ความคิดเห็นที่ 1 ^ ^ ลืมรูป >,<' จากคุณ : Ka-Me-Ku-Mi - [ 4 มิ.ย. 52 20:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แอบไปทำตราประทับมาเหมือนกัน ขอบคุณห้องนี้มากๆนะคะ 55555+ เพราะอยากได้มานานแล้ว . . เพิ่งกลับมาจากไปเที่ยวฮ่องกง ก็เลยมีโอกาสได้ไปทำตราประทับจริงๆมาด้วย ตอนนี้เห่อมากๆ เจออะไรก็ประทับตราไปหมด 555+ จากคุณ : Ka-Me-Ku-Mi - [ 4 มิ.ย. 52 20:39:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ความหมายไม่แตกต่างกัน  การใช้ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากมาย  ยังอยู่ในขั้นที่ทดแทนกันได้เกือบจะสมบูรณ์  ทั้ง 2 ล้วนหมายถึง แก้วสิ่งมีค่า  เพชรนิลจินดาค่าควรเมือง ล้วนใช้คำว่า เป่า ได้ทั้งนั้น ชื่อคุณ  แม้วิธีออกเสียงที่ถูกต้อง จะเป็น เป่า เป่า ในการเรียกชื่อเฉพาะ แต่ถ้าเป็นการใช้แบบคำนามทั่วไป มักจะเน้นวรรณยุกต์ที่คำแรก  ส่วนตัวหลังควรจะออกเสียงเบา ไม่เน้นหนัก เป็นเสียงกลาง  กลายเป็น เป่า เปา ก็นับเป็นชื่อที่ เด็กๆ นิดหน่อย  พวกเบบี้  เราจะเรียกว่า เป่าเปา ได้ทั้งนั้น  แม้แต่เจ้าอาหมวยแพนด้าที่เพิ่งเกิดที่เชียงใหม่ ก็เรียก หมีเป่าเปา ได้ทั้งนั้น    เวลาคุณแม่ โอ๋ลูกน้อย ก็จะเรียกว่า เป่า เปา ส่วน เป๋า เป้ย ก็แปลเหมือนกัน  แต่จะแฝงความรักและเอ็ดดูนิดหน่อย  ถ้าจะเฒ่าชะแร่แก่ชรา ก็สามารถใช้ได้  แต่ต้องใช้ให้ถูกกาละเทศะล่ะ  ส่วนมาก เวลาจีบกัน  มักจะเรียกอีกฝ่ายว่า เป่า เป้ย  โดยเฉพาะถ้าชายเรียกหญิง จะเสมือนว่า หญิงน่าเอ็นดูและมีค่า  (แต่ก็เรียกกลับกันได้  เพียงแต่อาจจะดูว่าชายหน่อมแน้ม ไปหน่อย)    ถ้ายังรักจนแก่จนเฒ่า  เวลาอยู่กัน 2 ต่อ 2 ก็จะเรียกอีกฝ่ายได้ ไม่เป็นไร (แม้อาจจฟังดูไม่เจียมวัยไปนิด  แต่ก็น่าเอ็นดู)   ฉะนั้น เปาเป้ย ไม่สื่อว่าต้องเป็นทารกหรือเด็ก ชัดเจนมากอย่าง เป่าเปา สมมติ คุณไปเเห็น เด็กทารกลูกคนอื่นน่ารักน่าเอ็นดู  คุณก็ทารกเรียกว่า เป่า เปา  ได้  แต่ไม่ควรจะเรียก เป่า เป้ย  เพราะมันจะแฝงความเอ็นดู เสมือนว่าเป็นลูกทารกของคุณเอง    (อย่างไรก็ตาม ไม่ถึงกับเป็นข้อห้ามเรียก  เป็นเพียงความรู้สึกเล็กๆ ฟังผ่านก็ผ่านไป  แต่ถ้าจะจับเป็นประเด็น  ชายที่แอบรักคุณ อาจจะสงสัยว่า เป็นลูกคุณหรือเปล่า ถ้าคุณไปเรียกทารกอื่นเป็น เป่าเป้ย) สรุป  สำหรับ คนไม่รู้ศัพท์ทั้ง 2 เลยว่า  ใช้ไปเถอะ แทนกันได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณมีความรู้ภาษาจีนดีแล้ว  ถ้าสามารถใช้ให้แตกต่างได้  เซ้นส์ที่ได้ก็จะลึกซึ้งมากขึ้น ***เพิ่มวรรณยุกต์โท แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 10:03:00 แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 14:32:18 จากคุณ : Fortunism - [ 4 มิ.