PANTIP.COM : K7804449 ภาษาที่สาม ภาษาอะไรคุ้มค่าที่จะเรียนที่สุดระหว่าง ฝรั่งเศส เยอรมัน จีน รัสเซีย อาหรับ [จีนศึกษา]

ความคิดเห็นที่ 20

จีนกับญี่ปุ่น ถามว่า ดีไหม ดีครับ ยังมีหน้างานโฆษณาตามหนังสือพิมพ์ในไทยให้เห็นอยู่เนืองๆ แต่ตอนนี้เห็นคนสนใจเรียนในไทยเยอะแล้ว แต่จะเป็นสักกี่คนในชั้นเรียนที่เข้าสมัครพร้อมกันนั้น ก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะคำว่า แห่กันไปเรียนตามกระแส พอนานๆไป ความอยากมันเริ่มมอดลง เมื่อเข้าสู่ชั้นเรียนที่สูงขึ้น ความยากของไวยากรณ์และคำศัพท์ที่เริ่มตามกันมาเป็นพรวนจะเป็นตัววัดคนที่มีความพยายามและตั้งใจจริงเท่านั้น ซึ่งเขาเหล่านั้นจะฉายแววออกมาทันที (พอดีผมเป็นภาษานี้อยู่ เลยพอมองเห็นภาพ)

แต่ถ้าไปเรียนถึงประเทศเขา ความเป็นไปได้ที่จะเป็นภาษามันสูงกว่า เพราะอยู่เมืองไทยเรียนทั้งปี(ทุกสัปดาห์)อาจเท่ากับอยู่ประเทศเจ้าของภาษาเพียงแค่เดือนเดียว แต่ก็ไม่แน่เสมอไปอีก เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่ความพยายามและตั้งใจ ส่วนงานในประเทศเจ้าของภาษา เท่าที่เดินทางไปๆมาๆ ผมว่า ยังพอมีลู่ทางสำหรับคนไทยเป็นภาษาและอยากทำงานในประเทศเขา งานที่อิงกับประเทศไทยจะได้ผลดีที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสมากกว่า ไม่ใช่ทุกคนจะสัมฤทธิ์ผล เพราะถ้าเป็นตลาดโลก บุคลากรในประเทศเขา เดี๋ยวนี้มีคุณภาพคับแก้วกันเยอะแล้ว

ผมอาจโชคดีที่เป็นภาษาในยุคที่ยังไม่เกิดกระแสคลั่งภาษากันทั้งบ้านทั้งเมืองแบบนี้ เจป๊อป กิมจิ เอฟโฟว์ หรือย่ำแดนมังกร (คือเมื่อสิบกว่าปีก่อน) เงินเดือนที่มาพร้อมภาษา จะมีภาษีดีกว่า อันนี้เรื่องจริง เพราะเห็นมากับตัวเอง ของผมอาจโชคดีในตอนนั้นที่เริ่มต้นด้วยฐาน 35k ขึ้น แต่ทุกวันนี้ ลอยไปไกลมากแล้ว เนื่องด้วยประสบการณ์ในงานและคำว่า "ภาษา"

ใจจริง ควรเลือกเรียนภาษาที่ยังไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่มีจำนวนคนพูดภาษานั้นเกิน 60-100 ล้านคนขึ้นไปจะดีกว่า เช่น ภาษาอาหรับ ภาษาฮินดู ภาษาบราซิลโปรตุเกส(หรือภาษาโปรตุเกสที่ใช้ในประเทศบราซิล) ภาษาเบงกาลี(ที่ใช้พูดในบังคลาเทศ) ภาษาสเปน(เพื่อใช้กับชาวลาตินอเมริกา) ภาษาบาฮาซา ภาษาตุรกี หรือภาษารัสเซีย เพราะตลาดมันกว้าง แต่ไทยเรายังไม่เปิดตลาดเท่าไหร่ อย่ามองว่า เป็นภาษาที่ไม่ดัง เป็นภาษาที่ไม่รู้เรียนจบจะเอาไปทำอะไร เป็นภาษาที่ไม่เห็นมีใครรับสมัครงานเลย เพราะเรายังไม่รู้ว่า ในวันข้างหน้า เมื่อเราเรียนจบ อะไรมันก็เปลี่ยนได้ทั้งนั้น (อาจไม่เรียกว่า เปลี่ยน ก็ได้ แต่เรียกว่า เส้นทางใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น) เพราะกว่าเราจะเรียนจบ มันต้องใช้เวลา เมื่อถึงตอนนั้น เราจะมีภาษีดีกว่าคนอื่นเนื่องจากเราเป็นในสิ่งที่คนอื่นยังไม่เป็น คุณไม่อยากเป็นคนแรกๆหรือยังไงครับกับโอกาสที่มีมาได้ทุกเมื่อ

ผมก็อยากเรียนเพิ่มเพราะตัวเองก็เวียนว่ายอยู่กับการนำเข้าส่งออก มันไม่พ้นเรื่องภาษา เวลาผมโทรไปเมืองนอกหรือบินไปเจรจาธุรกิจทีไร ถ้าเป็นภาษาที่ผมพูดได้ ก็โอเคไป ด่ากันทะเลาะกัน เจรจาธุรกิจกันทางโทรศัพท์กับเจ้าของที่ไม่มีความรู้ภาษาต่างประเทศได้เลย ไม่ต้องผ่านลูกน้องต่อให้เสียเวลา ตกลงกันได้ตรงนั้น แต่พอเป็นภาษาที่เราไม่ได้เช่น เวลาโทรไปรัสเซีย โทรไปอิตาลี โทรไปบราซิล มันต้องเสียเวลาในการส่งต่อ แต่ก็อย่างที่บอกครับ เพราะภาระหน้าที่ในงานของผมจริงๆที่หาเวลาปลีกตัวยากมาก เนื่องจากต้องคอยเดินทางกับประชุมตลอด

การเรียนภาษาให้ได้หนึ่งภาษานั้น มันต้องเอาใจใส่ ทุ่มเททั้งเวลา ความอดทน และความตั้งใจ (อย่าเรียนเพราะกระแส ต้องมีเป้าหมายกับภาษานั้นๆ) พรสวรรค์มีส่วน แต่พรแสวงเหนือสิ่งอื่นใดครับ

จากคุณ : ตี๋หล่อมีเสน่ห์ - [ 30 เม.ย. 52 12:02:38 ]