ความคิดเห็นที่ 1 ภาพการแห่ขบวนพระบรมศพ องค์จักรพรรดิ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กาลเวลาผ่านไปร้อยปี มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ได้เริ่มมีการค้นหาความเป็นจริงและคืนความชอบธรรมให้กับพระองค์ ซึ่งอาศัยหลักวิทยาศาตร์ เป็นเครื่องพิสูน์ความจริงบางประการ ถึงสาเหตุการสรรคต จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โลงพระศพของจักรพรรดิ ตรั้งหนึ่งเคยถูกทำลาย เห็นได้ในทุกวันนี้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หนึ่งในเครื่องประดับหยก ซึ่งถูกบรรจุในโลง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การศึกษาครั้งนี้เกิดจากการความร่วมมือของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน (CCTV), สถาบันวิทยาศาสตร์และพลังงานปรมาณู, ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานของสำนักงานตำรวจปักกิ่ง ซึ่งเริ่มการศึกษาภายในสุสานขององค์จักรพรรดิกวางสูตั้งแต่ปี 2003 โดยคณะกลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้เลือกใช้เครื่องมือและวิทยาการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในการพิสูจน์ตรวจสอบ ไชน่านิวส์รายงานเมื่อวันอาทิตย์(2 พ.ย. 2008) ถึงผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จีนพบว่ามีสารหนูในปริมาณมากอยู่ในกระดูก กระเพาะอาหาร ลำคอ เส้นผม และฉลองพระองค์ของจักรพรรดิกวางสู ซึ่งจากการศึกษาใหม่ ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุว่าการสิ้นพระชนม์ขององค์จักรพรรดิเกิดจากระบบทางเดินอาหารล้มเหลวสืบเนื่องจากมีสารพิษเข้าสู่ร่างกาย พร้อมยืนยันว่าสาเหตุการสิ้นพระชนม์มาจากการลอบวางยาพบปริมาณสารหนู 201 มิลิกรัม มากกว่ามาตราฐานที่คนรับได้ถึง 2,000 เท่า โดยระดับที่ทำอันตรายให้ตายได้เพียง 60-200 มิลลิกรัมก็ตายได้ การพบสารพิษในเส้นผมและกระดูกในจำนวนมาก บ่งชี้ว่าพระองค์ได้รับสารพิษเป็นจำนวนมากลและติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งยังระบุไม่ได้ว่าพระองค์รับสารพิษโดยทางใด มีเพียงข้อสันนิฐานคือ รับมาจากการวางยาพิษ กับ รับมาโดยการเสวยยาจีน ซึ่งแทรกสารหนูและสารปรอทเป็นจำนวนมาก นักวิจัยระบุว่า หากได้รับสารหนูเป็นระยะเวลานาน จะพบสารหนูที่ปลายและกลางเส้นผมเป็นจำนวนมาก แต่กรณีของพระองค์ กลับพบว่า ปลายรากผม มีปริมาณพิษอยู่จำนวนมาก ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า พระองค์ถูกลอบวางยาพิษ และในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2008 ที่ผ่านมาสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ได้นำเสนอชุดสารคดีประวัติศาสตร์และการศึกษาสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิกวางสู เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี แห่งการจากไปขององค์จักรพรรดิ ซึ่งทรงพยายามปฎิรูประบบกฎหมายจีน (การปฏิรูป 100 วัน) แต่หยวนซื่อข่ายได้ทรยศพระองค์ นำแผนการกำจัดพระนางซูสีไทเฮาไปทูลพระนางฯ จึงถูกกลุ่มอำนาจเก่าของพระนางซูสีไทเฮารัฐประหาร และจองจำพระองค์ในพระตำหนักฤดูร้อนเมื่อปี ค.