ความคิดเห็นที่ 1 wuxia (นิยายเกี่ยวกับนักวรยุทธ์ = นิยายกำลังภายใน) นั้น สร้างความหวังให้กับคน คล้ายๆหนังสือเรื่อง The Secret ที่พูดเรื่อง The Law of Attraction ที่สอนว่า "การมองโลกในแง่บวกมากๆ จะเปลี่ยนวิถีชีวิตคนเราได้" เราเคยเห็นคนจีนอายุ 60 หน้าเด็กมากๆ  เขาเดินลมปราณแล้วให้คนฟัน กับแทง ปรากฏว่า “หนังเหนียวด้วยกำลังภายในมีจริงๆด้วยสิ”   เราเห็นกับตาในระยะใกล้ๆประมาณ 2-3 เมตรเอง เราเป็นคนขึ้นไปบนเวทีเพื่อทดสอบความแหลมคมของอาวุธด้วยตัวเราเองก่อนที่เขาจะแสดง เราลองเอาอาวุธทั้งดาบ ทั้งทวน และง้าว ลองฟันกับแทงไม้กระดานหนาๆ มันคมมากๆ ไม้กระดานหนาๆขาดกระจุยอย่างง่ายดายเวลาฟัน แล้วก็ทะลุเป็นรูพรุนเวลาแทง.... "แต่อาวุธพวกนี้กลับไม่ระคายผิวหนังเขาเลย...แม้แต่นิดเดียว....!!!??"   เขาเป็นหนึ่งในทีมนักวรยุทธ์จากผืนแผ่นดินใหญ่จีนที่ตระเวนไปแสดงทั่วโลก  เราไปดูพวกเขาแสดงที่ Royal Albert Hall ในกรุงลอนดอน  พิธีกรเล่าประวัตินักวรยุทธ์ท่านนี้ให้ฟังว่า เขาเป็นแพทย์สมุนไพร เขาขึ้นภูเขาไปเก็บสมุนไพร แล้วโดนเสือไล่งับ แต่เขาสู้กับเสือชนะ (คล้ายๆ wu song ฆ่าเสือเลย) เราเคยเห็นภาพถ่ายผู้หญิงจีนคนหนึ่งสาธิตวิชาตัวเบา โดยการกระโดดขึ้นไปยืนขาเดียว อยู่บนไข่หลายๆใบที่อยู่ในกล่องไข่  แต่ไข่ไม่แตก  อันนั้นเราไม่ได้เห็นกับตา แต่มันมาจากหนังสือกีฬาของจีนเล่มที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือมากๆ ซึ่งมีคนอ่านกันทั่วโลก พอเห็นอะไรแปลกๆเช่นนั้นนะ เราเริ่มเชื่อว่า There are no miracles.  What you see are unknown laws. จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 05:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นี่คือ บทที่ 13 ของคัมภีร์ Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih   (แปลจากจีนเป็นอังกฤษแล้ว) มาแปะไว้ให้ดู (บทที่ 16 คือบทสุดท้าย) เล่นๆ คลายเครียด...เผื่อว่าเราจะได้ลืมเรื่องปัญหาความสัมพันธ์ของเราน่ะ...555+++... The six foretelling states which manifest when the macrocosmic alchemical agent is fully developed as explained in Chapter 12, do not all appear simultaneously on the same day. First, heat develops in the lower tan t'ien (ถ้าสะกดแบบ Pinyin ก็เป็น "dantian"....เป็นศูนย์รวมกำลังภายใน) cavity (under the navel) after which the kidneys become hot like boiling water. Then the eyes reveal their golden mechanism. After that the tiger's roar is heard in the left and the dragon's hum in the right ear. Then the back of the head vibrates, bubbles rise in the body and spasms shake the nose. These are foretelling states pointing to the production of the macrocosmic alchemical agent, and are followed by the withering of the root of lust (in the testicles) and the accompanying transmutation of generative force into full vitality. When the latter vibrates, it will crystallize into the immortal seed and only then can the genital organ shrink as in babyhood. This is the real retractile state when the penis shrinks back and will no longer stand erect, causing the generative gate to shut and so preventing vitality from draining away. The practicer will thus achieve immortality. ............,(มีต่ออีกยาว) ..... หมายเหตุ ถ้าใครดูหนังหรืออ่านนิยายกำลังภายใน มักจะเจอคำว่า "จุดตาย" มันคือ "generative gate" หรือ "death gate" อยู่แถวๆโคนกระดูกสันหลัง บริเวณ perineum (ฝีเย็บ) หรือแถวๆ PC muscle ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าฝึกขมิบดีๆ จะทำให้สามารถใช้พลังจิต ควบคุมการปิดเปิดของ urethral duct (ท่อฉี่) และ/หรือ ejaculatory duct (ท่อน้ำกาม) ได้น่ะ   คำว่า generative ในที่นี้ หมายถึง generative force คือ "พลังที่ใช้สืบพันธ์" ซึ่งนักพรตเต๋าเอามาเปลี่ยนเป็น elixir of life (ยาอายุวัฒนะ)   แม้กระทั่งคำว่า dantian ซึ่งเป็นชื่อศูนย์รวมกำลังภายในที่อยู่ใต้สะดือประมาณ 1.3 นิ้ว  ก็มาจากคำว่า dan = ยาอายุวัฒนะ  และ tian = ทุ่งนา  dantian จีงแปลว่า "ทุ่งนา(ที่เพาะปลูก)ยาอายุวัฒนะ" ตกลงศาสตร์ในหนังสือเล่มนี้ก็คือการผสาน jing(น้ำกาม), qi (กำลังภายใน)  และ shen (วิญญาณ) เพื่อนำไปสู่  immortality (ความเป็นเซียน) นั่นเอง อ่านถึงตอนนี้คงรู้แล้วหละสินะว่า ใครก็ตาม ถ้าฝึกคัมภีร์เล่มนี้ ได้ถึงขั้นนี้ (ยังไม่ต้องฝึกถึงบทสุดท้ายด้วยซ้ำไป) แล้ว ก็รับรองได้เลยว่า "เมียหนีไปมีผัวใหม่แน่ๆ"...