ความคิดเห็นที่ 1 ผมยืม login ของคนข้างๆ มาตอบนะครับ เคยไปร้านนี้ที่จตุจักรครั้งหนึ่ง อารมณ์เหมือนถูดสะกดรอยตามอย่างไงอย่างนั้นเบื่อมากครับ อีกอย่างร้านนี้ขายแพงเกินไป เดินขนาดว่า ผมเห็น "ฝนดำ" หรือ "ฝนสีดำ" จำชื่อไม่ได้ เป็นนวนิยายเกี่ยวกับญี่ปุ่นตอนที่ถูกบอม ราคาในร้าน ๔๕๐ บาท สองจิตสองใจ แต่ไม่ซื้อใจเย็นๆ  ค่อยๆ หาไป หลังจากนั้นไม่น่าจะเกินสองเดือน ผมไปได้ที่ร้านขายหนังสือมือสองแถวบ้าน อยู่ในชั้นรวมๆ กัน คนขายขายให้ ๕๐ บาท งงงงรีบคว้าเลยครับ ดีนะไม่ตัดสินใจซื้อ และผมยังไม่เคยซื้อหนังสือของร้านนี้ และไม่เข้าอีกเลย เพราะรู้สึกว่ามันแพงเกินเหตุ ถ้าอยากได้เล่มไหนก็อยากให้ใจเย็นๆ ครับ ร้านบางร้านเอาปี พ.ศ. และชื่อของนักเขียน (บก. ด้วย) เป็นตัวตั้งราคา มีอีกร้านหนึ่งอยู่แถวๆ วัดพระศรีฯ ก่อนถึงอู่รถ ขสมก. ร้านนี้ก็แพงมากๆ อย่างช่อการะเกดเล่มแรกๆ ๑ - ๕ เล่มหนึ่งเกือบพัน ซื้อยกชุดเกือบสี่พัน โห...ผมละอยากจะเอาของผมไปขายในราคาเท่านั้นบ้าง เพราะผมได้จากที่งานสัปดาห์เล่ม ๒ - ๔ ราคาแค่ สามเล่มร้อย เลยเอามาอย่างละสาม สี่ เล่ม ส่วนหนึ่งอยากจะให้ช่วยบอกต่อๆ กันไปว่าอย่าซื้อหนังสือที่แพงเกินควรครับ เราเป็นแค่นักอ่านไม่ใช่นักสะสมของเก่า เท่านี้นะครับ ยืม login มาตอบ (สยามวรรณกรรม) ปล.แก้ไขข้อความผิด ๒ รอบ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 11:13:13 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 11:07:59 จากคุณ : สายลมอิสระ - [ 28 เม.ย. 52 11:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะที่เตือนก่อน เพราะไปร้านหนังสือเก่าก็ไม่เคยฝากกระเป๋าซักที จากคุณ : neokathin - [ 28 เม.ย. 52 11:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นหัวข้อกระทู้แล้ว    ก็ขอเข้ามาคุยด้วยแล้วกัน     ผมเป็นนักสะสมหนังสือเก่า     ร้านนี้จึงเป็นที่รู้จักมานาน       ไปงานหนังสือก็ไม่เคยขาดที่จะเข้าไปแวะเวียนดู ประเด็นแรก เรื่องพฤติกรรมแย่ ๆ ของ ร้านที่เคยมีอัธยาศรัยไมตรีอันดียิ่งกับนักคุ้ยอย่างผม      ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย   ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานเสียหายไปกับคนรุ่นหลังที่มารับช่วงต่อ         ซึ่งอาจจะไม่ได้คิดที่จะดำรงค์กิจการนี้ไว่ต่อไปด้วยความเบื่อหน่าย     ส่วนผมยังไม่เคยเจอพฤติกรรมเช่นเดียวกับเจ้าของกระทู้       ก็ขอรับฟังเอาไว้มีโอกาสเมื่อใดจะไปลองสัมผัสด้วยตัวเอง ประเด็นที่สองเรื่องหนังสือแพง      ถ้าเป็นหนังสือใหม่คงไม่ใช่ปัญหาอะไร       เพราะมีร้านที่แย่งกันขาย      ทำโปรโมชั่นมีส่วนลด       