ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนนี้ เราก็ไม่ทราบเรื่องหลักสูตรนี้หรอกค่ะ เคยเห็นก็แต่แว้บ ๆ ในกระทู้ห้องรวมพลนักแปล ว่ามีพี่คนนึงเรียนหลักสูตรนี้ ตอนนั้น ความคิดเรื่องเรียนปริญญาโททางด้านภาษายังไม่มีในหัวเราค่ะ ตอนนั้น เรายังคิดว่าจะฝึกภาษาอังกฤษให้เก่ง ๆ แล้วไปเรียนต่อต่างประเทศตามแผนเดิมที่เคยคิดไว้ หลังจากที่เราวนเวียนอยู่ในพันทิป จนมีกลุ่มย่อยห้องเรียนภาษาอังกฤษ จนเราไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม และแล้วช่วงเดือนกันยายน เราและเพื่อน ๆ ได้คุยกันเรื่องเรียนต่อ หลายคนเปลี่ยนเส้นทางชีวิต เลือกเดินตามทางที่รัก เราก็กลับมาคิดว่า เออ ตัวเราก็เหมือนกันแฮะ อยากจะไปเรียนต่อเมืองนอก แต่ทำไม ไปไม่ถึงฝั่งฝันซักที มาคิด ๆ ดู เราช้อบ ชอบ อยู่กับหนังสือเกี่ยวกับภาษา เราอยากเป็นนักเขียน ถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ของเราให้หลาย ๆ คนได้อ่าน เราอยากเป็นนักแปล แปลหนังสือ แปลบทความ ให้ผู้อ่านได้ซึมซับทั้งอรรถและรสโดยภาษาไม่เป็นตัวกั้น เราอยากเป็นอาจารย์ ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ลูกศิษย์ของเรา คิดได้ดังนั้นแล้ว เราก็เริ่มหาหลักสูตรที่เราอยากจะเรียนและเหมาะสมกับเรา เราก็หาจากในพันทิปนี่แหละค่ะ แล้วก็ Google เพิ่มเติมหารายละเอียดต่อไป ตอนนี้ เราจะมาลงรายละเอียดหลักสูตรนี้กันเลยนะคะ --------------------------------------------------------------------------------- ถ้าใครอยากฟังเสียงเรา คลิก link ข้างล่าง ฟังจาก imeem ได้ค่ะ http://www.imeem.com/people/7wSL4zM/music/tvkeGKCa/flowery-translation-cump3/ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 52 22:18:32 จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 18:32:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รายละเอียดการสมัครและสอบคัดเลือกอ่านได้จากเว็บไซต์ศูนย์การแปลฯ ค่ะ http://www.arts.chula.ac.th/~tran/main/content.php?categoryname=application คุณสมบัติผู้สมัคร 1. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า (ไม่จำกัดสาขา) และต้องมีความรู้ทางภาษาไทยและภาษาต่างประเทศในระดับดีมาก 2. คุณสมบัติอื่นๆเป็นไปตามประกาศของบัณฑิตวิทยาลัยซึ่งจะประกาศให้ทราบเป็นปีๆ ไป หรือคณะกรรมการบริหารหลักสูตรอักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการแปลและการล่าม พิจารณาแล้วเห็นสมควรให้มีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษาได้ ด้วยความที่หลักสูตรนี้ไม่จำกัดสาขาที่เรียนตอนปริญญาตรี เราซึ่งเรียนสายวิทย์มา จึงสามารถสมัครได้ ส่วนความรู้ทางภาษาไทยและภาษาต่างประเทศในระดับดีมากนั้น ถึงความรู้ของเราจะไม่ถึงระดับดีมาก แต่ก็ขอลองดูสักตั้ง กำหนดการรับสมัคร รับสมัครวันที่ 1 ตุลาคม- 30 พฤศจิกายน ของทุกปี   ใบสมัครราคาชุดละ 1,000 บาท (รวมค่าธรรมเนียมและค่าสอบคัดเลือก) หลักฐานที่ใช้ในการสมัคร 1. ใบสมัคร 2. สำเนาใบแสดงผลการศึกษาระดับปริญญาตรี 1 ชุด 3. สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการ 1 ชุด 4. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด 5. รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป 6. สอบภาษาอังกฤษ ( CU-TEP) ของศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 550 คะแนน ขึ้นไป จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 18:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากข้อ 6 ที่ต้องใช้ผลสอบ CU-TEP ในการสมัครด้วยนั้น เราเลยต้องเตรียมตัวสอบ CU-TEP อย่างด่วน เราได้เขียนเล่าเรื่องการสอบ CU-TEP ของเราไว้ในกระทู้ด้านล่างนี้ค่ะ ลองเข้าไปอ่านดูนะคะ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/11/K7165825/K7165825.html พอได้ผลสอบ CU-TEP แล้ว เราก็รวบรวมเอกสารไปสมัครที่ศูนย์การแปลฯ ค่ะ ตอนนั้น ก็เหลือเวลาเตรียมตัวสอบข้อเขียนเพียงแค่ไม่ถึงเดือน ด้วยความที่เราเพิ่งมาตัดสินใจได้ ตอนที่เปิดรับสมัครไปแล้ว แล้วช่วงนั้นงานก็ยุ่ง ต้องสอบ CU-TEP อีก เราเลยคิดว่าลองสอบเอาประสบการณ์แล้วกัน ปีนี้ไปลองข้อสอบก่อน ปีหน้าค่อยสมัครใหม่ รอไปปีนึงคงไม่เป็นไร เราจะเล่าต่อว่าเราเตรียมตัวอย่างไรในเวลาที่จำกัด จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 18:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราไม่เคยทำงานแปลมาก่อน แต่เราอ่านหนังสือแปลมาตั้งแต่เด็ก เราเป็นเด็กที่รักการอ่านหนังสือมาก สมัยเรียนมัธยมฯ เรามักจะได้รับคัดเลือกให้ไปประกวด "อ่านในใจ" ซึ่งหลาย ๆ คนสงสัยกันว่า เค้าประกวดกันอย่างไรหรือ เราว่าเพราะความที่เรารักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก เราเลยมีคลังคำและสำนวนอยู่ในหัวบ้าง ช่วยให้เราเอาตัวรอดในการสอบได้ มาดูกันต่อเรื่องการสอบนะคะ การสอบคัดเลือกผู้เข้าศึกษา 1. สอบข้อเขียน 3 วิชา : - ภาษาไทย - ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) - การแปล อังกฤษ - ไทย 2. สอบสัมภาษณ์ 3. แนวการสอบคัดเลือก - 3.1 ทักษะการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตามระบบโครงสร้างและมาตรฐานการใช้ภาษา - 3.2 ทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศสำหรับการอ่านเพื่อความเข้าใจ การเขียนคำตอบ การสรุปความ และการแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) - 3.3 ทักษะการแปลตัวบท (Text) ที่กำหนดให้ จากภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 18:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สอบข้อเขียน 3 วิชา - ภาษาไทย - ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) - การแปล อังกฤษ - ไทย เอาล่ะสิ ทำอย่างไรดี ภาษาไทยก็ไม่ได้สอบนานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่สอบก็คือสอบ Entrance ภาษาอังกฤษเราก็ไม่รู้แนวว่าข้อสอบจะออกแนวไหน ไม่มีตัวอย่างข้อสอบให้ดูด้วย การแปล อืมม์ จะเตรียมตัวอย่างไรดีล่ะ เวลาก็เหลือน้อยคิด คิดไปคิดมา เอางี้แล้วกัน หาจากในพันทิปนี้แหละ จำได้ว่าเคยมีคนถามตอบเรื่องนี้ไว้ เราก็เลยพึ่ง "คลังกระทู้เก่า" และ "พันทิป Smart Search" http://www.pantip.com/cafe/library/topicstockK.php http://search.pantip.com/cgi-bin/ss จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 18:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พอเข้่าไปในคลังกระทู้เก่าแล้ว ลองพิมพ์คำว่า การแปล จุฬา ลงใน Search Box นะคะ จะเจอหลายกระทู้เลยค่ะ ทีนี้ก็ไล่อ่านกระทู้เก็บข้อมูลไปเรื่อย ๆ ตัวอย่างกระทู้ที่เราอ่านก่อนไปสอบ ได้แก่ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/K2771572/K2771572.html http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/08/K6900203/K6900203.html http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/10/K5924470/K5924470.html เราขอขอบคุณผู้ตั้งและผู้ตอบกระทู้ทุกท่านไว้ ณ ที่นี้นะคะ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 19:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาดูกันทีละวิชานะคะ วิชาแรก วิชาภาษาไทย ตามที่ประกาศไว้ว่าวัดทักษะการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตามระบบโครงสร้างและมาตรฐานการใช้ภาษา ดังนั้น เรื่องที่สอบก็มี การใช้คำ, การใช้ภาษา, การเรียบเรียงข้อความ, การวิเคราะห์บทความ ตอนที่เราเตรียมตัว เราก็ไม่รู้ว่าจะใช้หนังสือเล่มไหนดี ให้ได้ครอบคลุมทักษะภาษาไทยในเวลาอันสั้น เราก็เลยไปหอสมุดของมหาวิทยาลัยแล้วยืมหนังสือหลักภาษาไทยของพระยาอุปกิตศิลปสาร, หนังสือทักษะการเขียนภาษาไทย (เล่มนี้พี่ sserayangkoon แนะนำ), ภาษาไทยนอกจอ (เล่มนี้ คุณหนอนหนังสือตัวเป้งแนะนำ) อ้อ หนังสือของครูลิลลี่ก็อ่าน เราพยายามอ่านให้มากที่สุด ถึงจะไม่ได้อ่านละเอียด แต่ก็ให้ผ่านตามากที่สุด จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 19:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 วิชาที่ 2 วิชาภาษาอังกฤษ แนวการสอบคัดเลือกคือ วัดทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศสำหรับการอ่านเพื่อความ เข้าใจ การเขียนคำตอบ การสรุปความ และการแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ขอบอกว่า ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ยากมาก ๆ สำหรับเรา มิน่าล่ะ เค้าถึงกำหนดคุณสมบัติผู้สมัครไว้ว่า "ต้องมีความรู้ทางภาษาไทยและภาษาต่างประเทศในระดับดีมาก" เฮ้อ มั่วเยอะมาก ๆ หน้าห้องเค้ามีติดประกาศไว้ด้วยว่า ผู้ที่ผ่านการสอบข้อเขียนต้องสอบได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 70% และในแต่ละวิชาก็ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 70% ด้วย โอ้ แค่จะสอบให้ได้คะแนนรวม 3 วิชา ไม่ต่ำกว่า 70% ก็ยากแล้ว ต้องทำให้ได้ถึง 70% ทุกวิชาเลยหรือนี่ จะเอาวิชานู้นไปดึงคะแนนวิชานี้ก็ไม่ได้ ไหน ๆ ก็เสียค่าสอบตั้งพันนึง ก็ทำเท่าที่ทำได้ มั่วแหลกลาญ ข้อสอบเป็นอัตนัยหมดเลยค่ะ อย่าง Cloze test ก็ไม่มี choice ให้ ต้องหาคำมาตอบเอง มั่วสุดฤทธิ์ แล้วก็ให้อธิบายความหมายของคำ, Error detection, Vocabulary, Reading Part Reading เนี่ย ที่เคยทำมาก็จะมี choice ใช่มั้ยคะ แต่นี่อย่างที่บอก เขียนเติมเองหมดเลยค่ะ ถามมาตอบไป ไม่ตอบก็อดได้คะแนน เราว่าสอบ IETLS, TOEFL ยังทำได้มากกว่าอีก อ่ะ เหลืออีกวิชา สอบไม่ได้ก็สมัครใหม่ปีหน้าแล้วกัน ตอนนั้นปลอบใจตัวเองอย่างนี้ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 19:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ติดตามอ่านอยู่.. จากคุณ : ผู้ชายที่หลงรักตัวอักษร - [ 6 พ.ค. 52 19:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วิชาสุดท้าย  วิชาการแปล อังกฤษ - ไทย ให้เวลา 2 ชั่วโมง 1. แปลเรื่องสั้น คำสั่ง ให้แปลเรื่องสั้นประมาณว่าแปลส่งนิตยสารสกุลไทย, มติชนรายสัปดาห์ ยากมากนะสำหรับเรา แต่สำหรับคนที่เรียนสายภาษามา คงสบายอ่ะ อ้อ ไม่ให้เอาพจนานุกรมเข้าห้องสอบด้วย เพราะฉะนั้น คำไหนไม่ได้ สำนวนไหนไม่รู้ ก็ต้องเดาจากบริบทค่ะ เราเดาผิดไปมากมายทีเดียว 2. แปลข่าว ข่าว CNN ค่ะ ตัดแบ่งเป็น 5 ข้อย่อย เราอ่ะ แบ่งเวลาไม่ดี จริง ๆ น่าจะแปลเรื่องสั้น 1 ชั่่วโมง แล้วแปลข่าว 1 ชั่วโมง แต่กว่าจะแปลเรื่องสั้นเสร็จ ปาไป 1 ชั่วโมงครึ่ง พอเงยหน้ามาดูนาฬิกา ตกใจ ปั่นแทบไม่ทัน ตอนนั้น รู้สึกเลยว่าแปลได้ไม่ดีเล้ย ไม่เป็นไร เอาไว้ปีหน้า แก้ตัวใหม่ หลังสอบเสร็จ ด้วยความที่คิดว่าไม่ผ่านชัวร์ ก็เลยไปซื้อใบสมัครของอีกที่หนึ่งเอาไว้ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 19:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 การเตรียมตัวสอบแปลของเรา เริ่มจากกระทู้ในพันทิปนี่แหละ ดู ๆ แนวการแปลของปรมาจารย์ทั้งหลาย เช่น หลักการของแอ๊ด หรือ Add's Principles ซึ่งแอ๊ดขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับคนอื่น การแปลที่ดีคือ 1.ถ่ายทอดสาระ ไม่ผิด ไม่ขาด ไม่เกิน จากต้นฉบับ 2.มีความสละสลวยงดงาม เหมาะสมกับกาละเทศะ ของภาษาปลายทาง http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/08/K6859601/K6859601.html#2 ตอนนั้น เรายืมหนังสือเรื่องการแปลมาอ่านหลายเล่ม ซื้อมาอ่านก็เยอะเหมือนกัน เราอ่านทั้งของอ.