได้ต้องการเถียงเอาชนะคุณแบบขาวสะอาดอะไรอย่างที่คุณพูดหรอก แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 22:27:08 จากคุณ : อัครวรมัน - [ 22 เม.ย. 52 22:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ู^ ^ ตอบ ไม่ได้เลี่ยง แต่บอกแล้วไงล่ะว่า ต้องไปหาผลงานของคนทั้ง 2 คน มาอ่านเทียบกัน จึงจะตัดสินได้ จากคุณ : fortuneteller - [ 22 เม.ย. 52 22:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณ คห 68 กับ 70  ครับ เดี๋ยวผมจะไปหามาอ่านครับ แต่คงเยอะเลยแหละ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่จะอ่านหมด ลองหาในกูเกิลแล้ว เยอะเหลือเกินครับ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 22:32:57 จากคุณ : อัครวรมัน - [ 22 เม.ย. 52 22:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ตัวอย่างเรื่องตรรกะ อันนี้ถึงมีกลิ่นการเมือง แต่ก็ไม่ได้เป็นการปลุกระดมเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงแต่อย่างใด อยากจะบอกว่าเป็็น "ตรรกะล้วนๆ" ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ ฝ่ายค้านบอกว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ เคยด่าผู้นำเขมร และเคยพูดจาข่มขู่จีน (โดยมี video มายืนยัน)  แล้วฝ่ายรัฐบาลประท้วงในสภาว่า 1. video ห้ามนำมาเผยแพร่เพราะทำลายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน และให้ถือว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน เป็นอันว่า "ตกไป" 2. รัฐมนตรีต่างประเทศ ด่าผู้นำเพื่อนบ้านก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ดังนั้นจึง ให้ถือว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน เป็นอันว่า "ตกไป" ประท้วงกันตั้้งหลายชั่วโมง ทำได้ไง? ทำไม ไม่มี สส คนไหนเรียน ตรรกวิทยาบ้าง? มีแต่บังคับกันว่า "ต้องจบปริญญาตรี" ซึ่งก็ "ไปซื้อกันมาได้" ตอบข้อ 1. video น่ะ มันเผยแพร่ไปถึงไหนกันแล้ว หยุดแค่นี้ ไม่ได้หรอก ตอบข้อ 2. ถ้าคุณรู้ว่าครั้งหนึ่งนาย "ก" เคยตีึหัวนาย "ข(ผู้นำเขมร)" และเคยข่มขู่ นาย "ค(ประเทศจีน)"....แล้วอยู่ดีๆนะคุณจะค้าขาย กับนาย "ข" กับ นาย "ค" ถ้าคุณแต่งตั้งนาย "ก" ให้เป็นตัุวแทน แล้ว "มีโอกาส" ที่จะต้องไปเจรจากับ "ข" และ "ค" คุีณเห็นดีหรือไม่ดีั ด้วย ที่จะแต่งตั้ง นาย "ก" ใช้ analogy (การเปรียบเทียบ) แบบนี้ เคลียร์หรือเปล่า? แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 52 23:11:49 จากคุณ : fortuneteller - [ 22 เม.ย. 52 22:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณอัครวรมัน ครับ ลองเริ่มจาก "คันฉ่องส่องตัวตน" ดูนะครับ http://www.se-ed.com/eShop/(A(09AFZkSLyQEkAAAAOTJjMWMzYjgtZjY3My00NGRjLWFiZmYtMTM3MDEzYmFkZmFmSI0IdLHXfIS-X8L_c5A63Rtkhts1))/Products/Detail.aspx?No=9789747235937 หนังสือเล่มนี้ ท่านเขียนชีวประวัติของบุคคลสำคัญในเชิงวิพากษ์พลาง ยกย่องพลาง รวมถึงได้วิพากษ์ตนเองได้อย่างเจ็บแสบ (จริงๆนะ) คือท้ายสุดแล้ว ท่านก็ไม่พ้นการตรวจสอบตนเองครับ และผมยอมรับเลยว่า อ่านงานของท่านแล้ว ผมซาบซึ้งพอสมควรครับ งานที่ผมยกไว้ด้านบน คือ "สู่ชีวิตอันอุดม" นั้น ผมมาคิดอีกทีแล้ว ดูจะยากไปมากๆครับ ท่านเคยเปรยไว้หนหนึ่ง ในการสัมภาษณ์ว่า หนังสือเล่มนี้ ใช้พลังในการถ่ายทอดอย่างมาก ขนาดที่บางบทตอน แกไม่หวังจะให้ใครพึงเข้าใจได้ในทันที แต่ขอให้ค่อยซึมซาบเนื้อหาไปทีละน้อยเป็นพอ... จากคุณ : jassb1 - [ 23 เม.ย. 52 00:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เข้ามาอ่าน.... ไม่ได้เข้าห้องสมุดมานาน ยังเหมือนเดิม คิดถึงจัง อย่ามั่นใจอะไรมากนัก สิ่งที่คุณคิดว่าดี เดี๋ยวขุดขึ้นมา อาจจะเป็นที่อับอาย จากคุณ : ขี้เกียจจัง (ErShiYi) - [ 23 เม.ย. 52 00:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ^ ^ ฮาาา จากคุณ : jassb1 - [ 23 เม.ย. 52 01:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ลืมตอบจขกทครับ ท่าน คึกฤทธิ์ เหมาะสมหรือไม่ ผมสนับสนุนให้เสนอชื่อแกครับ  คนไทยจะได้ศึกษาประวัติแกให้หมดทุกแง่มุม ด้านวรรณกรรมที่แกอุตสาห์ช่วยเอาเรื่องดีๆของฝรั่งมาให้คนไทยอ่าน กลัวคนไทยจะโง่ไม่มีโอกาสได้อ่าน ด้านการเมืองที่ ทิ้งมรดกให้วงการอย่างพรรคกิจสังคม ซึ่งได้สร้างบุคลากรชั้นดีประดับวงการเมืองไทยหลายต่อหลายคน ยังไม่รวมตอนอยู่ประชาธิปปัตย์ ตะโกนในโรงหนัง กลัวโรงเงียบเหงา และอื่นๆอีกมากมาย หรือว่า ท่าน คึกฤทธิ์ ทำประโยชน์แก่ประเทศเพียงพอหรือไม่ น่าเสียดายท่านเป็นนายกแค่ไม่กี่วันเอง เลยมีโอกาสน้อยมากๆ แต่ท่านก็ช่วยทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียง ด้วยการเล่นเป็นนายกให้หนังฮอลิวูด ยังไม่รวมทำให้คนไทยเข้าใจธรรมมะมากขึ้นด้วยการ ธรรมมะวิวาทะ กับท่านพุทธทาสอีก อืม นับไม่หมดครับ หรือว่า ผลงาน ท่านคึกฤทธิ์ ดีจริงไหม ดีครับ ผมพิมพ์ตั้งขนาดนี้แล้ว ยังไม่เชื่ออีกก็ไม่รู้ว่าไงแล้ว จริงๆ แล้ว เราสน..