ความคิดเห็นที่ 1 ตอบลำบาก ก่อนอื่นต้องรู้ว่า คุณทำงานแปลเอกสารหรืองานแปลหนังสือ ถนัดงานประเภทไหน และแปลได้ดีแค่ไหน อีกทั้งคุณหางานด้วยวิธีไหน ทางหนีที่ไล่มันไม่เหมือนกันนะ สำหรับตัวเราเองนั้น เมื่อหัดแปลได้ใหม่ๆตอน 3 ปีแรก เรามีรายได้เพียบเลย เพราะเราแปลเร็วมากถึงเร็วที่สุด เนื่องจาก "ไม่รู้ตัวว่าแปลผิดเยอะมากๆ"  ทำให้รับงานได้หมด ไม่เีกี่ยงว่างานราคาถูกราคาแพง ทำปริมาณเข้าไว้...งานถึงมีเยอะมากๆ ironically speaking, ครั้นเมื่อแปลไปได้ 10 กว่าปี กลายเป็นรายได้ลดลงมาก เนื่องจาก "กลัวแปลผิด ก็เลยแปลช้าลง จนถึงช้าที่สุด"...ทำให้รับได้แต่งานราคาดีพอสมควร เลยหางานยากหน่อย... เราไม่ค่อยได้ทำงานแปลปริมาณมากๆ มา 2 ปีกว่าๆแล้ว แต่ช่วงเวลาที่ผ่านไปนั้น เราก็ไม่ได้อยู่ว่าง หากแต่เราซุ่มๆเร่งเรียนภาษาอังกฤษเอาไว้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง grammar และ writing เรียนเจาะลึกโดยการทำ corpus เอาไว้ใช้เอง ประกอบกับฝึกฝนหาความรู้่ด้าน IT เพิ่มเติมให้เฉียบขาดยิ่งๆขึ้น)  เตรียมกลับไปลุยงานหนักๆอีก ในเร็วๆวันนี้หละ เราอาจกลับไปใช้ความรู้ภาษาอังกฤษทำงานจริงๆจังๆอีกสักครั้งหนึ่ง แต่อาจไม่ใช่งานแปลก็ได้ จากคุณ : fortuneteller - [ วันแรงงาน 21:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 งานยากมั่กๆ ที่ผมเคยทำก็คือ edit คำแปลให้ลูกของเพื่อนสนิทครับ ต้องให้เนียนจริงๆ ความหมายของคำว่า เนียน ในกรณีนี้คือทำยังไงไม่ให้อาจารย์จับได้ ก็ต้นฉบับมันห่วยซะขนาดนั้น ถ้า edit ให้ดีไปเลย มันต้องได้ F แหงๆ เพราะอาจารย์ไม่เชื่อ edit งานนั้นสิบกว่าหน้า เพื่อนผมมันยกเบียร์มาให้ 1 ลัง เฮ้อ ค่าแรงตู ว่าแต่ จะไปตีปิงปองกันรึยังล่ะ คุณ fortuneteller จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 2 พ.ค. 52 06:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ความจริงกระทู้ปิงปองน่ะ เราปั่นไว้ไม่จบ ถ้าปั่นจบคุณจะรู้ว่าเราไม่ค่อยอยากจะเล่นปิงปองอีกเลย เพราะอะไร? เราเห็นนักเทนนิสหลายคนมีปัญหากับขา จริงๆแล้วมันไม่ใช่ขาหรอก แต่ต้นตอปัญหามันอยู่ที่ "กระดูกสันหลัง" แล้วมันส่งผลไปที่ขา มันเกิดขึ้นเพราะยืดร่างกายฝั่งเดียวนานๆ มันมีผลทำให้เกิดปัญหาที่เรียกว่า spinal misalignment ตอนตีปิงปองอย่างหนัก เวลาตีมือซ้าย เราตบ forehand บ่อยๆ ต้องทิ้งน้ำหนักตัวลงขาขวามากๆ ทำบ่อยๆเข้า มีความรู้สึกเหมือนกับว่า ขาขวาเราจะสั้นกว่าขาซ้าย แต่จริงๆ แล้วกระดูกสันหลังเอียงผิดแนวต่างหาก...!!!!!  ... ตามที่เคยบอกแล้วว่าเราเคยถนัดขวา แต่ตอนแขนซ้ายหัก พอแขนซ้ายหายแล้วเราฝึกทำอะไำรด้วยมือซ้ายหลายๆอย่าง จนเราใช้มือขวาตีปิงปองไม่เป็นอีกต่อไปแล้ว ตอนตีด้วยมือซ้ายบ่อยๆนะ เรารู้สึกว่าตัวมันเอียงๆไป เคยคิดจะฝึกตีมือขวาให้เร็วพอๆกับมือซ้าย จะได้กลับไปตีปิงปองใหม่ได้ โดยไม่มีปัญหาเรื่องความไม่สมดุลย์กัน ระหว่างร่างกายด้านซ้ายกับขวา แต่เราก็ทำไม่สำเร็จสักที  เราก็เลยสาปส่งไปเลย ไอ้กีฬาที่ต้องเอี้ยวตัวฝั่งเดียวน่ะ เช่น เทนนิส ปิงปอง แบดมินตัน รวมทั้งกอล์ฟ ด้วย ...โหเวลา swing วงสวยๆนะ สงสารกระดูกสันหลังของตัวเองว่ะ... แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 52 07:04:14 จากคุณ : fortuneteller - [ 2 พ.ค. 52 07:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราเลยหันไปฝึกมวยไทยกับมวยจีนแทน แต่ตอนอายุมากๆขี้เกียจไปชกกับใคร ก็เลย ตอนนี้เล่นแต่โยคะ เพราะมันทำให้ฝั่งซ้ายกับขวาสมดุลยฺ์กันดี เราใช้เวลานานหลายปีมากๆ กว่าจะแก้ไขปัญหาแนวกระดูกสันหลังที่เกิดจากการเล่นกีฬาปิงปองน่ะ... อนาคตเราเรื่องอาชีพนะ...เรายอมรับว่าตอนนี้เรายังมีปัญหาเรื่อง "การดื่ม" มากๆ มันเลยทำให้ขอบตาล่างเราบวมๆ แต่ช่วงไม่นานนี้ เราลดการดื่มลง และพอจะรู้วิธีคลายจุึดชีพจรได้หลายแห่งมากยิ่งๆขึ้น ซึ่ง ถ้าเรามีวินัย (คือลดการดื่มได้จริงๆนะ) เราจะกลับกลายเป็นหน้าตาเด็กอ่อนกว่าวัย แบบเอา 2 หาร ตัวเลขอายุจริงเราเลยหละ...!!!!!?????... ถ้าทำได้จริงๆนะ เราจะเลิกทำงานแปลไปตลอดชีวิตเลย แล้วเปลี่ยนอาชีพเป็นซินแส ดูดวง แล้วสอนศาสตร์แห่งการคงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาล ...555+++ และนี่หละคือเหตุผลที่เราซุ่มเรียนเขียนภาษาอังกฤษ  คือเรากะจะเขียนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องพวกเนี้ย แล้วขายทั่วโลกน่ะ ....จุดขายก็คือรูปถ่ายเราหน้าปกวางคู่กับตัวเลขอายุเรา ยังไงล่ะ... เลยตอนนี้เห็นทีจะต้องฟิตจัด ออกไปวิ่งกับท่านเซียนแอ๊ด (ท่านเซียนชอบวิ่งจากหมู่บ้านไปกินก๋วยเตี๋ยวที่คาร์ฟู) จริงๆเราก็วิ่ง แต่วิ่งในห้องเรา คือเรากระโดดเปลี่ยนการ์ดมวย สลับไปสลับมาอยู่กับที่ มันออกกำลังได้ดีเท่าๆกับวิ่งเลยหละ แถมยังไม่โดนหมาไล่ฟัดอีกด้วย (ไม่ถูกกับหมาในหมู่บ้านอ้ะ)   ท่านเซียนแอ๊ดก็๋ไม่ถูกกับหมาในหมู่บ้านเหมือนกัน (อยู่หมู่บ้านเดียวกัน) แต่ท่านเล่นพกดิ้วเหล็ก แบบยืดหดได้ อันบะเร่อเลยหละ...ท่่าทางยังกับหัวหน้าแก้งค์มาเฟียแน่ะ...เหอๆๆๆ ...เห็นแล้วจะหนาว... เอ่อเผอิญ ในรอบ 3 วันนี้ เราสำเร็จโทษหมาไป 2 ตัว (เตะ 3 ตัว เตะไม่โดน 1 ตัว แต่เตะโดน 2 ตัว) มันเป็นหมาที่มันเคยไล่กัดเราตอนเราขี่มอเตอร์ไซ้ค์รับจ้่าง  ตัวหนึ่งโดนเตะแบบ round house เข้าหน้าอกอย่างจัง (เล่้นเอาขาเราเกือบซ้นแน่ะ เพราะไม่ได้เตะกระสอบเสียนานหลายปี) อีกตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาจะกัดแบบซ่า รายนี้เจอของเบาๆไปหน่อย เจอแค่ side kick เข้าไปทีหนึ่ง ...จริงๆก็ไม่เชิง side kick หรอก ทีแรกขยับเป็น side kick แต่พอใกล้ๆเป้า ก็เปลี่ยนเป็นเตะช้อนเข้าไปที่ใต้ปากด้านล่าง ไปหนึ่งที...