ความคิดเห็นที่ 1 ต้องบอกก่อนว่า กระบวนเรือประพาสต้นในครั้งนี้ แตกต่างจากการเสด็จประพาสต้นครั้งที่ผ่านมานะครับ เนื่องจากว่ามีจำนวนผู้ตามเสด็จมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง ที่สำคัญ การเสด็จประพาสต้นในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรก ที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงพระราชนิพนธ์ เรื่องราวระหว่างการเสด็จประพาสต้นไว้อย่างละเอียด และพระองค์ได้มีพระราชดำรัส ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้านิภานภดล เป็นผู้จดบันทึกเรื่องราวต่างๆ นับตั้งแต่ต้นทางที่ตำหนักแพวังหน้า ไปจนถึงเมืองกำแพงเพชร ซึ่งเป็นเมืองเหนือสุด ของการเสด็จประพาสต้นครั้งนี้ อาจเรียกว่า เป็นการซ้อมมือก่อนจะพระราชนิพนธ์ในคราวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ ครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 17:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากตำหนักแพวังหน้า กระบวนเรือพระที่นั่ง ได้มาถึงท่าน้ำวัดเขมาภิรตาราม ในเวลา ๕ ทุ่มครึ่ง และพระองค์ได้ประทับแรม ณ ศาลาท่าน้ำหลังนี้ รุ่งเช้า ของวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๔๙ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ได้ทรงบันทึกภาพศาลาท่าน้ำวัดเขมาภิรตาราม ภาพนี้ไว้ และนับเป็นภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ภาพแรกของการเสด็จประพาสต้นครั้งที่สอง นี่คือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ภาพแรกครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 17:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนนี้คือภาพปัจจุบันที่ทีมงานเดินทางไปเสาะหามุมในภาพเดียวกันนะครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 17:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ศาลาท่าน้ำที่ประทับครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 17:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จากท่าน้ำวัดเขมาภิรตาราม พระองค์ได้ประทับเรือเล็กล่องไปยังตลาดน้ำปากคลองบางเขน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลนัก เมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ตลาดปากคลองบางเขนเป็นตลาดน้ำที่ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านตลาดแก้ว หรือตรงบริเวณท่าน้ำพิบูลย์สงคราม เป็นชุมชนมุสลิมขนาดใหญ่และเก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร   ป้ายท่าน้ำพิบูลสงครามครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพตลาดปากคลองบางเขนครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสตลาดปากคลองบางเขน และด่านภาษีแล้ว พระองค์ได้ประทับเรือชื่นใจ ล่องขึ้นไปประทับที่วัดปรมัยยิกาวาส หรือวัดปากอ่าว จากนั้น  กระบวนเรือพระที่นั่ง จึงได้เดินทางเข้าสู่เขตปทุมธานี จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จังหวัดปทุมธานี เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมากว่า 300 ปีครับ นับตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ภาพสวยๆ ของการถ่ายทำขบวนเรือประพาสจำลองครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 และวัดเทียนถวายแห่งนี้นะครับ คือสถานที่แรกของเมืองปทุมธานี  ที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงได้เสด็จประพาส ในวันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2449 ประวัติสักเล็กน้อยครับ วัดเทียนถวายเป็นวัดที่สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา  มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า วัดแห่งนี้สร้างก่อนวัดพระพุทธชินราช ๔ ปี นับเป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในเมืองปทุมธานี จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับการเสด็จประพาสต้น ณ วัดเทียนถวาย พระองค์ได้ทรงบันทึกไว้ว่า เรือพระที่นั่งใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากวัดปากอ่าวมาถึงวัดเทียนถวาย และเมื่อถึงวัดแล้ว พระองค์ได้ถวายเงินแด่สมภารของวัดเป็นจำนวน 20 บาท จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:15:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พระองค์ได้ทรงบันทึกภาพถ่ายฝีพระหัตถ์วัดแห่งนี้ไว้จำนวน 2 ภาพ   ภาพแรก เป็นภาพพระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งทางวัดได้บันทึกไว้ว่า อุโบสถหลังนี้ มีอายุถึง ๖๗๒ ปี และได้รับการบูรณะมาแล้วหลายยุคหลายสมัย ภายใน เป็นที่ประดิษฐานพระประธานปางสมาธิ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา และพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ ซึ่งสร้างขึ้นมาในภายหลัง จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพปัจจุบันของอุโบสถในมุมเดียวกันครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนภาพถ่ายฝีพระหัตถ์อีกภาพหนึ่ง เป็นภาพพระภิกษุวัดเทียนถวาย ขณะกำลังฉันเพลอยู่ภายในหอฉัน จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โดยหอฉันที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายฝีพระหัตถ์นั้น ทางวัดได้รื้อตัวอาคารเก่าออกไป และสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นมาแทน เพื่อใช้เป็นหอสวดมนต์สำหรับพระสงฆ์ ภาพปัจจุบันของที่ตั้งเดิมของหอฉันครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จากวัดเทียนถวาย  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญแห่งอำเภอสามโคก ชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานในเมืองปทุมธานีมายาวนานหลายร้อยปี ภาพเด็กชุมชนเชื้อสายมอญครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จากวัดเทียนถวาย สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินทางเรือ ผ่านตำบลบางหลวงและเชียงราก มาถึงดงตาลในเวลา ๑๒ นาฬิกา ๒๐ นาที ของวันที่  ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๔๙ ดงตาล เมื่อร้อยกว่าปีก่อน เป็นพื้นที่ๆ มีต้นตาลขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วไป ตั้งแต่บริเวณวัดเทียนถวายลงมาจนถึงพื้นที่บ้านสามโคก  สุนทรภู่ กวีเอกแห่งรัตนโกสินทร์ เคยล่องเรือผ่านมายังเขตเมืองปทุมธานี และได้บันทึกถึงดงตาลโตนด ใน “นิราศพระบาท” เอาไว้ตอนหนึ่งว่า “ถึงวัดเทียนถวายบ้านใหม่ข้าม   ก็รีบตามเรือที่นั่งมากลางหน ถึงละลิ่วทิวเมฆเป็นหมอกมน  สะพรั่งต้นตาลโตนดอนาถครัน” จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คำว่า ดงตาล ที่เรียกกัน กระจ่างชัดมากครับ เมื่อได้เห็นภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ภาพนี้ นี่คือบันทึกอีกบทหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เมืองปทุมธานี เคยเป็นเมืองที่มีต้นตาลขึ้นอยู่มากมาย แม้ในปัจจุบัน ตาลโตนด มีเหลือให้เห็นเพียงบางพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานีเท่านั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาถึงดงตาล และทรงบันทึกภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ราษฎรชาวปทุมธานีจำนวนมาก ที่มารอรับเสด็จพระองค์ที่ดงตาลแห่งนี้ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพความสวยงามของพื้นที่บริเวณนั้นที่ทีมงานถ่ายมาครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หลังเสวยพระกระยาหารที่ดงตาล สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ได้ทอดพระเนตรการละเล่นสะบ้ามอญ ที่ชาวไทยเชื้อสายมอญแห่งเมืองปทุมธานี ได้จัดแสดงขึ้น สะบ้ามอญ คือการละเล่นของชาวมอญที่มีมาแต่โบราณ เมื่อครั้งที่ชาวมอญได้อพยพมาตั้งรกรากอยู่ที่พระปะแดง นนทบุรี และสามโคก ได้นำเอาการละเล่นชนิดนี้เข้ามาด้วย การเล่นสะบ้ามอญ มีการแบ่งเป็นผู้เล่นเป็น ๒ ฝ่าย คือฝ่ายชายกับฝ่ายหญิง  มีอุปกรณ์การเล่นคือลูกสะบ้าที่ใช้สำหรับยิง กับลูกเบี้ยสำหรับเป็นเป้า แต่ละฝ่ายจะต้องทอยหรือยิงให้โดนลูกเบี้ยนี้ การทอยลูกสะบ้าของแต่ละฝ่าย มีท่าทางการยิงมากถึงสิบท่า แต่ละท่า จะมีชื่อเรียก และลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ภาพลูกสะบ้าที่นำมาทอยครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 วัตถุประสงค์ของการละเล่นสะบ้ามอยนะครับ สวนใหญ่มักจะเล่นกันช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีวัตถุประสงค์คือ หนุ่มสาวจะสามารถใช้ช่วงเวลาที่มาทำบุญกันที่วัด และใช้โอกาสนี้ได้พบปะพูดคุยกัน โดยการพบปะกันจะอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ตลอดเวลา จึงเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ดี เมื่อแสดงการละเล่นเรียบร้อยแล้ว ก็จะมาร้องเพลงเกี้ยวกันครับ การเล่นสะบ้ามอญ จึงเป็นการละเล่นโบราณ ที่ชาวไทยเชื้อสายมอญแห่งเมืองปทุมธานีภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง และเป็นการละเล่นที่ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงได้ทอดพระเนตร ระหว่างการเสด็จประพาสต้นเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จากดงตาล สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง เสด็จพระราชดำเนินทางเรือ เข้าเขตบ้านสามโคก ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญขนาดใหญ่ ที่เข้ามาตั้งรกรากในสยาม ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 วิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายมอญแห่งเมืองสามโคก ในปัจจุบัน  พวกเขายังคงรักษาคุณลักษณะเด่น ๕ ประการ ของความเป็นมอญเอาไว้ แทบจะไม่แตกต่างกับอดีตที่ผ่านมา จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:42:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อย่างแรกคือ การอาศัยอยู่รวมกันเป็นหมู่บ้านใหญ่ ตั้งบ้านเรือนอยู่อย่างหนาแน่น ตั้งแต่ริมฝั่งแม่น้ำ ลึกเข้าไปในแผ่นดิน การตั้งเป็นกลุ่มนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่อยู่อาศัย เหมือนเมื่อครั้งที่อพยพมา จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อย่างที่สองคือ การมีวัดเป็นศูนย์กลางชุมชน โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างจากวัดไทย เช่น มีเจดีย์รูปแบบศิลปะมอญ ประดับด้วยเสาหงส์ ธงตะขาบ หอสวดมนต์อันวิจิตร งดงาม ที่สำคัญวัดมอญส่วนใหญ่ มีความเป็นระเบียบ และจัดพื้นที่ต่างๆ ไว้อย่างเป็นสัดส่วน จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อย่างที่สาม คือการประกอบอาชีพค้าขายบนเรือ โดยเรือค้าขาย เรียกกันว่าเรือกระแชงมอญ จะล่องค้าขายไปตามลำน้ำเจ้าพระยา สินค้าส่วนใหญ่คือ โอ่งอ่าง เครื่องจักรสาน รวมไปถึงผลไม้ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอกลักษณ์อย่างที่สี่ คือการปลูกต้นโมกเป็นรั้วบ้านหรือรั้วริมทาง เนื่องจากคนมอญมีความเชื่อว่า กลิ่นหอมของต้นโมก จะช่วยให้อากาศของชุมชนมีแต่กลิ่นที่ดี จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอกลักษณ์สุดท้ายของหมู่บ้านชาวไทยเชื้อสายมอญ คือ การปลูกบ้านขวางแม่น้ำ ที่เรียกกันว่า “มอญขวาง”  โดยมีความเชื่อตามคติของพระพุทธศาสนาว่า เมื่อแรกพุทธศาสนา ได้เข้ามาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ สมณทูตได้นำพระไตรปิฎกมาสู่บ้านเมืองมอญ โดยเข้ามาทางทิศใต้ คนมอญจึงมีความเคารพศรัทธาในทิศใต้ว่า เป็นทิศหัวนอนที่ควรให้ความเคารพ ดังนั้น  การปลูกบ้านเรือน จึงต้องหันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือ ส่วนห้องนอนจะอยู่ทางทิศใต้ เป็นการปลูกเรือนขวางแม่น้ำ ดังเช่นคนโบราณเคยปฏิบัติต่อกันมา จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กระบวนเรือพระที่นั่งของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ได้เดินทางผ่านบ้านสามโคก มาสิ้นสุดที่วัดท้ายเกาะใหญ่  วัดมอญที่ตั้งอยู่สุดเขตบ้านสามโคกเมืองปทุมธานี ซึ่งช่วงเวลานั้น มีฝนตกลงมาตลอดทาง จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 พระราชนิพนธ์เสด็จประพาสต้น ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบันทึกไว้ว่า... “บ่าย ๓ โมง ๑๕ มินิต มาด้วยเรือมาด มีฝนตลอดทาง ถึงวัดท้ายเกาะใหญ่ที่จอดเรือเวลาบ่าย ๕ โมง จัดที่พักที่ศาลา ๒ หลังต่อกัน มีพิณพาทย์มอญ” เดิมที วัดท้ายเกาะ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วัดเวียงจาม” ซึ่งเป็นภาษารามัญแปลว่า จระเข้ เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดท้ายเกาะนั้น เคยมีจระเข้อยู่อย่างชุกชุม   วัดท้ายเกาะแห่งนี้ เป็นวัดที่ปรากฏศิลปะรามัญให้เห็นอย่างครบถ้วน เช่น เจดีย์ทรงชะเวดากองสีทอง ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๒๐๖ เป็นปูชนียสถานที่สร้างความโดดเด่นให้แก่วัดท้ายเกาะใหญ่เป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงเลือกศาลาคู่ ๒ หลังริมแม่น้ำ เป็นที่ประทับแรมของคืนวันที่ ๒๘ กรกฎาคม เดิมศาลาริมน้ำนี้ จะเป็นศาลาเรือนไม้ และได้ถูกรื้อและสร้างขึ้นใหม่ ดังรูปแบบที่เห็นในปัจจุบัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเสด็จประพาสวัดท้ายเกาะในครั้งนั้น มีเรื่องเล่าที่ชาวบ้านแห่งวัดท้ายเกาะเล่าต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:57:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ภาพภายในศาลาที่สร้างขึ้นใหม่ครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:58:34 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อีกภาพครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 18:59:00 ]

ความคิดเห็นที่ 33 และในวันนั้น  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทอดพระเนตร วงพิณพาทย์มอญซึ่งราษฎรได้นำมาจัดแสดง   พิณพาทย์มอญ เป็นศิลปะการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของชาวมอญ ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ นับตั้งแต่ชาวมอญแห่งเมืองเมาะตะมะ ได้อพยพมายังสยาม เมื่อปีพุทธศักราช ๒๒๐๖ ปัจจุบัน วงพิณพาทย์มอญแห่งเมืองสามโคก หาชมได้ยากยิ่ง คงเหลือให้เห็นเพียงวงปี่พาทย์มอญ ที่ยังได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จวบจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 19:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 รุ่งเช้าของวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๔๙ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินยังหอสวดมนต์ของวัดท้ายเกาะ ทรงพบกับพระรามัญมุนี  เจ้าคณะเมืองปทุมธานี  เจ้าแขวง และเจ้าอธิการของวัดอื่นๆ ที่มารับเสด็จอีกเป็นจำนวนมาก พระองค์ได้บำเพ็ญพระราชกุศล และถวายปัจจัยแก่พระภิกษุเหล่านั้นโดยทั่วกัน  ก่อนที่จะประทับเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินออกจากวัดท้ายเกาะ ในเวลา ๙ นาฬิกา ๓๐ นาที มุ่งหน้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อไป ภาพพระรามัญมุนี เจ้าคณะเมืองปทุมธานีครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 19:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบพระคุณสำหรับการติดามนะครับ จากคุณ : secret letter - [ 4 พ.ค. 52 19:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณมากครับ ... โหวตครับ จากคุณ : jassb1 - [ 4 พ.