จนคนซื้อหนังสือใหม่รอว่าร้านไหนหรืองานใดจะมีส่วนลดมากกว่ากัน       จึงจะไปซื้อ        ส่วนนี้จึงเป็นตลาดของผู้ซื้อว่าจะรอไปซื้อที่ไหนได้ถูกว่า แต่ถ้าเป็นหนังสือเก่านี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง       ราคาจะอยู่ที่คุณค่าและชื่อเสียงของหนังสือ การหาได้ยากเพราะพิมพ์ออกมานาน   ตลาดนี้จึงเป็นของผู้ขาย เราผู้ซื้อจึงต้องชั่งใจเอาเองว่าจะอดทนค้นหาต่อไป     หรือซื้อไปเลยเพราะคาดว่าจะไม่มีโอกาสเจอะเจอหนังสือเล่มนี้อีก และถึงตรงนี้ก็จะเล่าประสบการณ์ของผมที่ยังพอใจร้านหนังสือนี่อยู่ ในงาน หนังสือแห่งชาติหลายปีผ่านมาแล้ว ที่ร้านหนังสือแม่จินดา   หลังจากค้นดูหนังสือจนเหนื่อยแล้ว มองขึ้นไปชั้นบนสุดเห็นหนังสือเล่มเล็กนิดเดียวห่อพลาสติกไว้มิดชิดจึงขอดู เป็นหนังสือที่ผมเองเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ชื่อหนังสือ กากีฉิมพลีพิศ   โดย นเรศ นโรปกรณ์   ในหนังสือท่าน นเรศ นโรปกรณ์  เอาบทกลอน  กากีกลอนสุภาพของท่านเจ้าพระยาพระคลัง(หน)   มาถอดคำกลอนเล่าเรื่อง กากี   พร้อมทั้งอธิบายความหมายศัพท์ต่าง ๆ ให้เข้าใจดียิ่งขึ้น    พร้อมกับเรื่องขุนช้างขุนแผน  และจันทโครบ หนังสือพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๘    ราคา ๖.๐๐ บาท (หกบาท) ที่ร้านป้าจินดา ติดราคาขายไว้ 250 บาท ผมพยายามต่อเท่าไหร่ป้าแกก็ไม่ยอมลดราคาให้ บอกว่าหนังสือสภาพดีมากและแกมีเล่มนี้เล่มเดียว ผมตัดสินใจยากมากราคาปกกับราคาขายต่างกันมาก แต่ก็ตัดสินใจซื้อมาเพราะชอบกลอนเรื่อง กากี และผมคิดว่าคงตัดสินใจไม่ผิดเพราะไม่เคยพบหนังสือเล่มนี้มีวางขายอีกเลย และจึงถึงบทสรุปที่ว่าหนังสือเก่า     ราคาปกไม่ใช่ตัวตั้ง   ถูกแพงอยู่ที่ อุปสงค์ กับ อุปทาน ถ้าของหาง่ายราคาก็ถูก    ของหายากราคาจึงแพง แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 52 13:09:47 จากคุณ : Sv - [ 28 เม.ย. 52 13:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เคยแวะเข้าไปที่เวิ้งร้านหนังสือมือสองที่จตุจักร สักสองสามเดือนก่อน หลังจากที่ห่างหายไปหลายๆปี บรรยากาศไม่น่าเดินดูครับ หน้าตาคนขายไม่เป็นมิตรเอาทั้งเวิ้ง เปิดดูหนังสือ หยิบจับแล้วไม่ซื้อ เห็นราคาก้อถอดใจไม่อยากต่อ เดินผ่านไปไม่กี่ก้าว ผมเดินทิ้งช่วงกับเพื่อน ได้ยินคนขายด่าไล่หลัง คงเป็นเพราะอากาศร้อนอบอ้าว ออ๊กซิเจนน้อย ขโมยชุม ค่าเช่าแพง เครียต อะไรก้อแล้วแต่ รวมๆแล้วไม่น่าเดิน แล้วจะไม่ไปถ้าไม่จำเป็นครับ จากคุณ : kinglear - [ 28 เม.