ก๊ากๆๆๆๆ....อันนี้ขนาดไม่เจื่อน ก็ยังออกแนว "คัมภีร์เทวดา" เลยหละ... เราเคยขยับจะฝึกเกือบจะถึงบทนี้อยู่แล้ว แต่ใจไม่ดีอ้ะ ต้องหยุดตั้งหลักก่อน เพราะว่า "กลัวสูญพันธ์" อ้ะ...555+++... แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 05:38:00 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 05:31:28 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 05:21:54 จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 05:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 และนี่คือ last paragraph ของบทสุดท้าย (บทที่ 16) ของคัมภีร์เล่มนี้ The training should continue no matter how long it takes until the four elements (body, breath, corporeal and incorporeal souls) (that make the body) scatter, and space pulverizes leaving no traces behind; this is the golden immortal stage of the indestructible diamond-body. This is the ultimate achievement of the training which now comes to an end. ถ้าใครเคยอ่านประวัติศาสตร์จีนแล้วลงบันทึกเวลาของเหตุการณ์ต่างๆไว้ว่า ปรมาจารย์เล่าจื้อไปทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่ ก็จะเห็นได้ว่า รวมๆกันแล้วได้ time span เกินกว่า 300 ปี...แปลกมะล่ะ!!!! ดังนั้น คนที่เชื่อว่าความเป็นอมตะหรือเซียนมีจริง ก็จะเชื่อว่าคนโบราณมีศาสตร์เร้นลับที่จะทำให้อายุยืนยาวนานได้โดยไม่แก่เฒ่าแต่อย่างใด...แต่ในที่สุด ก็จะต้อง "ทิ้งร่างกาย" คือทำให้แตกสลายจนเป็นผงธุลีไปในที่สุด เพื่อไปเป็นเซียนในสรวงสวรรค์ที่ไม่มีเนื้อหนังมังสาเหมือนมนุษย์... จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 05:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับว่า จะเป็นคัมภีร์อะไร แต่เรื่องการโคจรลมปราณทั้งในแบบของ จุลจักรวาล(จำชื่อจีนไม่ได้ครับ) และ มหาจักรวาล นี่ปัจจุบันนี้ก็แพร่หลายเยอะนะครับ ไม่จำเป็นจะต้องฝึกวิทยายุทธก็สามารถฝึกได้ครับ หลัก ๆ ก็คือ การฝึกจิตแบบหนึ่งโดยต้องจินตนาการว่า ให้มีลมปราณไหลผ่านจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ตั้งแต่ฮุ่ยอิน (ตรงฝีเย็บ) ผ่านมาตันเถียน แล้วก็โคจรไปตามเส้นเมอริเดียนของร่างกาย จนมาบรรจบที่จุดฮุ่ยอินใหม่อีกรอบ ซึ่งก็จะแบ่งได้เป็นรอบเล็ก(จุลจักรวาล) กับ รอบใหญ่ (มหาจักรวาล) ตามที่ได้บอกมา ชี่กง ในจีนมีเป็นร้อย ๆ สาย เลยหละครับ ฝ่าหลุนกง ที่ดัง ๆ นั่นก็เป็นชี่กงแบบหนึ่งเหมือนกัน สำหรับวิชาทางเต๋า เกี่ยวกับเรื่องเพศ ก็น่าจะมาจากตำราเต๋าเต๋อจิง ที่มีคนไทยแปลออกมาแล้ว แต่หาอ่านลำบากเพราะเป็นเรื่องเพศล้วน ๆ ส่วนที่ว่า ถ้าฝึกแล้วภรรยาจะหนีนั้น ก็ไม่แน่เสมอไปครับ เพราะ ถ้าฝึกถึงขั้นตามที่ตำราระบุไว้ จะสามารถควบคุมการหลั่งของอสุจิได้ ทำให้สามารถ Ogasum ได้หลาย ๆ รอบเลย ซึ่งจะฝืนธรรมชาติปกติของบุรุษเพศที่จะ Ogasum ได้แค่รอบเดียวต่อการมีเพศสัมพันธ์หนึ่งครึ่ง ในขณะที่ธรรมชาติของอิสตรีสามารถมีได้หลายรอบ ในกรณีนี้ถ้าภรรยาจะหนีจริง ก็คงเพราะจะทนคุณสามีขยันทำการบ้านไม่ไหวหละครับ วิชาเหล่านี้ ปัจจุบันก็ยังมีผุ้ฝึกและสอนอยู่ครับ จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม - [ 15 มิ.ย. 52 08:53:31 A:58.10.222.193 X: TicketID:207948 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ท่านเหล่าจื้อนี้ว่าอายุยาวแล้ว ท่านแพ้เหล้าโจ้ว นั่นยิ่งยาวกว่าครับ ตำนานบอกไว้ว่าราว ๆ ๘๐๐ ปี อยู่ดี ๆ ก็เดินหายไปในป่าเฉยเลย สำหรับเรื่องลมปราณคงกระพันนี่ เป็นการฝึกลมปราณภายนอก จริง ๆ มันน่าจะบอกว่าฝึกให้ร่างกายทนทานต่อความเจ็บปวดมากกว่า พูดง่ย ๆ ก็คือฝึกให้หนังมันด้าน และ หนา ขึ้นไปเรื่อย ๆ ในหนังสือของสายศิษย์เส้าหลินใต้ เขาก็มีสอนครับ ก็เริ่มจากค่อย ๆ หาไม้มาทุบให้ร่างกายโดยเฉพาะผิวหนังค่อย ๆ ด้านขึ้นมาเรื่อย ๆ เริ่มจากเบาไปหาหนัก เขาเรียกภาษาจีนว่า ไผ ต้า กง (pai da gong) ซึ่งก็มีหลายสายอยู่เหมือนกัน หลักการฝึกก็แนว ๆ เดียวกับ วิชาฝ่ามือทรายเหล็กนั่นหละครับ ต่างกันตรงที่ว่าฝ่ามือทรายเหล็ก ต้องนวดน้ำมันพิเศษ แต่ ไผต้ากง ไม่ต้อง แต่น่าจะต้องทานยาแก้ช้ำใน จนกว่าร่างกายจะคงทนได้ระดับหนึ่ง แล้วก็โคจรลมปราณช่วยเอา ใน ไท่จี๋เฉวียน ก็มีการฝึกแบบนี้เหมือนกัน แต่จะเป็นการฝึกแบบ ปิด-เปิด เพื่อให้ผู้ฝึกสามารถรับการตีด้วยจิ้งของอีกฝ่ายได้ จะได้ไม่ช้ำในตายเสียก่อน จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม - [ 15 มิ.