ความคิดเห็นที่ 1 จดหมายอย่างเป็นทางการจากวังรื่นฤดี ส่งถึงนายพลาดิศัย สิทธิธัญกิจ ผู้เขียนหนังสือเพชรรัตน์แห่งพระมหาธีรราชเจ้า และบริษัทซีเอ็ดฯ ผู้จัดจำหน่าย จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 13 พ.ค. 52 19:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อ จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 13 พ.ค. 52 19:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 3 จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 13 พ.ค. 52 19:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 4 จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 13 พ.ค. 52 19:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 5 จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 13 พ.ค. 52 19:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บแก้วเก้าค่ะ และขอให้เพื่อนสมาชิกช่วยโหวตด้วยเพื่อเป็นการเผยแพร่ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 08:13:59 จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 13 พ.ค. 52 19:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Vote ค่ะ จากคุณ : jk (jackfruit_k) - [ 13 พ.ค. 52 19:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หากินกันง่ายจังสมัยนี้ โหวตให้ค่า จากคุณ : kitnan - [ 13 พ.ค. 52 20:11:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยครับ จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 13 พ.ค. 52 20:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โหวตแล้วค่ะ ตาย หน้าด้านจริงๆ จากคุณ : ลั่นทมสีแสด - [ 13 พ.ค. 52 21:18:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ซีเอ็ดปล่อยออกมาได้ยังไง  น่าอาย จากคุณ : โอเลี้ยงลาเต้จูดี้บัฟฟี่ลักกี้ - [ 13 พ.ค. 52 21:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 profile เค้าดีมากเลย... http://www.praphansarn.com/new/c_talk/detail.asp?ID=87 จากคุณ : นายไผ่ - [ 13 พ.ค. 52 21:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาโหวตค่ะ จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน - [ 13 พ.ค. 52 21:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตามลิงค์ คห.12 ไปดู เห็นโปรไฟล์แล้วอึ้งมากค่ะ ตำแหน่งเยอะแยะใหญ่โตซะขนาดนั้น ทำไมถึงทำผลงานแบบนี้ออกมา อายแทนอ่ะ จากคุณ : kitnan - [ 13 พ.ค. 52 22:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมอ่านแล้วละครับ อ่านแล้วคุ้นๆๆมาก แต่ไม่ยักนึกว่า เล่นกันแบบนี้เลย โปรไฟล์เค้าดีมากๆน่ะครับ เห็นแต่งหนังสือเจ้านายไว้เยอะ กลายเป็น copy edit paste ซะมาก เรื่องพิสูจน์อักษรและราชาศัพท์ก็คลาดเคลื่อนมาก จากคุณ : natthaset - [ 13 พ.ค. 52 22:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามาโหวต จากคุณ : ถั่วฝักยาวสีขาว - [ 13 พ.ค. 52 23:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คนทำนี่ช่างกล้า.. ต่อให้ไม่เกี่ยวกับเรื่องเจ้าเรื่องนายก็เหอะ การตัดแปะหนังสือสองเล่มนี่มันสุดยอดแห่งความมักง่ายทางปัญญาเลย สมัยนี้แล้วคิดได้ยังไงเนี่ย ว่าจะลอดหูลอดตาไปได้ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 13 พ.ค. 52 23:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นักเขียนคนนี้เคยบอกอาจารย์ของดิฉันว่าช่วงนี้ (หมายถึงช่วงเวลานั้น) งานเขาน้อย เขียนหนังสือได้เดือนหนึ่งแค่สี่-ห้าเล่มเอง ดิฉันร้องว่า อะไรคะ เดือนหนึ่งเขียนหนังสือสี่-ห้าเล่มนี่ว่าน้อย  เราเขียนเล่มหนึ่งเป็นปีหรือหลายๆ ปี โดนประจานคราวนี้ไม่สงสารเลย ขอเป็นคนใจร้ายหน่อยแล้วกัน เพราะรู้สึกว่ามีนักเขียนหลายคนเล่นเขียนเกร็ดหรือสารคดี ปวศ กันแบบมักง่ายมากไป ขอแก้ไขข้อความบางส่วนออกนะคะ ลึกเกินไปไม่ดีดิฉันอาจถูกฟ้องได้ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 00:01:29 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 52 23:56:53 จากคุณ : Bt vista - [ 13 พ.ค. 52 23:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ โอ้โห เดือนละสี่ห้าเล่ม ขนาดทำรายงานดีๆซักเล่มนึยังเดือนนึงยังไม่ถึงครึ่งเล่มเลยอ่า  แย่มากๆเลย จากคุณ : มิสพรหล้า - [ 14 พ.ค. 52 00:00:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องโดนกันอย่างนี้จักได้เข็ดกันบ้าง ว่าแต่ เห็นชื่อคุณพลาดิศัยฯ แล้วก็งงครับ ไม่น่าจะมักง่ายนะ เพราะเห็นแต่งหนังสือเจ้านายออกมามากมายเหมือนกัน จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 14 พ.ค. 52 00:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เคยอ่านมาว่าคุณพลาดิศัย นี่เป็นศิษย์ก้นกุฎิเลยของหม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ด้วยย  ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 01:23:01 จากคุณ : akkarachai - [ 14 พ.ค. 52 00:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณคุณ ผสมย. ที่นำมาแจ้งให้ทราบค่ะ ไม่งั้นเราที่ไม่ค่อยรู้เรื่องวงการหนังสือคงหลวมตัวซื้อไปมั่ง ได้ขึ้นบัญชีดำไปอีกหนึ่งชื่อ ร่วมด้วยช่วยโหวตค่ะ จากคุณ : Guga - [ 14 พ.ค. 52 04:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โหวทแล้วค่ะ เห็นรายละเอียดจดหมายที่จขกท.นำมาแสดงแล้วได้แต่อึ้ง นอกจากเลียนแบบชื่อเรื่องแล้ว ยังก็อบปี้มาเป็นช่วงๆ คงนึกว่าโพรไฟล์ดี คนไม่รู้หรอก กลายเป็นว่า ทำแบบนี้แล้วคนคงต้องเริ่มตั้งคำถาม ว่าแล้วหนังสือทีเขียนๆมาก่อนหน้านี้น่ะ ลอกเค้ามาอย่างนี้รึเปล่า ทำแบบนี้ เสียชื่อตัวเองจริงๆค่ะ จากคุณ : ป้าปูเป้ - [ 14 พ.ค. 52 06:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านแล้วอึ้ง .. ทำได้ยังไงเนี่ย   คนสมัยนี้เค้าหากินกันได้ง่ายดีเนอะ เป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงพอควร  แต่ไม่รู้ว่าเอาอวัยวะส่วนไหนคิด แล้วเล่มที่ผ่าน ๆ มาของคุณใช้วิธีนี้ด้วยหรือเปล่า ยิ่งพออ่านเจอว่าผู้เรียบเรียงหนังสือ เรื่องดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า เรียบเรียงขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติเจ้านาย และยกลิขสิทธิ์ให้เป็นของมูลนิธิเพชรรัตน์-สุวัทนา  แปลว่าไม่ได้เขียนเพื่อเอาสตางค์เลยสักบาท แต่ต้องมาเจอกรณีแบบนี้เข้า  คงรู้สึกแย่ งานทำถวายเจ้านายแท้ ๆ   ยังมีคนมาชุบมือเปิบหน้าตาเฉย ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร นอกจาก  หน้าด้าน รอดูต่อไปว่า นายพลาดิศัย จะออกมา แถ-ลง ยังไง จากคุณ : กันตา - [ 14 พ.ค. 52 08:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาโหวตค่ะ ขอบคุณ จขกท ค่ะ ที่ช่วยเผยแพร่ จะได้ไม่หลวมตัวไปซื้อหนังสือตัดแปะประเภทนี้ จากคุณ : นาริน - [ 14 พ.ค. 52 08:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาร่วมโหวตด้วยคนค่ะ งานนี้บอกได้อย่างเดียวว่า ช่างทำไปได้ จากคุณ : kirara (kirara_chan) - [ 14 พ.ค. 52 08:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ช่างกล้า  ... จากคุณ : A r t F u l l Y - [ 14 พ.ค. 52 09:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ปล. หลานผม อยู่ ป.2  แก คิด แกทำ อะไรด้วยความคิดของตัวเอง ลุงเค้า อายุเท่าไหร่อ่ะครับ จากคุณ : A r t F u l l Y - [ 14 พ.ค. 52 09:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แย่มากเลยอ่ะ จากคุณ : ชื่อเดี้ยนสำคัญ ฉันใด - [ 14 พ.ค. 52 09:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โหวตแล้วค่ะ จากคุณ : love_kt - [ 14 พ.ค. 52 09:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 vote โลด เคยเห็นแว่บๆ แต่ไม่ทันได้เปิดดู  ไม่งั้นอาจซื้อก็ได้ ขอบคุณจขกท. ค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 14 พ.ค. 52 13:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เวรกรรม วงการนักเขียน ^^"   ผู้ใหญ่แล้วแท้ๆ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 14:48:00 จากคุณ : บราวนี่รสเสน่หา - [ 14 พ.ค. 52 14:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ใช่ชายผู้ที่ "แ บ น" ภาพยนตร์เรื่อง "แสงศตวรรษ" ของ อภิชาติพงษ์ วีระเศรษฐกุล แบบ "ไม่ ยอม คืน ฟิล์ม" รึเปล่าน้าาาาา...ติ๊กต่อกๆ จากคุณ : กะเทยเด็กแนว - [ 14 พ.ค. 52 19:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สำนักพิมพ์อะไรหนอ เสียชื่อไปด้วยน้า งานที่ไม่มีการตรวจสอบแบบนี้ ซีเอ็ด แม้ในฐานะผู้จัดจำหน่ายก็ต้องเป็นบทเรียนเหมือนกัน  ขนไป ขนกลับ จ่ายเอง จากคุณ : aeroflex - [ 14 พ.ค. 52 20:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อึ้งทีเดียว จากคุณ : พลายแป้ง - [ 14 พ.ค. 52 22:14:31 A:128.178.250.132 X: TicketID:120371 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คห. 34 ถามว่าสำนักพิมพ์อะไร ตามรูปเลยค่ะ จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 14 พ.ค. 52 23:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตามข้อมูลจากเว็บแก้วเก้า อาจารย์วินิตาได้สอบถามไปยังคุณหญิงทรงสุดา  ภรรยาดร.สุวิทย์ ได้คำตอบว่า ดร.สุวิทย์ ยอดมณี  ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของสำนักพิมพ์นี้ จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 14 พ.ค. 52 23:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 38 งานเข้าแล้วครับ จากคุณ : seeyoulater (seeyoulater) - [ 15 พ.ค. 52 09:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ดูรายชื่อที่ปรึกษาต่างๆนี่เหมือนทำให้เห็นว่าน่าเชื่อถือ ไม่ได้ไปลอกใครมา หรือลอกมาก็จริงแต่ไม่กลัว(หมูไม่กลัวน้ำร้อน)แบ็คดี อย่างนี้คงต้องเอาให้ถึงที่สุดไปเลยครับ จะได้รู้ว่าแน่จริงรึปล่าว จากคุณ : deletenumlock - [ 15 พ.