ย. 52 15:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผ่านมาอ่านเจอนะคะ เลยขออนุญาตสมาชิกทุกท่านมาเพิ่มเติมด้วยคน ว่าในเวิ้งเดียวกัน เคยไปพบหนังสือที่หายไปจากห้องสมุดของบริษัท เป็นหนังสือดีไซน์ปกแข็ง ไม่ใช่เล่มเดียวค่ะ หลายเล่ม แต่ละเล่มยังมีโลโก้บริษัทที่ปั้มไว้บนหน้าแรกอยู่เลย รับของโจรค่ะ จากคุณ : p - [ 28 เม.ย. 52 22:13:04 A:58.9.227.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 มือใหม่ ต้องมาเพิ่มเติมอีกครั้งว่าหากรับซื้อมาโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ขอโทษด้วยค่ะ แก้ไขเป็นคำว่า "สงสัยว่ารับของโจร" หรือ "รับของโจรโดยไม่รู้ตัว" นะคะ จากคุณ : เซ่อๆซ่าๆ - [ 28 เม.ย. 52 22:16:15 A:58.9.227.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 แม่จินดา  ผมไม่เข้าไปเหยียบเลยครับ  เหมือน จขกท.คือทนพฤติกรรม ของคนขายไม่ไหว  และขอบอกว่าราคาหนังสือก็แพงแบบโง่ๆ หนังสือของแม่จินดาบางเล่มนะแพงมากแบบไม่มีเหตุผล  ถ้าอยากซื้อ หนังสือแพงๆร้านนี้แล้ว จะมีเงินอย่างเดียวไม่พอ  ต้องโง่ด้วย ถึงจะซื้อลง ส่วนร้านหนังสือวิมล  อัธยาศัยเจ้าของร้านโอเคครับ เป็นมิตรดี แต่หนังสือ ก็แพงพอๆกับแม่จินดา   ผมก็งง กับคนบางคนนะ ที่สามารถซื้อหนังสือของแม่จินดาได้  ผมคนหนึ่งละ  อย่าว่าแต่จะซื้อเลย  เดินผ่านร้าน  ยังไม่อยากจะมองเข้าไปเลย จากคุณ : Classical Guy - [ 29 เม.ย. 52 14:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ในฐานะนักอ่านหนังสือเก่า  เสียใจที่คุณ jackanape เสียอารมณ์ กับ ร้านแม่จินดา การแว๊ดกับลูกค้า  ใช้ไม่ได้ ทำไมไม่พูดว่า  ประทานโทษนะค้า....วางกระเป๋าไว้ก่อนได้ไหมค้า......... ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นเด็กหนุ่ม  หนุ่ม  และผู้พยายามเป็นหนุ่ม  หญิงสาว   หญิงชราที่อ่อนแอ ก็แว๊ดไม่ได้ คนหนุ่มสาวจะเป็นลูกค้าไปอีกนานต้องให้เกียรติสูงกว่าลูกค้าสูงวัยด้วยซ้ำ   ลูกค้าที่เข้าร้านเป็นครั้งที่สองแล้ว  ยังจำไม่ได้อีกหรือ จะหมุนพัดลมไปทางตัวเองก็ไม่ควร  ทำไมไม่เอาน้ำเย็นมาให้ลูกค้าก่อน แล้วขออนุญาต ว่าตัวเองกำลังจะเป็นลมล้มฟาดชักกระตุก การกินของว่าง ขนมและผลไม้ต่อหน้าลูกค้า  เป็นการไม่สุภาพ ยื่นไม้จิ้มมะกอกให้ลูกค้าด้วยไม่ได้หรืออย่างไร หมูปิ้งแถวนั้นอร่อยไม่ใช่หรือ การคิดเงินหนังสือแล้วไม่ได้ใส่ถุงให้  เมื่อลูกค้ามาแจ้ง สมควรเชื่อลูกค้าไว้ก่อนเพราะใครเขาจะถ่อร่าง(แปลว่าเดินทางมาลำบาก)กลับมาที่ร้านบ่อยๆถ้าไม่มีธุระ ขอโทษลูกค้า(เล็งบุคคลิกแล้วว่ากลับมาซื้ออีกแน่ ๆ)แล้วหาหนังสืออื่นในราคาใกล้เคียงหรือสูงกว่าให้ไป  เพราะสันนิษฐานว่าเป็นความรับผิดชอบของคนคิดสตางค์และเอาหนังสือใส่ถุง