ย. 52 09:04:02 A:58.10.222.193 X: TicketID:207948 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดูตัวอย่าง การฝึก ไผต้ากง ครับ แก่ตัวลงคงจะลำบาก จากคุณ : งาสาน - [ 15 มิ.ย. 52 09:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ถ้าเอาระดับเหลือเชื่อหน่อย ก็น่าจะต้องเขาคนนี้เลย จอห์น ฉาง จากคุณ : งาสาน - [ 15 มิ.ย. 52 09:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท ลองหา คู่มือข้างหมอน เล่ม 1-2 มีขายที่ ซีเอ็ด เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การฝีกเต๋าในเรื่องเพศ เป็นภาษาไทยครับ ละเอียดดีมาก แล้ว ก็อีกเล่ม เรื่อง สมาธิเต๋า ของ สนพ.ดอกหญ้า หรือเปล่าไม่แน่ใจ เป็นขั้นตอนของการฝึก ลมปราณ สมาธิ ตั้งแต่ขั้นต้น จนถึงขั้นเซียน ครับ จากคุณ : คิง - [ 15 มิ.ย. 52 12:34:36 A:115.67.17.227 X: TicketID:083833 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ว่าแต่จขกท. อายุมันกว่าแฟนตั้ง 24 ปี นิ ยิ่งกว่า เอี้ยก้วย เสี่ยวเล้งนึ่ง อีกนะเนี้ย จากคุณ : bmjas - [ 15 มิ.ย. 52 12:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอทางหน่อย จะมามุงวิธีสาธิตดำรงความหนุ่มให้กระชุ่มกระชวย   อุ้ย..วรยุทธเป็นเอกแห่งบู๊ลิ้ม ไม่สนใจหรอก  แต่ท่านโหรครับ  ผมสนใจวิธีหว่านเสน่ห์ให้สาวๆ ของคุณครับ   อิอิ.....ตั้งกระทู้สอนเมื่อไร  เรียกตัวมาเรียนด้วยนะครับ แหม..จะทำให้รังสีดุดันของ wuxia กลายเป็นรักโรแมนติกไหมหนอ จากคุณ : Fortunism - [ 15 มิ.ย. 52 15:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบ คคห 8 คู่มือข้างหมอน ที่คุณแนะนำน่ะ  เรารู้จัก มันเขียนโดย พีระ บุญจริง คนเขียนลอกหนังสือภาษาอังกฤษมา อย่างละหน้าสองหน้า จิ๊กรูปภาพเขามาด้วย เอาอย่างละหน้าสองหน้ามาจากหนังสือต่างประเทศหลายๆเล่ม มาแปลเรียบเรียงรวมกันเป็นภาษาไทย ทีแรกเล่มเดียวก่อน แล้วก็เป็นตอน2 ....ตอนต่อๆไป เราแค่พลิกผ่านๆดู ก็ไม่อ่านแล้ว แต่ไม่มีใครตามไปฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ พีระ บุญจริง เพราะจิ๊กไปแค่อย่างละไม่กี่หน้า คิดเป็นค่าเสียหาย บางทีฟ้องไปแล้วอาจได้เงินไม่คุ้มกัน   หนังสือภาษาอังกฤษเกือบทุกเล่มที่ พีระ บุญจริง จิ๊กเขามานะ เราเคยอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษแบบเต็มๆมาหมดแล้วจ้า  แล้วเรายังมีของดีกว่านั้นอีก  ที่เก็บสะสมไว้ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 16:47:37 จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 16:43:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หมายเหตุ technical terms ภาษาจีน ที่อยู่ในคัมภีร์ Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih นั้น เมื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษไปแล้ว มันคล้ายกับสำนวนภาษาอังกฤษซึ่ง James Legge ใช้ตอนแปล Dao De Jing (ของปรมาจารย์เล่าจื้อ) จากจีนเป็นอังกฤษ เนื่องจาก James Legge แปลได้ (คงเกือบจะ) ซื่อสัตย์ต่อต้นฉบับมากๆ ดังนั้น เราจึงพอที่จะเดาได้ว่า "แท้จริงแล้ว Dao De Jing ของปรมาจารย์เล่าจื้อ ไม่ได้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศีลธรรม จริยธรรม หรือรัฐศาสตร์ หากแต่เป็นเรื่องคล้ายๆกันกับ คัมภีร์ Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih นั่นเอง คือว่าปรมาจารย์เล่าจื้อไม่ได้เขียนตรงๆ อย่างนักพรตเต๋าชื่อ Chao Pi Ch’en  แต่ท่านเล่าจื้อเขียน "ใส่รหัส" ไว้หลอกให้บัณฑิตตีความผิด ต่างหาก" ลองไปอ่านดูการตีความแบบถอดรหัส Dao De Jing ที่เราทำไว้ (เมื่อตอนใช้ login เดิมคือ agelesstansy...ในกระทู้ทีว่านี้ (เราเขียนไว้เมื่อปี 2008) เราเริ่มตีความ Dao De Jing ตั้งแต่ คคห 11 - 15) ตาม link นี้ไป http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/07/K6813048/K6813048.html แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 20:38:51 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 17:52:55 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 17:40:26 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 17:03:00 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 17:00:30 จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 16:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆแล้วเราเขียนบทความทำนองนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2547 (2004)  (อาจมีเขียนไว้ก่อนหน้านี้อีกด้วย แต่หาไม่เจอ) แล้ว (ตอนนั้นเราใช้ชื่อ tansy แต่ไม่ได้ใช้ login) คือกระทู้นี้ http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/W2699854/W2699854.html ระหว่าง 2 versions นี้ อันที่เขียนในปี 2004 มีเรื่องแนวคิดของ Zen ปนอยู่หน่อยๆและมีตัวสะกดผิดเยอะหน่อย  แต่ใน version ที่เขียนปี 2008 สะกดผิดน้อยลง แล้วเอาเรื่อง Zen ออก แต่เติม technical terms เป็นภาษา sanskrit เข้าไป ซึ่งเอามาจาก tantra ของฮินดู เมื่อกี้เราพยายามแปะ links อึก 2 อัน ซึ่งเป็นหน้าเวปที่มีคนลอกเลียนบทความเรื่องการถอดรหัส Dao De Jing ของเราไปแปะที่เวปอื่น 2-3 แห่ง แต่มันคงมีคำต้องห้ามอยู่ในนั้น เพราะว่ามันโดนระบบ pantip ลบไปเรียบร้อยแล้ว แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 17:54:15 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 17:43:31 จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 17:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าใครอ่านบทความที่เราเขียนไว้เรื่องการถอดรหัสบทที่ 3 ของ Dao De Jing ก็คงพอที่จะสรุปได้ว่า ตอนที่ Taoist Master (ปรมาจารย์นักพรตเต๋า) ชื่อ Chao Pi Ch’en เขียนคัมภีร์ Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih ขึ้นมานั้น เขาจะต้องอ่าน Dao De Jing แล้วรู้ทันว่า ปรมาจารย์เล่าจื้อ "ใส่รหัส" เอาไว้ที่ไหนให้บัณฑิตเข้าใจไขว้เขว  เขาจึงสร้าง Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih (ซึ่งเป็นศาสตร์ Alchemy (วิชาเล่นแร่แปรธาตุ ที่ใช้ชลอความแก่ และฝึกเพื่อเป็นเซียน)  ขึ้นมาจาก Dao De Jing นั่นเอง ซึ่งคล้ายๆกันกับที่ จางซันฟง สร้างวรยุทธ์ของ Wudang ขึ้นมาจากการตีความ Dao De Jing ได้ ด้วยเช่นกัน ตอนนี้เราเห็นความสัมพันธ์อย่างชัดเจน ระหว่าง Dao De Jing กับ Alchemy (วิชาเล่นแร่แปรธาตุ)  แต่ก็แค่บทที่ 3 เท่านั้น แต่ถ้าเรานั่งบริกรรม Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih ให้ดีๆ ทุกบท เราอาจเข้าใจบทที่เหลือๆของ Dao De Jing ได้ว่าแท้จริงแล้วปรมาจาย์เล่าจื้อ "ใส่รหัส" เอาไว้กี่แห่งด้วยกัน แต่มันก็คงไม่ง่ายนัก เว้นเสียแต่ว่าเราจะเรียนภาษาจีนจนแตกฉาน จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 18:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คัมภีร์ Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih เป็นแนวคิดของนักพรตเต๋าทางภาคใต้ ที่ถือเพศพรหมจรรย์ ในขณะที่ก็มีแนวคิดของนักพรตเต๋าทางภาคเหนือซึ่งฝีก Sex Magic คือใช้ sex ช่วยฝึกวิชาที่คงไว้ซึ่งความอ่อนวัย และช่วยในการฝึกวรยทธ์  แต่แนวคิดที่ว่าเช่นนั้น นักพรตเต๋าทางใต้ ถือว่าการหาความสำราญจาก sex ในขณะฝึกวิชาขั้นสูงนั้น เป็นเหมือนกับ "การสวมหมวกฟาง แล้วเข้าไปดับไฟ ที่กำลังไหม้โหมอยู่" ดังนั้น ทางสำนักเต๋าภาคใต้กับภาคเหนือ จึงมีวิธีฝึกวิชาที่แตกต่างกันไปกันคนละขั้วเลย สรุปแล้ว ถ้าเรายังอยากจะยิ่งอายุมากยิ่งๆขึ้น แล้วก็หน้าตาเด็กมากยิ่งๆขึ้น ในขณะที่มีแฟนได้นั้น เราก็ต้องฝึกวิชาของนักพรตเต๋าทางภาคเหนือ เพราะว่าถ้าเราฝึกคัมภีร์ Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih ซึ่งเป็นวิชาของนักพรตเต๋าภาคใต้ ได้สำเร็จ อวัยวะเพศเราจะหดหายไป จนใช้การไม่ได้เลย....(ตามคำแปลภาษาอังกฤษที่เราแปะไว้ใน คคห 2 กับ 3 นั่นเอง)..555+++... จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 18:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เอ่อลืมตอบ คุณศรีสิทธิสงคราม (คุณรู้เรื่องวรยุทธ์มากพอตัวเลยทีเดียว)   เรื่องที่ว่า การควบคุมการหลั่งของชาย ที่คุณพูดถึงใน คคห 4 ที่คุณบอกว่า "วิชาเหล่านี้ ปัจจุบันก็ยังมีผุ้ฝึกและสอนอยู่ครับ" ใช่เราก็มีคัมภีร์สายนี้เหมือนกัน ผู้ชายสามารถฝึกขมิบ pc muscle ขณะฝึกสมาธิ และเดินลมปราณ เพื่อให้ถึงจุดสุดยอดได้หลายๆครั้งที่เรียกว่า muliple orgasm เหมือนๆกับที่สตรีทำได้นั่นแหละ แต่เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะแยกแยะได้ระหว่าง orgasmic reflex กับ ejaculatory reflex เมื่อ orgasminc reflex ถูกกระตุ้นจนมันทำงาน ผู้ชายก็จะถึงจุดสุดยอด แต่ยังไม่หลั่งน้ำกาม หากว่าระวังอย่าไปกระตุ้น ejaculatory reflex มันเข้า เมื่ออยู่ในสภาพเช่นนี้ ถ้ากระตุ้นต่อไปให้มีอารมณ์ทางเพศมากขึ้นเรื่อยๆ (โดยไม่ไปยุ่งกับ ejaculatory reflex)  ผู้ชายก็จะถึงจุดสุดยอดได้หลายๆครั้ง ที่เรียกว่า multiple orgasm นั่นเอง แต่ไม่ต้องหมดแรง เพราะไม่ได้หลั่งน้ำอสุจิเลย แล้วก็จะมี sex ได้ต่อไปได้อีก ทั้งวันทั้งคืน ...