ความคิดเห็นที่ 1 เราเรียน TEFL อยู่ค่ะ ขอตอบเป็นข้อๆตามนี้ค่ะ ส่วน EIL นี่คงต้องรอท่านผู้รู้มาตอบนะคะ ^_^ ตอนนี้พี่เค้าทำงานเป็น Teaching  Assistant (TA) อยู่นะครับ ทางบ้านก็แนะนำให้เรียน TEFL ต่อ แต่พี่เค้ามาดูหลักสูตรของ EIL นั้นก็เรียนภาษากว้างกว่าการสอน แถมมีวิชาเลือกทางด้านการสอนในหลักสูตรของ EIL ด้วย >>> วิชาการสอนของ TEFL จะกว้างกว่าของ EIL ค่ะ คือจะเน้นทางด้านการสอนภาษาโดยเฉพาะเลยค่ะ ประกอบด้วย การจัดการเรียนการสอน หลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย การวัดผลและประเมินผลการเรียนการสอน นอกจากนี้แล้ว ยังมีวิชาทางด้านภาษาศาสตร์อีกด้วยค่ะ แต่เป็นภาษาศาสตร์เชิงประยุกต์กับการสอนภาษาอังกฤษค่ะ คนเรียนแต่ละเอกคือ TEFL 12 คน/ EIL 16 คน ซึ่งจำนวนก็ไม่ต่างกันมากครับ >>>> ถึงจำนวนรับอย่างเป็นทางการของ TEFL จะประมาณ 12 คน แต่จำนวนรับจริงจะน้อยกว่านั้นค่ะ ยกตัวอย่างเช่น รุ่นเราจะเรียนกัน  7 คนด้วยกัน แต่พี่เค้าลังเลว่าจะเรียนอะไรดี เพราะประสบการณ์การสอนก็มีอยู่แล้ว อยากเรียนภาษาอังกฤษในแนวทักษะทั่วไปด้วย อีกอย่างก็กลัวว่าถ้าจบไปแล้ว เปลี่ยนใจอยากไปสมัครอาจารย์มหาลัยจบ EIL มาเค้าจะรับไหม >>>> จบ EIL ก็สามารถทำงานสอนในมหาวิทยาลัยได้เช่นเดียวกับ TEFL ค่ะ ตอนนี้ศิษย์เก่าทั้งสองสาขานี้ก็สอนในมหาวิทยาลัยหลายๆแห่งด้วยกันค่ะ ค่าเทอมก็ไม่ต่างกันมากครับ แต่ต้องรีบตัดสินใจเพราะ >>>> อันนี้เห็นด้วยว่าค่าเทอมไม่ต่างกัน 5555555 ***EIL เรียนภาคปกติ ถ้าจะเอาเอกนี้ต้องลาออกมาเรียนเฉยๆ ***TEFL เรียนภาคพิเศษ เรียนได้เลย ไม่ต้องลาออกจากงานมาเรียน >>>>> อันนี้เราแอบกระซิบว่า หลายรายเลยค่ะ ที่สุดท้ายต้องลาออกมาเรียนอย่างเดียว เพราะงานค่อนข้างมาก แต่หากว่าสามารถจัดการเวลาได้ดี ก็ไม่จำเป็นต้องลาออกค่ะ ซึ่งตอนนี้พี่เค้าต้องรีบตัดสินใจภายใน 2-3 วันนี้แล้ว เพราะต้องยื่นใบลาออกจากงานก่อนสิ้นเดือนนี้ ปฐมนิเทศต้นเดือน พค. นี้ ยังไงเพื่อนจะเข้ามาอ่านกระทู้นี้เรื่อยๆด้วยตนเองทุกๆวัน เพื่อขอความคิดเห็นของทุกคนที่ขอจะมีให้มานะครับ >>>> ยินดีต้อนรับสู่รั้วจามจุรีค่ะ ^_^ ***ส่วนตัวผมแนะนำให้เค้าเรียน TEFL จุฬาครับเพราะทักษะการสอนเป็นทักษะที่ต้องเรียนรู้ครับ ไม่ได้เป็นกันทุกคนส่วทักษะภาษาเราเรียนกันมาแล้วตอนปริญญาตรีครับ และถ้าอยากเรียนทักษะอื่นๆเช่น การเขียน การแปลอะไรๆ ก็ไปเรียนเสริมกับสถาบันภาษาจุฬาเอาได้ครับ ผมแนะนำพี่เค้าไป*** >>>> เราอยากจะแนะนำเรื่องนี้ว่า ระบบของจุฬาจะเป็นแบบเหมาจ่ายค่ะ หมายความว่าคุณจ่ายเงินค่าเทอม แล้วคุณจะลงทะเบียน 1 หน่วยกิต หรือ จะลง 20 หน่วยกิต คุณก็จ่ายจำนวนเงินเท่าเดิม นอกจากนี้แล้ว การจ่ายเงินระบบเหมาจ่ายยังเปิดโอกาสให้คุณสามารถไปลงทะเบียนเรียนนอกคณะได้อีกด้วยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น เราลงทะเบียนเรียนกับครุศาสตร์ แต่ว่าเราไปลงเรียนวิชาหลักภาษา การเขียน การอ่าน การแปลกับสถาบันภาษา