ค. 52 10:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอลิงค์ข้อมูลจากเวบแก้วเก้าหน่อยครับ จากคุณ : akkarachai - [ 15 พ.ค. 52 13:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เด๋วนี้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ในวงการหนังสือบ่อยจังนะคะ ทั้งงานแปล งานเขียน แม้แต่การแก้งาน เรื่องแบบนี้ต้องโหวตให้ขึ้นกระทู้แนะนำนานๆเลยค่ะ ร่วมด้วยช่วยกันประนามด้วยคนค่ะ จากคุณ : sand dollar - [ 15 พ.ค. 52 14:12:24 A:161.200.33.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 โอววว ที่ปรึกษากฎหมาย ทองใบ ทองเปาว์ ด้วยนะ จากคุณ : ลั่นทมสีแสด - [ 15 พ.ค. 52 20:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 43 นักเขียนเรื่องประวัติศาสตร์ดังๆ ที่เอาภาพของคนอื่นหรือภาพที่คนอื่นหามาไปใช้ โดยไม่ให้Credit ไม่ได้มีแค่คนเดียว ... นี่แค่เกล็ดน้ำแข็งบนยอดเขาเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 23:36:27 จากคุณ : หมอแมว - [ 15 พ.ค. 52 23:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 44 หนังสือของคุณพลาดิิศัย เป็นหนังสือที่ไม่เคยต่อยอดความรู้เลย น่าเบื่อทุกเล่ม เหมาะกับ beginner เพื่อปูพื้นความรู้ ก่อนจะลอกน่าจะดูตาม้าตาเรือซะหน่อย ลอก ร4 ร5 อาจจับไม่ได้ แหม มาลอกของเจ้าฟ้า ข้อมูลเฉพาะเจาะจงมาก โง่ชะมัด แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 52 23:47:10 จากคุณ : กินนรเริงร่า - [ 16 พ.ค. 52 00:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 45 โหวต ค่ะ จากคุณ : แหนมป้าย่น - [ 16 พ.ค. 52 01:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แย่จัง ไม่รู้จังใจหรือทำเพราะผลกลใดกันนี่ โหวต ๆ จากคุณ : ซุ่งกี้ - [ 16 พ.ค. 52 14:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณสำหรับข้อมูลคะ โหวต จากคุณ : sawkitty - [ 16 พ.ค. 52 17:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ช่างบังอาจ.... เห็นเขียนไว้เยอะ ไม่น่าสุกเอาเผากินขนาดนี้ เฮ้อ เวรกรรม จากคุณ : ฝันราลีห์ - [ 16 พ.ค. 52 19:14:03 ]

ความคิดเห็นที่ 49 โหวต จากคุณ : Champion - [ 16 พ.ค. 52 21:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 50 หนังสือ "ดวงแก้วแห่งพระมงกุฏเกล้า" เป็นเล่มสีชมพูอมม่วงค่ะ หน้าปกเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ของทั้งพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ภาพในเล่มแทบทั้งหมดเป็นของส่วนพระองค์ ไม่ใช่ว่าจะหาดูกันได้ง่ายๆ เล่มหนามากราว 400 หน้า (จะแนบภาพหน้าปกทีหลัง...ขอเขียนก่อน) ผู้เขียน คือ คุณหญิงวินิตา และคุณชัชพล ตั้งใจมากที่จะเขียนเพื่อเทิดทูนพระเกียรติเจ้านายที่ท่านจงรัก เพื่อให้คนไทยทั่วไปได้รับรู้ถึงพระเกียรติคุณที่ทั้งสองพระองค์มีแก่ประชาชนเสมอมา พระจริยาวัตรและพระกรณียกิจโดยละเอียดของทั้งสองพระองค์หาอ่านได้ไม่ง่ายนัก เราได้คุยกับคุณชัชพลตอนที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ รู้ได้เลยว่า...การที่คุณชัชพลเขียนไม่ได้หวังค่าเรื่องใดๆทั้งสิ้น ไม่สนใจว่าจะมีชื่อเสียงจากการจัดทำหนังสือเล่มนี้ เพราะลิขสิทธิ์ก็เป็นของ "มูลนิธิเพชรรัตน-สุวัทนา" ซึ่งรายได้ช่วยการกุศล ทำไปด้วยความเทิดทูนพระองค์ท่านโดยแท้ ถือเป็นหนังสือประวัติศาสตร์เล่มหนึ่งก็ว่าได้ เพราะช่วงนั้นไม่ได้มีบันทึกที่ชัดเจนได้ขนาดนี้ และที่เราเลือกซื้อเก็บไว้ก็เพราะเราเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานที่ดินให้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเรา ทำให้เราอยากทราบเกี่ยวกับพระราชประวัติและบันทึกที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่าน ผู้เขียนใช้เวลาในการค้นคว้า สัมภาษณ์ หาข้อมูลและภาพต่างๆมากมาย ทำด้วยใจภักดีต่อราชวงศ์ไทย แต่นึกไม่ถึงนะคะว่าคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์ใช้เวลาไม่นานในการลอกเลียนผลงานผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ใช่แค่ทำผิดกฏหมายหรอกค่ะ แต่ทำผิดในฐานะประชาชนคนไทยด้วยซ้ำ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงจริงๆ ไม่น่าให้อภัยอย่างยิ่ง เราขอประนาม !!! จากคุณ : สร้อยสายเพชร - [ 17 พ.ค. 52 02:07:53 A:203.172.117.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 อืม สงสัยนึกว่าจะไม่มีใครรู้มั๊ง โหวต จากคุณ : heaven so sweet - [ 17 พ.ค. 52 13:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โหวตค่ะ คุ้นชื่อคนเขียนคนนี้เหมือนกัน...อึ้ง จากคุณ : =p o o k p u i= - [ 17 พ.ค. 52 15:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 53 วันนี้เห็นอยู่เหมือนกันที่ร้าน skybook หอสมุดแห่งชาติ เกือบซื้อไปแล้วนะเนี่ย จากคุณ : ออมซิลล่า (ออมซิลล่า) - [ 17 พ.ค. 52 22:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เหมือนเพิ่งเห็นในสกุลไทยหยก ๆ ทำเป็นเล่มซะแล้ว มีก็อปปี้แล้วอีกด้วย เมื่อเห็นชื่อหนังสือเล่มหลัก และชื่อคนเขียน เลยเกิดข้อสงสัยขึ้นมาอย่างหนึ่งครับ พอทราบมาว่า คุณชัชพล มีข้อมูลดีและเยอะ ทำไมหนังสือเล่มนี้ถึงมีชื่อคุณหญิงเพิ่มขึ้นมาด้วยอีกครับ เป็นคำถามจากคนที่ไม่เคยอ่านมาก่อนครับ เพราะไม่ค่อยได้เห็นคุณหญิงเขียนหนังสืออื่นนอกจากพวกนวนิยาย สำนวนการเขียนของคุณชัชพลก็น่าจะดี เพราะเคยดูตอนออกรายการโทรทัศน์แล้วพูดราบรื่นสบายหู การอธิบายหรือบรรยายในหนังสือก็ไม่น่าจะแตกต่างกัน คงไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญอื่นมาเกลาสำนวนให้ ได้ลองโทร.ถามเพื่อนที่คิดว่าจะมีหนังสือเล่มนี้ ว่าสำนวนการเขียนเล่มนี้เป็นอย่างไร แต่ก็ได้รับคำอธิบายที่ไม่ชัดเจน คงเป็นข้อสงสัยที่ไม่น่าซีเรียสนะครับ จากคุณ : NickyNick - [ 18 พ.ค. 52 12:20:07 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ความหน้าด้านไม่เข้าใครออกใคร Vote นะ จากคุณ : บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) - [ 18 พ.ค. 52 16:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 56 มีข่าวคืบหน้าแจ้งค่ะ คุณคนเขียนให้เลขาโทรไปยังวังรื่นฤดีบอกว่าเกิดจากคนในกองบก. ไม่ได้ตรวจให้ละเอียด เลยมีข้อผิดพลาดมากมาย จากโทรศัพท์ก็มีแฟกซ์มาที่วังรื่นฤดี  ขอโทษขอโพยตามระเบียบ และอธิบายว่าข้อมูลภาพและเรื่องนั้นมาจากหนังสือ 90 ปีโรงเรียนราชินี ซึ่งคุณภัทร คาน เขียนไว้เมื่ีอสิบกว่าปีก่อน และภาพประกอบก็ถ่ายมาจากนิทรรศการที่วังพญาไท และที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซึ่งเข้าใจว่าเผยแพร่ไปแล้วไม่ต้องขออนุญาต โดยที่ไม่พูดถึงหนังสือดวงแก้วฯ เลย แต่ไปอ้างว่าได้ข้อมูลจากคุณภัทร คาน (มีคำขอบคุณไว้ในคำนำ) แต่เมื่อมีคนสอบถามไปยังคุณภัทร คาน คุณภัทรไม่รู้เรื่องเลย อึ้งไปเลย ทำหนังสือไม่ขออนุญาต แล้วก็ไปอ้างว่าได้ข้อมูลจากคนอื่น หนังสือเล่มอื่นโดยที่คนเขียนเล่มนั้นก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 20:46:40 จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 18 พ.ค. 52 20:45:14 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โหวตค่ะ จากคุณ : Alethia - [ 18 พ.ค. 52 20:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ส่วนตัวทำงานด้านประวัติศาสตร์ มีอยู่ครั้งหนึ่งพูดคุยกับนักศึกษารามคนหนึ่ง เค้าถามว่ารู้จักอาจารย์ท่านนี้รึเปล่า เราตอบไปว่าไม่ เค้าทำสีหน้าแปลกใจมากๆ ออกแนวค่อนขอดนิดหน่อย เข้าใจว่าอาจารย์ท่านนี้สอนที่นั่น ก็เลยลองไปหาหนังสือของอาจารย์ท่านนี้มาอ่าน ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือปกแข็งเล่มใหญ่ๆ หาได้ตามกองหนังสือลดราคา ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นการตัดแปะ ไม่ได้เสนอประเด็นหรือทฤษฎีอะไรใหม่ๆเลย เป็นประวัติศาสตร์ที่ตายไปแล้วจริงๆ อย่างน้อยน่าจะประยุกต์ใช้ข้อมูลนิดนึง อยากบอกว่าไม่เคยใช้หนังสือของอาจารย์ท่านนี้อ้างอิงเลยสักครั้งเดียว แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 52 02:59:29 จากคุณ : reloid - [ 19 พ.ค. 52 02:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 59 โหวต!!! จากคุณ : potja - [ 19 พ.ค. 52 21:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ค. 52 21:55:31 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เรื่องที่ผมถาม  คุณผสมย.มีข่าวจากเว็บนั้นมาแจ้งบ้างมั้ยครับ จะได้คลายความสงสัย เพราะคำตอบที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง  จะสร้างเกียรติยศให้กับผู้เขียนด้วย ผมคิดด้วยหลักง่าย ๆ นะครับ อย่างตอนที่เราทำวิจัยอะไรสักอย่าง เจ้าของงานจะต้องเป็นชื่อแรก หากมีผู้ร่วมงานอื่น ชื่อจะเรียงลำดับไปอยู่หลัง ๆ  หากเป็นอาจารย์ผู้ควบคุมการผลิตผลงาน เราอาจไม่ต้องใส่ชื่อไว้ก็ได้ แต่ก็ต้องมีการขอบพระคุณไว้ด้วยในนั้น   หรือหากเป็นผชช.ที่เขียนคำนิยม ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อไว้ว่าเป็นผู้ผลิตผลงานนั้น นี่เป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ แต่ทางด้านอักษรศาสตร์ ด้านนวนิยาย หรืออะไรทำนองนี้ ผมไม่ค่อยรู้ครับ หากจะชี้แนะให้ทราบ จะเป็นพระคุณยิ่ง เพราะต่อไปหากผมเขียนหนังสือใด ๆ ขึ้นมาสักเล่ม จะได้ระมัดระวังเรื่องนี้  แล้วก็สามารถแนะนำเด็ก ๆ รุ่นน้องคนอื่นให้เข้าใจในวัฒนธรรม ในกติกา ในมารยาท แล้วแต่จะเรียกว่าอะไร เพราะผมเชื่อว่า หากเราเป็นเจ้าของผลงานทั้งหมด เราควรมีชื่อเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว  จะดีหรือไม่ดีก็เป็นของเราเพียงคนเดียว  ไม่จำเป็นที่จะต้องมีอะไรมาประดับเกียรติยศ แต่หากเพื่อให้วินวินกันทุกฝ่าย ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งครับ แล้วพอจะมีภาพปกหนังสือเล่มหลักเล่มนี้ มาให้ดูบ้างเปล่า เผื่อจะได้คุ้นบ้างตอนเดินตามร้านหนังสือ จากคุณ : NickyNick - [ 20 พ.