หรือทุกๆวัน วันละหลายๆรอบ.... การไม่ปล่อยน้ำกามออกมา มันคือการให้น้ำกามย้อนกลับคืนศูนย์รวมกำลังภายใน (ใช้สมาธิและลมปราณขับเคลื่อนมัน) ซึ่งการที่น้ำกามย้อนกลับคืน (ไม่หลั่งออกมา) นี้ ภาษาจีนเขาเรียกว่า huan jing (the reversal of the semen) ซึ่งแพทย์ฝรั่งแผนปัจจุบันหลายท่านตอนนี้ ก็ยอมรับแนวคิดนี้ของจีนแล้ว แล้วก็มีแพทย์ฝรั่งเขี่ยนหนังสือในแนวนี้ออกมา ส่วนคนจีนที่เขียนหนังสือเรื่องพวกนี้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษนั้น ก็มีหลายคน แต่คนที่ดังที่สุดนั้น คุณศรีสิทธิสงคราม  ต้องรู้จักอย่างแน่นอน เขาคือ Mantak Chia นั่นเอง Mantak Chia ต้องรู้วิชาของนักพรตเต๋าภาคเหนืออย่างแน่นอน เนื่องจากว่าเท่าที่เราได้ข่าวคราวเรื่องเขานะ  ตอนนี้เขาอายุเลย 60 ไปแล้ว ยังสอนมวย taichi ทั่วโลก  แต่เมียหลวงเขาคงรำคาญ ขี้เกียจรับศึกหนักบนเตียง ก็เลยเพิ่งอนุญาตให้เขามีเมียน้อยคนใหม่ได้ คราวนี้เป็นเด็กสาววัยรุ่น อายุเพียงแค่ 17 - 18 ปีเอง....น่าอิจฉามะล่ะ...555+++...??!!! แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 00:48:55 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 19:01:20 จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 18:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หมายเหตุ คนที่แยก orgasmic reflex ออกจาก ejaculatory reflex ได้นั้น ถึงจะควบคุมไม่ให้หลั่งน้ำกาม และไม่ให้หมดแรง จนทำรักได้วันละหลายๆรอบทุกๆวัน ได้ก็จริง แต่เขาไม่มีทางที่จะคงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาลได้ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะฝึกวิชา Alchemy (เล่นแร่แปรธาตุ) นั่นก็คือ ผสาน jing (น้ำกาม), qi (ลมปราณ) และ shen (วิญญาณ) เพื่อสร้าง elixir of life หรือยาอายุวัฒนะ ตามวิธีการที่ซับซ้อนของนักพรตเต๋า ไม่ว่าจะเป็นของสำนักภาคใต้หรือภาคเหนือ นั่นแหละ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 19:48:54 จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 19:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดู Mantak Chia สอน taichi ได้ที่นี่ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 19:44:47 จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 19:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ดู Mantak Chia สอน elixir qi gong (พลังลมปราณเพื่อสร้างยาอายุวัฒนะ) ได้ที่นี่ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 19:45:27 จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 19:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ดู Mantak Chia สอนวิชาอยู่ยงคงกระพันเสื้อเหล็ก จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 19:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไปดู Mantak Chia สอนวิธีใช้พลัง jing กับ qi  กับ shen และเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุ จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 19:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดูสาวสวยชุดแดงรำมวย taichi อ้าวตายหะ ส่งไม่ไป แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 19:38:31 จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 19:38:04 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ดูเรื่อง sex magic ที่นักพรตเต๋าผู้หญิงฝึกก่อน จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 19:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เอ้ามาแล้ว สาวสวยชุดแดงรำมวย taichi จากคุณ : fortuneteller - [ 15 มิ.ย. 52 19:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมพอรู้อยู่บ้างครับ อย่าใช้ว่ารุ้เยอะเลยครับ เพราะยังมี อ.ที่เก่ง ๆ กว่าผม รวมอีกหลายท่านในเมืองไทยครับ อย่าง อ.หลี่ เฮอลิชวน , ลูกชาย อ.โค้ว ฯลฯ ครับ ส่วนเรื่องการแพทย์แผนจีน และ วิชาชี่กง นั้นก็อาศัยอ่านเอาจากตำราครับ อย่างเช่น ตำราแพทย์แผนจีนของ สนผ.หมอชาวบ้าน นี่ก็มีขายนะครับ สำหรับ อ.มันตัก เจี๋ย นี่ก็เขียนหนังสือแนวนี้ออกมาเยอะเหมือนกันนะครับ ผมก็ Load ชุดหนังสือของ อ.เขามาไว้เกือบครบทุกเล่มแล้วหละครับ ที่สนใจ (แต่ไม่เคยฝึก) ก็อย่าง ลมปราณอาภรณ์เหล็ก ( IRON SHIRT Qigong ) ครับ กับ ตำราวิชาล้างไขกระดูก ที่ อ. เขาเขียนออกมาครับ ผมเคย คุยกับรุ่นพี่ผม ท่านบอกว่า ตอนเขาไปเรียนที่อังกฤษ เคยคุยกับเพื่อนฝรั่ง ได้ข่าวลือว่า มีบางคนเรียนกับ อ.มันตัก แล้ว เพี้ยน ๆ ไปก็มีครับ แต่ข้อมูลตรงนี้ไม่ยืนยันนะครับ อีกเล่มที่น่าสนใจก็คือ หนังสือสอนการใช้ลมปราณ ของ อ. ฉั่ว ก๊อก สุ่ย ชาวฟิลิปปินส์ครับ พิมพ์ออกมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน ครับ สนใจก็ลองติดตามหาซื้ออ่านได้นะครับ จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม - [ 16 มิ.ย. 52 13:32:23 A:58.10.222.96 X: TicketID:207948 ]