ศ. 1898 จักรพรรดิกวางสูสิ้นพระชนม์เมื่อ14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1908 พระชนมายุ 38 พรรษา โดยในประวัติศาสตร์ระบุว่าทรงสิ้นพระชมน์เพราะอาการประชวร ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็เป็นที่โต้แย้งมานานร่วมศตวรรษในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ของจีน. จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ฉลองพระองค์ . จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีหลายชุดอยู่ครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นักวิทยาศาสตร์นำชิ้นส่วนฉลองพระองค์ไปวิเคราะห์หาสารบนเนื้อผ้า จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:55:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เจ้าหน้าที่มาดู จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หางเปีย เส้นพระเกศา ขององค์จักรพรรดิ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เส้นพระเกศานำมาวิเคราะห์หาสารต่างๆ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ ในการสกัดหาสารประกอบเคมีในเส้นพระเกศา จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 13:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 นอกจากเสื้อผ้า เส้นพระเกศาแล้ว ยังมีอีกส่วนที่ต้องนำมาวิเคราะห์ คือ ชิ้นส่วนของกระดูก จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 14:00:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผลวิเคราะห์ทางห้องแลบ ออกมาแล้วให้กราฟดังแสดง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 14:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผลวิเคราะห์ทางห้องแลบ ออกมาแล้วให้กราฟดังแสดง 2 จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 14:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 บัดนี้ผ่านมาครบ 100 ปีเนื่องในวันสวรรคตขององค์จักรพรรดิ คนในยุคปัจจุบันได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยเหตุอะไร แต่ยังมีคำถามต่อไปที่ว่า......ใคร เป็นคนวางยาพระองค์ท่าน..... วันที่ 14 พฤศจิกายน อันเป็นวันสวรรคต ทรงมีพระบรมราชโองการ ความว่า “ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีกลาย ร่างกายของเราอ่อนแอลงมาก ได้สั่งให้พวกผู้สำเร็จราชการตามมณฑลต่างๆ ทั่วแผ่นดินจีน หาหมอผู้มีความสามารถเข้ามารักษา แต่ไม่ได้ผลอันใด อาการของโรคเราทรุดลงเรื่อยมา ขณะนี้เรามีความรู้สึกว่าลมหายใจของเราหยุดลงเป็นครั้งคราว มีอาการเจ็บปวดที่หน้า ที่ท้องสันหลังและขาทั้งสองข้าง บางขณะเราเดินเหินไม่ได้ บางคราวเรามีอาการไข้และนอนไม่หลับ สุดที่เราจะทนต่อไปได้ เราจึงขอประกาศมายังพวกขุนนางอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าผู้ใดสามามารถหาหมอมารักษาอาการของเราให้หายปกติขึ้นมาได้ ก็จะให้รางวัลอย่างงาม เพียงแต่ผู้ใดแนะนำมา เราก็จะขอบใจ ขอนำความนี้ออกประกาศให้รู้ ทั่วกันในแผ่นดิน...” ห้องบรรจุพระบรมศพ ที่ซึ่งพระองค์อยู่เป็นนิรันดร์ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 52 15:08:21 จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 14:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โห กระทู้นี้ไม่น่าเชื่อว่าจะยังเก็บ ชุดและผมไว้อยู่อีกนะนี้ เดี้ยวต้องไปค้นประวัติท่านมาอ่านละ ขอบคุณคะ จากคุณ : คุณค่าที่คุณคู่ควร - [ 16 พ.ค. 52 14:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้น่าสนใจมากครับ ชอบจริงๆ จากคุณ : jin leng - [ 16 พ.ค. 52 14:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณคุณหนุ่มรัตนะที่ให้ความรู้นะคะ จากคุณ : K-otism (K-otism) - [ 16 พ.ค. 52 15:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น่าสนใจมาก สงสัยอยู่ว่าทำไมฉลองพระองค์ถึงเปื่อยเร็วนัก ๑๐๐ ปีเท่านั้น เท่าที่เข้าใจแพรไหมของจีนคุณภาพสูง คงเป็นเพราะสภาพของโลงชื้นมากกระมัง ขอบคุณที่นำมาฝากค่ะ เห็นเส้นพระเกศาแล้ว สะเทือนใจ อนิจจาโอรสสวรรค์ จากคุณ : แสนอักษร - [ 16 พ.ค. 52 15:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณพี่นนท์นะครับที่มาให้ความรู้ โหวตให้เลยครับ จากคุณ : น้ำเต้าสีรุ้ง (เหนียวเนื้อ) - [ 16 พ.ค. 52 15:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ดูสิ่งที่ตนเองสนใจแบบนี้แต่เจ้าของกระทู้ก็ทำให้ความฝันเป็นจริง กระทู้ดีมาก ๆ ครับ จากคุณ : แวะมา - [ 16 พ.ค. 52 16:38:21 A:202.12.97.118 X: TicketID:145389 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มีต่อไหมครับ ชอบๆๆ จากคุณ : จ้องจนปวด - [ 16 พ.ค. 52 16:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ดูสิ่งที่ตนเองสนใจแบบนี้แต่เจ้าของกระทู้ก็ทำให้ความฝันเป็นจริง กระทู้ดีมาก ๆ ครับ จากคุณ : แวะมา - [ 16 พ.ค. 52 16:41:01 A:202.12.97.118 X: TicketID:145389 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตามมาดูกระทู้ดีๆครับ จากคุณ : เหมียวออก้า (orcahappy) - [ 16 พ.ค. 52 19:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขออนุญาตแจมด้วยเกร็ดพงศาวดารจีน สมัยราชวงศ์ไต้เช็ง ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ครับ "...ตัวเราเป็นเพียงบุตรชายของจุนอ๋องคนก่อนผู้ถึงแก่ความตายไปแล้ว เราหาควรได้ราชสมบัติไม่ แต่พระนางฮองไทเฮาซูสีนั้น ถึงแม้ว่าจะเกลียด ชังเราอยู่เป็นนิจก็ยังยกราชสมบัติให้แก่เรา เพราะมารดาเราเป็นน้องสาว ร่วมครรภ์กับพระนางฮองไทเฮาซูสี เราจึงได้รับทุกข์ทรมานถึงสิบปีเศษ ต้นเหตุแห่งความทุกข์ทรมานของเราทั้งปวงนั้น คือ หยวนชีไก๋ แต่ผู้เดียว เราจึงทำคำสั่งนี้ไว้ต่อผู้ที่จะมาสืบราชสมบัติต่อไป ให้จับตัวหยวนซีไก๋ ตัดศีรษะเสียเมื่อถึงเวลาได้โอกาส..." "...ครั้นพระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ เสวยยาพิษที่ลิเลียนยิงถวายเข้าไปแล้ว ก็ล้มลงบรรทมอยู่มิสามารถตรัสถ้อยคำใดๆ ได้ แต่ใช้นิ้วพระหัตถ์ทำเป็น วงกลมในอากาศจนสวรรคต คนทั้งปวงที่เห็นก็เข้าใจว่า มีพระประสงค์ จะเขียนหนังสือคำว่ายวนหมายถึงหยวนซีไก๋..." แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 52 20:37:17 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 52 20:35:46 จากคุณ : รอยใบลาน - [ 16 พ.