ค. 52 09:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ส่วนตัวแล้วผมเห็นว่ากระบวนการและเหตุผลการดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มีความน่าเชื่ออีกทั้งเป็นงานที่ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงและต้องใช้เวลาในการทุ่มศึกษา ดังนั้นการให้เครดิตกับเจ้าของมันสมองควรมาเป็น priority หลักเสมอ ส่วนงานบางด้านที่ถูกอ้างถึงที่บางครั้งการสัมผัสด้วยตาเป็นสิ่งที่ incomprehensible ที่ (อาจ) ต้องขอให้ ผชช ได้เล่าแจ้งแถลงถึงที่มาอันจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กรุ่นหลังที่นับวันการคงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่ถูกที่ควรอาจมีการสูญหายและเสื่อมสลาย ด้วยเพราะผู้ใหญ่ทำไว้ให้เด็กดูเด็กจึงขอทำตาม หนังสือเล่มนี้มูลค่าคงมากพอเหมาะกับผู้ที่มีกำลังซื้อ ที่บางเว็บที่โฆษณาขายยอมให้ส่วนลดที่ผู้ซื้ออาจไม่ต้องจ่ายเงินซื้อเต็มตามราคาปกที่คงช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้บ้างยามที่ภาวะเศรษฐกิจแบบทั้งเฟ้อทั้งฝืดตอนนี้ ขอเข้ามาสนับสนุนและขอทำหน้าที่เล็กน้อยเพื่อลดภาระบางอย่างไปบ้างเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เป็นการตอบข้อสงสัยได้อย่างถนัดถนี่และไม่มีสิ่งอันใดมาลดทอนคำตอบ (ที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง) ให้ถูกบ่ายเบี่ยงไป รูปหน้าปกหนังสือดังกล่าว ที่มา: http://www.puendee.com/index.php?main_page=product_info&products_id=468 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 10:54:22 จากคุณ : Lord JC - [ 20 พ.ค. 52 10:50:30 ]

ความคิดเห็นที่ 63 พฤติกรรมน่าอายจริงๆ อายุก็ไม่ใช่น้อย หน้าที่การงานก็ดูจะน่านับถือ แต่ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิดดีชั่ว ทำตัวหน้าขายหน้าอย่างนี้ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 11:20:07 จากคุณ : CrazyHOrse - [ 20 พ.ค. 52 11:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 64 แล้วคุณ nickyNick ต้องการอะไรคะ ที่โพสในลักษณะหาเรื่องแบบนี้ ใครๆอ่านก็เข้าใจว่าคุณต้องการ discredit  ว.วินิจฉัยกุล      คุณบอกว่า "เห็นในสกุลไทย" แต่กลับ "ไม่เคยอ่าน" - ทำไมมีชื่อ คุณหญิง "เพิ่มขึ้นมา"   ทั้งๆชื่อหนังสือก็บอกแล้วว่า มีผู้เรียบเรียง 2 คน   มันแปลกตรงไหนกับหนังสือที่มีคนแต่งหรือคนเรียบเรียงมากกว่า 1 คน - ทำไมถึงคิดว่า มีการเกลาสำนวนคุณชัชพล ?   แต่งร่วมกัน แปลว่าเขียนต่อกันคนละบท หรือคนละครึ่งบท ไม่ได้หรือ? แค่ที่คุณเขียนก็สับสนกันแล้ว แมน แมนหน่อยค่ะ รังแกผู้หญิงไม่น่านิยมนะคะ ใครไม่ทราบจะสงสัยว่า ในดีเอ็นเอของคุณมีสิ่งแปลกปลอมมากเกินไป แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 15:21:30 จากคุณ : คนอ่านที่ไม่ชอบโพส (Kladawan) - [ 20 พ.ค. 52 15:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 งงครับ เรื่องคนแต่งสองคนไม่น่าจะเป็นประเด็นขึ้นมาได้ ผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ แต่ในจุดประกายวรรณกรรม เว็บกรุงเทพธุรกิจมีสัมภาษณ์ อ.วินิตา และ อ.ชัชพล ตอนเปิดตัวหนังสือไว้ ขอคัดมาให้อ่านก็แล้วกันนะครับ พรานอักษร ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า พระประวัติสองราชนารีในมหาจักรีวงศ์ ชัชวรรณ ปัญญาพยัตจาติ พระพุทธพจน์ประการหนึ่งว่าไว้ "ปูชา จ ปูชะนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา เป็นมงคลอันสูงสุด" สืบเนื่องด้วยความซาบซึ้งแลสำนึกในพระกรุณาธิคุณจากโอกาสที่ได้รับทราบ ศึกษา และ ค้นคว้าถึงพระจริยาวัตรอัธยาศัย ตลอดจนพระกรณียกิจใน สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6 ที่ทั้งสองพระองค์ประกอบคุณงามความดีไว้นานัปการ แต่ทว่าการเผยพระเกียรติคุณให้เป็นที่รับรู้ในหมู่ไพร่ฟ้าและสาธารณชนยังไม่ แพร่หลายกว้างขวางนัก เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2547 รศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ เจ้าของนามปากกาเลื่องชื่ออย่าง ว.วินิจฉัยกุล, แก้วเก้า และ ชัชพล ไชยพร ข้าราชบริพารในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สองพสกนิกรชาวไทยที่บังเอิญผ่านพบและสนทนากันในห้องเรือนไทยเวบไซต์วิชาการด อทคอม มีทัศนคติเห็นพ้องร่วมกันในการเรียบเรียงพระประวัติของทั้งสองพระองค์ขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติในศุภสมัยวาระที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 81 พรรษา ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2549 เช่นนั้น ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า สารคดีพระประวัติ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6 จึงถือกำเนิดตอนแรกขึ้นในนิตยสารสกุลไทยรายสัปดาห์เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 ต่อเนื่องเรื่อยมาถึงตอนสุดท้ายในวันที่ 11 ธันวาคม 2550 จวบจนได้รับการรวบรวมขึ้นเป็นเล่มและจัดงานเปิดตัวหนังสือไปแล้วเมื่อเย็น ย่ำของกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ณ สนามหน้าหอประชุม โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ทั้งนี้ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ (หม่อมราชวงศ์บุตรี กฤดากร) รองราชเลขาธิการและผู้บริหารงานในสมเด็จเพระเจ้าภคินีเธอฯ ได้กรุณาเป็นประธานในพิธี ซึ่งภายในงานจัดให้มีเวทีเสวนา ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า ระหว่างผู้เรียบเรียงสารคดีพระประวัติ รศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ และ ชัชพล ไชยพร โดยมี เชื้อพร รังควร ผู้ช่วยบริหารงานในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ บุคคลสำคัญในการช่วยสืบค้นข้อมูลจนสารคดีพระประวัติเรื่องนี้สำเร็จลุล่วง ได้ด้วยดี เป็นผู้ดำเนินรายการ เริ่มแรก นรีภพ สวัสดิรักษ์ บรรณาธิการนิตยสารสกุลไทย กล่าวถึงสารคดีพระประวัติเรื่องนี้ว่า "นับจากได้รับพระกรุณาโปรดพระราชทานพระอนุญาตให้นำสารคดีพระประวัติชุดนี้ พิมพ์ลงนิตยสารสกุลไทย ตลอดระยะเวลาแห่งการตีพิมพ์เผยแพร่ ปรากฏว่าได้รับความชื่นชมจากผู้อ่านเป็นทวีคูณ ด้วยเพราะผู้เขียนถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงเกร็ดต่างๆ อันล้วนเป็นพระคุณสมบัติ พระปณิธานที่มุ่งมั่น พระจริยวัตรอันงดงามเปี่ยมด้วยพระเมตตาพระกรุณาธิคุณ ตลอดจนถึงศิลปวัฒนธรรมประเพณีมาปรากฏเป็นสุนทรีภาพอย่างพร้อมด้วยสาระและ ข้อมูลอันเป็นคุณประโยชน์อย่างกว้างขวาง ซึ่งช่วยทำให้เราชาวไทยได้รับรู้ถึงพระกรุณาธิคุณคุณูปการอเนกอนันต์ที่ทรง มีต่อประชาชนและแผ่นดินสยาม" จากนั้น รศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ เล่าถึงการเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ว่า เกริ่นขึ้นเรื่องได้ยากมาก เพราะถ้าบทแรกไม่สามารถดึงหัวใจสำคัญออกมาให้คนอ่านติดตามได้ก็จะถือว่า หนังสือเล่มนั้นล้มเหลวไป "สารคดีพระประวัติเรื่องนี้นับว่ายากมากในตอนเริ่มต้น ดิฉันเริ่มอยู่ 5 ครั้งกว่าจะลงตัวได้ เนื่องจากมีทางเกริ่นเริ่มต้นเรื่องได้มากมาย แต่จะเริ่มจากไหน...ดังนั้นเมื่อสองคนตัดสินใจแน่แล้วว่าจะเริ่มเรื่องนี้ อย่างแรกที่ต้องทำก็คือต้องมาวางแนวคิดของเรื่อง เพราะว่าการเขียนพระประวัติของเจ้านายนั้นทำกันมาหลายท่านแล้ว เราจึงต้องดูว่าหนังสือเล่มนี้จะมีอะไรเป็นแบบของตัวเองบ้างที่ไม่ซ้ำกับ เล่มอื่น ก็ได้ข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่นั้นนักเขียนจะเน้นไปทางด้านพระกรณียกิจ ซึ่งดิฉันคิดว่าถ้าเป็นไปอย่างนั้นแล้ว เนื้อหาจะเป็นสิ่งที่ขึงขังเคร่งเครียด ฉะนั้นบรรยากาศของเรื่องจักต้องผ่อนให้คลายลง จึงจะเขียนพระประวัติได้โดยมิได้เว้นพระกรณียกิจ หากแต่ต้องมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาช่วยเสริมให้อ่านได้เบาและสนุก ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าได้ใกล้ชิดเจ้านาย ทำให้รู้ว่าเจ้านายทรงมีเลือดเนื้อ ทรงมีชีวิตจริงๆ และเป็นที่รักของประชาชนด้วยเหตุอันใดบ้าง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียน ยิ่งได้ข้อมูลแล้ว ยิ่งรู้สึกผูกพันและซาบซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักระหว่างแม่กับลูก พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ท่านเป็นแม่ที่ประเสริฐสุด ท่านทรงทำทุกอย่างเพื่อเจ้าฟ้า ทั้งหมดจึงเป็นความรักที่จับใจมาก แม้ว่าทั้งสองพระองค์จะเป็นเจ้านาย แต่ชีวิตของท่านนั้นหากกล่าวถึงความทุกข์ยากลำบากตรากตรำแล้ว ท่านก็มีมากทั้งสองพระองค์ แต่ด้วยพระทัยอันเข้มแข็งและความรักที่ทรงมีต่อกัน ทำให้ท่านนั้นทรงดำรงมาได้อย่างตลอดรอดฝั่ง" คุณหญิงเล่าเสริมว่า "แม้ว่าในระหว่างการเรียบเรียงจะมีผู้ท้วงติงถึงคำราชาศัพท์ที่ใช้ แต่จุดนี้ก็เป็นเกร็ดก่อความประทับใจให้ดิฉันทราบว่ามีผู้สนใจติดตามอ่าน เรื่องนี้กันมากมายเกินกว่าที่คาดคิด ทั้งยังทำให้บางท่านที่พอจะรู้เรื่องเก่าๆ ก็ได้มาบอกเสริมแทรกให้บ้าง ช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ดิฉันตระหนักว่าความจงรักภักดีของประชาชนยังฝังอยู่ในหัวใจคนไทยอยู่ เสมอ" ด้าน ชัชพล ไชยพร ผู้เรียบเรียงอีกท่านหนึ่งนั้นเกริ่นให้ฟังว่า แนวการเขียนของเขากับคุณหญิงวินิตานั้นไม่เหมือนกันเลย เนื่องจากส่วนมากแล้วเขาจะเขียนบทความเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งใช้คำที่ค่อนข้างขึงขังอลังการ ใช้คำราชาศัพท์เต็มรูปแบบ แต่เมื่อการเรียบเรียงเรื่องในครั้งนี้ต้องผ่อนให้เบาลง ก็จำเป็นต้องลดรูปคำราชาศัพท์โดยไม่ให้ใจความผิด "ความตั้งใจแรกที่ผมได้ปรึกษากับคุณหญิงว่าลำพังการเขียนเฉลิมพระเกียรติก็ ไม่ยากเท่าไร ให้สรรเสริญพระเกียรติคุณว่าทรงเป็นคนดี คนเด่นอย่างไรก็ไม่ยากนัก แต่จะเขียนอย่างไรให้รู้ว่าทรงเป็นบุคคลตัวอย่าง ทรงเป็นประทีปนำทาง ทรงเป็นแบบอย่างของชีวิตที่พวกเราเจริญตามได้ และทรงใช้ธรรมะในลักษณะใดที่ประคับประคองให้ชีวิตผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ เหล่านั้นมาได้โดยสวัสดี ดังนั้น อีกความตั้งใจของเราผู้เขียนก็คือตั้งใจจะสอดแทรกธรรมะลงไป ซึ่งธรรมะข้อใหญ่ที่ท่านทั้งสองพระองค์ประสบมาก็คือ 'โลกธรรม' ทรงได้ลาภก็ทรงเสื่อมลาภ ทรงได้ยศก็ทรงเสื่อมยศ ทรงได้รับสุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา ปะปนกันไปอยู่ตลอดเวลา" อาจารย์หนุ่มกล่าว ท้ายการเสวนา ผู้เขียนเล่าให้ฟังถึงการตั้งชื่อเรื่องว่า ภายหลังจากสรรหาอยู่หลายชื่อก็มาเห็นพ้องกันในชื่อ 'ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า' ว่าเหมาะสมที่สุด เพราะมีความอ่อนหวานในตัวและสื่อความได้ว่าเป็นพระประวัติของพระองค์ไหน เนื่องจากสมเด็จเจ้าฟ้ามีพระนามว่า 'เพชรรัตน' ซึ่งมีความหมายว่า 'ดวงแก้ว' และพระนามเดิมของพระนางเจ้าสุวัทนาฯ มีว่า 'เครือแก้ว' เฉกนั้น ทั้งสองพระองค์จึงเปรียบดั่งแก้วทั้งสองดวงแห่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า นอกจากนี้ผู้เขียนทั้งสองได้มอบลิขสิทธิ์และรายได้ทั้งหมดแก่มูลนิธิเพชรรัตน-สุวัทนา ที่ทั้งสองพระองค์ก่อตั้งไว้เพื่อการสาธารณกุศล เช่นนั้น บทบันทึกพระประวัติสองราชนารีแห่งมหาจักรีวงศ์ สตรีสูงศักดิ์ผู้ทรงคุณค่าแก่การบูชาจึงมีขึ้นเพื่อเผยแพร่ให้เป็นแบบอย่าง แด่อนุชนรุ่นหลังสืบไป จาก http://www.bangkokbiznews.com/jud/wan/20080103/news.php?news=column_25466416.html จากคุณ : CrazyHOrse - [ 20 พ.