สิทธา พินิจภูวดล, อ.ปรีมา มัลลิกะมาศ, อ.วัลยา วิวัฒน์ศร, อ.สุพรรณี ปิ่นมณี, อ.ทิพา เทพอัครพงศ์, คุณ ส.ศิวรักษ์, คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา และหนังสือของอ.ท่านอื่นอีกมากมาย อ่านหนังสือแปลก็อ่านด้วย คือตอนนั้น มีนู่นนี่ให้อ่านเยอะ แต่ก็ไม่จบสักเล่มนะคะ อาศัยว่าอ่านผ่าน ๆ เอาเป็นแนวทางค่ะ เพราะเวลาจำกัดมาก ๆ เราถึงบอกไว้ในตอนต้นว่า ที่สอบได้คงเพราะซึมซับการอ่านมาตั้งแต่เด็กค่ะ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 19:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หลังจากสอบเสร็จ เราก็ตั้งหน้าตั้งตารอว่าเมื่อไหร่จะประกาศผลสอบหนอ ถ้าไม่ผ่านจะทำอะไรต่อ จะไปเรียนหลักสูตรไหน แล้วถ้าผ่าน จะเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์อย่างไร และแล้ว วันที่ 16 ม.ค. 52 ก็มาถึง ประมาณ 9 โมง คุณโจโฉก็โทร.มาบอกว่า เค้าประกาศผลแล้วนะ เราก็งง ๆ เหรอ ๆ ขอบใจนะ แล้วก็ไปเิปิดคอมฯ ตอนนั้นก็กล้า ๆ กลัว ๆ เพราะถ้าไม่ผ่านขึ้นมา ก็คงเสียใจ แต่ก็นะ เราทำดีที่สุดแล้วล่ะ พอเปิดหน้าเว็บไซต์ เราก็ไปโหลดไฟล์มาดู ก็ยังไม่ได้ดูละเอียดหรอก แต่ดูแว้บ ๆ ว่า เรียงตามเลขที่สอบ อ่ะ ดูก็ดู ไม่ติดก็ไม่ติด ดูไล่มา เฮ้ย เลขประจำตัวสอบเรานี่หว่า ฮ้า ชื่อก็ใช่ อิ อิ สอบติดแล้ว ดีใจ ๆ ก็เลยปริ๊นท์ใบประกาศผลออกมา แล้วก็โทร.บอกเพื่อนเราอีกคนนึง แล้วก็บอกที่บ้าน ดีใจกันที่สอบติดแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะสอบผ่าน เราก็ไม่ได้ไปบนที่ไหนนะ จริง ๆ ก็ว่าจะบนเหมือนกัน แต่มาคิดอีกที ถ้าสอบผ่าน ก็ไม่รู้สิว่าเป็นฝีมือเราจริงรึเปล่า จากนั้น ด่านต่อไปก็คือ สอบสัมภาษณ์ค่ะ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 20:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอบสอบสัมภาษณ์ ด้วยความที่เรามาจากสายวิทย์  ไม่เคยเรียนทางด้านภาษามาก่อน อาจารย์ก็เลยให้เล่าเรื่องงาน ถามว่าทำไมถึงอยากมาเรียนหลักสูตรนี้ หลักสูตรนี้เรียนทฤษฎีเยอะนะ แล้วยิ่งไม่มีพื้นฐานด้วย ยากนะ ยังจะอยากเรียนเหรอ จริง ๆ ไม่ต้องเรียนก็แปลได้นี่นา แล้วนี่ทำงานอยู่ แล้วจะมีเวลาทำการบ้านรึเปล่า ที่นี่การบ้านเยอะนะ ถึงจะเรียนเสาร์-อาทิตย์แต่ก็อยากให้มีเวลาวันธรรมดา อ่านหนังสือทำการบ้านด้วย เราก็ตอบไปตามความรู้สึกของเราและแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจอยากเรียนจริง ๆ พอตอนท้าย อาจารย์ก็ดูคะแนน CU-TEP เราแล้วบอกว่า คะแนน CU-TEP ก็สูง คิดว่าไม่มีัปัญหานะ เรียนได้อยู่แล้ว จบคณะ...มาด้วย เรื่องความรับผิดชอบ อ.ก็ไม่ห่วง จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 20:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 และแล้วก็ผ่านสอบสัมภาษณ์มาได้ค่ะ เดือนหน้า 6 มิ.ย.ก็จะเปิดเทอมแล้ว จะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดค่ะ อยากจบใน 2 ปี ไม่รู้จะทำได้รึเปล่า ยังไงก็เอาใจช่วย Flowery ด้วยนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจเรียนต่อการแปลนะคะ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 20:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากค่ะ กระทู้มีประโยชน์จริงๆค่ะ ดิฉันเคยเตรียมตัวจะไปสอบเมื่อต้นปี รุ่นเดียวกับเจ้าของกระทู้ค่ แต่ก็พลาดไป..  อย่างไรปีหน้าจะตั้งใจเตรียมตัวให้มากขี้นค่ะ กระทู้นี้แนะแนวทางละเอียดมากค่ะ เพราะเคยหาๆดูในกระทู้อื่นๆแล้วจะไม่ลงดีเทลมากนัก  อย่างไร ขอให้ประสบความสำเร็จในการเรียนนะคะ  ^_^ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 20:36:17 จากคุณ : นก-หวีด - [ 6 พ.ค. 52 20:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ คุณมันจะดีเหรอคะ (ชื่อนี้ทำให้คิดไปไกลเลยแฮะ อิ อิ), คุณ joechou, คุณ Guga, คุณผู้ชายที่หลงรักตัวอักษร และคุณนก-หวีด ขอบคุณที่ให้ Give และเข้ามาอ่านค่ะ เคยคิดจะเขียนเรื่องนี้ไว้นานแล้ว แต่ก็รอให้ประกาศผลแน่นอนก่อนแล้วค่อยโพสต์ ตอนนี้ ก็ใกล้จะเปิดเทอม ถ้าไม่รีบโพสต์ไว้ก่อน เดี๋ยวเปิดเทอม การบ้านเยอะ ไม่มีเวลามาตั้งกระทู้แน่ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 19:38:50 จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 20:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากเลยนะครับที่เขียนมาแนะนำให้อ่านกัน ขอ save เก็บเอาไว้อ่านเลยได้ไหมครับ เผื่อผมจะเข้าไปเป็นรุ่นน้อง T T ขอบคุณอีกครั้ง จากคุณ : kengkiki - [ 6 พ.ค. 52 21:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ด้วยความยินดีค่ะ คุณ kengkiki ยิ่งเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้ ยิ่งพร้อมค่ะ นอกจาก save ไว้แล้ว ถ้าชอบกระทู้ไหน ก็คลิก "เก็บเข้าคลังกระทู้" ค่ะ กระทู้ก็จะไปอยู่ในคลังกระทู้เก่าตาม link ในคคห.ที่ 5 ค่ะ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 21:34:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 นักเรียนใหม่ฟิตจังแฮะ เตรียมเรื่องจะทำวิทยานิพนธ์หรือยัง? หวังว่าคงไม่คว้ามหากาพย์มาแปลอย่างคุณคิมนะ ไอ้นั่นเป็นอะไรที่เขาน่าจะให้ปริญญาเอก ไม่ใช่แค่ปริญญาโท จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 6 พ.ค. 52 21:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เดี๋ยวจะไปเป็นรุ่นน้องพี่ (ไม่ทันแหงๆ) ไงๆก็จะได้เจอกันแหละเนอะ ฮา ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ จากคุณ : kurika - [ 6 พ.