ค. 52 20:35:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณคุณหนุ่มรัตนะที่นำข้อมูลมาแบ่งปัน  เรื่องตื่นเต้นดี จากคุณ : วสันดิลก - [ 16 พ.ค. 52 20:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28 น่าสนใจมากเลยค่ะ คราวหน้าเอามาลงอีกนะคะ จะรอติดตาม จากคุณ : nepatak (Nepatak) - [ 16 พ.ค. 52 20:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 น่าอนาถจัง.... เป็นกษัตริย์ที่น่าสงสารมาก  ยามมีชีวิต  ต้องพลัดพรากจากคนที่ตนรัก  และยังต้องถูกกักตัวอยู่ในตำหนักเย็นอีก     เป็นชีวิตที่หม่นหมองจริงๆ จากคุณ : Fortunism - [ 16 พ.ค. 52 21:06:04 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่น่าสนใจครับ จากคุณ : ตงเหลงฉ่า - [ 16 พ.ค. 52 21:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เจอกระทู้ดีอีกแล้วครับ ขอขอบคุณและชื่นชมคุณเจ้าของกระทู้อย่างยิ่ง พักนี้ห้องสมุดมีกระทู้ดี ๆ แบบนี้เยอะ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านจริง ๆ ครับ จากคุณ : วศินสุข - [ 16 พ.ค. 52 21:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณทุกๆคนที่เข้าชมและให้ความสนใจครับ เห็นคุณรอยใบลานพูดถึงพระองค์จักรพรรดิกับหยวนซื่อไข่ ดังนี้... ... เมื่อพระบรมราชโองการฉบับวันที่ 14 ได้ประกาศออกไป อาการขององค์จักรพรรดิเริ่มไม่สู้ดี และพระองค์คงรู้องค์เองว่าจะอยู่ได้ไม่นาน จึงได้มีพระบรมราชโองการ ตามมา ซึ่งเป็นปัจฉิมบรมราชโองการความว่า "เมื่อเวลาที่พระนางซูสีฯ ได้ทรงเลือกตัวเราขึ้นเถลิงราชสมบัตินั้น เราเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย เพราะขุนนางผู้เกลียดชังฝรั่งต่างชาติได้ให้การสนับสนุนพระนาง คัดค้านความปราถนาดีของเรา ตลอดเวลา 10 ปีที่เราได้รับความทุกข์ทรมานในราชสมบัติ เพราะยวนซีไขคนเดียวเป็นตัวการอยู่ เพราะฉะนั้น เราจึงขอประกาศว่า ถ้าหากเราหาชีวิตไม่แล้วและถ้าใครต้องการให้ราชสมบัติและบ้านเมืองยั่งยืนต่อไปภายหน้า จงหาทางกำจัดหยวนซือไขออกจากแผ่นดินให้จงได้" ภาพหยวนซือไข่ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ - [ 16 พ.ค. 52 23:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาอ่าน แล้วรอสรุป ถ้าจะให้ดี รบกวนพี่ๆ หาเอกสารต้นฉบับภาษาจีน มาอ้างอิงครับ พวก... ผมจะได้ไม่โนมอมเมาด้วยเรื่องเล่า ครับ จากคุณ : MA<O>MiYA - [ 17 พ.ค. 52 00:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบพระคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer - [ 17 พ.ค. 52 06:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณที่หามาให้ชมครับ น่าสนใจมาก จากคุณ : Navarat.C - [ 17 พ.ค. 52 06:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ... จากคุณ : booklovers - [ 17 พ.