PANTIP.COM : K7988428 อยากเก่งทักษะการอ่าน เขียนภาษอังกฤษได้ต้องทำไงบ้างคะ [ห้องเรียนภาษาอังกฤษ]

ความคิดเห็นที่ 5

ลองนำคำแนะนำของคุณ เมื่อลมแรงฯ ไปใช้ดูค่ะ ส่วนตัวดิฉันขอเพิ่มเติมนิดค่ะ ว่าทักษะในภาษาอังกฤษนั้นอย่างที่เรารู้ว่า ถ้าเราต้องการจะเก่งทักษะใด ก็ต้องฝึกทักษะนั้น เช่น อยากเก่งอ่าน ก็ต้องฝึกอ่านเยอะๆ อยากเก่งเขียนก็ต้องฝึกเขียนเยอะๆ แต่ทั้งนี้ ทักษะการอ่านและทักษะการเขียนนั้นเป็นทักษะที่เอื้อกันอยู่ค่ะ นั่นคือ มีงานวิจัยพบว่า ถ้าผู้ใดอ่านเยอะๆ จากหลายหลายแหล่ง ก็จะทำให้สามารถพัฒนาทักษะการเขียนของตนเองได้ดียิ่งขึ้นเมื่อได้รับการฝึกฝน

นอกจากนี้ดิฉันของแนะนำหลักการง่ายๆ ขั้นพื้นฐานในงานเขียนค่ะคือ

1. เริ่มจากเราต้องมีเรื่องที่จะเขียนก่อนนะคะ สิ่งที่สำคัญลองลงมาก็คือ Audience(s) หรือในที่นี้ก็เป็นผู้อ่าน (Readers) นั่นเอง เราต้องนึกให้ได้ว่าผู้อ่านของเราจะเป็นใคร เพื่อที่เราจะได้เตรียมงานเขียนให้เหมาะกับผู้อ่านค่ะ

2. หาข้อมูลในเรื่องที่เราสนใจจะเขียน ทำ out-line ว่าเราจะเขียนอะไรเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และอย่างที่เรารู้ก็คือ งานเขียนมีหลายประเภท อันนี้ก็ลองไปค้นต่อยอดกันนะคะ เพราะเดี๋ยวจะยาวค่ะ

3. เมื่อได้ข้อมูลด้านบนเรียบร้อยก็หัดเขียนเลยค่ะ จำไว้ว่างานเขียนทั่วๆ ไปแบบง่ายๆ ก็น่าจะมีอย่างน้อยสามย่อหน้า คือส่วนที่เป็นตัวนำ เนื้อเรื่อง และก็บทสรุป แต่ถ้าเรื่องที่เราเขียนค่อนข้างยาว ก็อาจมีมากกว่าสามได้ค่ะ โดยส่วนที่เป็นเนื้อเรื่องก็แตกเป็นสอง สาม... ย่อหน้าไป

4. เมื่อเริ่มเขียนแล้ว word choice ก็สำคัญนะคะ อย่างเราในฐานะมือสมัครเล่นนี่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ศัพย์แสงที่หรูหรา อลังการค่ะ เพราะจะทำให้งงทั้งคนเขียน และคนอ่าน แต่จำไว้ว่าหลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์ซ้ำๆ กันหลายๆ ครั้งในงานนะคะ

5. เน้นการเขียนโดยเลี่ยงเอกพจน์บุรุษที่หนึ่งประเภท "I" นะคะ ให้เลี่ยงใช้ inclusive "you" แทน (หมายถึง you ที่รวมเอาตัวผู้เขียนเข้าไปด้วยค่ะ)

6. ประยุกต์ passive form มาใช้ในงานเขียนมากขึ้น เพราะจะดูสละสลวยมากกว่าประโยค active voice ทื่อๆ ค่ะ

7. Tense ส่วนมากที่ใช้ในงานเขียนคือ past tense ค่ะ

8. ถ้าต้องการเพิ่มความสละสลวย และทำให้งานเขียนของตัวเองดูมีรายละเอียด และลึกขึ้น ควรใช้ adverbs ต่างๆ เข้าขยาย โดยงานเขียนที่ดี ควรเก็บให้เรียบร้อยอยู่ระหว่าง verb ช่วย(ถ้ามี) กับ verb แท้ ค่ะ หรือคำจำพวก transformation markers ที่นิยมวางไว้หน้าประโยค ก็จะช่วยให้งานเขียนของเรามีความต่อเนื่อง และลื่นไหลขึ้นค่ะ

9. จำไว้ว่าถ้าเราเลือกงานเขียนแบบ problem-solving นั้น เราควรเขียนถึงวิธีแก้ปัญหาของเราเองไว้ด้วยนะคะ เพราะงานเขียนแบบปัญญาชน ไม่ใช่แต่เขียนว่ามีปัญหาอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ไม่แสดงให้เห็นถึงวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ในความคิดของเรา จะทำให้คุณค่างานเขียนลดลงค่ะ

โอ้ย พิมพ์ไปนานๆ แล้วเมื่อยมือ แค่นี้ก่อนแล้วกันค่ะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

จากคุณ : ผ่านมา - [ 19 มิ.ย. 52 08:36:31 A:115.129.8.255 X: TicketID:166806 ]