มันหายซ่าแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปเลยอ้ะ ไอ้เจ้าของมันรู้ว่ามันเลี้ยงหมาอันธพาลก็ยังเที่ยวปล่อยมากัดชาวบ้าน ต้องโดนให้เข็ด ไอ้หมา 2 ตัวนี้ มันเคยกัดทั้งพ่อทั้งแม่เรา มาแล้ว เคยกัดแมวเราตายไปตัวหนึ่งด้วย ต้องเตะล้างแค้นมันเสียหน่อย... การเตะหมาต้องเตะอย่างมีศิลปะ ต้องไว แล้วแม่นมากๆ (ถ้าเตะผิดทีเดียวหมาจะหนี และเราจะเตะไม่ทันอีกเลย)  ต้องรอให้มันชะล่าใจเข้ามาใกล้ แต่ต้องกะระยะดีๆว่า มันโดนอาวุธเราก่อนมันกันเราได้ และข้อสำคัญก็คือ เตะ แล้วอย่าให้ขาหรือ teen เข้าไปอยู่ระหว่างฟันของมัน...555+++.... ตอนนี้วันๆนะ ค้นข้อมูลซอกแซก จากเน็ต นั่งเดินลมปราณ ทำสุตรหน้าเด็ก แล้วก็ทำงานแปลนิดหน่อยพอประทังชีพไป แล้วก็พยายามเรียนเขียนภาษาอังกฤษต่อไปอีกเรื่อยๆ รอให้วันของเรามาถึีัง... เอาไว้ถ้าเจอกัน เรามาฝึกโยคะกันจะดีกว่านะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง yoga for sex ที่จะทำให้เตะปี๊บดังๆ แบบกลายเป็นเฒ่าหัวงู ตัณหากลับ ไปได้ ในที่สุดน่ะ...เอิ้กๆๆๆๆ.... แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 52 07:25:07 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 52 07:16:39 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 52 07:14:56 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 52 07:10:28 จากคุณ : fortuneteller - [ 2 พ.ค. 52 07:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทางเน็ตก็มีงานให้สมัครได้ลองเข้าไปดูอย่าง proz.com http://www.translatorscafe.com/cafe/default.asp และอีกเยอะแยะ ลองถามคุณกรูดู งานพวกนี้ต้องเสนอราคาไปแข่งกัน ถ้าได้งานแรกแล้วมักจะมีงานอื่นๆ ตามมา ชั่วโมงบินก็มีส่วนที่จะทำให้ได้งาน ขอให้โชคดี จากคุณ : lilymay - [ 3 พ.ค. 52 08:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น่าสนใจครับ คุณ fortuneteller คุณฝึกวิชาพวกนี้ในแนวไหนหรือครับ ผมก็ฝึกนะ แนวพลังปราณ (Prana) ของ Choa Kok Sui ซึ่งเป็นปรมาจารย์คนหนึ่งทางด้านนี้ ก็ไม่ถึงกับไปเข้าคอร์สฝึกเป็นเรื่องเป็นราวหรอกครับ ใช้วิธีอ่านจากหนังสือของเขา ชื่อหนังสือ The Ancient Science & Art of Pranic Healing แล้วลองปฏิบัติดู ได้ผลเหมือนกันนะครับ ผมรักษาการเจ็บไข้ได้ป่วยเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองได้ แต่ยังไม่ถึงขั้นไปรักษาคนอื่น วิธีการก็คือทำจิตให้สงบ หลับตา หายใจยาวๆ แล้วกำหนดจิตให้แน่วแน่ (แน่วแน่แต่ผ่อนคลายนะครับ ไม่ใช่เขม็งเกลียว) อยู่ที่จุดจักระมงกุฎ (Crown Chakra) ที่อยู่บริเวณกลางกระหม่อม เมื่อเราไม่สบายจะเห็นเป็นแสงสีแดงเข้มแต่สว่าง ผมไม่เคยเห็นสีแดงแบบนี้ที่ไหนมาก่อนด้วยตาเนื้อ อธิบายลำบากจริงๆ ก็กำหนดจิตให้คงที่อยู่อย่างนั้นต่อไปสักระยะหนึ่ง ระหว่างนี้ระบบซ่อมแซมตนเองของร่างกายมนุษย์จะทำงานของมันอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าปกติ แสงสีแดงนี้จะค่อยๆ เปลี่ยนสีตามเวลาที่ผ่านไป สุดท้ายจะกลายเป็นสีขาวสว่างไสว ถึงตรงนี้ออกจากภวังค์ได้แล้วครับ อาการเจ็บป่วยบรรเทาลงไปมากทีเดียว ร่างกายจะรู้สึกสดชื่นขึ้น ถ้าคุณแอ๊ดแวะมากระทู้นี้ ขอความเห็นหน่อยครับว่าแพทย์แผนปัจจุบันเขาคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ ป.ล. โยคะนี่ ตามตำราก็มีหลายแนว ชื่อเรียกต่างๆ กันไป แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 05:34:59 จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 4 พ.ค. 52 05:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แพทย์แผนปัจจุบันไม่ได้สอนเรื่องการทำสมาธิแต่แพทย์แผนปัจจุบันหลายคนทำสมาธิ ผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการทำสมาธิ รู้แต่ว่าถ้าจิตเป็นสมาธิแล้วจะมีอำนาจมีพลังหลายอย่าง อันนี้เป็นเรื่องซึ่งมี documentation กันไว้เยอะแล้ว คงไม่ต้องฉายหนังซ้ำ นอกเหนือจากพลังจิตแล้วก็ยังเป็นเทคนิคในการผ่อนคลายความเครียดได้อย่างดีวิเศษ มีผลทางบวกต่อระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และอันที่จริง อยากรุ้เรื่องนี้ก็ไม่ต้องไปหาความรู้ไกลที่ไหน ตัวเราเองนั่นแหละครับลองได้เลย คุณหนุ่มไทยก็มีประสบการณ์ตรงอยู่แล้ว จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 4 พ.ค. 52 16:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ้าวตายจริงมายึดกระทู้เขา แล้วชักใบให้เรือเสีย...555+++ จะตอบ จขกท ให้แบบมุมมองกว้างๆ ตอบเฉพาะเจาะจงลำบากเพราะเขาไม่ได้ให้ข้อมูลว่าเขาถนัดการแปลประเภทไหน แปลเอกสาร งานแบบกันตาย (ราคาถูกหน่้อย) หาง่ายมากๆ เดินเข้าไปในบริษัทแปล ไปสมัคร ถ้าหน้าใหม่เขาก็กดราคาหน่อย ได้หน้าละ 150 บาท ถ้ามือเก่าๆ บางทีเขาเกรงใจให้หน้าละ 200 บาท หรือมากกว่านั้นหน่อยๆ รีบๆแปลไวๆเหมือนชื่อบะหมี่  (งานราคาถูกๆแบบนี้ เรียกว่า "๋งานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ") พออยู่รอดไม่อดตาย   เคยมีคนแปลได้ไว ขนาดทำได้เดือนหนึ่งถึง 50,000 บาท ก็มี แต่ถ้าจะเอาแบบหน้าละแพงๆ 500 บาท ขึ้นไปถึงหน้าละเป็นพันๆ ต้องหาลูกค้าเอง ซึ่งบางทีเสนอราคาตรง ได้งานบ้างก็มี ไม่ได้งานบ้างก็มี ปัญหาอยู่ที่บริษัทใหญ่ๆดังๆไม่ค่อยยอมจ้างบุคคลธรรมดา แต่จะจ้างบริษัทแปลที่เป็นนิติบุคคล งานพวกนี้ ถ้าอยากได้งานแปลเอกสารราคาดีๆ ต้องมีเพื่อนเรียนจบอักษรศาสตร์หลายๆคนที่เป็นใหญ่ในหน่วยงานต่างๆ เขาจะเอางานแปล มาแบ่งให้เครือข่ายเพื่อนฝูงทำกัน... ติดต่อเองก็พอได้ แต่ค่อนข้างยากหน่อย  