อะไร คน ประวัติ หรือ ผลงาน ต้องถามคนเสนอครับ เขาสนอะไร ผมไม่ทราบเหมือนกัน แต่ขอบคุณจขกท มากครับที่ตั้งกระทู้นี้ จากคุณ : ไม่ได้ตอบห้องนี้นาน (ErShiYi) - [ 23 เม.ย. 52 01:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เวลาพูดถึง “คน” คงต้องมองโลกในความเป็นจริง เอาสัจธรรมเข้าไปจับ เพราะมันอยู่ลึกเกินกว่าตรรกะหรือวิชาการใดๆ จะเข้าถึงได้ ไม่งั้นจะมีคำพวกนี้อยู่รึ - ไม่มีใครดีพร้อมสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครเลวไปเสียทุกเรื่อง - เหรียญยังมีสองด้าน - อันว่าจิตใจมนุษย์นั้น ยากแท้ หยั่งถึง - Man cannot for a thousand days on end enjoy the good, just as the flower cannot bloom a hundred days. - There is an evil touch, in everyone of us. - ฯลฯ ที่อ่านๆ มาเนี่ย ผมเห็น halo effect กำลังทำงานของมันอย่างแข็งขัน ผมเห็น hidden agenda เพียบเลย จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 23 เม.ย. 52 08:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เป็นกระทู้ที่ถกกันได้ถึงแก่นดีมากๆครับ แต่ผมสงสัยเล็กน้อยว่า ตกลงทางกระทรวงวัฒนธรรมเสนอชื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นบุคคลสำคัญของโลก ต่อยูเนสโก หรือเปล่าครับ และผลออกมาเป็นเช่นใด? จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 23 เม.ย. 52 12:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เพิ่งนึกออกว่าเรารู้จักคำว่า "สารขัณฑ์" จาก ม.ร.ว. คึุกฤทธิ์ เนี่ยแหละ รู้สึกว่าท่านจะเล่นเป็นนายกฯ ประเทศที่ชื่อ Sarkan (ไม่แน่ใจเรื่องตัวสะกด) ใน หนังเรื่อง Ugly American เนี่ยแหละ จากคุณ : Equator - [ 23 เม.ย. 52 12:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ใครไปเชิญคุณ fortuneteller มาอ่ะ อ่านแล้วปวดหัว... ติดอยู่กับ logic บ้า ๆ บอ ๆ แค่บอกว่าวรรณกรรมชื่ออะไร แค่นั้นแหละ ที่เหลือก็จะไปอ่านเอาเอง.... เฮ้อ... จากคุณ : ผมมีความรักมาฝาก - [ 23 เม.ย. 52 12:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ความคืบหน้าอยู่ในกระทู้นี้ครับ คุณอุ้ย (digimontamer) http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K7774652/K7774652.html จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 23 เม.ย. 52 13:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 82 แวะเข้ามาดู ผมก้อยังไม่ได้รับการชี้แนะเลยว่าทำไมต้องทำประชามติ เฮ้อ จากคุณ : Aeykun - [ 23 เม.ย. 52 16:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณ คุณ หนุ่มไทยไร้นาม  มากๆครับ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 23 เม.ย. 52 17:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 84 อย่ามาว่า หม่อม ป้า นะ ? มรว คึกฤทธิ์ เป็นคนเก่ง แบบ พหูสูตร แต่ ถ้าลงราย ละเอียด ผมว่า เรื่อง อักษรศาสตร์ สู้ อัศนี พลจันทร์ ไม่ได้ ครับ เรื่อง ประวติศาสตร์ สู้ จิตร ภูมิสักดิ์ ไม่ได้ ครับ เป็นความเห็นส่วนตัวครับ ไม่ สนับสนุน นะ ถ้าเสนอ จากคุณ : นายผี (สระนาฬิเกร์) - [ 23 เม.ย. 52 17:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 85 อ่านมาหลายความเห็น คุณ fortuneteller นี่ทฤษฎีจ๋าจริงๆ (เห็นใช้คำตามตำราเป๊ะๆๆๆ) อยากรู้จังค่ะว่าอายุเท่าไหร่ ... ท่าทางไฟแรงดีจัง วิชาคงร้อน : ) จากคุณ : Patisserie Lover - [ 23 เม.ย. 52 18:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เรื่องประชามตินี่ผมเห็นด้วยครับ เห็นด้วยว่าไม่ควรทำถึงขนาดนั้นหรอก (แว่บ ตอบอย่างนี้จะโดนตึ้บมั้ยเนี่ยเรา) มันเรื่องใหญ่นะครับ ทั้งกำลังคนกำลังทรัพย์ ทุ่มลงไปกับเรื่องแค่เนี้ยหรือครับ กับเรื่องที่อาจมีคนไทยคนหนึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ซึ่งทำให้ใครเดือดร้อนหรือครับ ก็มีแต่พวกขี้อิจฉาตาร้อน ที่อกจะแตกตาย จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 23 เม.ย. 52 20:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ไม่ได้อ่านงานของคุณชายคึกฤทธิ์และส.ศิวรักษ์ทุกเล่ม คงจะวิจารณ์ไม่ได้ว่าท่านสมควรได้รับการเสนอชื่อหรือได้รับรางวัลหรือไม่และคุณส.ศิวรักษ์มีความสามารถทางการประพันธ์กว่าคุณชายหรือไม่   แต่จากการอ่านหนังสือบางเล่มของม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ชอบหนังสือเรื่องน้ำพริกและพ่อครัวหัวป่าก์มากๆค่ะ อ่านสนุกและได้ความรู้หรือพวกคอลัมน์ในสยามรัฐที่ท่านเคยเขียน หลายๆครั้งก็เห็นคอลัมน์นิสต์ในยุคนี้ก็หยิบยกมาอ้างอิงอยู่เสมอและสาระในบทความนั้นก็ยังไม่ล้าสมัยเลย  ส่วนผลงานของคุณส.ศิวรักษ์ที่เคยอ่านเพียงบางบทความต้องขอบอกว่าอ่านไม่รู้เรื่องค่ะ คงเป็นคนเข้าใจอะไรยากๆไม่ค่อยได้ แต่ที่แน่ๆม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชเป็นปราชญ์คนหนึ่งของเมืองไทยและในใจหมูหันค่ะ จากคุณ : หมูหันตัวอ้วนกลม - [ 23 เม.