ค. 52 19:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จบประพาสต้นครั้งแรกแล้ว  ผู้ร่วมทางของเราแวะพักผ่อนที่ไหนกันบ้างหนอ ตอนนี้ เรือประพาสต้นครั้งที่สอง ออกเดินทางแล้วนะคะ ครั้งนี้สนุกกว่าครั้งแรก ตรงที่มีบทพระราชนิพนธ์และภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ประกอบเนี่ยแหละค่ะ มาลงเรือไปด้วยกันนะคะ จากคุณ : ใบนท - [ 4 พ.ค. 52 20:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาจัดการโหวต และให้ give ครับ เพิ่งดูตอนพระนครศรีอยุธยา และสระบุรี มีข้อสังเกตเรื่องการพิมพ์ชื่อประกอบภาพผิด กรมพระนราธิปฯ พิมพ์เป็น กรมพระนราทิพย์ฯ ครับ จากคุณ : CVTบ้านโป่ง - [ 4 พ.ค. 52 22:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39  .... ส วั ส ดี ค่ะ .... จากคุณ : Oncidium. - [ วันฉัตรมงคล 07:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อยากทราบว่าเพลงประกอบสารคดีเป็นเพลงอะไร แล้วจะหาได้จากที่ไหนบ้างคะ จากคุณ : กระต่ายไซเบอร์ - [ วันฉัตรมงคล 20:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มารอคุณจดหมายลับ และคุณใบนท ครับ วันนี้ผ่านไปอีกตอนกับเมืองวิเศษไชยชาญ คคห ๔๐ คุณกระต่ายไซเบอร์ ลองไปดูเว็บของ thaipbs ครับ มีรายละเอียดของเพลงครับ จากคุณ : CVTบ้านโป่ง - [ วันฉัตรมงคล 22:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ : กระต่ายไซเบอร์ เพลงเขมรไทรโยคครับ ไปที่ TPBS เลยครับ  เขาเผยแพร่อยู่แล้วครับ ข้อความด้านขวา เพลงประกอบรายการ :  เพลงเขมรไทรโยค (Tale of Saiyok) อำนวยเพลงโดย : รศ. ดร. สุกรี เจริญสุข ผู้อำนวยการวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 11:41:04 จากคุณ : NetStar - [ 6 พ.ค. 52 11:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มาตอบเรื่องเพลงนะครับ ตอนนี้มีการเรียบเรียงเพลงขึ้น 40 เพลงนะครับ แต่เพลงที่เป็นหลักของรายการคือเพลง tales of saiyok ซึ่งเรียบรียงโดย อาจารย์สุกรีครับ อาจารย์นำเพลงไปเข้าห้องอัดที่เยอรมันโน่นครับ ส่วนเรื่องที่จะออกวางจำหน่ายหรือไม่ คงต้องรอคำตอบจากอาจารย์อีกครั้งครับ ส่วนบทแห่เรือในรายการที่ได้ฟังนั้น เป็นผลงานของทางครูแจ้ง คล้ายสีทอง ศิลปินแห่งชาตินะครับ ซึ่งเราได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดียิ่งจากท่านทั้งสองครับ ตอนนี้ ผมมี tales of saiyok เป็นไฟล์ mp3 นะครับ (ขอสอบถามก่อนนะครับ ว่าสามารถเผยแพร่ได้หรือเปล่า หากได้รับการอนุญาต ผมจะแจ้งอีกครั้งครับ) ส่วนเรื่องชื่อที่ขึ้นผิด ขอบคุณมากครับ สำหรับคำติชม แล้วจะนำไปดำเนินการแก้ไขครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : secret letter - [ 6 พ.ค. 52 11:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณ คุณ NetStar ลืมไปว่า ผมได้เอาเพลงนี้ไปขึ้นที่เวบรายการแล้ว แฮะๆๆๆ จากคุณ : secret letter - [ 6 พ.ค. 52 11:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คคห ๔๔ จากคุณ : CVTบ้านโป่ง - [ 6 พ.ค. 52 11:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เพลงหลายเพลง วงดุริยางค์ฟิลฮามอนิคแห่งประเทศไทย บันทึกเสียงออกจำหน่ายมานานแล้วครับ ที่ฟังแปลกหูเพราะไม่เคยได้ยินในอัลบั้มไหนเลยคือเพลงเขมรไทรโยคนี้แหละครับ ถ้ารวมเป็นอัลบั้มประพาสต้นได้ ... เหมือนคราวที่ทำอัลบั้มไกลบ้าน คงดีไม่น้อย จากคุณ : jassb1 - [ 6 พ.ค. 52 12:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอมาร่วมแจมด้วยคนนะคะ จากคุณ : สนมสนิท (สนมสนิท) - [ 7 พ.ค. 52 10:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 48  ..... ตามมาโหวตค่ะ ..... จากคุณ : Oncidium. - [ 7 พ.ค. 52 22:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เคยได้ยินเพื่อนออกเสียงว่า ฟิ-ลา-โม(มอ)-หนิก ผิดหรือถูกก็ไม่รู้ครับ คุณแจ๊ส จากคุณ : NickyNick - [ วันวิสาขบูชา 08:44:37 ]