ย. 52 23:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ #3 ขอบคุณมากๆๆๆนะคะ ทำให้กระจ่างขึ้นเยอะ เพราะตอนแรกก็งงไปเหมือนกัน ว่าทำไมมาเรียกเราว่า เป๋าเปย นึกว่ามันออกเสียงได้ต่างกัน สรุปแล้วคือคนละคำกันนี่เอง ว่าแต่ชื่อ เป่าเปา ..มันดูเด็กมากมั้ยคะ ในความรู้สึกของคนจีน เพราะเหล่าซือเอาชื่อไทย เอาวันเกิดและดวงเราไปตั้งชื่อนี้มาให้ตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะยังไม่เข้าใจ ภาษาจีนเท่าไหร่ แต่พอโตขึ้นใครถามว่าชื่ออะไร พอบอกไปเค้าก็ยิ้มๆ >,<' ไม่รู้ว่ามันดี/ไม่ดี >___< ขอบคุณมากๆอีกทีนะคะ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 08:20:34 จากคุณ : Ka-Me-Ku-Mi - [ 5 มิ.ย. 52 08:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มันอ่านว่า เป๋าเป่า กับ เป่าเป้ย ไม่ใช่เหรอ ไม่แน่ใจนะครับ แค่สงสัย จากคุณ : hyesoo (hyesoo) - [ 5 มิ.ย. 52 13:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^  จริงด้วย ลืมวรรณยุกต์โท ดึกแล้วจะรียนอน อีกทั้งเพราะเห็นว่า พินอิน ที่ จขกท แนบรูป มีที่ถูกมาให้แล้ว แต่...ไม่รู้ทราบว่า คุณhyesoo ไม่เข้าใจที่ผมอธิบายชัดเจนแล้วว่า ".. เป่า เปา (จะเน้นวรรณยุกต์ที่คำแรก  ส่วนตัวหลังควรจะออกเสียงเบา ไม่เน้นหนัก เป็นเสียงกลาง)..." เป็นเรื่องปกติสำหรับการอ่านคำซ้ำของภาษาจีน  มักจะเปล่งเสียงเบาให้แก่เสียงที่ซ้ำตัวหลัง  ถ้าอ่าน เป่า เป่า ไม่ผิด  แต่จะตลกนิดหน่อย ( ไม่เชื่อไม่เป็นไรครับ) ลักษณะอย่างนี้มีมากมาย เช่น คำว่าแม่ ที่ออกเสียงว่า มา มะ   คำว่า พ่อ ที่ออกเสียงว่า ป้า ปา  ล้วนแต่ไม่เน้นเสียงคำหลังทั้งสิ้น แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 20:51:34 จากคุณ : Fortunism - [ 5 มิ.ย. 52 14:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เป่าเป้ย คำนี้มีความหมายถากถางได้ด้วยนะครับ จากคุณ : บุณฑริก - [ 6 มิ.ย. 52 16:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อันนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 52 16:11:07 จากคุณ : บุณฑริก - [ 6 มิ.ย. 52 16:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แปลเป็นไทย จากคุณ : บุณฑริก - [ 6 มิ.ย. 52 16:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อุ๊บ เอาใหม่ จากคุณ : บุณฑริก - [ 6 มิ.