ย. 52 20:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่เห็นมีใครมองในแง่นี้เลยว่า หาก ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ได้รับเลือกจาก UNESCO ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ก็แน่นอนว่าชื่อเสียงระดับโลกจะตามมา แล้ววรรณกรรมของท่าน เรื่องไหนก็ได้ไม่ใช่ประเด็น อาจถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ ขายไปทั่วโลก นำรายได้เข้าประเทศ เจ้าวรรณกรรมนี่นะ ธรรมชาติของมันคือนานาจิตตัง เรื่องเดียวกัน คนนึงชอบ อีกคนไม่ชอบ ลางเนื้อชอบลางยาครับ ของแบบนี้ คนที่ไม่ชอบ ผมไม่สนหรอกครับ ผมสนเฉพาะคนที่ชอบ เพราะเขาซื้อ จ่ายตังค์ให้เรา จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 23 เม.ย. 52 20:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ไม่มีปัญหา หากจะเสนอชื่อ แต่หากคนอ่าน ดอน คามิลโล หรือ เรื่องอื่นๆ มาเจอ ก็คงคิดว่า แค่นี้ก็เป็นบุคคลสำคัญระดับโลกในทางวัฒนธรรมได้แล้วหรือ เอาเถิดครับ อย่างน้อย ยูเนสโก ก็น่าจะคิดเองได้ จากคุณ : นายปลาตีน - [ 23 เม.ย. 52 22:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สงสัยครับ การที่ อ.ส.ศิวรักษ์ คัดค้านการเสนอชื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ นั้น ทำไมถึงกลายเป็นการเปรียบเทียบผลงานของทั้งสองท่านไปได้ มีตรงไหนในจดหมายคัดค้าน แล้วทำให้เราทราบว่า อ.ส.ศิวรักษ์ ต้องการและต้องกลายมาเป็นคู่แข่งบ้าง ระวังกระทู้จะหลงทางนะครับ เสียดายหัวข้อกระทู้ดีๆแบบนี้ จากคุณ : q_cosmo - [ 24 เม.ย. 52 00:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แหงะ... ตกข่าว เพิ่งทราบข่าวจากกระทู้นี้ ขอบคุณ จขกท. มากนะครับ ที่นำข่าวคราวในแวดวงวรรณกรรม (เนาะ) มาบอกเล่า... ตอบคำถาม จขกท. ดีกว่า ประเด็นคืออะไร ท่าน คึกฤทธิ์ เหมาะสมหรือไม่ >>> (ที่จริง เจ้าตัวก็ไม่อยู่อยู่รับรู้ปัญหารกสมองนี้แล้ว ก็เหลือแต่คนเป็นที่หาเรื่องมาถกเถียงกันอะนะ... เวียนหัว~~) ผมชอบงานเขียนของท่านครับ ผมว่าเหมาะสมแล้ว ถ้าทำประชามติ ก็จะลงความเห็นว่า "สมควร" หรือไม่ก็ "ไม่ออกความคิดเห็น" ฮ่าๆ... แต่เอานะ ของอย่างนี้ เชื่อว่า..ย้ำ เชื่อว่า ... คณะกรรมการที่เลือกคงจะมีเกณฑ์ในการเลือกอยู่มั้งครับ ถ้าคุณสมบัติผ่าน ก็เสนอไปยังยูเนสโก ถ้าคุณสมบัติไม่ผ่าน ก็ไม่ต้องเสนอ... ว่าแต่ คุณสมบัติที่ดีมีอะไรบ้างอะครับ??? ผมยังไม่ทราบมาตรฐานเลย หรือว่า ท่าน คึกฤทธิ์ ทำประโยชน์แก่ประเทศเพียงพอหรือไม่ >>> โอ๊ะโอ... เกิดไม่ทัน (ทำตัวเจี๋ยมเจี๊ยมต่อไป) หรือว่า ผลงาน ท่านคึกฤทธิ์ ดีจริงไหม >>> ดีจริงครับ (ไม่นับเรื่องที่มีปัญหานะ) ผมว่า งานของท่านถ่ายทอดให้คนอ่านเข้าใจได้ง่ายดี เข้าถึง เขาเรียกว่าอะไรล่ะ... เรียบง่ายแต่งดงาม ประมาณนั้น อ่านแล้วเลยได้ประโยชน์ เพราะสามารถอ่านได้แต่ต้นจนจบ ผิดกับงานบางอย่าง(ของหลายๆคน ... ขอใช้อีโม T_T) ที่หรูหรามากเลย แต่อ่านแล้วมึนมากๆเช่นกัน อย่างนี้ไม่ได้ประโยชน์ครับ เป็นโทษเพราะทำให้ผมปวดหัวอีก ไม่ไหวๆ... นอกจากท่านสามารถสื่อสารได้เป็นที่สำเร็จแล้ว (หมายถึง ครบวงจร ผู้ส่งสาร - สาร - ผู้รับสาร ... และทุกอย่างราบรื่น ไม่เกิดอาการงงแตก ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของการสื่อสารทุกชนิดรวมไปถึงงานวรรณกรรมด้วยเน่อ... ไม่งั้นคงเขียนไว้อ่านเองกันหมดแล้วล่ะ) งานของท่านยังให้แนวคิดในหลายแง่มุมมากๆเลย ซึ่งแน่นอนว่า อ่านแล้วไม่จำเป็นต้องคล้อยตามทั้งหมด เพราะคนเรามีความคิดเป็นของตัวเอง ทำไมต้องคล้อยตามคนอื่นตลอดล่ะ??? สรุป ตอบคำถามข้อนี้ว่า สำหรับผม งานเขียนของท่านดีจริงๆครับ แต่กับผู้ที่มีหน้าที่คัดเลือก เขาก็ต้องมีเกณฑ์ของเขานะ... ว่าแต่เกณฑ์นั้นคืออะไร ผมก็ไม่ทราบ จริงๆ แล้ว เราสน..อะไร คน ประวัติ หรือ ผลงาน >>> จริงๆแล้ว รางวัลบุคคลสำคัญของโลกนั้นแยกออกเป็นสาขาต่างๆ (รึเปล่า?) ก็น่าจะพิจารณาคัดเลือกตามผลงานของบุคคลนั้นๆว่าตรงกับสาขานั้นๆหรือเปล่า (งงไหมครับ?) ดังนั้น ตอบว่า จำเป็นต้องสนใจที่ผลงานอะครับ... ผ่านไม่ผ่านอีกเรื่องนึง ข้อนี้ผมไม่อยากเถียงใคร เพราะผมไม่ใช่นักวิชาการ เป็นแต่นัก(วิชา)กินอย่างเดียว เอิ๊กกกส์ สรุป (อีกครั้ง) จากเนื้อความจดหมายของคุณ ส.ศิวรักษ์ เห็นด้วยกับเรื่องที่ว่า งานของท่านคึกฤทธิ์มีปัญหาเรื่อง"แรงบันดาลใจแรงกล้า" (แม้จะชอบท่านมาก แต่ผมก็ต้องทำใจยอมรับอะนะท่าน ว่าเรื่องมันมีมูลจริง เหอ เหอ) ซึ่งต้องให้ผู้มีความรู้ทั้งหลายไปเถียงกันให้ชุ่มช่ำเสียก่อน ส่วนเรื่องอื่นที่พูดทำนองว่า ตัวเองโดนกลั่นแกล้ง ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนะครับ... จบที่อยากจะพูดละ ...................... ปล. ขอบคุณคุณเจ้าชายโดดเดี่ยวที่นำข่าวสารมาแจ้งครับ (ย้ำอีกครั้ง ผมชอบท่านคึกฤทธิ์น่ะ) ปล. 2  ให้กิ๊ฟท์ไงเนี่ยะ .................... เพิ่มเติม จาก คห.4 คือที่ผมอยากรู้เจตนาของการค้านของเจ้าของจดหมาย   เพราะว่าคนที่ออกมาคัดค้าน เป็นคนที่เคยมีปัญหากับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ก็เลยทำให้รู้สึกว่า เป็นการค้านเพราะความขัดแย้งส่ววนตัว ไม่ได้มาจากความคิดที่เป็นคนกลางอ่ะครับ เลยอยากทราบว่าคุณคิดอย่างไรครับ >>>ใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึงจริงๆ... ด้วยว่าเคยมีปัญหากันมาก่อน ก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องลุกขึ้นมาร้องเรียน แต่ก็... นะ คำแย้งนั้นมีน้ำหนักจริงๆ เรื่อง แรงบันดาลใจน่ะครับ ซึ่งก็ต้องพิจารณาตรงนี้ให้กระจ่างกันเสียก่อน... จะได้ไม่คาใจทั้งสองฝ่าย (คือ คุณ ส.