เมื่อในอดีตเราเคยลงโฆษณาหนังสือพิมพ์ แบบเสียเงิน แล้วได้งานจากลูกค้าโดยตรงเหมือนกันนะ (แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะคุ้มทุนหรือเปล่า) แต่เราเคยลงโฆษณาใน pantipmarket แล้วไม่ได้งานทำเลย เพราะเราอยากได้ราคาดีหน่อย แต่โดนคนเป็นจำนวนมาก เข้าไปโฆษณาตัดราคาเหลือหน้าละ 100 บาทเพียบเลย.... งานแปลหนังสือ เมื่อในอดีต ที่เคยมีการยกพวกถล่มกันในห้องยำภาษาเรื่องจะได้งานต้องมีหรือไม่มีเส้นนั้น หลังจากเราลองติืดต่อสำนักพิมพ์ดู ก็พอสรุปได้ดังนี้ 1. ถ้าคุณยังไม่มีผลงานแปลหนังสือเลย ลองเริ่มติดต่อสำนักพิมพ์เล็กๆก่อน ติดต่อได้ค่อนข้างง่าย ตัวเราเอง และแฟนเรา เคยดูเบอร์โทรศัพท์บนหนังสือแปล แล้วโทรไป แล้วได้มีโอกาสพูดกับเจ้าของสำนักพิมพ์โดยตรงเลย แล้วก็ได้งานมาทำ 2. สำนักพิมพ์ใหญ่ ติดต่อไป ต้องแล้วแต่โชค บางทีเขาก็ตอบมา หรือบางทีเขาก็ตอบช้าหน่อย หรือบางทีก็หายไปเลยไม่ตอบมา ต้องพยายามบ่อยๆ...ไม่รู้ว่าถ้าใจกล้าๆเดินเข้าไปในสำนักพิมพ์ แล้วเอาตัวอย่างการแปล ไปยื่นหน้าจมูกเขา จะได้หรือไม่ได้งานทำ?...ไม่เคยลอง... ทั้งตัวเราและแฟนเราได้งานแปลจากสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ มักจะได้เพราะเพื่อนฝูงที่แปลกับสำนักพิมพ์นั้นอยู่แล้ว แนะนำให้ ถ้า จขกท ไม่เกี่ยงเรื่องงานจริงๆ แต่อยากหาประสบการณ์สะสมไว้ ลอง 3 อย่างนี้ก่อนคือ 1. ลองแปลก๋วยเตี๋ยวเรือดู  เดินเข้าไปสมัครกับบริษัทแปล ถ้าเขารับ แล้วให้ลองแปล แล้วยังส่งงานให้เรื่อยๆ คุณก็ได้ฝึกฝน แต่ถ้าเขาไม่ส่งงานให้อีก ก็แสดงว่าคุณคงต้องเรียนรู้อีก แต่ถ้าได้ฝึกแปลก๋วยเตี่ยวเรือสำเร็จ จนได้ "ปริญญาการแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ" คุณก็คงเอาทักษะไปต่อยอดแปลอย่างอื่น ได้อีก เราแปลก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่หลายปี กว่าจะได้แปลหนังสือ 2. เรื่องแปลหนังสือ ลองสมัครสำนักพิมพ์เล็กๆดูก่อน แล้วก็ดูผล... คล้ายๆ งานแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ 3. หมั่นจีบๆ สาวๆ ที่เรียนจบมาด้านอักษรศาสตร์ เลือกเอารายที่เธอ หรือ "พวกเธอ" กำลังแปลหนังสืออยู่กับสำนักพิมพ์ใหญ่อยู่  จะได้แนะนำให้คุณได้ว่าจะต้องติดต่อคนในสำนักพิมพ์ชื่ออะไร เบอร์โทรศัพท์ อะไร ถ้าซี้กัน จะแนะนำกันได้ (ไม่เหมือนแค่รู้จักกันผิวเผินบนกระดานสนทนา) หรือหรือสาวๆอักษรศาสตร์พวกนั้น ทำงานตำแหน่งใหญ่ๆในบริษัทดังๆ มีอำนาจจัดซื้อจัดจ้าง ละก้อ คุณยิ่งสบายใหญ่เลยหละ ....(ฮั่นแน่ะ แนะนำให้จีบสาวอักษรศาสตร์หลายๆคนด้วยดิ) พวกเธอก็อาจหางานแปลให้คุณทำได้...แต่จีบๆสาวๆอักษรศาสตร์ หลายๆรายพร้อมๆกัน ก็ระวัง "โดนเจื๋อนนะ...!!!!!" แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 16:55:04 จากคุณ : fortuneteller - [ 4 พ.ค. 52 16:48:01 ]