ความคิดเห็นที่ 1 ความเชื่อแบบโบราณค่ะ   ของที่เกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ   มักจะไม่ทิ้งในที่ไม่สมควร   หรือทำลายทิ้ง   สมัยก่อนอาจจะนำไปทิ้งน้ำค่ะ   แต่เดี๋ยวนี้หากไม่ต้องการใช้แล้วจะนำไปทิ้งที่รกร้างและมักไว้ใต้ต้นไม้    ทำให้ต้นไม้ใหญ่หลายแห่งกลายเป็นศูนย์รวมศาลที่ไม่ใช้แล้ว   คนอื่นเห็นก็ยิ่งมาทิ้งตามอีก   ของพวกนี้เขาไม่ค่อยไปแตะต้องกันค่ะ   เพราะอาจเป็นของที่ทำไว้  บ้างก็ว่าเป็นที่รวมพวกวิญญาณ  แล้วแต่ความเชื่อของคนค่ะ จากคุณ : สร้อยสยาม - [ 14 มิ.ย. 52 09:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 1.มักง่าย 2.ไม่รู้จะทิ้งทำลายอย่างไง 3.เห็นเขาทิ้งไว้ตรงนั้นก็เลยไปทิ้งตาม จากคุณ : ดอกไม้เล่าเรื่อง - [ 14 มิ.ย. 52 10:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นความเชื่อของคนจีนและคนไทยครับ หรือคนที่นับถือศาสนาที่ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ (คริสต์ มุสลิม) ถ้าซื้อบ้านมือสองหรือย้ายเข้าในบ้านที่มีคนเก่าอยู่มาก่อนแล้ว มักจะย้ายหรือรื้อถอน ศาลเจ้าที่เดิม(ตีจู่เล่าเอี้ย) หรือศาลพระภูมิเดิม เพราะประการแรกคือ ไม่นับถือแต่เดิมอยู่แล้ว หรือถือว่าของเดิมไม่ศักดิ์สิทธิ์จริงหรือสร้างความสำเร็จให้กับคนเดิมจริง ทำให้เจ้าของเดิมอยู่ไมได้ต้องย้ายออกไป การมีของใหม่เจ้าใหม่มาทดแทนน่าจะดีกว่าของเดิม เพราะฉะนั้นของเดิมถ้าดีจริงเขาคงไม่ทอดทิ้งส่วนหนึ่ง ประกอบกับการดูวันเวลาเดือนปีในการเคลื่อนย้ายจากหมอดู หมอผี ก็มักจะแนะนำให้ย้ายของเก่าออก จะได้รับค่าบริการติดตั้ง หรือ ขายสินค้าเครื่องรางของขลังส่วนหนึ่ง เป็นค่าน้ำร้อนน้ำชา (ค่าบูชา) ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ แต่ไม่ได้ห้ามวิจารณ์ส่วนหนึ่ง ส่วนการทิ้งตามสถานที่ต่าง ๆ  แต่เดิมมักทิ้งในวัดวาอาราม แต่ช่วงหลังโดนห้ามมากเข้า ๆ ก็ไปทิ้งตามสถานที่รกร้างหรือที่มีคนมาทิ้งไว้ก่อน ก็เลยทิ้งตาม ๆ กันมา หรือเชื่อกันว่าในที่ทิ้งกันมาก ๆ ภูติผีเจ้าที่จะได้ตั้งวงสนทนากัน หรือเป็นที่ชุมนุมสโมสรของเจ้าที่เลยทิ้ง ๆ กัน สมัยมหาจำลอง เคยรื้อถอนและไปทำลายรอบหนึ่งแล้ว บรรดาเจ้าที่เจ้าทางที่ถูกวางทิ้งระเกะระกะในที่ต่าง ๆ เพราะท่านไม่เชื่อ ไม่กล้วภูติผีเจ้าที่ ที่จะมาทำร้ายหรือให้โทษ เรื่องของเรื่องอยู่ที่ชุมชนและผู้มีหน้าที่จัดการให้เป็นที่เป็นทางมากกว่า ก็อย่างที่ว่า ของเดิมถ้าดีจริง ให้คุณช่วยเหลือกันทำมาหากิน เจ้าของเดิมคงไม่ไปทิ้งไปขว้างออกจากที่เดิมหรอก เว้นแต่เจ้าของจะไม่นับถือหรือได้รับคำแนะนำจาก คนทรงเจ้าเข้าผี หรือหมอดู หมอเดา ให้ติดตั้งใหม่ หรือการมีอยู่จะขัดต่อหลักศาสนาของตน ก็ต้องทิ้งครับ จากคุณ : ravio - [ 14 มิ.