ศิวรักษ์ ไม่ได้มาบอกแค่ว่า ท่านคึกฤทธิ์เป็นคนไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ หรือแถไปเรื่อยๆ ไงครับ แต่มีข้อมูลที่เป็นความจริงที่น่าคิดเหมือนกัน...) ดังนั้น ไม่ว่า จม.ฉบับนี้จะมาจากอคติหรือไม่ก็ตา แต่ใจความนั้นน่าสนใจให้พิจารณาตามครับ ^^ ................................. แก้ไข... ให้คำดูนุ่มนวลลง แก้ไข 2 ... (ยิ่งแก้ยิ่งยาวแท้) เพิ่มคำตอบสำหรับคำถามใน คห. 4 ครับ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 52 01:14:12 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 52 01:08:02 จากคุณ : PSlovebird - [ 24 เม.ย. 52 01:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เห็นมีหลายเรื่อง ขอแสดงความเห็นแยกเป็นข้อๆละกัน 1. จริงๆแล้วเรื่องการทำประชามติ ถ้าจะทำอย่างง่าย ไม่ต้องสิ้นเปลืองทุนทรัพย์ ก็แค่เขียนเวปจัดโหวตให้มีการลงคะแนนเสียง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร ทุกวันนี้เทคโนโลยีก็พัฒนาไปจนพอจะการันตีความโปร่งใสและความปลอดภัยในการทำผลสำรวจทางอินเตอร์เนตแล้ว หากคิดจะทำกันจริงๆก็ไม่ถือเป็นเรื่องเหลือบ่ากว่าแรงอะไร 2. เรื่องที่ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ได้รับการเสนอชื่อเป็นบุคคลสำคัญ ผมเห็นประเด็นของผู้ที่คัดค้านว่า ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ลอกการบ้านส่ง ดังนั้นหากได้เป็นนักเรียนดีเด่นก็พลอยจะทำให้เสียชื่อเสียงโรงเรียนหากมีคนขุดคุ้ย ในฐานะที่เป็นนักเรียนร่วมชั้นก็จะพลอยเสียชื่อไปด้วย ไม่ใช่ว่าอิจฉาตาร้อนอะไรหรอกครับ แต่มันกระเทือนถึงชื่อเสียงและความภูมิใจในโรงเรียนเรา 3. เรื่องของ ส. ศิวรักษ์ ออกมาคัดค้าน ผมไม่เห็นว่านี่เป็นเรื่องที่ผิดอะไร การแสดงความเห็นโดยเสรี (free speech) ย่อมเป็นสิทธิพื้นฐานอย่างหนึ่งในสังคมประชาธิปไตย ดังนั้นการอ้างว่า ส. ศิวรักษ์ มีอะไรสู้ได้ หรือสู้ไม่ได้ เมื่อเทียบกับ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ดูจะเป็นการหลงประเด็น ต่อให้เป็นเด็กป.1 ผมว่าเขาก็มีสิทธิแสดงความเห็นของเขาโดยชอบธรรม 4. เรื่องที่เถียงกันว่าใครเก่งกว่าใคร อันนี้มันเป็นเรื่องในเชิงคุณภาพ (qualitative) มิใช่เชิงปริมาณ (quantitative) ในโลกนี้ไม่มีตาชั่งใดที่นำมาวัดฝีมือของคนสองคนและเปรียบเทียบได้ เพราะมันเป็นเรื่องของความเห็นส่วนบุคคล ต่อให้ท่านทุ่มเถียงกันจนฟ้าถล่มก็คงจะไม่ได้ข้อสรุปอันใด แต่อย่างไรก็ดี การดูถูกเหยียดหยามผู้อื่นเพื่อเชิดชูอีกบุคคลย่อมเป็นเรื่องไม่พึงกระทำ นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์อันใดแล้วยังจะสร้างความบาดหมางกันเสียเปล่าๆ 5. เรื่องที่ว่าคนเราย่อมมีข้อดีข้อเสียทั้งนั้น อันนี้เห็นด้วยครับ แต่ว่าการ plagiarize intellectual property ของผู้อื่นถือเป็นสิ่งที่ยอมรับได้กับบุคคลสำคัญของโลกหรือ ในเมื่อสังคมเราปัจจุบันก็พยายามรณรงค์ต่อต้านพฤติกรรมเช่นนี้กันอย่างเต็มที่ อันนี้เป็นเรื่องของความคิดแต่ละคนครับ บางคนยอมรับได้ บางคนไม่ยอมรับ ผมเป็๋นคนหนึ่งที่ยอมรับไม่ได้เนื่องด้วยเหตุผลข้อนี้ แต่ก็เคารพความเห็นของผู้ที่สนับสนุน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์เช่นกัน 6. เรื่องที่ว่าถ้า ม.ร.ว คึกฤทธิ์ได้เป็นบุคคลสำคัญแล้ว ก็คงจะมีการแปลผลงานออกขาย สร้างรายได้ให้กับประเทศ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หากกาเหว่าที่บางเพลงได้แปลเป็นอังกฤษเมื่อไหร่ก็คงจะเท่ไม่หยอก อีกอย่างหนึ่งคือหากนักเขียนท่านอื่นได้เป็นบุคคลสำคัญแทน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ก็อาจย่อมมีการแปลออกขายทั่วโลก สร้างรายได้ให้กับเช่นกัน ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นอะไรกับเฉพาะ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ 7. อยากให้กระทู้นี้ถกเถียงกันอยู่ในขอบเขตของเนื้อหากระทู้ครับ อย่าเอา personal attack มาทำให้บรรยากาศมันมาคุเอาเสียเปล่า จากคุณ : Azure_Mile - [ 24 เม.ย. 52 08:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 93 อุ๊ย กระทู้เดือด!! แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 52 12:16:10 จากคุณ : ต้นปาล์มสนามเป้า - [ 24 เม.ย. 52 12:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อืม...ชอบแนวการเขียนของท่านค่ะ แต่คิดว่ายังไม่ถึงขั้นบุคคลสำคัญของโลก ส่วนเรื่องอื่นๆ ขอตามดูอยู่วงนอกละกัน จากคุณ : justutoday - [ 24 เม.