โดยวิชาที่ลงจะปรากฏในทรานสคริปต์เหมือนวิชาทั่วไปค่ะ หรือ มีคนจากคณะอักษรฯมาลงเรียนวิชาการสอนกับเรา ดังนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะขวนขวายลงวิชาแค่ไหนค่ะ เพราะโอกาสเปิดกว้างมาก ดังนั้น ขึ้นอยู่กับว่า เพื่อนคุณต้องการเน้นหนักที่ด้านไหนค่ะ จะด้านการสอน หรือ ด้านภาษาศาสตร์ประยุกต์ค่ะ เพื่อนๆมีความเห็นว่ายังไงบ้างอะครับ ขอความคิดเห็นหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ >>>>> หากมีข้อสงสัยอะไรเพิ่ม สามารถส่งหลังไมค์ หรือ ส่งเมล์มาหาเราได้ที่ cillianoyo@gmail.com ค่ะ จากคุณ : คนภูธรGO ONนครบาล - [ 28 เม.ย. 52 22:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรียนสาขาไหนก็ดีทั้งนั้นครับ ถ้าตั้งใจจบมาก็เป็นอาจารย์ที่เก่งได้เหมือนกัน แต่ส่วนตัวแล้วเชียร์ EIL ครับเพราะด้วยความที่มีแนวคิดที่ค่อนข้างฉีกแนวจาก EFL ในเรื่องแนวปรัชญาเรื่องหลักสูตรการสอนภาษา (ลองไปหาอ่าน) และความเป็นสหสาขาวิชาที่สามารถเน้นหนักเพิ่มเติมด้านภาษาศาสตร์ การสอนภาษา หรือการวัดและประเมินผลแยกกันอย่างชัดเจน (เห็นว่าจริงๆแล้ว EIL เป็นหลักสูตรใหม่ที่ครุ+อักษรร่วมมือกัน) อีกอย่าง EIL สามารถเรียนต่อได้ถึงป.เอก ถ้าตั้งใจอยากเป้นอาจารย์จริงๆผมว่า การเรียนถึงขั้นป.เอกเป็นอะไรที่สำคัญมากถึงมากที่สุด ดังนั้นการเรียนต่อเนื่องแนวเดียวในสถาบันเดียวกันก็เป็นเรื่องน่าสนใจ http://www.grad.chula.ac.th/cirriculum/FileCurri/EIL_MA.pdf http://www.grad.chula.ac.th/cirriculum/FileCurri/EIL_PHD.pdf เดี๋ยวนี้คนจบป.โทด้านการสอนภาษาอังกฤษกินเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในบรรดากระบวนวิชาป.โทที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ ดังนั้นการแข่งขันกันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยของมหาบัณฑิตในสาขานี้จึงมากเป็นเงาตามตัว ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ควรต้องเรียนเสริมทักษะการใช้ภาษาให้แข็งๆ หรือหาจุดเด่นให้ตัวเองในงานวิจัย (สารนิพนธ์/วิทยานิพนธ์) ที่ดึงเอาความรู้ทฤษฎีเน้นหนักทางภาษาศาสตร์ วรรณคดี การแปล การสื่อสาร เข้ามารวม(ใส่)เข้าไปก็จะทำให้การจบสาขาการสอนภาษาอักกฤษของคนๆนั้นน่าสนใจยิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสในการเข้าทำงานในตำแหน่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยดีๆของคนๆนั้นมีมากยิ่งขึ้น แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 52 00:57:22 จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ 29 เม.