ความคิดเห็นที่ 27 #17 น่าสนใจมาก จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 16 มิ.ย. 52 18:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอบคุณศรีสิทธิสงคราม เราก็ downloaded หนังสือกับ video clips ของ Mantak Chia ได้มามากพอสมควร เรื่องที่ว่าคนฝึกกับ Mantak Chia แล้วเพี้ยนนั้น จริงๆ แล้วคนที่ฝึกเรื่องพวกนี้ จะต้องเริ่มต้นโดยการเชื่อว่า สิ่งแปลกๆเหลือเชื่อนั้นไม่ใช่ปาฏิหารย์ แต่มันเป็นกฎเกณฑ์ธรรมชาติที่คนทั่วๆไปไม่รู้  แล้วคนฝึกก็จะถูกคนอื่นมองว่าเพี่ยนอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ในคคห 22 Mantak Chia พูดเรื่อง Building the Immortal Body  มันก็คล้ายๆกันกับในคัมภีร์ Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih ที่เราพูดถึง เพียงแต่ในคัมภีร์ของเราเขาเรียกมันว่าให้กำเนิด immortal fetus นั่นก็คือ jing (sexual energy หรือน้ำกามของผู้ช่าย หรือน้ำที่ผู้หญิงหลั่งมาเมื่อถึงจุดสุดยอด) เมื่อผสานกับ qi (ลมปราณ) แล้วโคจรให้ดีๆ จะกลายเป็น elixir of life (ยาอายุวัฒนะ) ซึ่งจะทำให้เกิด biological transmutation (การเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยาอย่างผ่าเหล่าผ่ากอ) จนกลายเป็น immortal fetus ที่เหมือนเด็กทารถในครรภ์ อยู่บริเวณตรงท้อง   เมื่อฝึกไปนานๆ ก็จะดึงทารกนี้ขึ้นมาถึงลิ้นปี่ แล้วก็ดึงทะลุผ่านจุดกลางกระหม่อม ส่งออกไปในรูปแบบของวิญญาณหรือกายทิพย์ (ที่คนธรรมดามองเห็น) ไปปรากฎหลายๆร่างในที่หลายๆแห่งได้ และเรียกกลับเข้าร่างได้ (ในขณะที่ช่วงนั้นผู้ฝึกจะไปเร้นกายอยู่ในที่เร้นลับบางแห่ง)  ระยะเวลา (ส่งวิญญาณเข้าออกร่าง) นี้อาจยาวนาน เป็นร้อยๆปีก็ได้ แต่ในที่สุดผู้ฝึกก็ต้องละทิ้งร่างแล้วกลายเป็นเซียนตัวจริงไปในที่สุด เรายังศึกษาวิธีการของ Mantak Chia ไม่ละเอียด แต่ก็ยังมี่ข้อกังขาว่า การจะฝึกถึงขั้นสุดยอด โดยไม่ถือเพศพรหมจรรย์นั้น เป็นไปได้แน่หรือ? รู้สึกว่าครั้งหนึ่ง Mantak Chia เคยพูดว่าอาจาย์เขามีวรยุทธ์แก่กล้าขนาด ไม่กินอาหารอยู่ได้ตั้ง 6 เดือนไม่เป็นอะไร ก็เลยมีคนเอาเรื่องไปเขียนต่อล้อเลียนใน martial arts magazine เล่มหนึ่งว่า แต่อาจารย์เขาตายเพราะหลงไปเชื่อคำแนะนำของคนรอบๆตัวว่า ให้เลิกอดอาหาร แล้วเริ่มกินอาหารจะดีกว่า ...บางทีเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องระหว่างคนในวงการสอน martial arts ที่พยายาม discredit ซึ่งกันและกันก็ได้ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากนะ คำสอนหลายๆอย่างของ Mantak Chia ช่วยคนที่กำลังป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้มากๆ อย่างแน่นอน...ที่แน่ๆก็คือ "ทำให้ผู้ชายมีสมรรถภาพทางเพศดีมากๆ ไปตลอดชีวิต (หมายถึงเตะปี๋บดังไปจนถึงวันตาย) ได้อย่างแน่นอน" เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว เราเคยชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในเรื่องพลังของ qi แต่ถึงเราจะไม่ได้ฝึกวิชาจนเก่งระดับยอดฝีมือก็ตาม แต่เราเคยใช้ qi  รักษาอาการป่วยของตนเอง ได้มาหลายครั้งแล้วจริงๆ จนเรามั่นใจว่า พลีงของ qi ถ้าพัฒนาให้ดีๆ จะใช้รักษาอาการป่วยทุกชนิดของมนุษย์ได้  เพียงแต่ว่า ใครจะพัฒนา qi ไปได้ไกลแค่ไหนเท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 23:36:42 จากคุณ : fortuneteller - [ 16 มิ.ย. 52 23:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ้อ สวัสดี คุณ ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน...ลองฝึกดูดิ ไปที่ youtube แล้ว search ชื่อ mantak chia ...ฝึกแล้ว รับรองว่า "เตะปี๊บดังทุกวันไปตลอดชีวิตเลยหละ"...อิๆๆๆ... จริงๆแล้วเราเขียนกระทู้นี้แก้กลุ้ม เพราะโมโหที่แม่แฟนเราบอกว่า ไม่ช้าเราก็จะเฒ่าชะแรแก่ชราหมดสมรรถภาพ แล้วก็จะเท่งทึงอยู่แล้ว...555+++ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 23:31:05 จากคุณ : fortuneteller - [ 16 มิ.