ค. 52 15:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ข้อสงสัยเกี่ยวกับผู้เขียนทั้งสองท่านของหนังสือดวงแก้วพระมงกุฎเกล้า  อ.ชัชพล ไชยพร ชี้แจงมาดังนี้ครับ "ขอบอกตรงนี้เลยว่าหนังสือดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า ถ้าขาดคุณหญิงวินิตาฯ ก็เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อวันเปิดตัวหนังสือผมเข้าใจว่าทั้งคุณหญิงและผมก็พูดจนเสียงแห้ง ว่าเราสองคนแบ่งหน้าที่กันทำอย่างไร และมีส่วนร่วมอย่างไร การยกร่างและส่งให้แก้กลับไปกลับมาหลายๆ รอบนั้น บอกตรงๆ ว่าบางทียังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าคำไหนของใคร ถ้าตบแต่งจนเนียนเข้ากันเป็นที่พอใจของผู้เขียนทั้งสองแล้ว หรือบางที บางบทก็คนหนึ่งเขียนหัวกับท้าย อีกคนใส่ตรงกลาง บางบทคนหนึ่งว่ามาเป็นโครงอีกคนหนึ่งใส่รายละเอียด หนังสือเกือบห้าร้อยหน้า กว่าจะเขียนจบ วิธีเรียงเรียงมีสารพัดวิธีครับ" หากต้องการทราบรายละเอียดกระบวนการทำงานมากกว่านี้ น่าจะลองหาหนังสือมาอ่านดูนะครับ หากยังข้องใจก็ลองสอบถามจากผู้ที่ร่วมงานวันเปิดตัวหนังสือ หรือติดต่อสอบถามจากผู้แต่ง คือ อ.วินิตา และ อ.ชัชพล โดยตรง ท่านก็คงจะเมตตาชี้แจงให้หายข้องใจได้ครับ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 20 พ.ค. 52 21:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 67 คห 61 อาจเป็นมุมมองที่แปลก ที่มาตั้งข้อสังเกตเรื่องผู้แต่งร่วม ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยอ่าน "แต่" จะไม่แปลกใจเลย ถ้ารู้ว่า ผู้ตั้งข้อสงสัย มีอะไรไม่พอใจกับผู้แต่งร่วมท่านนั้นมาก่อน ไม่ชอบอย่างไร นิดๆ หน่อยๆ เก็บๆ ไว้ก็ได้ครับ คนที่ไม่รู้ภูมิหลัง อ่านแล้วก็ "งง" อะไรเนี้ยะ มาตั้งข้อสังเกตแปลกๆ ส่วนคนที่รู้ภูมิหลัง อ่านแล้วก็ "ยิ่งเซ็ง" มีช่องนิดๆ หน่อยๆ ก็เอาเชียว จากคุณ : -_- (Hotacunus) - [ 21 พ.ค. 52 02:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ย้อนกลับมาอ่านกระทู้นี้อีกครั้ง รู้สึกแปลกใจจัง แทนที่จะร่วมกันประณามผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์หนังสือดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า กลายเป็นว่า มีการเบี่ยงเบนประเด็นเป็นว่า ทำไมหนังสือเล่มนี้ ถึงต้องมีผู้เรียบเรียงสองคน จากคุณ : นาริน - [ 21 พ.ค. 52 08:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ชอบใจประโยคในคห.67 ของคุณHotacunus ค่ะ "ส่วนคนที่รู้ภูมิหลัง อ่านแล้วก็ "ยิ่งเซ็ง" มีช่องนิดๆ หน่อยๆ ก็เอาเชียว " คุณหญิงวินิตาอาจจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะผู้แต่งนวนิยาย ในนามว.วินิจฉัยกุล และแก้วเก้า แต่ท่านก็ยังค้นคว้าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และความรู้อื่นๆ เผยแพร่เป็นวิทยาทานในนาม"เทาชมพู"ในเว็บเรือนไทยซึ่งแต่ก่อนเป็นห้องหนึ่งในเว็บวิชาการ ...คุณ NN เองก็เคยใช้เวลาในช่วงหนึ่งกับเว็บนั้นไม่ใช่เหรอคะ ??? จากคุณ : ป้าปูเป้ - [ 21 พ.ค. 52 14:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เข้ามารับทราบข้อมูล ขอบคุณครับ จากคุณ : buddhi - [ 21 พ.ค. 52 16:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 71 จาก # 69 พอนึกอะไรได้ลางๆละงั้น เกี่ยวพันกับตำนานพันทิปเลยใช่มั้ยเนี่ย จากคุณ : จิ้งจอกภูเขาหิมะ - [ 21 พ.ค. 52 16:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เหล่าแฟนคลับรวมตัวกันมาเป็นหมู่เป็นเหล่าน่านับถือในความสามัคคีเป็นยิ่งนัก เฮ้อ ฝากไปบอกให้ใครคนหนึ่งเคลียค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อยด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ คห.71 ไม่ใช่ตำนานพันทิปค่ะ ตำนานความขัดแย้งส่วนตัวของ "เขา" จากคุณ : อันนะปุรณะ - [ 21 พ.ค. 52 17:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เคยอยู่ห้องเรือนไทย วิชาการ.คอมเช่นกัน สงสัยว่าเทาชมพู กับ เพ็ญชมพู นี่คนเดียวันหรือเปล่าครับ คหที่ 71 สำหรับตำนานพันทิพ ผมนึกถึงเรื่องคุณน้ำอบ ครับ อิอิ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 21:21:07 จากคุณ : akkarachai - [ 21 พ.ค. 52 21:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คลับไม่คลับนี้ ผมไม่ทราบ ทราบแต่ว่า มันน่าตลกตรงที่ว่า อยู่ๆ ก็มาตั้งข้อสงสัยเรื่องผู้แต่งร่วม ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ออกตัว (แบบเนียนๆ) มาแล้วว่า 'ไม่เคยอ่าน" !!!! บทความวิชาการ หรือ หนังสือกึ่งวิชาการต่างๆ ก็มีผู้แต่งร่วมเป็นเรื่องปกติ ยิ่งบทความวิชาการทางวิทยาศาสตร์ในวารสารระดับนานาชาติ ผู้เขียนร่วมยาวเป็นหางว่าว จริงอยู่คนเขียนอาจเป็นชื่อแรก นัยคือ เป็นผู้ประมวลความคิดทั้งหมดเขียนเป็นบทความ แต่ข้อมูล ผลการทดลอง แนวคิดต่างๆ ต่างก็มาจากผู้ร่วมแต่งทั้งนั้น แต่ตลก คูณสองคือ ความเห็นแรก "ปั่น" ไม่ขึ้น ก็เลยมีความเห็นที่สองตามมากอีก และ คูณสาม เมื่อทราบว่า ผู้ตั้งข้อสังเกต มีอคติกับผู้แต่งร่วม ผมเองไม่มีอะไรขัดแย้งกับ ผู้ตั้งข้อสังเกตหรอกครับ แต่ว่าทำแบบนี้มันดูไม่ดี ก็แค่เตือนๆ กัน ก็เท่านั้น ส่วนเรื่อง ค่าใช้จ่าย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรผมไม่ทราบ แต่ไม่รู้ว่าจะเทียบกับเรื่อง "นายกอยู่ในรถ" ได้หรือเปล่า อิอิ นายก บอกอยู่ ตู่ บอกไม่อยู่ (แต่ตู่พูดออกสื่อมากกว่า ...) จากนี้ ก็กลับมาที่ ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้แล้วครับ เรื่องข้อสังเกตเกี่ยวกับผู้แต่งร่วมก็เคลียร์แล้วจากข้อมูลของคุณ CrazyHOrse แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 21:27:26 จากคุณ : -_- (Hotacunus) - [ 21 พ.ค. 52 21:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ยังเข้ามารอดูตอนต่อไปค่ะ ว่านายพลาดิศัยฯ จะหาทางแลนดิ้งลงแบบไหน เห็นประวัติว่าดี เก่ง เป็นผู้รอบรู้นักหนา ที่แท้ ชำนาญเรื่องการลอกเลียน ตัดแปะแบบนี้เอง แล้วยังดูท่าไม่ค่อยสำนึกเท่าไหร่  คำแก้ตัวฟังไม่ขึ้น จากจดหมายที่วังรื่นฤดี ท่านผู้หญิงบุตรีส่งไปนั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ผิดที่ละเมิดลิขสิทธิ์ยังไม่พอ ยังไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอีกต่างหาก   งานนี้ต้องจัดการให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่น มักง่ายเหลือเกิน ส่วนเรื่องของการถามว่า มีผู้เรียบเรียง 2 คน ไม่รู้สึกประหลาดอะไร   เพราะจำได้ว่าอดีตก็เคยมี อย่างเช่น เสฐียรโกเศศ และ นาคะประทืป  แต่งหนังสือคู่กัน  เป็นหนังสือเรียนด้วยซ้ำ หรือพวกเพลง  ก็มีผู้แต่งสองคนคู่กันได้ค่ะ จากคุณ : กันตา - [ 21 พ.ค. 52 21:58:59 ]

ความคิดเห็นที่ 76 คห 75 ผิดที่ละเมิดลิขสิทธิ์ยังไม่พอ ยังไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอีกต่างหาก   อย่าเบี่ยงประเด็นเลย เขาผิดที่ละเมิดลิขสิทธิ์เท่านั้น จากคุณ : กินนรเริงร่า - [ 21 พ.ค. 52 23:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอโทษครับที่ปล่อยให้รอ  วันนี้เข้ากรุงเทพไปแต่ตี ๕ เพิ่งกลับมาถึงนี่เอง  ก็ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงมากนะ  คงขอพูดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น #64  มาแปลกแหวกแนว อยากทดสอบความเป็นชายหรือ  ไม่ไหวมั้ง  อยู่ในตลาดสดต่อไปเถิด หนังสือสกุลไทยเล่มนั้นเปิดผ่าน ๆ จริงครับ ไม่ได้อ่าน หรือถ้าอ่านนิดหน่อยก็ไม่ได้จดจำสำนวน ตอนนั้นคิดว่าคุณผู้ชายเขียนคนเดียว  ตอนนี้รู้แล้ว เพื่อนบอกว่าสำนวนบางตอนเป็นนิยาย ถ้าใครมาวิจารณ์วรรณกรรมเรื่องนี้แล้วถูกตอบโต้ดุเดือด คิดว่าคงไม่มีใครกล้า  อย่างนี้ต้องใช้คนฝีปากกริบอย่าง ส.