ย. 52 14:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 95 พยายาม "ตู่" เอาว่า "เบ้งเฮ็กเป็นคนไทย" เพื่อเสริมต่อกับประวัติศาสตร์แนวเชื้อชาตินิยมอย่าง "คนไทยถอยร่นมาจากตอนใต้ของเมืองจีน" ซึ่งในหนังสือเบ้งเฮ็กฯ มีหลายส่วนที่มีลักษณะการเหยียดชาติอย่างรุนแรง" คนที่เชื่อแต่ละคน ก็ถ่ายทอดต่อเติมกันไปจนเชื่อมั่นแล้วครับ วันนั้นนักจัดรายการชื่อดัง ส ต  ก็เอาเรื่องนี้มาพูดออกอากาศ โดย อิงจากท่าน มรว. นี่แหละ จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน - [ 24 เม.ย. 52 16:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ส่วนตัวในฐานะที่ศึกษาทางวรรณกรรม ผมเกรงว่าการแสดงความคิดเห็นอาจจะลืมเรื่องของความแตกต่างของแนวคิดของยุคสมัยและการสร้างงานรึเปล่าครับ ประเด็นส่วนใหญ่ที่ถูกโจมตีคือการลอก plot ซึ่งจริงๆแล้วประเด็นของการให้เกียรติเจ้าของผลงานเดิม การดัดแปลงเนื้อหาวรรณกรรมอะไรทำนองนี้ผมคิดว่าในตอนนั้นอาจจะไม่มีแนวคิดในทำนองนี้อยู่ หรืออาจมีไม่มากนัก โดยส่วนตัวผมไม่เคยอ่านงานต่างๆที่คุณคึกฤทธิ์ไปนำโครงเรื่องมาจากวรรณกรรมต่างชาติ แต่เห็นข้อมูลจากด้านบนๆ เช่น กาเหว่าที่บางเพลง ก็ ถอดแปลแม้ชื่อเรื่องออกมาตรงตัว ซึ่งถ้ามองอีกแง่ ผู้เขียนไม่ได้ตั้งใจที่จะหมกเม็ด หรือไปงุบงิบเอาเรื่องราวมาแต่งเป็นผลงานของตัวเอง ในลักษณะแบบนี้อาจะเข้าทำนองการ แปลแปลง ก็อาจจะได้ ดังนี้ผมคิดว่าถ้าเราเอาคติปัจจุบันไปตัดสินคุณค่าของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต มันอาจจะมีปัญหาได้นะครับ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 52 16:49:35 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 52 16:47:38 จากคุณ : Alovera - [ 24 เม.ย. 52 16:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ไม่ขอแสดงความเห็นตามหัวข้อกระทู้ แต่ขอแสดงความเห็นบางประการในประเด็นอื่น ในเรื่องสำนวนการใช้ภาษาของบางท่าน  ที่ทำให้ผมแปลกใจ ว่าทำไมต้องเขียนไทยคำ อังกฤษคำ หรือภาษาอังกฤษ แล้วมีภาษาไทยกำกับ หรือถ้าภาษาไทย ก็มีแต่ศัพท์หรู ๆ เข้าใจยาก ๆ ภาษาแบบนักปราชญ์เค้าใช้กัน   โดยส่วนตัวไม่ได้มี อคติกับการใช้ภาษาปนกัน เพื่อจุดประสงค์ของการสื่อสาร  เพราะบางครั้งมันจำเป็น กระชับ หรือง่ายกว่า เช่นการ list ประเด็น แต่ในบางครั้งอดสงสัยไม่ได้  ว่าใช้การเขียนแบบนี้ไปทำไม เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องกำกับไว้เลย ภาษาเดียวก็พอแล้วต่อความเข้าใจ หรือเพราะคนเขียนไม่แน่ใจว่าคนอ่านจะเข้าใจ? งั้นทำไมไม่ใช้ภาษาง่าย ๆ กว่านี้แทนหละ สำนวนแบบนี้ จะเจอมากในกระทู้ห้องสมุดเท่านั้น ห้องอื่นไม่ค่อยเห็น เพราะสำหรับคนรู้น้อยเช่นผม อ่านแล้วมันดูฟุ่มเฟือย  และมันทำให้ยากต่อการเข้าใจสิ่งที่คนเขียนต้องการจะสื่อมากกว่าด้วย แถมภูมิรู้ภาษาอังกฤษผมยิ่งไม่ค่อยมี  รู้แต่คำง่ายๆ เช่น good   bad  hard easy ฯลฯ เท่านั้น ศัพท์แสงสำนวนทางวิชาการไม่กระดิก การใช้ภาษายาก ๆ คำหรู ๆ บางครั้งมันทำให้คนอ่านหลงประเด็นไปเลย ตีความไม่ถูก และมันไม่จำเป็นเลยซักนิด ขอให้ถือว่าติเพื่อก่อ  อย่าหาว่ามาจับผิดกันเลย ในฐานะของคนชอบอ่านคนนึงครับ สุดท้าย ต้องขออภัยที่อาจจะทำให้บางท่านต้องขุ่นเคืองใจ จากคุณ : ประกอบ - [ 24 เม.ย. 52 19:34:31 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ก็แถวนี้ ปราชญ์เยอะนี่นา :) ที่หลายคนกำกับเป็นภาษาอังกฤษก็เพราะแหล่งข้อมูลเดิมมันเป็นภาษาอังกฤษ หลายๆอย่างสังคมไทยยังไม่คุ้นกับมัน เช่นถ้าบอกว่าเอางานเขียนคนอื่นมาดัดแปลงเป็นภาษาไทยอย่างนี้ผมว่าหลายๆคนก็มองเป็นเรื่องไม่ร้ายแรงมาก ถ้าเป็นภาษาอังกฤษปุ้บจะเข้าใจทันที อย่างเรื่อง free speech นี่ก็ยังเป็นสิ่งที่ยอมรับกันได้ยากหรือไม่ค่อยเข้าใจกันอยู่ในสังคมไทย สงสัยแต่ว่าหากเขาไม่ให้พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลมาเสร็จสรรพ มันจะเป็นยังไง จากคุณ : anchan (anchan42) - [ 24 เม.ย. 52 22:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ทีภาษาเขมร มอญ บาลี จีน ฯ ที่ปะปนอยู่แล้วทำไมไม่รังเกียจกันบ้างหนอ? เวลาไปวัด ฟังพระเทศเป็นบาลี จะมีใครฟังรู้เรื่องสักกี่คน กี่ร้อยปีมาแล้วน่ะ ตั้งชื่อลูกสาวลูกชาย ยิ่งปัจจุบันเป็นภาษาแขกทั้งนั้น... จากคุณ : ขามเรียง - [ 24 เม.ย. 52 22:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ภาษาเขมร มอญ บาลี จีน ที่ปะปนนั้นเมื่อมาใช้ในภาษาไทยก็ถือเป็นการยืมคำ/รับอิทธิพลคำจากภาษาต่างๆเหล่านั้นมาปรุง ผสมผสานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาษาไทยไปแล้ว แน่นอนว่าการใช้ภาษาอังกฤษควบคู่ไปกับภาษาในวงวิชาการนั้นย่อมทำได้อย่างไม่ขัดเขิน แต่ แน่นอนว่าย่อมต้องให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาไทยอย่างเหมาะสมเช่นกัน มิเช่นนั้นจะถูกครหาว่าไม่อาจใช้คำไทยที่เค้าบัญญัติขึ้นมาอย่างปราณีตเพื่อมาอธิบายความได้ (แน่นอนว่าศัพท์บัญญัติที่น่าขันนั้นไม่ใช่สิ่งที่ราชบัณฑิตบัญญัติขึ้น) เผื่อว่าจะไม่ทราบว่าศัพท์บัญญัตินั้นก็มีใช้อยู่ทั่วไปทั้งๆที่วิชาทั้งหลายเหล่านั้นเป็นวิชาที่มาจากต่างชาติทั้งสิ้น แม้ในวิชาวรรณคดีอังกฤษที่เป็นอังกฤษจ๋า ในตำราภาคภาษาไทยที่เผยแพร่อาจารย์ผู้เขียนยังหลีกเลี่ยงการใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษเลย โดยพยายามจะสร้างสรรค์คำในภาษาไทยที่สวยๆ เหมาะสมมาลง ซึ่งบางคำผมทึ่งมาก แบบว่า คิดได้ไงเนี่ย และอีกประการคือถ้าหากเราคิดเช่นนี้หมดต่อไปคงทับศัพท์มาจริงๆ คือทับเอาคำใน "ภาษาไทย" จนบี้แบนหมด หรืออีกจะเป็นการ โขก เอาตำราต่างๆออกมาเพื่อแสดงระดับสติปัญญาก็เป็นได้ จากคุณ : Alovera - [ 25 เม.