เรื่องการต่อรองราคาควรชี้แจงโดยสุภาพว่ารับซื้อมาในราคาแพง  เป็นหนังสือหายาก  พิมพ์ครั้งแรก   หลุดมาจากบ้านท่านเจ้าคุณโต๊ะทองหรือบ่าวขโมยมาขาย  แล้วลดราคาให้ไปตามควร  สำหรับลูกค้าที่ซื้อหลายเล่มถึงจะรวมเงินไม่มาก  ก็ควรลด ๒๐%  ปัดเศษทิ้งด้วย หนังสือจะได้หมุนเวียนไม่ถูกฝุ่นเกาะ ลูกค้าที่มีความสุขจะเผลอจ่ายเงินมากกว่าที่ตั้งใจจะจ่าย ร้านแม่จินดามีชื่อเสียงมานานแล้วว่าอัธยาศัยไมตรี   หาหนังสือดีมาเข้าร้านได้บ่อย ลองคิดดูทีซิว่า ร้านหนังสือในระดับเด็กกว่ามากๆ  ทำไมหาหนังสือได้ดีทีเดียว ในราคาไม่แพงเท่า   นี่คือประเด็นของเรื่อง ลูกสาวของแม่  ที่รักแม่มาก   ที่ช่วยงานแม่มาตลอด  รับภาระหนักมากกว่าเบา จะรักษาชื่อเสียงของร้านไว้ไม่ได้เชียวหรือ ลูกค้าคือทรัพยากรของร้าน  ไม่ใช่หนังสือที่ร้านถือไว้ ทั้งหมดนี้  พูดกับน้องดา   เจ้าของร้านแม่จินดา จากคุณ : แสนอักษร - [ 29 เม.ย. 52 17:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ คุณ supit_p   ที่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยมิได้แอบแฝงประโยชน์ส่วนตนแม้แต่น้อย ร้านป้าวิมลนั้นธิดาของเธอก็พยายามดำเนินการต่ออยู่ เสียดายเวลาเหลือเกินที่ไม่ได้รู้จักป้าวิมลดีกว่านี้ เพราะคิดเอาเองว่าร้านขายแต่หนังสือวิชาการ  ไม่ใช่แนวที่ตัวเองอ่าน ป้าวิมลเป็นคนงามทั้งวาจาและใจ   ทุกๆคนที่ป้ารู้จัก  "น่า...ร้าก" ทั้งนั้น สำหรับเฮียเก๋านั้น เราจักกระทำยุทธนาการกันสืบไป จากคุณ : แสนอักษร - [ 29 เม.ย. 52 17:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไปเดินจตุจักรเคยหลงเข้าไปร้านนี้ เราก็โดนมาเหมือนกัน ( ไม่คิดว่าคนอื่น จะโดนด้วย อิอิ ) จำได้แม่นเลย เพราะร้านนี้มีกล้องวงจรปิดจับทุกความเคลื่อนไหว ตอนเดินเข้าร้าน เจ้าของร้านผู้หญิงก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับแล้ว บรรยากาศมาคุโคตร น่ากลัวอ่ะ เราก็ไปค้นกะจะหานิยายโรแมนติกอะไรตามเรื่อง พอดูราคาถึงกับช๊อก แพงมาก วัยทำงานอย่างเรายังต้องขอคิดดูก่อนเลยว่าจะซื้อเลยหรือจะรอพิมพ์ใหม่ดี วันที่เราไปก็ไม่ค่อนมีคนน่ะ สงสัยไปทำแสบกับลูกค้าไว้เยอะมั้ง สรุปสั้น ๆ ไม่ไปอีกแล้วอ่ะ จากคุณ : กุหลาบไร้หนาม - [ 29 เม.ย. 52 22:17:29 A:58.136.227.106 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในฐานะเป็นคนชอบหนังสือ เจอเรื่องราวทำนองนี้เช่นกันครับ มีมากมายหลายแบบ ทั้งในสถานที่ให้ยืมหนังสือ และสถานที่ขายหนังสือ บางคนมองเราตั้งแต่หัวถึงเท้า อย่างที่เราไม่คาดคิด และทำใจไม่ทัน ทั้งที่เราพยายามทำตัวโลโพรไฟล์ตลอด และทุกถิ่นที่ บางคนก็ปากไวเหลือเกิน