ย. 52 12:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 -เพราะตามพุทธศาสนามีเทวดาหลายประเภท 1 ในนั้น คือ รุกขเทวดา อาศัย สถิตอยู่ตามต้นไม้  คนส่วนมากเลยนำของศักดิ์สิทธิ์ที่กราบไหว้ทุกวัน  เช่น ศาลเก่า พระเก่า ๆ  ไปทิ้งไว้ตามต้นไม้ใหญ่  ต้นโพธิ์ ต้นไทร ให้ท่านดูแลมั้งครับ เพราะของที่ศักดิ์สิทธิ์ (คิดว่าศักดิ์สิทธิ์) เมื่อไม่ต้องการแล้วจะเอาไปทิ้งถังขยะก็ยังไงอยู่ จากคุณ : Von Manstein - [ 14 มิ.ย. 52 15:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่มีใครย้ายบ้านแล้วเอาศาลพระภูมิ หรือเหล่าเอี้ย ไปด้วยหรอกครับ จากคุณ : ฉั่วเป่งใช้ - [ 15 มิ.ย. 52 00:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แถวซอยยายสปีด(ระหว่างโลตัสกับวัดโคกนาวที่หาดใหญ่)นี่ มีเพียบเลยครับ ศาลพระภูมิ,หิ้งพระ,ตี่จู่เอี้ย วางกองเต็มไปหมด และซอยยายสปีดนี้เอง ที่เขาลือกันว่าเป็นสถานที่น่ากลัวสุดๆของหาดใหญ่เลยล่ะ ผมเคยไปเดินตอนกลางคืนกับเพื่อนครั้งหนึ่ง คราวนี้ใครชวนอีกก็ไม่ไปแล้ว จากคุณ : กุมารสยาม - [ 15 มิ.ย. 52 11:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถูกต้องครับ ซอยยายสปีด ที่ข้างโลตัสหาดใหญ่ ตามตำนานยายสปีด บางคนเจอเป็นผู้หญิงชรานุ่งขาวห่มขาว บางคนเจอเป็นผู้หญิงชรานุ่งผ้าซิ่นไทย ลักษณะเด่นของแกคือ มีผมสีขาวดอกเลา แกชอบขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่คนขับคนเดียว หรือโบกให้คนจอดรับแกขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ครับ บางทีแกก็วิ่ิงแข่งกับรถจักรยานยนต์ แล้วแต่อารมณ์สนุกของแก นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และคนผ่านทางแถวนั้นจะโดนบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ค่อย ๆ หายไปแล้ว เพราะร้านค้าเปิดมากมาย แต่กลางคืนดึก ๆ ไม่รู้ออกมาเพ่นพ่านอีกหรือเปล่า ไม่ได้ข่าวนานแล้ว ข่าวคราวเงียบหายไปนาน บริเวณสวนยางที่คนไปทิ้งศาลพระภูมิ หิ้งพระ ตีจู่เอี้ย เป็นที่ดินของเจ้าคุณอรรถกวีสุนทรส่วนหนึ่ง กับของอดีตเจ้าอาวาสวัดคลองหวะ อยู่ระหว่างการแย่งมรดกกันส่วนหนึ่ง ส่วนเจ้าคุณอรรถกวีสุนทร ภริยาท่านคุณหญิงหลง