ย. 52 23:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คนที่ชอบนิยายกำลังภายใน ลองฟัง video clip ในคคห 24 ให้ดีๆ จะรู้สึกว่าคล้ายมากๆกับนิยายกำลังภายในเรื่องหนึ่งที่เราเคยอ่านมา  นั่นก็คือ นักพรตเต๋าผู้หญิงที่ให้สัมภาษณ์ (น่าจะเป็นศิษย์เอก Mantak Chia เพราะเธอฝึกด้วยวิธีการที่ Mantak Chia เขียนไว้ในหนังสือ) เธอพูดถึง "การฝึกด้วย jade egg" เราไม่แน่ใจว่า egg (วัสดุลูกกลมๆ) ของเธอทำด้วย jade (หยก) จริงๆหรือเปล่า...แต่ egg ที่ Mantak Chia พูดถึงในหนังสือของเขา มันคือ หินภูเขาไฟสีดำ ที่เจียจนเรียบ เป็นลูกกลมๆ ผู้หญิงจะใช้ egg สอดเข้าไปในช่องคลอด แล้วฝึกขมิบ โดยใช้กำลังภายในขับเคลื่อน egg (หินก้อนกลมๆ) ที่ว่านี้ ให้ขึ้นๆลงๆอยู่ในช่องคลอด   ผู้หญิงที่ฝึกวรยุทธ์แขนงนี้สำเร็จ จะมีช่องคลอดอันทรงพลังมากๆ ขนาดที่ว่าหากชายใดซึ่งไม่เคยฝีก sex magic หรือ sexual gong fu มาก่อน หลวมตัวไปสมสู่กับเธอ เขาก็จะโดนช่องคลอดเธอบีบรัดอวัยวะเพศเขาไว้จนแน่นดึงไม่ออก เสียวจนหลั่งน้ำอสุจิมากเกินขนาด และจะโดนเธอดูดกำลังภายในไปจนหมดร่าง แล้วก็ตายไปในที่สุด (ตายแบบนี้ไม่รู้ว่าจะสุขหรือเปล่า แต่สยองขวัญอ้ะ)  หมายถึง ถ้าผู้หญิงตั้งใจจะฆ่าโดยการดูดกำลังภายในให้หมดร่างนะ แต่ถ้าเป็นแฟนกันก็คงไม่ทำหรอก...แต่ก็ไม่แน่นะ...อิๆๆๆ...ฆ่าสามีเพราะแค้น ด้วยวิธีนี้ดีกว่า ตัดให้เป็ดกินเสียอีกน่ะ...กึ๋ยๆๆๆๆ...!!! แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 52 00:37:11 จากคุณ : fortuneteller - [ 17 มิ.ย. 52 00:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รู้สึกว่าเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว เราก็เคยอ่านนิยายกำลังภายในแนวนี้  เรื่องมันก็คือว่า มีสตรีนางหนึ่งเลอโฉม เป็นยอดฝีมือ ที่หลอกผู้ชายซึ่งเป็นยอดฝีมือหลายร้อยคนไปฆ๋าด้วยวิธีนี้ เพื่อที่จะเอากำลังภายในของยอดฝีมือเหล่านั้นมาเพิ่มวรยุทธ์ให้แก่ตัวเธอเอง   แล้วพอพระเอกในเรื่องไปพบกับเธอเข้า...เอ่อ แล้วยังไงต่อไป เราจำไม่ได้แล้วอ่ะ...(คนที่อ่าน ลองบอกสิว่า จำได้หรือเปล่าว่าเป็นนิยายเรื่องไหน ชื่ออะไร?) คือว่า ในนิยายนั้น เรื่องมันเป็นเงี้ย ตอนผู้ชายโดน "หนีบ" ไว้ และถอยหนีไม่ได้ แล้วเสียวมากๆ ปล่อยน้ำอสุจิมามากเกิน จนหมดแรง สตรีนางนั้นเอากระบี่สั้นที่มีความคมมากๆ แทงทะลุอกผู้ชายให้ตายในขณะที่เขาเสียวถึงจุดสุดยอด....ตายแบบนี้น่าเสี้ยวใส้แฮะ...!!!!!   ต่อมา มีคนไปพบกระบี่สั้นเล่มนั้น แล้วลองเอามันมาทดสอบความคม โดยการแกว่งไปโดนถ้วยชา ปรากฎว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยกระบี่ "ผ่าน" ถ้วยชาไป แต่พอเอามือแตะถ้วยชา "มันขาดหลุดออกจากกันเป็นสองเสี่ยงด้วยความคมของกระบี่" ....ใครที่เป็นแฟนนิยายกำลังภายใตคนไหนตอบได้บ้างว่านิยายเรื่องนี้มีชื่อว่าอะไร?  เราจำไม่ได้จริงๆอ้ะ.... แต่ผู้ชายที่ฝึก sex magic หรือ sexual gong fu จะไม่ตายเพราะผู้หญิงกับเขาจะแลกเปลี่ยนพลังหยินกับหยางกัน จนสามารถขับเคลื่อนพลังให้วรยุทธ์ของทั้งสองคนรุดหน้าไปได้อีกไกลมากๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็ตรงกับที่ศิษย์ชายคนหนึ่งของ Mantak Chia ไปถาม Mantak Chia ว่า เขาใช้เวลาฝึกตั้งหลายเดือน จึงจะทะลวงจุดชีพจรสำคัญๆได้ แต่ทำไมแฟนเขา (ซึ่งเป็นศิษย์ Mantak Chia เหมือนกัน) ฝึกเพียงแค่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น เธอก็ทำได้สำเร็จ Mantak Chia ตอบว่า "แฟนคุณดึง sexual energy จากคุณไปขับเคลื่อนกำลังภายใน ของเธอ ยังไงล่ะ" แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 52 03:41:20 จากคุณ : fortuneteller - [ 17 มิ.ย. 52 00:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เรายอมรับว่าตัวเอง โชคดี หรือโชคไม่ดี ก็ไม่รู้...ที่ไม่เคยมี sex กับผู้หญิงที่ใช้ egg ฝึกวรยุทธ์จนมีพลังแก่กล้า ขนาดนี้ เราก็เลยยืนยัน นั่งยัน หรือนอนยันไม่ได้ว่า เรื่องราวเกี่ยวกับวรยทธ์แขนงนี้ เป็นเพียงแค่นิยาย หรือมีจริงในชีวิต (แต่เรามีหนังสือที่ Mantak Chia สอนวิธีฝึกวรยุทธ์แขนงนี้ แต่ตัวเองก็ฝึกไม่ได้เพราะไม่มีอวัยวะแบบผู้หญิง...555+++) แต่ครั้งหนึ่งเราพบนักท่องเที่ยวชาวออกเตรเลียนคนหนึ่งที่เป็นครูสอนเทควันโด้ คุยๆกัน แล้วชวนกันไปกินเบียร์กัน แล้วคุยเรื่องวรยุทธ์แขนงต่างๆกัน  แล้วอยู่ดีๆเราก็พูดถึงเรื่องผู้หญิงที่ฝึกกับ egg จนมีช่องคลอดอันทรงพลังพอที่จะดูดกำลังภายในจากผู้ชายได้  เขาโพล่งออกมาว่า "มีจริงๆ" เขาบอกว่าเขาฝึกควบคุมตนเองไม่ให้หลั่งน้ำอสุจิเพื่อเอา sexual energy ไปใช้ฝึกวรยุทธ์ มาหลายปี แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาไปสมสู่กับผู้หญิงคนหนึ่งจาก Philippines เขาบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นฝึกวรยุทธ์แขนงนี้สำเร็จแล้ว และดูดพลังจากร่างเขาไปจนสลบไสลไปหลายวัน แต่ดีว่าเธอไม่กะจะฆ่าเขา...!!!  