พูดจาดูถูกคน ยิ่งพูดเธอยิ่งเมามันและเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ  ผิดกับหน้าตาที่ปรุงแต่งซะเฉิดโฉมและทำงานในสถานที่มีเกียรติ บางร้าน(ย้ำ บางร้าน) เราซื้อบ่อยเป็นสิบรอบจนเขาจำหน้าได้ สุดท้ายเขาก็เริ่มขายหนังสือในราคาที่เราเริ่มรับไม่ไหวเช่นกัน แปลกนะที่ลูกค้าขาประจำกลับได้ในราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ  ความจริงเราอยากให้เขาปฏิบัติต่อเราเช่นลูกค้าทั่วไป เช่นหนังสือชุดหนึ่ง ลองถามดู เขาบอกว่าครบชุด ๓ เล่ม ขาย ๒๕๐ แต่เราเห็นว่าเกินไป จึงรอซื้ออีกร้านหนึ่ง ครบชุดจริง ๆ แต่เป็น ๖ เล่ม ขายให้ ๑๐๐ บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ (ร้านนี้ก็ร้านประจำอีกร้าน) ความจริงไม่อยากได้ชุดนี้เท่าไรหรอก เพราะหนังสือจะล้นบ้าน แต่จำใจต้องซื้อมา เพื่อเอาชนะร้านนั้น อย่างน้อยก็เป็นความรู้สึกชนะทางใจ สำหรับผม ความอยากได้หนังสือ เป็นส่วนหนึ่ง แต่บรรยากาศก็มีส่วนสำคัญด้วยเช่นกัน ยิ่งอากาศร้อน ๆ การเมืองเครียด ๆ แบบนี้ คงไม่อยากหลงเข้าไปจ่ายเงิน เพื่อให้คนกระแทกแดกดันอย่างไม่สมควรอย่างนี้ แต่ในใจก็รู้สึกขอบคุณกิริยาอาการของคนเหล่านี้บ้าง ที่เป็นแรงใจทำให้เราต้องดั้นด้นขุดคุ้ยเจอแหล่งหนังสือที่ "ใช่" อีกมากมาย และความเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่วงการ หรือสถาบันอันทรงคุณค่าที่โฆษณากันอยู่  ความจริงเป็นแค่เปลือกที่คนมาทาสีให้เท่านั้น นี่เป็นเสียงสะท้อนสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเหล่านี้ จากลูกค้า(ที่ดี)คนหนึ่งนะครับ สำหรับแง่ไม่ดีของลูกค้า และอยากให้ช่วยพ่อค้าแม่ค้าที่สุจริต เช่น หยิบหนังสืออย่างทนุถนอม อย่าไปรื้อค้นกระจุยกระจายอย่างที่คนต่อมาต้องค้นหาลำบาก  เห็นบ่อยตอนงานหนังสือ ยังคิดว่าพวกหนอนที่รักหนังสือ ทำไมถึงทำอย่างนี้ ตัวเองอยากแต่จะได้ แต่ไม่คิดถึงคนอื่น ลึก ๆ มันเหมือนคนเห็นแก่ตัว อ้อ สำหรับหนังสือที่ไม่มีราคาแปะ อย่าบอกผ่านมากเกินไปด้วย ความเป็นขาประจำทำให้ไม่อยากต่อรอง แต่ถ้ารู้ตอนหลังแล้วจะเสียความรู้สึก จากคุณ : NickyNick - [ วันแรงงาน 09:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เคยเจอคล้ายๆแบบนี้ 1 ครั้ง แต่เป็นปกพลาสติก ที่เอาของเก่าเน่า ที่วางโชว์ผ่านแดด ผ่านฝนมาให้ ใส่ถุงมัดถุงเรียบร้อย เราเลยไม่เห็น มาเห็นอีกที่ ว่าเน่ามากแกนกระดาษข้างในเปื่อยดำสกปรก ตอนมาแกะถุงที่บ้าน ถึงว่า ตอนเขาเอาใส่ถุงหันมามองหน้าเราทำไม ขอบอกว่าทุกวันนี้ได้แต่เดินผ่านไม่แวะเข้าไปอีก....ครั้งเดียวเกินพอ.... จากคุณ : โอ้ย...แจ่ม - [ วันฉัตรมงคล 20:06:08 ]