ย. 52 01:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ไม่เห็นด้วยเท่าไรนัก กับการใช้ไทยคำอังกฤษคำอย่างพร่ำเพรื่อ ในกรณีที่มีคำไทยที่สามารถแทนคำอังกฤษนั้นได้ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 25 เม.ย. 52 11:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 102 #97 ขอน้อมรับคำตำหนิเพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงครับ การสื่อสารที่ดีผู้ส่งสารควรจะเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้รับสารได้รับข้อความครบถ้วนและเข้าใจตรงตามเจตนาของผู้ส่งสาร ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ต้องขอยอมรับว่าไม่ได้แตกฉานในภาษาไทยนัก ในบางครั้งก็นึกหาคำที่เหมาะสมมาใช้แทนคำต่างชาติไม่ออก ซึ่งกลับเป็นภาษาที่มีความคุ้นชินมากกว่าในบางโอกาส  บางท่านอาจมองว่าเป็นการจงใจอวดโอ่ แต่ผมเองกลับรู้สึกละอายในความด้อยภาษาของตนเองเสียมากกว่า หาได้เป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจไม่ เวลาผมรับสารบางประเภท หากมีภาษาอังกฤษกำกับเอาไว้ก็จะถึงบางอ้อได้ไวกว่า จึงขอกำกับไว้สำหรับคนหัวอกเดียวกันเพื่อจะได้เข้าใจตรงกันง่ายขึ้น เรื่องของการใช้คำรุ่มรวย หรือศัพท์แสงทางวิชาการที่เข้าใจได้ยาก ทำให้อาจมีบางท่านอ่านแล้วสับสน ดังนั้นหากสามารถหลีกเลี่ยงไปใช้คำที่สามารถเข้าใจได้ง่ายก็ย่อมเป็นเรื่องดี แต่พราะในหลายโอกาสคำเหล่านี้ล้วนมีความหมายลึกซึ้งในตัวของมันเอง ไม่สามารถหาคำง่ายๆที่แทนความหมายและอารมณ์ได้อย่างครบถ้วน ผมจึงมีความเห็นว่าผู้รับสารเองก็ควรพยายามทำความเข้าใจบรรดาศัพท์วิชาการเหล่านั้นด้วยเช่นกันเพื่อให้การสื่อสารสำเร็จได้ตรงตามเจตนาของผู้ส่งสาร จากคุณ : Azure_Mile - [ 25 เม.ย. 52 15:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ประเด็นที่ผมสนใจอยู่ที่ 1. การยกย่อง ท่านคึกฤทธิ์ ไปเป็นระดับเดียวกับคนที่เคยได้รับการยกย่องไปก่อนหน้านั้น ... ท่านคึกฤทธิ์ เหมาะสมในระดับเดียวกับท่านที่ได้รับการยกย่องไปแล้วหรือไม่ .... หรือว่า จะพาดึงลง หรือว่า จะเข้ากลุ่มได้ 2.ส่วนคนที่ถามกลับว่า อาจารย์ส.ศิวรักษ์ เคยทำอะไร ใครชอบมากน้อย ดีเด่นเท่าหรือไม่  .... ประเด็นนี้ขอแนะนำว่า อาจารย์ส.ศิวรักษ์ เขาไม่ได้มาเป็นคู่แข่งในสนามนี้ ไม่ได้เอาตัวมาเปรียบ และอย่าเอาความคิดตัวเองจับคู่ไปเปรียบเขา .... เพราะระบบการคิดแบบนี้ จึงชอบมีคนเปรียบมวย แบบด้านเดียว เช่น นายกฯคนใหม่ ค้าขายเก่งเท่าคนเก่าหรือ นายกฯคนใหม่รวยเท่าคนเก่าหรือ นายกฯคนใหม่ เด็ดขาด ปราบโจรได้เท่าคนเก่าหรือ ซึ่งเป็นการเปรียบ แบบไร้ความลุ่มลึกใด ๆ จากคุณ : KK Tay - [ 25 เม.ย. 52 21:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 104 อืม อ่านสำนวนการตอบกระทู้ของคุณ fortuneteller แล้วรู้สึกคุ้นมากๆๆๆๆ พอมาอ่านเจอว่ามีการยกเลิกชื่อเก่าไป เลยมั่นใจว่าคือคนที่เราคิดแน่ๆ :) จากคุณ : ปี้เหนือ - [ 25 เม.ย. 52 23:40:06 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เมื่อโลกนี้ไม่มีคนชื่อคึกฤทธิ์ มันจะผิดแปลกไปที่ไหนนั่น ทิวาวารยังจะแจ้งแสงตะวัน ยามราตรีมีพระจันทร์กระจ่างตา ไก่จะยังขานขับรับอุทัย ฝนจะพร่ำร่ำไปในพรรษา คลื่นจะยังกระทบฝั่งไม่สร่างซา สกุณายังจะพร้อมระงมไพร ลมจะพัดชายเขาเหมือนเก่าก่อน เข้าหน้าร้อนไม้จะออกดอกไสว ถึงหน้าหนาวหนุ่มสาวจะเร้าใจ ให้ฝันใฝ่ในสวาสดิ์ไม่คลาดคลา ประเวณียังจะอยู่คู่ฟ้าดิน ไม่สุดสิ้นในความเสน่หา คนที่รักคึกฤทธิ์อย่าคิดระอา เพียงนึกถึงก็จะมาอยู่ข้างกาย คอยเข้าปลอบประโลมในยามทุกข์ เมื่อมีสุขก็จะร่วมอารมณ์หมาย เมื่อรักแล้วไหนจะขาดสวาสดิ์กาย ถึงตัวตายใจยังชิดมวลมิตรเอย ************************ อันนี้แถม คนไม่รักคึกฤทธิ์ก็มีมาก ล้วนแต่ปากจัดจัดถนัดเหลือ ตะละคำริษยาเหมือนยาเบือ เหมือนมีดเถือเกลือทาสาแก่ใจ คึกฤทธิ์บอกหมาเห่าภูเขาทอง องค์จะหมองหม่นเพราะหมาก็หาไม่ ภูเขาทองก็ยังทองอยู่ร่ำไป สบายใจตามวิสัยภูเขาทอง ตามสบายเถิดหนาพ่อทูนหัว คนเรามีดีชั่วเป็นคันฉ่อง สารพัดคิดอ่านล้านมุมมอง จะยกย่องหรือเหยียดหยามก็ตามใจ ****************** จากคุณ : cybrarian - [ 26 เม.ย. 52 16:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ...ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นครับ จากคุณ : เจ้าชายโดดเดี่ยว - [ วันฉัตรมงคล 00:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 107 มาช้าไปป่าวเนี่ย IMHO  โดยความเห็นอันต่ำต้อยของข้าพเจ้า ผมคิดว่า(พิมพ์ข้าพเจ้ามันยาว อิอิอิ) ทำไมพวกเราถึงไปมองในแง่การประพันธ์กันอย่างเดียวล่ะครับ คึกฤทธิ์ ท่านเป็นผู้ฟื้นฟูโขน เป็นผู้รู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับโบราณราชประเพณี เป็นซือแป๋ในทางการเมือง เป็นสื่อมวลชนผู้ทรงอิทธิพล เป็นพหูสูตในด้านต่างๆ ในทางการเมืองก็มีบทบาทมากหลาย หนึ่งในนั้นคือการเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนคอมมิวนิสต์ เพื่อไม่ให้ไทยตกอยู่ในกำมือของอเมริกามากไป เรียกว่ามีวิสัยทัศน์กว้างไกล  ท่านไปหาเหมาพร้อมกับ พล อ. ชาติชายไงครับ แน่นอนว่าท่านไปทุกวงการยังงี้ต้องแปดเปื้อนอยู่แล้ว มีผิดมีถูก มีดีมีเลว หากมองภาพรวมๆแล้ว ท่านก็เป็นเอกบุรุษคนหนึ่งที่มีอัจฉริยะภาพสูงส่งในหลายด้าน และด้านที่เด่นที่สุดคือการประพันธ์ ถ้าเราจะมองโลกในแง่ดีนะ ผมว่า ท่านคึกฤทธิ์ มีดีทั้งวิธีการเล่าเรื่อง วิธีการลำดับเรื่อง และที่สุดคือสำนวนไทยที่สละสลวย ทรงพลัง ยกตัวอย่าง "เศวตรฉัตรแห่งรัตนปุระอังวะ อันกางกั้นถึง 9 ชั้น แต่มาบัดนี้กลับหาร่มเงาไม่ได้เสียแล้ว" (จำไมได้แน่ชัด) จากเรื่องพม่าเสียเมือง ตอนที่พระเจ้าสีป่อสั่งฆ่าล้างวงศ์ของตัวเองเพื่อไม่ให้มาแย่งสมบัติ นั่นหมายถึงว่าพระราชาไม่ได้อยู่ในศีลในธรรม เศวตรฉัตรก็ไม่มีความหมายต่อไป แหม มันได้ อารมณ์และ บรรยากาศนะ ผมเล่าตรงนี้อาจจะงั้นๆ แต่แนะนำให้ไปอ่านเล่มจริง เหมือนกับท่านคึกฤทธิ์สร้างหนังให้เราดูผ่านทางหนังสือเลย อรรถรสทางหนังสือของท่านนี่ IMHO นะ ผมว่าหาคนเปรียบยาก เรียกว่าท่านเป็นศิลปินและตัวหนังสือคือพาหะ หนทางในการถ่ายทอดศิลปะของท่าน เรื่อง copycat นั้น IMHO ผมว่าท่านเอามาดัดแปลงมากกว่า ทีนี้ในสมัยนั้นอาจจะไม่ซีเรียสเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ ท่านอาจจะถึงว่าท่านดัดแปลงแล้ว โดนที่ท่านอ่านแล้วท่านอาจจะคิดว่าท่านเขียนได้สนุกกว่า ไม่ใช่ลอกโดยตรง ท่านอาจจะไม่ต้องให้เครดิต มาตรฐานสมัยนั้นอาจจะไม่ถือสา แต่พอมาสมัยนี้มันเป็นเรื่องซีเรียส ก็ว่ากันไป นี่ผมพยายามมองโลกในแง่ดีนะครับ หรือท่านใช้โครงเรื่องนั้นๆมาทำให้เข้ากับสถานการณ์ในประเทศ เช่นไผ่แดง ท่านก็ปรับให้เข้ากับความเป็นไทย และสถานการณ์การเมืองในสมัยนั้น หลายชีวิตก็เหมือนกันมันสะท้อนชีวิตคนไทยในยุค 40-50 ปีก่อนได้อย่างมีชีวิตชีวา  ซึ่งผมว่ามันก้ไม่ได้เสียหายร้ายแรงอันใด  ที่ผมว่าท่านขาดสปิริตไปบ้างก็ตรงที่ท่านไม่ได้ให้เครดิตในที่มา มีเรื่องสั้นเรื่องนึงของ สมเถาว์ สุจริตกุล ก็ยังโดนฝรั่งก๊อบโครงเรื่องไปเฉยๆโดยไม่บอก ไปทำเป็นหนังดังด้วย เรื่อง the Grounhog day ไงครับ อย่างชุดสามก๊ก ผมว่าท่านก็ไม่ได้จงใจบิดเบือนว่าเบ้งเฮ็กเป็นคนไทยซํกหน่อย ถ้าอ่านดีๆหน้าแรกๆท่านก็บอกแล้วว่าท่านตั้งธงแบบนี้เอาไปอ้างอิงไม่ได้ แล้วก็พยายามตีความมั่วๆซั่วๆไปเรื่อย ด้วยความสนุกสนาน เรื่องโจโฉก็เช่นกัน ท่านคงเขียนประชดประชันนายทุนใหญ่สมัยนั้น และที่สำคัญคือ ท่านเขียนแดกดันจอมพล ป. ครับ  อย่าลืมว่าหนังสือเหล่านี้เขียนลงสยามรัฐ รายวัน เป็นตอนๆแล้วมารวมเล่ม ดังนั้นเจตนาก็เพื่อล้อเลียนบุคคลทางการเมืองในสมัยนั้นด้วย ดังนั้นในด้านอักษรศาสตร์จะไปกล่าวหาท่านเพียงแค่ขโมยแนวคิดมาเสียทั้งหมดก็ดูจะตื้นเขินเกินไป สำหรับผมนะจุดเด่นของบทประพันธ์ของท่านไม่ได้อยู่ที่โครงเรื่องซักเท่าไหร่ แต่อยู่ที่ศิลปะการใช้ภาษาของท่านต่างหาก จากคุณ : davebartus - [ 12 พ.ค. 52 02:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ส่วนคำวิจารณ์ของ ลุง ส.ศิวรักษ์นั้น ผมเห็นด้วยแค่ครึ่งหนึ่ง เพราะท่านชอบมองโดยนัยแคบตามประสาของท่าน อะไรที่ท่านไม่ซาบซึ้ง หากมีจุดอ่อนท่านก็เล่นซะ ไม่ค่อยเปิดทางให้อย่างอื่น แต่ผมชื่นชมท่านมากๆนะครับ ท่านคือปัญญาชนคนกล้าตัวจริง กล้าวิจารณ์สถาบันอย่างเปิดเผยจริงใจ และที่สำคัญ ท่านติเพื่อก่อ ซึ่งถูกบ้างผิดบ้างก็ว่ากันไป ที่สำคัญคือความจริงใจและความหวังดีครับ (ความหวังดีของท่านก็โดนไปหลายคดีเหมือนกัน) ยกตัวอย่างเช่น ท่านพูดถึงเรื่องการยกยอสถาบันเกินเหตุ และท่านยกตัวอย่างเรื่องเพลง  ท่านบอกว่าเป็นเพลงธรรมดาไม่ได้ดีเด่นอะไร ก็แหงล่ะครับโดยรสนิยมท่าน ส ศิวรักษ์ ท่านอาจจะไม่ชอบ Jazz แบบไทยๆที่เต็มไปด้วยตัวโน๊ตโครมาติก คอร์ดเสียงแปร่งๆแบบนี้ก็ได้ แต่ท่านไปเหมารวม บอกว่าดาดๆไปหมด ผมอ่านทีแรกผมก็แย้งในใจเลย (จิงๆผมรักท่าน ส ศิวรักษ์มากเลยนะจะบอกให้) ว่าในฐานะที่ผมศึกษาด้านดนตรีมาพอควร อจ.ที่สอนผมซึ่งเป็นปรมาจารย์ทางดนตรีในเมืองไทยคนนึง  ตอนที่เราเรียนเรื่องการเรียบเรียงเสียงประสานในทางดนตรีแจ๊ส (Jazz Harmony) อจ ท่านบอกว่าไม่ต้องศึกษาตัวอย่างจากเพลงฝรั่งเลยนะ เอาเพลงพระราชนิพนธ์นี่แหละ เพราะเขียนทำนองสละสลวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้คอร์ด แบบว่าชั้นครูเลย มีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป และฟังดูดี ผมศึกษาดูก็พอเข้าใจก็ร้องโอ้โห เรียกว่าบทประพันธ์เช่นนี้ไม่ว่าแต่งโดยใคร ก็ย่อมต้องได้รับการชื่นชม แน่นอนว่าไม่ใช่ความชื่นชมระดับเดียวกับเพลงของ Beethoven Mozart etc.. แต่อย่างน้อยไม่ใช่เพลงดาดๆอย่างที่ อจ ส.