ค. 52 07:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องเกี่ยวกับพระนางฉือสี่นั้นมีส่วนทั้งที่เป็นจริงและแต่งเติมครับ บันทึกของชาวตะวันตกที่อาศัยอยู่ในปักกิ่งช่วงปลายราชวงศ์ชิงก็ไม่อาจเชื่อถือได้ทั้งหมด เพราะพวกเขาอาจไปรับเอาข่าวลือมาอีกทีหนึ่ง หรือไม่ก็จงใจแต่งเติมเรื่องเพื่อให้เรื่องราวน่าสนใจ และเพื่อให้หนังสือของตนขายได้ (ลองนึกถึงกรณีแหม่มแอนนาในสยาม) ส่วนเรื่องที่ว่าพระนางเป็นคนวางยาจักรพรรดิกวางซี่ว์ ด้วยเกรงว่าถ้าพระนางสิ้นพระชนม์ลงไปก่อน จักรพรรดิกวางซี่ว์จะรื้อฟื้นนโยบายปฏิรูปประเทศ รวมทั้งประณามว่าพระนางเป็นคนชั่วร้าย ส่วนตัวผมมองว่าเป็นไปได้น้อยมาก เพราะ 1. แม้ว่าจักรพรรดิจะทรงล้มเหลวในการปฏิรูปการปกครองเมื่อ ค.ศ. 1898 หากแต่หลังกรณีนักมวย (ค.ศ. 1900) เป็นต้นมา พระนางฉือสี่และชนชั้นนำของราชวงศ์ชิงต่างก็เอานโยบายปฏิรูปของจักรพรรดิมาปัดฝุ่นอีกครั้ง มีการตั้งสภามณฑล เตรียมประชุมสมัชชาแห่งชาติ และร่างรัฐธรรมนูญ เท่ากับว่าใน ค.ศ. 1908 นั้น การปฏิรูปได้กลายเป็น "ฉันทามติ" ของชนชั้นนำไปแล้ว ไม่มีการแบ่งแยกทางความคิดแบบสุดโต่งอย่างเช่นเมื่อ ค.ศ. 1898 แต่อย่างใด 2. ตามกฎมณเฑียรบาล พระนางฉือสี่มีสถานะเป็นพระราชชนนีของจักรพรรดิ (แม้ว่าในทางสายเลือดจะไม่ใช่) และความกตัญญูก็เป็นหลักสำคัญมากในการปกครองตามลัทธิขงจื้อ ดังนั้นถึงพระนางจะร้ายกับจักรพรรดิแค่ไหน จักรพรรดิก็คงไม่กล้าประณามหรือกระทำการใดๆที่ทำลายพระเกียรติพระนางอย่างรุนแรงแน่ๆ ส่วนเรื่อง "ปัจฉิมราชโองการ" ของจักรพรรดิที่บางท่านยกมาข้างบน ผมมีคำถามว่า จักรพรรดิกวางซี่ว์ที่อยู่ในสถานะนักโทษ (พระองค์ถูกขังที่อิ่งไถ ทางตะวันตกของพระราชวังต้องห้าม) สามารถออกพระราชโองการเป็นลายลักษณ์อักษรได้โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของพระนางฉือสี่หรือ? แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 52 08:59:53 จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 17 พ.ค. 52 08:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ใครๆ ก็อยากจะเป็นโอรสวรรค์ แต่จริงๆ แล้วคนที่อยุ่ในตำแหน่งนี้ก็คงไม่ได้ มีความสุขนักหรอก เอารูปจอมทรยศหยวนซือไข่ มาให้ดู อันนี้เป็นรูปที่ หยวน แต่งตัวเป็นโอรสสวรรค์ เป็นรูปที่คนจีน สมัยนั้นต่างพากันสาปแช่ง เพราะวันที่หยวนสถาปนาตัวเอง ต้องใช้กองกำลังของต่างชาติ มาคุ้มครองตลอดพิธีกรรม สรุปว่า หมอนี่ ทรยศราชวงศ์ชิง( ทั้งฮ่องเต้ และไทเฮา) ทรยศคณะปฏิวัติทรยศต่อคนจีนทั้งประเทศ จากคุณ : เหล่าฟาง - [ 17 พ.ค. 52 12:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อืม เมื่อวานพึ่งดูสารคดี เรื่องนี้ใน History channel ไปเอง อยากรูรายระเอียดอีกค่ะ สนุกดี จากคุณ : heaven so sweet - [ 17 พ.ค. 52 14:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เหตุการณ์ช่วงนี้ ก่อน ดร. ซุนทำรัฐประหารใช่ป่าวครับ จากคุณ : กริชครับผม - [ 17 พ.ค. 52 17:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 กระทู้นี้น่าสนใจมากๆๆๆ ขอบคุณค่ะ ไว้คุณหนุ่มว่าง ช่วยเล่าเรื่องจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีนที อยากรู้มาก ยังไม่เคยศึกษาจริงๆ เลย ตอนนี้กำลังมาเที่ยวจีน เลยอยากรู้ยิ่งขึ้น จากคุณ : กินนรเริงร่า - [ 17 พ.ค. 52 17:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณมากครับ ที่นำเสนอสิ่งดีๆ แบ่งปันกัน ขอคารวะด้วยใจ จากคุณ : แมวอ้วนบนโซฟานุ่ม - [ 17 พ.