ย. 52 00:51:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ในความคิดเห็นส่วนตัวคือ TEFL ของครุฯ กับ EIL ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างคณะอักษรฯ คณะครุฯ และสถาบันภาษาฯ ไม่ต่างกันมากในเรื่องของหลักสูตร แต่อาจจะต่างตรงความหลากหลายของผู้สอน และผู้เรียน (แต่ไม่ได้หมายความว่าที่ไหนดีกว่ากันนะครับ) ของ TEFL เนื่องจากเป็นของครุฯ โดยตรง อ. สอนหลัก จึงเป็น อ. จากสาขาการสอนภาษาอังกฤษของคณะครุเอง ส่วนของ EIL หลังจากเรียนวิชาบังคับแล้ว จะมีวิชาเลือกว่าจะเน้นสายไหน ซึ่งมีสามสายด้วยกันคือ สายภาษาศาสตร์ภาษาอังกฤษ (อ. จากอักษรฯจะดูแลสายนี้)สายการสอนภาษาอังกฤษ (อ. จากครุฯดูแลรายวิชาในสายนี้)และสายการทดสอบและวัดผลทางภาษาอังกฤษ (อ.จากสถาบันภาษาจุฬาฯ ดูแลเป็นหลัก) ซึ่งจริงๆแล้วทั้งสามสายการเรียนก็ไม่ต่างจากของ TEFL ของคณะครุฯ เพราะต้องเรียนครอบคลุมเหมือนกัน เนื่องจากเป็นหลักสูตรร่วมระหว่างสามหน่วยงาน อ. ที่สอนจึงมาจากทั้งสามหน่วยงาน .... รายวิชาภาษาศาสตร์ อ. ผู้สอนจะมาจาก คณะอักษรฯ และสถาบันภาษาฯ รายวิชาทางด้านการสอน อ.ผู้สอนมาจากครุฯ (ซึ่งก็คือ อ.ของ TEFL นั่นเอง) รายวิชาด้านภาษาศาสตร์ประยุกต์ ระเบียบวิธิวิจัย และการวัดผลและทดสอบภาษา อ.จะมาจากสถาบันภาษาฯ ข้อดีข้อหนึ่งของ EIL เช่น มีการเชิญ อ.จากมหาวิทยาลัยต่างชาติ มาสอนในรายวิชาด้านภาษาศาสตร์ประยุกต์และการวัดผลการศึกษาทุกภาคการศึกษา เนื่องจากสถาบันภาษาฯ มีโครงการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศหลายมหาวิทยาลัย และสถาบันภาษาฯ เป็นหน่วยงานที่มี อ.สอนภาษาอังกฤษมากที่สุด ประธานสมาคมครูผู้สอนภาษาอังกฤษ (ThaiTESOL) และผู้ทำงานหลักก็มาจากสถาบันภาษาฯเป็นส่วนมาก จึงทำให้เกิดเครือข่ายที่ใหญ่และชัดเจน นอกจากนั้น สถาบันภาษาฯ ยังจัดประชุมวิชาการด้านการสอนภาษาฯระดับชาติทุกปี และระดับนานาชาติทุก 4 ปี ถ้าหากชอบงานด้านวิชาการ เรียน EIL และรู้จัก อ.จากสถาบันภาษาฯก็สามารถขอเข้าร่วมอาสาเข้าช่วยทำงานได้ ก็จะได้เรียนรู้ไปอีกทางครับ ข้อดีอีกข้อของ EIL คือ มีหลักสูตร ป.เอก ซึ่งผู้มาเรียนส่วนมากเป็น อ. มาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ การได้รู้จักเพื่อนที่เรียน ป.เอก ก็ดีในเรื่องการแลกเปลี่ยนทางด้านวิชาการ และหากที่ทำงานของเพื่อนๆ รับ อ. เราก็ไม่ตกข่าวครับ แต่ก็มีข้อเสียคือ จำนวนผู้เรียนในวิชาพื้นฐานของ EIL จะมีจำนวนมากกว่า ข้อดีของ TEFL ครุฯคือ จำนวนคนเรียนน้อยกว่ามาก โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าสาขาทั้งสองสาขานี้ รวมทั้งสาขาในแนวนี้ที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ เนื้อหาไม่ต่างกันมากครับ แล้วเด็กที่จบมาก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานเดิมและความพยายามเป็นสำคัญ เพราะเราจะเห็นได้ว่า อ.ใหม่ๆทางด้านภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็มีคนจบจากต่างที่กัน ที่ค่อนข้างหลากหลาย เพราะว่าเวลาไปสมัครเป็น อ. ก็ต้องไปสอบข้อเขียนแข่งกันอีกทีครับ ถ้าคิดว่าจะต่อเอก ลองเรียนโท TEFL แล้วต่อเอก EIL สิครับ เพราะว่าจะได้เรียนรู้บรรยากาศที่ต่างกัน เพื่อนต่างกลุ่มกัน แนวการเรียนที่อาจจะต่างกันหน่อย จะได้เจออะไรที่หลากหลายดีครับ จากคุณ : JP - [ 29 เม.ย. 52 03:41:54 A:212.9.104.91 X: TicketID:144076 ]