ค. 52 21:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หนูว่าหนูคงทำสารนิพนธ์ค่ะ คุณลุงแอ๊ด วิทยานิพนธ์ของคุณคิม หนูได้อ่านแล้วค่ะ หนามาก ๆ ตอนที่บรรณารักษ์ยื่นให้ หนูตกใจมาก โอ้ ทั้งหนาทั้งหนัก อ่านแล้วทึ่งมาก ๆ ในการแปล มีแปลเป็นกาพย์ยานี 11, กลอนแปด, โคลงสี่สุภาพ เยี่ยมมากเลยค่ะ เห็นชื่อคุณลุงและคุณน้าคุณอาในห้องรวมพลนักแปลในกิตติกรรมประกาศด้วย ชื่นชมทั้งคุณคิมและทุกคนในห้องรวมพลนักแปลค่ะ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 21:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณที่นำเรื่องดี ๆ มาแบ่งปันนะคะ คุณ Flowery มีความมุ่งมั่นแล้วก็มีการเตรียมตัวดีมากเลย สมแล้วที่ได้ผ่านเข้าไปเรียนค่ะ ขอให้ประสบความสำเร็จในสายงานแปลอย่างที่อยากทำนะคะ ป.ล. เรื่องชื่อ ใคร ๆ ก็พูดเหมือนคุณค่ะ อิอิ ^_^ จากคุณ : มันจะดีเหรอคะ - [ 6 พ.ค. 52 22:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาเป็นรุ่นน้องไว ๆ นะจ๊ะ น้อง kurika ชอบตรงนี้จังที่เขียนว่า ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ   นึกถึงตอนรับน้องปี 1 จัง กี่ปีแล้วเนี่ย (อิ อิ) เรายังเก็บใบจามจุรีและหนังสือรับน้องไว้เลย จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 22:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Paradise Lost มีคนทำวิทยานิพนธ์ไปแล้วน่ะ คุณแอ๊ด  คราวนี้คุณ Flowery อาจจะทำ Paradise Regained ต่อไปก็ได้นะ... เอ่อ เราเห็นพวกคุณไปเรียนปริญญาโทการแปลกันแล้วนะ ก็อยากไปเรียนบ้าง กะไปป่วนอาจารย์เล่นๆอ้ะ...อิๆๆๆ...แต่มหาบัณฑิตการแปลจุฬารุ่นแรก หลังจาก edit หนังสือที่เราแปลไปแล้วนะ เธอแสดงความเห็นว่า เราไม่ต้องไปสมัครเรียนหรอก เพราะว่า "เราต้องสอบภาษาไทยตกแหงๆเลยหละ...555+++..." จากคุณ : fortuneteller - [ 6 พ.ค. 52 22:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ คุณมันจะดีเหรอคะ ชอบชื่นี้จัง อิ อิ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 22:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ในฐานะที่กำลังจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับคุณ Flowery ก็อดไม่ได้ที่จะมาแจม 55+ อย่างที่คุณ Flowery ว่ามา ถ้าเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ ขีดๆเขียนๆ + ภาษาอังกฤษดีระดับหนึ่งอยู่แล้วการสอบเข้าสาขานี้ก็ไม่น่ายากเกินเอื้อม... แต่ด้วยความไม่ประมาท อีกทั้งการสอบเข้าสาขาการแปลนี้การแข่งขันค่อนข้างสูง คนเก่งๆมาสอบก็เยอะจึงควรเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ ดีที่ที่สุด บางคนคิดว่ากว่าจะสอบอีกทีก็ปลายปี(ประมาณต้นเดือนธันวา) แต่จริงๆไม่นานเอาซะเลย...เตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ดีที่สุด ข้อสอบภาษาไทย (จะว่ายากก็ยาก ไม่ยากก็ไม่ยาก) เวลาสอบ 1.5 ชั่วโมง ข้อสอบประมาณ 7-8 หน้า(ต้องบริหารเวลาให้ดีๆ) เป็นการทดสอบการใช้คำ สำนวน ภาษาไทยที่ถูกต้องกับบริบทและสถานการณ์ คำหรือรูปแบบประโยคไหนผิดก็ให้ปรับแก้ใหม่ให้เป็นภาษาไทยที่ถูกต้องสละสลวย ส่วนหลังเป็นการอ่านบทความประมาณ 1.5 กระดาษ A4 แล้วเขียนวิจารณ์เป็นรูปแบบการเรียงความ ว่าผู้เขียนให้ภาษาระดับใด มีทัศนคติแบบไหน  เรามีความคิดเห็นประการใดต่อบทความบ้าง การเตรียมตัว แนะนำให้อ่านหนังสือ “ทักษะการเขียนภาษาไทย” ของอาจารย์ดวงใจ ไทยอุบุญ (สำนักพิมพ์จุฬาฯ) และอ่านเรื่องสั้น นิยาย ข่าว และบทความสารคดีให้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเพื่อให้คุ้นชินกับการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง (คนที่อ่านมากอยู่แล้วจะรู้วึกว่าข้อสอบส่วนนนี้ไม่ยากมากนัก) เดี๋ยวมาต่อ...กำลังคันมือ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 22:16:50 จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ 6 พ.ค. 52 22:15:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีค่ะ คุณ fortuneteller Paradise Regained น่าสนนะคะ แต่คงแปลไม่ไหวค่ะ รีบ ๆ มาต่อนะคุณโจโฉ บอกว่า...กำลังคันมือ เห็นภาพเลย กำลังรัวพิมพ์อยู่ล่ะสิ อิ อิ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 22:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ยินดีด้วยจ้า จากคุณ : Genuine XXX - [ 6 พ.ค. 52 22:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณค่ะ คุณ Genuine XXX และขอบคุณในมิตรภาพที่มีให้เสมอมาตั้งแต่มีห้องเรียนภาษาอังกฤษค่ะ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 22:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ข้อสอบภาษาอังกฤษ..พักสอบจากข้อสอบภาษาไทยประมาณครึ่งชั่วโมง เอ่อ อันนี้ขอบอกไว้เลยว่า ตัวใครตัวมันจ้า 55+ (ล้อเล่น) ตั้งแต่สอบข้อสอบภาษาอังกฤษมายังไม่เคยทำข้อสอบยากขนาดนี้เลยอ่ะ ศัพท์ที่เอามาออกสอบSentence completion ระดับ GRE มั่วแหลก (แนะนำว่าไม่ต้องเตรียม)  Cloze test ต้องเติมคำเอง ส่วนไวยากรณ์ก็เป็น Error Identification ซึ่งถ้ามองจริงๆ 2 ส่วนนี้ก็ไม่ได้ยากมาก ถ้าเตรียมตัวโดยการหัดทำข้อสอบแนวสอบเข้าป.โท โดยการอ่าน Passage ข้อสอบสอบเข้า ป.โทหรือ TOEFL ฉบับ Paper-based เยอะๆเพราะเนื้อหาแนวเดียวกันเลย โดย Cloze test จะเป็นบทความทางวิชาการ ส่วน Error ก็เหมือนกับข้อสอบ CU-TEP แต่ยากกว่านิดหน่อย หมั่นทำข้อสอบแนวนี้เยอะๆก็จะได้เอง (แนะนำให้ทำวันละ 20-30 ข้อ เอาไว้ใช้สอบ CU-TEP พร้อมกันไปเลย) ส่วนอีกครึ่งหลังเป็นข้อสอบการอ่านและเขียนอธิบาย...ขอบอกว่ายาวและยากมาก...