ศิวรักษ์มาช่วยซะแล้ว อ้อ  อย่าใช้ร่างหญิงมาเบียดเบียนคนอื่นให้บ่อยนักล่ะ บอกพรรคพวกด้วย #65  เข้าใจแล้วละครับ ขอบคุณมาก  ก็แค่ตอบเท่านี้ ปล่อยผ่านไว้หลายวันจะไม่ให้คนเขาคิดมากได้อย่างไร แล้วก็ไม่ต้องขู่เรื่องภูมิหลังหรอกท่าน  พวกท่านรู้ภูมิหลังของผมหมดจดแล้วตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมเข้าไปโพสต์ในเรือนไทย  รวมถึงภูมิหลังสมาชิกผู้มีเกียรติท่านอื่นในนั้นด้วย  ท่านพูดขึ้นมาทำให้ผมต้องรำลึกเรื่องราวเก่า ๆ  ฟังให้ดีดีนะ เมื่อครั้งที่เรือนไทยยังอยู่ในวิชาการ  ไม่ได้เป็นติ่งเหาฉลามแบบนี้  พอผมโพสต์กระทู้ในนั้น ไม่กี่วันชื่อของผมก็ถูกวิเคราะห์ในแก้วดอท  ยังงงว่าเขารู้จักตัวตนของเราได้อย่างไร  ตอนหลังถึงได้รู้จุดอ่อน ว่าหากเราซื่อสัตย์ให้ชื่อให้นามสกุลจริงกับเว็บ คนจะมาแคะข้อมูลเราได้ง่ายดาย ทั้งที่ก่อนสมัครเขาโฆษณาไว้ว่าเป็นความลับ  ซึ่งควรจะเป็นอย่างนั้น  ประกอบกับความอยากรู้อยากเห็นไม่สิ้นสุดของสมาชิกในนั้น  จะเซาะทุกอย่างเกี่ยวกับเราเอามาแฉเมื่อเรามีจุดอ่อนที่เขาไม่ต้องการ   ผมพยายามส่งข้อความถึงเว็บมาสเตอร์หลายครั้งเพื่อให้ปกปิดเป็นความลับ  เพราะหากเราต้องการเปิดเผยเราถึงจะบอกคนคนนั้นเอง  ความพยายามไม่เป็นผล  จนสุดท้ายเมื่อเกิดแตกหักในเรื่องอื่น เรื่องนี้ของเราจึงถูกแก้ไข  ผมรู้สึกว่าไม่แฟร์ต่อสมาชิก ขนาดเล่นพันทิปมาเป็นปี เรื่องเหล่านี้ยังไม่เคยเปิดเผยเป็นสาธารณะอย่างในนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ฐานปฏิบัติการของกระทู้นี้ อยู่ที่แก้วดอท  เมื่อคนสงสัยในเรื่องใด ๆ ก็ตาม หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็น่าจะตอบ   มัวอิดเอื้อนไปไย  พาลให้ผมคิดไปถึงเมื่อตอนที่ผมถามเรื่องกระทู้แนะนำในเรือนไทย  ไม่เห็นมีคนอยากตอบ  (สุดท้ายก็คือไม่มีคำตอบ) แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีคนเอาเรื่องของผมออกมาแฉ  ทั้งๆที่ยังไม่ถึงจุดสุกงอม  แล้วบางคนก็คงถูกกระแซะให้พูด  ว่าเว็บของเขา เขาจะทำยังไงก็ได้  มีคนตบมือเปาะแปะบอกว่าถูกใจมาก  จนถึงบัดนี้ยังไม่เข้าใจเลยว่ามันเป็นยังงี้ได้ไง # เป็นลักษณะเฉพาะของแก้วดอท ที่พร้อมจะแฉทุกคนที่ไม่เห็นด้วย  ดีนะที่ยังไม่เผ็ดร้อนเหมือนอย่างที่เคยเห็นมา  ภูมิหลังของผมที่เขาเล่าสนุกกันในนั้นเป็นยังไงบ้างครับ คุยให้ฟังมั่งซี  เผื่อเรื่องเป็นนิยายเกินไปจะได้ช่วยเกลาให้ ความจริงเรื่องลับที่คุยกันสองต่อสอง ไม่น่าที่คนจะรู้เป็นสาธารณะอย่างนี้เลย เห็นภาษาหุ้นเขาเรียกอินไซ้เดอร์ ใช้กันได้หรือเปล่าไม่รู้ ถึงยังไงคุณๆ  ก็รู้ไม่หมดหรอก อย่างน้อยตอนรักก่อนพบ  แล้วก็รักแรกพบ  เธอคงไม่มีใครกล้าเล่าหรอกว่า ได้โทรศัพท์ส่วนตัวไปหาผม  แล้วเราสองคุยกันด้วยเรื่องอะไรบ้าง จากคุณ : NickyNick - [ 21 พ.ค. 52 23:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 78 จาก คคห 65 เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2547 รศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ เจ้าของนามปากกาเลื่องชื่ออย่าง ว.วินิจฉัยกุล, แก้วเก้า และ ชัชพล ไชยพร ข้าราชบริพารในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ อยากถามว่าเว่อไปอ่ะเปล่า ส่งสายเข้าไปสืบที่วังแล้ว ถาม: คุณ อ มาในฐานะไหน ตอบ: มาจัดการข้อมูล และพวกเอกสาร ถาม: มาทางสายไหน ใครพามา ตอบ: มีคุณหญิง....แนะนำมา ถาม: แล้วเคยเห็นคุณหญิง ว ที่วังไหม (คำถามเมื่อแปดเดือนที่เเล้วโดยประมาณ) ตอบ: เคยสองครั้ง  คุณ อ. พามา บทบาทของคุณ อ ไม่น่าจะใช่ข้าราชบริพาร จากคุณ : กินนรเริงร่า - [ 21 พ.ค. 52 23:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อย่าปล่อยให้จิตปรุงแต่งไปไกลกว่านี้เลยดีไหมครับ มันไม่เป็นประโยชน์กับใคร โดยเฉพาะตัวคุณเอง มันเป็นทุกข์ ไม่ใช่สุข ยิ่งจมอยู่กับมันยิ่งนานมันก็ยิ่งกัดกร่อนทั้งจิตใจและตัวตนของคุณเอง ผมเห็นว่าคนไม่ชอบกันก็ต่างคนต่างเดิน ต่างคนต่างอยู่ เดินสวนกันก็ทำมองผ่านไปเสีย อย่างน้อยมันก็ไม่ต้องมานั่งทุกข์อย่างเดินผ่านแล้วต้องแถมสักหน่อยอย่างนี้ ซึ่งสุดท้ายก็เป็นเรื่องเป็นราวทุกครั้ง ผมไม่รู้ว่าคุณรู้ตัวหรือเปล่า แต่ในสายตาคนที่เห็นมันไม่ใช่เรื่องดีงาม แล้วมันก็แปลกที่จะต้องมีคนบางคนคอยยุแหย่ว่าคนที่แสดงความไม่เห็นด้วยนั้นกลายเป็น "พวกเดียวกัน" เสียทั้งหมด ซึ่งเป็นความคิดชนิดที่คับแคบอย่างที่สุด ส่วนเรื่องเก่า มันนานมาแล้ว และในฐานะผู้อยู่ในเหตุการณ์ ผมเห็นว่าแทบจะไม่มีใครสนใจคุณ ซึ่งไม่ได้เป็นศูนย์กลางของปัญหาในครั้งนั้น แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำซากหลายครั้งในห้องสมุด ผมว่าคุณจะเป็นที่รู้จักก็เพราะอย่างนี้นี่แหละ เลิกเถอะครับ เพื่อตัวคุณเองนะครับ ผมก็เบื่อเต็มทีแล้ว ถ้าอยากจะประชันกันต่อไป แข่งกันทำความดีดีกว่า... อย่างที่เคยคิดทำกันไงครับ ยังจำได้ไหม? จากคุณ : CrazyHOrse - [ 22 พ.ค. 52 00:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ตำแหน่งข้าราชบริพาร ความหมายกว้างกว่าคนจัดการข้อมูลนะ ที่ถามถึงคุณหญิง ว เพราะสกุลไทยลงว่าเขียนหนังสือคู่กันกับคุณอัพ ที่ถามถึงคุณอัพ  เพราะเขาในสไตล์นิ่มๆ ได้สร้างบาปมหันต์ ต่ออีกนิด ก็เลยอยากรู้ว่าคนที่เอาดีใส่ตัวกำลังทำอะไรอยู่ แค่นั้นเอง ไม่ได้พาดพิงถึงใคร แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 00:47:13 จากคุณ : กินนรเริงร่า - [ 22 พ.ค. 52 00:42:23 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุณ CrazyHOrse ความรู้ก็มี สามารถเด่นดังได้ด้วยตัวคุณเอง ไม่จำเป็นต้องเกาะชายกระโปรงใครขึ้นฟ้ากละมัง โปรดกลับไปอ่านความเห็น 78 อีกครั้ง แล้วถามตัวคุณเองว่า คุณวิตกจริตเกินไปหรือเปล่า ยังไม่มีสิ่งใดเฉไฉนอกเรื่องสักนิด กระทู้นี้มาพาดพิงถึงผู้เเต่ง  2 คน สกุลไทยก็มีลงตรึม ใครเป็นผู้เเต่งหลัก ผู้แต่งรอง ไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติเลยนี่ ในขณะที่คุณอัพทำตัวเป็นผู้รู้โดยเฉพาะงานพระศพ ผูกขาดเรื่องในรั้วในวัง คุณ CrazyHOrse พยายามเล่นบทผู้ใหญ่ไก่เขี่ย คุณนั่นเเหละหยุดคิดอกุศลเสียทีเถิด ก่อนบอกคนอื่น บอกตัวเองเสียก่อนเถิด ทำตัวน่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน จากคุณ : กินนรเริงร่า - [ 22 พ.ค. 52 01:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 82 หนังสือเล่มนี้ เป็นข่าวมานานเเล้ว ตั้งเเต่ยังไม่เสร็จมั้ง เรียกว่า PR ถึง ทราบว่าข้อมูลมาก ทั้งภาพถ่ายและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสารพัน งานช้างขนาดนี้ ผู้เเต่งต้องเเบ่งงานกันให้ดี ใครจะเขียนบทไหน ใครทำหน้าที่อะไร ผู้เขียนทั้งสองต้องประชุมกันกี่ครั้งเล่า เรื่องธรรมดาแท้ๆ งง ผิดตรงไหน คุณ CrazyHOrse ถ้าจะถามคำถามดังใน คคห 78? จากคุณ : กินนรเริงร่า - [ 22 พ.ค. 52 01:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คุณกินนรเริงร่าอย่ามามั่วสร้างปัญหาเลยครับ ผมไม่ได้ส่งสารถึงคุณ คุณไม่ใช่ "เหยื่อ" อย่างที่ผมพูดถึงใน คคห.79 หรอก ผมว่าคุณเองก็รู้ดี นี่กลายเป็นว่าพยายามเปิดประเด็นใหม่ๆอีก คุณคิดว่าคนอื่นมีหน้าที่มาคอยแก้ข่าวเหลวไหลเลอะเทอะอย่างนี้อยู่ตลอดเวลาหรือ ไม่ต้องห่วงว่าผมอยากจะดังหรอกครับ เห็นบุคคลสาธารณะเจอคนชนิดคุณผมก็เข็ดแล้ว พอแก้ข่าวเสร็จ ไอ้ตัวปั้นเรื่องก็มุดหาย เปลี่ยนล็อกอินเนมดำดินหายตัวไป เป็นมนุษย์ร้อยชื่อที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร พวกคนซื่อถือล็อกอิน ไม่รู้ทันคนชนิดนี้ หลงไปตามแรงยุ สุดท้ายนั่งช้ำใจ เสียเครดิต กลายเป็นคนมีปมด้อยไปเสียอีก เคยมองย้อนกลับไปข้างหลังบ้างไหม มันมีแต่ความวินาศ ไม่เป็นประโยชน์กับใครเลยแม้แต่คนเดียว แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 11:02:48 จากคุณ : CrazyHOrse - [ 22 พ.ค. 52 09:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 84 กรรมเป็นเครื่องพิสูจน์เจตนาล่ะนะ แหม การตั้งคำถามตั้งได้ค่ะ กระทู้นี้อยู่ในเว็บบอร์ดสาธารณะ แต่เมื่อคุณเลือกที่จะตั้งคำถามโดยที่มีเจตนาให้เกิดข้อขุ่นข้องกับผู้ประพันธ์ (คือว่า...โตๆ กันแล้วอย่าแอ๊บว่าไม่ใช่เลยดีกว่า มันน่ารำคาญน่ะค่ะ อันนี้พูดตรงๆ นะ ถ้าแอ๊บว่าเปล่า อยากรู้จริงๆ เนี่ย ... มันจะตลกมาก เกริ๊กกกก) คุณก็ยังมีสิทธิที่จะตั้งได้อยู่ดีแหละ ก็นี่เว็บบอร์ดสาธารณะ แต่เมื่อคุณมีสิทธิจะตั้งคำถาม คนอื่นก็มีสิทธิที่จะตั้งคำถามในพฤติกรรมและการกระทำของคุณเหมือนกัน มีสิทธิที่จะมองคุณไปในทางเล่นไม่เลิก โตๆ กันแล้วแท้ๆ ไม่ใช่เด็กๆ ทำไมยังทำอย่างนี้อีกนะ ว้า ฯลฯ ฯลฯ คุณมีสิทธิตั้งคำถามในประเด็นที่มันห่างไกลกับกระทู้เช่นนั้น ไม่ว่าใครจะมองว่ามันประหลาด หรือหาเรื่อง หรืออื่นๆ คุณก็มีสิทธิแปะได้นั่นแหละ คนอื่นเขาก็มีสิทธิตั้งคำถามกับพฤติกรรมของคุณ แปะความเห็นแสดงความเห็นกับอะไรที่มันเพี้ยนๆ ได้เหมือนกันแหละ จากคุณ : =p o o k p u i= - [ 22 พ.ค. 52 11:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เจ้าของกระทู้มาแล้วค่ะ กระทู้นี้ ข้าพเจ้าตั้งเพื่อเผยแพร่ว่าหนังสือเล่มหนึ่งถูกละเมิดอย่างไร และเจ้าของลิขสิทธิ์ได้กระทำการอย่างไรบ้างกับผู้ละเมิด ส่วนผู้ใดที่เข้ามาด้วยเจตนาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของกระทู้ น่าจะรู้อยู่แก่ใจตัวเอง ส่วนความละอายใจนั้น ข้าพเจ้าคงไม่ถามหาจากพวกท่าน เพราะคิดว่าถ้าพวกท่านมี ท่านคงไม่ทำอย่างนี้หรอก จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 22 พ.ค. 52 11:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 86 83   อ้าว งั้นก็ว่าผมน่ะซี เดี๋ยวนี้เป็นพ่อพระไปแล้วหรือ เมื่อก่อนที่เจ้าจะเผาเรือน  เห็นคอยกระทุ้งหลังไมค์ให้ผมพูดกับคุณหญิงให้ชัด ๆ คราวนี้กลับมากลบเกลื่อนเสียนี่ ที่ผมเล่าเรื่องนั้นให้ฟัง มันเป็นข้อเท็จจริง  เว็บไซต์เหล่านั้นควรรับผิดชอบสมาชิกมากกว่านี้ ให้เหมือนกับพันทิป เพราะไม่เคยระแคะระคายความลับสมาชิกให้ใครรู้เลย นี่พอเข้าเว็บนั้นแค่ไม่กี่วัน ทุกอย่างมันรั่วออกมาหมด  คุณคิดว่าความซื่อสัตย์ที่บอกชื่อจริงสกุลจริงให้เว็บ มันผิดตรงไหน  หรือว่าคุณไม่เคยมีความซื่อสัตย์เยี่ยงนี้อยู่  ถึงยังรักษาความลับได้อย่างเหนียวแน่นจนถึงบัดนี้ ลองคิดถึงอกเขาอกเราบ้าง  ถ้าอยู่ดีๆ มีคนเอาเราเข้าไปวิเคราะห์ในแก้วดอท  โดยขุดจากข้อมูลอินไซเดอร์   แม้จะไม่ใช่เรื่องร้าย คุณจะรู้สึกอย่างไร  ยิ่งเป็นเรื่องร้าย จะให้วางเฉยเป็นพระคงไม่ไหว   ไม่โดนเข้ากับตัวเองคงไม่เดือดร้อนหรอก ผมจะเป็นศูนย์กลางความขัดแย้งครั้งนั้นหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ว่าถูกกราดอย่างเสียหายพร้อม ๆ กันไป   พอด่าเสร็จก็บอกว่าเลิกกันนะ ต่างคนต่างอยู่  ทำความดีกันไป  ผมว่ามันไม่แฟร์เช่นกัน  พูดยังงี้น่าจะเข้าใจนะ แล้วความเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า ตรงนี้เกี่ยวข้องเปล่าไม่รู้นะ  เห็นขยันขันแข็งนอนดึกเพื่อมาลบความเห็นของพวกนอกแก้ว  ผมไม่ได้ติดตามใกล้ชิดยังงั้น แต่เมื่อใดที่เว็บมันเดี้ยง  ทุกอย่างก็จะพรั่งพรูออกมาหมดว่าใครแก้ไขกระทู้นั้น ใครลบใครซ่อนกระทู้นั้น  ทั้ง ๆ ที่แจ้งว่าจะเลิกและไม่ยุ่งเกี่ยวในนั้นอีกแล้ว แล้วเรื่องที่ผมถูกยุยงปั่นหัว อย่าเอามาแก้เกี้ยวเลย   พูดเหมือนกับผมไม่มีหัวที่จะคิดอะไร  เป็นวิธีคิดแบบแก้วดอท  ที่เจ้าว่างามก็ต้องตามเจ้าไปเสียหมด  นิยายในนั้นมันเป็นยังงี้ดอกหรือ ยังไม่อยากจะเล่า แล้วก็ไม่คิดจะเล่า ว่าผมเจออะไรมั่งตั้งแต่รักก่อนพบ ตั้งแต่ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวป่วนในเว็บ  ปลอมเป็นคนชื่อต่างๆนานา  ตอนนั้นมันเป็นเรื่องร้ายแรงมากสำหรับเรา  ไม่เล่าก็ไม่เล่าจริงๆ .... อ้อ ผมไม่มีปมด้อยเรื่องนี้หรอกนะ  ไม่รู้จักคนดีดีเพิ่มอีกสักคน ชีวิตคงไม่เฉาหรอก  แล้วเรื่องถูกยุยงจนเกิดปมด้อย ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ  แต่จุดสำคัญมันเป็นประสบการณ์ตรงที่เราเจอด้วยตัวเอง   และก็ต้องการเสนอแนะเป็นบทเรียนกับผู้เกี่ยวข้อง   เพราะช่วงนั้นมีสมาชิกหลายคนรู้สึกคล้าย ๆ กัน  ที่ตอนเริ่มเข้าไป เขามีความหวัง แต่พอได้เข้าแล้ว กลับชีช้ำออกมา จากคุณ : NickyNick - [ 22 พ.