เขายืนยันว่า "แรงหนีบ" มันทรงพลังมากๆ จนเขาดึงอวัยวะเพศของเขาออกไปไม่ได้จริงๆ แล้วต้องเสียว (มีความสุขมากๆจนลืมทุกสิ่ง) จนหลั่งน้ำอสุจิไปจนไม่มีอะไรเหลือเลย แล้วนอนซมหยอดน้ำข้าวต้ม ไปหลายวัน...จริงๆ ตกลงไม่รู้ว่าหมอนี่มันโชคดี หรือโชคร้ายกันแน่หว่า??? ....555+++... เอ่อตกลง คุณขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน ที่สนใจ #17 สนใจอยากเจอนักวรยุทธ์สาวอันเลอโฉมผู้มีวรยุทธ์แขนงนี้หรือเปล่าล่ะ...อิๆๆๆ... ถ้าผู้ชายคนไหนเจอ ก้อ ตัวใครตัวมัน ก็แล้วกันนะ...555+++... แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 52 00:52:55 จากคุณ : fortuneteller - [ 17 มิ.ย. 52 00:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ^ สงสัย 2 อย่างครับ 1.ถ้าผู้ชายใส่ถุงยางขณะปฎิบัติกิจ ผู้หญิงก็จะดูดพลังไม่ได้ใช่ไหมครับ 2.ผู้หญิงที่ชอบดูดพลังคนอื่นแบบนี้ต้องกินยาคุมด้วยรึเปล่าครับ จากคุณ : deemakak - [ 18 มิ.ย. 52 22:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 34 1.ถ้าผู้ชายใส่ถุงยางขณะปฎิบัติกิจ ผู้หญิงก็จะดูดพลังไม่ได้ใช่ไหมครับ ตอบ จริงๆแล้วผู้หญิงที่จะดูดพลังจากชาย เธอคงไม่อยากให้ใส่ถุงยางหรอก แต่ถ้าคิดให้ลึกๆแล้วผู้หญิงที่ฝึกกับ jade egg จนมีพลังมากขนาดนั้นนะ เธอคงใช้พลังทำให้ถุงยางฉีกขาดได้ง่ายๆถ้าต้องการ 2.ผู้หญิงที่ชอบดูดพลังคนอื่นแบบนี้ต้องกินยาคุมด้วยรึเปล่าครับ ตอบ คนโบราณรู้วิธีทำยาคุมกำเนิดนานแล้ว เช่นชาวอียิปต์ใช้เมล็ดของลูกทับทิมมาบดใช้ทำเป็นยาคุมกำเนิด (เขาว่ามีฮอร์โมนมากพอ) คนจีนก็คงรู้เรื่องพวกนี้  แต่เรื่องที่น่าทึงกว่านั้นก็คือว่า "สมัยโบราณผู้หญิงทึ่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ทุกคนจะมีรอบประจำเดือนตรงกัน และไข่สุกพร้อมกัน และปฏิสนธิพร้อมกัน (หมายถึงถ้าเผอิญมี sex พร้อมกันกับผู้ชายที่พร้อมที่จะทำให้ท้องได้)" ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า พลังลมปราณในร่างกายของสตรี เข้าจังหวะกับดวงจันทร์ นั่นก็คือรอบเดือนสตรีมี 28 วันเหมือนๆกับรอบเดือนของพระจันทร์ และคนในหมู่บ้านเดียวกัน ได้รับพลังดวงจันทร์ที่ยิงลงมาในองศาที่เหมือนๆกัน สมัยโบราณไม่มีสารเคมีแปลกปลอมในอาหารเหมือนสมัยนี้ ผู้หญิงสมัยโบราณจึงไม่มีสารแปลกปลอมมาทำลายความสัมพันธ์พลังของเธอกับพลังจันทรา  ดังนั้นการคุมกำเนิดโดยนับวันจึงทำได้แม่นยำ 100% ไม่เหมือนผู้หญิงสมัยใหม่ ที่กินสารเคมีในอาหารมากมาย จีงเสียพลังธรรมชาติอันนี้ไป ทำให้รอบเดือนคลาดเคลื่อนบ่อยๆ เพราะพลังในร่างไม่เข้าจังหวะกับพลังจันทราอีกต่อไป แต่จะอย่างไรก็ตาม ผู้ผญิงสมัยใหม่ที่กินอาหารแม็กโครไบออติก กินธัญพืชที่มีรำข้าวติดและผักที่ปลูกแบบ organic คือปลอดสารพิษล้วนๆ ก็กลับมีรอบเดือนที่เข้าจังหวะกับรอบเดือนของดวงจันทร์ได้เหมือนผู้หญิงสมัยโบราณ แล้วก็คุมกำเนิดแบบนับวันได้แม่นยำ 100% ได้ด้วยเช่นกัน จากคุณ : fortuneteller - [ 20 มิ.ย. 52 02:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เรื่องพลังในร่างสตรีที่เข้าจังหวะกับพลังของดวงจันทร์นี้ อาจฟังดูเหลวไหล แต่ความจริงเป็นวิทยาศาสตร์นะ ให้ดูปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง ดวงจันทร์มีพลังพอที่จะเคลื่อนกระแสน้ำในมหาสมุทรและในแม่น้ำได้ มันก็ต้องมีพลังพอที่จะขับเคลื่อน qi (ลมปราณ) ในร่างผู้หญิงได้ เนื่องจาก qi ในร่างมนุษย์เป็นเหมือนของเหลว ของไหล กระแสไฟฟ้า หมอกควัน และอะไรอีกหลายๆอย่าง (ผสมผสานกัน) ที่ไหลได้คล้ายๆน้ำ แม้กระทั่งแพทย์จีนที่รักษาคนไข้ด้วยการแทงเข็ม ไม่ใช่แต่จะต้องแทงให้ถูกจุดเท่านั้น แต่ยังต้องแทงให้ถูกเวลาอีกด้วย เนื่องจาก qi ของแต่ละอวัยวะ จะมีพลังมากน้อยแค่ไหน ก็จะขึ้นอยู่กับว่าเป็นยามไหนของวันด้วย ดังนั้น gravitational force (แรงโน้มถ่วง) เหล่านี้ เมื่อมีผลต่อน้ำในมหาสมุทรได้ มันก็มีผลต่อ qi ในร่างกายคนได้ และก็มีผลต่อระบบรอบเดือนของสตรีได้ด้วยเช่นกัน การเข้าจังหวะหรือสื่อสารกับธรรมชาติได้นี้ เราเรียกว่า be in harmony with the universal force ผสานกลมกลืนกับพลังจักรวาล แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 52 03:06:12 จากคุณ : fortuneteller - [ 20 มิ.ย. 52 03:03:26 ]