ดีที่ใช้ลูกเล่นโดยการเขียนตอบกว้างๆให้อ่านดูกลางๆไม่ฟันธงคำตอบไปทางใดทางหนึ่ง (ก็มันเยอะ เวลาใกล้หมด 55+) ตรงนี้ผมคิดว่าเขาคงต้องการดูการจับประเด็น วิธีการเรียบเรียงเขียนนำเสนอภาษาอังกฤษ ดูไวยากรณ์การใช้คำศัพท์ และสไตล์การเขียนของเรามากกว่าว่าโอเคไหม การเตรียมตัวนอกจากหัดทำข้อสอบ CU-TEP หรือข้อสอบเตรียมสอบ.โทเยอะๆตุนเอาไว้แล้ว แนะนำให้อ่านข่าว สารคดี ภาษาอังกฤษให้มากๆ ซึ่งหาได้จากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ สารคดีออนไลน์ หรือจากรีดเดอร์ไดเจส อ่านแล้วหัดสรุปความ หรือ paraphrase ประโยคให้เป็นภาษาของเราเอง ทำทุกวันวันละเรื่องก็ได้ รับรองจะได้มั่นใจและไม่ลนมากเวลาสอบ เดี๋ยวมาต่ออีก อิอิ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 22:52:07 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 22:48:54 จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ 6 พ.ค. 52 22:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 น้อง Flowery  จ๋า.. ใจดีจัง  เอาเคล็ดลับมาบอก  เล่าได้เป็นฉากๆ เลยนะ  น่าติดตาม ยังกับอ่านนิยาย "ชีวิตต้องกิน  เอ๊ย..สู้"    เดี๋ยวรอให้ หนังของผมหายหายเหนียวก่อนนะ  แล้วจะตามไปเป็นรุ่นน้อง  ตอนนี้คงยังเอาไปแกงไม่ได้ อิอิ   เออ..ว่าแต่น้องเอ่ย  สอบได้คราวนี้มันเป็นการได้กำไรเกินควรแล้วล่ะ  ก็แหม..แม่คุณเล่นคว้านหาข้อมูลและทบทวนจากเน๊ตนี่แหละ   คราวหน้าลงทุนหน่อยนะ    โรงเรียนสอนเสริมมีเคือง   ฮึ... Cheer ! Cheer ! Cheer ! จากคุณ : Fortunism - [ 6 พ.ค. 52 23:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สุดท้ายคือข้อสอบการแปล....ให้เวลา 2 ชั่วโมง ห้ามเอาพจนานุกรมเข้าห้องสอบ (ดีนะมีพักกินข้าวกลางวัน ไม่งั้นตายแน่) เป็นการแปลอังกฤษเป็นภาษาไทย ทดสอบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ และการเขียนเรียบเรียงเป็นภาษาไทยที่ถูกต้อง อ่านเข้าใจ ไม่ขาดไม่เกิน...ฉะนั้นการเตรียมตัวคือ หมั่นหาข่าว เรื่องสั้นแนวๆนี้มาอ่านๆๆ+แปลๆๆๆไว้เลยตั้งแต่วันนี้ให้ชินมือ การหาหนังสือหลักการแปลดีๆที่มีขายตามร้านหนังสือก็เป็นการเรียนรู้แนวทางลัดอีกวิธีหนึ่ง ว่าเขามีหลักการแปลอย่างไรบ้าง ที่จะแนะนำมีหลายเล่ม ถ้ามุ่งมั่นตั้งใจจะเรียนให้ได้ก็ซื้อไว้ทั้งหมดแล้วไล่อ่านเดือนละเล่มก็ได้ 55+ เล่มที่อยากแนะนำคือ 1. การแปลเบื้อต้น ของอาจารย์ทิพา เทพอัครพงค์ สำนักพิมพ์จุฬาฯ 2. การแปลขั้นสูง ของอาจารย์สุพรรณี ปิ่นมณี สำนักพิมพ์จุฬาฯ 3. แปลได้ แปลดี (ทักษะการแปลสำหรับผู้เรียนในมหาวิทยาลัย) ของอาจารย์สุพรรณีเหมือนกัน สำนักพิมพ์จุฬาฯ (ออกใหม่) 4. หลักการแปล ของอาจารย์สัญฉวี สายบัว สำนักพิมพ์ มธ. (เล่มนี้ถือว่าคลาสสิกเพราะพิมพ์เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้) 5. หลักการแปล ของอาจารย์สิทธา พินิชภูวดล สำนักพิมพ์นานมี เล่มนี้ก็ดีมาก ตอนนี้อาจหาซื้อยาก ลองไปดูที่สำนักพิมพ์นานมีที่สุขุมวิทน่าจะมี... 6. คู่มือสอนแปล ของอาจารย์วรนาถ วิมลเฉลา สำนักพิมพ์จุฬาฯ เล่มนี้ดีมากๆๆๆๆๆๆ แนะนำอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ไม่มีพิมพ์ขายแล้ว ให้บุกไปที่ห้องสมุดกลางจุฬาฯ ถ่ายเอกสารเก็บไว้อ่านได้เลย 7. การแปลกับการสอนภาษาอังกฤษ ของอาจารย์ปรีมา มัลลิกะมาส สำนักพิมพ์จุฬาฯ (เล่มนี้ไม่เกี่ยวกับเทคนิคการแปลเท่าไร แต่จะได้แนวคิดเรื่องการสอนภาษาจากการแปล ชอบมากเป็นการส่วนตัวครับ หุหหุ) นอกจากเล่มหลักๆพวกนี้ก็ยังมีที่ไม่วางขายตามท้องตลาด เช่น การแปลวรรณกรรม กับ หลักการแปลและเทคนิค หาซื้อได้ที่ห้องใกล้ๆห้องสมุดคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯนะครับ ส่วนเล่มอื่นๆก็แล้วแต่ความชอบครับ บางเล่มผมว่าหนักวิชาการไปนิส บางเล่มก็อ่อนวิชาการไปหน่อยเพราะไม่มีการอ้างอิงที่ดีนัก การสอบแปลนั้นอยากจะบอกว่า ผมเองก็ไม่ใช่จะแปลได้ดีแบบว่าเก็บใจความได้ครบทั้งหมด ทั้งนี้เพราะมันมีศัพท์ภาษาอังกฤษตั้งหลายคำที่ไม่รู้ในข้อสอบที่อาจารย์เอามาให้แปล วิธีการก็คือ อย่าเว้นช่องว่างหรือเขียนตำภาษาอังกฤษที่แปลไม่ได้ลงไปอย่างเด็ดขาด(เห็นคนอื่นที่ทำไม่ได้ชอบทำกัน) แต่จงแปลให้กลมกลืนเป็นภาษาไทยที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายๆ ไหลลื่นไว้ก่อน คำไหนแปลไม่ได้ให้ข้ามไปเลย เอาเฉพาะใจความหลัก อย่าแปลประโยคต่อประโยค ให้หลุดจากการแปลเรียง S+V+Obj ที่ละประโยคจากภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ต้องอ่านให้เข้าใจก่อนหลายๆรอบ อย่าเพิ่มรีบแปลเด็ดขาด จับประเด็นใจความหลักให้ได้แล้วค่อยลงมือเรียบเรียงเป็นภาษาไทย การสอบแปลนี้ บอกตรงๆว่าทักษะภาษาไทยสำคัญยิ่งกว่าภาษาอังกฤษซะอีกเพราะระดับภาษาที่เอามาให้แปลผมว่าไม่ได้ยากมาก คนมีความรู้ภาษาอังกฤษระดับกลางๆก็น่าจะพออ่านเข้าใจ จับประเด็นได้ไม่ยาก แต่ที่ยากกว่าคือการเรียบเรียงเป็นภาษาไทย ดังนั้นทางแก้คือต้องอ่านข่าว สารคดี นิยาย เรื่องสั้นภาษาไทยตุนไว้มากๆเพื่อสร้างรุปแบบการเขียนภาษาไทยที่ดีให้กับตัวเอง กระบวนการนี้ผมเองก็พยายามฝึกอ่านทุกวันเพราะรู้ว่าภาษาไทยตัวเองยังมีข้อบกพร่องอีกมาก แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 14:04:13 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 23:29:58 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 23:23:51 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 23:22:10 จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ 6 พ.ค. 52 23:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ชีวิตต้องกิน... อิ อิ คุณพี่ Fortunism รู้ได้ไงคะเนี่ย หนูนี่ตัวเขมือบเลย 555 สัปดาห์หน้า จะไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นกับน้อง ๆ เรื่องกินไม่พลาดชัวร์ คุณโจโฉนี่ข้อมูลปึ้กมาก ๆ พูดไม่เก่ง แต่เขียนเก่งแฮะ จากคุณ : Flowery - [ 6 พ.