ย. 52 16:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สงสัยผมจะความรู้ผมจะน้อยไปหน่อย  เพราะอ่านรูปแนบภาษาจีนใน คห 7-8 ทั้ง 2 รูปแล้ว  ผมไม่อาจเห็นได้ว่า คำ เป่า เปา - เป่าเป้ย ไหนแสดงถึงการถากถาง อย่างที่คุณ บุณฑริก  พูดไว้ ขอความกรุณาช่วยแปลรูปแนบเป็นภาษาไทยเลยนะครับ  ผมจะได้เข้าใจเสียที แต่...อดแปลกใจไม่ได้ว่า คุณบุณฑริก ใช้ดิกท์ตัวเต็มไต้หวันด้วยหรือ  คุณเรียนตัวเต็มหรือ ?   เพราะว่าดิกท์ออนไลน์ตัวนี้  ผมใช้เป็นประจำ (ดิกท์ แปลไทย  ผมไม่นิยมใช้ครับ)   ใครที่ใช้คิดท์ตัวนี้  ภาษาจีนต้องใช้ได้ระดับหนึ่งทีเดียว จากคุณ : Fortunism - [ 6 มิ.ย. 52 18:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องขออภัยคุณ Fortunism ความรู้ภาษาจีนผมมีน้อยจนถึงน้อยมากๆ นี่คือความจริง ไม่ได้ประชดหรือมีเจตนาอื่นใด ผมเรียนภาษาจีนมา 3 ปี โดยเรียนกับครูที่มาจากเมืองจีน เป็นครูที่แก่มาก การเรียนการสอนเป็นตัวเต็ม และสอนเป็นภาษาแต้จิ๋ว เรียนวันละ 1 ช.ม. ส่วนที่ว่าเป็นคำถากถางนั้น ผมเอามาจาก ข้อ 3 ในความเห็นที่ 8 น่ะครับ ผิดพลาดไปต้องขอโทษด้วยครับ จากคุณ : บุณฑริก - [ 7 มิ.ย. 52 09:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอเรียนเพิ่มเติม ผมเรียนภาษาจีนตั้งแต่ปี พ.ศ.2504-2507 หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ใช้ภาษาจีนอีกเลย เพิ่งกลับมารื้อฟื้นตอนที่ผมคิดจะไปเที่ยวปักกิ่ง ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนกว่าเท่านั้น ความผิดพลาดคงจะมีมาก ได้โปรดกรุณาชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : บุณฑริก - [ 7 มิ.ย. 52 10:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีครับ คุณบุณฑริก... ต้องนับคุณเป็นรุ่นพี่นะครับ.. ขอระบายความรู้สึกนะครับ  ทั่วๆไป  ไม่ระบุใครหรือชี้เฉพาะใครครับ การมาตอบกระทู้ของผม ส่วนใหญ่ก็อยากให้คนถามได้รู้  จึงอธิบายอย่างยืดยาว  เพราะกลัวคนถามจะไม่เข้าใจ  แต่บางครั้ง มักจะมี"เกรียน" ประเภทรู้บ้างไม่รู้บ้าง  พอได้ความคิดจากที่ผมตอบแล้ว  เขาก็มักจะดอดไปเอาข้อมูลมาบ้าง  เพื่อแสดงฝีมือ  แล้วเคยเจอแม้กระทั่ง กวนประสาทผมไป  แล้ว  มาขอถามหาความรู้จากผมอีก  โดยที่ไม่สำนึกว่า การที่ผมเสียเวลามานั่งพิมพ์ยืดยาว เป็นครึ่ง ช.ม.. นั้น  ถ้าไม่ได้มีจิตจะให้เป็นวิทยาทานนั้น  ไม่มีใครทำหรอก  เอาเวลาไปนั่งดู ทีวี  แคะขี้ฟันก็จะสนุกกว่า จขกท บางคน ก็ทำตัวเสมือน เป็นกา ที่รอกินงู ที่ผมตี  พอกินงูแล้ว ก็บินหนี  ปล่อยให้ผมเอากระดูมาแขวนคอ  ทะเลาะกับเกรียนไป  พูดง่ายๆ  จขกท อาจจะนึกในใจว่า พวกเอ็งก็ทะเลาะกันไป  ข้าขอเป็นกลาง   ทั้งๆที่ เขาควรจะรู้สำนึกเสียบ้างว่า ผมมาตอบแล้วโดนเกรียนกวนนั้น  