| 
      
        | 
           ความคิดเห็นที่ 6    
 ขออนุญาต  มาอธิบายเพิ่มเติมนะครับ
 เพราะว่า กฎของการออกเสียง Voiceless unaspirated allophone ที่เกิดจากหลัง เสียง /s/ voiceless alveolar fricative นั้น จริงๆ ต้องเกิด เฉพาะ ใน Syllable เดียวกัน ครับ
 
 แต่ในกรณีของ ice cream ปัจจุบัน สะกด แยก เว้นวรรค 1 ช่อง เป็น Compound word ถ้าในอดีต อย่างใน Oxford English Dictionary ODE 2nd นั้น จะยังเขียน โดยมี - เป็น ice-cream เพื่อบ่งบอกว่าเป็น new compound word
 
 แต่ compound word นี้ ถ้าหากให้ เจ้าของภาษาพูดคำเดียว เค้ามักจะแบ่ง Syllable ตาม การเว้นวรรคของคำ
 /,aIs.'kri:m/ โดยที่พยางค์แรกลง Sencondary stress และ พยางค์ที่สองลง Primary stress ถ้าพูดแค่คำนี้คำเดี่ยว สองพยางค์ เสียง phoneme /k/ ที่ได้ยินนั้นมักจะเป็น [kh] Voiceless aspirated velar plosive มากกว่าครับ
 
 แต่หาก เจ้าของภาษาเค้าพูดในประโยคเร็วแล้ว หรือ Prosody in the connected speech ทำให้ /s/ นั้น เกิดลักษณะเสียงได้ 2 ลักษณะ ซึ่งบางทีก็แยกออกจากกันยากคือ
 1.	Ambisyllabicity กล่าวคือ /s/ ทำหน้าที่เป็นทั้ง Coda ของ 1st syllable และ Onset ของ 2nd syllable ซึ่งเกิดจากจิตใต้สำนึก simplify โดยใช้ syllabic-boundary rule เหมือนดังว่าเป็นคำเดียวกัน คือให้ onset มีหน่วยเสียงมากสุด ที่ไม่ขัดกับ phonotactic constraints ของภาษาอังกฤษ (Possible Consonant Clusters) แต่ ก็ยังคงมีจิตใต้สำนึกว่า /s/ เป็น coda ของ 1st syllable
 2.	Resyllabification กล่าวคือ /s/ ย้าย จากตำแหน่ง Coda ของ 1st syllable เดิมไปเป็น Onset ของ 2nd syllable
 ซึ่ง ทั้งสองแบบ จะทำให้ 2nd syllable เกิด onset /skr/ ขึ้น ทำให้ /k/ ออกเสียง unaspirated allophone [k*] ครับ ซึ่งเกิดจากจิตใต้สำนึก simplify โดยใช้ syllabic-boundary rule เหมือนดังว่าเป็นคำเดียวกัน คือให้ onset มีหน่วยเสียงมากสุด ที่ไม่ขัดกับ phonotactic constraints ของภาษาอังกฤษ และด้วย Peak /aI/ ของ 1st syllable นั้น เป็น diphthong ซึ่งไม่ใช่ Lax vowel ใน Stress syllable จึงไม่จำเป็นต้องมี Coda เสมอไปครับ
 
 สรุปคือ Ice cream /,aIs.'kri:m/ ออกเสียง ได้ 3แบบครับ
 1.	[,aIs.'khri:m] [,อัยส ,ครีม]
 2.	[,aIs.'sk*ri:m] [,อัยส ,สกรีม] ([   s.s    ] นั้น จริงๆ คือ s เสียงเดี่ยวกันซึ่งแสดงลักษณะ ambisyllabicity)
 3.	[,aI.'sk*ri:m] [,อัย,สกรีม]
 แต่ allophone 2 กะ 3 แยกกันยากครับ เพราะ sonority ระหว่างพยางค์สูง จึงทำให้ขอบเขตพยางค์ไม่ชัดเจนครับ
 ใครมี Longman Dictionary of Contemporary English (2009) 5th ed. With DVD-Rom ลองเปิดโปรแกรมฟังการออกเสียงดูนะครับ ถ้าออกเสียง เฉพาะคำผสม มันจะได้ยินเป็นแบบที่ 1 ครับ แต่ถ้าฟังในวลี ตัวอย่างที่ให้มาทั้งสองประโยค จะได้ยินเป็นแบบ 2 หรือ 3 ครับ
 
 ส่วนเรื่องการสะกดในภาษาไทย คิดว่า ควรใช้แบบเดิมไปก่อนครับ เพราะ ระบบสัทศาสตร์และสัทวิทยาของไทยและอังกฤษ แตกต่างกันมาก ยากที่จะลงรอยได้ง่ายครับ
 
 
 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 52 03:08:00
 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 52 03:06:18
 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 52 01:12:16
 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 52 01:11:00
           
 จากคุณ :
Paphmania
    - [
28 พ.ค. 52 01:09:19
] |  |  |