ค. 52 23:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มีแต่คนถ่อมตัว สอบได้นี่เก่งมากนะคะ เพื่อเราเคยไปสอบ เขาบอกว่าปวดหัววววววว อิอิ จากคุณ : Guga - [ 6 พ.ค. 52 23:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ครับ ผมก็เป็นคนนึงที่กำลังจะเบนสายอย่างเต็มตัว (จบวิศวะแต่จะมาด้านภาษาเอาดื้อๆ) เรื่องแปลนี้ก็เคยคิดอยากลองแต่พบว่าตัวเองอ่อนภาษาไทยเกินกว่าจะแปลให้สละสลวยได้ อยากเป็นอาจารย์สอนภาษา ตอนนี้กำลังเตรียมตัวสอบcerอยู่เช่นกันครับ จากคุณ : Azure_Mile - [ 7 พ.ค. 52 00:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ Guga คะ ตอนเราสอบก็มึนเหมือนกันค่ะ ยิ่งตอนทำข้อสอบภาษาอังกฤษมึนมาก ๆ ค่ะ เพิ่งรู้ว่าคุณ Azure_Mile เป็นหนุ่มวิศวะที่กำลังเบนสายมาด้านภาษา ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ เราก็อยากเป็นอาจารย์เหมือนกันค่ะ จากคุณ : Flowery - [ 7 พ.ค. 52 00:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ข้อสอบการแปลของจุฬาฯ ค่อนข้างมาราธอน เช้า 3 บ่าย 2 ฉะนั้นคนที่ไม่ได้เตรียมตัวมาดี หรือพื้นฐานอ่อนรับรองจะสติแตก+เหนื่อยล้าได้ง่ายๆ บางคนบอกว่าแค่ข้อสอบภาษาไทยช่วงแรกก็มึนแล้ว ดังนั้นควรต้องกินให้อิ่มนอนให้หลับเป็นนิสัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนวันสอบ และการเตรียมตัวอ่านหนังสือควรเป็นไปอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ (อย่างต่ำวันละ 2-3 ชั่วโมง) เพื่อสร้างความอดทน และภูมิคุ้มกันอาการอ่อนล้าในช่วงเวลาสอบ ส่วนการสอบสัมภาษณ์คิดว่าไม่ได้ยากอะไร เพราะเพียงแค่เราแสดงจุดยืนและความมั่นใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส (ตอบไม่ตรงคำถาม ตื่นเต้นบ้างก็ไม่เป็นไร) อย่างผมเองบอกเลยว่าจริงๆไม่ได้อยากเป็นนักแปลอาชีพ แต่สนใจในศาสตร์การแปลและการสอนภาษา คิดว่าจบไปอยากเป็นอาจารย์สอนหนังสือ งานที่สนใจแปลเป็นพวกเกี่ยวกับการเรียนการสอนภาษาล้วนๆ โดนอาจารย์ถามต้อน จนตอบไม่ได้ดังใจไปหลายคำถาม แต่ยังรอดมาได้ แหะๆ ที่ว่าๆมานี้ยังเป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น ด้วยเพราะวิชาเรียนในหลักสูตรมีหลากหลายวิชาที่คิดว่าไม่ได้อยู่ในความถนัดทั้งหมด คิดว่าถ้าเรียนจริงๆคงต้องขยันอีกมากเป็น 10 เท่าเลย รายวิชาที่ว่าคือ... รายวิชาเรียนทั้งหมด 36 หน่วยกิต รายวิชาบังคับร่วม 18 หน่วยกิต - ศาสตร์การแปล - วาทกรรมวิเคราะห์ในการแปล - ทักษะภาษาไทยสำหรับนักแปล - การฝึกแปลจากภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย - ทรัพยากรการแปลและการทำประมวลศัพท์ - สัมมนาการแปล รายวิชาเลือก นิสิตที่เรียนแผน ก เลือกเรียน 6 หน่วยกิต นิสิตที่เรียนแผน ข เลือกเรียน 15 หน่วยกิต - การฝึกแปลตัวบทจากภาษาไทยเป็นภาษาต่างประเทศ - การแปลต้นฉบับสื่อสิ่งพิมพ์ - การแปลบทสำหรับสื่อภาพและเสียง - การแปลในงานธุรกิจ - การแปลเอกสารกฎหมาย - การแปลงานวรรณกรรม - การแปลงานวิชาการ - การประเมินและตรวจแก้งานแปล วิธีการหาทางหนีที่ไล่ที่ดีทึ่สุดคือ การอ่านหนังสือหลักทฤษฎีการแปล บทความทางวิชาการ เอกสารและงานวิจัย (สารนิพนธ์/วิทยานิพนธ์) ที่เกี่ยวข้องกับการแปลทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยของอาจารย์ และมหาบัณฑิตในมหาวิทยาลัยต่างๆที่เขาทำไว้เป็นแนวทางว่าเขาทำงานวิจัยเรื่องใดกันบ้าง ซึ่งเนื้อหางานวิจัยส่วนใหญ่จะเป็นการวิเคราะห์การแปลในแบบต่างๆ ทั้งการแปลวรรณกรรม กฎหมาย ธุรกิจ ข่าว สารคดี ภาพยนตร์ วิชาการ ฯลฯ ซึ่งขอบอกว่าได้เลยว่าเป็นขุมทรัพย์ความรู้มหาศาล และชีวิตการเรียนหลักสูตรนี้ให้ประสบความสำเร็จคงต้องหวังพึ่งข้อมูลพวกนี้อย่างเดียวล้วนๆ เพราะด้วยความสามารถและประสบการณ์การแปลของตัวเองนั้นยังต่ำมากนัก ไอ้ครั้นจะไปรับงานมาแปลเพื่อเสริมประสบการณ์คงไม่ทันการเป็นแน่แท้ เอ่อว่าแต่...ยังไม่ได้ลงมืออ่านเป็นเรื่องเป้นราวเลยอ่ะ เอิ้กๆ เล่ามาซะหมดพุงเลยงานนี้ 55+ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณ flowery ว่าที่ classmate ของผมที่มาตั้งกระทู้นี้ เปิดโอกาสให้ได้มาร่วมแจม+ช่วยระบายประสบการณ์...พิมพ์มือแทบขวิด+ผิดเพียบเลย 55+ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 00:46:21 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 00:44:55 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 00:42:38 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 00:41:49 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 00:40:32 จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ 7 พ.ค. 52 00:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขออนุญาตร่วมแสดงความยินดีกับคุณ Flowery และคุณโจโฉ (joechou) ด้วยครับ.. หวังว่า ในช่วงเรียนที่คงหนักพอสมควร แต่ก็คงสามารถปลีกเวลามาช่วยตั้งและตอบกระทู้ในห้องนี้ได้บ้างกระมังครับ จากคุณ : Pual Tony - [ 7 พ.ค. 52 01:36:30 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณนะคะ อ่านแล้วได้ความรู้มากๆเลยค่ะ สนใจอยากต่อโทรสาขานี้อยู่พอดีเลยค่ะ เห็นในคห30บอกว่าศัพท์ในข้อสอบอังกฤษระดับGREเลย แต่พอดีเราไม่เคยสอบเลยไม่ทราบว่ามันยากแค่ไหน เคยสอบแต่SATค่ะ แล้วก็จำได้ว่าศัพท์ตอนนั้นรู้สึกว่าศัพท์โหดมาก เลยไม่ทราบว่าในนี้มีพี่คนไหนพอจะทราบมั้ยคะว่าระดับความยากง่ายของศัพท์เปรียบเทียบระหว่างของ GRE กับ SATแตกต่างกันแค่ไหน ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : 188444 - [ 7 พ.ค. 52 02:32:35 A:58.8.61.174 X: TicketID:188444 ]