เป็นคนที่บริจาคที่ดินให้วัดโคกนาวและที่ดินให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กว่าสี่ร้อยกว่าไร่ (สมัยสี่สิบปีก่อน) ราคาที่ดินแถวนั้นไม่สูงเท่าไรนัก ค่อนข้างเปลี่ยวและไกล ที่โลตัสก็เช่าที่ดินของลูกหลานเจ้าคุณอรรถกระวีสุนทร ตอนนี้ลูกหลานแกที่รับมรดกอยู่ที่สหรัฐอเมริกา กับ กรุงเทพฯเป็นส่วนมาก เลยไม่ค่อยอยากจะมาสนใจดูแลหรือใยดีเท่าไรนัก ตรงวัดโคกนาว แต่ก่อนศพคนร้ายหรือคนถูกยิงทิ้งหรือฆ่าตาย ตำรวจก็มักจะไปพาไปเผาศพกันที่วัดนี้ ที่รู้ดีเพราะ มหาจรูญเจ้าอาวาสวัดบ้านในไร่ สนิทกันดีมาก แกบอกเป็นสัปเหร่อจำเป็นให้กับวัดนี้เป็นประจำตอนวัยรุ่น สมัยบวชเรียนและต้องการความเงียบสงบในการเรียน และเตรียมสอบเปรียญธรรมห้าประโยค ส่วนด้านหลังวัดโคกนาว  แต่เดิมเป็นป่าช้าวัดถาวรวราราม (อันนัมนิกาย) เพิ่งล้างป่าช้าจีนกว่าสิบปีแล้ว แต่เดิมมีหลุมศพคนจีนและคนไทยฝังอยู่ประปาย เคยฝังศพแม่ชีจีนตายแล้วไม่เน่าใส่ในโกศกระจกให้ดู เลยน่าจะเป็นตำนานยายสปีดได้ส่วนหนึ่ง ตอนนี้ทำเป็นวัด และ มหาปัญญาวิทยาลัย ในกำกับของ มหาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่มีการเรียนการสอน เป็นภาษาอังกฤษให้กับพระภิกษุสามเณรชาวต่างชาติ ซอยยายสปีดแต่เดิมเป็นทางเดินสวนยางพารา เป็นซอยลูกรังเล็ก ๆ มีลำธารกว้างไม่เกินหนึ่งเมตร ไม่ลึกมากนักขนาดสูงแค่หัวเข่า ไหลผ่านลงในคลองเตยได้ในช่วงหนึ่ง จำได้เคยไปจับปลากับวางกลัดแถวนี้กับเพื่อนรุ่นพี่ เพิ่งมีการถมลำธารทิ้งแล้วทำถนนและคูเป็นซอยใหม่ หลังจากโลตัสมาเปิดทำการ และวัดถาวร Renovate ใหม่ทันสมัยกว่าเดิม เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนที่จะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลาที่ทำลายทุก ๆ สิ่ง แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 23:27:23 จากคุณ : ravio - [ 15 มิ.ย. 52 21:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพื่อความสมบูรณ์ของเรื่อง ซอยยายสปีด เลยแวบไปถ่ายภาพ และเขียนเป็นเรื่องราวตาม Link ครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7979087/W7979087.html#20 จากคุณ : ravio - [ 16 มิ.ย. 52 13:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมละชอบชื่อซอยจัง ยายสปีด ฟังดูทันสมัย+ฮาดีนะครับ แต่ถ้าไปเจอด้วยตัวเองคงฮาไม่ออก - -" จากคุณ : จ้องจนปวด - [ 18 มิ.