ศิวรักษ์ว่าไว้เป็นแน่แท้ ดังนั้นการออกมาแย้งของ อจ สุลักษณ์ ผมว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ ท่านก็มีประเด็นของท่านอยู่ แต่เป็นผมผมก็รู้สึกว่าท่านคับแคบไปในบางครั้ง และที่ท่านกล่าวหาก็ไม่ได้เป็นธรรมต่อท่านคึกฤทธิ์ไปทั้งหมด ส่วนท่านคึกฤทธิ์ ท่านก็มีอัจฉริยภาพมากหลาย แต่ก็มีตำหนิอยู่ไม่น้อย สรุปว่า ด้วยปัญญาอันต่ำต้อยของข้าพเจ้าไม่สามารถแทงไปข้างใดข้างหนึ่งได้อย่างเด็ดขาด ดังนั้นจึงเห็นชอบว่าควรจะมีคณะกรรมการ หรือเปิดประชาพิจารณ์ก่อนการส่งไปประกวด (เอ๊ะ ถ้ายังงี้ผมก็เห็นด้วยกับ อจ ส.  สินะ 5555) ปล. ประโยชน์ที่แท้จริงก็จะเกิดในตอนที่มีการพิจารณ์นี่แหละครับพี่น้อง ใครมีความรู้ด้านใดก็จะเอามาแบ่งปันกัน ก่อเกิดให้ปัญญาแตกฉาน  หากท่าน อจ หม่อม คึกฤทธิ์ รู้ว่าลูกหลานเอาเรื่องของท่านมาอภิปรายเพื่อขัดเกลาปัญญาเช่นนี้ ท่านคงภูมิใจมาก (ผมเดาเอานะ อิอิอิ จากบุคลิก และแนวคิดของท่าน และจากกลอนข้างบนที่แสดงให้เห็นว่าท่านเข้าใจโลกอย่างลึกซึ้ง) จากคุณ : davebartus - [ 12 พ.ค. 52 03:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 109 Plagiarism มากไป ผมว่า จากคุณ : Ryuichi - [ 23 พ.ค. 52 12:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 110 สำหรับหัวข้อกระทู้ ผมว่าท่านคึกฤทธิ์ อาจจะยังไม่โด่งดังหรือเก่งกาจถึงระดับโลกจริง แต่เรื่องลอกงานเขานี่ กระแสลิขสิทธิ์มันเพิ่งมีมาไม่นานมากเลยนะครับ อย่างการ์ตูนเพิ่งมีการทำลิขสิทธิ์เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง สมัยผมยังเด็ก(10ปีที่แล้ว) การ์ตูนไพเรทยังวางขายเกลื่อน ทั้งไดโรมอน ดราก้อนบอล เรื่องวรรณกรรม ผมก็จำได้ว่า ป.อินทรปาลิต คนเขียนสามเกลอ แกก็เอาพล็อตหนังฝรั่งของแกมาเขียนสามเกลอหลายตอน ไม่รู้เครดิตอะไรไว้บ้างรึเปล่า คนอื่นไม่เท่าไหร่ คุณfortuneteller นี่สิ เขียนทุกคห.ทำเอาผมงงอ่านไม่รู้เรื่องเลย เล่นเอาศัพท์ปราชญ์ชั้นสูงมาใช้เฉยเลย ไอ้ผมมันก็แค่เด็กเอนท์ ไม่ได้จบตรรกศาสตร์ เรียนมาแค่ตรรกศาสตร์ในเลขม.ปลาย อ่านไม่รู้เรื่องครับ ถ้ายังไงท่านช่วยเขียนให้คนโง่ๆอ่านรู้เรื่องหน่อยจะเป็นพระคุณมากๆเลยล่ะครับ จากคุณ : Chineseman - [ 23 พ.ค. 52 19:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 111 แม้ว่า เราจะไม่เห็นด้วยกับการชูมหาบุรุษ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K7735173/K7735173.html คห.269 แต่ในบริบทนี้ เราเข้าใจว่า ยูเนสโก้เกี่ยวข้องกับการศึกษาและวัฒนธรรม ดังนั้นบุคคลสำคัญของยูเนสโก้ก็คงเป็นเรื่องนี้ คงไม่ใช่เรื่องการเมือง การที่เราจะวิจารณ์บุคคลหนึ่ง เราก็เชื่ออีกว่า ในหมวกแต่ละใบเขาดีแย่แค่ไหน ในฐานะนักเขียนเราเห็นด้วยกับคห.ข้างบนหลายข้อ ในเรื่องการลอกเลียน ซึ่งแสดงถึงการขาดจรรยาบรรณ(ท่านอาจารย์หม่อม ท่านก็เรียนนอกมาเรื่องนี้เป็นที่ท่านต้องรู้ต้องเข้าใจอยู่แล้ว) แต่เราก็เชื่อว่า ความสามารถในการเขียนของท่านยอดเยี่ยมมากมาย(เหมือนนักพนันที่โกง ว่าเขาก็เก่งที่โกงได้เช่นกัน ไม่ได้แปลว่า เขาดีนะ) ในเรื่องการเมืองนั้น น่าจะตัดไป เพราะไม่เกี่ยวกับยูเนสโก้ และ ความเชื่อทางการเมืองมันไม่ถูกไม่ผิดอย่างชัดเจนนัก การที่อ.ส.ศิวรักษ์ ไม่เห็นด้วยกับท่าที่ทางการเมืองของท่าน ก็เป็นความเชื่อส่วนตัว เราก็ไม่วิจารณ์อ.ส.ด้วย ในเรื่องการรื้อฟื้นศิลปะวัฒนธรรมไทย ท่านก็ทำไว้ไม่น้อย เราไม่รู้ว่าเกณฑ์ของยูเนสโก้อยู่ที่ใด แต่หากต้องเสนอชื่อ อ.หม่อม(คือไม่มีคนอื่นเปรียบเทียบ) เราก็สนับสนุน หากมีให้เปรียบเทียบ เราก็จะคิด เช่นเทียบ กับอ.ส. เราก็คงเลือกอ.หม่อม หากมีมากกว่านี้อีก เราก็จะพิจารณาเพิ่ม หากไม่การเสนอชื่อเลย เราอาจจะคิดหนัก ที่จะเสนอใครสักคน เสียดายว่า เราไม่เคยเจอตัวจริง อ.หม่อม แต่โตทัน เสียดายอีกเช่นกัน ที่เคยเจอ อ.ส. หลายครา แม้ไม่ได้รู้จักเป็นส่วนตัว ก็(คิดเอาเอง)คิดว่า ท่านอาจจะไม่เหมาะหากถูกเสนอชื่อในหัวข้อเดียวกัน ท่านรู้มาก แต่ไม่มากกับที่ท่านพูด(เรารู้น้อยกว่านะ และเราอาจจะพูดมากกว่าที่เรารู้ อิอิ) เราสังเกต(เอาเอง)ว่า ท่านไม่ทำตัวอย่างที่ท่านสอนท่านพูด แต่เพียงแค่นั้นคงไม่สั่นคลอนท่านนะ(ท่านคงเป็นภูเขาทอง เราเป็นแมว) เพราะท่านชอบวิจารณ์ทุกเรื่องที่ท่านไม่ชอบ เราก็คงวิจารณ์ท่านในจุดนี้ได้เหมือนกัน(มั้ง) ส่วนตัวเราเลย เราสงสัย(เอาเองอีกแล้ว)ว่า ท่านอยากถูกเสนอชื่ออย่างนี้บ้าง (แหม แต่ท่านก็ได้ อัลเตอร์-โนเบลมาแล้ว เราก็ไปงานนั้น ลูกศิษย์ลูกหาท่านยินดีอย่างกับท่านได้โนเบลจริงๆ) ท่านเป็นไม่กี่คนที่เราจะเรียกว่า มีอาชีพเป็นนักวิจารณ์ ได้(เพราะเราไม่รู้ว่าท่านทำอะไรเลี้ยงชีพ นอกจากเขียนวิจารณ์สิ่งต่างๆ) ปล. เราไม่ชอบเช่นกันที่เชื่อกันว่า คนที่สิ้นไปแล้วควรจะเป็นคนดี(เพราะเขาสิ้นไปแล้วนะสิ) กรรมอันคนนั้นกระทำมาจะกำหนดเขา มิใช่หนังสืองานศพนะจ้ะ เพราะอ.ส.คงจะเป็นคนดีเมื่อตอนนั้นนั่นเอง โถ แก้ไขคำผิดและเพิ่มเติม แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 22:45:14 จากคุณ : แมวนุ่งผ้าม่วง หนีมาจากก้นครัว (แมวคาบมีด) - [ 26 พ.ค. 52 17:16:58 ]