ความคิดเห็นที่ 40 บรรดาการสอบที่มีชื่อย่อเป็นภาษาอังกฤษทั้งหลายแหล่นั้น เขาเป็นมาตรวัดหรือตาชั่งว่าคนสอบมีฝีมือภาษาอังกฤษอยู่ในปริมาณเท่าไร เป็นมาตรการประเมินซึ่งอยู่ที่ฝั่งการ output ของทักษะภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเอาไปเข้าตาชั่งบนเขียงหมูหรือมาตรวัดระดับอะตอมมิคไอโซโทปเรดิโอแอคตีฟเอเลเมนตารี่อิสซึ่ม เขาก็วัดน้ำยาคนสอบด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นอยากมีน้ำยาเยอะๆก็ต้องเติมน้ำยาให้มากเข้าไว้ พูดง่ายๆคือ input เยอะซะอย่าง มีสต๊อกหรืออินเวนตอรีชนิดล้นคลังจนต้องหาคลังเก็บอีกหลัง แล้วก็ฝึก output จนช่ำชองและมั่นใจ อย่างนี้จะวัดด้วยอะไรก็มาเหอะ ผูกปีสอบได้ วันนี้สอบ SAT เช้าพรุ่งนี้สอบ TOEIC มะรืนนี้สอบ IELTS มะเรื่องนี้สอบ TOEFL ฯลฯ จะนั่งสอบนอนสอบตีลังกาสอบ จะขี่มอร์เตอร์ไซค์รับจ้างหรือนี่งรถเบนซ์มาสอบ ยังไงๆมันก็ต้องได้วันยังค่ำ ดังนั้น ปลูกฝังนิสัยการรับ input และการฝึก output ให้สม่ำเสมอเป็นนิสัย ทำจนเป็นเหมือนอีกสัญชาตญาณหนึ่งอย่างที่ฝรั่งเรียก second nature ทั้งการอ่าน การดู การฟัง การเขียน การพูด ทำเพราะมันสนุก สอดแทรกในชีวิตประจำวัน ซื้อกล้วยแขกกินเมื่อก่อนเขาใส่ถุงกระดาษ กินหมดแล้ วฉีกถุงอ่านผมก็เคยเห็นคนเก่งๆเขาทำ ใช้ให้บางคนไปเก็บห้องให้เรียบร้อยต้องคอยไปกระตุ้นเพราะมันชอบเผลอหยุดอ่านไอ้ที่กำลังเก็บ ถ้าเมื่อไหร่มันเป็น second nature อย่างนี้แล้ว จะสอบอะไรก็บ่ต้องยั่น อ๊ะ ไหนๆหนู Flowery ก็อุตส่าห์ไปขุด Add's Principles มาอ้างอิงแล้ว เพื่อความโก้ยิ่งขึ้นเราขอตั้งชื่อข้อเสนออันนี้ของเราว่า Add's Postulate ซึ่งแถลงสั้นๆได้ว่า ความลำบากลำบนในการสอบภาษาอังกฤษ ย่อมแปรผกผันกับความขยันในการรับเข้าและการฝึกส่งออก นี่นแล จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 7 พ.ค. 52 06:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ Flowery เรียนภาษาอังกฤษประหยัดเงินจริงๆด้วยดิ ใช้ทรัพยากร online ได้อย่างมีประสิทธิภาำพมากๆเลยหละ โอ้โห! คุณ โจโฉ (joechou)  ทำการบ้านมามากมายตั้งแต่ก่อนเรีียน เราสงสัยว่าอาจจะแอบซุ่มๆเรียนรู้เนื้อหาจนเกือบหมดแล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้าฟัง lecture ก็ได้... อยากให้มีคนไทยอีกครึ่งค่อนประเทศเชื่อ Add's Postulate นะ โรงเรียนสอนภาษาก็จะได้ขาย courses อะไรต่อมิอะไรไม่ออกอีกตั้งห้าร้อยประเภท และพอถึงวันนั้นนะ พวกเขาต้องมาอ้อนวอนให้เราไปทำการตลาด "แนวใหม่" เพื่อขาย courses ให้พวกเขานะสิ อิๆๆๆ... จากคุณ : fortuneteller - [ 7 พ.ค. 52 09:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เรื่องถุงกล้วยแขกที่คุณลุงแอ๊ดโพสต์ไว้ในคคห.ที่ 40 ขอบอกว่า หนูเป็นหนึ่งในบรรดาพวกชอบอ่านถุงกล้วยแขก ช้อบ ชอบ กินกล้วยแขกไป ก็เอียงถุงกล้วยแขกอ่าน กินเสร็จก็แบะถุงออกมาอ่านต่อ ได้ความรู้มากมายจากถุงกล้วยแขก เรียนได้ว่าเป็นปัญญาชนถุงกล้วยแขกเลยล่ะ Add's Postulate อ่านแล้วนึกถึง Koch's Postulates แฮะ เอ หนูจำได้ว่าเคยอ่านเจอสมการของลุงแอ๊ด แต่หากระทู้นั้นไม่เจอแล้ว ช่วยโพสต์อีกทีได้มั้ยคะ หนูชอบสมการนั้นมากเลยค่ะ จากคุณ : Flowery - [ 7 พ.ค. 52 10:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ๊ะ เจอแล้วค่ะ ---------------------------------------------------------------- อะโห หลังจากตอบปัญหาในนี้มานาน เราได้บรรลุสูตรสำเร็จแห่งการเรียนภาษาอังกฤษแล้ว สามารถใช้ตอบคนที่มาถามปัญหาทำนองเดียวกันนี้ได้ เรามั่นใจมากว่าคนที่สามารถตีความสูตรนี้ออกและทำตามจริงๆ ถ้าไม่ได้ผลจะยอมให้ตึ๊บ EP = (R+L)infinity x (W+S)infinity rep 24/7 http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/03/K7578508/K7578508.html#2 ---------------------------------------------------------------- เรื่องใช้ทรัพยากร Online เนี่ย เราก็เก็บเล็กผสมน้อยมาจากชาวพันทิปนี่แหละค่ะ คุณ fortuneteller ช่วงนี้และต่อไปต้องประหยัดหน่อย เพราะค่าเทอมแพงค่ะ แต่ก็ภูมิใจนะคะที่เรียนปริญญาโทด้วยเงินเก็บของตัวเอง จากคุณ : Flowery - [ 7 พ.ค. 52 10:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอโทษนะคะ คือมีคำถามว่า ที่น้องเล่ามาว่าเดาเยอะ และทำผิดก็เยอะ แล้วทำไมถึงสอบผ่านละคะ หรือว่าน้องถ่อมตัว ไม่ได้อิจฉาแต่ประการใด แต่ถ้าตามที่น้องเล่ามา ก็ไม่น่าจะสอบผ่าน ก็เลยสงสัยว่าเป็นเพราะตัวน้องทำได้แต่ไม่รู้ว่าทำได้ ถ่อมตัว หรือเป็นเพราะกรรมการ ไม่เข้าใจค่ะ จากคุณ : amiwhoiam - [ 7 พ.ค. 52 10:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เดาจริงค่ะพี่ หนูว่าหนูคงมีความสามารถในการเดาค่ะ ข้อสอบ Part Vocab หนูก็มั่วเป็นข้อ ... ซะเป็นส่วนใหญ่ พอมาเปิดพจนานุกรมดู อ้าว มั่วถูกแฮะ สอบครั้งนี้ทำให้รู้ว่าต้องฝึกอีกเยอะมาก ๆ ที่ผ่านมา หนูหายไปจากพันทิปก็ไปเพิ่มพูนความรู้ภาษาอังกฤษและภาษาไทยค่ะ หนูยังคิดเลยว่าหนูคงผ่านเข้าไปเรียนเป็นคนท้าย ๆ ของรุ่นแน่ ๆ อาจจะคะแนนต่ำสุดในกลุ่มเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 19:42:06 จากคุณ : Flowery - [ 7 พ.ค. 52 10:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ยืมล๊อกอินคุณโจโฉมาคุยด้วยคะ อิฉันสอบมา 2 รอบแล้วยังไม่ได้เลยค้า น้องเขาถ่อมตัวนะค้า เรียนสายวิทย์มายังสอบได้แสดงว่าต้องเก่งจริงแหละ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 11:37:02 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 11:32:55 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 11:32:49 จากคุณ : ดิฉันไม่คิดจะดิสฯ (joechou) - [ 7 พ.