ค. 52 11:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 87 กรำ.. เมื่อไหร่จะกลับเข้าประเด็นกันซะทีเนี่ย ทู้นี้ ผสมย. เขาว่าเรื่องของการลอกเลียนแบบหนังสือไม่ใช่หรือคะ ไม่ได้เกี่ยวกับ ใครแต่งหรือไม่แต่งเรื่องดวงแก้วฯ แต่ยังไงก็เถอะ  ก็มีคำตอบออกมาแล้วว่า เรื่องหนึ่งแต่ง 2 คนได้ไม่มีปัญหา แต่ยังทำท่าจะไม่จบอีก ช่วยกันตบ ๆ ทู้ให้เข้าประเด็นหน่อย เรื่องส่วนตัว ก็ไปคุยกันส่วนตัวได้ป่ะ   ทู้นี้เค้าจะรออ่านเรื่อง คุณพลาดิศัย แกจะต้องทำยังไงบ้างค่ะ จากคุณ : อ้อมรัก - [ 22 พ.ค. 52 12:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 88 "เห็นคอยกระทุ้งหลังไมค์ให้ผมพูดกับคุณหญิงให้ชัด ๆ คราวนี้กลับมากลบเกลื่อนเสียนี่" อึ้ง ทึ่ง มึน จำผิดคนหรือเปล่า ผมไม่ใช่ puppeteer สันดานหยาบคนนั้นนะ !!! คุณบอกว่าแก้วดอทไปขุดข้อมูลอินไซเดอร์ของคุณ ผมอยากถามสักคำ "เคยได้อ่านเองหรือเปล่า?" หรือเพียงฟังเขาเล่าว่า หรือได้อ่านแต่ข้อความชนิดตัดต่อพันธุกรรมมาเรียบร้อยแล้ว แน่ใจหรือว่าของจริงเป็นอย่างนั้น ในฐานะที่ผมเป็นสมาชิกคนหนึ่งในเว็บนั้น ขอบอกว่า ผมไม่เคยเห็นเรื่องเอาชื่อเสียงเรียงนามของคุณมาเปิดเผยวิเคราะห์กันอย่างที่ว่า และขอทำผิดกติกาเว็บสักครั้ง ค้นข้อมูลโพสต์ทั้งหมดหาดูว่ามีใครมาโพสต์ไว้โดยที่ผมไม่ได้อ่านหรือเปล่า "ไม่พบครับ" ไม่มี ขอยืนยันว่าไม่มีข้อความอย่างนั้นในเว็บแก้วเก้า เป็นแค่อีกเรื่องที่มนุษย์ร้อยชื่อปั้นมาหลอกคุณหรือเปล่าครับ ผมยอมรับว่าผมรู้ว่าคุณเป็นใคร ชื่ออะไร ทำงานที่ไหน แต่บอกได้ว่ารู้มานานแล้ว ก่อนรู้จักเว็บแก้วเก้านายเลย แต่รู้เพราะว่าชื่อล็อกอินเก่าของคุณในพันทิพนี่แหละ ไม่ได้มีใครมาบอกและไม่เคยมีใครมาบอก และก็ยืนยันได้ว่าไม่เคยเที่ยวไปป่าวประกาศข้อมูลส่วนตัวของคุณให้คนอื่นรู้ และก็ไม่คิดจะเที่ยวป่าวประกาศข้อมูลส่วนตัวของใคร ผมไม่เห็นว่าวิสัยเช่นนี้เป็นวิสัยของผู้เจริญ คุณเองควรตระหนักข้อนี้ให้มากเข้าไว้ และประเมินคนรอบข้างให้ดีว่าคนไหนเข้าข่ายพฤติกรรมนี้หรือเปล่า เรื่องเก่าๆ ลองประเมินดูให้ดีเอาก็แล้วกันครับว่าสถานการณ์มันเป็นอย่างไร คุณถูกเข้าใจผิดเพราะอะไร มีมนุษย์ร้อยชื่อป่วนอยู่ที่นั่นในเวลานั้นหรือเปล่า คุณอยากให้คนนึกถึงใจคุณที่ถูกเข้าใจผิด แต่คุณไม่รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง อย่างนี้ก็มีแต่จมอยู่ในโมหจริตไม่มีที่สิ้นสุด ตรองดูดีๆว่ามนุษย์ร้อยชื่อนั่นเป็นเพื่อนแท้ของคุณ หรือเป็นตัวต้นเหตุที่นำความเดือดร้อนมาให้คุณกันแน่ เรื่องขอให้ต่างคนต่างไป ผมพูดไปแล้ว อยากให้ลองคิดดูจริงๆ ถ้าเห็นเป็นความแค้นที่ต้องชำระทุกครั้งที่เจอหน้า ทะเลาะกันทุกทีแบบนี้มันดีจริงๆหรือ ทำแล้วสบายใจจริงๆหรือ และที่สำคัญ ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้ก็ทำให้หลายคนเขาก็ไม่ชอบคุณเหมือนกัน แต่อยากให้สังเกตอย่างหนึ่งว่า มีใครตามกัดตามจิกคุณหรือไม่ ผมคิดว่าไม่มี สังคมนี้ ไม่รักกันก็อยู่ด้วยกันโดยไม่ทะเลาะกันได้ครับ ปล. มนุษย์ร้อยชื่อไม่ได้เก่งกาจฉลาดคอมพ์อะไรมาจากไหน คุณรักที่จะเชื่อเขาไปเสียทุกอย่างเชียวหรือ ผมไม่ใช่เก่งมาจากไหนหรอกครับ แต่ข้องใจข้อไหน ถ้าผมตอบได้ ยินดีตอบแบบไม่กั๊ก ไม่มั่ว ไม่ปั้นเรื่องเสี้ยมให้คนทะเลาะกันแน่ๆครับ ถามมาเป็นข้อๆ ถ้าไม่กระทบบุคคลที่สาม ยินดีตอบให้ จะหน้าไมค์หรือหลังไมค์ก็ได้ ขอให้หมดเรื่องคาใจเถอะ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 22 พ.ค. 52 12:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เรียนคุณผู้สาวเมืองยศ ติดตามกระทู้ด้วยความสนใจใหญ่หลวง   เป็นประโยชน์ ได้นำความไปกระจายในกลุ่มสหายหลายกลุ่มที่ไม่ได้เข้าพันทิปเป็นประจำ เพราะต้องไปหาหนังสือ  ทั้งอุ้มและลากหนังสือกลับร้าน  เช็ดถูและซ่อมหนังสือก่อนนำออกขาย ไม่มีใครประหลาดใจ อิฉันตกใจมากที่ไม่มีใครประหลาดใจ เคยอ่านบทความของคุณ......อยู่บ้าง  แต่ไม่เคยซื้อหนังสือเล่ม เพราะตนเองใช้หนังสือพิมพ์แรกเป็นหลัก ไปค้นบทความเรื่องหนังสือเก่าของคุณ.....มาอ่าน กระเทือนใจและวูบวาบด้วยความสยอง แสนเสียดายข้อมูลที่เอามาจากที่ต่างๆที่จะด้อยค่าลงทันที เป็นการเตือนใจตนเองว่าอย่าประมาทนำข้อมูลของท่านผู้อื่นมาใช้ ถามตนเองว่า  จะทำไหม   ตอบว่าไม่  ข้อมูลมีมากมายมหาศาลในวงการหนังสือเก่า ยังมีอะไรให้ใช้อ้างอิงได้ถมไป การแบ่งข้อมูลให้คนที่รู้จักและต้องการก็มีประจำ แถมค้นข้อมูลและอ่านให้ด้วย   จะเขียนให้นั้นเพื่อนก็จะฟาดหัวด้วยไม้หน้าสามแน่ มีความคืบหน้าอีกหรือไม่คะ ขอเรียนว่ายังติดตามและกระจายข่าวต่อเสมอ จากคุณ : แสนอักษร - [ 22 พ.ค. 52 12:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สิ่งที่คุณไม่เห็น ไม่ใช่ว่าจะไม่มี แล้วก็ มนุษย์ร้อยชื่อที่คุณกล่าวถึง ก็ไม่ได้มาเป่าหูให้ฟังเรื่องนี้ด้วย พยายามอย่าให้วนเวียนอยู่กับคนคนนั้นเพียงผู้เดียว ไม่ต้องกังวลเรื่องรักแรกพบหรอกนะ  ผมไม่เล่าหรอก สวัสดีครับพี่แพท เข้ามาอ่านเหมือนกันหรือ จากคุณ : NickyNick - [ 22 พ.ค. 52 14:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แล้วก็ คนที่กระทุ้ง... ถ้าหากมีการเก็บหลังไมค์วิชาการไว้ดี แม้เจ้าของจะลบไปแล้ว กรุณาดูหลังไมค์ของคนหนึ่งว่ามีหรือเปล่า ช่วงวันใกล้เคียงกับที่ผมโพสต์ไป หลังจากที่สตรีท่านหนึ่งมาปรบมือให้ลูกโฮ ว่าพูดถูกใจยิ่งนัก ถ้าสายตาผมไม่แย่นัก  เป็นชื่อเดียวกับท่านนี้แล ถ้าอยากรู้ว่าผมตอบไปยังไง ก็ดูที่ล็อกอินชื่อผมในวิชาการได้ คงยังไม่ถูกลบสมาชิก ผมอนุญาตแค่วันนี้เท่านั้น แล้วอย่าไปเผลออ่านกลอนนิราศเรือนไทยที่ผมแต่งให้มิตรรักด้วยล่ะ อันนี้สงวนลิขสิทธิ์ อ้อ ไม่ต้องกลัวหรอกว่าผมจะรู้เรื่องอะไรมากมายจากมนุษย์ร้อยชื่อที่คุณกล่าวถึง อย่าไประแวงล่วงหน้ายังง้าน  ถึงรู้ผมก็ไม่ได้นำมาใส่ใจนัก  เธอไม่ได้มีอิทธิพลกับชีวิตผม จากคุณ : NickyNick - [ 22 พ.ค. 52 14:30:27 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ถ้าทั้งหมดนี้มันออกมาจากคุณเองจริงๆ ก็ต้องถือว่าผมมองคนผิดไป ทางใครทางมันแล้วกันครับ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 22 พ.ค. 52 14:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ผมว่าพอเถอะครับ คุณ NickyNick ยิ่งพูดก็ยิ่งเน้นความเป็นตัวตนของคุณมากขึ้น ที่คุณว่าผมขู่คุณ ผมไม่ได้ขู่นะครับ แต่เตือนคุณ และบอกข้อเท็จจริงบางประการให้ผู้อ่านท่านอื่นได้ทราบ ที่มาที่ไปของการตั้งของสังเกตแบบ "แปลกๆ" ก็เท่านั้น อย่าไปคิดว่า "ใครๆ ก็อยากแขวะ" สิครับ หายใจลึกๆ ดูข้อเท็จจริง ยอมรับความจริงว่า ตัวเองมีเจตนาอะไร ที่โพสตั้งข้อสังเกตแบบนี้ ถ้ามีคนมาชี้แจงบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ก็อย่ามองว่าเป็นการขู่ บางท่านอาจสงสัยว่า มันเรื่องอะไรกัน ผมเล่าให้ฟังก็ได้ (ไม่ใช่การแฉนะ เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งจริงๆ  ก็ไม่ได้ทำให้คุณเสียหายนะ) ผมว่าประเด็นที่คุณไม่พอใจจริงๆ ที่เรือนไทย มันเริ่มมาจาก คุณเห็นว่าการเลือกกระทู้แนะนำ ไม่แฟร์ บางเรื่องไม่น่าสนใจแต่ทำไมเป็นแนะนำ (ตรงนี้ผมคิดไปเองนะว่า แต่บางเรื่องของคุณน่าสนใจ ทำไมไม่เคยเลย หรือ ถ้าเคยก็น้อย เพราะคุณขยันหาข้อมูลมานำเสนอดี ... ไม่ได้ประชดนะ เพราะเคยอ่านอยู่)แล้วคุณก็เสนอให้มีโวตแบบพันทิป โดยผู้อ่าน ซึ่งเรื่องนี้ ผม และ คุณเทาชมพู ก็ได้ตอบเหตุผลไปแล้ว ส่วนตัวผมมองว่า ก็ขึ้นอยู่เจ้าของบ้าน คือคุณเทาชมพูเป็นคนเลือก ก็ควรให้เกียรติเจ้าของบ้านตัดสินใจ (ซึ่งลงมาแจมกระทู้บ่อยๆ) มันคนละกรณีกับพันทิปที่มีแต่คนคุมกฎ (ต้องเมล์ไปคุยอย่างเดียว) ผมคาดว่าคุณคงเข้าใจ แต่คุณไม่เข้าใจ และออกความเห็นหนักขึ้น (ตรงนี้ แหละที่เป็นเหตุให้มีบางคนไม่พอใจคุณ)ต่อมาก็มีคนที่ไม่ชอบคุณเทาชมพูเป็นทุนอยู่แล้ว มาผสมโรงด้วย ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีคนออกมาตอบโต้คุณแรงๆ เลยมีบางคนเอาลิงค์ blog ของคุณมาโพสให้ไปดูรูปบ้าน ดูรูปครอบครัว ... คุณก็เลยไม่พอใจเป็นสองเท่า ดังนั้น เรื่องไม่ปกปิดความลับ (ชื่อจริง นามสกุลจริง) ก็ถูกส่วนหนึ่ง อันนี้ผมเห็นด้วย แต่ผมมองว่าเหตุแห่งการวิวาทะนี้ มาจากเรื่อง วิธีการสรรหากระทู้มากกว่า นอกจากนี้ การที่คุณนำภาพครอบครัว ภาพบ้าน ลงบนอินเตอร์เน็ท มันก็เป็นดาบสองคม คือ ถ้าคุณเที่ยวไปแขวะใคร คนที่โดนแขวะ ก็ต้องหาทางรู้ให้ได้ว่า ตานี่มันใครกัน ต้องหารูปมาดูหน้าตาให้ได้ ... เรื่องแบบนี้ คุณต้องทำใจตั้งแต่เอารูปลงแล้วครับ และต้องระลึกเสมอว่า อย่าไปวิวาทะกับใครโดยไม่จำเป็น ดังนั้น เหตุแห่งวิวาทะนี้ ผมมองว่า ไม่ใช่เรื่องปกปิด ไม่ปกปิด นะ แต่เป็นเรื่องการสรรหากระทู้แนะนำนั่นแหละ คือคุณไม่เคารพความเห็นของเจ้าของเรือน ในเมื่อเจ้าของเรือน ยืนยันว่าจะเลือกแบบนี้ ก็น่าจะจบ แต่คุณไม่จบ ... จนมีช่องให้คนที่ไม่ชอบคุณเทาชมพูเข้ามาแจม จนเป็นเห็นวิวาทะกันใหญ่โต ซึ่งตอนนั้น คุณก็เลิกเล่นไปแล้ว ส่วนตัวแล้ว ผมเฉยๆ กับคุณนะ ก็รู้อยู่ว่าคุณไม่พอใจคุณเทาชมพูเป็นการส่วนตัว มันเป็นเรื่องของคนสองคนตอบโต้กัน ผมก็เคยเข้าไปดูลิงค์ภาพครอบครัวคุณ ผมว่าก็น่ารักดี คือคุณต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่ทุกคน ที่อ่านการตอบโต้ระหว่างคุณกับคู่กรณีแล้ว จะเกลียดคุณทุกคน ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดคุณ แต่ผมก็ไม่ได้เกลียดคุณ แต่กระทู้นี้ผมรับไม่ได้ตรงที่ว่า มันจะอะไรกันนักหนา แค่เรื่องผู้แต่งร่วมนี้ ก็ต้องเอามาเป็นประเด็น "แขวะ" ให้ได้ อ่านวิธีเขียนก็รู้ อ้างโน้นอ้างนี่ทำเนียนๆ ว่าไม่ทราบจริงๆ แต่น่าเป็นข้อสังเกตนะ -_-" นี่ก็อีก ถ้าไม่บอกว่าคุณแค้น คุณหาวิธีเบี่ยงเบนประเด็นในกระทู้นี้ แล้วจะบอกว่าอะไร เพราะพฤติกรรม มันบอกเจตนา ... มันชัดมาก ผมว่าผู้ที่เข้ามาอ่านก็รู้ได้ทันที ถ้าทราบภูมิหลังของเรื่อง ดังนั้นผมถึงขอร้องคุณ NickyNick พอเถอะครับ เพราะมันทำให้คนมองได้ว่า นิดๆ หน่อยๆ ก็ต้องกัด ต้องแขวะ ใครมาเตือน ก็หาว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม ... เอาง่ายๆ นี่ก็ แขวะว่า ผมเป็นลูก คนที่สนับสนุนความเห็นผม ผมว่ามันน่าเบื่อครับ ถ้าผมแขวะว่า คุณอันนะปุรณะ ก็ออกมาช่วยลูกนิก ทันทีเลยนะ ... ไงหละ มันก็แขวะกันไป แขวะกันมา โดยไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงเลยครับ จากคุณ : -_- (Hotacunus) - [ 22 พ.ค. 52 15:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ผมนับถือในสปิริตและน้ำใจของผู้ที่ต้องเสียหายมากกว่าเป็นไหนที่เข้ามาโพสต์ที่คงไม่อาจทนปล่อยให้การใช้เพียง eloquence ของอีกฝ่ายกระทำได้เพียงฝ่ายเดียวโดยปราศจากการชี้แจงกระทำได้ต่อไป แม้ว่าจะมีใครที่ตกในสถานะที่เคยอยู่ร่วมในเหตุการณ์จะช่วยปกป้องชี้แจงคงจะไม่เป็นการใช้สิทธิเกินส่วนเท่าไรนัก ผู้เสียหายจริงๆ ที่ต้องมาขอแก้ข้อตัวเพราะอาจจะมีมุมมองที่ล้ำลึกและ sagacious ไปกว่าคนธรรมดากลับกลายเป็นเรื่องน่าแปลก มิไยถูกมองกลับหรือถูกต้องกล่าวหาว่าเล่นไม่เลิก มีนัยซ่อนเร้น ฟังๆ ดูออกไม่น่าจะเป็นธรรมเท่าไร สิ่งที่ผมเฝ้ามองคือพบเห็นผู้ที่มารับต่างแก้แทนที่ไม่รู้ว่าเป็นผู้เสียหายจริงหรือผู้ร่วมเสียหายที่ลุยขโยงกันมาให้เกิดการเฉไฉผสมโรงตีรวนและใช้วาจาที่ vindicate กับผู้ที่เสียหายจริง ที่ดูไม่น่าจะเป็นเรื่องและบางเรื่องก็เกินไปจากตัวเอง สำหรับคำตอบที่ผมพออ่านได้จากที่นี่ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ทำนองนี้ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปนึกถึงว่าเว็บหนึ่งที่ผมพลัดหลงเข้าไปแบบไม่แสดงตัวคงเป็น charlatan stage ซึ่งถึงวันนี้คงสร้างความผิดหวังให้กับตัวเองและผมคงไม่อยากคิดว่านั่นคือเวทีของวงวิชาการที่แท้จริง เพราะผลสะท้อนที่ผมเห็นคือการบ่มเพาะวัฒนธรรมที่ assimilate และทำให้คนบริสุทธิ์กลายเป็นของเมามันแห่งการวิพากษ์กันสนุกปากของเหล่าคนที่บอกว่าตัวเองเลอเลิศกว่าคนอื่นซึ่งเนื้อแท้คือการหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ และเริ่มมีอคติคัดค้านเมื่อมีความคิดที่อาจสวนทางกลับตน ความที่แดงเพราะการตลบแลงโป้ปดคงไร้ราคาราวๆ กับความน่าเชื่อถือของตนที่อาการไร้ความละอายต่อสิ่งที่เคยทำกลับไม่กล้าทำสิ่งที่ตนควรจะทำ ถ้าเป็นผมผมจะไม่มีอาการเยี่ยงนี้และขอจบมากกว่าการกระทำที่ขาดไร้ความรับผิดชอบที่ได้สร้าง blemish ให้กับผู้อื่น จากคุณ : Lord JC - [ 22 พ.ค. 52 15:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 95 กระทู้นี้ ... ผมสนใจแต่ประเด็น นายพลาดิศัย ที่นำข้อมูลทางวิชาการของผู้อื่นไปตัดแปะ และละเมิดลิขสิทธิ์เท่านั้น ไม่ทราบว่ายังมีหนังสือเล่มอื่น ที่ผู้จัดทำ ทำแบบนี้อีกหรือไม่ น่าสงสารคนค้นคว้าด้วยน้ำพักน้ำแรงแท้ๆ ...ประเด็นที่นอกเหนือเรื่อง "อื่นๆ" นั้น ยิ่งอ่านยิ่งปวดหัว พูดไม่รู้เรื่อง นอกประเด็น ออกทะเล ... น่ารำคาญ จากคุณ : jassb1 - [ 22 พ.ค. 52 16:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 96 อ้า... ใช้ google translation หรือเปล่าครับเนี่ย  - -a จากคุณ : CrazyHOrse - [ 22 พ.ค. 52 16:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 97 คห 96 นึกว่า มีแต่ผมที่คิดแบบนั้น อิอิ ... ============= ประเด็นที่คุณ jassb1 เสนอน่าสนใจมาก คือ เล่มอื่นๆ หละ ? ผมยังไม่เคยอ่านงานของนักเขียนท่านนี้เลย แต่เห็นชื่ออยู่บ่อยๆ เท่าที่พอสืบค้นได้นะครับ (จากเว็บห้องสมุด ม.ศิลปากร) งานเขียนเชิงประวัติศาสตร์ โบราณคดี ประวัติศาสตร์ไทย, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ, 2548-2551. ประวัติศาสตร์ไทย : ฉบับเสริมการเรียนรู้, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ, 2547. เครื่องมือหินในประเทศไทย, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : ต้นอ้อ, 2533 ลุ่มน้ำไนล์ : แหล่งอารยธรรมโลก, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2543 เล่าเรื่องเมืองสยาม, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ.[กรุงเทพฯ] : เอ็ม บี เอ., 2536. เกร็ดพงศาวดารไทย : เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ไทย จากเกร็ดพงศาวดารที่น่าศึกษา, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2539. สืบสานตำนานบางกอก, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : มิติใหม่, 2538. เล่าเรื่องเมืองสุโขทัย, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2546. การปฏิรูปเมืองสยาม, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ กู๊ดมอร์นิ่ง, 2547. การปฏิรูปเมืองสยาม, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : กู๊ดมอร์นิ่ง, 2549. งานเขียนเกี่ยวกับชีวประวัติบุคคลสำคัญ หรือ เกี่ยวกับราชวงศ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์บันทึกสยาม, 2539 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าพระเจ้ากรุงสยาม, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ.กรุงเทพฯ :แสงศิลป์การพิมพ์, 2534 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว : พระเจ้ากรุงสยาม รัชกาลที่ 4, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : One World, 2547. พระบรมรูปทรงม้า : พระบรมราชานุสาวรีย์แห่งความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยทั้งแผ่นดิน พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บ้านนักเขียนไทย, 2537 พระบรมรูปทรงม้า, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : มิติใหม่, 2538. พระบรมรูปทรงม้า, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2539. ประพาสต้นในรัชกาลที่ 5, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. นนทบุรี : บันทึกสยาม, 2545. ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้น, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : กู๊ดมอร์นิ่ง, 2547. ความรักของพระพุทธเจ้าหลวง, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : กู๊ดมอร์นิ่ง, 2547. ความรักของพระพุทธเจ้าหลวง, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : กู๊ดมอร์นิ่ง, 2549. ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสยุโรป, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : Good Morning, 2547. ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสยุโรป, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : Good Morning, 2549. เฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2539. "ในหลวงฯ" : กษัตริย์นักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บุ๊คสไมล์, 2549. ในหลวง กษัตริย์นักพัฒนา : นวัตกรรมและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บุ๊คสไมล์, 2550. ในหลวงในดวงใจ, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : ดีเอ็มจี, 2550. พระราชอัจฉริยภาพในหลวง, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, 2549. ปัญญาชาวสยาม, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บริษัทโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช, 2538. รัชกาลที่ 5 กษัตริย์ดีเด่นของโลก, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : กู๊ดมอร์นิ่ง, 2549. อานันทมหิดล ยุวกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2550. พระนเรศวรกู้แผ่นดิน, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2544. 80 พรรษามหามงคล, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2550. สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอแห่งกรุงรัตนโกสินทร์, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2551. งานเขียนเชิงท่องเที่ยว นำเที่ยวอุทัยธานี, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. อุทัยธานี : สะแกกรัง, 2525 มรดกใหม่จากลุ่มน้ำสะแกกรัง, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : ต้นอ้อ, 2534 เล่าเรื่องหัวเมืองใต้ : จากกรือเซะถึงปัตตานี, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์วันเวิลด์, 2547. กรุงเทพศึกษา, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2551. งานเขียนเกี่ยวกับงานวรรณกรรม วัฒนธรรม ศาสนา บทเพลงเจ้าพระยา : วัฒนธรรมและภูมิปัญญาของบ้านเมืองแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ.กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2542 มหาสุริยกาฬ, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, [2537?]