ก็เพราะกระทู้ของเขานั้นเอง บ่อยครั้ง  มีความรู้สึกว่า ว่างเปล่า  เพราะทำสิ่งที่ไร้สาระ ตอนคุณบุณฑริกมาแนบรูปนั้น  บอกตรงๆ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนโดนคนมาลองภูมิอีกแล้ว  เกิดความหงุดหงิดมาก  จะลบ คห ของผมออกให้หมดอยู่แล้วเชียว  เพราะว่ารูปที่คุณแนบมานั้น 7-8  ไม่มีคำใดมีสื่อว่า ถากถาง เลยครับ  (ผมไม่พูดดิกท์แปลไทยครับ  เพราะบอกตรงๆ  ผมไม่เชื่อถือ  นิยายแปลไทย  ผมยังไม่อ่านเลยครับ  กำลังภายในผมก็อ่านต้นฉบับ ตั้งแต่ผมเรียน ป.5 เลย  (ใช่ ประถม 5 นั้นแหละ) คุณบุณฑริก อาวุโสกว่าผมครับ   และถือว่า คุณเป็นผู้ใหญ่ครับ  เพราะวิธีการเขียนอธิบายใน คห 12-13 นั้น  แสดงให้เห็นว่า คุณมีวุฒิภาวะสมดังวัยครับ ผมเรียนจีน  พร้อมกับเรียนไทยครับ  เวลาพูดจีนก็นึกเป็นจีนเลย ไม่ต้องมานึกเป็นไทยแล้วแปลจีน  บางครั้ง มาถามว่าที่พูดไปนั้น  แปลเป็นไทยว่า อะไร  ผมก็บอกไม่ถูก  เพราะนั้นเป็นปกติโดยธรรมชาติของผมอยู่แล้ว จากคุณ : Fortunism - [ 7 มิ.ย. 52 11:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ้างอิงจาก คห 12 ของคุณบุณฑริก .....กล่าวว่า.."...   ส่วนที่ว่าเป็นคำถากถางนั้น ผมเอามาจาก ข้อ 3 ในความเห็นที่ 8 น่ะครับ....." ผมตัดรูปตรงนั้น  ข้อ 3 ใน คห 8 ของดิกท์ออนไลน์มาโชว์นะครับ ให้ดูกันจะๆ  แล้วผมจะแปล ใน คห ต่อไป จากคุณ : Fortunism - [ 7 มิ.ย. 52 11:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณ คุณ Fortunism ที่เข้าใจ ผมพูดจีนกลาง ผมต้องนึกเป็นประโยคภาษาแต้จิ๋วที่ผมเรียนมา แล้วจึงค่อยนึกคำอ่านเป็นภาษาจีนกลาง ซึ่งมันยังไม่ถูกแบบแผนนัก ถือว่ายังอ่อนด้อยมาก ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : บุณฑริก - [ 7 มิ.ย. 52 11:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขออย่าเข้าใจผิด ผมอยากจะรู้ให้กระจ่าง ในเว็บดิกของซินหัว ให้คำแปลคำว่าเป่าเป้ยว่าอย่างนี้ ขอความกรุณาคุณ Fortunism ช่วยกรุณาอธิบายให้ฟังเป็นวิทยาทานด้วยนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : บุณฑริก - [ 7 มิ.ย. 52 12:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ้าว..เน๊ตล่ม  โดนคั่นซะงั้น เอาล่ะ รูปแนบ ใน คห 15  แปลว่า 3.     สมญาล้อเลียนผู้ที่เฉลียวฉลาดแต่ชวนขัน  เช่น " เขาคือ เป่า เป้ย ในชั้นเรียนเรา    มักแหย่ให้พรรคพวกมีความสุขใจ " เห็นไหม...