ย. 52 15:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นั่นสิเนอะ ใครเป็นคนเรียกชื่อยายคนแรกเนี่ย ครีเอทจัง อ่ะ ว่าแต่ กระทู้ออกทะเลป่าวเนี่ย จากคุณ : ชอง อึน - [ 19 มิ.ย. 52 19:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กระทู้นี้น่าจะไม่ลงทะเลครับ เป็นการทำ Jetty ทางระบายน้ำ(แบบของโรมัน) มีการระบายน้ำทะเลเข้านากุ้งที่ระโนด มีอยู่สี่ตัวครับ มีแต่ตัวสะพาน ส่วนปั้มน้ำชาวบ้านลักขายหมดแล้ว ถ้ามีโอกาสแวะจะถ่ายภาพมาให้ชมครับ เรื่องนี้ขยายความต่อเนื่องจาก การทอดทิ้งศาลพระภูมิ ตีจูเอี้ย หิ้งพระ ไว้ใต้ต้นไม้ แล้วมีคนกล่าวถึงเรื่อง ยายสปีด ที่หาดใหญ่ ก็เลยขยายความที่มาของเรื่องราว เพราะบริเวณถนนนี้ก็จะมีการทอดทิ้ง ศาลพระภูมิ ตีจูเอี้ย หิ้งพระ ไว้มาก ส่วนคำว่า สปีด เป็นคำพื้น ๆ ของคนท้องถิ่น มาจาก speed เร่งรถจักรยานยนต์ ตามภาพยนต์ฝรั่งสมัยก่อน เช่น เรื่อง สปีด แข่งนรก หรือ Raily Speed สมัยก่อนหน้านี้หลายสิบปี ที่หาดใหญ่จะรับชมทีวีมาเลเซียได้สองช่อง บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ก็ฟังเข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่ง มีช่วงหลัง ๆ ที่มาเลย์เน้นภาษามลายูมากขึ้น รวมทั้งมีทีวีเสรีฝั่งไทย รายการดี ๆ ไม่ดี มากขึ้น หรือมี VCD DVD มากขึ้น ช่องมาเลย์เลยลดความสำคัญลงไป สมัยนั้นการจัดซื้อจัดหาภาพยนต์ Vedeo แผ่นเสียง เทป เพลงของฝรั่งถือว่าเป็นสินค้าชายแดนหาได้ง่ายมาก ตอนนั้นยังไม่มีเรื่องลิขสิทธิ์หรือมีแต่ไม่สนใจกันเลย สินค้าจากมาเลย์จะทะลักเข้าหาดใหญ่จำนวนมาก ทำให้พอรับรู้ข่าวสารแบบมาเลย์อิงลิชบ้าง ส่วนคนมาเลย์เวลาเร่งรถ  ก็มักจะพูดว่า SPEED CAR หรือแผ่นป้ายก็มักจะมีกำกับ Slow Speed ตามถนนเส้นทางในมาเลย์ กอปรกับถนนจากหาดใหญ่ไปมาเลย์ ถือว่าใกล้มากเพียง 58 กิโลเมตร ก็เข้าไปซื้อของชายแดนได้แล้ว เหมือนการไปเที่ยวต่างประเทศเลย เพราะมีตัวอักษรหนังสือเป็นภาษาอังกฤษส่วนมาก หรือ มาเลย์สะกดด้วยตัวอักษรอังกฤษ วันเสาร์อาทิตย์ถ้าว่าง ก็มักจะขับรถยนต์พาลูก บอกจะพาเที่ยวต่างประเทศ ส่วนมากก็จะซื้อขนม หรือเหล้าต่างประเทศ ที่มาเลย์ เพราะราคาถูกกว่าฝั้งไทยมาก เพราะเหล้ามาเลย์ขายขนาดหนึ่งลิตร  ราคาถูกกว่าไทย ที่ขนาดเพีบง 650 ซีซี เพราะกฎหมายศุลกากร สามารถครอบครองได้ไม่เกินหนึงลิตร บุหรี่ไม่เกินสองร้อยมวน หรือหนึ่งแคตต้อนครับ แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 16:35:04 จากคุณ : ravio - [ 20 มิ.ย. 52 16:31:07 ]