ขออนุญาตนำบันทึกประสบการณ์ที่ได้ประสบกับแผ่นดินไหวในครั้งนั้น
กับรูปภาพบางส่วนมาลงนะคะ ในวันที่สิบสองพฤษภานี้ครบรอบหนึ่งปี
พอดีสำหรับเหตุการณ์ภัยธรรมชาติอันน่าโศกสลดครั้งนั้น
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาเจอเหตุการณ์แผ่นดินไหว วันจันทร์ที่สิบสองพฤษภา เช้าไปเรียนตามปกติ
วันนี้การเรียนการสอนช่วงเช้าออกจะสนุกด้วยซ้ำไป ตอนบ่ายสองออกไปเรียนคาบบ่าย นั่งจดเล็กเชอร์
ยังไม่ถึงสิบนาที อยู่ๆห้องเรียนทั้งห้องก็สั่น ตอนแรกเราก็นึกว่ามีรถใหญ่แล่นผ่านตึกเรียน ปรากฏว่าผ่าน
ไปซักสามวิ เหล่าซือบอกให้รีบวิ่ง วิ่งออกจากห้องไม่คิดชีวิต จากชั้นสี่ ตอนนั้นกลัวมาก ระหว่างที่ลง
บันไดมีกระเบื้องร่วงลงมาด้วย แต่ไม่มีใครเป็นอะไร ตอนวิ่ง คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทันมั้ย จะรอดมั้ย ใน
ที่สุดก็พ้นตึกจนได้ มายืนตรงสวนหน้าตึกเรียน กอดกะเพื่อนเกาหลีอีกสองคน ขวัญผวามาก ๆ ยังสั่นอีกพัก
ใหญ่ ๆ ถึงหยุด คนเฉิงตูก็ตื่นตกใจกัน พวกเค้าก็บอกว่าที่นี่ไม่เคยเกิดเหมือนกัน จากนั้นได้ข่าวว่าจะมี after shock อีก แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จากนั้นไปรวมตัวกันที่สนามหญ้าหน้าหอ ไม่กล้าเข้าหอ รอ รอ รอ และก็รอ
มีคนเริ่มเข้าไปของสำคัญในหอ ก็เลยไปเอาบ้าง ห้องอยู่ชั้นสาม เข้าไปเอา passport เงิน บัตรเอทีเอ็ม ตั๋วเครื่องบิน แล้วก้อโน้ตบุ๊ค เอาใส่เป้ลงมา จากนั้นได้ยินมาว่าทุ่มนึงจะมีอีก ซักหกโมงขึ้นไปเอาหมอนกะผ้าห่ม
และรอคอยต่อไป แต่พอใกล้จะทุ่มนึง กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็มีข่าวมาอีกว่าประมาณเที่ยงคืนถึงตีสองในช่วงเวลานั้นจะมีอีก หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกนั้น โทรศัพท์โทรออกไม่ได้เลย ทุกคนพยายามติดต่อทางบ้านแต่ทำไม่ได้ หลังจากผ่านไปชั่วโมงนึงเราก็โทรหาน้องสาวติด น้องสาวบอกว่ารู้แล้ว ที่กทม.ออกข่าวอยู่ เมืองที่เกิดเหตุชื่อว่าเมืองเวิ่นชวน 汶川 ห่างจากเมืองที่เราเรียนอยู่เฉิงตู成都เก้าสิบกิโล อยู่ในมณฑลเสฉวน四川 เหมือนกัน แผ่นดินไหวครั้งนี้ประมาณ 7.8 ริคเตอร์
คืนนั้นทุกคนเข้าหอไม่ได้ ต้องนอนที่สนามหญ้าหน้าหอ พอเวลาใกล้พลบค่ำ ที่นี่มืดช้ามาก ประมาณทุ่มครึ่งฟ้ายังสว่างอยู่เลย ตอนนี้ทุกคนปูผ้าห่มและจับกลุ่มคุยกันรอเวลาเกิดอาฟเตอร์ช็อค มอง ๆ ไป แล้วให้ความรู้สึกเหมือนมาเข้าค่ายนานาชาติยังไงไม่รู้ มีทุกชาติเลย ไทย เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม อเมริกา ฝรั่งเศส อิตาลี รัสเซีย ลาว ระหว่างที่รอก็ฟังข่าววิทยุไปด้วย ประมาณสี่ทุ่มได้ข่าวว่าตอนนี้ตายไปเจ็ดพันกว่าคนแล้ว ตอนนี้ติดต่อแม่ได้แล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย จากนั้นก็ไปนั่งคุยกะเพื่อนญี่ปุ่นและเกาหลี แต่พอเที่ยงคืนมาถึง ก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเกิดขึ้น จริง ๆ แล้วเป็นความเข้าใจผิด พวกเราคิดว่าอาฟเตอร์ช็อคจะรุนแรงจนรู้สึกได้ แต่ใครจะรู้ว่าคืนนั้นเกิดอาฟเตอร์ช็อคไปทั้งหมดพันกว่าครั้ง ๆ แต่เบา ๆ ทำให้พวกเราไม่รู้ ในหมู่นักศึกษาต่างชาติมีเพียงคนญี่ปุ่นที่ไม่ได้ตื่นเต้น หรือกลัวอะไร เพราะเหตุการณ์อย่างนี้ที่ญี่ปุ่นเกิดขึ้นจนชินชาเสียแล้ว สรุปคืนนั้นเราก็นอนอยู่ที่สนามหญ้า ฝนลงเม็ดปรอย ๆ แต่ไม่มีทางเลือก เอาผ้าห่มคลุมหน้าและพยายามข่มตาหลับ ในที่สุดซักประมาณตีห้าทางหอถึงอนุญาตให้เข้าไปนอนในหอได้ ไปนอนห้องเพื่อนที่ชั้นสาม แต่ช่วงที่นอนอยู่บนเตียงนั้นรู้สึกตลอดเวลาว่าเตียงสั่นอยู่ เสียวชะมัด มีอยู่ครั้งนึงตอนแปดโมง เตียงสั่นค่อนข้างแรง ไม่ไหวแล้ว นอนไม่หลับแล้ว ลงมาข้างล่าง ก็มีประกาศเตือนอีกว่าสิบโมงจะมีอีก ให้ทุกคนมารวมตัวกันข้างล่าง แต่ในที่สุดแล้วก็ไม่มีอะไร ทุกครั้งที่มีคำเตือน มักจะไม่มีอะไร แต่ช่วงที่เราไม่ได้ระวังตัว อย่างตอนอาบน้ำ ต้มมาม่าอยู่ มาแบบไม่ให้รู้ตัว วันแรก วิ่งขึ้นวิ่งลงชั้นสามเป็นว่าเล่น ทั้งเหนื่อย ทั้งผวา ทั้งกลัวหกล้มตกบันได และแล้ววันที่สองกับวันที่สามก็เอาผ้าปูไปนอนชั้นหนึ่ง ไม่อยากวิ่งจากชั้นสามแล้ว.....
จากคุณ :
nuncharee
- [
12 พ.ค. 52 00:00:37
]