ค. 52 11:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ยินดีด้วยนะคะ นี่เป็น course ที่น่าเรียนมาก แต่ไม่มีเวลาเลย ดูแล้วมีวิชาที่น่าเรียนมาก ไม่ทราบว่ามีอบรมระยะสั้นหรือผู้ร่วมฟังบ้างหรือเปล่า ลองค้นดูแล้วไม่เห็นเลยค่ะ จากคุณ : jk (jackfruit_k) - [ 7 พ.ค. 52 11:41:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ยินดีด้วยนะครับ ว่าแต่ beowulf ยังไม่มีคนแปลนะครับ.. จากคุณ : krisdauw - [ 7 พ.ค. 52 12:07:56 A:98.201.118.21 X: TicketID:211004 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ซิกๆๆๆ เมื่อไหร่หนูจะจบตรี (อีกปีเต็มๆ) ตอนนี้หัดแปลอยู่ค่ะ ดันเลือกเอาวรรณคดียากเสียได้ แถมเป็นแบบที่แปลมาอีกทีจากต้นฉบับญี่ปุ่นมาเป็นอังกฤษแล้ว แปลไปได้หน่อยก็ฟุบๆ คาดว่าต้นฉบับญี่ปุ่นคงจะอลังการเพราะแต่งในยุคโบราณและเป็นยุควรรณศิลป์เฟื่องฟู แปลๆไปสักพัก หมอบเลย แง ธรรมเนียมของเรื่องนี้มันเยอะไปหมด ต้องไปนั่งค้นเว็บ พอเข้าใจก็กลับมาแปล แล้วก็ฟุบเพราะภาษาอังกฤษแสนอลังการ แล้วก็กลับไปหมอบเช็คข้อมูลอีก เป็นวัฎจักรจริงๆ แถมกลอน.... แปลไปแปลมาสมองขาวว่าง จำใจห่างร้างงานเอาไว้ก่อน ปิดคอมหันหลังแล้วเข้านอน ปวงอักษรตามหลอนในนิทรา อ๊ากกส์ จากคุณ : kurika - [ 7 พ.ค. 52 12:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 50 รูป คห.23 ยังเก็บไว้อยู่หรอครับคุณพี่ ฮ่าา เห็นรูปนี้นึกถึงเพลงอยู่เพลงหนึ่งครับ เมื่อต้นปีจามจุรีงามล้น เครื่องหมายของสิ่งมงคลทุกคนเริ่มต้นสนใจ เริ่มเวลารับชาวจุฬาฯน้องใหม่ เบิกบานสำราญฤทัยน้องเรามาใหม่หลายคน ต้อนรับกลับบ้านครับพี่........... จากคุณ : ติดปีกบินไปให้ไกลไกลแสนไกล - [ 7 พ.ค. 52 13:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านเรื่อง "ถุงกล้วยแขก" ของคุณ Flowery ใน คคห 42 ความคิดมันโยงใยไปถีัง --> คนทอดกล้วยแขก --> โฆษณา talking dictionary ในวิทยุน่ะ --> อาชีพนักแปล...นะ คืองี้ วันนั้นนั่งๆแท๊กซี่ไปกับเพื่อนน่ะ...แล้วแท็กซี่เปิดวิทยุ มีโฆษณาแบบนี้น่ะ ผู้หญิง 2 คนคุยกัน ญ1: โอ้หวัดดี สมศรี (ชื่อสมมุติ จำชื่อไม่ได้แล้ว) มาทำอะไรอยู่ใต้สะพานลอยเนี้่ย? ญ2: มาขายกล้วยแขกจ้า ญ1: ฉันนึกว่าเธอเป็นนักแปลไม่ใช่หรือ? ญ2: ก็เคยเป็นน่ะ แต่ตอนนี้นะ เทคโนโลยีมันก้าวหน้าไปไกลแล้วนะ  เขามี talking dictionary ใครๆก็ใช้กันเกร่อเลยหละ เลยไม่มีใครจ้างนักแปล ฉันก็เลยตกงาน ต้องมาขายกล้วยทอดอยู่เนี่ย ญ1: ???!!!...   ญ2: (เทกล้วยทอดลงกะทะ เสียงดัง "ฉี่" ใหญ่ๆ") พอฟังโฆษณาเสร็จนะ ไอ้เพื่อนเรามันปล่อยก๊ากออกมาลั่นรถเลย แล้วมันพูดว่า "เฮ้ยมรึงได้ิยินหรือเปล่าวะ? อีกหน่อยมรึงก็จะตกงานแล้วนะเฟ้ย"... โธ่ไอ้เวรเอ๊ย... โฆษณาบ้าๆมาด๊าย...ตั้งแต่วันนั้นมานะ ตูละเกลี๊ยดๆๆๆ แมร่งจริงๆ ไอ้ talking dictionary เนี่ย พับผ่าดิ....ไม่ใช่กลัวตกงานหรอก (งานดูดวงก็ยังมีรองรับน่ะ...555+++...)  แต่บนคอมฯเรามี dictionaries ที่เป็น software ตั้งเกือบ 20 ชุด มี online dictionaries อีกเป็นร้อยๆพันๆค่าย (ต่อคอมฯกับเน็ตความเร็วสูง) มี google อีก แต่โทษที เวลาแปลหนังสือนะ ตูยังหาศัพท์ไม่ค่อยจะเจอเล๊ย...บางทีนะ ประโยคมีแต่ศัพท์ง่ายๆ แต่อ่านแล้วมึนกระบาล ไม่รู้ว่่าไอ้คนเขียนมันตั้งใจจะพูดว่าไง กันแน่? แถมยังต้องค้นเรื่องเทคโนโลยี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมย้อนยุคกลับไป แล้วแซงหน้ากลัยมาอีกเป็นร้อยๆปี กว่าจะอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษรู้เรื่อง... โฆษณาแหกตาชาวบ้านจริงๆเลยว่ะ...เฮ้อ...!!! แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 22:10:38 จากคุณ : fortuneteller - [ 7 พ.ค. 52 15:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 52 นักแปลตกงานเพราะ talking dict ? ก๊ากกกกกกก อันนี้เรียกได้ว่า Add's Choice for the Joke of the Century You've made my day, #51. จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 7 พ.ค. 52 15:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ยินดีด้วยนะค๊าา ... :) (ความขยันของเราอยู่ที่หนายยยย เมื่อไหร่จะเก่งแบบเค้าเนี๊ย ฮือออ) จากคุณ : ja*3* - [ 7 พ.ค. 52 16:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณอีกครั้งนะครับ แวะมาอ่านกระทู้นี้ ทีไรก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่งมาเล่น ห้องสมุดกับ พันธ์ทิพย์ เลยยังทำอะไรไม่ค่อยถูก ขอบคุณครับ จากคุณ : kengkiki - [ 9 พ.ค. 52 00:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ยินดีด้วยนะคะ! เพื่อนเราก็สนใจพวกการแปล เดี๋ยวว่าจะส่งกระทู้ให้เพื่อนอ่าน เป็นการเตรียมตัวล่วงหน้า ขอบคุณมากๆ ค่ะที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์การสอบ โชคดีนะคะ จากคุณ : Jan_si - [ 9 พ.ค. 52 17:04:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณคุณ Flowery มาก ๆ นะคะที่เขียนกระทู้นี้ (จริง ๆ เราว่าจะถามทาง MSN หลายครั้งแล้วแต่เกรงใจค่ะ) คุณ Flowery ใจดีจัง...ชอบแบ่งปันความรู้ให้คนอื่นอยู่เสมอๆ เราเข้าไปอ่านที่บล็อคของคุณอยู่บ่อย ๆ ชอบค่ะ อ่านแล้วสบายใจ และทำให้มีกำลังใจในการเตรียมตัวสอบขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : OarAgChem9 - [ 11 พ.ค. 52 09:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มาติดตามอ่านนะคะ จากคุณ : ตะกอนเคมี - [ 11 พ.ค. 52 16:32:45 ]