. ลิเก, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. นนทบุรี : บันทึกสยาม, 2538. ลิเกไทย, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, 2540. เล่าขาน--งานพระเมรุ, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2539 สืบตำนานงานพระเมรุ, พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. กรุงเทพฯ : บันทึกสยาม, 2551. ====== เหล่านี้เป็น "หนังสือ" ที่พอสืบค้นรายชื่อได้ ยังมีบทความอีกจำนวนหนึ่งด้วยเช่นกัน ที่ตีพิมพ์ในวารสารต่างๆ เท่าที่ดูเฉพาะชื่อหนังสือ แล้วโยงกับเหตุการณ์บ้านเมือง ก็พอจะบอกได้ว่า ผู้แต่ง เกาะกระแสในการเขียนพอควร โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของราชวงศ์ มีสิ่งที่น่าสังเกตนิดหน่อย เกี่ยวกับเรื่องที่เขียนกับ ร.4 และ ร.5 ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาใกล้กับที่คุณ นานา ไกรฤกษ์ เขียนถึงทั้งสองพระองค์เหมือนกัน แต่เนื้อหาจะเหมือนกันหรือไม่นี้ ผมไม่ทราบได้ เพราะไม่เคยอ่านของคุณพลาดิศัย เคยอ่านแต่ของคุณนานา คงต้องให้ผู้ที่เคยอ่านงานของคุณพลาดิศัย มาวิจารณ์ครับ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 17:55:18 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 17:39:00 จากคุณ : -_- (Hotacunus) - [ 22 พ.ค. 52 17:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 98 บอกได้เลยว่า รูปบ้านรูปครอบครัว ไม่เกี่ยวกันเลยแม้สักนิด   เดาผิดทุกเรื่อง แต่ที่เขาเอาชื่อจริง สกุลจริง มาเปิดเผยกัน ทั้ง ๆ ที่ตอนอยู่พันทิป ไม่มีเรื่องเยี่ยงนี้ แล้วยิ่งเอามาวิเคราะห์ว่าอาชีพใดอยู่ในเรือนไทยกันมาก คุณลองไปหาดูเถิดในข้อมูลต่างๆ  ถ้ามันยังพอหลงเหลือบ้าง ไม่ควรที่จะดีใจหรอก หากรู้ว่ามีอาชีพใดอยู่ แต่ควรจะดีใจเมื่อรักษาจำนวนสมาชิกไว้ ผมมองแบบนี้นะ 92  ถ้าไม่เจออะไรที่ต้องการ ก็อย่าสะบัดหน้าแบบนี้ ทำบ่อยๆแล้วดูไม่งามนัก 94  ชอบใจเรื่องประเด็นผู้เสียหาย ถ้าไม่เสียหายจริงๆ ใครจะกล้าออกมาพูดให้เปลืองตัวเล่าครับ ถ้าเป็นผม จะไม่ปล่อยขันทีออกมาแบบนี้ มันเหมือนลิงแก้แห  สู้เก็บเงินไว้ซื้อปี๊บใช้ดีกว่า ความจริงผมจะหยุดแต่เมื่อคืนแล้วนะครับ  แต่เมื่อมีการอ้างถึงก็ต้องลงมาชี้แจงกันหน่อย สุดท้าย แม้มันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรที่ชัดเจนตอนนี้ แต่ก็เป็นบทเรียนบางอย่าง  โดยเฉพาะการเป็นเว็บมาสเตอร์ที่ต้องควบคุมอารมณ์  มีความเป็นกลาง  มองเห็นความสำคัญของเพื่อนสมาชิก  แล้วก็เรื่องยกพวกมารุม  ซึ่งขึ้นชื่อลือชามาก  คิดว่าต่อไปคงจะดีขึ้น แล้วเด็กๆ ที่จะมาร่ำเรียนหาความรู้อย่างแท้จริงจะได้ไม่ต้องเกร็งเมื่อจะเข้าไปสอบถามกระทู้ จากคุณ : NickyNick - [ 22 พ.ค. 52 17:36:30 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ก็ดีใจครับ ที่คุณ NickyNick ยินดีจบ ผมก็ขอนอมรับ ที่เดาผิดเรื่อง รูปบ้าน รูปครอบครัวไม่เกี่ยว ไม่ได้เป็นประเด็นที่ทำให้คุณโกรธ แต่ขอติเพื่อก่ออีกนิด จริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องแขวะคำว่าขันที ก็ได้ครับ มีแต่จะต่อความยาวสาวความยืด ที่สำคัญ คนเปิดประเด็นในกระทู้นี้ก็เป็นคุณเองนะ อิอิ คือ คุณยังไม่ได้เสียหายอะไร อยู่ๆ ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตชวนงงซะงั้น อิอิ ... เอาเป็นว่า มาคุยเรื่องคุณพลาดิศัยกันดีกว่า ... จากคุณ : -_- (Hotacunus) - [ 22 พ.ค. 52 17:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 100 Nickynick ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นหมอ ไม่เจ็บสีข้างบ้างเหรอ ถูๆ ไถๆ ไปแบบนี้ อย่าว่าแต่เป็นหมอเลย เป็นหมายังไม่ได้เลย อายหมา จากคุณ : พู่กันหมึกจีน - [ 23 พ.ค. 52 01:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 101 หนังสือดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า เมื่อลงเป็นตอนๆในนิตยสารสกุลไทยได้รับความนิยมมากและข้อมูลที่เขียนก็ไม่เคยเห็นในหนังสือเล่มอื่นๆมาก่อน เชื่อในฝีมือของคุณหญิงวินิตาและคุณชัชพรนะคะ ว่าร่วมกันเขียนหนังสือเล่มนี้ถวายอย่างตั้งใจที่สุด แต่แปลกใจว่ากระทู้ละเมิดลิขสิทธิ์ของมูลนิธิเพชรรัตนกลายเป็นการถกเถียงประเด็นเก่าๆกันอีกแล้วเหรอค่ะ จากคุณ : หมูหันตัวอ้วนกลม - [ 23 พ.ค. 52 04:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 102 อันนี้ในทรรศนะส่วนตัว การแต่งหนังสือเล่มโต เต็มไปด้วยรายละเอียด ขนาดนั้น มีคนทำสองคนก็ไม่แปลกอะไรหรอกครับ คุณหญิงเองก็ใช่ว่าจะไม่ทราบเรื่องราวพระราชวงศ์ ประวัติศาสตร์ หรือคุณชัชพลเองก็ใช่ว่า จะถนัดเรื่องการประพันธ์อย่างคุณหญิง ที่มีประสบการณ์ในการแต่งหนังสือมานาน จากการที่ได้ไปร่วมงานที่วชิราวุธในวันเปิดตัวหนังสือนั้น พบว่าทั้งสองท่านได้ส่งอีเมลล์เรื่องราวหากันนับๆร้อยๆฉบับ เนื่องจากคุณชัชพลอยู่สหรัฐอเมริกา และคุณหญิงอยู่เมืองไทย ผมลองคิดดู หากคุณชัชพล แต่งหนังสือคนเดียว ก็น่าจะออกแนวเกร็ด หรือเชิงวิชาการมากกว่า การที่คุณหญิงมาแต่งด้วยก็ทำให้หนังสือเป็นคล้ายๆนวนิยายเชิงประวัติศาสตร์ การใช้คำ ภาษา อ่านแล้วไม่ดูวิชาการมากเกินไป ฉะนั้นทั้งสองท่านก็ต้องใช้สมองในการแต่งหนังสือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อันนี้ความเห็นส่วนตัวครับ :) อ่อ กระทู้กลายพันธ์อีกแว้ววว จากคุณ : natthaset - [ 23 พ.ค. 52 07:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่ฟี๊ดแบ๊คเกี่ยวกับเรื่องของผม แล้วจะนำไปแก้ไขครับ คิดอยู่เสมอก่อนจะส่ง อาจถูกบ้างผิดบ้างอันเป็นปกติของมนุษย์ และก็พอรู้ล่วงหน้าว่าผลตอบกลับต่อตัวเองจะเป็นอย่างไร  เคยใช้วิธีประนีประนอม แต่ก็ไม่เคยเกิดผล  จึงขอพูดตรง ๆ แบบนี้ ตามที่เคยมีคนชี้แนะ  อย่างน้อยคงเกิดผลในทางปฏิบัติบ้าง สิ่งที่ผมยังยืนยันอยู่เช่นเดิม  เกี่ยวกับการรักษาความลับของชื่อคนที่เว็บไซด์ควรมี ไม่ใช่ว่าใช้กูเกิ้ลเสิร์จแล้ว จะเจอชื่อคนง่าย ๆ ทันทีในหน้าแรก  โดยที่ยังไม่ได้กดคลิกใด ๆ จากคุณ : NickyNick - [ 23 พ.ค. 52 09:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ขอใช้พื้นที่กระทู้นอกเรื่องอีกสักนิดเพื่อความสบายใจนะครับ ผมยืนยันได้ว่า มีครั้งหนึ่งที่เว็บวิชาการปรับนโยบาย แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกให้บุคคลทั่วไปเห็นได้ โดยก่อนหน้านั้นเป็นเห็นได้เฉพาะสมาชิกด้วยกัน โดยข้อมูลนี้สามารถเห็นได้โดยการคลิกดูที่ชื่อได้เลย เรื่องนี้เป็นจริงแน่ เพราะผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ยินดีเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้เป็นสาธารณะขนาดนั้น และได้ล็อกอินเข้าไปพยายามแก้ไขข้อมูลส่วนตัว และก็พบว่า ชื่อ-สกุล ที่ใส่ไว้ตั้งแต่ตอนสมัครสมาชิกไม่สามารถแก้ไขได้ ผมจึงติดต่อ admin ของทางเว็บ ซึ่งก็ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถแก้ไขได้จริง ผมจึงขอให้  admin ลบข้อมูลส่วนตัวไป ซึ่งก็ได้รับความสะดวกเป็นอย่างดี เรื่องของผมนี้เข้าใจว่าคงก่อนเกิดเหตุคุณ NickyNick ไม่นาน ซึ่งเรื่องนั้นผมยอมรับว่าไม่ได้ทันสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเป็นสมาชิกเรือนไทยแต่ก็ไม่ได้อ่านทุกกระทู้ เข้าใจว่าทางวิชาการเปลี่ยนนโยบายนี้หลังจากนั้นไม่นานนัก ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตาม ผมก็คิดว่าเเป็นความคิดที่ถูกต้องแล้วครับ แต่ข้อมูลส่วนตัวคุณ NickyNick ผมไม่ได้ทราบมาจากเว็บวิชาการนะครับ ผมทราบจากเว็บไซต์ของที่ทำงานของคุณครับ ลองค้นดูด้วยวิธีเดิม (อาชีพ - ชื่อหน้าที่คิดว่าจะเป็น - คำแรกของนามสกุล ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งได้จากล็อกอินเก่าในพันทิพเอง) ก็ยังพาไปเว็บที่ทำงานเหมือนเดิมครับ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเหตุผลที่คุณเปลี่ยนล็อกอินเนมหรือไม่ แต่ผมก็เห็นว่าคิดถูกแล้ว หากต้องการรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ครับ ผมอยากให้เรื่องแบบนี้จบโดยดี คุณ NickyNick มีการศึกษาดี มีหน้าที่การงานดี มีครอบครัวที่ดี ไม่ควรจะต้องมาเสียเวลาของชีวิตอยู่กับเรื่องแบบนี้ จบได้ผมก็ขออนุโมทนาด้วยคนครับ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 23 พ.ค. 52 11:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เอ่อ..ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับการรื้อฟื้นความหลัง อยากอ่านเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์มากว่า ถ้าท่านใดต้องการมีปริวาทะกันช่วยไปเปิดกระทู้ใหม่ได้มั้ย ทีนี้เอากันให้เต็มที่ไปเลย จะมีกองเชียร์ก็ได้ตามใจ ถ้ากลัวไม่มีคนอ่าน จะช่วยตามเข้าไปโหวตให้ด้วยเอ๊า บอกตรงๆว่าตอนนี้รำคาญมาก ถ้าให้ดีช่วยลบกระทู้ที่ทะเลาะกันออกไปด้วย มันเป็นส่วนเกินน่ะ แสดงความรับผิดชอบกับคนอื่นๆ ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้กันบ้าง ขอบคุณ จากคุณ : วินธัย - [ 24 พ.ค. 52 21:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 106 มาสายคงดีกว่าไม่มา คุณ  akkarachai  # ๗๓ ถามว่า สงสัยว่าเทาชมพู กับ เพ็ญชมพู นี่คนเดียวกันหรือเปล่าครับ อ. เทาชมพูอ่านพบเข้าคงขำแย่    ที่แน่แท้คือไม่ใช่ pinkandgrey คือนามไซร้           ที่ท่านใช้ในพันทิป จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 25 พ.ค. 52 10:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เข้ามาอ่านความคืบหน้ากรณีคุณพลาดิศัย ไม่เห็นด้วยกับการนำข้อมูลและภาพมาใช้โดยไม่อ้างอิงที่มา และเห็นว่า ต้องจัดการให้ถึงที่สุดค่ะ ที่มีคนถามว่า แล้วผลงานเล่มอื่นๆ ที่ผ่านมาล่ะ ไม่กล้าบอกตรงนี้ แต่ถ้าได้อ่านหลายๆ เล่ม แล้วจะได้คำตอบค่ะ จากคุณ : ใบนท - [ 25 พ.ค. 52 22:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ครับผม ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูมากครับ ที่ช่วยให้ผมกระจ่างขึ้น เห๋นชื่อคล้ายๆกัน ยังคิดเลยว่าผมอาจจะตั้งบ้างเป็น ทองชมพู อิอิ :)) แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 00:23:01 แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 00:20:23 จากคุณ : akkarachai - [ 26 พ.ค. 52 00:18:14 ]