ไม่ได้เป็นการถากถางแต่ประการใด  หากกลับเป็นการตั้งสมญาให้แก่บุคคลที่เห็นว่าน่ารักน่าเอ็นดู  เพราะมีความสามารถในการทำให้ผู้อื่นสุขใจ หรือ ขบขัน   คำง่ายๆ แค่ 2 คำ  ที่ผมไม่ต้องค้นหาดิกท์เพื่ออธิบายอะไรเลย  เสียแต่เวลานั่งจิ้มดีด  แต่ผมเสียเวลามากมายเกินไปแล้ว  จะไม่เข้ามาเพิ่มเติมอะไรอีกแล้ว แต่แน่นอนครับ  ข้อเขียนผมนั้น  ผมมีสิทธิ์จะจะจัดการให้มันอยู่หรือไปได้อยู่แล้ว  จริงไหม เฮ้อ.. แค่ของกล้วยๆ  เปลืองเวลามามากเกินไปแล้วเรา ผมแปลแล้วครับ  แต่นั้นแหละเดี๋ยวอาจจะมี ใครมาท้วงว่า ผมแปลผิดอีก  เอาเป็นว่า  ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่  ก็ไม่สำคัญ  เพราะความเชื่อของผู้นั้น ก็มิอาจทำให้ผมสำเร็จมรรคผลใดๆ เพิ่มข้อความ ปล. ที่คุณแนบใน คห 17  แม้มันจะแปลว่า คำล้อเลียนบุคคลที่บุคลิกแปลก  มันก็เป็นการใช้ที่น้อยๆกรณีมากๆ  น้อยจนแทบจะไม่มีโอกาสได้ใช้  และจะใช้แบบกล่าวถึงบุคคลที่ 3    (เป็นกรณีที่ใช้น้อยมาก จนคิดท์ไต้หวันสีเหลืองข้างบน ไม่เก็บความหมายแง่นี้)   ถ้าจะด่าใคร  เขาจะไม่ใช้คำนี้หรอก  ที่สำคัญก็คือ  ไม่ใช่ทุกความหมายในดิกท์สามารถเลือกมาใช้ตามใจชอบได้ โดยเฉพาะในกรณีของกระทู้นี้  จขกท เขาถูกเพื่อนๆเรียกว่า เป่า เป้ย  นั้นเป็นการเรียกแบบเอ็นดูครับ  ไม่ใช่การถางถาก  การจับความหมาย ผิดๆ มาใช้ในการแปลนั้น  ทำให้การตีความผิดมหันต์ครับ   เพราะคุณอาจจะทำให้ จขกท  เสียใจที่โดนเพื่อนถากถางก็ได้ครับ  ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เลยครับ จึงโปรดระวังในการเลือกใช้ความหมายครับ รูปแนบ ให้ดูวิธีการใช้ ****แก้พิมพ์ผิด แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 52 18:00:46 จากคุณ : Enough! no more comment (Fortunism) - [ 7 มิ.ย. 52 16:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอโทษที่ทิ้งกระทู้ตัวเองไปนานนะคะ..แหะๆ พอดีงานเข้ามากมาย . . ยังไงต้องขอบคุณทั้ง คุณFortunism และคุณบุณฑริก ด้วยนะคะ คิดว่า ทั้งสองคนคงมีเจตนาดีที่จะให้ความรู้กับ จขกท และ จขกท ก็ขอน้อมรับ ไว้หมดเลยนะคะ >___< . . . กำลังจะเริ่มเรียนภาษาจีนแล้ว ยังไงจะแวะมาที่ห้องนี้บ่อยๆนะคะ แม้คนจะยังน้อยกว่าห้องอื่นๆ แต่คนห้องนี้ก็น่ารักกันหมดนะคะ ขอบคุณมากๆ ไว้คงจะมีคำถามมาถามอีกเรื่อยๆ จากคุณ : จขกท..เองจ้า (Ka-Me-Ku-Mi) - [ 13 มิ.ย. 52 11:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณFortunism เครียดทำไมอ่ะ คุณออกเสียง เป่า เปา ถูกต้องชัวร์ ได้ถาม อ. Jie Qing คนจีนแท้...จากปักกิ่ง สอนอยู่ที่ ม.เทคโนโลยีราชมงคล ให้แล้ว เป่า เป้ย จะใช้เป็นล้อเลียนหรือความหมั่นไส้ มักจะใช้คำว่า เป่า เป้ย อรึ (er เสียง 2) จากคุณ : Sweet Coffee - [ 16 มิ.ย. 52 09:17:17 A:58.10.103.83 X: TicketID:166981 ]