ค. 52 18:16:11 A:124.93.242.146 X: TicketID:216493 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ในที่สุด วิธีการกำจัดหยวนซื่อไข่ คือปล่อยให้ตายไปเอง ผมคิดว่าถ้าจักพรรดิกวางสี ยึดอำนาจคืนได้จริงๆ จีนอาจได้ปฏิรูปแบบญี่ปุ่นสมัยเมจิ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 17 พ.ค. 52 19:24:36 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณมากครับ ดีมากๆๆเลย จากคุณ : ติดปีกบินไปให้ไกลไกลแสนไกล - [ 17 พ.ค. 52 20:24:00 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Put the Kettle On - [ 17 พ.ค. 52 20:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นมีคนสนใจเยอะ ผมเลยขอคัดเหตุการณ์ก่อนพระเจ้ากวางสูสวรรคตมาให้อ่านกันครับ ที่มาจากหนังสือเล่มเดิมครับ เกร็ดพงศาวดารจีน สมัยราชวงศ์ไต้เช็ง ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ... ฝ่ายขุนนางทั้งปวง แลเห็นพระนางฮองไทเฮาซูสีเปลี่ยนแปลงราชการแผ่นดินทั้งปวง ให้เปลี่ยนไปตามธรรมเนียมพวกฮวนตะวันตกต่างก็พากันร้อนใจ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งปวงนั้น พระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ทรงดำริมาก่อน แต่เมื่อพระนางฮองไทเฮาซูสีมิได้เห็นด้วย ขุนนางทั้งปวงก็ช่วยกันขัดขวาง ครั้นพระนางฮองไทเฮาซูสีสั่งให้จับพระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ไปขังไว้ ก็หามีผู้ใดว่ากล่าวประการใดไม่ กลับเห็นชอบด้วยพระนางฮองไทเฮาซูสีไปด้วยทั้งสิน ต่อเมื่อขุนนางทั้งปวงได้แลเห็นพระนางฮองไทเฮาซูสีกลับไปเอาความคิดของพระเจ้ากวางสูฮ่องเต้มาใช้ จึงพากันคิดได้ บางคนก็เกิดความละอายใจ บ้างก็วิตกทุกข์ร้อน เพราะเห็นพระนางฮองไทเฮาซูสีมีอายุชราแล้ว มาตรว่าพระนางฮองไทเฮาซูสีถึงแก่ความตายลงก่อนพระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ พระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ก็จะมีอำนาจปกครองแผ่นดิน และเอาโทษแก่ขุนนางทั้งหลายที่รู้เห็นเป็นใจกับพระนางฮองไทเฮาซูสี ขุนนางทั้งปวงจึงเดือร้อนระส่ำระสายยิ่งนัก ฝ่ายพระนางฮองไทเฮาซูสี ก็ป่วยไข้อยู่เนื่องๆ และมักจะเป็นลมสลบแน่นิ่งไป วันหนึ่งพระนางฮองไทเฮาซูสีจึงปรารถกับสาวไชที่ปรนนิบัติว่า "บุคคลจะกระทำการแผ่นดินสำเร็จหรือไม่สุดแล้วแต่เทพยดาฟ้าดิน แต่บุคคลใดจะตายเมื่อไรนั้น สุดแล้วแต่เวรกรรมของตน ตัวเรานี้ทำราชการแผ่นดินที่สำคัญมามากมิได้เคยมีผิดพลาด บัดนี้เรารู้ว่าความตายนั้นใกล้ตัวเราเข้ามา เราก็หามีปัญญา และอำนาจที่จะป้องกันหรือหลีกเลี่ยงได้ไม่" สาวใช้คนหนึ่งจึงกล่าวขึ้นว่า "พระองค์ตรัสดังนี้มิบังควรเพราะเป็นลางร้ายแก่บ้านเมือง ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์จะมีพระชนมายุอยู่ชั่วนิรันดร" พระนางฮองไทเฮาซูสี จึงหัวเราแล้วกล่าว่า "เจ้านี้พูดจาเหมือนคนบ้าเสียสติ" สาวใช้อีกคนหนึ่งอยู่ ณ ที่นั้น จึงกล่าวขึ้นว่า "พระองค์จะมีอายุยืนถึงหมื่นปี" พระนางฮองไทเฮาซูสีจึงกล่าว่า "เจ้านี้พูดด้วยความเคยชิน สักแต่ว่ามีปากก็พูดไป" ฝ่ายลิเลียนยิงอยู่ ณ ที่นั้นจึงกล่าวขึ้นว่า "แม้พระองค์รักษาพระองค์ให้ดีก็อาจมีพระชนม์อยู่ได้ถึงร้อยปี" พระนางฮองไทเฮาซูสีจึงกล่าวว่า "เราเองก็มีความประสงค์จะอยู่ไปถึงร้อยปี แต่บัดนี้เราอายุเจ็ดสิบสามปีบริบูรณ์ย่างเจ็ดสิบสี่ปี พิจารณาดูชีวิตเราที่ผ่านมาก็เห็นว่าควรจะพอใจ แต่ถ้าหากเราอยู่ได้ถึงร้อยปี พระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ก็จะตายก่อนเรา  หมู่นี้เรามิได้พบปะพระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ ท่านรู้หรือไม่ว่า พระองค์เป็นสุขดี หรือว่าประชวรอยู่จึงหายหน้าไป" ลิเลียนยิงจึงตอบว่า "พระหมื่นปีเสด็จมาเยี่ยมพระองค์เมื่อวานนี้ เมื่อตอนพระองค์สลบแน่นิ่งไป พอข้าพระองค์ทูลว่า พระองค์มีพระอาการดังนั้นเนืองๆ แก้ไขแล้วก็ฟื้น พระหมื่นปีก็มีพระพักตร์สลดลงเห็นได้ชัด" พระนางฮองไทเฮาซูสีจึงกล่าวว่า "ไอ้คนอกตัญญูคนนี้คิดแช่งชักให้เราตายอยู่ทุกวัน เราตายแล้วมันก็จะได้มีอำนาจสั่งการทั้งปวงตามใจและคิดทำการแก้แค้น คนคนนี้มีน้ำใจพยาบาทแรงกล้าคิดอต่จะแก้แค้นคนอื่น หาสมควรที่จะปกครองแผ่นดินไม่ ตัวเรานี้ได้ครองแผ่นดินมาช้านาน มิได้เคยมีจิตพยาบาทผู้ใด แม้เราจะได้สั่งฆ่าคนมามากก็เพื่อเหตุสำคัญ มิใช่ด้วยสาเหตุส่วนตัวเล็กน้อย" จากคุณ : รอยใบลาน - [ 17 พ.ค. 52 20:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ตามมาดูค่ะ จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 17 พ.ค. 52 20:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องซูสีไทเฮาของหม่อมคึกฤทธิ์นี่เป็นนิยาย จริงบ้าง แต่งบ้าง คึกฤทธิ์เองก็ยอมรับ เช่น ประโยคที่ว่า "หมู่นี้เรามิได้พบปะพระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ ท่านรู้หรือไม่ว่า พระองค์เป็นสุขดี หรือว่าประชวรอยู่จึงหายหน้าไป" เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดครับ เพราะจักรพรรดิมีหน้าที่จะต้องไปถวายบังคมพระพันปีหลวงทุกวัน นี่เป็นหน้าที่ของจักรพรรดิราชวงศ์ชิงทุกพระองค์ จักรพรรดิกวางซี่ว์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 21 เดือน 10 ตามปฏิทินจีน โดยตลอดเดือน 10 นั้นพระองค์มาเข้าเฝ้าพระนางทุกวัน และได้เข้าเฝ้าพระนางเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 16 เดือน 10 จากนั้นก็ทรงพระประชวรมากและสิ้นพระชนม์ในอีก 5 วันต่อมา (ข้อมูลส่วนนี้มาจากหนังสือ เจิ้งซัวชิงเฉาสือเอ้อร์ตี้ เขียนโดย เหยียนฉงเหนียน นักวิจัยด้านแมนจูศึกษา แห่งสถาบันสังคมศาสตร์กรุงปักกิ่ง) แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 52 21:33:16 จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 17 พ.ค. 52 21:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คห 40 ใช่ครับ จักรพรรดิกวางซี่ว์สิ้นพระชนม์เมื่อ ค.ศ. 1908 ส่วนการปฏิวัติเกิดใน ค.ศ. 1911 อย่างไรก็ตาม คนที่ก่อการปฏิวัติมิใช่ ดร. ซุนยัดเซ็นนะครับ ซุนยัดเซ็นเป็นแค่คนที่เผยแพร่อุดมการณ์ปฏิวัติเท่านั้น คนที่ลงมือยึดอำนาจจริงๆก็คือทหารของราชวงศ์ชิงที่ได้รับการศึกษาสมัยใหม่นั่นเอง จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 17 พ.