ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เคยสอบ แต่เราคิดแบบ "มวยวัด" ด้วยสมองอันขี้เลื่อยของเราว่า ฝรั่งเป็นคนออกข้อสอบพวกนี้ แล้วคนออกข้อสอบ หรือผู้รู้ส่วนใหญ่ ก็เขียนตำรายี่ห้อดังๆขาย เพื่อช่วยคนเตรียมสอบ หนังสือกับแผ่น CD พวกนี้พิมพ์ในต่างแดนส่งมาขายในไทย ซื้อผ่านเวป หรือ download ของฟรี ก็มี ....เมื่อได้หนังสือพวกนี้มา เราก็จะเอามาอ่าน แล้วลองฟังเสียงจาก CD โดยไม่ดู scripts นะ ผลออกมาเป็นไง? 1. ถ้าอ่านไม่รู้เรื่องเลย เราก็ต้องนั่งบริกรรมดูว่า ต้องรู้ศัพท์กี่คำ มีอะไรบ้างจึงจะอ่านรู้เรื่อง ค้นได้จาก google ว่าศัพท์ระดับไหน คนเรียนภาษาอังกฤษระดับไหนต้องรู้ 2. ถ้าทำพวก grammar ไม่ได้ ก็เอา topics จาก หนังสือไปเป็น keywords แล้วค้นจาก google เพื่อหาบทเรียน grammar online ถ้าอ่านไม่รู้เรื่องอีก ก็ให้ย้อนกลับไปดูข้อ 1. 3. ถ้าฟัง CD โดยไม่ดู scripts แล้วฟังไม่รู้เรื่อง มืดแปดด้าน ก็ให้สืบดูดีๆว่า เสียงทั้งหมดในภาษาอังกฤษ มีกี่เสียง เมื่อผสมกัน แล้วออกมาเป็นเสียงอะไรบ้าง เมื่อพูดช้าๆเสียงเป็นไง เมื่อพูดเร็วๆ เสียงเป็นไง  ใช้ google หาก็มี หรือซื้อ dictionaries อังกฤษเป็นอังกฤษที่เป็น software มาเปิดฟังการออกเสียงคำศัพท์ ที่เรารู้ ฟังไปทีละคำ ทีละคำเรื่อยๆ เพื่อให้รู้ว่า เราออกเสียงผิดหรือเปล่า ถ้าเราออกเสียงผิด เราก็ฟังคนอื่นพูดไม่รู้เรื่องด้วย .... 4. ลองเขียน paragraph สั้นๆ แล้วเอาให้ฝรั่งอ่านดูว่าเขาเห็นมีข้อผิดพลาดแบบผิดธรรมชาติเยอะหรือไม่ เวปฝรั่งที่ช่วยคนเรียนภาษาอังกฤษ (ใช้ google หาเอา) มีเยอะเลย แต่อย่าไปขอให้พวกฝรั่ง edit (ตรวจแก้) essay ยาวๆ ให้นะ พวกเขาไม่ยอม edit ข้อความยาวๆให้หรอก แต่พวกเขาจะประเมินให้ได้ว่าคุณเขียนมาแล้วอ่านรู้เรื่อง หรืออ่านไม่รู้เรื่อง... ไม่เหมือนเวป pantip บางคนเขียน essay มายาวๆ ตั้งหลายหน้า ขอให้คนแก้ ก็ยังอุตส่าห์มีคนแก้ (บางทีแก้แล้ว แก้ผิดอีก ก็มี) ถ้าการทดสอบตาม ข้อ  1., 2., 3. และ 4. ผ่านหมดคุณก็ฝึกจากหนังสือ + CD นั่นไปเรื่อยๆ หาหนังสือ + CD มาหลายๆชุด มาฝึก  แต่ถ้าไม่ผ่านการทดสอบตามข้อ 1., 2., 3. และ 4. และคุณหาข้อมูลด้วยตัวเองเพื่อแก้ปัญหาตามข้อ 1., 2., 3. และ 4. ไม่ได้ คุณก็ต้องเสียเงินเยอะหน่อย นั่นก็คือ ไปเรียนหลายๆหลักสูตร เพื่อให้ได้ทักษะหลายๆด้าน ซึ่งก็อาจต้องเสียเวลานานหน่อยด้วย นี่เป็นแนวคิดเคร่าๆ ขอโทษทีที่ช่วยได้แค่นี้ เพราะเราเรียนภาษาอังกฤษมาแบบมวยวัด ก็ต้องคิดหาทางหนีทีไล่แบบมวยวัดน่ะ...ไม่ว่ากันนะ...555+++... แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 52 06:44:32 แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 52 01:16:48 แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 52 01:12:57 จากคุณ : fortuneteller - [ 8 มิ.ย. 52 01:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยสอบแต่ TOEFL หลักๆ ก็คือ ทำโจทย์เยอะๆ มันจะจับแนวข้อสอบได้ เรื่องแกรมม่าร์ ผมอ่านหนังสือเตรียมสอบนั่นแหละ แต่ไม่อ่านเปล่าๆ นะ ผมจดสรุปด้วย แต่ละบท เอาให้สั้นๆ ได้ใจความ เอาไว้อ่านทบทวนอีกที ถ้าไม่จด บางทีจะสับสน เพราะอาจมีกฏคล้ายๆกัน การพลิ๊กไปพลิ๊กมาอ่าน ไม่สะดวก ถ้าจดออกมาใส่กระดาษ เทียบกันเห็นๆ และการเขียนสรุป ต้องเข้าใจจริงๆ ถึงจะสรุปได้ ไม่ได้ให้จดตามหนังสือนะ สรุปจากความเข้าใจ นอกจากสะดวก ตอนอ่านทบทวนแล้ว  เป็นการทดสอบตัวเองว่า เข้าใจรึเปล่า การเขียนสรุปได้ ต้องเข้าใจ (แต่ถ้าสรุปผิด นี่ ก็ตัวใครตัวมันนะครับ) หัดทำโจทย์ให้มากที่สุด เอาให้เหมือนการสอบจริง จับเวลาด้วย ว่าใช้เวลาเท่าไหร่  บางคนทำถูกทุกข้อแต่ช้า เวลาสอบจะทำไม่ทัน ข้อที่เหลือก็คือผิด คะแนนเลยร่วงหนัก พยายามใช้แนวการสอบที่อัพเดทที่สุด คือแนวข้อสอบไม่เก่าแบบว่า เค้าเลิกใช้ไปแล้ว จะได้ไม่มี surprize ในการสอบจริง แต่การอ่านแนวข้อสอบเก่าๆ บางเรื่องก็ช่วยได้ เช่น แกรมม่าร์ เพราะไม่น่าจะเปลี่ยนไปมากนัก เรื่องการ ฟัง ต้องฟังอย่างเดียว ฟังเยอะๆ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 00:39:21 จากคุณ : Tiger อู๊ด - [ 9 มิ.ย. 52 00:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 I have taken Toefl and Ielts some years ago. I didn't prepare a thing but I was pretty confident about my English. I think Ielts was the one which was easier for me. (apparently it wasn't for somebody else) For some how I'd like to take both of them again in the near future. So now I bought a book preparing for my Toefl. I think the first time I took it, came out with a good-enough result,. But I'm sure it would be much better with some practices. So seems like we're on the same boat. Good luck to you :) จากคุณ : เด็กน้อยมิน - [ 14 มิ.ย. 52 22:33:14 ]