ไปเป็นวิทยากรด้วยคนได้หรือเปล่า? คือว่า อยากได้เงินน่ะ...555+++....
ถ้าให้โอกาสเรานะ เราจะเล่าให้ฟังเป็นฉากๆเลยหละว่า วงการแปลในประเทศไทยเป็นอย่างไร
ทำไมคนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างกับเสมียนพิมพ์ดีดที่ไม่รู้เรื่องการแปล จึงทำเงินในตลาดการแปล ได้มากกว่านักแปล
และทำไม่คนหลายๆคนที่แปลไม่เป็น จึงรู้วิธียัดเงินใต้โต๊ะหน่วยงานดังๆ ให้ได้งานราคาแพงๆมา ในขณะที่นักแปลเก่งๆหลายๆคนไม่รู้วิธีคดโกงเช่นนั้น ก็เลยได้งานราคาถูกๆจนเครียด
แล้วนักแปลที่แปลไม่เป็น แต่โกงเก่ง ก็กลายเป็นยี่ปั๊วไป แล้วก็คุยโวว่า ตัวเขาเองเป็นคนตัดสินว่าใครแปลดีหรือไม่ดี จนในที่สุดเขาก็มีเงินมากพอที่จะจ้างนักแปลเก่งๆ ให้มาเป็นลิ่วล้อเขา จนเขาปรับปรุงคุณภาพงานเขา จนกลายเป็นมีสภาพที่สามารถแข่งขันได้ในระดับอินเตอร์ เนื่องจากว่า หางานเก่งด้วยวิธีที่ทุจริต และเอาเงินไปล่อให้นักแปลเก่งๆมาสวามิภักดิ์กับเขา
workshop ของคุณน่าจะ cover เรื่องพวกนี้นะ...ทั้งนี้ เพื่อความโปร่งใสของวงการแปลในประเทศไทย
พวกเราไม่ต้องการให้เด็กรุ่นหลังที่ไฟแรง ซึ่งเรียนศาสตร์และศิลป์แห่งการแปลมาเกือบตาห่ะ ต้องมาตกเป็นเหยื่อของคนพวกนี้ ใช่หรือไม่ล่ะ?
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ ที่เราทำงานแปลไทยเป็นอังกฤษชิ้นยากๆ ที่ทำให้เราแสนจะเหนื่อยล้านะ เราวานให้เด็กรุ่นน้องเราที่ไฟแรง ลองตรวจแก้งานเราดูนะ เธอทำได้ดีเยี่ยมเลยหละ แต่เธอต้องไปทำงานรับเงินเดือนเพียงแค่ได้เงินไม่เท่าไหร่เอง ในขณะที่ ไอ้ยี่ปั๊วตัวแสบนะ (ที่เราพูดถึงนะ) แมร่งเรียนทักษะการแปลอีก 10 ปี ก็ยังไม่มีทางทันเด็กรุ่นน้องเราเลย แต่มันกลับได้เงินมากมาย...
มันอะไรกัน?
คนเราจะสวมหน้ากากเข้าหากันในสังคมได้อีกต่อไปนานเท่าไหร่กัน?
หรือจะต้องรอให้มีคนไทยคนหนึ่งเขี่ยนหนังสือซึ่งมีชื่อว่า
Thailand, please give me a chance
เพื่อสะท้อนให้คนทั้งโลกเห็นถึงเรื่องนี้ แล้วก็ได้ Nobel Prize ไปในที่สุด ........555+++
We shall wait and see.
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 07:31:48
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 00:39:09
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 00:31:48
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 00:22:29