ค. 52 21:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อยากทราบครั  ว่าหยวนซีไขนี่มีอะไรที่เลวร้ายมากเหรอครับ    ใครช่วยเล่าประวัติคนๆนี้หน่อยได้มั้ยครับ จากคุณ : zodiac28 - [ 18 พ.ค. 52 02:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณครับ เรื่องน่าสนใจมาก จากคุณ : Luo4488 - [ 19 พ.ค. 52 01:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณมากๆคะที่เอามาฝาก ช่วงห้องสมุดเริ่มคึกคัก ตั้งแต่มีจีนศึกษา จากคุณ : sawkitty - [ 19 พ.ค. 52 19:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 53 รู้สึกได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาอีกเป็นกอง ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : nutji - [ 20 พ.ค. 52 10:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 54 พระเจ้ากวงสูสนิทกับสนมเจิน เพราะความคิดตรงกันคือเป็นคนคิดแอนตี้พระนาง ซูสีคิดว่าที่กวงสูดื้อดึง ไม่ทำตามคำสั่งนาง เพราะสนมคนนี้คอยยุยง วันนึงได้โอกาส สั่งเก็บสนมคนนี้ สั่งเอาโยนลงบ่อน้ำครับ จากคุณ : คุณฟิน - [ 20 พ.ค. 52 13:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ลงอีก ค่ะ อยากอ่านอีก กำลังสนุก ขอบคุณทุกคนที่ หามาให้อ่านนะคะ จากคุณ : โอ้ย...แจ่ม - [ 20 พ.ค. 52 18:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 56 กำลังจะถามว่าทำไมลุงหยวน(หยวนซีไข...ออกเสียงไม่ถูก)ใส่ชุดลายมังกร มาถึงบางอ้อ เอาตอนที่ลุงสถาปนาตัวเอง สนุกมากเลยค่ะ จะติดตามค่ะ จากคุณ : Myguidingstar - [ 21 พ.ค. 52 00:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 57 หยวนซือข่าย ปฏิวัติ ร่วมกับซุนยัตเซน แต่ดันไม่ให้อำนาจประชาชน ดันจะตั้งตนเป็นฮ่องเต้ ถ้าดูเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ มีตัวละครตัวนึงบอกว่าตัวเองแซ่หยวน แซ่เดียวกับหยวนซือข่าย รับไม่ได้ เลยต้องเปลี่ยนแซ่หนีออกจากบ้านเลย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 21 พ.ค. 52 05:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 58 น่าติดตามมากอยากรู้อีกค่ะ   ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ จากคุณ : bolton fanclub - [ 21 พ.ค. 52 11:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 59 โอ้ความรู้ดีๆอีกแล้ว แต่ตกใจเหมือนกันค่ะ ที่เสื้อผ้านั้นเปื่อยเร็วมากสภาพเหมือนผ่านไปสัก 500 ปีอย่างนั้นแหละจะเป็นเพราะเจอสารพิษจากพระศพบ้างรึเปล่าเนี่ย ประวัติศาสตร์จีนช่วงนี้รู้สึกว่ามันซับซ้อนซ่อนเงื่อนดีจริงๆ จากคุณ : citrus_tree - [ 21 พ.ค. 52 11:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ค่ะ จากคุณ : อิมาอิซัง - [ 21 พ.ค. 52 11:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณครับสำหรับความรู้ ผมว่าดีแล้วที่พิสูจน์ครับ แสดงว่าพระองค์ทรง"ก้าวหน้า"เกินไป จนทำให้"บางคน"อยากกำจัด หรือไม่ ก็ทรง"ขวาง"ประโยชน์ใคร"บางคน" จากคุณ : buddhi - [ 21 พ.ค. 52 16:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ จากคุณ : น้องจุ่น - [ 21 พ.ค. 52 21:52:27 ]